Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya |
๕. อุปวาณสุตฺตํ
5. Upavāṇasuttaṃ
๑๗๕. อถ โข อายสฺมา อุปวาโณ เยนายสฺมา สาริปุโตฺต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา สาริปุเตฺตน สทฺธิํ สโมฺมทิฯ สโมฺมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข อายสฺมา อุปวาโณ อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ –
175. Atha kho āyasmā upavāṇo yenāyasmā sāriputto tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā āyasmatā sāriputtena saddhiṃ sammodi. Sammodanīyaṃ kathaṃ sāraṇīyaṃ vītisāretvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho āyasmā upavāṇo āyasmantaṃ sāriputtaṃ etadavoca –
‘‘กิํ นุ โข, อาวุโส สาริปุตฺต, วิชฺชายนฺตกโร โหตี’’ติ?
‘‘Kiṃ nu kho, āvuso sāriputta, vijjāyantakaro hotī’’ti?
‘‘โน หิทํ, อาวุโส’’ฯ
‘‘No hidaṃ, āvuso’’.
‘‘กิํ ปนาวุโส สาริปุตฺต, จรเณนนฺตกโร โหตี’’ติ?
‘‘Kiṃ panāvuso sāriputta, caraṇenantakaro hotī’’ti?
‘‘โน หิทํ, อาวุโส’’ฯ
‘‘No hidaṃ, āvuso’’.
‘‘กิํ ปนาวุโส สาริปุตฺต, วิชฺชาจรเณนนฺตกโร โหตี’’ติ?
‘‘Kiṃ panāvuso sāriputta, vijjācaraṇenantakaro hotī’’ti?
‘‘โน หิทํ, อาวุโส’’ฯ
‘‘No hidaṃ, āvuso’’.
‘‘กิํ ปนาวุโส สาริปุตฺต, อญฺญตฺร วิชฺชาจรเณนนฺตกโร โหตี’’ติ?
‘‘Kiṃ panāvuso sāriputta, aññatra vijjācaraṇenantakaro hotī’’ti?
‘‘โน หิทํ, อาวุโส’’ฯ
‘‘No hidaṃ, āvuso’’.
‘‘‘กิํ นุ โข, อาวุโส สาริปุตฺต, วิชฺชายนฺตกโร โหตี’ติ, อิติ ปุโฎฺฐ สมาโน – ‘โน หิทํ, อาวุโส’ติ วเทสิฯ ‘กิํ ปนาวุโส สาริปุตฺต, จรเณนนฺตกโร โหตี’ติ, อิติ ปุโฎฺฐ สมาโน – ‘โน หิทํ, อาวุโส’ติ วเทสิฯ ‘กิํ ปนาวุโส สาริปุตฺต, วิชฺชาจรเณนนฺตกโร โหตี’ติ, อิติ ปุโฎฺฐ สมาโน – ‘โน หิทํ, อาวุโส’ติ วเทสิฯ ‘กิํ ปนาวุโส สาริปุตฺต, อญฺญตฺร วิชฺชาจรเณนนฺตกโร โหตี’ติ, อิติ ปุโฎฺฐ สมาโน – ‘โน หิทํ, อาวุโส’ติ วเทสิฯ ยถา กถํ ปนาวุโส, อนฺตกโร โหตี’’ติ?
‘‘‘Kiṃ nu kho, āvuso sāriputta, vijjāyantakaro hotī’ti, iti puṭṭho samāno – ‘no hidaṃ, āvuso’ti vadesi. ‘Kiṃ panāvuso sāriputta, caraṇenantakaro hotī’ti, iti puṭṭho samāno – ‘no hidaṃ, āvuso’ti vadesi. ‘Kiṃ panāvuso sāriputta, vijjācaraṇenantakaro hotī’ti, iti puṭṭho samāno – ‘no hidaṃ, āvuso’ti vadesi. ‘Kiṃ panāvuso sāriputta, aññatra vijjācaraṇenantakaro hotī’ti, iti puṭṭho samāno – ‘no hidaṃ, āvuso’ti vadesi. Yathā kathaṃ panāvuso, antakaro hotī’’ti?
‘‘วิชฺชาย เจ, อาวุโส, อนฺตกโร อภวิสฺส, สอุปาทาโนว สมาโน อนฺตกโร อภวิสฺสฯ จรเณน เจ, อาวุโส, อนฺตกโร อภวิสฺส, สอุปาทาโนว สมาโน อนฺตกโร อภวิสฺสฯ วิชฺชาจรเณน เจ, อาวุโส, อนฺตกโร อภวิสฺส, สอุปาทาโนว สมาโน อนฺตกโร อภวิสฺสฯ อญฺญตฺร วิชฺชาจรเณน เจ, อาวุโส, อนฺตกโร อภวิสฺส, ปุถุชฺชโน อนฺตกโร อภวิสฺสฯ ปุถุชฺชโน หิ, อาวุโส, อญฺญตฺร วิชฺชาจรเณนฯ จรณวิปโนฺน โข, อาวุโส, ยถาภูตํ น ชานาติ น ปสฺสติฯ จรณสมฺปโนฺน ยถาภูตํ ชานาติ ปสฺสติฯ ยถาภูตํ ชานํ ปสฺสํ อนฺตกโร โหตี’’ติฯ ปญฺจมํฯ
‘‘Vijjāya ce, āvuso, antakaro abhavissa, saupādānova samāno antakaro abhavissa. Caraṇena ce, āvuso, antakaro abhavissa, saupādānova samāno antakaro abhavissa. Vijjācaraṇena ce, āvuso, antakaro abhavissa, saupādānova samāno antakaro abhavissa. Aññatra vijjācaraṇena ce, āvuso, antakaro abhavissa, puthujjano antakaro abhavissa. Puthujjano hi, āvuso, aññatra vijjācaraṇena. Caraṇavipanno kho, āvuso, yathābhūtaṃ na jānāti na passati. Caraṇasampanno yathābhūtaṃ jānāti passati. Yathābhūtaṃ jānaṃ passaṃ antakaro hotī’’ti. Pañcamaṃ.
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๕. อุปวาณสุตฺตวณฺณนา • 5. Upavāṇasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๕-๖. อุปวาณสุตฺตาทิวณฺณนา • 5-6. Upavāṇasuttādivaṇṇanā