Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā |
อุโปสถาคาราทิกถาวณฺณนา
Uposathāgārādikathāvaṇṇanā
๑๔๑. ‘‘ยํ สโงฺฆ อากงฺขติ วิหารํ วา…เป.… คุหํ วา’’ติ วจนโต น เกวลํ ปถวิยํเยว, วิหาราทีนํ อุปริปิ สีมา อนุญฺญาตา โหติ อุโปสถกมฺมปธานตฺตาติ สิทฺธํฯ ตปฺปธานา สีมาติ กถํ ปญฺญายตีติ เจ? ตทธิการานุญฺญาตตฺตา, สมฺมุติยํ ‘‘สมานสํวาสา’’ติ เอตฺตาวตา สิเทฺธ วิสุํ ‘‘เอกูโปสถา’’ติ วจนโต จฯ ‘‘อุโปสถํ ฐเปตฺวา เสสกมฺมานิ สมานสํวาสา นามา’’ติ ลิขิตํฯ ‘‘เอกํ สมูหนิตฺวา’’ติ ปาฬิปาโฐฯ
141. ‘‘Yaṃ saṅgho ākaṅkhati vihāraṃ vā…pe… guhaṃ vā’’ti vacanato na kevalaṃ pathaviyaṃyeva, vihārādīnaṃ uparipi sīmā anuññātā hoti uposathakammapadhānattāti siddhaṃ. Tappadhānā sīmāti kathaṃ paññāyatīti ce? Tadadhikārānuññātattā, sammutiyaṃ ‘‘samānasaṃvāsā’’ti ettāvatā siddhe visuṃ ‘‘ekūposathā’’ti vacanato ca. ‘‘Uposathaṃ ṭhapetvā sesakammāni samānasaṃvāsā nāmā’’ti likhitaṃ. ‘‘Ekaṃ samūhanitvā’’ti pāḷipāṭho.
๑๔๒. กโตวสฺสาติ เอกสีมาย สมเคฺค สนฺธาย วุตฺตํฯ อญฺญถา นานาสีมายํ ฐิตานํ สวนํ ปมาณํ, เอกสีมายปิ หตฺถปาสํ มุญฺจิตฺวา ฐิตานํ วา สวนเมว ปมาณนฺติ อนิฎฺฐํ อาปชฺชติฯ ตตฺถ สมฺมตาย วา อสมฺมตาย วาติ อุโปสถาคารสมฺมุติยา, น สีมาสมฺมุติยาฯ กถํ ปญฺญายตีติ? อธิการโต, ปรโต ฉนฺททานปญฺญตฺติโต, ปาริสุทฺธิทานปญฺญตฺติโต จฯ ตตฺถ ปุริมํ การณํ ปุริมํ อนิฎฺฐํ นิวาเรติ, ปจฺฉิมํ ปจฺฉิมนฺติ เวทิตพฺพํฯ อุโปสถมุขนฺติ อุโปสถฎฺฐานํฯ ‘‘อุโปสถมุขสฺสาติ อุโปสถาคารฎฺฐานสฺสา’’ติ ลิขิตํฯ ยานิ กานิจิ นิมิตฺตานิ กิเตฺตตุํ วเฎฺฎตีติ อิทํ กถํ ปญฺญายตีติ? ‘‘ปฐมํ นิมิตฺตา กิเตฺตตพฺพา นิมิเตฺต กิเตฺตตฺวา’’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตตฺตาฯ ปฐมํ วุตฺตตฺตา น วุจฺจนฺตีติ เจ? ตํ ปน อการณํ, น หิ พุทฺธานํ เทสนาย อาลสิยํ อตฺถิฯ สีมาสมูหนนกาเล อุโปสถาคารํ สมูหนิตฺวาว สีมาสมูหนนํ อิชฺฌตีติ เอเกฯ ตํ อยุตฺตํ อพทฺธาย สีมาย อุโปสถาคารสมฺมุติสิทฺธิโตติ โน ตโกฺกติ อาจริโยฯ อุโปสถมุขนฺติ อุโปสถาคารสฺส มุขนฺติ อาจริยาฯ อุโปสถมุขสฺส นิมิตฺตกิตฺตนา สีมาย วุตฺตนเยน กาตพฺพาฯ เอเกนาปิ กิเตฺตตุํ วฎฺฎตีติ เอเกฯ ‘‘ปาสาโท วา โหตุ, มณฺฑปาทีสุ วา อญฺญตโรฯ กมฺมวาจาย ปน ‘อุโปสถมุข’มิเจฺจว วตฺตพฺพ’’นฺติ วทนฺติฯ ‘‘โปราณโก อาวาโส นาม มูลาวาโส’’ติ ลิขิตํฯ วทติ ฆฎมตฺตา อิติ หิ ลกฺขณํฯ
142.Katovassāti ekasīmāya samagge sandhāya vuttaṃ. Aññathā nānāsīmāyaṃ ṭhitānaṃ savanaṃ pamāṇaṃ, ekasīmāyapi hatthapāsaṃ muñcitvā ṭhitānaṃ vā savanameva pamāṇanti aniṭṭhaṃ āpajjati. Tattha sammatāya vā asammatāya vāti uposathāgārasammutiyā, na sīmāsammutiyā. Kathaṃ paññāyatīti? Adhikārato, parato chandadānapaññattito, pārisuddhidānapaññattito ca. Tattha purimaṃ kāraṇaṃ purimaṃ aniṭṭhaṃ nivāreti, pacchimaṃ pacchimanti veditabbaṃ. Uposathamukhanti uposathaṭṭhānaṃ. ‘‘Uposathamukhassāti uposathāgāraṭṭhānassā’’ti likhitaṃ. Yāni kānici nimittāni kittetuṃ vaṭṭetīti idaṃ kathaṃ paññāyatīti? ‘‘Paṭhamaṃ nimittā kittetabbā nimitte kittetvā’’ti ettakameva vuttattā. Paṭhamaṃ vuttattā na vuccantīti ce? Taṃ pana akāraṇaṃ, na hi buddhānaṃ desanāya ālasiyaṃ atthi. Sīmāsamūhananakāle uposathāgāraṃ samūhanitvāva sīmāsamūhananaṃ ijjhatīti eke. Taṃ ayuttaṃ abaddhāya sīmāya uposathāgārasammutisiddhitoti no takkoti ācariyo. Uposathamukhanti uposathāgārassa mukhanti ācariyā. Uposathamukhassa nimittakittanā sīmāya vuttanayena kātabbā. Ekenāpi kittetuṃ vaṭṭatīti eke. ‘‘Pāsādo vā hotu, maṇḍapādīsu vā aññataro. Kammavācāya pana ‘uposathamukha’micceva vattabba’’nti vadanti. ‘‘Porāṇako āvāso nāma mūlāvāso’’ti likhitaṃ. Vadati ghaṭamattā iti hi lakkhaṇaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi
๗๒. อุโปสถาคารกถา • 72. Uposathāgārakathā
๗๓. อุโปสถปฺปมุขานุชานนา • 73. Uposathappamukhānujānanā
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā / อุโปสถาคาราทิกถา • Uposathāgārādikathā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / อุโปสถาคาราทิกถาวณฺณนา • Uposathāgārādikathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / อุโปสถาคาราทิกถาวณฺณนา • Uposathāgārādikathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๗๒. อุโปสถาคาราทิกถา • 72. Uposathāgārādikathā