Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya |
๕. อุปฺปลวณฺณาสุตฺตํ
5. Uppalavaṇṇāsuttaṃ
๑๖๖. สาวตฺถินิทานํฯ อถ โข อุปฺปลวณฺณา ภิกฺขุนี ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา…เป.… อญฺญตรสฺมิํ สุปุปฺผิตสาลรุกฺขมูเล อฎฺฐาสิฯ อถ โข มาโร ปาปิมา อุปฺปลวณฺณาย ภิกฺขุนิยา ภยํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํสํ อุปฺปาเทตุกาโม สมาธิมฺหา จาเวตุกาโม เยน อุปฺปลวณฺณา ภิกฺขุนี เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อุปฺปลวณฺณํ ภิกฺขุนิํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
166. Sāvatthinidānaṃ. Atha kho uppalavaṇṇā bhikkhunī pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā…pe… aññatarasmiṃ supupphitasālarukkhamūle aṭṭhāsi. Atha kho māro pāpimā uppalavaṇṇāya bhikkhuniyā bhayaṃ chambhitattaṃ lomahaṃsaṃ uppādetukāmo samādhimhā cāvetukāmo yena uppalavaṇṇā bhikkhunī tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā uppalavaṇṇaṃ bhikkhuniṃ gāthāya ajjhabhāsi –
‘‘สุปุปฺผิตคฺคํ อุปคมฺม ภิกฺขุนิ,
‘‘Supupphitaggaṃ upagamma bhikkhuni,
เอกา ตุวํ ติฎฺฐสิ สาลมูเล;
Ekā tuvaṃ tiṭṭhasi sālamūle;
น จตฺถิ เต ทุติยา วณฺณธาตุ,
Na catthi te dutiyā vaṇṇadhātu,
พาเล น ตฺวํ ภายสิ ธุตฺตกาน’’นฺติฯ
Bāle na tvaṃ bhāyasi dhuttakāna’’nti.
อถ โข อุปฺปลวณฺณาย ภิกฺขุนิยา เอตทโหสิ – ‘‘โก นุ ขฺวายํ มนุโสฺส วา อมนุโสฺส วา คาถํ ภาสตี’’ติ? อถ โข อุปฺปลวณฺณาย ภิกฺขุนิยา เอตทโหสิ – ‘‘มาโร โข อยํ ปาปิมา มม ภยํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํสํ อุปฺปาเทตุกาโม สมาธิมฺหา จาเวตุกาโม คาถํ ภาสตี’’ติฯ อถ โข อุปฺปลวณฺณา ภิกฺขุนี ‘‘มาโร อยํ ปาปิมา’’ อิติ วิทิตฺวา มารํ ปาปิมนฺตํ คาถาหิ ปจฺจภาสิ –
Atha kho uppalavaṇṇāya bhikkhuniyā etadahosi – ‘‘ko nu khvāyaṃ manusso vā amanusso vā gāthaṃ bhāsatī’’ti? Atha kho uppalavaṇṇāya bhikkhuniyā etadahosi – ‘‘māro kho ayaṃ pāpimā mama bhayaṃ chambhitattaṃ lomahaṃsaṃ uppādetukāmo samādhimhā cāvetukāmo gāthaṃ bhāsatī’’ti. Atha kho uppalavaṇṇā bhikkhunī ‘‘māro ayaṃ pāpimā’’ iti viditvā māraṃ pāpimantaṃ gāthāhi paccabhāsi –
‘‘สตํ สหสฺสานิปิ ธุตฺตกานํ,
‘‘Sataṃ sahassānipi dhuttakānaṃ,
อิธาคตา ตาทิสกา ภเวยฺยุํ;
Idhāgatā tādisakā bhaveyyuṃ;
โลมํ น อิญฺชามิ น สนฺตสามิ,
Lomaṃ na iñjāmi na santasāmi,
น มาร ภายามิ ตเมกิกาปิฯ
Na māra bhāyāmi tamekikāpi.
‘‘เอสา อนฺตรธายามิ, กุจฺฉิํ วา ปวิสามิ เต;
‘‘Esā antaradhāyāmi, kucchiṃ vā pavisāmi te;
ปขุมนฺตริกายมฺปิ, ติฎฺฐนฺติํ มํ น ทกฺขสิฯ
Pakhumantarikāyampi, tiṭṭhantiṃ maṃ na dakkhasi.
‘‘จิตฺตสฺมิํ วสีภูตามฺหิ, อิทฺธิปาทา สุภาวิตา;
‘‘Cittasmiṃ vasībhūtāmhi, iddhipādā subhāvitā;
สพฺพพนฺธนมุตฺตามฺหิ, น ตํ ภายามิ อาวุโส’’ติฯ
Sabbabandhanamuttāmhi, na taṃ bhāyāmi āvuso’’ti.
อถ โข มาโร ปาปิมา ‘‘ชานาติ มํ อุปฺปลวณฺณา ภิกฺขุนี’’ติ ทุกฺขี ทุมฺมโน ตเตฺถวนฺตรธายีติฯ
Atha kho māro pāpimā ‘‘jānāti maṃ uppalavaṇṇā bhikkhunī’’ti dukkhī dummano tatthevantaradhāyīti.
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๕. อุปฺปลวณฺณาสุตฺตวณฺณนา • 5. Uppalavaṇṇāsuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๕. อุปฺปลวณฺณาสุตฺตวณฺณนา • 5. Uppalavaṇṇāsuttavaṇṇanā