Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรคาถา-อฎฺฐกถา • Theragāthā-aṭṭhakathā

    ๙. อุสภเตฺถรคาถาวณฺณนา

    9. Usabhattheragāthāvaṇṇanā

    อมฺพปลฺลวสงฺกาสนฺติ อายสฺมโต อุสภเตฺถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุเทฺธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุญฺญานิ กโรโนฺต สิขิสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิญฺญุตํ ปโตฺต เอกทิวสํ สตฺถารํ ปิณฺฑาย จรนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส โกสมฺพผลํ อทาสิฯ โส เตน ปุญฺญกเมฺมน เทวมนุเสฺสสุ สํสรโนฺต อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท กปิลวตฺถุสฺมิํ สากิยราชกุเล นิพฺพตฺติตฺวา อุสโภติ ลทฺธนาโม วยปฺปโตฺต สตฺถุ ญาติสมาคเม พุทฺธานุภาวํ ทิสฺวา ปฎิลทฺธสโทฺธ ปพฺพชิฯ โส ปพฺพชิตกาลโต ปฎฺฐาย สมณธมฺมํ อกตฺวา ทิวา สงฺคณิการาโม สกลรตฺติํ นิทฺทายมาโน วีตินาเมติฯ โส เอกทิวสํ มุฎฺฐสฺสติ อสมฺปชาโน นิทฺทํ โอกฺกโนฺต สุปิเน เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา อมฺพปลฺลววณฺณํ จีวรํ ปารุปิตฺวา หตฺถิคีวายํ นิสีทิตฺวา นครํ ปิณฺฑาย ปวิฎฺฐํ ตเตฺถว มนุเสฺส สมฺปเตฺต ทิสฺวา ลชฺชาย หตฺถิกฺขนฺธโต โอรุยฺห อตฺตานํ ทิสฺวา ปฎิพุโทฺธ, ‘‘อีทิสํ นาม สุปินํ มุฎฺฐสฺสตินา อสมฺปชาเนน นิทฺทายมาเนน มยา ทิฎฺฐ’’นฺติ อุปฺปนฺนสํเวโค วิปสฺสนํ ปฎฺฐเปตฺวา นจิรเสฺสว อรหตฺตํ ปาปุณิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๕๒.๑๒-๑๖) –

    Ambapallavasaṅkāsanti āyasmato usabhattherassa gāthā. Kā uppatti? Ayampi purimabuddhesu katādhikāro tattha tattha bhave puññāni karonto sikhissa bhagavato kāle kulagehe nibbattitvā viññutaṃ patto ekadivasaṃ satthāraṃ piṇḍāya carantaṃ disvā pasannamānaso kosambaphalaṃ adāsi. So tena puññakammena devamanussesu saṃsaranto imasmiṃ buddhuppāde kapilavatthusmiṃ sākiyarājakule nibbattitvā usabhoti laddhanāmo vayappatto satthu ñātisamāgame buddhānubhāvaṃ disvā paṭiladdhasaddho pabbaji. So pabbajitakālato paṭṭhāya samaṇadhammaṃ akatvā divā saṅgaṇikārāmo sakalarattiṃ niddāyamāno vītināmeti. So ekadivasaṃ muṭṭhassati asampajāno niddaṃ okkanto supine kesamassuṃ ohāretvā ambapallavavaṇṇaṃ cīvaraṃ pārupitvā hatthigīvāyaṃ nisīditvā nagaraṃ piṇḍāya paviṭṭhaṃ tattheva manusse sampatte disvā lajjāya hatthikkhandhato oruyha attānaṃ disvā paṭibuddho, ‘‘īdisaṃ nāma supinaṃ muṭṭhassatinā asampajānena niddāyamānena mayā diṭṭha’’nti uppannasaṃvego vipassanaṃ paṭṭhapetvā nacirasseva arahattaṃ pāpuṇi. Tena vuttaṃ apadāne (apa. thera 2.52.12-16) –

    ‘‘กกุธํ วิลสนฺตํว, เทวเทวํ นราสภํ;

    ‘‘Kakudhaṃ vilasantaṃva, devadevaṃ narāsabhaṃ;

    รถิยํ ปฎิปชฺชนฺตํ, โกสมฺพํ อททิํ ตทาฯ

    Rathiyaṃ paṭipajjantaṃ, kosambaṃ adadiṃ tadā.

    ‘‘เอกติํเส อิโต กเปฺป, ยํ ผลํ อททิํ ตทา;

    ‘‘Ekatiṃse ito kappe, yaṃ phalaṃ adadiṃ tadā;

    ทุคฺคติํ นาภิชานามิ, ผลทานสฺสิทํ ผลํฯ

    Duggatiṃ nābhijānāmi, phaladānassidaṃ phalaṃ.

    ‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ

    ‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ…pe… kataṃ buddhassa sāsana’’nti.

    อถ เถโร ยถาทิฎฺฐํ สุปินํ องฺกุสํ กตฺวา อรหตฺตสฺส อธิคตตฺตา ตเสฺสว สุปินสฺส กิตฺตนวเสน อญฺญํ พฺยากโรโนฺต –

    Atha thero yathādiṭṭhaṃ supinaṃ aṅkusaṃ katvā arahattassa adhigatattā tasseva supinassa kittanavasena aññaṃ byākaronto –

    ๑๙๗.

    197.

    ‘‘อมฺพปลฺลวสงฺกาสํ, อํเส กตฺวาน จีวรํ;

    ‘‘Ambapallavasaṅkāsaṃ, aṃse katvāna cīvaraṃ;

    นิสิโนฺน หตฺถิคีวายํ, คามํ ปิณฺฑาย ปาวิสิํฯ

    Nisinno hatthigīvāyaṃ, gāmaṃ piṇḍāya pāvisiṃ.

    ๑๙๘.

    198.

    ‘‘หตฺถิกฺขนฺธโต โอรุยฺห, สํเวคํ อลภิํ ตทา;

    ‘‘Hatthikkhandhato oruyha, saṃvegaṃ alabhiṃ tadā;

    โสหํ ทิโตฺต ตทา สโนฺต, ปโตฺต เม อาสวกฺขโย’’ติฯ – คาถาทฺวยมาห;

    Sohaṃ ditto tadā santo, patto me āsavakkhayo’’ti. – gāthādvayamāha;

    ตตฺถ อมฺพปลฺลวสงฺกาสํ, อํเส กตฺวาน จีวรนฺติ อมฺพปลฺลวาการํ ปวาฬวณฺณํ จีวรํ ขเนฺธ กริตฺวา อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวาฯ คามนฺติ อตฺตโน ราชธานิํ หตฺถิกฺขเนฺธ นิสิโนฺน ปิณฺฑาย ปาวิสิํ, ปวิฎฺฐมโตฺตว มหาชเนน โอโลกิยมาโน หตฺถิกฺขนฺธโต โอรุยฺห ฐิโต ปฎิพุชฺฌิํ, ปพุโทฺธว สํเวคํ อลภิํ ตทา ‘‘มุฎฺฐสฺสติ อสมฺปชาโน หุตฺวา นิทฺทาโยกฺกมเนน เอตํ ชาต’’นฺติฯ อปเร ปน ‘‘ราชาว หุตฺวา รตฺติภาเค เอวรูปํ สุปินํ ทิสฺวา วิภาตาย รตฺติยา หตฺถิกฺขนฺธํ อารุยฺห นครวีถิยํ จรโนฺต ตํ สุปินํ สริตฺวา หตฺถิกฺขนฺธโต โอรุยฺห สํเวคํ ลภิตฺวา สตฺถุ สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺวา อุทานํ อุทาเนโนฺต อิมา คาถา อภาสี’’ติ วทนฺติฯ ทิโตฺตติ ตสฺมิํ ราชกาเล ชาติมทโภคมทาทิปริทปฺปิโต สมาโน สํเวคมลภินฺติ โยชนาฯ

    Tattha ambapallavasaṅkāsaṃ, aṃse katvāna cīvaranti ambapallavākāraṃ pavāḷavaṇṇaṃ cīvaraṃ khandhe karitvā uttarāsaṅgaṃ karitvā. Gāmanti attano rājadhāniṃ hatthikkhandhe nisinno piṇḍāya pāvisiṃ, paviṭṭhamattova mahājanena olokiyamāno hatthikkhandhato oruyha ṭhito paṭibujjhiṃ, pabuddhova saṃvegaṃ alabhiṃ tadā ‘‘muṭṭhassati asampajāno hutvā niddāyokkamanena etaṃ jāta’’nti. Apare pana ‘‘rājāva hutvā rattibhāge evarūpaṃ supinaṃ disvā vibhātāya rattiyā hatthikkhandhaṃ āruyha nagaravīthiyaṃ caranto taṃ supinaṃ saritvā hatthikkhandhato oruyha saṃvegaṃ labhitvā satthu santike pabbajitvā arahattaṃ patvā udānaṃ udānento imā gāthā abhāsī’’ti vadanti. Dittoti tasmiṃ rājakāle jātimadabhogamadādiparidappito samāno saṃvegamalabhinti yojanā.

    อุสภเตฺถรคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Usabhattheragāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรคาถาปาฬิ • Theragāthāpāḷi / ๙. อุสภเตฺถรคาถา • 9. Usabhattheragāthā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact