Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เปตวตฺถุปาฬิ • Petavatthupāḷi

    ๑๐. อุตฺตรมาตุเปติวตฺถุ

    10. Uttaramātupetivatthu

    ๓๓๑.

    331.

    ทิวาวิหารคตํ ภิกฺขุํ, คงฺคาตีเร นิสินฺนกํ;

    Divāvihāragataṃ bhikkhuṃ, gaṅgātīre nisinnakaṃ;

    ตํ เปตี อุปสงฺกมฺม, ทุพฺพณฺณา ภีรุทสฺสนาฯ

    Taṃ petī upasaṅkamma, dubbaṇṇā bhīrudassanā.

    ๓๓๒.

    332.

    เกสา จสฺสา อติทีฆา 1, ยาวภูมาวลมฺพเร 2;

    Kesā cassā atidīghā 3, yāvabhūmāvalambare 4;

    เกเสหิ สา ปฎิจฺฉนฺนา, สมณํ เอตทพฺรวิฯ

    Kesehi sā paṭicchannā, samaṇaṃ etadabravi.

    ๓๓๓.

    333.

    ‘‘ปญฺจปณฺณาสวสฺสานิ, ยโต กาลงฺกตา อหํ;

    ‘‘Pañcapaṇṇāsavassāni, yato kālaṅkatā ahaṃ;

    นาภิชานามิ ภุตฺตํ วา, ปีตํ วา ปน ปานิยํ;

    Nābhijānāmi bhuttaṃ vā, pītaṃ vā pana pāniyaṃ;

    เทหิ ตฺวํ ปานิยํ ภเนฺต, ตสิตา ปานิยาย เม’’ติฯ

    Dehi tvaṃ pāniyaṃ bhante, tasitā pāniyāya me’’ti.

    ๓๓๔.

    334.

    ‘‘อยํ สีโตทิกา คงฺคา, หิมวนฺตโต 5 สนฺทติ;

    ‘‘Ayaṃ sītodikā gaṅgā, himavantato 6 sandati;

    ปิว เอโตฺต คเหตฺวาน, กิํ มํ ยาจสิ ปานิย’’นฺติฯ

    Piva etto gahetvāna, kiṃ maṃ yācasi pāniya’’nti.

    ๓๓๕.

    335.

    ‘‘สจาหํ ภเนฺต คงฺคาย, สยํ คณฺหามิ ปานิยํ;

    ‘‘Sacāhaṃ bhante gaṅgāya, sayaṃ gaṇhāmi pāniyaṃ;

    โลหิตํ เม ปริวตฺตติ, ตสฺมา ยาจามิ ปานิย’’นฺติฯ

    Lohitaṃ me parivattati, tasmā yācāmi pāniya’’nti.

    ๓๓๖.

    336.

    ‘‘กิํ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฎํ กตํ;

    ‘‘Kiṃ nu kāyena vācāya, manasā dukkaṭaṃ kataṃ;

    กิสฺส กมฺมวิปาเกน, คงฺคา เต โหติ โลหิต’’นฺติฯ

    Kissa kammavipākena, gaṅgā te hoti lohita’’nti.

    ๓๓๗.

    337.

    ‘‘ปุโตฺต เม อุตฺตโร นาม 7, สโทฺธ อาสิ อุปาสโก;

    ‘‘Putto me uttaro nāma 8, saddho āsi upāsako;

    โส จ มยฺหํ อกามาย, สมณานํ ปเวจฺฉติฯ

    So ca mayhaṃ akāmāya, samaṇānaṃ pavecchati.

    ๓๓๘.

    338.

    ‘‘จีวรํ ปิณฺฑปาตญฺจ, ปจฺจยํ สยนาสนํ;

    ‘‘Cīvaraṃ piṇḍapātañca, paccayaṃ sayanāsanaṃ;

    ตมหํ ปริภาสามิ, มเจฺฉเรน อุปทฺทุตาฯ

    Tamahaṃ paribhāsāmi, maccherena upaddutā.

    ๓๓๙.

    339.

    ‘‘ยํ ตฺวํ มยฺหํ อกามาย, สมณานํ ปเวจฺฉสิ;

    ‘‘Yaṃ tvaṃ mayhaṃ akāmāya, samaṇānaṃ pavecchasi;

    จีวรํ ปิณฺฑปาตญฺจ, ปจฺจยํ สยนาสนํฯ

    Cīvaraṃ piṇḍapātañca, paccayaṃ sayanāsanaṃ.

    ๓๔๐.

    340.

    ‘‘เอตํ เต ปรโลกสฺมิํ, โลหิตํ โหตุ อุตฺตร;

    ‘‘Etaṃ te paralokasmiṃ, lohitaṃ hotu uttara;

    ตสฺส กมฺมสฺส วิปาเกน, คงฺคา เม โหติ โลหิต’’นฺติฯ

    Tassa kammassa vipākena, gaṅgā me hoti lohita’’nti.

    อุตฺตรมาตุเปติวตฺถุ ทสมํฯ

    Uttaramātupetivatthu dasamaṃ.







    Footnotes:
    1. อหู ทีฆา (ก.)
    2. ยาว ภูมฺยา’วลมฺพเร (?)
    3. ahū dīghā (ka.)
    4. yāva bhūmyā’valambare (?)
    5. หิมวนฺตาว (ก.)
    6. himavantāva (ka.)
    7. ปุโตฺต เม ภเนฺต อุตฺตโร (ก.)
    8. putto me bhante uttaro (ka.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / เปตวตฺถุ-อฎฺฐกถา • Petavatthu-aṭṭhakathā / ๑๐. อุตฺตรมาตุเปติวตฺถุวณฺณนา • 10. Uttaramātupetivatthuvaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact