Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มิลินฺทปญฺหปาฬิ • Milindapañhapāḷi

    ๙. อุตฺตริกรณียปโญฺห

    9. Uttarikaraṇīyapañho

    . ‘‘ภเนฺต นาคเสน, ตุเมฺห ภณถ ‘ยํ กิญฺจิ กรณียํ ตถาคตสฺส, สพฺพํ ตํ โพธิยา เยว มูเล ปรินิฎฺฐิตํ, นตฺถิ ตถาคตสฺส อุตฺตริํ กรณียํ, กตสฺส วา ปติจโย’ติ, อิทญฺจ เตมาสํ ปฎิสลฺลานํ ทิสฺสติฯ ยทิ, ภเนฺต นาคเสน, ยํ กิญฺจิ กรณียํ ตถาคตสฺส, สพฺพํ ตํ โพธิยา เยว มูเล ปรินิฎฺฐิตํ, นตฺถิ ตถาคตสฺส อุตฺตริํ กรณียํ, กตสฺส วา ปติจโย, เตน หิ ‘เตมาสํ ปฎิสลฺลีโน’ติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉาฯ ยทิ เตมาสํ ปฎิสลฺลีโน, เตน หิ ‘ยํ กิญฺจิ กรณียํ, ตถาคตสฺส, สพฺพํ ตํ โพธิยา เยว มูเล ปรินิฎฺฐิต’นฺติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉา ฯ นตฺถิ กตกรณียสฺส ปฎิสลฺลานํ, สกรณียเสฺสว ปฎิสลฺลานํ ยถา นาม พฺยาธิตเสฺสว เภสเชฺชน กรณียํ โหติ, อพฺยาธิตสฺส กิํ เภสเชฺชนฯ ฉาตเสฺสว โภชเนน กรณียํ โหติ, อฉาตสฺส กิํ โภชเนนฯ เอวเมว โข, ภเนฺต นาคเสน, นตฺถิ กตกรณียสฺส ปฎิสลฺลานํ, สกรณียเสฺสว ปฎิสลฺลานํฯ อยมฺปิ อุภโต โกฎิโก ปโญฺห ตวานุปฺปโตฺต, โส ตยา นิพฺพาหิตโพฺพ’’ติฯ

    9. ‘‘Bhante nāgasena, tumhe bhaṇatha ‘yaṃ kiñci karaṇīyaṃ tathāgatassa, sabbaṃ taṃ bodhiyā yeva mūle pariniṭṭhitaṃ, natthi tathāgatassa uttariṃ karaṇīyaṃ, katassa vā paticayo’ti, idañca temāsaṃ paṭisallānaṃ dissati. Yadi, bhante nāgasena, yaṃ kiñci karaṇīyaṃ tathāgatassa, sabbaṃ taṃ bodhiyā yeva mūle pariniṭṭhitaṃ, natthi tathāgatassa uttariṃ karaṇīyaṃ, katassa vā paticayo, tena hi ‘temāsaṃ paṭisallīno’ti yaṃ vacanaṃ, taṃ micchā. Yadi temāsaṃ paṭisallīno, tena hi ‘yaṃ kiñci karaṇīyaṃ, tathāgatassa, sabbaṃ taṃ bodhiyā yeva mūle pariniṭṭhita’nti tampi vacanaṃ micchā . Natthi katakaraṇīyassa paṭisallānaṃ, sakaraṇīyasseva paṭisallānaṃ yathā nāma byādhitasseva bhesajjena karaṇīyaṃ hoti, abyādhitassa kiṃ bhesajjena. Chātasseva bhojanena karaṇīyaṃ hoti, achātassa kiṃ bhojanena. Evameva kho, bhante nāgasena, natthi katakaraṇīyassa paṭisallānaṃ, sakaraṇīyasseva paṭisallānaṃ. Ayampi ubhato koṭiko pañho tavānuppatto, so tayā nibbāhitabbo’’ti.

    ‘‘ยํ กิญฺจิ, มหาราช, กรณียํ ตถาคตสฺส, สพฺพํ ตํ โพธิยา เยว มูเล ปรินิฎฺฐิตํ, นตฺถิ ตถาคตสฺส อุตฺตริํ กรณียํ, กตสฺส วา ปติจโย, ภควา จ เตมาสํ ปฎิสลฺลีโน, ปฎิสลฺลานํ โข, มหาราช, พหุคุณํ, สเพฺพปิ ตถาคตา ปฎิสลฺลียิตฺวา สพฺพญฺญุตํ ปตฺตา, ตํ เต สุกตคุณมนุสฺสรนฺตา ปฎิสลฺลานํ เสวนฺติฯ ยถา, มหาราช, ปุริโส รโญฺญ สนฺติกา ลทฺธวโร ปฎิลทฺธโภโค ตํ สุกตคุณมนุสฺสรโนฺต อปราปรํ รโญฺญ อุปฎฺฐานํ เอติฯ เอวเมว โข, มหาราช, สเพฺพปิ ตถาคตา ปฎิสลฺลียิตฺวา สพฺพญฺญุตํ ปตฺตา, ตํ เต สุกตคุณมนุสฺสรนฺตา ปฎิสลฺลานํ เสวนฺติฯ

    ‘‘Yaṃ kiñci, mahārāja, karaṇīyaṃ tathāgatassa, sabbaṃ taṃ bodhiyā yeva mūle pariniṭṭhitaṃ, natthi tathāgatassa uttariṃ karaṇīyaṃ, katassa vā paticayo, bhagavā ca temāsaṃ paṭisallīno, paṭisallānaṃ kho, mahārāja, bahuguṇaṃ, sabbepi tathāgatā paṭisallīyitvā sabbaññutaṃ pattā, taṃ te sukataguṇamanussarantā paṭisallānaṃ sevanti. Yathā, mahārāja, puriso rañño santikā laddhavaro paṭiladdhabhogo taṃ sukataguṇamanussaranto aparāparaṃ rañño upaṭṭhānaṃ eti. Evameva kho, mahārāja, sabbepi tathāgatā paṭisallīyitvā sabbaññutaṃ pattā, taṃ te sukataguṇamanussarantā paṭisallānaṃ sevanti.

    ‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, ปุริโส อาตุโร ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโน ภิสกฺกมุปเสวิตฺวา โสตฺถิมนุปฺปโตฺต ตํ สุกตคุณมนุสฺสรโนฺต อปราปรํ ภิสกฺกมุปเสวติฯ เอวเมว โข, มหาราช, สเพฺพปิ ตถาคตา ปฎิสลฺลียิตฺวา สพฺพญฺญุตํ ปตฺตา, ตํ เต สุกตคุณมนุสฺสรนฺตา ปฎิสลฺลานํ เสวนฺติฯ

    ‘‘Yathā vā pana, mahārāja, puriso āturo dukkhito bāḷhagilāno bhisakkamupasevitvā sotthimanuppatto taṃ sukataguṇamanussaranto aparāparaṃ bhisakkamupasevati. Evameva kho, mahārāja, sabbepi tathāgatā paṭisallīyitvā sabbaññutaṃ pattā, taṃ te sukataguṇamanussarantā paṭisallānaṃ sevanti.

    ‘‘อฎฺฐวีสติ โข ปนิเม, มหาราช, ปฎิสลฺลานคุณา, เย คุเณ สมนุสฺสรนฺตา 1 ตถาคตา ปฎิสลฺลานํ เสวนฺติฯ กตเม อฎฺฐวีสติ? อิธ, มหาราช, ปฎิสลฺลานํ ปฎิสลฺลียมานํ อตฺตานํ รกฺขติ, อายุํ วเฑฺฒติ, พลํ เทติ, วชฺชํ ปิทหติ, อยสมปเนติ, ยสมุปเนติ, อรติํ วิโนเทติ, รติมุปทหติ, ภยมปเนติ, เวสารชฺชํ กโรติ, โกสชฺชมปเนติ, วีริยมภิชเนติ, ราคมปเนติ, โทสมปเนติ, โมหมปเนติ, มานํ นิหนฺติ, วิตกฺกํ ภญฺชติ, จิตฺตํ เอกคฺคํ กโรติ, มานสํ เสฺนหยติ 2, หาสํ ชเนติ, ครุกํ กโรติ, ลาภมุปฺปาทยติ, นมสฺสิยํ กโรติ , ปีติํ ปาเปติ, ปาโมชฺชํ กโรติ, สงฺขารานํ สภาวํ ทสฺสยติ, ภวปฺปฎิสนฺธิํ อุคฺฆาเฎติ, สพฺพสามญฺญํ เทติฯ อิเม โข, มหาราช, อฎฺฐวีสติ ปฎิสลฺลานคุณา, เย คุเณ สมนุสฺสรนฺตา ตถาคตา ปฎิสลฺลานํ เสวนฺติฯ

    ‘‘Aṭṭhavīsati kho panime, mahārāja, paṭisallānaguṇā, ye guṇe samanussarantā 3 tathāgatā paṭisallānaṃ sevanti. Katame aṭṭhavīsati? Idha, mahārāja, paṭisallānaṃ paṭisallīyamānaṃ attānaṃ rakkhati, āyuṃ vaḍḍheti, balaṃ deti, vajjaṃ pidahati, ayasamapaneti, yasamupaneti, aratiṃ vinodeti, ratimupadahati, bhayamapaneti, vesārajjaṃ karoti, kosajjamapaneti, vīriyamabhijaneti, rāgamapaneti, dosamapaneti, mohamapaneti, mānaṃ nihanti, vitakkaṃ bhañjati, cittaṃ ekaggaṃ karoti, mānasaṃ snehayati 4, hāsaṃ janeti, garukaṃ karoti, lābhamuppādayati, namassiyaṃ karoti , pītiṃ pāpeti, pāmojjaṃ karoti, saṅkhārānaṃ sabhāvaṃ dassayati, bhavappaṭisandhiṃ ugghāṭeti, sabbasāmaññaṃ deti. Ime kho, mahārāja, aṭṭhavīsati paṭisallānaguṇā, ye guṇe samanussarantā tathāgatā paṭisallānaṃ sevanti.

    ‘‘อปิ จ โข, มหาราช, ตถาคตา สนฺตํ สุขํ สมาปตฺติรติํ อนุภวิตุกามา ปฎิสลฺลานํ เสวนฺติ ปริโยสิตสงฺกปฺปาฯ จตูหิ โข, มหาราช, การเณหิ ตถาคตา ปฎิสลฺลานํ เสวนฺติฯ กตเมหิ จตูหิ? วิหารผาสุตายปิ, มหาราช, ตถาคตา ปฎิสลฺลานํ เสวนฺติ, อนวชฺชคุณพหุลตายปิ ตถาคตา ปฎิสลฺลานํ เสวนฺติ, อเสสอริยวีถิโตปิ ตถาคตา ปฎิสลฺลานํ เสวนฺติ, สพฺพพุทฺธานํ ถุตโถมิตวณฺณิตปสตฺถโตปิ ตถาคตา ปฎิสลฺลานํ เสวนฺติฯ อิเมหิ โข, มหาราช, จตูหิ การเณหิ ตถาคตา ปฎิสลฺลานํ เสวนฺติฯ อิติ โข, มหาราช, ตถาคตา ปฎิสลฺลานํ เสวนฺติ น สกรณียตาย, น กตสฺส วา ปติจยาย, อถ โข คุณวิเสสทสฺสาวิตาย ตถาคตา ปฎิสลฺลานํ เสวนฺตี’’ติฯ ‘‘สาธุ, ภเนฺต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฎิจฺฉามี’’ติฯ

    ‘‘Api ca kho, mahārāja, tathāgatā santaṃ sukhaṃ samāpattiratiṃ anubhavitukāmā paṭisallānaṃ sevanti pariyositasaṅkappā. Catūhi kho, mahārāja, kāraṇehi tathāgatā paṭisallānaṃ sevanti. Katamehi catūhi? Vihāraphāsutāyapi, mahārāja, tathāgatā paṭisallānaṃ sevanti, anavajjaguṇabahulatāyapi tathāgatā paṭisallānaṃ sevanti, asesaariyavīthitopi tathāgatā paṭisallānaṃ sevanti, sabbabuddhānaṃ thutathomitavaṇṇitapasatthatopi tathāgatā paṭisallānaṃ sevanti. Imehi kho, mahārāja, catūhi kāraṇehi tathāgatā paṭisallānaṃ sevanti. Iti kho, mahārāja, tathāgatā paṭisallānaṃ sevanti na sakaraṇīyatāya, na katassa vā paticayāya, atha kho guṇavisesadassāvitāya tathāgatā paṭisallānaṃ sevantī’’ti. ‘‘Sādhu, bhante nāgasena, evametaṃ tathā sampaṭicchāmī’’ti.

    อุตฺตริกรณียปโญฺห นวโมฯ

    Uttarikaraṇīyapañho navamo.







    Footnotes:
    1. สมนุปสฺสนฺตา (สี. ปี.)
    2. โสภยติ (สี.)
    3. samanupassantā (sī. pī.)
    4. sobhayati (sī.)

    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact