Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรคาถา-อฎฺฐกถา • Theragāthā-aṭṭhakathā

    ๑๐. อุตฺติยเตฺถรคาถาวณฺณนา

    10. Uttiyattheragāthāvaṇṇanā

    อาพาเธ เม สมุปฺปเนฺนติ อายสฺมโต อุตฺติยเตฺถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? โส กิร ปุริมพุเทฺธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ วิวฎฺฎูปนิสฺสยํ ปุญฺญํ อุปจินโนฺต อิโต จตุนวุเต กเปฺป สิทฺธตฺถสฺส ภควโต กาเล จนฺทภาคาย นทิยา มหารูโป สุสุมาโร หุตฺวา นิพฺพโตฺตฯ โส ปารํ คนฺตุํ นทิยา ตีรํ อุปคตํ ภควนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนจิโตฺต ปารํ เนตุกาโม ตีรสมีเป นิปชฺชิฯ ภควา ตสฺส อนุกมฺปาย ปิฎฺฐิยํ ปาเท ฐเปสิฯ โส หโฎฺฐ อุทโคฺค ปีติเวเคน ทิคุณุสฺสาโห หุตฺวา โสตํ ฉินฺทโนฺต สีเฆน ชเวน ภควนฺตํ ปรตีรํ เนสิฯ ภควา ตสฺส จิตฺตปฺปสาทํ โอโลเกตฺวา ‘‘อยํ อิโต จุโต เทวโลเก นิพฺพตฺติตฺวา ตโต ปฎฺฐาย สุคตีสุเยว สํสรโนฺต อิโต จตุนวุเต กเปฺป อมตํ ปาปุณิสฺสตี’’ติ พฺยากริตฺวา ปกฺกามิฯ

    Ābādhe me samuppanneti āyasmato uttiyattherassa gāthā. Kā uppatti? So kira purimabuddhesu katādhikāro tattha tattha vivaṭṭūpanissayaṃ puññaṃ upacinanto ito catunavute kappe siddhatthassa bhagavato kāle candabhāgāya nadiyā mahārūpo susumāro hutvā nibbatto. So pāraṃ gantuṃ nadiyā tīraṃ upagataṃ bhagavantaṃ disvā pasannacitto pāraṃ netukāmo tīrasamīpe nipajji. Bhagavā tassa anukampāya piṭṭhiyaṃ pāde ṭhapesi. So haṭṭho udaggo pītivegena diguṇussāho hutvā sotaṃ chindanto sīghena javena bhagavantaṃ paratīraṃ nesi. Bhagavā tassa cittappasādaṃ oloketvā ‘‘ayaṃ ito cuto devaloke nibbattitvā tato paṭṭhāya sugatīsuyeva saṃsaranto ito catunavute kappe amataṃ pāpuṇissatī’’ti byākaritvā pakkāmi.

    โส ตถา สุคตีสุเยว ปริพฺภมโนฺต อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ อญฺญตรสฺส พฺราหฺมณสฺส ปุโตฺต หุตฺวา นิพฺพตฺติ อุตฺติโย นาม นาเมนฯ โส วยปฺปโตฺต ‘‘อมตํ ปริเยสิสฺสามี’’ติ ปริพฺพาชโก หุตฺวา วิจรโนฺต เอกทิวสํ ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ธมฺมํ สุตฺวา สาสเน ปพฺพชิตฺวาปิ สีลาทีนํ อวิโสธิตตฺตา วิเสสํ นิพฺพเตฺตตุํ อสโกฺกโนฺต อเญฺญ ภิกฺขู วิเสสํ นิพฺพเตฺตตฺวา อญฺญํ พฺยากโรเนฺต ทิสฺวา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา สเงฺขเปเนว โอวาทํ ยาจิฯ สตฺถาปิ ตสฺส ‘‘ตสฺมาติห ตฺวํ, อุตฺติย, อาทิเมว วิโสเธหี’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๕.๓๖๙) สเงฺขเปเนว โอวาทํ อทาสิฯ โส ตสฺส โอวาเท ฐตฺวา วิปสฺสนํ อารภิฯ ตสฺส อารทฺธวิปสฺสนสฺส อาพาโธ อุปฺปชฺชิฯ อุปฺปเนฺน ปน อาพาเธ สญฺชาตสํเวโค วีริยารมฺภวตฺถุํ กตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรโนฺต วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๓.๑๖๙-๑๗๙) –

    So tathā sugatīsuyeva paribbhamanto imasmiṃ buddhuppāde sāvatthiyaṃ aññatarassa brāhmaṇassa putto hutvā nibbatti uttiyo nāma nāmena. So vayappatto ‘‘amataṃ pariyesissāmī’’ti paribbājako hutvā vicaranto ekadivasaṃ bhagavantaṃ upasaṅkamitvā dhammaṃ sutvā sāsane pabbajitvāpi sīlādīnaṃ avisodhitattā visesaṃ nibbattetuṃ asakkonto aññe bhikkhū visesaṃ nibbattetvā aññaṃ byākaronte disvā satthāraṃ upasaṅkamitvā saṅkhepeneva ovādaṃ yāci. Satthāpi tassa ‘‘tasmātiha tvaṃ, uttiya, ādimeva visodhehī’’tiādinā (saṃ. ni. 5.369) saṅkhepeneva ovādaṃ adāsi. So tassa ovāde ṭhatvā vipassanaṃ ārabhi. Tassa āraddhavipassanassa ābādho uppajji. Uppanne pana ābādhe sañjātasaṃvego vīriyārambhavatthuṃ katvā vipassanāya kammaṃ karonto vipassanaṃ ussukkāpetvā arahattaṃ pāpuṇi. Tena vuttaṃ apadāne (apa. thera 1.3.169-179) –

    ‘‘จนฺทภาคานทีตีเร, สุสุมาโร อหํ ตทา;

    ‘‘Candabhāgānadītīre, susumāro ahaṃ tadā;

    สโคจรปสุโตหํ, นทิติตฺถํ อคจฺฉหํฯ

    Sagocarapasutohaṃ, nadititthaṃ agacchahaṃ.

    ‘‘สิทฺธโตฺถ ตมฺหิ สมเย, สยมฺภู อคฺคปุคฺคโล;

    ‘‘Siddhattho tamhi samaye, sayambhū aggapuggalo;

    นทิํ ตริตุกาโม โส, นทิติตฺถํ อุปาคมิฯ

    Nadiṃ taritukāmo so, nadititthaṃ upāgami.

    ‘‘อุปคเต จ สมฺพุเทฺธ, อหมฺปิ ตตฺถุปาคมิํ;

    ‘‘Upagate ca sambuddhe, ahampi tatthupāgamiṃ;

    อุปคนฺตฺวาน สมฺพุทฺธํ, อิมํ วาจํ อุทีรยิํฯ

    Upagantvāna sambuddhaṃ, imaṃ vācaṃ udīrayiṃ.

    ‘‘อภิรูห มหาวีร, ตาเรสฺสามิ อหํ ตุวํ;

    ‘‘Abhirūha mahāvīra, tāressāmi ahaṃ tuvaṃ;

    เปตฺติกํ วิสยํ มยฺหํ, อนุกมฺป มหามุนิฯ

    Pettikaṃ visayaṃ mayhaṃ, anukampa mahāmuni.

    ‘‘มม อุคฺคชฺชนํ สุตฺวา, อภิรูหิ มหามุนิ;

    ‘‘Mama uggajjanaṃ sutvā, abhirūhi mahāmuni;

    หโฎฺฐ หเฎฺฐน จิเตฺตน, ตาเรสิํ โลกนายกํฯ

    Haṭṭho haṭṭhena cittena, tāresiṃ lokanāyakaṃ.

    ‘‘นทิยา ปาริเม ตีเร, สิทฺธโตฺถ โลกนายโก;

    ‘‘Nadiyā pārime tīre, siddhattho lokanāyako;

    อสฺสาเสสิ มมํ ตตฺถ, อมตํ ปาปุณิสฺสติฯ

    Assāsesi mamaṃ tattha, amataṃ pāpuṇissati.

    ‘‘ตมฺหา กายา จวิตฺวาน, เทวโลกํ อคจฺฉหํ;

    ‘‘Tamhā kāyā cavitvāna, devalokaṃ agacchahaṃ;

    ทิพฺพสุขํ อนุภวิํ, อจฺฉราหิ ปุรกฺขโตฯ

    Dibbasukhaṃ anubhaviṃ, accharāhi purakkhato.

    ‘‘สตฺตกฺขตฺตุญฺจ เทวิโนฺท, เทวรชฺชมกาสหํ;

    ‘‘Sattakkhattuñca devindo, devarajjamakāsahaṃ;

    ตีณิกฺขตฺตุํ จกฺกวตฺตี, มหิยา อิสฺสโร อหุํฯ

    Tīṇikkhattuṃ cakkavattī, mahiyā issaro ahuṃ.

    ‘‘วิเวกมนุยุโตฺตหํ , นิปโก จ สุสํวุโต;

    ‘‘Vivekamanuyuttohaṃ , nipako ca susaṃvuto;

    ธาเรมิ อนฺติมํ เทหํ, สมฺมาสมฺพุทฺธสาสเนฯ

    Dhāremi antimaṃ dehaṃ, sammāsambuddhasāsane.

    ‘‘จตุนฺนวุติโต กเปฺป, ตาเรสิํ ยํ นราสภํ;

    ‘‘Catunnavutito kappe, tāresiṃ yaṃ narāsabhaṃ;

    ทุคฺคติํ นาภิชานามิ, ตรณาย อิทํ ผลํฯ

    Duggatiṃ nābhijānāmi, taraṇāya idaṃ phalaṃ.

    ‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ

    ‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ…pe… kataṃ buddhassa sāsana’’nti.

    อรหตฺตํ ปน ปตฺวา อตฺตโน สมฺมา ปฎิปตฺติยา ปริปุณฺณาการวิภาวนมุเขน อญฺญํ พฺยากโรโนฺต ‘‘อาพาเธ เม สมุปฺปเนฺน’’ติ คาถํ อภาสิฯ

    Arahattaṃ pana patvā attano sammā paṭipattiyā paripuṇṇākāravibhāvanamukhena aññaṃ byākaronto ‘‘ābādhe me samuppanne’’ti gāthaṃ abhāsi.

    ๓๐. ตตฺถ อาพาเธ เม สมุปฺปเนฺนติ สรีรสฺส อาพาธนโต ‘‘อาพาโธ’’ติ ลทฺธนาเม วิสภาคธาตุโกฺขภเหตุเก โรเค มยฺหํ สญฺชาเตฯ สติ เม อุทปชฺชถาติ ‘‘อุปฺปโนฺน โข เม อาพาโธ, ฐานํ โข ปเนตํ วิชฺชติ, ยทิทํ อาพาโธ วเฑฺฒยฺยฯ ยาว ปนายํ อาพาโธ น วฑฺฒติ, หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ ‘อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยายา’’’ติ วีริยารมฺภวตฺถุภูตา สติ ตเสฺสว อาพาธสฺส วเสน ทุกฺขาย เวทนาย ปีฬิยมานสฺส มยฺหํ อุทปาทิฯ เตนาห ‘‘อาโพโธ เม สมุปฺปโนฺน, กาโล เม นปฺปมชฺชิตุ’’นฺติฯ เอวํ อุปฺปนฺนญฺหิ สติํ องฺกุสํ กตฺวา อยํ เถโร อรหตฺตํ ปโตฺตติฯ

    30. Tattha ābādhe me samuppanneti sarīrassa ābādhanato ‘‘ābādho’’ti laddhanāme visabhāgadhātukkhobhahetuke roge mayhaṃ sañjāte. Sati me udapajjathāti ‘‘uppanno kho me ābādho, ṭhānaṃ kho panetaṃ vijjati, yadidaṃ ābādho vaḍḍheyya. Yāva panāyaṃ ābādho na vaḍḍhati, handāhaṃ vīriyaṃ ārabhāmi ‘appattassa pattiyā anadhigatassa adhigamāya asacchikatassa sacchikiriyāyā’’’ti vīriyārambhavatthubhūtā sati tasseva ābādhassa vasena dukkhāya vedanāya pīḷiyamānassa mayhaṃ udapādi. Tenāha ‘‘ābodho me samuppanno, kālo me nappamajjitu’’nti. Evaṃ uppannañhi satiṃ aṅkusaṃ katvā ayaṃ thero arahattaṃ pattoti.

    อุตฺติยเตฺถรคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Uttiyattheragāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.

    ตติยวคฺควณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Tatiyavaggavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรคาถาปาฬิ • Theragāthāpāḷi / ๑๐. อุตฺติยเตฺถรคาถา • 10. Uttiyattheragāthā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact