Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) |
๗. วจฺฉโคตฺตสุตฺตวณฺณนา
7. Vacchagottasuttavaṇṇanā
๕๘. สตฺตเม มหปฺผลนฺติ มหาวิปากํฯ ธมฺมสฺส จานุธมฺมํ พฺยากโรนฺตีติ เอตฺถ ธโมฺม นาม กถิตกถา, อนุธโมฺม นาม กถิตสฺส ปฎิกถนํฯ สหธมฺมิโกติ สการโณ สเหตุโกฯ วาทานุปาโตติ วาทสฺส อนุปาโต, อนุปตนํ ปวตฺตีติ อโตฺถฯ คารยฺหํ ฐานนฺติ ครหิตพฺพยุตฺตํ การณํฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – โภตา โคตเมน วุตฺตา สการณา วาทปฺปวตฺติ กิญฺจิปิ คารยฺหํ การณํ น อาคจฺฉตีติฯ อถ วา เตหิ ปเรหิ วุตฺตา สการณา วาทปฺปวตฺติ กิญฺจิ คารยฺหํ การณํ น อาคจฺฉตีติ ปุจฺฉติฯ
58. Sattame mahapphalanti mahāvipākaṃ. Dhammassa cānudhammaṃ byākarontīti ettha dhammo nāma kathitakathā, anudhammo nāma kathitassa paṭikathanaṃ. Sahadhammikoti sakāraṇo sahetuko. Vādānupātoti vādassa anupāto, anupatanaṃ pavattīti attho. Gārayhaṃṭhānanti garahitabbayuttaṃ kāraṇaṃ. Idaṃ vuttaṃ hoti – bhotā gotamena vuttā sakāraṇā vādappavatti kiñcipi gārayhaṃ kāraṇaṃ na āgacchatīti. Atha vā tehi parehi vuttā sakāraṇā vādappavatti kiñci gārayhaṃ kāraṇaṃ na āgacchatīti pucchati.
อนฺตรายกโร โหตีติ อนฺตรายํ วินาสํ กิจฺฉลาภกํ วิโลมกํ กโรติฯ ปาริปนฺถิโกติ ปนฺถทูหนโจโรฯ ขโต จ โหตีติ คุณขนเนน ขโต โหติฯ อุปหโตติ คุณุปฆาเตเนว อุปหโตฯ
Antarāyakarohotīti antarāyaṃ vināsaṃ kicchalābhakaṃ vilomakaṃ karoti. Pāripanthikoti panthadūhanacoro. Khato ca hotīti guṇakhananena khato hoti. Upahatoti guṇupaghāteneva upahato.
จนฺทนิกายาติ อสุจิกลลกูเปฯ โอลิคเลฺลติ นิทฺธมนกลเลฯ โส จาติ โส สีลวาติ วุตฺตขีณาสโวฯ สีลกฺขเนฺธนาติ สีลราสินาฯ เสสปเทสุปิ เอเสว นโยฯ เอตฺถ จ วิมุตฺติญาณทสฺสนํ วุจฺจติ ปจฺจเวกฺขณญาณํ, ตํ อเสกฺขสฺส ปวตฺตตฺตา อเสกฺขนฺติ วุตฺตํฯ อิตรานิ สิกฺขาปริโยสานปฺปตฺตตาย สยมฺปิ อเสกฺขาเนวฯ ตานิ จ ปน โลกุตฺตรานิ, ปจฺจเวกฺขณญาณํ โลกิยํฯ
Candanikāyāti asucikalalakūpe. Oligalleti niddhamanakalale. So cāti so sīlavāti vuttakhīṇāsavo. Sīlakkhandhenāti sīlarāsinā. Sesapadesupi eseva nayo. Ettha ca vimuttiñāṇadassanaṃ vuccati paccavekkhaṇañāṇaṃ, taṃ asekkhassa pavattattā asekkhanti vuttaṃ. Itarāni sikkhāpariyosānappattatāya sayampi asekkhāneva. Tāni ca pana lokuttarāni, paccavekkhaṇañāṇaṃ lokiyaṃ.
โรหิณีสูติ รตฺตวณฺณาสุฯ สรูปาสูติ อตฺตโน วจฺฉเกหิ สมานรูปาสุฯ ปาเรวตาสูติ กโปตวณฺณาสุฯ ทโนฺตติ นิพฺพิเสวโนฯ ปุงฺคโวติ อุสโภฯ โธรโยฺหติ ธุรวาโหฯ กลฺยาณชวนิกฺกโมติ กลฺยาเณน อุชุนา ชเวน คนฺตาฯ นาสฺส วณฺณํ ปริกฺขเรติ อสฺส โคณสฺส สรีรวณฺณํ น อุปปริกฺขนฺติ, ธุรวหนกมฺมเมว ปน อุปปริกฺขนฺติฯ ยสฺมิํ กสฺมิญฺจิ ชาติเยติ ยตฺถ กตฺถจิ กุลชาเตฯ ยาสุ กาสุจิ เอตาสูติ เอตาสุ ขตฺติยาทิปฺปเภทาสุ ยาสุ กาสุจิ ชาตีสุฯ
Rohiṇīsūti rattavaṇṇāsu. Sarūpāsūti attano vacchakehi samānarūpāsu. Pārevatāsūti kapotavaṇṇāsu. Dantoti nibbisevano. Puṅgavoti usabho. Dhorayhoti dhuravāho. Kalyāṇajavanikkamoti kalyāṇena ujunā javena gantā. Nāssa vaṇṇaṃ parikkhareti assa goṇassa sarīravaṇṇaṃ na upaparikkhanti, dhuravahanakammameva pana upaparikkhanti. Yasmiṃ kasmiñci jātiyeti yattha katthaci kulajāte. Yāsu kāsuci etāsūti etāsu khattiyādippabhedāsu yāsu kāsuci jātīsu.
พฺรหฺมจริยสฺส เกวลีติ พฺรหฺมจริยสฺส เกวเลน สมนฺนาคโต, ปริปุณฺณภาเวน ยุโตฺตติ อโตฺถฯ ขีณาสโว หิ สกลพฺรหฺมจารี นาม โหติฯ เตเนตํ วุตฺตํฯ ปนฺนภาโรติ โอโรปิตภาโร, ขนฺธภารํ กิเลสภารํ กามคุณภารญฺจ โอโรเปตฺวา ฐิโตติ อโตฺถฯ กตกิโจฺจติ จตูหิ มเคฺคหิ กิจฺจํ กตฺวา ฐิโตฯ ปารคู สพฺพธมฺมานนฺติ สพฺพธมฺมา วุจฺจนฺติ ปญฺจกฺขนฺธา ทฺวาทสายตนานิ อฎฺฐารส ธาตุโย, เตสํ สพฺพธมฺมานํ อภิญฺญาปารํ, ปริญฺญาปารํ, ปหานปารํ, ภาวนาปารํ, สจฺฉิกิริยาปารํ, สมาปตฺติปารญฺจาติ ฉพฺพิธํ ปารํ คตตฺตา ปารคูฯ อนุปาทายาติ อคฺคเหตฺวาฯ นิพฺพุโตติ กิเลสสนฺตาปรหิโตฯ วิรเชติ ราคโทสโมหรชรหิเตฯ
Brahmacariyassa kevalīti brahmacariyassa kevalena samannāgato, paripuṇṇabhāvena yuttoti attho. Khīṇāsavo hi sakalabrahmacārī nāma hoti. Tenetaṃ vuttaṃ. Pannabhāroti oropitabhāro, khandhabhāraṃ kilesabhāraṃ kāmaguṇabhārañca oropetvā ṭhitoti attho. Katakiccoti catūhi maggehi kiccaṃ katvā ṭhito. Pāragū sabbadhammānanti sabbadhammā vuccanti pañcakkhandhā dvādasāyatanāni aṭṭhārasa dhātuyo, tesaṃ sabbadhammānaṃ abhiññāpāraṃ, pariññāpāraṃ, pahānapāraṃ, bhāvanāpāraṃ, sacchikiriyāpāraṃ, samāpattipārañcāti chabbidhaṃ pāraṃ gatattā pāragū. Anupādāyāti aggahetvā. Nibbutoti kilesasantāparahito. Virajeti rāgadosamoharajarahite.
อวิชานนฺตาติ เขตฺตํ อชานนฺตาฯ ทุเมฺมธาติ นิปฺปญฺญาฯ อสฺสุตาวิโนติ เขตฺตวินิจฺฉยสวเนน รหิตาฯ พหิทฺธาติ อิมมฺหา สาสนา พหิทฺธาฯ น หิ สเนฺต อุปาสเรติ พุทฺธปเจฺจกพุทฺธขีณาสเว อุตฺตมปุริเส น อุปสงฺกมนฺติฯ ธีรสมฺมเตติ ปณฺฑิเตหิ สมฺมเต สมฺภาวิเตฯ มูลชาตา ปติฎฺฐิตาติ อิมินา โสตาปนฺนสฺส สทฺธํ ทเสฺสติฯ กุเล วา อิธ ชายเรติ อิธ วา มนุสฺสโลเก ขตฺติยพฺราหฺมณเวสฺสกุเล ชายนฺติฯ อยเมว หิ ติวิธา กุลสมฺปตฺติ นามฯ อนุปุเพฺพน นิพฺพานํ, อธิคจฺฉนฺตีติ สีลสมาธิปญฺญาติ อิเม คุเณ ปูเรตฺวา อนุกฺกเมน นิพฺพานํ อธิคจฺฉนฺตีติฯ
Avijānantāti khettaṃ ajānantā. Dummedhāti nippaññā. Assutāvinoti khettavinicchayasavanena rahitā. Bahiddhāti imamhā sāsanā bahiddhā. Na hi sante upāsareti buddhapaccekabuddhakhīṇāsave uttamapurise na upasaṅkamanti. Dhīrasammateti paṇḍitehi sammate sambhāvite. Mūlajātā patiṭṭhitāti iminā sotāpannassa saddhaṃ dasseti. Kule vā idha jāyareti idha vā manussaloke khattiyabrāhmaṇavessakule jāyanti. Ayameva hi tividhā kulasampatti nāma. Anupubbena nibbānaṃ, adhigacchantīti sīlasamādhipaññāti ime guṇe pūretvā anukkamena nibbānaṃ adhigacchantīti.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๗. วจฺฉโคตฺตสุตฺตํ • 7. Vacchagottasuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๗. วจฺฉโคตฺตสุตฺตวณฺณนา • 7. Vacchagottasuttavaṇṇanā