Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรคาถา-อฎฺฐกถา • Theragāthā-aṭṭhakathā |
๘. อฎฺฐมวโคฺค
8. Aṭṭhamavaggo
๑. วจฺฉปาลเตฺถรคาถาวณฺณนา
1. Vacchapālattheragāthāvaṇṇanā
สุสุขุมนิปุณตฺถทสฺสินาติ อายสฺมโต วจฺฉปาลเตฺถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุเทฺธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุญฺญานิ อาจินโนฺต เทวมนุเสฺสสุ สํสรโนฺต อิโต เอกนวุเต กเปฺป พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา พฺราหฺมณสิเปฺปสุ นิปฺผตฺติํ คนฺตฺวา อคฺคิํ ปริจรโนฺต เอกทิวสํ มหติยา กํสปาติยา ปายาสํ อาทาย ทกฺขิเณยฺยํ ปริเยสโนฺต วิปสฺสิํ ภควนฺตํ อากาเส จงฺกมนฺตํ ทิสฺวา อจฺฉริยพฺภุตจิตฺตชาโต ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ทาตุกามตํ ทเสฺสสิฯ ปฎิคฺคเหสิ ภควา อนุกมฺปํ อุปาทายฯ โส เตน ปุญฺญกเมฺมน เทวมนุเสฺสสุ สํสรโนฺต อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท ราชคเห วิภวสมฺปนฺนสฺส พฺราหฺมณสฺส ปุโตฺต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, วจฺฉปาโลติสฺส นามํ อโหสิฯ โส พิมฺพิสารสมาคเม อุรุเวลกสฺสปเตฺถเรน อิทฺธิปาฎิหาริยํ ทเสฺสตฺวา สตฺถุ ปรมนิปจฺจกาเร กเต ตํ ทิสฺวา ปฎิลทฺธสโทฺธ ปพฺพชิตฺวา สตฺตาหปพฺพชิโต เอว วิปสฺสนํ วเฑฺฒตฺวา ฉฬภิโญฺญ อโหสิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๑๓.๒๖-๓๔) –
Susukhumanipuṇatthadassināti āyasmato vacchapālattherassa gāthā. Kā uppatti? Ayampi purimabuddhesu katādhikāro tattha tattha bhave puññāni ācinanto devamanussesu saṃsaranto ito ekanavute kappe brāhmaṇakule nibbattitvā brāhmaṇasippesu nipphattiṃ gantvā aggiṃ paricaranto ekadivasaṃ mahatiyā kaṃsapātiyā pāyāsaṃ ādāya dakkhiṇeyyaṃ pariyesanto vipassiṃ bhagavantaṃ ākāse caṅkamantaṃ disvā acchariyabbhutacittajāto bhagavantaṃ abhivādetvā dātukāmataṃ dassesi. Paṭiggahesi bhagavā anukampaṃ upādāya. So tena puññakammena devamanussesu saṃsaranto imasmiṃ buddhuppāde rājagahe vibhavasampannassa brāhmaṇassa putto hutvā nibbatti, vacchapālotissa nāmaṃ ahosi. So bimbisārasamāgame uruvelakassapattherena iddhipāṭihāriyaṃ dassetvā satthu paramanipaccakāre kate taṃ disvā paṭiladdhasaddho pabbajitvā sattāhapabbajito eva vipassanaṃ vaḍḍhetvā chaḷabhiñño ahosi. Tena vuttaṃ apadāne (apa. thera 1.13.26-34) –
‘‘สุวณฺณวโณฺณ สมฺพุโทฺธ, พาตฺติํสวรลกฺขโณ;
‘‘Suvaṇṇavaṇṇo sambuddho, bāttiṃsavaralakkhaṇo;
ปวนา อภินิกฺขโนฺต, ภิกฺขุสงฺฆปุรกฺขโตฯ
Pavanā abhinikkhanto, bhikkhusaṅghapurakkhato.
‘‘มหจฺจา กํสปาติยา, วเฑฺฒตฺวา ปายสํ อหํ;
‘‘Mahaccā kaṃsapātiyā, vaḍḍhetvā pāyasaṃ ahaṃ;
อาหุติํ ยิฎฺฐุกาโม โส, อุปเนสิํ พลิํ อหํฯ
Āhutiṃ yiṭṭhukāmo so, upanesiṃ baliṃ ahaṃ.
‘‘ภควา ตมฺหิ สมเย, โลกเชโฎฺฐ นราสโภ;
‘‘Bhagavā tamhi samaye, lokajeṭṭho narāsabho;
จงฺกมํ สุสมารูโฬฺห, อมฺพเร อนิลายเนฯ
Caṅkamaṃ susamārūḷho, ambare anilāyane.
‘‘ตญฺจ อจฺฉริยํ ทิสฺวา, อพฺภุตํ โลมหํสนํ;
‘‘Tañca acchariyaṃ disvā, abbhutaṃ lomahaṃsanaṃ;
ฐปยิตฺวา กํสปาติํ, วิปสฺสิํ อภิวาทยิํฯ
Ṭhapayitvā kaṃsapātiṃ, vipassiṃ abhivādayiṃ.
‘‘ตุวํ เทโวสิ สพฺพญฺญู, สเทเว สหมานุเส;
‘‘Tuvaṃ devosi sabbaññū, sadeve sahamānuse;
อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปฎิคฺคณฺห มหามุนิฯ
Anukampaṃ upādāya, paṭiggaṇha mahāmuni.
‘‘ปฎิคฺคเหสิ ภควา, สพฺพญฺญู โลกนายโก;
‘‘Paṭiggahesi bhagavā, sabbaññū lokanāyako;
มม สงฺกปฺปมญฺญาย, สตฺถา โลเก มหามุนิฯ
Mama saṅkappamaññāya, satthā loke mahāmuni.
‘‘เอกนวุติโต กเปฺป, ยํ ทานมททิํ ตทา;
‘‘Ekanavutito kappe, yaṃ dānamadadiṃ tadā;
ทุคฺคติํ นาภิชานามิ, ปายาสสฺส อิทํ ผลํฯ
Duggatiṃ nābhijānāmi, pāyāsassa idaṃ phalaṃ.
‘‘เอกตาลีสิโต กเปฺป, พุโทฺธ นามาสิ ขตฺติโย;
‘‘Ekatālīsito kappe, buddho nāmāsi khattiyo;
สตฺตรตนสมฺปโนฺน, จกฺกวตฺตี มหพฺพโลฯ
Sattaratanasampanno, cakkavattī mahabbalo.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ
‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ…pe… kataṃ buddhassa sāsana’’nti.
อรหตฺตํ ปน ปตฺวา สุเขเนว อตฺตนา นิพฺพานสฺส อธิคตภาวํ วิภาเวโนฺต –
Arahattaṃ pana patvā sukheneva attanā nibbānassa adhigatabhāvaṃ vibhāvento –
๗๑.
71.
‘‘สุสุขุมนิปุณตฺถทสฺสินา, มติกุสเลน นิวาตวุตฺตินา;
‘‘Susukhumanipuṇatthadassinā, matikusalena nivātavuttinā;
สํเสวิตวุทฺธสีลินา, นิพฺพานํ น หิ เตน ทุลฺลภ’’นฺติฯ –
Saṃsevitavuddhasīlinā, nibbānaṃ na hi tena dullabha’’nti. –
อิมํ คาถํ อภาสิฯ
Imaṃ gāthaṃ abhāsi.
ตตฺถ สุสุขุมนิปุณตฺถทสฺสินาติ อติวิย ทุทฺทสเฎฺฐน สุขุเม, สณฺหเฎฺฐน นิปุเณ สจฺจปฎิจฺจสมุปฺปาทาทิอเตฺถ อนิจฺจตาทิํ โอโรเปตฺวา ปสฺสตีติ สุสุขุมนิปุณตฺถทสฺสี, เตนฯ มติกุสเลนาติ มติยา ปญฺญาย กุสเลน เฉเกน, ‘‘เอวํ ปวตฺตมานสฺส ปญฺญา วฑฺฒติ, เอวํ น วฑฺฒตี’’ติ ธมฺมวิจยสโมฺพชฺฌงฺคปญฺญาย อุปฺปาทเน กุสเลนฯ นิวาตวุตฺตินาติ สพฺรหฺมจารีสุ นิวาตนีจวตฺตนสีเลน, วุเฑฺฒสุ นเวสุ จ ยถานุรูปปฎิปตฺตินาฯ สํเสวิตวุทฺธสีลินาติ สํเสวิตํ อาจิณฺณํ วุทฺธสีลํ สํเสวิตวุทฺธสีลํ, ตํ ยสฺส อตฺถิ, เตน สํเสวิตวุทฺธสีลินาฯ อถ วา สํเสวิตา อุปาสิตา วุทฺธสีลิโน เอเตนาติ สํเสวิตวุทฺธสีลี, เตน ฯ หีติสโทฺท เหตุอโตฺถฯ ยสฺมา โย นิวาตวุตฺติ สํเสวิตวุทฺธสีลี มติกุสโล สุสุขุมนิปุณตฺถทสฺสี จ, ตสฺมา นิพฺพานํ น ตสฺส ทุลฺลภนฺติ อโตฺถฯ นิวาตวุตฺติตาย หิ สํเสวิตวุทฺธสีลิตาย จ ปณฺฑิตา ตํ โอวทิตพฺพํ อนุสาสิตพฺพํ มญฺญนฺติ, เตสญฺจ โอวาเท ฐิโต สยํ มติกุสลตาย สุสุขุมนิปุณตฺถทสฺสิตาย จ วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรโนฺต นจิรเสฺสว นิพฺพานํ อธิคจฺฉตีติ, อยเมว จ เถรสฺส อญฺญาพฺยากรณคาถา อโหสีติฯ
Tattha susukhumanipuṇatthadassināti ativiya duddasaṭṭhena sukhume, saṇhaṭṭhena nipuṇe saccapaṭiccasamuppādādiatthe aniccatādiṃ oropetvā passatīti susukhumanipuṇatthadassī, tena. Matikusalenāti matiyā paññāya kusalena chekena, ‘‘evaṃ pavattamānassa paññā vaḍḍhati, evaṃ na vaḍḍhatī’’ti dhammavicayasambojjhaṅgapaññāya uppādane kusalena. Nivātavuttināti sabrahmacārīsu nivātanīcavattanasīlena, vuḍḍhesu navesu ca yathānurūpapaṭipattinā. Saṃsevitavuddhasīlināti saṃsevitaṃ āciṇṇaṃ vuddhasīlaṃ saṃsevitavuddhasīlaṃ, taṃ yassa atthi, tena saṃsevitavuddhasīlinā. Atha vā saṃsevitā upāsitā vuddhasīlino etenāti saṃsevitavuddhasīlī, tena . Hītisaddo hetuattho. Yasmā yo nivātavutti saṃsevitavuddhasīlī matikusalo susukhumanipuṇatthadassī ca, tasmā nibbānaṃ na tassa dullabhanti attho. Nivātavuttitāya hi saṃsevitavuddhasīlitāya ca paṇḍitā taṃ ovaditabbaṃ anusāsitabbaṃ maññanti, tesañca ovāde ṭhito sayaṃ matikusalatāya susukhumanipuṇatthadassitāya ca vipassanāya kammaṃ karonto nacirasseva nibbānaṃ adhigacchatīti, ayameva ca therassa aññābyākaraṇagāthā ahosīti.
วจฺฉปาลเตฺถรคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Vacchapālattheragāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรคาถาปาฬิ • Theragāthāpāḷi / ๑. วจฺฉปาลเตฺถรคาถา • 1. Vacchapālattheragāthā