Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā

    ๔. จตุตฺถปาราชิกํ

    4. Catutthapārājikaṃ

    จตุสจฺจวิทูติ จตฺตาริ สจฺจานิ สมาหฎานิ จตุสจฺจํ, ตํ อเวทิ ปฎิวิชฺฌีติ จตุสจฺจวิทูฯ สติปิ สาวกานํ ปเจฺจกพุทฺธานญฺจ จตุสจฺจวิทุภาเว อนญฺญปุพฺพกตฺตา ภควโต จตุสจฺจทสฺสนสฺส ตตฺถ จ สพฺพญฺญุตาย พเลสุ จ วสีภาวสฺส ปตฺติโต ปรสนฺตาเนสุ ปสาริตภาเวน ปากฎตฺตา จ ภควาว วิเสเสน ‘‘จตุสจฺจวิทู’’ติ โถมนํ อรหติฯ

    Catusaccavidūti cattāri saccāni samāhaṭāni catusaccaṃ, taṃ avedi paṭivijjhīti catusaccavidū. Satipi sāvakānaṃ paccekabuddhānañca catusaccavidubhāve anaññapubbakattā bhagavato catusaccadassanassa tattha ca sabbaññutāya balesu ca vasībhāvassa pattito parasantānesu pasāritabhāvena pākaṭattā ca bhagavāva visesena ‘‘catusaccavidū’’ti thomanaṃ arahati.

    วคฺคุมุทาตีริยภิกฺขุวตฺถุวณฺณนา

    Vaggumudātīriyabhikkhuvatthuvaṇṇanā

    ๑๙๓. อธิเฎฺฐมาติ สํวิทหามฯ ทูตกมฺมนฺติ คิหีนํ ปณฺณํ วา สาสนํ วา คเหตฺวา ตตฺถ ตตฺถ คมนํฯ อิริยาปถํ สณฺฐเปตฺวาติ ปธานานุรูปํ กตฺวาฯ ปุจฺฉนฺตานํ วาติ ‘‘อยฺยา สนฺตอิริยาปถา อติวิย อุปสนฺตา, กตรํ วิเสสมธิคจฺฉิํสู’’ติ ปุจฺฉนฺตานํฯ อนาคตสมฺพเนฺธ ปน อสตีติ ‘‘ภาสิโต ภวิสฺสตี’’ติ ปาฐเสสํ กตฺวา อนาคตสมฺพเนฺธ อสติฯ ‘‘ภาสิโต’’ติ อตีตวจนํ กถํ อนาคตวจเนน สมฺพนฺธมุปคจฺฉตีติ อาห ‘‘ลกฺขณํ ปน สทฺทสตฺถโต ปริเยสิตพฺพ’’นฺติฯ อีทิเส หิ ฐาเน ‘‘ธาตุสมฺพเนฺธ ปจฺจยา’’ติ อิมินา ลกฺขเณน ธาตฺวตฺถสมฺพเนฺธ สติ อยถากาลวิหิตาปิ ปจฺจยา สาธโว ภวนฺตีติ สทฺทสตฺถวิทู วทนฺติฯ

    193.Adhiṭṭhemāti saṃvidahāma. Dūtakammanti gihīnaṃ paṇṇaṃ vā sāsanaṃ vā gahetvā tattha tattha gamanaṃ. Iriyāpathaṃ saṇṭhapetvāti padhānānurūpaṃ katvā. Pucchantānaṃ vāti ‘‘ayyā santairiyāpathā ativiya upasantā, kataraṃ visesamadhigacchiṃsū’’ti pucchantānaṃ. Anāgatasambandhe pana asatīti ‘‘bhāsito bhavissatī’’ti pāṭhasesaṃ katvā anāgatasambandhe asati. ‘‘Bhāsito’’ti atītavacanaṃ kathaṃ anāgatavacanena sambandhamupagacchatīti āha ‘‘lakkhaṇaṃ pana saddasatthato pariyesitabba’’nti. Īdise hi ṭhāne ‘‘dhātusambandhe paccayā’’ti iminā lakkhaṇena dhātvatthasambandhe sati ayathākālavihitāpi paccayā sādhavo bhavantīti saddasatthavidū vadanti.

    ๑๙๔. วณฺณวาติ อิมินา สกลสรีรานุคตวณฺณสฺส มนาปตา วุตฺตาฯ ปสนฺนมุขวณฺณาติ อิมินา สกลสรีรวณฺณโตปิ อธิกตรํ มุขวณฺณสฺส มนาปตา วุตฺตาฯ วิปฺปสนฺนฉวิวณฺณาติ อิมินา ปน วิชฺชมานเสฺสว สรีรวณฺณสฺส อติวิย ปสนฺนตา วุตฺตาฯ ยสฺมา อินฺทฺริยานํ อูนตฺตํ วา ปูรณตฺตํ วา นตฺถิ, ตสฺมา ‘‘อภินิวิโฎฺฐกาสสฺส ปริปุณฺณตฺตา’’ติ วุตฺตํฯ ฉฎฺฐสฺส อภินิวิโฎฺฐกาโส หทยวตฺถุ, ปญฺจปสาทานํ อภินิวิโฎฺฐกาสสฺส ปริปุณฺณตาวจเนเนว หทยวตฺถุอาทิสกลสรีรสฺส ปริปุณฺณตา ทสฺสิตาเยว โหตีติ อาห – ‘‘มนจฺฉฎฺฐานํ อินฺทฺริยาน’’นฺติฯ ยถา ตนฺติ เอตฺถ นฺติ นิปาตมตฺตํฯ ภนฺตมิคปฺปฎิภาคาติ กตฺตพฺพากตฺตพฺพสฺส อชานนโต ภนฺตมิคสทิสาฯ จตุจกฺกนฺติ จตุอิริยาปถํฯ อิริยาปโถ หิ อิธ ปวตฺตนเฎฺฐน ‘‘จกฺก’’นฺติ อธิเปฺปโตฯ นวทฺวารนฺติ นวหิ วณมุเขหิ นวทฺวารํฯ ทุกฺขนฺติ สีสโรคาทิทุกฺขํฯ สพฺพกิเจฺจสูติ ปตฺตปจนจีวรรชนโยคฎฺฐานาทิกิเจฺจสุฯ ยาเปตุนฺติ วหิตุํ ปวเตฺตตุํฯ เตนาห ‘‘คเมตุ’’นฺติฯ

    194.Vaṇṇavāti iminā sakalasarīrānugatavaṇṇassa manāpatā vuttā. Pasannamukhavaṇṇāti iminā sakalasarīravaṇṇatopi adhikataraṃ mukhavaṇṇassa manāpatā vuttā. Vippasannachavivaṇṇāti iminā pana vijjamānasseva sarīravaṇṇassa ativiya pasannatā vuttā. Yasmā indriyānaṃ ūnattaṃ vā pūraṇattaṃ vā natthi, tasmā ‘‘abhiniviṭṭhokāsassa paripuṇṇattā’’ti vuttaṃ. Chaṭṭhassa abhiniviṭṭhokāso hadayavatthu, pañcapasādānaṃ abhiniviṭṭhokāsassa paripuṇṇatāvacaneneva hadayavatthuādisakalasarīrassa paripuṇṇatā dassitāyeva hotīti āha – ‘‘manacchaṭṭhānaṃindriyāna’’nti. Yathā tanti ettha tanti nipātamattaṃ. Bhantamigappaṭibhāgāti kattabbākattabbassa ajānanato bhantamigasadisā. Catucakkanti catuiriyāpathaṃ. Iriyāpatho hi idha pavattanaṭṭhena ‘‘cakka’’nti adhippeto. Navadvāranti navahi vaṇamukhehi navadvāraṃ. Dukkhanti sīsarogādidukkhaṃ. Sabbakiccesūti pattapacanacīvararajanayogaṭṭhānādikiccesu. Yāpetunti vahituṃ pavattetuṃ. Tenāha ‘‘gametu’’nti.

    ๑๙๕. สโนฺตติ อิมินา เตสํ วิชฺชมานตํ ทเสฺสติ, สํวิชฺชมานาติ อิมินา ปน เตสํ อุปลพฺภมานตํ ทเสฺสติฯ เตนาห – ‘‘อตฺถิ เจว อุปลพฺภนฺติ จา’’ติฯ อุปลพฺภนฺตีติ ทิสฺสนฺติ, ญายนฺตีติ อโตฺถฯ ปนฺถทูหนกมฺมนฺติ ปนฺถฆาตนกมฺมํฯ หนโนฺตติ มาเรโนฺตฯ ฆาเตโนฺตติ มาราเปโนฺตฯ อถ วา หนโนฺตติ พนฺธนตาฬนาทีหิ หิํสโนฺตฯ ฆาเตโนฺตติ มาเรโนฺตฯ ฉินฺทโนฺตติ ปเรสํ หตฺถาทีนิ ฉินฺทโนฺตฯ ปจโนฺตติ ทเณฺฑน อุปฺปีเฬโนฺตฯ ปจนเญฺหตฺถ ทหนํ วิพาธนํ อธิเปฺปตํฯ ปจโนฺตติ วา ตเชฺชโนฺต ตาเสโนฺตฯ อถ วา ปจโนฺตติ คาเมสุ อคฺคิปาตนวเสน เคหาทีนิ ฌาเปตฺวา ตตฺถ อเชฬกาทีนิ ปจโนฺตฯ

    195.Santoti iminā tesaṃ vijjamānataṃ dasseti, saṃvijjamānāti iminā pana tesaṃ upalabbhamānataṃ dasseti. Tenāha – ‘‘atthi ceva upalabbhanti cā’’ti. Upalabbhantīti dissanti, ñāyantīti attho. Panthadūhanakammanti panthaghātanakammaṃ. Hanantoti mārento. Ghātentoti mārāpento. Atha vā hanantoti bandhanatāḷanādīhi hiṃsanto. Ghātentoti mārento. Chindantoti paresaṃ hatthādīni chindanto. Pacantoti daṇḍena uppīḷento. Pacanañhettha dahanaṃ vibādhanaṃ adhippetaṃ. Pacantoti vā tajjento tāsento. Atha vā pacantoti gāmesu aggipātanavasena gehādīni jhāpetvā tattha ajeḷakādīni pacanto.

    เย สิกฺขาปเทสุ พหุลคารวา น โหนฺติ อาปตฺติวีติกฺกมพหุลา, เต สิกฺขาปเทสุ อติพฺพคารวาอุทฺธเตติ อกปฺปิเย กปฺปิยสญฺญิตาย กปฺปิเย อกปฺปิยสญฺญิตาย อวเชฺช วชฺชสญฺญิตาย วเชฺช อวชฺชสญฺญิตาย จ อุทฺธจฺจปกติเกฯ อุนฺนเฬติ อุคฺคตนเฬ, อุฎฺฐิตตุจฺฉมาเนติ วุตฺตํ โหติฯ จปเลติ ปตฺตจีวรมณฺฑนาทินา จาปเลฺลน ยุเตฺตฯ มุขเรติ มุขขเร , ขรวจเนติ วุตฺตํ โหติฯ วิกิณฺณวาเจติ อสํยตวจเน ทิวสมฺปิ นิรตฺถกวจนปฺปลาปิเนฯ มุฎฺฐา นฎฺฐา สติ เอเตสนฺติ มุฎฺฐสฺสตี, สติวิรหิเตติ วุตฺตํ โหติฯ อสมฺปชาเนติ นิปฺปเญฺญฯ ปากตินฺทฺริเยติ สํวราภาเวน คิหิกาเล วิย วิวฎอินฺทฺริเยฯ อาจริยุปชฺฌาเยหิ ปริจฺจตฺตเกติ ธเมฺมน อามิเสน จ อสงฺคเหตฺวา อาจริยุปชฺฌาเยหิ ปริจฺจเตฺต อนาเถ อปฺปติเฎฺฐฯ ลาภครุเกติ ปจฺจยครุเกฯ

    Ye sikkhāpadesu bahulagāravā na honti āpattivītikkamabahulā, te sikkhāpadesu atibbagāravā. Uddhateti akappiye kappiyasaññitāya kappiye akappiyasaññitāya avajje vajjasaññitāya vajje avajjasaññitāya ca uddhaccapakatike. Unnaḷeti uggatanaḷe, uṭṭhitatucchamāneti vuttaṃ hoti. Capaleti pattacīvaramaṇḍanādinā cāpallena yutte. Mukhareti mukhakhare , kharavacaneti vuttaṃ hoti. Vikiṇṇavāceti asaṃyatavacane divasampi niratthakavacanappalāpine. Muṭṭhā naṭṭhā sati etesanti muṭṭhassatī, sativirahiteti vuttaṃ hoti. Asampajāneti nippaññe. Pākatindriyeti saṃvarābhāvena gihikāle viya vivaṭaindriye. Ācariyupajjhāyehi pariccattaketi dhammena āmisena ca asaṅgahetvā ācariyupajjhāyehi pariccatte anāthe appatiṭṭhe. Lābhagaruketi paccayagaruke.

    อิริยาปถสณฺฐปนาทีนีติ อาทิ-สเทฺทน ปจฺจยปฎิเสวนสามนฺตชปฺปานํ คหณํ เวทิตพฺพํฯ มหานิเทฺทเส (มหานิ. ๘๗) หิ อิริยาปถสณฺฐปนปจฺจยปฎิเสวนสามนฺตชปฺปนวเสน ติวิธํ กุหกวตฺถุ อาคตํฯ ตตฺถ ปาปิจฺฉเสฺสว สโต สมฺภาวนาธิปฺปายกเตน อิริยาปเถน วิมฺหาปนํ อิริยาปถสณฺฐปนสงฺขาตํ กุหกวตฺถุฯ ตถา จีวราทีหิ นิมนฺติตสฺส ตทตฺถิกเสฺสว สโต ปาปิจฺฉตํ นิสฺสาย ปฎิเกฺขปเนน เต จ คหปติเก อตฺตนิ สุปฺปติฎฺฐิตสเทฺธ ญตฺวา ปุน เตสํ ‘‘อโห อโยฺย อปฺปิโจฺฉ, น กิญฺจิ ปฎิคฺคณฺหิตุํ อิจฺฉติ, สุลทฺธํ วต โน อสฺส, สเจ อปฺปมตฺตกมฺปิ กิญฺจิ ปฎิคฺคเณฺหยฺยา’’ติ นานาวิเธหิ อุปาเยหิ ปณีตานิ จีวราทีนิ อุปเนนฺตานํ ตทนุคฺคหกามตํเยว อาวิกตฺวา ปฎิคฺคหเณน จ ตโต ปภุติ อสีติสกฎภาเรหิ อุปนามนเหตุภูตํ วิมฺหาปนํ ปจฺจยปฎิเสวนสงฺขาตํ กุหกวตฺถูติ เวทิตพฺพํฯ ปาปิจฺฉเสฺสว ปน สโต อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาธิคมปริทีปนวาจาย ตถา ตถา วิมฺหาปนํ สามนฺตชปฺปนสงฺขาตํ กุหกวตฺถูติ เวทิตพฺพํฯ จิตฺตลปพฺพตาทิวิหาโร โลกสมฺมตเสนาสนํ นามฯ โลกสมฺมต …เป.… อุปาเยหิ สํวณฺณิยมานคุโณติ สมฺพโนฺธฯ ปริปาเจตุนฺติ ปริณาเมตุํฯ สุทฺธจิเตฺตน อตฺตโน คนฺถธุราทิกมฺมํ กตฺวา วิจรนฺตานํ ตมฺมูลกปจฺจยปริโภเค โทสาภาวํ ทเสฺสตุํ ‘‘เย ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ภิกฺขาจาเร อสมฺปชฺชมาเนติ โคจรคาเม ภิกฺขาย จริตฺวา ลภิตพฺพปิณฺฑปาเต อสมฺปชฺชเนฺตฯ เต จ วตฺตสีเสน สพฺพเมฺปตํ กโรนฺติ, น ลาภนิมิตฺตํฯ เตน วุตฺตํ ‘‘ตนฺติปเวณิฆฎนกา สาสนโชตกา’’ติฯ

    Iriyāpathasaṇṭhapanādīnīti ādi-saddena paccayapaṭisevanasāmantajappānaṃ gahaṇaṃ veditabbaṃ. Mahāniddese (mahāni. 87) hi iriyāpathasaṇṭhapanapaccayapaṭisevanasāmantajappanavasena tividhaṃ kuhakavatthu āgataṃ. Tattha pāpicchasseva sato sambhāvanādhippāyakatena iriyāpathena vimhāpanaṃ iriyāpathasaṇṭhapanasaṅkhātaṃ kuhakavatthu. Tathā cīvarādīhi nimantitassa tadatthikasseva sato pāpicchataṃ nissāya paṭikkhepanena te ca gahapatike attani suppatiṭṭhitasaddhe ñatvā puna tesaṃ ‘‘aho ayyo appiccho, na kiñci paṭiggaṇhituṃ icchati, suladdhaṃ vata no assa, sace appamattakampi kiñci paṭiggaṇheyyā’’ti nānāvidhehi upāyehi paṇītāni cīvarādīni upanentānaṃ tadanuggahakāmataṃyeva āvikatvā paṭiggahaṇena ca tato pabhuti asītisakaṭabhārehi upanāmanahetubhūtaṃ vimhāpanaṃ paccayapaṭisevanasaṅkhātaṃ kuhakavatthūti veditabbaṃ. Pāpicchasseva pana sato uttarimanussadhammādhigamaparidīpanavācāya tathā tathā vimhāpanaṃ sāmantajappanasaṅkhātaṃ kuhakavatthūti veditabbaṃ. Cittalapabbatādivihāro lokasammatasenāsanaṃ nāma. Lokasammata …pe… upāyehi saṃvaṇṇiyamānaguṇoti sambandho. Paripācetunti pariṇāmetuṃ. Suddhacittena attano ganthadhurādikammaṃ katvā vicarantānaṃ tammūlakapaccayaparibhoge dosābhāvaṃ dassetuṃ ‘‘ye panā’’tiādi vuttaṃ. Bhikkhācāre asampajjamāneti gocaragāme bhikkhāya caritvā labhitabbapiṇḍapāte asampajjante. Te ca vattasīsena sabbampetaṃ karonti, na lābhanimittaṃ. Tena vuttaṃ ‘‘tantipaveṇighaṭanakā sāsanajotakā’’ti.

    กิเจฺฉนาติ น ทุกฺขาย ปฎิปทายฯ พุทฺธานญฺหิ จตฺตาโรปิ มคฺคา สุขาปฎิปทาว โหนฺติ, ปารมีปูรณกาเล ปน สราคโทสโมหเสฺสว สโต อาคตานํ ยาจกานํ อลงฺกตปฺปฎิยตฺตํ สีสํ กนฺติตฺวา คลโลหิตํ นีหริตฺวา สุอญฺชิตานิ อกฺขีนิ อุปฺปาเฎตฺวา กุลวํสปฺปติฎฺฐาปกํ ปุตฺตํ มนาปจารินิํ ภริยนฺติ เอวมาทีนิ เทนฺตสฺส อญฺญานิปิ ขนฺติวาทีสทิเสสุ อตฺตภาเวสุ เฉชฺชเภชฺชาทีนิ ปาปุณนฺตสฺส อาคมนียปฎิปทํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํฯ กสิเรนาติ ตเสฺสว เววจนํฯ

    Kicchenāti na dukkhāya paṭipadāya. Buddhānañhi cattāropi maggā sukhāpaṭipadāva honti, pāramīpūraṇakāle pana sarāgadosamohasseva sato āgatānaṃ yācakānaṃ alaṅkatappaṭiyattaṃ sīsaṃ kantitvā galalohitaṃ nīharitvā suañjitāni akkhīni uppāṭetvā kulavaṃsappatiṭṭhāpakaṃ puttaṃ manāpacāriniṃ bhariyanti evamādīni dentassa aññānipi khantivādīsadisesu attabhāvesu chejjabhejjādīni pāpuṇantassa āgamanīyapaṭipadaṃ sandhāyetaṃ vuttaṃ. Kasirenāti tasseva vevacanaṃ.

    เอกเสฺสว ทาตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย ครุภาวโต ‘‘ครุภณฺฑานี’’ติ วุตฺตํ, สเพฺพสํ ภาเชตฺวาปิ คเหตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย ‘‘ครุปริกฺขารานี’’ติ วุตฺตํฯ สาธารณปริกฺขารภาเวนาติ สงฺฆิกตฺตา สพฺพภิกฺขุสาธารณปริกฺขารภาเวนฯ สงฺคณฺหาติ อุปลาเปตีติ อิทํ อเถยฺยจิตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํฯ เตเนวาห – ‘‘ตถาภาวโต เถเนตฺวา’’ติ, อวิสฺสชฺชิยอเวภงฺคิยภาวโต เถเนตฺวาติ อโตฺถฯ ครุภณฺฑญฺหิ กุลสงฺคหตฺถาย วิสฺสเชฺชโนฺต วิภชโนฺต จ ตสฺส อวิสฺสชฺชิยอวเอภงฺคิยภาวํ เถเนติฯ กุลทูสกทุกฺกฎํ อาปชฺชตีติ เอตฺถ ‘‘โย วิสฺสเชฺชยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา วิสฺสชฺชนปจฺจยา ถุลฺลจฺจเยนปิ น มุจฺจติฯ

    Ekasseva dātuṃ asakkuṇeyyatāya garubhāvato ‘‘garubhaṇḍānī’’ti vuttaṃ, sabbesaṃ bhājetvāpi gahetuṃ asakkuṇeyyatāya ‘‘garuparikkhārānī’’ti vuttaṃ. Sādhāraṇaparikkhārabhāvenāti saṅghikattā sabbabhikkhusādhāraṇaparikkhārabhāvena. Saṅgaṇhāti upalāpetīti idaṃ atheyyacittaṃ sandhāya vuttaṃ. Tenevāha – ‘‘tathābhāvato thenetvā’’ti, avissajjiyaavebhaṅgiyabhāvato thenetvāti attho. Garubhaṇḍañhi kulasaṅgahatthāya vissajjento vibhajanto ca tassa avissajjiyaavaebhaṅgiyabhāvaṃ theneti. Kuladūsakadukkaṭaṃ āpajjatīti ettha ‘‘yo vissajjeyya, āpatti thullaccayassā’’ti vuttattā vissajjanapaccayā thullaccayenapi na muccati.

    อสนฺตนฺติ อวิชฺชมานํฯ อภูตนฺติ อนุปฺปนฺนํฯ อนุปฺปนฺนตฺตา หิ ตสฺส ตํ อสนฺตนฺติฯ ปุริมสฺส ปจฺฉิมํ การณวจนํฯ อุลฺลปตีติ อุคฺคตายุโก ลปติฯ สีลญฺหิ ภิกฺขุโน อายุ, ตํ ตสฺส ตถาลปนสมกาลเมว วิคจฺฉติฯ อสนฺตสมฺภาวนายาติ อตฺตโน อวิชฺชมานคุเณหิ สมฺภาวนายฯ เอวญฺหิ คณฺหตา…เป.… เถเนตฺวา คหิตา โหนฺตีติ เอตฺถ อสนฺตสมฺภาวนาย รฎฺฐปิณฺฑสฺส เถเนตฺวา คหิตตฺตา โลกุตฺตรธโมฺมปิ เถนิโตเยว โหติฯ กิตวเสฺสวาติ กิตวสฺส สกุณคฺคหณมิวฯ เกราฎิกสฺสาติ สฐสฺสฯ โคตฺตํ วุจฺจติ สาธารณนามํ, มตฺต-สโทฺท ลุตฺตนิทฺทิโฎฺฐ, ตสฺมา สมณาติ โคตฺตมตฺตํ อนุภวนฺติ ธาเรนฺตีติ โคตฺรภุโน, นามมตฺตสมณาติ วุตฺตํ โหติฯ

    Asantanti avijjamānaṃ. Abhūtanti anuppannaṃ. Anuppannattā hi tassa taṃ asantanti. Purimassa pacchimaṃ kāraṇavacanaṃ. Ullapatīti uggatāyuko lapati. Sīlañhi bhikkhuno āyu, taṃ tassa tathālapanasamakālameva vigacchati. Asantasambhāvanāyāti attano avijjamānaguṇehi sambhāvanāya. Evañhi gaṇhatā…pe… thenetvā gahitā hontīti ettha asantasambhāvanāya raṭṭhapiṇḍassa thenetvā gahitattā lokuttaradhammopi thenitoyeva hoti. Kitavassevāti kitavassa sakuṇaggahaṇamiva. Kerāṭikassāti saṭhassa. Gottaṃ vuccati sādhāraṇanāmaṃ, matta-saddo luttaniddiṭṭho, tasmā samaṇāti gottamattaṃ anubhavanti dhārentīti gotrabhuno, nāmamattasamaṇāti vuttaṃ hoti.

    วคฺคุมุทาตีริยภิกฺขุวตฺถุวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Vaggumudātīriyabhikkhuvatthuvaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๔. จตุตฺถปาราชิกํ • 4. Catutthapārājikaṃ

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๔. จตุตฺถปาราชิกํ • 4. Catutthapārājikaṃ

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / วคฺคุมุทาตีริยภิกฺขุวตฺถุวณฺณนา • Vaggumudātīriyabhikkhuvatthuvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / วคฺคุมุทาตีริยภิกฺขุวตฺถุวณฺณนา • Vaggumudātīriyabhikkhuvatthuvaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact