Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรคาถา-อฎฺฐกถา • Theragāthā-aṭṭhakathā

    ๔. วลฺลิยเตฺถรคาถาวณฺณนา

    4. Valliyattheragāthāvaṇṇanā

    ยํ กิจฺจํ ทฬฺหวีริเยนาติอาทิกา อายสฺมโต วลฺลิยเตฺถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุเทฺธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุญฺญานิ อุปจินโนฺต สุเมธสฺส ภควโต กาเล พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วิญฺญุตํ ปโตฺต วิชฺชาสิเปฺปสุ นิปฺผตฺติํ คโต อสีติโกฎิวิภวํ ปหาย ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ปพฺพตปาเท อรญฺญายตเน เอกิสฺสา นทิยา ตีเร อสฺสมํ กาเรตฺวา วิหรโนฺต อตฺตโน อนุคฺคณฺหนตฺถํ อุปคตํ สตฺถารํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส อชินจมฺมํ ปตฺถริตฺวา อทาสิ ฯ ตตฺถ นิสินฺนํ ภควนฺตํ ปุเปฺผหิ จ จนฺทเนน จ ปูเชตฺวา อมฺพผลานิ ทตฺวา ปญฺจปติฎฺฐิเตน วนฺทิฯ ตสฺส ภควา นิสินฺนาสนสมฺปตฺติํ ปกาเสโนฺต อนุโมทนํ วตฺวา ปกฺกามิฯ โส เตน ปุญฺญกเมฺมน เทวมนุเสฺสสุ สํสรโนฺต อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท เวสาลิยํ พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา ‘‘กณฺหมิโตฺต’’ติ ลทฺธนาโม วยปฺปโตฺต สตฺถุ เวสาลิคมเน พุทฺธานุภาวํ ทิสฺวา ปฎิลทฺธสโทฺธ มหากจฺจานเตฺถรสฺส สนฺติเก ปพฺพชิฯ โส มนฺทปโญฺญ ทนฺธปรกฺกโม จ หุตฺวา จิรํ กาลํ วิญฺญุํ สพฺรหฺมจาริํ นิสฺสาเยว วสติฯ ภิกฺขู ‘‘ยถา นาม วลฺลิ รุกฺขาทีสุ กิญฺจิ อนิสฺสาย วฑฺฒิตุํ น สโกฺกติ, เอวมยมฺปิ กญฺจิ ปณฺฑิตํ อนิสฺสาย วฑฺฒิตุํ น สโกฺกตี’’ติ วลฺลิโยเตฺวว สมุทาจริํสุฯ อปรภาเค ปน เวณุทตฺตเตฺถรํ อุปสงฺกมิตฺวา ตสฺส โอวาเท ฐตฺวา สโต สมฺปชาโน หุตฺวา วิหรโนฺต ญาณสฺส ปริปากํ คตตฺตา ปฎิปตฺติกฺกมํ เถรํ ปุจฺฉโนฺต –

    Yaṃkiccaṃ daḷhavīriyenātiādikā āyasmato valliyattherassa gāthā. Kā uppatti? Ayampi purimabuddhesu katādhikāro tattha tattha bhave puññāni upacinanto sumedhassa bhagavato kāle brāhmaṇakule nibbattitvā viññutaṃ patto vijjāsippesu nipphattiṃ gato asītikoṭivibhavaṃ pahāya tāpasapabbajjaṃ pabbajitvā pabbatapāde araññāyatane ekissā nadiyā tīre assamaṃ kāretvā viharanto attano anuggaṇhanatthaṃ upagataṃ satthāraṃ disvā pasannamānaso ajinacammaṃ pattharitvā adāsi . Tattha nisinnaṃ bhagavantaṃ pupphehi ca candanena ca pūjetvā ambaphalāni datvā pañcapatiṭṭhitena vandi. Tassa bhagavā nisinnāsanasampattiṃ pakāsento anumodanaṃ vatvā pakkāmi. So tena puññakammena devamanussesu saṃsaranto imasmiṃ buddhuppāde vesāliyaṃ brāhmaṇakule nibbattitvā ‘‘kaṇhamitto’’ti laddhanāmo vayappatto satthu vesāligamane buddhānubhāvaṃ disvā paṭiladdhasaddho mahākaccānattherassa santike pabbaji. So mandapañño dandhaparakkamo ca hutvā ciraṃ kālaṃ viññuṃ sabrahmacāriṃ nissāyeva vasati. Bhikkhū ‘‘yathā nāma valli rukkhādīsu kiñci anissāya vaḍḍhituṃ na sakkoti, evamayampi kañci paṇḍitaṃ anissāya vaḍḍhituṃ na sakkotī’’ti valliyotveva samudācariṃsu. Aparabhāge pana veṇudattattheraṃ upasaṅkamitvā tassa ovāde ṭhatvā sato sampajāno hutvā viharanto ñāṇassa paripākaṃ gatattā paṭipattikkamaṃ theraṃ pucchanto –

    ๑๖๗.

    167.

    ‘‘ยํ กิจฺจํ ทฬฺหวีริเยน, ยํ กิจฺจํ โพทฺธุมิจฺฉตา;

    ‘‘Yaṃ kiccaṃ daḷhavīriyena, yaṃ kiccaṃ boddhumicchatā;

    กริสฺสํ นาวรชฺฌิสฺสํ, ปสฺส วีริยํ ปรกฺกมํฯ

    Karissaṃ nāvarajjhissaṃ, passa vīriyaṃ parakkamaṃ.

    ๑๖๘.

    168.

    ‘‘ตฺวญฺจ เม มคฺคมกฺขาหิ, อญฺชสํ อมโตคธํ;

    ‘‘Tvañca me maggamakkhāhi, añjasaṃ amatogadhaṃ;

    อหํ โมเนน โมนิสฺสํ, คงฺคาโสโตว สาคร’’นฺติฯ – คาถาทฺวยํ อภาสิ;

    Ahaṃ monena monissaṃ, gaṅgāsotova sāgara’’nti. – gāthādvayaṃ abhāsi;

    ตตฺถ ยํ กิจฺจํ ทฬฺหวีริเยนาติ ทเฬฺหน วีริเยน ถิเรน ปรกฺกเมน, ทฬฺหวีริเยน วา ปุริสโธรเยฺหน ยํ กิจฺจํ กาตพฺพํ ปฎิปชฺชิตพฺพํฯ ยํ กิจฺจํ โพทฺธุมิจฺฉตาติ จตฺตาริ อริยสจฺจานิ นิพฺพานเมว วา โพทฺธุํ พุชฺฌิตุํ อิจฺฉเนฺตน ปฎิวิชฺฌิตุกาเมน ยํ กิจฺจํ กรณียํฯ กริสฺสํ นาวรชฺฌิสฺสนฺติ ตมหํ ทานิ กริสฺสํ น วิราเธสฺสํ, ยถานุสิฎฺฐํ ปฎิปชฺชิสฺสามิฯ ปสฺส วีริยํ ปรกฺกมนฺติ ยถา ปฎิปชฺชมาเน ธเมฺม วิธินา อีรณโต ‘‘วีริยํ’’, ปรํ ปรํ ฐานํ อกฺกมนโต ‘‘ปรกฺกโม’’ติ จ ลทฺธนามํ สมฺมาวายามํ ปสฺส น สทฺธเมวาติ อตฺตโน กตฺตุกามตํ ทเสฺสติฯ

    Tattha yaṃ kiccaṃ daḷhavīriyenāti daḷhena vīriyena thirena parakkamena, daḷhavīriyena vā purisadhorayhena yaṃ kiccaṃ kātabbaṃ paṭipajjitabbaṃ. Yaṃ kiccaṃ boddhumicchatāti cattāri ariyasaccāni nibbānameva vā boddhuṃ bujjhituṃ icchantena paṭivijjhitukāmena yaṃ kiccaṃ karaṇīyaṃ. Karissaṃ nāvarajjhissanti tamahaṃ dāni karissaṃ na virādhessaṃ, yathānusiṭṭhaṃ paṭipajjissāmi. Passa vīriyaṃ parakkamanti yathā paṭipajjamāne dhamme vidhinā īraṇato ‘‘vīriyaṃ’’, paraṃ paraṃ ṭhānaṃ akkamanato ‘‘parakkamo’’ti ca laddhanāmaṃ sammāvāyāmaṃ passa na saddhamevāti attano kattukāmataṃ dasseti.

    ตฺวญฺจาติ กมฺมฎฺฐานทายกํ กลฺยาณมิตฺตํ อาลปติฯ เมติ มยฺหํฯ มคฺคมกฺขาหีติ อริยมคฺคํ กเถหิ, โลกุตฺตรมคฺคสมฺปาปกํ จตุสจฺจกมฺมฎฺฐานํ กเถหีติ อโตฺถฯ อญฺชสนฺติ อุชุกํ มชฺฌิมปฎิปทาภาเวน อนฺตทฺวยสฺส อนุปคมนโตฯ อมเต นิพฺพาเน สมฺปาปกภาเวน ปติฎฺฐิตตฺตา อมโตคธํฯ โมเนนาติ ญาเณน มคฺคปญฺญายฯ โมนิสฺสนฺติ ชานิสฺสํ นิพฺพานํ ปฎิวิชฺฌิสฺสํ ปาปุณิสฺสํฯ คงฺคาโสโตว สาครนฺติ ยถา คงฺคาย โสโต สาครํ สมุทฺทํ อวิรชฺฌโนฺต เอกํสโต โอคาหติ, เอวํ ‘‘อหํ กมฺมฎฺฐานํ อนุยุญฺชโนฺต มคฺคญาเณน นิพฺพานํ อธิคมิสฺสามิ, ตสฺมา ตํ กมฺมฎฺฐานํ เม อาจิกฺขถา’’ติ เถรํ กมฺมฎฺฐานํ ยาจิฯ

    Tvañcāti kammaṭṭhānadāyakaṃ kalyāṇamittaṃ ālapati. Meti mayhaṃ. Maggamakkhāhīti ariyamaggaṃ kathehi, lokuttaramaggasampāpakaṃ catusaccakammaṭṭhānaṃ kathehīti attho. Añjasanti ujukaṃ majjhimapaṭipadābhāvena antadvayassa anupagamanato. Amate nibbāne sampāpakabhāvena patiṭṭhitattā amatogadhaṃ. Monenāti ñāṇena maggapaññāya. Monissanti jānissaṃ nibbānaṃ paṭivijjhissaṃ pāpuṇissaṃ. Gaṅgāsotova sāgaranti yathā gaṅgāya soto sāgaraṃ samuddaṃ avirajjhanto ekaṃsato ogāhati, evaṃ ‘‘ahaṃ kammaṭṭhānaṃ anuyuñjanto maggañāṇena nibbānaṃ adhigamissāmi, tasmā taṃ kammaṭṭhānaṃ me ācikkhathā’’ti theraṃ kammaṭṭhānaṃ yāci.

    ตํ สุตฺวา เวณุทตฺตเตฺถโร ตสฺส กมฺมฎฺฐานํ อทาสิฯ โสปิ กมฺมฎฺฐานํ อนุยุญฺชโนฺต นจิรเสฺสว วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๔๙.๗๕-๑๐๕) –

    Taṃ sutvā veṇudattatthero tassa kammaṭṭhānaṃ adāsi. Sopi kammaṭṭhānaṃ anuyuñjanto nacirasseva vipassanaṃ ussukkāpetvā arahattaṃ pāpuṇi. Tena vuttaṃ apadāne (apa. thera 2.49.75-105) –

    ‘‘ปญฺจ กามคุเณ หิตฺวา, ปิยรูเป มโนรเม;

    ‘‘Pañca kāmaguṇe hitvā, piyarūpe manorame;

    อสีติ โกฎิโย หิตฺวา, ปพฺพชิํ อนคาริยํฯ

    Asīti koṭiyo hitvā, pabbajiṃ anagāriyaṃ.

    ‘‘ปพฺพชิตฺวาน กาเยน, ปาปกมฺมํ วิวชฺชยิํ;

    ‘‘Pabbajitvāna kāyena, pāpakammaṃ vivajjayiṃ;

    วจีทุจฺจริตํ หิตฺวา, นทีกูเล วสามหํฯ

    Vacīduccaritaṃ hitvā, nadīkūle vasāmahaṃ.

    ‘‘เอกกํ มํ วิหรนฺตํ, พุทฺธเสโฎฺฐ อุปาคมิ;

    ‘‘Ekakaṃ maṃ viharantaṃ, buddhaseṭṭho upāgami;

    นาหํ ชานามิ พุโทฺธติ, อกาสิํ ปฎิสนฺถารํฯ

    Nāhaṃ jānāmi buddhoti, akāsiṃ paṭisanthāraṃ.

    ‘‘กริตฺวา ปฎิสนฺถารํ, นามโคตฺตมปุจฺฉหํ;

    ‘‘Karitvā paṭisanthāraṃ, nāmagottamapucchahaṃ;

    เทวตานุสิ คนฺธโพฺพ, อทุ สโกฺก ปุรินฺทโทฯ

    Devatānusi gandhabbo, adu sakko purindado.

    ‘‘โก วา ตฺวํ กสฺส วา ปุโตฺต, มหาพฺรหฺมา อิธาคโต;

    ‘‘Ko vā tvaṃ kassa vā putto, mahābrahmā idhāgato;

    วิโรเจสิ ทิสา สพฺพา, อุทยํ สูริโย ยถาฯ

    Virocesi disā sabbā, udayaṃ sūriyo yathā.

    ‘‘สหสฺสารานิ จกฺกานิ, ปาเท ทิสฺสนฺติ มาริส;

    ‘‘Sahassārāni cakkāni, pāde dissanti mārisa;

    โก วา ตฺวํ กสฺส วา ปุโตฺต, กถํ ชาเนมุ ตํ มยํฯ

    Ko vā tvaṃ kassa vā putto, kathaṃ jānemu taṃ mayaṃ.

    ‘‘นามโคตฺตํ ปเวเทหิ, สํสยํ อปเนหิ เม;

    ‘‘Nāmagottaṃ pavedehi, saṃsayaṃ apanehi me;

    นมฺหิ เทวา น คนฺธโพฺพ, นมฺหิ สโกฺก ปุรินฺทโทฯ

    Namhi devā na gandhabbo, namhi sakko purindado.

    ‘‘พฺรหฺมภาโว จ เม นตฺถิ, เอเตสํ อุตฺตโม อหํ;

    ‘‘Brahmabhāvo ca me natthi, etesaṃ uttamo ahaṃ;

    อตีโต วิสยํ เตสํ, ทาลยิํ กามพนฺธนํฯ

    Atīto visayaṃ tesaṃ, dālayiṃ kāmabandhanaṃ.

    ‘‘สเพฺพ กิเลเส ฌาเปตฺวา, ปโตฺต สโมฺพธิมุตฺตมํ;

    ‘‘Sabbe kilese jhāpetvā, patto sambodhimuttamaṃ;

    ตสฺส วาจํ สุณิตฺวาหํ, อิทํ วจนมพฺรวิํฯ

    Tassa vācaṃ suṇitvāhaṃ, idaṃ vacanamabraviṃ.

    ‘‘ยทิ พุโทฺธสิ สพฺพญฺญู, นิสีท ตฺวํ มหามุเน;

    ‘‘Yadi buddhosi sabbaññū, nisīda tvaṃ mahāmune;

    ตมหํ ปูชยิสฺสามิ, ทุกฺขสฺสนฺตกโร ตุวํฯ

    Tamahaṃ pūjayissāmi, dukkhassantakaro tuvaṃ.

    ‘‘ปตฺถริตฺวาชินจมฺมํ , อทาสิ สตฺถุโน อหํ;

    ‘‘Pattharitvājinacammaṃ , adāsi satthuno ahaṃ;

    นิสีทิ ตตฺถ ภควา, สีโหว คิริคพฺภเรฯ

    Nisīdi tattha bhagavā, sīhova girigabbhare.

    ‘‘ขิปฺปํ ปพฺพตมารุยฺห, อมฺพสฺส ผลมคฺคหิํ;

    ‘‘Khippaṃ pabbatamāruyha, ambassa phalamaggahiṃ;

    สาลกลฺยาณิกํ ปุปฺผํ, จนฺทนญฺจ มหารหํฯ

    Sālakalyāṇikaṃ pupphaṃ, candanañca mahārahaṃ.

    ‘‘ขิปฺปํ ปคฺคยฺห ตํ สพฺพํ, อุเปตฺวา โลกนายกํ;

    ‘‘Khippaṃ paggayha taṃ sabbaṃ, upetvā lokanāyakaṃ;

    ผลํ พุทฺธสฺส ทตฺวาน, สาลปุปฺผมปูชยิํฯ

    Phalaṃ buddhassa datvāna, sālapupphamapūjayiṃ.

    ‘‘จนฺทนํ อนุลิมฺปิตฺวา, อวนฺทิํ สตฺถุโน อหํ;

    ‘‘Candanaṃ anulimpitvā, avandiṃ satthuno ahaṃ;

    ปสนฺนจิโตฺต สุมโน, วิปุลาย จ ปีติยาฯ

    Pasannacitto sumano, vipulāya ca pītiyā.

    ‘‘อชินมฺหิ นิสีทิตฺวา, สุเมโธ โลกนายโก;

    ‘‘Ajinamhi nisīditvā, sumedho lokanāyako;

    มม กมฺมํ ปกิเตฺตสิ, หาสยโนฺต มมํ ตทาฯ

    Mama kammaṃ pakittesi, hāsayanto mamaṃ tadā.

    ‘‘อิมินา ผลทาเนน, คนฺธมาเลหิ จูภยํ;

    ‘‘Iminā phaladānena, gandhamālehi cūbhayaṃ;

    ปญฺจวีเส กปฺปสเต, เทวโลเก รมิสฺสติฯ

    Pañcavīse kappasate, devaloke ramissati.

    ‘‘อนูนมนสงฺกโปฺป, วสวตฺตี ภวิสฺสติ;

    ‘‘Anūnamanasaṅkappo, vasavattī bhavissati;

    ฉพฺพีสติกปฺปสเต, มนุสฺสตฺตํ คมิสฺสติฯ

    Chabbīsatikappasate, manussattaṃ gamissati.

    ‘‘ภวิสฺสติ จกฺกวตฺตี, จาตุรโนฺต มหิทฺธิโก;

    ‘‘Bhavissati cakkavattī, cāturanto mahiddhiko;

    เวภารํ นาม นครํ, วิสฺสกเมฺมน มาปิตํฯ

    Vebhāraṃ nāma nagaraṃ, vissakammena māpitaṃ.

    ‘‘เหสฺสติ สพฺพโสวณฺณํ, นานารตนภูสิตํ;

    ‘‘Hessati sabbasovaṇṇaṃ, nānāratanabhūsitaṃ;

    เอเตเนว อุปาเยน, สํสริสฺสติ โส ภเวฯ

    Eteneva upāyena, saṃsarissati so bhave.

    ‘‘สพฺพตฺถ ปูชิโต หุตฺวา, เทวเตฺต อถ มานุเส;

    ‘‘Sabbattha pūjito hutvā, devatte atha mānuse;

    ปจฺฉิเม ภเว สมฺปเตฺต, พฺรหฺมพนฺธุ ภวิสฺสติฯ

    Pacchime bhave sampatte, brahmabandhu bhavissati.

    ‘‘อคารา อภินิกฺขมฺม, อนคารี ภวิสฺสติ;

    ‘‘Agārā abhinikkhamma, anagārī bhavissati;

    อภิญฺญาปารคู หุตฺวา, นิพฺพายิสฺสตินาสโวฯ

    Abhiññāpāragū hutvā, nibbāyissatināsavo.

    ‘‘อิทํ วตฺวาน สมฺพุโทฺธ, สุเมโธ โลกนายโก;

    ‘‘Idaṃ vatvāna sambuddho, sumedho lokanāyako;

    มม นิชฺฌายมานสฺส, ปกฺกามิ อนิลญฺชเสฯ

    Mama nijjhāyamānassa, pakkāmi anilañjase.

    ‘‘เตน กเมฺมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;

    ‘‘Tena kammena sukatena, cetanāpaṇidhīhi ca;

    ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวติํสมคจฺฉหํฯ

    Jahitvā mānusaṃ dehaṃ, tāvatiṃsamagacchahaṃ.

    ‘‘ตุสิตโต จวิตฺวาน, นิพฺพตฺติํ มาตุกุจฺฉิยํ;

    ‘‘Tusitato cavitvāna, nibbattiṃ mātukucchiyaṃ;

    โภเค เม อูนตา นตฺถิ, ยมฺหิ คเพฺภ วสามหํฯ

    Bhoge me ūnatā natthi, yamhi gabbhe vasāmahaṃ.

    ‘‘มาตุกุจฺฉิคเต มยิ, อนฺนปานญฺจ โภชนํ;

    ‘‘Mātukucchigate mayi, annapānañca bhojanaṃ;

    มาตุยา มม ฉเนฺทน, นิพฺพตฺตติ ยทิจฺฉกํฯ

    Mātuyā mama chandena, nibbattati yadicchakaṃ.

    ‘‘ชาติยา ปญฺจวเสฺสน, ปพฺพชิํ อนคาริยํ;

    ‘‘Jātiyā pañcavassena, pabbajiṃ anagāriyaṃ;

    โอโรปิตมฺหิ เกสมฺหิ, อรหตฺตมปาปุณิํฯ

    Oropitamhi kesamhi, arahattamapāpuṇiṃ.

    ‘‘ปุพฺพกมฺมํ คเวสโนฺต, โอเรน นาทฺทสํ อหํ;

    ‘‘Pubbakammaṃ gavesanto, orena nāddasaṃ ahaṃ;

    ติํสกปฺปสหสฺสมฺหิ, มม กมฺมมนุสฺสริํฯ

    Tiṃsakappasahassamhi, mama kammamanussariṃ.

    ‘‘นโม เต ปุริสาชญฺญ, นโม เต ปุริสุตฺตม;

    ‘‘Namo te purisājañña, namo te purisuttama;

    ตว สาสนมาคมฺม, ปโตฺตมฺหิ อจลํ ปทํฯ

    Tava sāsanamāgamma, pattomhi acalaṃ padaṃ.

    ‘‘ติํสกปฺปสหสฺสมฺหิ, ยํ พุทฺธมภิปูชยิํ;

    ‘‘Tiṃsakappasahassamhi, yaṃ buddhamabhipūjayiṃ;

    ทุคฺคติํ นาภิชานามิ, พุทฺธปูชายิทํ ผลํฯ

    Duggatiṃ nābhijānāmi, buddhapūjāyidaṃ phalaṃ.

    ‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ

    ‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ…pe… kataṃ buddhassa sāsana’’nti.

    อรหตฺตํ ปน ปตฺวา อญฺญํ พฺยากโรโนฺต เถโร อิมาเยว คาถา อภาสีติฯ

    Arahattaṃ pana patvā aññaṃ byākaronto thero imāyeva gāthā abhāsīti.

    วลฺลิยเตฺถรคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Valliyattheragāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรคาถาปาฬิ • Theragāthāpāḷi / ๔. วลฺลิยเตฺถรคาถา • 4. Valliyattheragāthā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact