Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā |
[๑๘๓] ๓. วาโลทกชาตกวณฺณนา
[183] 3. Vālodakajātakavaṇṇanā
วาโลทกํ อปฺปรสํ นิหีนนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรโนฺต ปญฺจสเต วิฆาสาเท อารพฺภ กเถสิฯ สาวตฺถิยํ กิร ปญฺจสตา อุปาสกา ฆราวาสปลิโพธํ ปุตฺตทารสฺส นิยฺยาเทตฺวา สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุณนฺตา เอกโตว วิจรนฺติฯ เตสุ เกจิ โสตาปนฺนา, เกจิ สกทาคามิโน, เกจิ อนาคามิโน, เอโกปิ ปุถุชฺชโน นาม นตฺถิ, สตฺถารํ นิมเนฺตนฺตาปิ เต อุปาสเก อโนฺตกริตฺวาว นิมเนฺตนฺติฯ เตสํ ปน ทนฺตกฎฺฐมุโขทกวตฺถคนฺธมาลทายกา ปญฺจสตา จูฬุปฎฺฐากา วิฆาสาทา หุตฺวา วสนฺติฯ เต ภุตฺตปาตราสา นิทฺทายิตฺวา อุฎฺฐาย อจิรวติํ คนฺตฺวา นทีตีเร อุนฺนทนฺตา มลฺลยุทฺธํ ยุชฺฌนฺติฯ เต ปน ปญฺจสตา อุปาสกา อปฺปสทฺทา อปฺปนิโคฺฆสา ปฎิสลฺลานมนุยุญฺชนฺติฯ สตฺถา เตสํ วิฆาสาทานํ อุจฺจาสทฺทํ สุตฺวา ‘‘กิํ เอโส, อานนฺท, สโทฺท’’ติ เถรํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘วิฆาสาทสโทฺท, ภเนฺต’’ติ วุเตฺต ‘‘น โข, อานนฺท, อิเม วิฆาสาทา อิทาเนว วิฆาสํ ขาทิตฺวา อุนฺนทนฺติ, ปุเพฺพปิ อุนฺนทนฺติเยว, อิเมปิ อุปาสกา น อิทาเนว สนฺนิสินฺนา, ปุเพฺพปิ สนฺนิสินฺนาเยวา’’ติ วตฺวา เถเรน ยาจิโต อตีตํ อาหริฯ
Vālodakaṃapparasaṃ nihīnanti idaṃ satthā jetavane viharanto pañcasate vighāsāde ārabbha kathesi. Sāvatthiyaṃ kira pañcasatā upāsakā gharāvāsapalibodhaṃ puttadārassa niyyādetvā satthu dhammadesanaṃ suṇantā ekatova vicaranti. Tesu keci sotāpannā, keci sakadāgāmino, keci anāgāmino, ekopi puthujjano nāma natthi, satthāraṃ nimantentāpi te upāsake antokaritvāva nimantenti. Tesaṃ pana dantakaṭṭhamukhodakavatthagandhamāladāyakā pañcasatā cūḷupaṭṭhākā vighāsādā hutvā vasanti. Te bhuttapātarāsā niddāyitvā uṭṭhāya aciravatiṃ gantvā nadītīre unnadantā mallayuddhaṃ yujjhanti. Te pana pañcasatā upāsakā appasaddā appanigghosā paṭisallānamanuyuñjanti. Satthā tesaṃ vighāsādānaṃ uccāsaddaṃ sutvā ‘‘kiṃ eso, ānanda, saddo’’ti theraṃ pucchitvā ‘‘vighāsādasaddo, bhante’’ti vutte ‘‘na kho, ānanda, ime vighāsādā idāneva vighāsaṃ khāditvā unnadanti, pubbepi unnadantiyeva, imepi upāsakā na idāneva sannisinnā, pubbepi sannisinnāyevā’’ti vatvā therena yācito atītaṃ āhari.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทเตฺต รชฺชํ กาเรเนฺต โพธิสโตฺต อมจฺจกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปโตฺต รโญฺญ อตฺถธมฺมานุสาสโก อโหสิฯ อเถกสฺมิํ กาเล โส ราชา ‘‘ปจฺจโนฺต กุปิโต’’ติ สุตฺวา ปญฺจสเต สินฺธเว กปฺปาเปตฺวา จตุรงฺคินิยา เสนาย คนฺตฺวา ปจฺจนฺตํ วูปสเมตฺวา พาราณสิเมว ปจฺจาคนฺตฺวา ‘‘สินฺธวา กิลนฺตา อลฺลรสเมว เนสํ มุทฺทิกปานํ เทถา’’ติ อาณาเปสิฯ สินฺธวา คนฺธปานํ ปิวิตฺวา อสฺสสาลํ คนฺตฺวา อตฺตโน อตฺตโน ฐาเนสุ อฎฺฐํสุฯ เตสํ ปน ทินฺนาวสิฎฺฐกํ อปฺปรสํ พหุกสฎํ อโหสิฯ มนุสฺสา ‘‘อิทํ กิํ กโรมา’’ติ ราชานํ ปุจฺฉิํสุฯ ราชา อุทเกน มทฺทิตฺวา มกจิปิโลติกาหิ ปริสฺสาเวตฺวา ‘‘เย คทฺรภา สินฺธวานํ นิวาปํ ปหิํสุ, เตสํ ทาเปถา’’ติ ทาเปสิฯ คทฺรภา กสฎอุทกํ ปิวิตฺวา มตฺตา หุตฺวา วิรวนฺตา ราชงฺคเณ วิจริํสุฯ ราชา มหาวาตปานํ วิวริตฺวา ราชงฺคณํ โอโลกยมาโน สมีเป ฐิตํ โพธิสตฺตํ อามเนฺตตฺวา ‘‘ปสฺส, อิเม คทฺรภา กสโฎทกํ ปิวิตฺวา มตฺตา หุตฺวา วิรวนฺตา อุปฺปตนฺตา วิจรนฺติ, สินฺธวกุเล ชาตสินฺธวา ปน คนฺธปานํ ปิวิตฺวา นิสฺสทฺทา สนฺนิสินฺนา น อุปฺปิลวนฺติ, กิํ นุ โข การณ’’นฺติ ปุจฺฉโนฺต ปฐมํ คาถมาห –
Atīte bārāṇasiyaṃ brahmadatte rajjaṃ kārente bodhisatto amaccakule nibbattitvā vayappatto rañño atthadhammānusāsako ahosi. Athekasmiṃ kāle so rājā ‘‘paccanto kupito’’ti sutvā pañcasate sindhave kappāpetvā caturaṅginiyā senāya gantvā paccantaṃ vūpasametvā bārāṇasimeva paccāgantvā ‘‘sindhavā kilantā allarasameva nesaṃ muddikapānaṃ dethā’’ti āṇāpesi. Sindhavā gandhapānaṃ pivitvā assasālaṃ gantvā attano attano ṭhānesu aṭṭhaṃsu. Tesaṃ pana dinnāvasiṭṭhakaṃ apparasaṃ bahukasaṭaṃ ahosi. Manussā ‘‘idaṃ kiṃ karomā’’ti rājānaṃ pucchiṃsu. Rājā udakena madditvā makacipilotikāhi parissāvetvā ‘‘ye gadrabhā sindhavānaṃ nivāpaṃ pahiṃsu, tesaṃ dāpethā’’ti dāpesi. Gadrabhā kasaṭaudakaṃ pivitvā mattā hutvā viravantā rājaṅgaṇe vicariṃsu. Rājā mahāvātapānaṃ vivaritvā rājaṅgaṇaṃ olokayamāno samīpe ṭhitaṃ bodhisattaṃ āmantetvā ‘‘passa, ime gadrabhā kasaṭodakaṃ pivitvā mattā hutvā viravantā uppatantā vicaranti, sindhavakule jātasindhavā pana gandhapānaṃ pivitvā nissaddā sannisinnā na uppilavanti, kiṃ nu kho kāraṇa’’nti pucchanto paṭhamaṃ gāthamāha –
๖๕.
65.
‘‘วาโลทกํ อปฺปรสํ นิหีนํ, ปิตฺวา มโท ชายติ คทฺรภานํ;
‘‘Vālodakaṃ apparasaṃ nihīnaṃ, pitvā mado jāyati gadrabhānaṃ;
อิมญฺจ ปิตฺวาน รสํ ปณีตํ, มโท น สญฺชายติ สินฺธวาน’’นฺติฯ
Imañca pitvāna rasaṃ paṇītaṃ, mado na sañjāyati sindhavāna’’nti.
ตตฺถ วาโลทกนฺติ มกจิวาเลหิ ปริสฺสาวิตอุทกํฯ ‘‘วาลุทก’’นฺติปิ ปาโฐฯ นิหีนนฺติ นิหีนรสภาเวน นิหีนํฯ น สญฺชายตีติ สินฺธวานํ มโท น ชายติ, กิํ นุ โข การณนฺติ ปุจฺฉิฯ
Tattha vālodakanti makacivālehi parissāvitaudakaṃ. ‘‘Vāludaka’’ntipi pāṭho. Nihīnanti nihīnarasabhāvena nihīnaṃ. Na sañjāyatīti sindhavānaṃ mado na jāyati, kiṃ nu kho kāraṇanti pucchi.
อถสฺส การณํ อาจิกฺขโนฺต โพธิสโตฺต ทุติยํ คาถมาห –
Athassa kāraṇaṃ ācikkhanto bodhisatto dutiyaṃ gāthamāha –
๖๖.
66.
‘‘อปฺปํ ปิวิตฺวาน นิหีนชโจฺจ, โส มชฺชตี เตน ชนินฺท ปุโฎฺฐ;
‘‘Appaṃ pivitvāna nihīnajacco, so majjatī tena janinda puṭṭho;
โธรยฺหสีลี จ กุลมฺหิ ชาโต, น มชฺชตี อคฺครสํ ปิวิตฺวา’’ติฯ
Dhorayhasīlī ca kulamhi jāto, na majjatī aggarasaṃ pivitvā’’ti.
ตตฺถ เตน ชนินฺท ปุโฎฺฐติ ชนินฺท อุตฺตมราช โย นิหีนชโจฺจ, เตน นิหีนชจฺจภาเวน ปุโฎฺฐ มชฺชติ ปมชฺชติฯ โธรยฺหสีลีติ โธรยฺหสีโล ธุรวหนกอาจาเรน สมฺปโนฺน ชาติสินฺธโวฯ อคฺครสนฺติ สพฺพปฐมํ คหิตํ มุทฺทิกรสํ ปิวิตฺวาปิ น มชฺชติฯ
Tattha tena janinda puṭṭhoti janinda uttamarāja yo nihīnajacco, tena nihīnajaccabhāvena puṭṭho majjati pamajjati. Dhorayhasīlīti dhorayhasīlo dhuravahanakaācārena sampanno jātisindhavo. Aggarasanti sabbapaṭhamaṃ gahitaṃ muddikarasaṃ pivitvāpi na majjati.
ราชา โพธิสตฺตสฺส วจนํ สุตฺวา คทฺรเภ ราชงฺคณา นีหราเปตฺวา ตเสฺสว โอวาเท ฐิโต ทานาทีนิ ปุญฺญานิ กตฺวา ยถากมฺมํ คโตฯ
Rājā bodhisattassa vacanaṃ sutvā gadrabhe rājaṅgaṇā nīharāpetvā tasseva ovāde ṭhito dānādīni puññāni katvā yathākammaṃ gato.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ปญฺจสตา คทฺรภา อิเม วิฆาสาทา อเหสุํ, ปญฺจสตา สินฺธวา อิเม อุปาสกา, ราชา อานโนฺท, ปณฺฑิตามโจฺจ ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ
Satthā imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā jātakaṃ samodhānesi – ‘‘tadā pañcasatā gadrabhā ime vighāsādā ahesuṃ, pañcasatā sindhavā ime upāsakā, rājā ānando, paṇḍitāmacco pana ahameva ahosi’’nti.
วาโลทกชาตกวณฺณนา ตติยาฯ
Vālodakajātakavaṇṇanā tatiyā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๑๘๓. วาโลทกชาตกํ • 183. Vālodakajātakaṃ