Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā) |
๗. วนปตฺถปริยายสุตฺตวณฺณนา
7. Vanapatthapariyāyasuttavaṇṇanā
๑๙๐. วนียติ วิเวกกาเมหิ ภชียติ, วนุเต วา เต อตฺตสมฺปตฺติยา วสนตฺถาย ยาจโนฺต วิย โหตีติ วนํ, ปติฎฺฐนฺติ เอตฺถ วิเวกกามา ยถาธิเปฺปตวิเสสาธิคเมนาติ ปตฺถํ, วเนสุ ปตฺถํ คหนฎฺฐาเน เสนาสนํ วนปตฺถํฯ ปริยายติ อตฺตโน ผลํ ปริคฺคเหตฺวา วตฺตตีติ ปริยาโย, การณนฺติ อาห ‘‘วนปตฺถปริยายนฺติ วนปตฺถการณ’’นฺติฯ วนปตฺถญฺหิ ตํ อุปนิสฺสาย วิหรโต อุปนิสฺสยการณํฯ เตนาห ‘‘วนปตฺถํ อุปนิสฺสาย วิหรตี’’ติฯ ปริยายติ เทเสตพฺพมตฺถํ ปติฎฺฐเปตีติ ปริยาโย, เทสนาฯ วนปตฺถํ อารพฺภ ปวตฺตา เทสนา วนปตฺถเทสนา, ตํ, อุภยตฺถาปิ วนปตฺถคฺคหณํ ลกฺขณมตฺตํ คามาทีนเมฺปตฺถ การณภาวสฺส, เทสนาย วิสยภาวสฺส จ ลพฺภมานตฺตาฯ
190. Vanīyati vivekakāmehi bhajīyati, vanute vā te attasampattiyā vasanatthāya yācanto viya hotīti vanaṃ, patiṭṭhanti ettha vivekakāmā yathādhippetavisesādhigamenāti patthaṃ, vanesu patthaṃ gahanaṭṭhāne senāsanaṃ vanapatthaṃ. Pariyāyati attano phalaṃ pariggahetvā vattatīti pariyāyo, kāraṇanti āha ‘‘vanapatthapariyāyanti vanapatthakāraṇa’’nti. Vanapatthañhi taṃ upanissāya viharato upanissayakāraṇaṃ. Tenāha ‘‘vanapatthaṃ upanissāya viharatī’’ti. Pariyāyati desetabbamatthaṃ patiṭṭhapetīti pariyāyo, desanā. Vanapatthaṃ ārabbha pavattā desanā vanapatthadesanā, taṃ, ubhayatthāpi vanapatthaggahaṇaṃ lakkhaṇamattaṃ gāmādīnampettha kāraṇabhāvassa, desanāya visayabhāvassa ca labbhamānattā.
๑๙๑. นิสฺสายาติ อปสฺสาย, วิเวกวาสสฺส อปสฺสยํ กตฺวาติ อโตฺถฯ น อุปฎฺฐาตีติอาทีหิ ตสฺมิํ วนปเตฺถ เสนาสนสปฺปายาภาวํ, อุตุปุคฺคลธมฺมสฺสวนสปฺปายาภาวมฺปิ วา ทเสฺสติฯ ชีวิตสมฺภาราติ (อ. นิ. ฎี. ๓.๙.๖) ชีวิตปฺปวตฺติยา สมฺภารา ปจฺจยาฯ สมุทาเนตพฺพาติ สมฺมา ญาเยน อนวชฺชอุญฺฉาจริยาทินา อุทฺธํ อุทฺธํ อาเนตพฺพา ปาปุณิตพฺพาฯ เต ปน ตถา สมุทานิตา สมาหฎา นาม โหนฺตีติ อาห ‘‘สมาหริตพฺพา’’ติฯ ทุเกฺขน อุปฺปชฺชนฺตีติ สุลภุปฺปาทา น โหนฺติฯ เอเตน โภชนสปฺปายาทิอภาวํ ทเสฺสติฯ รตฺติภาคํ วา ทิวสภาคํ วาติ ภุมฺมเตฺถ อุปโยควจนนฺติ อาห ‘‘รตฺติโกฎฺฐาเส วา ทิวสโกฎฺฐาเส วา’’ติฯ รตฺติํเยว ปกฺกมิตพฺพํ สมณธมฺมสฺส ตตฺถ อนิปฺผชฺชนโตฯ
191.Nissāyāti apassāya, vivekavāsassa apassayaṃ katvāti attho. Na upaṭṭhātītiādīhi tasmiṃ vanapatthe senāsanasappāyābhāvaṃ, utupuggaladhammassavanasappāyābhāvampi vā dasseti. Jīvitasambhārāti (a. ni. ṭī. 3.9.6) jīvitappavattiyā sambhārā paccayā. Samudānetabbāti sammā ñāyena anavajjauñchācariyādinā uddhaṃ uddhaṃ ānetabbā pāpuṇitabbā. Te pana tathā samudānitā samāhaṭā nāma hontīti āha ‘‘samāharitabbā’’ti. Dukkhena uppajjantīti sulabhuppādā na honti. Etena bhojanasappāyādiabhāvaṃ dasseti. Rattibhāgaṃ vā divasabhāgaṃ vāti bhummatthe upayogavacananti āha ‘‘rattikoṭṭhāse vā divasakoṭṭhāse vā’’ti. Rattiṃyeva pakkamitabbaṃ samaṇadhammassa tattha anipphajjanato.
๑๙๒-๓. สงฺขาปีติ ‘‘ยทตฺถมหํ ปพฺพชิโต, น เมตํ อิธ นิปฺผชฺชติ, จีวราทิ ปน สมุทาคจฺฉติ, นาหํ ตทตฺถํ ปพฺพชิโต, กิํ เม อิธ วาเสนา’’ติ ปฎิสงฺขายปิฯ อนนฺตรวาเร สงฺขาปีติ ‘‘ยทตฺถมหํ ปพฺพชิโต, ตํ เม อิธ นิปฺผชฺชติ, จีวราทิ ปน น สมุทาคจฺฉติ, นาหํ ตทตฺถํ ปพฺพชิโต’’ติ ปฎิสงฺขายปีติ อโตฺถฯ เตนาห ‘‘สมณธมฺมสฺส นิปฺผชฺชนภาวํ ชานิตฺวา’’ติฯ
192-3.Saṅkhāpīti ‘‘yadatthamahaṃ pabbajito, na metaṃ idha nipphajjati, cīvarādi pana samudāgacchati, nāhaṃ tadatthaṃ pabbajito, kiṃ me idha vāsenā’’ti paṭisaṅkhāyapi. Anantaravāre saṅkhāpīti ‘‘yadatthamahaṃ pabbajito, taṃ me idha nipphajjati, cīvarādi pana na samudāgacchati, nāhaṃ tadatthaṃ pabbajito’’ti paṭisaṅkhāyapīti attho. Tenāha ‘‘samaṇadhammassa nipphajjanabhāvaṃ jānitvā’’ti.
๑๙๕-๗. โส ปุคฺคโล อนาปุจฺฉา ปกฺกมิตพฺพํ, นานุพนฺธิตโพฺพติ ‘‘โส ปุคฺคโล’’ติ ปทสฺส ‘‘นานุพนฺธิตโพฺพ’’ติ อิมินา สมฺพโนฺธฯ ยสฺส เยน หิ สมฺพโนฺธ, ทูรเฎฺฐนปิ โส ภวติ ฯ ตํ ปุคฺคลนฺติ ‘‘โส ปุคฺคโล’’ติ ปจฺจตฺตวจนํ อุปโยควเสน ปริณาเมตฺวา ตํ ปุคฺคลํ อนาปุจฺฉา ปกฺกมิตพฺพนฺติ อโตฺถฯ อตฺถวเสน หิ วิภตฺติวิปริณาโมติฯ ตํ อาปุจฺฉา ปกฺกมิตพฺพนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโยฯ อาปุจฺฉา ปกฺกมิตพฺพนฺติ จ กตญฺญุตกตเวทิตาย นิโยชนํฯ
195-7.Sopuggalo anāpucchā pakkamitabbaṃ, nānubandhitabboti ‘‘so puggalo’’ti padassa ‘‘nānubandhitabbo’’ti iminā sambandho. Yassa yena hi sambandho, dūraṭṭhenapi so bhavati . Taṃ puggalanti ‘‘so puggalo’’ti paccattavacanaṃ upayogavasena pariṇāmetvā taṃ puggalaṃ anāpucchā pakkamitabbanti attho. Atthavasena hi vibhattivipariṇāmoti. Taṃ āpucchā pakkamitabbanti etthāpi eseva nayo. Āpucchā pakkamitabbanti ca kataññutakataveditāya niyojanaṃ.
๑๙๘. เอวรูโปติ ยํ นิสฺสาย ภิกฺขุโน คุเณหิ วุทฺธิเยว ปาฎิกงฺขา, ปจฺจเยหิ จ น ปริสฺสโม, เอวรูโป ทณฺฑกมฺมาทีหิ นิคฺคณฺหาติ เจปิ, น ปริจฺจชิตโพฺพติ ทเสฺสติ ‘‘สเจปี’’ติอาทินาฯ
198.Evarūpoti yaṃ nissāya bhikkhuno guṇehi vuddhiyeva pāṭikaṅkhā, paccayehi ca na parissamo, evarūpo daṇḍakammādīhi niggaṇhāti cepi, na pariccajitabboti dasseti ‘‘sacepī’’tiādinā.
วนปตฺถปริยายสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตาฯ
Vanapatthapariyāyasuttavaṇṇanāya līnatthappakāsanā samattā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya / ๗. วนปตฺถสุตฺตํ • 7. Vanapatthasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā) / ๗. วนปตฺถปริยายสุตฺตวณฺณนา • 7. Vanapatthapariyāyasuttavaṇṇanā