Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā |
[๓๔๒] ๒. วานรชาตกวณฺณนา
[342] 2. Vānarajātakavaṇṇanā
อสกฺขิํ วต อตฺตานนฺติ อิทํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรโนฺต เทวทตฺตสฺส วธาย ปริสกฺกนํ อารพฺภ กเถสิฯ วตฺถุ (ชา. อฎฺฐ. ๒.๒.สุสุมารชาตกวณฺณนา) เหฎฺฐา วิตฺถาริตเมวฯ
Asakkhiṃvata attānanti idaṃ satthā veḷuvane viharanto devadattassa vadhāya parisakkanaṃ ārabbha kathesi. Vatthu (jā. aṭṭha. 2.2.susumārajātakavaṇṇanā) heṭṭhā vitthāritameva.
อตีเต ปน พาราณสิยํ พฺรหฺมทเตฺต รชฺชํ กาเรเนฺต โพธิสโตฺต หิมวนฺตปเทเส กปิโยนิยํ นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปโตฺต คงฺคาตีเร วสิฯ อเถกา อโนฺตคงฺคายํ สํสุมารี โพธิสตฺตสฺส หทยมํเส โทหฬํ อุปฺปาเทตฺวา สํสุมารสฺส กเถสิฯ โส ‘‘ตํ กปิํ อุทเก นิมุชฺชาเปตฺวา มาเรตฺวา หทยมํสํ คเหตฺวา สํสุมาริยา ทสฺสามี’’ติ จิเนฺตตฺวา มหาสตฺตํ อาห – ‘‘เอหิ, สมฺม, อนฺตรทีปเก ผลาผเล ขาทิตุํ คจฺฉามา’’ติฯ ‘‘กถํ, สมฺม, อหํ คมิสฺสามี’’ติฯ ‘‘อหํ ตํ มม ปิฎฺฐิยํ นิสีทาเปตฺวา เนสฺสามี’’ติฯ โส ตสฺส จิตฺตํ อชานโนฺต ลงฺฆิตฺวา ปิฎฺฐิยํ นิสีทิฯ สํสุมาโร โถกํ คนฺตฺวา นิมุชฺชิตุํ อารภิฯ อถ นํ วานโร ‘‘กิํการณา, โภ, มํ อุทเก นิมุชฺชาเปสี’’ติ อาหฯ ‘‘อหํ ตํ มาเรตฺวา ตว หทยมํสํ มม ภริยาย ทสฺสามี’’ติฯ ‘‘ทนฺธ ตฺวํ มม หทยมํสํ อุเร อตฺถีติ มญฺญสี’’ติ? ‘‘อถ กหํ เต ฐปิต’’นฺติ? ‘‘เอตํ อุทุมฺพเร โอลมฺพนฺตํ น ปสฺสสี’’ติ? ‘‘ปสฺสามิ, ทสฺสสิ ปน เม’’ติฯ ‘‘อาม, ทสฺสามี’’ติฯ สํสุมาโร ทนฺธตาย ตํ คเหตฺวา นทีตีเร อุทุมฺพรมูลํ คโตฯ โพธิสโตฺต ตสฺส ปิฎฺฐิโต ลงฺฆิตฺวา อุทุมฺพรรุเกฺข นิสิโนฺน อิมา คาถา อภาสิ –
Atīte pana bārāṇasiyaṃ brahmadatte rajjaṃ kārente bodhisatto himavantapadese kapiyoniyaṃ nibbattitvā vayappatto gaṅgātīre vasi. Athekā antogaṅgāyaṃ saṃsumārī bodhisattassa hadayamaṃse dohaḷaṃ uppādetvā saṃsumārassa kathesi. So ‘‘taṃ kapiṃ udake nimujjāpetvā māretvā hadayamaṃsaṃ gahetvā saṃsumāriyā dassāmī’’ti cintetvā mahāsattaṃ āha – ‘‘ehi, samma, antaradīpake phalāphale khādituṃ gacchāmā’’ti. ‘‘Kathaṃ, samma, ahaṃ gamissāmī’’ti. ‘‘Ahaṃ taṃ mama piṭṭhiyaṃ nisīdāpetvā nessāmī’’ti. So tassa cittaṃ ajānanto laṅghitvā piṭṭhiyaṃ nisīdi. Saṃsumāro thokaṃ gantvā nimujjituṃ ārabhi. Atha naṃ vānaro ‘‘kiṃkāraṇā, bho, maṃ udake nimujjāpesī’’ti āha. ‘‘Ahaṃ taṃ māretvā tava hadayamaṃsaṃ mama bhariyāya dassāmī’’ti. ‘‘Dandha tvaṃ mama hadayamaṃsaṃ ure atthīti maññasī’’ti? ‘‘Atha kahaṃ te ṭhapita’’nti? ‘‘Etaṃ udumbare olambantaṃ na passasī’’ti? ‘‘Passāmi, dassasi pana me’’ti. ‘‘Āma, dassāmī’’ti. Saṃsumāro dandhatāya taṃ gahetvā nadītīre udumbaramūlaṃ gato. Bodhisatto tassa piṭṭhito laṅghitvā udumbararukkhe nisinno imā gāthā abhāsi –
๑๖๑.
161.
‘‘อสกฺขิํ วต อตฺตานํ, อุทฺธาตุํ อุทกา ถลํ;
‘‘Asakkhiṃ vata attānaṃ, uddhātuṃ udakā thalaṃ;
น ทานาหํ ปุน ตุยฺหํ, วสํ คจฺฉามิ วาริชฯ
Na dānāhaṃ puna tuyhaṃ, vasaṃ gacchāmi vārija.
๑๖๒.
162.
‘‘อลเมเตหิ อเมฺพหิ, ชมฺพูหิ ปนเสหิ จ;
‘‘Alametehi ambehi, jambūhi panasehi ca;
ยานิ ปารํ สมุทฺทสฺส, วรํ มยฺหํ อุทุมฺพโรฯ
Yāni pāraṃ samuddassa, varaṃ mayhaṃ udumbaro.
๑๖๓.
163.
‘‘โย จ อุปฺปติตํ อตฺถํ, น ขิปฺปมนุพุชฺฌติ;
‘‘Yo ca uppatitaṃ atthaṃ, na khippamanubujjhati;
อมิตฺตวสมเนฺวติ, ปจฺฉา จ อนุตปฺปติฯ
Amittavasamanveti, pacchā ca anutappati.
๑๖๔.
164.
‘‘โย จ อุปฺปติตํ อตฺถํ, ขิปฺปเมว นิโพธติ;
‘‘Yo ca uppatitaṃ atthaṃ, khippameva nibodhati;
มุจฺจเต สตฺตุสมฺพาธา, น จ ปจฺฉานุตปฺปตี’’ติฯ
Muccate sattusambādhā, na ca pacchānutappatī’’ti.
ตตฺถ อสกฺขิํ วตาติ สมโตฺถ วต อโหสิํฯ อุทฺธาตุนฺติ อุทฺธริตุํฯ วาริชาติ สํสุมารํ อาลปติฯ ยานิ ปารํ สมุทฺทสฺสาติ คงฺคํ สมุทฺทนาเมนาลปโนฺต ‘‘ยานิ สมุทฺทสฺส ปารํ คนฺตฺวา ขาทิตพฺพานิ, อลํ เตหี’’ติ วทติฯ ปจฺฉา จ อนุตปฺปตีติ อุปฺปนฺนํ อตฺถํ ขิปฺปํ อชานโนฺต อมิตฺตวสํ คจฺฉติ, ปจฺฉา จ อนุตปฺปติฯ
Tattha asakkhiṃ vatāti samattho vata ahosiṃ. Uddhātunti uddharituṃ. Vārijāti saṃsumāraṃ ālapati. Yāni pāraṃ samuddassāti gaṅgaṃ samuddanāmenālapanto ‘‘yāni samuddassa pāraṃ gantvā khāditabbāni, alaṃ tehī’’ti vadati. Pacchā ca anutappatīti uppannaṃ atthaṃ khippaṃ ajānanto amittavasaṃ gacchati, pacchā ca anutappati.
อิติ โส จตูหิ คาถาหิ โลกิยกิจฺจานํ นิปฺผตฺติการณํ กเถตฺวา วนสณฺฑเมว ปาวิสิฯ
Iti so catūhi gāthāhi lokiyakiccānaṃ nipphattikāraṇaṃ kathetvā vanasaṇḍameva pāvisi.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา สํสุมาโร เทวทโตฺต อโหสิ, วานโร ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ
Satthā imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā jātakaṃ samodhānesi – ‘‘tadā saṃsumāro devadatto ahosi, vānaro pana ahameva ahosi’’nti.
วานรชาตกวณฺณนา ทุติยาฯ
Vānarajātakavaṇṇanā dutiyā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๓๔๒. วานรชาตกํ • 342. Vānarajātakaṃ