Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรคาถา-อฎฺฐกถา • Theragāthā-aṭṭhakathā

    ๑๐. วสภเตฺถรคาถาวณฺณนา

    10. Vasabhattheragāthāvaṇṇanā

    ปุเพฺพ หนติ อตฺตานนฺติ อายสฺมโต วสภเตฺถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุเทฺธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุญฺญานิ อุปจินโนฺต พุทฺธสุเญฺญ โลเก พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปโตฺต พฺราหฺมณานํ วิชฺชาสิเปฺปสุ นิปฺผตฺติํ คนฺตฺวา เนกฺขมฺมชฺฌาสยตาย ฆราวาสํ ปหาย ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา จุทฺทสสหสฺสตาปสปริวาโร หิมวนฺตสฺส อวิทูเร สมเคฺค นาม ปพฺพเต อสฺสมํ กาเรตฺวา วสโนฺต ฌานาภิญฺญาโย นิพฺพเตฺตตฺวา ตาปสานํ โอวาทานุสาสนิโย เทโนฺต เอกทิวสํ เอวํ จิเนฺตสิ – ‘‘อหํ โข ทานิ อิเมหิ ตาปเสหิ สกฺกโต ครุกโต ปูชิโต วิหรามิ, มยา ปน ปูเชตโพฺพ น อุปลพฺภติ, ทุโกฺข โข ปนายํ โลเก ยทิทํ อครุวาโส’’ติฯ เอวํ ปน จิเนฺตตฺวา ปุริมพุเทฺธสุ กตาธิการตาย ปุริมพุทฺธานํ เจติเย อตฺตนา กตํ ปูชาสกฺการํ อนุสฺสริตฺวา ‘‘ยํนูนาหํ ปุริมพุเทฺธ อุทฺทิสฺส ปุลินเจติยํ กตฺวา ปูชํ กเรยฺย’’นฺติ หฎฺฐตุโฎฺฐ อิทฺธิยา ปุลินถูปํ สุวณฺณมยํ มาเปตฺวา สุวณฺณมยาทีหิ ติสหสฺสมเตฺตหิ ปุเปฺผหิ เทวสิกํ ปูชํ กโรโนฺต ยาวตายุกํ ปุญฺญานิ กตฺวา อปริหีนชฺฌาโน กาลํ กตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพโตฺตฯ ตตฺถปิ ยาวตายุกํ ฐตฺวา ตโต จุโต ตาวติํเส นิพฺพตฺติตฺวา อปราปรํ เทวมนุเสฺสสุ สํสรโนฺต อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท เวสาลิยํ ลิจฺฉวิราชกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วสโภติ ลทฺธนาโม วยปฺปโตฺต ภควโต เวสาลิคมเน พุทฺธานุภาวํ ทิสฺวา ปฎิลทฺธสโทฺธ ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนํ ปฎฺฐเปตฺวา นจิรเสฺสว อรหตฺตํ ปาปุณิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๕๐.๕๗-๙๒) –

    Pubbe hanati attānanti āyasmato vasabhattherassa gāthā. Kā uppatti? Ayampi purimabuddhesu katādhikāro tattha tattha bhave puññāni upacinanto buddhasuññe loke brāhmaṇakule nibbattitvā vayappatto brāhmaṇānaṃ vijjāsippesu nipphattiṃ gantvā nekkhammajjhāsayatāya gharāvāsaṃ pahāya tāpasapabbajjaṃ pabbajitvā cuddasasahassatāpasaparivāro himavantassa avidūre samagge nāma pabbate assamaṃ kāretvā vasanto jhānābhiññāyo nibbattetvā tāpasānaṃ ovādānusāsaniyo dento ekadivasaṃ evaṃ cintesi – ‘‘ahaṃ kho dāni imehi tāpasehi sakkato garukato pūjito viharāmi, mayā pana pūjetabbo na upalabbhati, dukkho kho panāyaṃ loke yadidaṃ agaruvāso’’ti. Evaṃ pana cintetvā purimabuddhesu katādhikāratāya purimabuddhānaṃ cetiye attanā kataṃ pūjāsakkāraṃ anussaritvā ‘‘yaṃnūnāhaṃ purimabuddhe uddissa pulinacetiyaṃ katvā pūjaṃ kareyya’’nti haṭṭhatuṭṭho iddhiyā pulinathūpaṃ suvaṇṇamayaṃ māpetvā suvaṇṇamayādīhi tisahassamattehi pupphehi devasikaṃ pūjaṃ karonto yāvatāyukaṃ puññāni katvā aparihīnajjhāno kālaṃ katvā brahmaloke nibbatto. Tatthapi yāvatāyukaṃ ṭhatvā tato cuto tāvatiṃse nibbattitvā aparāparaṃ devamanussesu saṃsaranto imasmiṃ buddhuppāde vesāliyaṃ licchavirājakule nibbattitvā vasabhoti laddhanāmo vayappatto bhagavato vesāligamane buddhānubhāvaṃ disvā paṭiladdhasaddho pabbajitvā vipassanaṃ paṭṭhapetvā nacirasseva arahattaṃ pāpuṇi. Tena vuttaṃ apadāne (apa. thera 2.50.57-92) –

    ‘‘หิมวนฺตสฺสาวิทูเร, สมโคฺค นาม ปพฺพโต;

    ‘‘Himavantassāvidūre, samaggo nāma pabbato;

    อสฺสโม สุกโต มยฺหํ, ปณฺณสาลา สุมาปิตาฯ

    Assamo sukato mayhaṃ, paṇṇasālā sumāpitā.

    ‘‘นารโท นาม นาเมน, ชฎิโล อุคฺคตาปโน;

    ‘‘Nārado nāma nāmena, jaṭilo uggatāpano;

    จตุทฺทสสหสฺสานิ, สิสฺสา ปริจรนฺติ มํฯ

    Catuddasasahassāni, sissā paricaranti maṃ.

    ‘‘ปฎิสลฺลีนโก สโนฺต, เอวํ จิเนฺตสหํ ตทา;

    ‘‘Paṭisallīnako santo, evaṃ cintesahaṃ tadā;

    สโพฺพ ชโน มํ ปูเชติ, นาหํ ปูเชมิ กิญฺจนํฯ

    Sabbo jano maṃ pūjeti, nāhaṃ pūjemi kiñcanaṃ.

    ‘‘น เม โอวาทโก อตฺถิ, วตฺตา โกจิ น วิชฺชติ;

    ‘‘Na me ovādako atthi, vattā koci na vijjati;

    อนาจริยุปชฺฌาโย, วเน วาสํ อุเปมหํฯ

    Anācariyupajjhāyo, vane vāsaṃ upemahaṃ.

    ‘‘อุปาสมาโน ยมหํ, ครุจิตฺตํ อุปฎฺฐเห;

    ‘‘Upāsamāno yamahaṃ, garucittaṃ upaṭṭhahe;

    โส เม อาจริโย นตฺถิ, วนวาโส นิรตฺถโกฯ

    So me ācariyo natthi, vanavāso niratthako.

    ‘‘อายาคํ เม คเวสิสฺสํ, ครุํ ภาวนิยํ ตถา;

    ‘‘Āyāgaṃ me gavesissaṃ, garuṃ bhāvaniyaṃ tathā;

    สาวสฺสโย วสิสฺสามิ, น โกจิ ครหิสฺสติฯ

    Sāvassayo vasissāmi, na koci garahissati.

    ‘‘อุตฺตานกูลา นทิกา, สุปติตฺถา มโนรมา;

    ‘‘Uttānakūlā nadikā, supatitthā manoramā;

    สํสุทฺธปุลินากิณฺณา, อวิทูเร มมสฺสมํฯ

    Saṃsuddhapulinākiṇṇā, avidūre mamassamaṃ.

    ‘‘นทิํ อมริกํ นาม, อุปคนฺตฺวานหํ ตทา;

    ‘‘Nadiṃ amarikaṃ nāma, upagantvānahaṃ tadā;

    สํวฑฺฒยิตฺวา ปุลินํ, อกํ ปุลินเจติยํฯ

    Saṃvaḍḍhayitvā pulinaṃ, akaṃ pulinacetiyaṃ.

    ‘‘เย เต อเหสุํ สมฺพุทฺธา, ภวนฺตกรณา มุนี;

    ‘‘Ye te ahesuṃ sambuddhā, bhavantakaraṇā munī;

    เตสํ เอตาทิโส ถูโป, ตํ นิมิตฺตํ กโรมหํฯ

    Tesaṃ etādiso thūpo, taṃ nimittaṃ karomahaṃ.

    ‘‘กริตฺวา ปุลินํ ถูปํ, โสวณฺณํ มาปยิํ อหํ;

    ‘‘Karitvā pulinaṃ thūpaṃ, sovaṇṇaṃ māpayiṃ ahaṃ;

    โสณฺณกิงฺกณิปุปฺผานิ, สหเสฺส ตีณิ ปูชยิํฯ

    Soṇṇakiṅkaṇipupphāni, sahasse tīṇi pūjayiṃ.

    ‘‘สายปาตํ นมสฺสามิ, เวทชาโต กตญฺชลี;

    ‘‘Sāyapātaṃ namassāmi, vedajāto katañjalī;

    สมฺมุขา วิย สมฺพุทฺธํ, วนฺทิํ ปุลินเจติยํฯ

    Sammukhā viya sambuddhaṃ, vandiṃ pulinacetiyaṃ.

    ‘‘ยทา กิเลสา ชายนฺติ, วิตกฺกา เคหนิสฺสิตา;

    ‘‘Yadā kilesā jāyanti, vitakkā gehanissitā;

    สรามิ สุกตํ ถูปํ, ปจฺจเวกฺขามิ ตาวเทฯ

    Sarāmi sukataṃ thūpaṃ, paccavekkhāmi tāvade.

    ‘‘อุปนิสฺสาย วิหรํ, สตฺถวาหํ วินายกํ;

    ‘‘Upanissāya viharaṃ, satthavāhaṃ vināyakaṃ;

    กิเลเส สํวเสยฺยาสิ, น ยุตฺตํ ตว มาริสฯ

    Kilese saṃvaseyyāsi, na yuttaṃ tava mārisa.

    ‘‘สห อาวชฺชิเต ถูเป, คารวํ โหติ เม ตทา;

    ‘‘Saha āvajjite thūpe, gāravaṃ hoti me tadā;

    กุวิตเกฺก วิโนเทสิํ, นาโค ตุตฺตฎฺฎิโต ยถาฯ

    Kuvitakke vinodesiṃ, nāgo tuttaṭṭito yathā.

    ‘‘เอวํ วิหรมานํ มํ, มจฺจุราชาภิมทฺทถ;

    ‘‘Evaṃ viharamānaṃ maṃ, maccurājābhimaddatha;

    ตตฺถ กาลงฺกโต สโนฺต, พฺรหฺมโลกมคจฺฉหํฯ

    Tattha kālaṅkato santo, brahmalokamagacchahaṃ.

    ‘‘ยาวตายุํ วสิตฺวาน, ติทิเว อุปปชฺชหํ;

    ‘‘Yāvatāyuṃ vasitvāna, tidive upapajjahaṃ;

    อสีติกฺขตฺตุํ เทวิโนฺท, เทวรชฺชมการยิํฯ

    Asītikkhattuṃ devindo, devarajjamakārayiṃ.

    ‘‘สตานํ ตีณิกฺขตฺตุญฺจ, จกฺกวตฺตี อโหสหํ;

    ‘‘Satānaṃ tīṇikkhattuñca, cakkavattī ahosahaṃ;

    ปเทสรชฺชํ วิปุลํ, คณนาโต อสงฺขิยํฯ

    Padesarajjaṃ vipulaṃ, gaṇanāto asaṅkhiyaṃ.

    ‘‘โสณฺณกิงฺกณิปุปฺผานํ, วิปากํ อนุโภมหํ;

    ‘‘Soṇṇakiṅkaṇipupphānaṃ, vipākaṃ anubhomahaṃ;

    ธาตีสตสหสฺสานิ, ปริวาเรนฺติ มํ ภเวฯ

    Dhātīsatasahassāni, parivārenti maṃ bhave.

    ‘‘ถูปสฺส ปริจิณฺณตฺตา, รโชชลฺลํ น ลิมฺปติ;

    ‘‘Thūpassa pariciṇṇattā, rajojallaṃ na limpati;

    คเตฺต เสทา น มุจฺจนฺติ, สุปฺปภาโส ภวามหํฯ

    Gatte sedā na muccanti, suppabhāso bhavāmahaṃ.

    ‘‘อโห เม สุกโต ถูโป, สุทิฎฺฐามริกา นที;

    ‘‘Aho me sukato thūpo, sudiṭṭhāmarikā nadī;

    ถูปํ กตฺวาน ปุลินํ, ปโตฺตมฺหิ อจลํ ปทํฯ

    Thūpaṃ katvāna pulinaṃ, pattomhi acalaṃ padaṃ.

    ‘‘กุสลํ กตฺตุกาเมน, ชนฺตุนา สารคาหินา;

    ‘‘Kusalaṃ kattukāmena, jantunā sāragāhinā;

    นตฺถิ เขตฺตํ อเขตฺตํ วา, ปฎิปตฺตีว สาธกาฯ

    Natthi khettaṃ akhettaṃ vā, paṭipattīva sādhakā.

    ‘‘ยถาปิ พลวา โปโส, อณฺณวํตริตุสฺสเห;

    ‘‘Yathāpi balavā poso, aṇṇavaṃtaritussahe;

    ปริตฺตํ กฎฺฐมาทาย, ปกฺขเนฺทยฺย มหาสรํฯ

    Parittaṃ kaṭṭhamādāya, pakkhandeyya mahāsaraṃ.

    ‘‘อิมาหํ กฎฺฐํ นิสฺสาย, ตริสฺสามิ มโหทธิํ;

    ‘‘Imāhaṃ kaṭṭhaṃ nissāya, tarissāmi mahodadhiṃ;

    อุสฺสาเหน วีริเยน, ตเรยฺย อุทธิํ นโรฯ

    Ussāhena vīriyena, tareyya udadhiṃ naro.

    ‘‘ตเถว เม กตํ กมฺมํ, ปริตฺตํ โถกกญฺจ ยํ;

    ‘‘Tatheva me kataṃ kammaṃ, parittaṃ thokakañca yaṃ;

    ตํ กมฺมํ อุปนิสฺสาย, สํสารํ สมติกฺกมิํฯ

    Taṃ kammaṃ upanissāya, saṃsāraṃ samatikkamiṃ.

    ‘‘ปจฺฉิเม ภเว สมฺปเตฺต, สุกฺกมูเลน โจทิโต;

    ‘‘Pacchime bhave sampatte, sukkamūlena codito;

    สาวตฺถิยํ ปุเร ชาโต, มหาสาเล สุอฑฺฒเกฯ

    Sāvatthiyaṃ pure jāto, mahāsāle suaḍḍhake.

    ‘‘สทฺธา มาตา ปิตา มยฺหํ, พุทฺธสฺส สรณํ คตา;

    ‘‘Saddhā mātā pitā mayhaṃ, buddhassa saraṇaṃ gatā;

    อุโภ ทิฎฺฐปทา เอเต, อนุวตฺตนฺติ สาสนํฯ

    Ubho diṭṭhapadā ete, anuvattanti sāsanaṃ.

    ‘‘โพธิปปฎิกํ คยฺห, โสณฺณถูปมการยุํ;

    ‘‘Bodhipapaṭikaṃ gayha, soṇṇathūpamakārayuṃ;

    สายปาตํ นมสฺสนฺติ, สกฺยปุตฺตสฺส สมฺมุขาฯ

    Sāyapātaṃ namassanti, sakyaputtassa sammukhā.

    ‘‘อุโปสถมฺหิ ทิวเส, โสณฺณถูปํ วินีหรุํ;

    ‘‘Uposathamhi divase, soṇṇathūpaṃ vinīharuṃ;

    พุทฺธสฺส วณฺณํ กิเตฺตนฺตา, ติยามํ วีตินามยุํฯ

    Buddhassa vaṇṇaṃ kittentā, tiyāmaṃ vītināmayuṃ.

    ‘‘สห ทิสฺวานหํ ถูปํ, สริํ ปุลินเจติยํ;

    ‘‘Saha disvānahaṃ thūpaṃ, sariṃ pulinacetiyaṃ;

    เอกาสเน นิสีทิตฺวา, อรหตฺตมปาปุณิํฯ

    Ekāsane nisīditvā, arahattamapāpuṇiṃ.

    ‘‘คเวสมาโน ตํ วีรํ, ธมฺมเสนาปติทฺทสํ;

    ‘‘Gavesamāno taṃ vīraṃ, dhammasenāpatiddasaṃ;

    อคารา นิกฺขมิตฺวาน, ปพฺพชิํ ตสฺส สนฺติเกฯ

    Agārā nikkhamitvāna, pabbajiṃ tassa santike.

    ‘‘ชาติยา สตฺตวเสฺสน, อรหตฺตมปาปุณิํ;

    ‘‘Jātiyā sattavassena, arahattamapāpuṇiṃ;

    อุปสมฺปาทยี พุโทฺธ, คุณมญฺญาย จกฺขุมาฯ

    Upasampādayī buddho, guṇamaññāya cakkhumā.

    ‘‘ทารเกเนว สเนฺตน, กิริยํ นิฎฺฐิตํ มยา;

    ‘‘Dārakeneva santena, kiriyaṃ niṭṭhitaṃ mayā;

    กตํ เม กรณียชฺช, สกฺยปุตฺตสฺส สาสเนฯ

    Kataṃ me karaṇīyajja, sakyaputtassa sāsane.

    ‘‘สพฺพเวรภยาตีโต, สพฺพสงฺคาติโค อิสิ;

    ‘‘Sabbaverabhayātīto, sabbasaṅgātigo isi;

    สาวโก เต มหาวีร, โสณฺณถูปสฺสิทํ ผลํฯ

    Sāvako te mahāvīra, soṇṇathūpassidaṃ phalaṃ.

    ‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ

    ‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ…pe… kataṃ buddhassa sāsana’’nti.

    อรหตฺตํ ปน ปตฺวา ทายกานุคฺคหํ กโรโนฺต เตหิ อุปนีเต ปจฺจเย น ปฎิกฺขิปติ, ยถาลเทฺธเยว ปริภุญฺชติฯ ตํ ปุถุชฺชนา ‘‘อยํ กายทฬฺหิพหุโล อรกฺขิตจิโตฺต’’ติ มญฺญมานา อวมญฺญนฺติฯ เถโร ตํ อคเณโนฺตว วิหรติฯ ตสฺส ปน อวิทูเร อญฺญตโร กุหกภิกฺขุ ปาปิโจฺฉ สมาโน อปฺปิโจฺฉ วิย สนฺตุโฎฺฐ วิย อตฺตานํ ทเสฺสโนฺต โลกํ วเญฺจโนฺต วิหรติฯ มหาชโน ตํ อรหนฺตํ วิย สมฺภาเวติฯ อถสฺส สโกฺก เทวานมิโนฺท ตํ ปวตฺติํ ญตฺวา เถรํ อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘ภเนฺต, กิํ นาม กุหโก กโรตี’’ติ ปุจฺฉิฯ เถโร ปาปิจฺฉํ ครหโนฺต –

    Arahattaṃ pana patvā dāyakānuggahaṃ karonto tehi upanīte paccaye na paṭikkhipati, yathāladdheyeva paribhuñjati. Taṃ puthujjanā ‘‘ayaṃ kāyadaḷhibahulo arakkhitacitto’’ti maññamānā avamaññanti. Thero taṃ agaṇentova viharati. Tassa pana avidūre aññataro kuhakabhikkhu pāpiccho samāno appiccho viya santuṭṭho viya attānaṃ dassento lokaṃ vañcento viharati. Mahājano taṃ arahantaṃ viya sambhāveti. Athassa sakko devānamindo taṃ pavattiṃ ñatvā theraṃ upasaṅkamitvā, ‘‘bhante, kiṃ nāma kuhako karotī’’ti pucchi. Thero pāpicchaṃ garahanto –

    ๑๓๙.

    139.

    ‘‘ปุเพฺพ หนติ อตฺตานํ, ปจฺฉา หนติ โส ปเร;

    ‘‘Pubbe hanati attānaṃ, pacchā hanati so pare;

    สุหตํ หนฺติ อตฺตานํ, วีตํเสเนว ปกฺขิมาฯ

    Suhataṃ hanti attānaṃ, vītaṃseneva pakkhimā.

    ๑๔๐.

    140.

    ‘‘น พฺราหฺมโณ พหิวโณฺณ, อโนฺตวโณฺณ หิ พฺราหฺมโณ;

    ‘‘Na brāhmaṇo bahivaṇṇo, antovaṇṇo hi brāhmaṇo;

    ยสฺมิํ ปาปานิ กมฺมานิ, ส เว กโณฺห สุชมฺปตี’’ติฯ – คาถาทฺวยมาห;

    Yasmiṃ pāpāni kammāni, sa ve kaṇho sujampatī’’ti. – gāthādvayamāha;

    ตตฺถ ปุเพฺพ หนติ อตฺตานนฺติ กุหกปุคฺคโล อตฺตโน กุหกวุตฺติยา โลกํ วเญฺจโนฺต ปาปิจฺฉตาทีหิ ปาปธเมฺมหิ ปฐมเมว อตฺตานํ หนติ, อตฺตโน กุสลโกฎฺฐาสํ วินาเสติฯ ปจฺฉา หนติ โส ปเรติ โส กุหโก ปฐมํ ตาว วุตฺตนเยน อตฺตานํ หนฺตฺวา ปจฺฉา ปเร เยหิ ‘‘อยํ ภิกฺขุ เปสโล อริโย’’ติ วา สมฺภาเวเนฺตหิ การา กตา, เต หนติ เตสํ การานิ อตฺตนิ กตานิ อมหปฺผลานิ กตฺวา ปจฺจยวินาสเนน วินาเสติฯ สติปิ กุหกสฺส อุภยหนเน อตฺตหนเน ปน อยํ วิเสโสติ ทเสฺสโนฺต อาห สุหตํ หนฺติ อตฺตานนฺติฯ โส กุหโก อตฺตานํ หนโนฺต สุหตํ กตฺวา หนฺติ วินาเสติ, ยถา กิํ? วีตํเสเนว ปกฺขิมาติ, วีตํโสติ ทีปกสกุโณ, เตนฯ ปกฺขิมาติ สากุณิโกฯ ยถา เตน วีตํสสกุเณน อเญฺญ สกุเณ วเญฺจตฺวา หนโนฺต อตฺตานํ อิธ โลเกปิ หนติ วิญฺญุครหสาวชฺชสภาวาทินา, สมฺปรายํ ปน ทุคฺคติปริกฺกิเลเสน หนติเยว, น ปน เต สกุเณ ปจฺฉา หนฺตุํ สโกฺกติ, เอวํ กุหโกปิ โกหเญฺญน โลกํ วเญฺจตฺวา อิธ โลเกปิ อตฺตานํ หนติ วิปฺปฎิสารวิญฺญุครหาทีหิ, ปรโลเกปิ ทุคฺคติปริกฺกิเลเสหิ, น ปน เต ปจฺจยทายเก อปายทุกฺขํ ปาเปติฯ อปิจ กุหโก ทกฺขิณาย อมหปฺผลภาวกรเณเนว ทายกํ หนตีติ วุโตฺต, น นิปฺผลภาวกรเณนฯ วุตฺตเญฺหตํ ภควตา – ‘‘ทุสฺสีลสฺส มนุสฺสภูตสฺส ทานํ ทตฺวา สหสฺสคุณา ทกฺขิณา ปาฎิกงฺขิตพฺพา’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๗๙)ฯ เตนาห ‘‘สุหตํ หนฺติ อตฺตาน’’นฺติฯ

    Tattha pubbe hanati attānanti kuhakapuggalo attano kuhakavuttiyā lokaṃ vañcento pāpicchatādīhi pāpadhammehi paṭhamameva attānaṃ hanati, attano kusalakoṭṭhāsaṃ vināseti. Pacchā hanati so pareti so kuhako paṭhamaṃ tāva vuttanayena attānaṃ hantvā pacchā pare yehi ‘‘ayaṃ bhikkhu pesalo ariyo’’ti vā sambhāventehi kārā katā, te hanati tesaṃ kārāni attani katāni amahapphalāni katvā paccayavināsanena vināseti. Satipi kuhakassa ubhayahanane attahanane pana ayaṃ visesoti dassento āha suhataṃ hanti attānanti. So kuhako attānaṃ hananto suhataṃ katvā hanti vināseti, yathā kiṃ? Vītaṃseneva pakkhimāti, vītaṃsoti dīpakasakuṇo, tena. Pakkhimāti sākuṇiko. Yathā tena vītaṃsasakuṇena aññe sakuṇe vañcetvā hananto attānaṃ idha lokepi hanati viññugarahasāvajjasabhāvādinā, samparāyaṃ pana duggatiparikkilesena hanatiyeva, na pana te sakuṇe pacchā hantuṃ sakkoti, evaṃ kuhakopi kohaññena lokaṃ vañcetvā idha lokepi attānaṃ hanati vippaṭisāraviññugarahādīhi, paralokepi duggatiparikkilesehi, na pana te paccayadāyake apāyadukkhaṃ pāpeti. Apica kuhako dakkhiṇāya amahapphalabhāvakaraṇeneva dāyakaṃ hanatīti vutto, na nipphalabhāvakaraṇena. Vuttañhetaṃ bhagavatā – ‘‘dussīlassa manussabhūtassa dānaṃ datvā sahassaguṇā dakkhiṇā pāṭikaṅkhitabbā’’ti (ma. ni. 3.379). Tenāha ‘‘suhataṃ hanti attāna’’nti.

    เอวํ พาหิรปริมชฺชนมเตฺต ฐิตา ปุคฺคลา สุทฺธา นาม น โหนฺติ, อพฺภนฺตรสุทฺธิยา เอว ปน สุทฺธา โหนฺตีติ ทเสฺสโนฺต ‘‘น พฺราหฺมโณ’’ติ ทุติยํ คาถมาหฯ ตสฺสโตฺถ – อิริยาปถสณฺฐปนาทิพหิสมฺปตฺติมเตฺตน พฺราหฺมโณ น โหติฯ สมฺปตฺติอโตฺถ หิ อิธ วณฺณ-สโทฺทฯ อพฺภนฺตเร ปน สีลาทิสมฺปตฺติยา พฺราหฺมโณ โหติ, ‘‘พาหิตปาโป พฺราหฺมโณ’’ติ กตฺวาฯ ตสฺมา ‘‘ยสฺมิํ ปาปานิ ลามกานิ กมฺมานิ สํวิชฺชนฺติ, เอกํเสน โส กโณฺห นิหีนปุคฺคโล’’ติ สุชมฺปติ, เทวานมินฺท, ชานาหิฯ ตํ สุตฺวา สโกฺก กุหกภิกฺขุํ ตเชฺชตฺวา ‘‘ธเมฺม วตฺตาหี’’ติ โอวทิตฺวา สกฎฺฐานเมว คโตฯ

    Evaṃ bāhiraparimajjanamatte ṭhitā puggalā suddhā nāma na honti, abbhantarasuddhiyā eva pana suddhā hontīti dassento ‘‘na brāhmaṇo’’ti dutiyaṃ gāthamāha. Tassattho – iriyāpathasaṇṭhapanādibahisampattimattena brāhmaṇo na hoti. Sampattiattho hi idha vaṇṇa-saddo. Abbhantare pana sīlādisampattiyā brāhmaṇo hoti, ‘‘bāhitapāpo brāhmaṇo’’ti katvā. Tasmā ‘‘yasmiṃ pāpāni lāmakāni kammāni saṃvijjanti, ekaṃsena so kaṇho nihīnapuggalo’’ti sujampati, devānaminda, jānāhi. Taṃ sutvā sakko kuhakabhikkhuṃ tajjetvā ‘‘dhamme vattāhī’’ti ovaditvā sakaṭṭhānameva gato.

    วสภเตฺถรคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Vasabhattheragāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.

    ทุกนิปาเต ปฐมวคฺควณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Dukanipāte paṭhamavaggavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรคาถาปาฬิ • Theragāthāpāḷi / ๑๐. วสภเตฺถรคาถา • 10. Vasabhattheragāthā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact