Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya

    ๘. วาเสฎฺฐสุตฺตํ

    8. Vāseṭṭhasuttaṃ

    ๔๕๔. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา อิจฺฉานงฺคเล 1 วิหรติ อิจฺฉานงฺคลวนสเณฺฑฯ เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา อภิญฺญาตา อภิญฺญาตา พฺราหฺมณมหาสาลา อิจฺฉานงฺคเล ปฎิวสนฺติ, เสยฺยถิทํ – จงฺกี พฺราหฺมโณ, ตารุโกฺข พฺราหฺมโณ, โปกฺขรสาติ พฺราหฺมโณ, ชาณุโสฺสณิ 2 พฺราหฺมโณ, โตเทโยฺย พฺราหฺมโณ, อเญฺญ จ อภิญฺญาตา อภิญฺญาตา พฺราหฺมณมหาสาลาฯ อถ โข วาเสฎฺฐภารทฺวาชานํ มาณวานํ ชงฺฆาวิหารํ อนุจงฺกมนฺตานํ อนุวิจรนฺตานํ 3 อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘‘กถํ, โภ, พฺราหฺมโณ โหตี’’ติ? ภารทฺวาโช มาณโว เอวมาห – ‘‘ยโต โข, โภ, อุภโต สุชาโต มาติโต จ ปิติโต จ สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิโตฺต อนุปกฺกุโฎฺฐ ชาติวาเทน – เอตฺตาวตา โข, โภ, พฺราหฺมโณ โหตี’’ติฯ วาเสโฎฺฐ มาณโว เอวมาห – ‘‘ยโต โข, โภ, สีลวา จ โหติ วตฺตสมฺปโนฺน 4 จ – เอตฺตาวตา โข, โภ, พฺราหฺมโณ โหตี’’ติฯ เนว โข อสกฺขิ ภารทฺวาโช มาณโว วาเสฎฺฐํ มาณวํ สญฺญาเปตุํ, น ปน อสกฺขิ วาเสโฎฺฐ มาณโว ภารทฺวาชํ มาณวํ สญฺญาเปตุํฯ อถ โข วาเสโฎฺฐ มาณโว ภารทฺวาชํ มาณวํ อามเนฺตสิ – ‘‘อยํ โข, โภ ภารทฺวาช, สมโณ โคตโม สกฺยปุโตฺต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต อิจฺฉานงฺคเล วิหรติ อิจฺฉานงฺคลวนสเณฺฑฯ ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสโทฺท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ วิชฺชาจรณสมฺปโนฺน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุโทฺธ ภควา’ติฯ อายาม, โภ ภารทฺวาช, เยน สมโณ โคตโม เตนุปสงฺกมิสฺสาม; อุปสงฺกมิตฺวา สมณํ โคตมํ เอตมตฺถํ ปุจฺฉิสฺสามฯ ยถา โน สมโณ โคตโม พฺยากริสฺสติ ตถา นํ ธาเรสฺสามา’’ติฯ ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข ภารทฺวาโช มาณโว วาเสฎฺฐสฺส มาณวสฺส ปจฺจโสฺสสิฯ

    454. Evaṃ me sutaṃ – ekaṃ samayaṃ bhagavā icchānaṅgale 5 viharati icchānaṅgalavanasaṇḍe. Tena kho pana samayena sambahulā abhiññātā abhiññātā brāhmaṇamahāsālā icchānaṅgale paṭivasanti, seyyathidaṃ – caṅkī brāhmaṇo, tārukkho brāhmaṇo, pokkharasāti brāhmaṇo, jāṇussoṇi 6 brāhmaṇo, todeyyo brāhmaṇo, aññe ca abhiññātā abhiññātā brāhmaṇamahāsālā. Atha kho vāseṭṭhabhāradvājānaṃ māṇavānaṃ jaṅghāvihāraṃ anucaṅkamantānaṃ anuvicarantānaṃ 7 ayamantarākathā udapādi – ‘‘kathaṃ, bho, brāhmaṇo hotī’’ti? Bhāradvājo māṇavo evamāha – ‘‘yato kho, bho, ubhato sujāto mātito ca pitito ca saṃsuddhagahaṇiko yāva sattamā pitāmahayugā akkhitto anupakkuṭṭho jātivādena – ettāvatā kho, bho, brāhmaṇo hotī’’ti. Vāseṭṭho māṇavo evamāha – ‘‘yato kho, bho, sīlavā ca hoti vattasampanno 8 ca – ettāvatā kho, bho, brāhmaṇo hotī’’ti. Neva kho asakkhi bhāradvājo māṇavo vāseṭṭhaṃ māṇavaṃ saññāpetuṃ, na pana asakkhi vāseṭṭho māṇavo bhāradvājaṃ māṇavaṃ saññāpetuṃ. Atha kho vāseṭṭho māṇavo bhāradvājaṃ māṇavaṃ āmantesi – ‘‘ayaṃ kho, bho bhāradvāja, samaṇo gotamo sakyaputto sakyakulā pabbajito icchānaṅgale viharati icchānaṅgalavanasaṇḍe. Taṃ kho pana bhavantaṃ gotamaṃ evaṃ kalyāṇo kittisaddo abbhuggato – ‘itipi so bhagavā arahaṃ sammāsambuddho vijjācaraṇasampanno sugato lokavidū anuttaro purisadammasārathi satthā devamanussānaṃ buddho bhagavā’ti. Āyāma, bho bhāradvāja, yena samaṇo gotamo tenupasaṅkamissāma; upasaṅkamitvā samaṇaṃ gotamaṃ etamatthaṃ pucchissāma. Yathā no samaṇo gotamo byākarissati tathā naṃ dhāressāmā’’ti. ‘‘Evaṃ, bho’’ti kho bhāradvājo māṇavo vāseṭṭhassa māṇavassa paccassosi.

    ๔๕๕. อถ โข วาเสฎฺฐภารทฺวาชา มาณวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สโมฺมทิํสุฯ สโมฺมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข วาเสโฎฺฐ มาณโว ภควนฺตํ คาถาหิ อชฺฌภาสิ –

    455. Atha kho vāseṭṭhabhāradvājā māṇavā yena bhagavā tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā bhagavatā saddhiṃ sammodiṃsu. Sammodanīyaṃ kathaṃ sāraṇīyaṃ vītisāretvā ekamantaṃ nisīdiṃsu. Ekamantaṃ nisinno kho vāseṭṭho māṇavo bhagavantaṃ gāthāhi ajjhabhāsi –

    ‘‘อนุญฺญาตปฎิญฺญาตา, เตวิชฺชา มยมสฺมุโภ;

    ‘‘Anuññātapaṭiññātā, tevijjā mayamasmubho;

    อหํ โปกฺขรสาติสฺส, ตารุกฺขสฺสายํ มาณโวฯ

    Ahaṃ pokkharasātissa, tārukkhassāyaṃ māṇavo.

    ‘‘เตวิชฺชานํ ยทกฺขาตํ, ตตฺร เกวลิโนสฺมเส;

    ‘‘Tevijjānaṃ yadakkhātaṃ, tatra kevalinosmase;

    ปทกสฺมา เวยฺยากรณา 9, ชเปฺป อาจริยสาทิสา;

    Padakasmā veyyākaraṇā 10, jappe ācariyasādisā;

    เตสํ โน ชาติวาทสฺมิํ, วิวาโท อตฺถิ โคตมฯ

    Tesaṃ no jātivādasmiṃ, vivādo atthi gotama.

    ‘‘ชาติยา พฺราหฺมโณ โหติ, ภารทฺวาโช อิติ ภาสติ;

    ‘‘Jātiyā brāhmaṇo hoti, bhāradvājo iti bhāsati;

    อหญฺจ กมฺมุนา 11 พฺรูมิ, เอวํ ชานาหิ จกฺขุมฯ

    Ahañca kammunā 12 brūmi, evaṃ jānāhi cakkhuma.

    ‘‘เต น สโกฺกม ญาเปตุํ 13, อญฺญมญฺญํ มยํ อุโภ;

    ‘‘Te na sakkoma ñāpetuṃ 14, aññamaññaṃ mayaṃ ubho;

    ภวนฺตํ ปุฎฺฐุมาคมา, สมฺพุทฺธํ อิติ วิสฺสุตํฯ

    Bhavantaṃ puṭṭhumāgamā, sambuddhaṃ iti vissutaṃ.

    ‘‘จนฺทํ ยถา ขยาตีตํ, เปจฺจ ปญฺชลิกา ชนา;

    ‘‘Candaṃ yathā khayātītaṃ, pecca pañjalikā janā;

    วนฺทมานา นมสฺสนฺติ, โลกสฺมิํ โคตมํฯ

    Vandamānā namassanti, lokasmiṃ gotamaṃ.

    ‘‘จกฺขุํ โลเก สมุปฺปนฺนํ, มยํ ปุจฺฉาม โคตมํ;

    ‘‘Cakkhuṃ loke samuppannaṃ, mayaṃ pucchāma gotamaṃ;

    ชาติยา พฺราหฺมโณ โหติ, อุทาหุ ภวติ กมฺมุนา 15;

    Jātiyā brāhmaṇo hoti, udāhu bhavati kammunā 16;

    อชานตํ โน ปพฺรูหิ, ยถา ชาเนมุ พฺราหฺมณ’’นฺติฯ

    Ajānataṃ no pabrūhi, yathā jānemu brāhmaṇa’’nti.

    ๔๕๖.

    456.

    ‘‘เตสํ โว อหํ พฺยกฺขิสฺสํ, (วาเสฎฺฐาติ ภควา)

    ‘‘Tesaṃ vo ahaṃ byakkhissaṃ, (vāseṭṭhāti bhagavā)

    อนุปุพฺพํ ยถาตถํ;

    Anupubbaṃ yathātathaṃ;

    ชาติวิภงฺคํ ปาณานํ, อญฺญมญฺญาหิ ชาติโยฯ

    Jātivibhaṅgaṃ pāṇānaṃ, aññamaññāhi jātiyo.

    ‘‘ติณรุเกฺขปิ ชานาถ, น จาปิ ปฎิชานเร;

    ‘‘Tiṇarukkhepi jānātha, na cāpi paṭijānare;

    ลิงฺคํ ชาติมยํ เตสํ, อญฺญมญฺญา หิ ชาติโยฯ

    Liṅgaṃ jātimayaṃ tesaṃ, aññamaññā hi jātiyo.

    ‘‘ตโต กีเฎ ปฎเงฺค จ, ยาว กุนฺถกิปิลฺลิเก;

    ‘‘Tato kīṭe paṭaṅge ca, yāva kunthakipillike;

    ลิงฺคํ ชาติมยํ เตสํ, อญฺญมญฺญา หิ ชาติโยฯ

    Liṅgaṃ jātimayaṃ tesaṃ, aññamaññā hi jātiyo.

    ‘‘จตุปฺปเทปิ ชานาถ, ขุทฺทเก จ มหลฺลเก;

    ‘‘Catuppadepi jānātha, khuddake ca mahallake;

    ลิงฺคํ ชาติมยํ เตสํ, อญฺญมญฺญา หิ ชาติโยฯ

    Liṅgaṃ jātimayaṃ tesaṃ, aññamaññā hi jātiyo.

    ‘‘ปาทุทเรปิ ชานาถ, อุรเค ทีฆปิฎฺฐิเก;

    ‘‘Pādudarepi jānātha, urage dīghapiṭṭhike;

    ลิงฺคํ ชาติมยํ เตสํ, อญฺญมญฺญา หิ ชาติโยฯ

    Liṅgaṃ jātimayaṃ tesaṃ, aññamaññā hi jātiyo.

    ‘‘ตโต มเจฺฉปิ ชานาถ, อุทเก วาริโคจเร;

    ‘‘Tato macchepi jānātha, udake vārigocare;

    ลิงฺคํ ชาติมยํ เตสํ, อญฺญมญฺญา หิ ชาติโยฯ

    Liṅgaṃ jātimayaṃ tesaṃ, aññamaññā hi jātiyo.

    ‘‘ตโต ปกฺขีปิ ชานาถ, ปตฺตยาเน วิหงฺคเม;

    ‘‘Tato pakkhīpi jānātha, pattayāne vihaṅgame;

    ลิงฺคํ ชาติมยํ เตสํ, อญฺญมญฺญา หิ ชาติโยฯ

    Liṅgaṃ jātimayaṃ tesaṃ, aññamaññā hi jātiyo.

    ‘‘ยถา เอตาสุ ชาตีสุ, ลิงฺคํ ชาติมยํ ปุถุ;

    ‘‘Yathā etāsu jātīsu, liṅgaṃ jātimayaṃ puthu;

    เอวํ นตฺถิ มนุเสฺสสุ, ลิงฺคํ ชาติมยํ ปุถุฯ

    Evaṃ natthi manussesu, liṅgaṃ jātimayaṃ puthu.

    ‘‘น เกเสหิ น สีเสหิ, น กเณฺณหิ น อกฺขีหิ;

    ‘‘Na kesehi na sīsehi, na kaṇṇehi na akkhīhi;

    น มุเขน น นาสาย, น โอเฎฺฐหิ ภมูหิ วาฯ

    Na mukhena na nāsāya, na oṭṭhehi bhamūhi vā.

    ‘‘น คีวาย น อํเสหิ, น อุทเรน น ปิฎฺฐิยา;

    ‘‘Na gīvāya na aṃsehi, na udarena na piṭṭhiyā;

    น โสณิยา น อุรสา, น สมฺพาเธ น เมถุเน 17

    Na soṇiyā na urasā, na sambādhe na methune 18.

    ‘‘น หเตฺถหิ น ปาเทหิ, นงฺคุลีหิ นเขหิ วา;

    ‘‘Na hatthehi na pādehi, naṅgulīhi nakhehi vā;

    น ชงฺฆาหิ น อูรูหิ, น วเณฺณน สเรน วา;

    Na jaṅghāhi na ūrūhi, na vaṇṇena sarena vā;

    ลิงฺคํ ชาติมยํ เนว, ยถา อญฺญาสุ ชาติสุฯ

    Liṅgaṃ jātimayaṃ neva, yathā aññāsu jātisu.

    ๔๕๗.

    457.

    ‘‘ปจฺจตฺตญฺจ สรีเรสุ 19, มนุเสฺสเสฺวตํ น วิชฺชติ;

    ‘‘Paccattañca sarīresu 20, manussesvetaṃ na vijjati;

    โวการญฺจ มนุเสฺสสุ, สมญฺญาย ปวุจฺจติฯ

    Vokārañca manussesu, samaññāya pavuccati.

    ‘‘โย หิ โกจิ มนุเสฺสสุ, โครกฺขํ อุปชีวติ;

    ‘‘Yo hi koci manussesu, gorakkhaṃ upajīvati;

    เอวํ วาเสฎฺฐ ชานาหิ, กสฺสโก โส น พฺราหฺมโณฯ

    Evaṃ vāseṭṭha jānāhi, kassako so na brāhmaṇo.

    ‘‘โย หิ โกจิ มนุเสฺสสุ, ปุถุสิเปฺปน ชีวติ;

    ‘‘Yo hi koci manussesu, puthusippena jīvati;

    เอวํ วาเสฎฺฐ ชานาหิ, สิปฺปิโก โส น พฺราหฺมโณฯ

    Evaṃ vāseṭṭha jānāhi, sippiko so na brāhmaṇo.

    ‘‘โย หิ โกจิ มนุเสฺสสุ, โวหารํ อุปชีวติ;

    ‘‘Yo hi koci manussesu, vohāraṃ upajīvati;

    เอวํ วาเสฎฺฐ ชานาหิ, วาณิโช โส น พฺราหฺมโณฯ

    Evaṃ vāseṭṭha jānāhi, vāṇijo so na brāhmaṇo.

    ‘‘โย หิ โกจิ มนุเสฺสสุ, ปรเปเสฺสน ชีวติ;

    ‘‘Yo hi koci manussesu, parapessena jīvati;

    เอวํ วาเสฎฺฐ ชานาหิ, เปสฺสโก 21 โส น พฺราหฺมโณฯ

    Evaṃ vāseṭṭha jānāhi, pessako 22 so na brāhmaṇo.

    ‘‘โย หิ โกจิ มนุเสฺสสุ, อทินฺนํ อุปชีวติ;

    ‘‘Yo hi koci manussesu, adinnaṃ upajīvati;

    เอวํ วาเสฎฺฐ ชานาหิ, โจโร เอโส น พฺราหฺมโณฯ

    Evaṃ vāseṭṭha jānāhi, coro eso na brāhmaṇo.

    ‘‘โย หิ โกจิ มนุเสฺสสุ, อิสฺสตฺถํ อุปชีวติ;

    ‘‘Yo hi koci manussesu, issatthaṃ upajīvati;

    เอวํ วาเสฎฺฐ ชานาหิ, โยธาชีโว น พฺราหฺมโณฯ

    Evaṃ vāseṭṭha jānāhi, yodhājīvo na brāhmaṇo.

    ‘‘โย หิ โกจิ มนุเสฺสสุ, โปโรหิเจฺจน ชีวติ;

    ‘‘Yo hi koci manussesu, porohiccena jīvati;

    เอวํ วาเสฎฺฐ ชานาหิ, ยาชโก โส น พฺราหฺมโณฯ

    Evaṃ vāseṭṭha jānāhi, yājako so na brāhmaṇo.

    ‘‘โย หิ โกจิ มนุเสฺสสุ, คามํ รฎฺฐญฺจ ภุญฺชติ;

    ‘‘Yo hi koci manussesu, gāmaṃ raṭṭhañca bhuñjati;

    เอวํ วาเสฎฺฐ ชานาหิ, ราชา เอโส น พฺราหฺมโณฯ

    Evaṃ vāseṭṭha jānāhi, rājā eso na brāhmaṇo.

    ‘‘น จาหํ พฺราหฺมณํ พฺรูมิ, โยนิชํ มตฺติสมฺภวํ;

    ‘‘Na cāhaṃ brāhmaṇaṃ brūmi, yonijaṃ mattisambhavaṃ;

    โภวาทิ 23 นาม โส โหติ, สเจ โหติ สกิญฺจโน;

    Bhovādi 24 nāma so hoti, sace hoti sakiñcano;

    อกิญฺจนํ อนาทานํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ

    Akiñcanaṃ anādānaṃ, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.

    ๔๕๘.

    458.

    ‘‘สพฺพสํโยชนํ เฉตฺวา, โย เว น ปริตสฺสติ;

    ‘‘Sabbasaṃyojanaṃ chetvā, yo ve na paritassati;

    สงฺคาติคํ วิสํยุตฺตํ 25, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ

    Saṅgātigaṃ visaṃyuttaṃ 26, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.

    ‘‘เฉตฺวา นทฺธิํ 27 วรตฺตญฺจ, สนฺทานํ สหนุกฺกมํ;

    ‘‘Chetvā naddhiṃ 28 varattañca, sandānaṃ sahanukkamaṃ;

    อุกฺขิตฺตปลิฆํ พุทฺธํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ

    Ukkhittapalighaṃ buddhaṃ, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.

    ‘‘อโกฺกสํ วธพนฺธญฺจ, อทุโฎฺฐ โย ติติกฺขติ;

    ‘‘Akkosaṃ vadhabandhañca, aduṭṭho yo titikkhati;

    ขนฺตีพลํ พลานีกํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ

    Khantībalaṃ balānīkaṃ, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.

    ‘‘อโกฺกธนํ วตวนฺตํ, สีลวนฺตํ อนุสฺสทํ;

    ‘‘Akkodhanaṃ vatavantaṃ, sīlavantaṃ anussadaṃ;

    ทนฺตํ อนฺติมสารีรํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ

    Dantaṃ antimasārīraṃ, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.

    ‘‘วาริโปกฺขรปเตฺตว, อารเคฺคริว สาสโป;

    ‘‘Vāripokkharapatteva, āraggeriva sāsapo;

    โย น ลิมฺปติ กาเมสุ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ

    Yo na limpati kāmesu, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.

    ‘‘โย ทุกฺขสฺส ปชานาติ, อิเธว ขยมตฺตโน;

    ‘‘Yo dukkhassa pajānāti, idheva khayamattano;

    ปนฺนภารํ วิสํยุตฺตํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ

    Pannabhāraṃ visaṃyuttaṃ, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.

    ‘‘คมฺภีรปญฺญํ เมธาวิํ, มคฺคามคฺคสฺส โกวิทํ;

    ‘‘Gambhīrapaññaṃ medhāviṃ, maggāmaggassa kovidaṃ;

    อุตฺตมตฺถมนุปฺปตฺตํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ

    Uttamatthamanuppattaṃ, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.

    ‘‘อสํสฎฺฐํ คหเฎฺฐหิ, อนาคาเรหิ จูภยํ;

    ‘‘Asaṃsaṭṭhaṃ gahaṭṭhehi, anāgārehi cūbhayaṃ;

    อโนกสาริมปฺปิจฺฉํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ

    Anokasārimappicchaṃ, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.

    ‘‘นิธาย ทณฺฑํ ภูเตสุ, ตเสสุ ถาวเรสุ จ;

    ‘‘Nidhāya daṇḍaṃ bhūtesu, tasesu thāvaresu ca;

    โย น หนฺติ น ฆาเตติ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ

    Yo na hanti na ghāteti, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.

    ‘‘อวิรุทฺธํ วิรุเทฺธสุ, อตฺตทเณฺฑสุ นิพฺพุตํ;

    ‘‘Aviruddhaṃ viruddhesu, attadaṇḍesu nibbutaṃ;

    สาทาเนสุ อนาทานํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ

    Sādānesu anādānaṃ, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.

    ‘‘ยสฺส ราโค จ โทโส จ, มาโน มโกฺข จ โอหิโต;

    ‘‘Yassa rāgo ca doso ca, māno makkho ca ohito;

    สาสโปริว อารคฺคา, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ

    Sāsaporiva āraggā, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.

    ๔๕๙.

    459.

    ‘‘อกกฺกสํ วิญฺญาปนิํ, คิรํ สจฺจํ อุทีรเย;

    ‘‘Akakkasaṃ viññāpaniṃ, giraṃ saccaṃ udīraye;

    ยาย นาภิสเชฺช กิญฺจิ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ

    Yāya nābhisajje kiñci, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.

    ‘‘โย จ ทีฆํ ว รสฺสํ วา, อณุํ ถูลํ สุภาสุภํ;

    ‘‘Yo ca dīghaṃ va rassaṃ vā, aṇuṃ thūlaṃ subhāsubhaṃ;

    โลเก อทินฺนํ นาเทติ 29, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ

    Loke adinnaṃ nādeti 30, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.

    ‘‘อาสา ยสฺส น วิชฺชนฺติ, อสฺมิํ โลเก ปรมฺหิ จ;

    ‘‘Āsā yassa na vijjanti, asmiṃ loke paramhi ca;

    นิราสาสํ 31 วิสํยุตฺตํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ

    Nirāsāsaṃ 32 visaṃyuttaṃ, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.

    ‘‘ยสฺสาลยา น วิชฺชนฺติ, อญฺญาย อกถํกถิํ;

    ‘‘Yassālayā na vijjanti, aññāya akathaṃkathiṃ;

    อมโตคธํ อนุปฺปตฺตํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ

    Amatogadhaṃ anuppattaṃ, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.

    ‘‘โยธปุญฺญญฺจ ปาปญฺจ, อุโภ สงฺคํ อุปจฺจคา;

    ‘‘Yodhapuññañca pāpañca, ubho saṅgaṃ upaccagā;

    อโสกํ วิรชํ สุทฺธํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ

    Asokaṃ virajaṃ suddhaṃ, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.

    ‘‘จนฺทํ ว วิมลํ สุทฺธํ, วิปฺปสนฺนํ อนาวิลํ;

    ‘‘Candaṃ va vimalaṃ suddhaṃ, vippasannaṃ anāvilaṃ;

    นนฺทีภวปริกฺขีณํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ

    Nandībhavaparikkhīṇaṃ, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.

    ‘‘โย อิมํ ปลิปถํ ทุคฺคํ, สํสารํ โมหมจฺจคา;

    ‘‘Yo imaṃ palipathaṃ duggaṃ, saṃsāraṃ mohamaccagā;

    ติโณฺณ ปารงฺคโต ฌายี, อเนโช อกถํกถี;

    Tiṇṇo pāraṅgato jhāyī, anejo akathaṃkathī;

    อนุปาทาย นิพฺพุโต, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ

    Anupādāya nibbuto, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.

    ‘‘โยธกาเม ปหนฺตฺวาน 33, อนาคาโร ปริพฺพเช;

    ‘‘Yodhakāme pahantvāna 34, anāgāro paribbaje;

    กามภวปริกฺขีณํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ

    Kāmabhavaparikkhīṇaṃ, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.

    ‘‘โยธตณฺหํ ปหนฺตฺวาน, อนาคาโร ปริพฺพเช;

    ‘‘Yodhataṇhaṃ pahantvāna, anāgāro paribbaje;

    ตณฺหาภวปริกฺขีณํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ

    Taṇhābhavaparikkhīṇaṃ, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.

    ‘‘หิตฺวา มานุสกํ โยคํ, ทิพฺพํ โยคํ อุปจฺจคา;

    ‘‘Hitvā mānusakaṃ yogaṃ, dibbaṃ yogaṃ upaccagā;

    สพฺพโยควิสํยุตฺตํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ

    Sabbayogavisaṃyuttaṃ, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.

    ‘‘หิตฺวา รติญฺจ อรติํ, สีตีภูตํ นิรูปธิํ;

    ‘‘Hitvā ratiñca aratiṃ, sītībhūtaṃ nirūpadhiṃ;

    สพฺพโลกาภิภุํ วีรํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ

    Sabbalokābhibhuṃ vīraṃ, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.

    ‘‘จุติํ โย เวทิ สตฺตานํ, อุปปตฺติญฺจ สพฺพโส;

    ‘‘Cutiṃ yo vedi sattānaṃ, upapattiñca sabbaso;

    อสตฺตํ สุคตํ พุทฺธํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ

    Asattaṃ sugataṃ buddhaṃ, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.

    ‘‘ยสฺส คติํ น ชานนฺติ, เทวา คนฺธพฺพมานุสา;

    ‘‘Yassa gatiṃ na jānanti, devā gandhabbamānusā;

    ขีณาสวํ อรหนฺตํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ

    Khīṇāsavaṃ arahantaṃ, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.

    ‘‘ยสฺส ปุเร จ ปจฺฉา จ, มเชฺฌ จ นตฺถิ กิญฺจนํ;

    ‘‘Yassa pure ca pacchā ca, majjhe ca natthi kiñcanaṃ;

    อกิญฺจนํ อนาทานํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ

    Akiñcanaṃ anādānaṃ, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.

    ‘‘อุสภํ ปวรํ วีรํ, มเหสิํ วิชิตาวินํ;

    ‘‘Usabhaṃ pavaraṃ vīraṃ, mahesiṃ vijitāvinaṃ;

    อเนชํ นฺหาตกํ 35 พุทฺธํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ

    Anejaṃ nhātakaṃ 36 buddhaṃ, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.

    ‘‘ปุเพฺพนิวาสํ โย เวทิ, สคฺคาปายญฺจ ปสฺสติ;

    ‘‘Pubbenivāsaṃ yo vedi, saggāpāyañca passati;

    อโถ ชาติกฺขยํ ปโตฺต, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ

    Atho jātikkhayaṃ patto, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.

    ๔๖๐.

    460.

    ‘‘สมญฺญา เหสา โลกสฺมิํ, นามโคตฺตํ ปกปฺปิตํ;

    ‘‘Samaññā hesā lokasmiṃ, nāmagottaṃ pakappitaṃ;

    สมฺมุจฺจา สมุทาคตํ, ตตฺถ ตตฺถ ปกปฺปิตํฯ

    Sammuccā samudāgataṃ, tattha tattha pakappitaṃ.

    ‘‘ทีฆรตฺตานุสยิตํ, ทิฎฺฐิคตมชานตํ;

    ‘‘Dīgharattānusayitaṃ, diṭṭhigatamajānataṃ;

    อชานนฺตา โน 37 ปพฺรุนฺติ 38, ชาติยา โหติ พฺราหฺมโณฯ

    Ajānantā no 39 pabrunti 40, jātiyā hoti brāhmaṇo.

    ‘‘น ชจฺจา พฺราหฺมโณ 41 โหติ, น ชจฺจา โหติ อพฺราหฺมโณ 42;

    ‘‘Na jaccā brāhmaṇo 43 hoti, na jaccā hoti abrāhmaṇo 44;

    กมฺมุนา พฺราหฺมโณ 45 โหติ, กมฺมุนา โหติ อพฺราหฺมโณ 46

    Kammunā brāhmaṇo 47 hoti, kammunā hoti abrāhmaṇo 48.

    ‘‘กสฺสโก กมฺมุนา โหติ, สิปฺปิโก โหติ กมฺมุนา;

    ‘‘Kassako kammunā hoti, sippiko hoti kammunā;

    วาณิโช กมฺมุนา โหติ, เปสฺสโก โหติ กมฺมุนาฯ

    Vāṇijo kammunā hoti, pessako hoti kammunā.

    ‘‘โจโรปิ กมฺมุนา โหติ, โยธาชีโวปิ กมฺมุนา;

    ‘‘Coropi kammunā hoti, yodhājīvopi kammunā;

    ยาชโก กมฺมุนา โหติ, ราชาปิ โหติ กมฺมุนาฯ

    Yājako kammunā hoti, rājāpi hoti kammunā.

    ‘‘เอวเมตํ ยถาภูตํ, กมฺมํ ปสฺสนฺติ ปณฺฑิตา;

    ‘‘Evametaṃ yathābhūtaṃ, kammaṃ passanti paṇḍitā;

    ปฎิจฺจสมุปฺปาททสฺสา, กมฺมวิปากโกวิทาฯ

    Paṭiccasamuppādadassā, kammavipākakovidā.

    ‘‘กมฺมุนา วตฺตติ โลโก, กมฺมุนา วตฺตติ ปชา;

    ‘‘Kammunā vattati loko, kammunā vattati pajā;

    กมฺมนิพนฺธนา สตฺตา, รถสฺสาณีว ยายโตฯ

    Kammanibandhanā sattā, rathassāṇīva yāyato.

    ‘‘ตเปน พฺรหฺมจริเยน, สํยเมน ทเมน จ;

    ‘‘Tapena brahmacariyena, saṃyamena damena ca;

    เอเตน พฺราหฺมโณ โหติ, เอตํ พฺราหฺมณมุตฺตมํฯ

    Etena brāhmaṇo hoti, etaṃ brāhmaṇamuttamaṃ.

    ‘‘ตีหิ วิชฺชาหิ สมฺปโนฺน, สโนฺต ขีณปุนพฺภโว;

    ‘‘Tīhi vijjāhi sampanno, santo khīṇapunabbhavo;

    เอวํ วาเสฎฺฐ ชานาหิ, พฺรหฺมา สโกฺก วิชานต’’นฺติฯ

    Evaṃ vāseṭṭha jānāhi, brahmā sakko vijānata’’nti.

    ๔๖๑. เอวํ วุเตฺต, วาเสฎฺฐภารทฺวาชา มาณวา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม! เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุเชฺชยฺย, ปฎิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิเกฺขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปโชฺชตํ ธาเรยฺย – จกฺขุมโนฺต รูปานิ ทกฺขนฺตีติ – เอวเมวํ โภตา โคตเมน อเนกปริยาเยน ธโมฺม ปกาสิโตฯ เอเต มยํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉาม ธมฺมญฺจ ภิกฺขุสงฺฆญฺจฯ อุปาสเก โน ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตเคฺค ปาณุเปตํ สรณํ คเต’’ติฯ

    461. Evaṃ vutte, vāseṭṭhabhāradvājā māṇavā bhagavantaṃ etadavocuṃ – ‘‘abhikkantaṃ, bho gotama, abhikkantaṃ, bho gotama! Seyyathāpi, bho gotama, nikkujjitaṃ vā ukkujjeyya, paṭicchannaṃ vā vivareyya, mūḷhassa vā maggaṃ ācikkheyya, andhakāre vā telapajjotaṃ dhāreyya – cakkhumanto rūpāni dakkhantīti – evamevaṃ bhotā gotamena anekapariyāyena dhammo pakāsito. Ete mayaṃ bhavantaṃ gotamaṃ saraṇaṃ gacchāma dhammañca bhikkhusaṅghañca. Upāsake no bhavaṃ gotamo dhāretu ajjatagge pāṇupetaṃ saraṇaṃ gate’’ti.

    วาเสฎฺฐสุตฺตํ นิฎฺฐิตํ อฎฺฐมํฯ

    Vāseṭṭhasuttaṃ niṭṭhitaṃ aṭṭhamaṃ.







    Footnotes:
    1. อิจฺฉานงฺกเล (สี. ปี.)
    2. ชาณุโสฺสณี (ปี.), ชาณุโสณี (ก.)
    3. อนุจงฺกมมานานํ อนุวิจรมานานํ (สี. ปี.)
    4. วตสมฺปโนฺน (ปี.)
    5. icchānaṅkale (sī. pī.)
    6. jāṇussoṇī (pī.), jāṇusoṇī (ka.)
    7. anucaṅkamamānānaṃ anuvicaramānānaṃ (sī. pī.)
    8. vatasampanno (pī.)
    9. โน พฺยากรณา (สฺยา. กํ. ก.)
    10. no byākaraṇā (syā. kaṃ. ka.)
    11. กมฺมนา (สี. ปี.)
    12. kammanā (sī. pī.)
    13. สญฺญตฺตุํ (ปี.), สญฺญาเปตุํ (ก.)
    14. saññattuṃ (pī.), saññāpetuṃ (ka.)
    15. กมฺมนา (สี. ปี.)
    16. kammanā (sī. pī.)
    17. น สมฺพาธา น เมถุนา (ก.)
    18. na sambādhā na methunā (ka.)
    19. ปจฺจตฺตํ สสรีเรสุ (สี. ปี.)
    20. paccattaṃ sasarīresu (sī. pī.)
    21. เปสฺสิโก (สี. สฺยา. กํ. ปี.)
    22. pessiko (sī. syā. kaṃ. pī.)
    23. โภวาที (สฺยา. กํ.)
    24. bhovādī (syā. kaṃ.)
    25. วิสญฺญุตฺตํ (ก.)
    26. visaññuttaṃ (ka.)
    27. นทฺธิํ (สี. ปี.)
    28. naddhiṃ (sī. pī.)
    29. นาทิยติ (สี. ปี.)
    30. nādiyati (sī. pī.)
    31. นิราสยํ (สี. ปี.)
    32. nirāsayaṃ (sī. pī.)
    33. ปหตฺวาน (สี.)
    34. pahatvāna (sī.)
    35. นหาตกํ (สี. ปี.)
    36. nahātakaṃ (sī. pī.)
    37. อชานนฺตา โนติ อชานนฺตา เอว (ฎีกา)
    38. ปพฺรุวนฺติ (สี. ปี.)
    39. ajānantā noti ajānantā eva (ṭīkā)
    40. pabruvanti (sī. pī.)
    41. วสโล (สฺยา. กํ. ก.)
    42. พฺราหฺมโณ (สฺยา. กํ. ก.)
    43. vasalo (syā. kaṃ. ka.)
    44. brāhmaṇo (syā. kaṃ. ka.)
    45. วสโล (สฺยา. กํ. ก.)
    46. พฺราหฺมโณ (สฺยา. กํ. ก.)
    47. vasalo (syā. kaṃ. ka.)
    48. brāhmaṇo (syā. kaṃ. ka.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā) / ๘. วาเสฎฺฐสุตฺตวณฺณนา • 8. Vāseṭṭhasuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā) / ๘. วาเสฎฺฐสุตฺตวณฺณนา • 8. Vāseṭṭhasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact