Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สุตฺตนิปาตปาฬิ • Suttanipātapāḷi |
๙. วาเสฎฺฐสุตฺตํ
9. Vāseṭṭhasuttaṃ
เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา อิจฺฉานงฺคเล วิหรติ อิจฺฉานงฺคลวนสเณฺฑฯ เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา อภิญฺญาตา อภิญฺญาตา พฺราหฺมณมหาสาลา อิจฺฉานงฺคเล ปฎิวสนฺติ, เสยฺยถิทํ – จงฺกี พฺราหฺมโณ, ตารุโกฺข พฺราหฺมโณ, โปกฺขรสาติ พฺราหฺมโณ, ชาณุโสฺสณิ 1 พฺราหฺมโณ, โตเทโยฺย พฺราหฺมโณ, อเญฺญ จ อภิญฺญาตา อภิญฺญาตา พฺราหฺมณมหาสาลาฯ อถ โข วาเสฎฺฐภารทฺวาชานํ มาณวานํ ชงฺฆาวิหารํ อนุจงฺกมนฺตานํ อนุวิจรนฺตานํ 2 อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘‘กถํ, โภ, พฺราหฺมโณ โหตี’’ติ?
Evaṃ me sutaṃ – ekaṃ samayaṃ bhagavā icchānaṅgale viharati icchānaṅgalavanasaṇḍe. Tena kho pana samayena sambahulā abhiññātā abhiññātā brāhmaṇamahāsālā icchānaṅgale paṭivasanti, seyyathidaṃ – caṅkī brāhmaṇo, tārukkho brāhmaṇo, pokkharasāti brāhmaṇo, jāṇussoṇi 3 brāhmaṇo, todeyyo brāhmaṇo, aññe ca abhiññātā abhiññātā brāhmaṇamahāsālā. Atha kho vāseṭṭhabhāradvājānaṃ māṇavānaṃ jaṅghāvihāraṃ anucaṅkamantānaṃ anuvicarantānaṃ 4 ayamantarākathā udapādi – ‘‘kathaṃ, bho, brāhmaṇo hotī’’ti?
ภารทฺวาโช มาณโว เอวมาห – ‘‘ยโต โข, โภ, อุภโต สุชาโต โหติ มาติโต จ ปิติโต จ สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิโตฺต อนุปกฺกุโฎฺฐ ชาติวาเทน, เอตฺตาวตา โข โภ พฺราหฺมโณ โหตี’’ติฯ
Bhāradvājo māṇavo evamāha – ‘‘yato kho, bho, ubhato sujāto hoti mātito ca pitito ca saṃsuddhagahaṇiko yāva sattamā pitāmahayugā akkhitto anupakkuṭṭho jātivādena, ettāvatā kho bho brāhmaṇo hotī’’ti.
วาเสโฎฺฐ มาณโว เอวมาห – ‘‘ยโต โข, โภ, สีลวา จ โหติ วตสมฺปโนฺน 5 จ, เอตฺตาวตา โข, โภ, พฺราหฺมโณ โหตี’’ติฯ เนว โข อสกฺขิ ภารทฺวาโช มาณโว วาเสฎฺฐํ มาณวํ สญฺญาเปตุํ, น ปน อสกฺขิ วาเสโฎฺฐ มาณโว ภารทฺวาชํ มาณวํ สญฺญาเปตุํฯ
Vāseṭṭho māṇavo evamāha – ‘‘yato kho, bho, sīlavā ca hoti vatasampanno 6 ca, ettāvatā kho, bho, brāhmaṇo hotī’’ti. Neva kho asakkhi bhāradvājo māṇavo vāseṭṭhaṃ māṇavaṃ saññāpetuṃ, na pana asakkhi vāseṭṭho māṇavo bhāradvājaṃ māṇavaṃ saññāpetuṃ.
อถ โข วาเสโฎฺฐ มาณโว ภารทฺวาชํ มาณวํ อามเนฺตสิ – ‘‘อยํ โข, โภ 7 ภารทฺวาช, สมโณ โคตโม สกฺยปุโตฺต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต อิจฺฉานงฺคเล วิหรติ อิจฺฉานงฺคลวนสเณฺฑ; ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสโทฺท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ…เป.… พุโทฺธ ภควา’ติฯ อายาม, โภ ภารทฺวาช, เยน สมโณ โคตโม เตนุปสงฺกมิสฺสาม; อุปสงฺกมิตฺวา สมณํ โคตมํ เอตมตฺถํ ปุจฺฉิสฺสามฯ ยถา โน สมโณ โคตโม พฺยากริสฺสติ ตถา นํ ธาเรสฺสามา’’ติฯ ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข ภารทฺวาโช มาณโว วาเสฎฺฐสฺส มาณวสฺส ปจฺจโสฺสสิฯ
Atha kho vāseṭṭho māṇavo bhāradvājaṃ māṇavaṃ āmantesi – ‘‘ayaṃ kho, bho 8 bhāradvāja, samaṇo gotamo sakyaputto sakyakulā pabbajito icchānaṅgale viharati icchānaṅgalavanasaṇḍe; taṃ kho pana bhavantaṃ gotamaṃ evaṃ kalyāṇo kittisaddo abbhuggato – ‘itipi…pe… buddho bhagavā’ti. Āyāma, bho bhāradvāja, yena samaṇo gotamo tenupasaṅkamissāma; upasaṅkamitvā samaṇaṃ gotamaṃ etamatthaṃ pucchissāma. Yathā no samaṇo gotamo byākarissati tathā naṃ dhāressāmā’’ti. ‘‘Evaṃ, bho’’ti kho bhāradvājo māṇavo vāseṭṭhassa māṇavassa paccassosi.
อถ โข วาเสฎฺฐภารทฺวาชา มาณวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สโมฺมทิํสุฯ สโมฺมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข วาเสโฎฺฐ มาณโว ภควนฺตํ คาถาหิ อชฺฌภาสิ –
Atha kho vāseṭṭhabhāradvājā māṇavā yena bhagavā tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā bhagavatā saddhiṃ sammodiṃsu. Sammodanīyaṃ kathaṃ sāraṇīyaṃ vītisāretvā ekamantaṃ nisīdiṃsu. Ekamantaṃ nisinno kho vāseṭṭho māṇavo bhagavantaṃ gāthāhi ajjhabhāsi –
๕๙๙.
599.
‘‘อนุญฺญาตปฎิญฺญาตา, เตวิชฺชา มยมสฺมุโภ;
‘‘Anuññātapaṭiññātā, tevijjā mayamasmubho;
อหํ โปกฺขรสาติสฺส, ตารุกฺขสฺสายํ มาณโวฯ
Ahaṃ pokkharasātissa, tārukkhassāyaṃ māṇavo.
๖๐๐.
600.
‘‘เตวิชฺชานํ ยทกฺขาตํ, ตตฺร เกวลิโนสฺมเส;
‘‘Tevijjānaṃ yadakkhātaṃ, tatra kevalinosmase;
ปทกสฺม เวยฺยากรณา, ชเปฺป อาจริยสาทิสาฯ
Padakasma veyyākaraṇā, jappe ācariyasādisā.
๖๐๑.
601.
‘‘เตสํ โน ชาติวาทสฺมิํ, วิวาโท อตฺถิ โคตม;
‘‘Tesaṃ no jātivādasmiṃ, vivādo atthi gotama;
ชาติยา พฺราหฺมโณ โหติ, ภารทฺวาโช อิติ ภาสติ;
Jātiyā brāhmaṇo hoti, bhāradvājo iti bhāsati;
๖๐๒.
602.
‘‘เต น สโกฺกม สญฺญาเปตุํ, อญฺญมญฺญํ มยํ อุโภ;
‘‘Te na sakkoma saññāpetuṃ, aññamaññaṃ mayaṃ ubho;
ภวนฺตํ 11 ปุฎฺฐุมาคมฺหา, สมฺพุทฺธํ อิติ วิสฺสุตํฯ
Bhavantaṃ 12 puṭṭhumāgamhā, sambuddhaṃ iti vissutaṃ.
๖๐๓.
603.
‘‘จนฺทํ ยถา ขยาตีตํ, เปจฺจ ปญฺชลิกา ชนา;
‘‘Candaṃ yathā khayātītaṃ, pecca pañjalikā janā;
วนฺทมานา นมสฺสนฺติ, เอวํ โลกสฺมิ โคตมํฯ
Vandamānā namassanti, evaṃ lokasmi gotamaṃ.
๖๐๔.
604.
‘‘จกฺขุํ โลเก สมุปฺปนฺนํ, มยํ ปุจฺฉาม โคตมํ;
‘‘Cakkhuṃ loke samuppannaṃ, mayaṃ pucchāma gotamaṃ;
ชาติยา พฺราหฺมโณ โหติ, อุทาหุ ภวติ กมฺมุนา;
Jātiyā brāhmaṇo hoti, udāhu bhavati kammunā;
อชานตํ โน ปพฺรูหิ, ยถา ชาเนสุ พฺราหฺมณํ’’ฯ
Ajānataṃ no pabrūhi, yathā jānesu brāhmaṇaṃ’’.
๖๐๕.
605.
‘‘เตสํ โว อหํ พฺยกฺขิสฺสํ, (วาเสฎฺฐาติ ภควา) อนุปุพฺพํ ยถาตถํ;
‘‘Tesaṃ vo ahaṃ byakkhissaṃ, (vāseṭṭhāti bhagavā) anupubbaṃ yathātathaṃ;
ชาติวิภงฺคํ ปาณานํ, อญฺญมญฺญา หิ ชาติโยฯ
Jātivibhaṅgaṃ pāṇānaṃ, aññamaññā hi jātiyo.
๖๐๖.
606.
‘‘ติณรุเกฺขปิ ชานาถ, น จาปิ ปฎิชานเร;
‘‘Tiṇarukkhepi jānātha, na cāpi paṭijānare;
ลิงฺคํ ชาติมยํ เตสํ, อญฺญมญฺญา หิ ชาติโยฯ
Liṅgaṃ jātimayaṃ tesaṃ, aññamaññā hi jātiyo.
๖๐๗.
607.
‘‘ตโต กีเฎ ปฎเงฺค จ, ยาว กุนฺถกิปิลฺลิเก;
‘‘Tato kīṭe paṭaṅge ca, yāva kunthakipillike;
ลิงฺคํ ชาติมยํ เตสํ, อญฺญมญฺญา หิ ชาติโยฯ
Liṅgaṃ jātimayaṃ tesaṃ, aññamaññā hi jātiyo.
๖๐๘.
608.
‘‘จตุปฺปเทปิ ชานาถ, ขุทฺทเก จ มหลฺลเก;
‘‘Catuppadepi jānātha, khuddake ca mahallake;
ลิงฺคํ ชาติมยํ เตสํ, อญฺญมญฺญา หิ ชาติโยฯ
Liṅgaṃ jātimayaṃ tesaṃ, aññamaññā hi jātiyo.
๖๐๙.
609.
‘‘ปาทูทเรปิ ชานาถ, อุรเค ทีฆปิฎฺฐิเก;
‘‘Pādūdarepi jānātha, urage dīghapiṭṭhike;
ลิงฺคํ ชาติมยํ เตสํ, อญฺญมญฺญา หิ ชาติโยฯ
Liṅgaṃ jātimayaṃ tesaṃ, aññamaññā hi jātiyo.
๖๑๐.
610.
‘‘ตโต มเจฺฉปิ ชานาถ, โอทเก วาริโคจเร;
‘‘Tato macchepi jānātha, odake vārigocare;
ลิงฺคํ ชาติมยํ เตสํ, อญฺญมญฺญา หิ ชาติโยฯ
Liṅgaṃ jātimayaṃ tesaṃ, aññamaññā hi jātiyo.
๖๑๑.
611.
‘‘ตโต ปกฺขีปิ ชานาถ, ปตฺตยาเน วิหงฺคเม;
‘‘Tato pakkhīpi jānātha, pattayāne vihaṅgame;
ลิงฺคํ ชาติมยํ เตสํ, อญฺญมญฺญา หิ ชาติโยฯ
Liṅgaṃ jātimayaṃ tesaṃ, aññamaññā hi jātiyo.
๖๑๒.
612.
‘‘ยถา เอตาสุ ชาตีสุ, ลิงฺคํ ชาติมยํ ปุถุ;
‘‘Yathā etāsu jātīsu, liṅgaṃ jātimayaṃ puthu;
เอวํ นตฺถิ มนุเสฺสสุ, ลิงฺคํ ชาติมยํ ปุถุฯ
Evaṃ natthi manussesu, liṅgaṃ jātimayaṃ puthu.
๖๑๓.
613.
‘‘น เกเสหิ น สีเสน, น กเณฺณหิ น อกฺขิภิ;
‘‘Na kesehi na sīsena, na kaṇṇehi na akkhibhi;
น มุเขน น นาสาย, น โอเฎฺฐหิ ภมูหิ วาฯ
Na mukhena na nāsāya, na oṭṭhehi bhamūhi vā.
๖๑๔.
614.
‘‘น คีวาย น อํเสหิ, น อุทเรน น ปิฎฺฐิยา;
‘‘Na gīvāya na aṃsehi, na udarena na piṭṭhiyā;
๖๑๕.
615.
‘‘น หเตฺถหิ น ปาเทหิ, นางฺคุลีหิ นเขหิ วา;
‘‘Na hatthehi na pādehi, nāṅgulīhi nakhehi vā;
น ชงฺฆาหิ น อูรูหิ, น วเณฺณน สเรน วา;
Na jaṅghāhi na ūrūhi, na vaṇṇena sarena vā;
ลิงฺคํ ชาติมยํ เนว, ยถา อญฺญาสุ ชาติสุฯ
Liṅgaṃ jātimayaṃ neva, yathā aññāsu jātisu.
๖๑๖.
616.
‘‘ปจฺจตฺตญฺจ สรีเรสุ 15, มนุเสฺสเสฺวตํ น วิชฺชติ;
‘‘Paccattañca sarīresu 16, manussesvetaṃ na vijjati;
โวการญฺจ มนุเสฺสสุ, สมญฺญาย ปวุจฺจติฯ
Vokārañca manussesu, samaññāya pavuccati.
๖๑๗.
617.
‘‘โย หิ โกจิ มนุเสฺสสุ, โครกฺขํ อุปชีวติ;
‘‘Yo hi koci manussesu, gorakkhaṃ upajīvati;
เอวํ วาเสฎฺฐ ชานาหิ, กสฺสโก โส น พฺราหฺมโณฯ
Evaṃ vāseṭṭha jānāhi, kassako so na brāhmaṇo.
๖๑๘.
618.
‘‘โย หิ โกจิ มนุเสฺสสุ, ปุถุสิเปฺปน ชีวติ;
‘‘Yo hi koci manussesu, puthusippena jīvati;
เอวํ วาเสฎฺฐ ชานาหิ, สิปฺปิโก โส น พฺราหฺมโณฯ
Evaṃ vāseṭṭha jānāhi, sippiko so na brāhmaṇo.
๖๑๙.
619.
‘‘โย หิ โกจิ มนุเสฺสสุ, โวหารํ อุปชีวติ;
‘‘Yo hi koci manussesu, vohāraṃ upajīvati;
เอวํ วาเสฎฺฐ ชานาหิ, วาณิโช โส น พฺราหฺมโณฯ
Evaṃ vāseṭṭha jānāhi, vāṇijo so na brāhmaṇo.
๖๒๐.
620.
‘‘โย หิ โกจิ มนุเสฺสสุ, ปรเปเสฺสน ชีวติ;
‘‘Yo hi koci manussesu, parapessena jīvati;
๖๒๑.
621.
‘‘โย หิ โกจิ มนุเสฺสสุ, อทินฺนํ อุปชีวติ;
‘‘Yo hi koci manussesu, adinnaṃ upajīvati;
เอวํ วาเสฎฺฐ ชานาหิ, โจโร เอโส น พฺราหฺมโณฯ
Evaṃ vāseṭṭha jānāhi, coro eso na brāhmaṇo.
๖๒๒.
622.
‘‘โย หิ โกจิ มนุเสฺสสุ, อิสฺสตฺถํ อุปชีวติ;
‘‘Yo hi koci manussesu, issatthaṃ upajīvati;
เอวํ วาเสฎฺฐ ชานาหิ, โยธาชีโว น พฺราหฺมโณฯ
Evaṃ vāseṭṭha jānāhi, yodhājīvo na brāhmaṇo.
๖๒๓.
623.
‘‘โย หิ โกจิ มนุเสฺสสุ, โปโรหิเจฺจน ชีวติ;
‘‘Yo hi koci manussesu, porohiccena jīvati;
เอวํ วาเสฎฺฐ ชานาหิ, ยาชโก เอโส น พฺราหฺมโณฯ
Evaṃ vāseṭṭha jānāhi, yājako eso na brāhmaṇo.
๖๒๔.
624.
‘‘โย หิ โกจิ มนุเสฺสสุ, คามํ รฎฺฐญฺจ ภุญฺชติ;
‘‘Yo hi koci manussesu, gāmaṃ raṭṭhañca bhuñjati;
เอวํ วาเสฎฺฐ ชานาหิ, ราชา เอโส น พฺราหฺมโณฯ
Evaṃ vāseṭṭha jānāhi, rājā eso na brāhmaṇo.
๖๒๕.
625.
‘‘น จาหํ พฺราหฺมณํ พฺรูมิ, โยนิชํ มตฺติสมฺภวํ;
‘‘Na cāhaṃ brāhmaṇaṃ brūmi, yonijaṃ mattisambhavaṃ;
อกิญฺจนํ อนาทานํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ
Akiñcanaṃ anādānaṃ, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.
๖๒๖.
626.
‘‘สพฺพสํโยชนํ เฉตฺวา, โส เว น ปริตสฺสติ;
‘‘Sabbasaṃyojanaṃ chetvā, so ve na paritassati;
สงฺคาติคํ วิสํยุตฺตํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ
Saṅgātigaṃ visaṃyuttaṃ, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.
๖๒๗.
627.
‘‘เฉตฺวา นทฺธิํ วรตฺตญฺจ, สนฺทานํ สหนุกฺกมํ;
‘‘Chetvā naddhiṃ varattañca, sandānaṃ sahanukkamaṃ;
อุกฺขิตฺตปลิฆํ พุทฺธํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ
Ukkhittapalighaṃ buddhaṃ, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.
๖๒๘.
628.
‘‘อโกฺกสํ วธพนฺธญฺจ, อทุโฎฺฐ โย ติติกฺขติ;
‘‘Akkosaṃ vadhabandhañca, aduṭṭho yo titikkhati;
ขนฺตีพลํ พลานีกํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ
Khantībalaṃ balānīkaṃ, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.
๖๒๙.
629.
‘‘อโกฺกธนํ วตวนฺตํ, สีลวนฺตํ อนุสฺสทํ;
‘‘Akkodhanaṃ vatavantaṃ, sīlavantaṃ anussadaṃ;
ทนฺตํ อนฺติมสารีรํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ
Dantaṃ antimasārīraṃ, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.
๖๓๐.
630.
‘‘วาริ โปกฺขรปเตฺตว, อารเคฺคริว สาสโป;
‘‘Vāri pokkharapatteva, āraggeriva sāsapo;
โย น ลิมฺปติ กาเมสุ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ
Yo na limpati kāmesu, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.
๖๓๑.
631.
‘‘โย ทุกฺขสฺส ปชานาติ, อิเธว ขยมตฺตโน;
‘‘Yo dukkhassa pajānāti, idheva khayamattano;
ปนฺนภารํ วิสํยุตฺตํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ
Pannabhāraṃ visaṃyuttaṃ, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.
๖๓๒.
632.
‘‘คมฺภีรปญฺญํ เมธาวิํ, มคฺคามคฺคสฺส โกวิทํ;
‘‘Gambhīrapaññaṃ medhāviṃ, maggāmaggassa kovidaṃ;
อุตฺตมตฺถมนุปฺปตฺตํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ
Uttamatthamanuppattaṃ, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.
๖๓๓.
633.
‘‘อสํสฎฺฐํ คหเฎฺฐหิ, อนาคาเรหิ จูภยํ;
‘‘Asaṃsaṭṭhaṃ gahaṭṭhehi, anāgārehi cūbhayaṃ;
อโนกสาริมปฺปิจฺฉํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ
Anokasārimappicchaṃ, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.
๖๓๔.
634.
‘‘นิธาย ทณฺฑํ ภูเตสุ, ตเสสุ ถาวเรสุ จ;
‘‘Nidhāya daṇḍaṃ bhūtesu, tasesu thāvaresu ca;
โย น หนฺติ น ฆาเตติ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ
Yo na hanti na ghāteti, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.
๖๓๕.
635.
‘‘อวิรุทฺธํ วิรุเทฺธสุ, อตฺตทเณฺฑสุ นิพฺพุตํ;
‘‘Aviruddhaṃ viruddhesu, attadaṇḍesu nibbutaṃ;
สาทาเนสุ อนาทานํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ
Sādānesu anādānaṃ, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.
๖๓๖.
636.
‘‘ยสฺส ราโค จ โทโส จ, มาโน มโกฺข จ ปาติโต;
‘‘Yassa rāgo ca doso ca, māno makkho ca pātito;
สาสโปริว อารคฺคา, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ
Sāsaporiva āraggā, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.
๖๓๗.
637.
‘‘อกกฺกสํ วิญฺญาปนิํ, คิรํ สจฺจมุทีรเย;
‘‘Akakkasaṃ viññāpaniṃ, giraṃ saccamudīraye;
ยาย นาภิสเช กญฺจิ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ
Yāya nābhisaje kañci, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.
๖๓๘.
638.
‘‘โยธ ทีฆํ ว รสฺสํ วา, อณุํ ถูลํ สุภาสุภํ;
‘‘Yodha dīghaṃ va rassaṃ vā, aṇuṃ thūlaṃ subhāsubhaṃ;
โลเก อทินฺนํ นาทิยติ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ
Loke adinnaṃ nādiyati, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.
๖๓๙.
639.
‘‘อาสา ยสฺส น วิชฺชนฺติ, อสฺมิํ โลเก ปรมฺหิ จ;
‘‘Āsā yassa na vijjanti, asmiṃ loke paramhi ca;
๖๔๐.
640.
‘‘ยสฺสาลยา น วิชฺชนฺติ, อญฺญาย อกถํกถี;
‘‘Yassālayā na vijjanti, aññāya akathaṃkathī;
อมโตคธมนุปฺปตฺตํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ
Amatogadhamanuppattaṃ, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.
๖๔๑.
641.
‘‘โยธ ปุญฺญญฺจ ปาปญฺจ, อุโภ สงฺคมุปจฺจคา;
‘‘Yodha puññañca pāpañca, ubho saṅgamupaccagā;
อโสกํ วิรชํ สุทฺธํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ
Asokaṃ virajaṃ suddhaṃ, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.
๖๔๒.
642.
‘‘จนฺทํว วิมลํ สุทฺธํ, วิปฺปสนฺนมนาวิลํ;
‘‘Candaṃva vimalaṃ suddhaṃ, vippasannamanāvilaṃ;
นนฺทีภวปริกฺขีณํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ
Nandībhavaparikkhīṇaṃ, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.
๖๔๓.
643.
‘‘โยมํ ปลิปถํ ทุคฺคํ, สํสารํ โมหมจฺจคา;
‘‘Yomaṃ palipathaṃ duggaṃ, saṃsāraṃ mohamaccagā;
ติโณฺณ ปารงฺคโต ฌายี, อเนโช อกถํกถี;
Tiṇṇo pāraṅgato jhāyī, anejo akathaṃkathī;
อนุปาทาย นิพฺพุโต, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ
Anupādāya nibbuto, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.
๖๔๔.
644.
‘‘โยธ กาเม ปหนฺตฺวาน, อนาคาโร ปริพฺพเช;
‘‘Yodha kāme pahantvāna, anāgāro paribbaje;
กามภวปริกฺขีณํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ
Kāmabhavaparikkhīṇaṃ, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.
๖๔๕.
645.
‘‘โยธ ตณฺหํ ปหนฺตฺวาน, อนาคาโร ปริพฺพเช;
‘‘Yodha taṇhaṃ pahantvāna, anāgāro paribbaje;
ตณฺหาภวปริกฺขีณํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ
Taṇhābhavaparikkhīṇaṃ, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.
๖๔๖.
646.
‘‘หิตฺวา มานุสกํ โยคํ, ทิพฺพํ โยคํ อุปจฺจคา;
‘‘Hitvā mānusakaṃ yogaṃ, dibbaṃ yogaṃ upaccagā;
สพฺพโยควิสํยุตฺตํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ
Sabbayogavisaṃyuttaṃ, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.
๖๔๗.
647.
‘‘หิตฺวา รติญฺจ อรติํ, สีติภูตํ นิรูปธิํ;
‘‘Hitvā ratiñca aratiṃ, sītibhūtaṃ nirūpadhiṃ;
สพฺพโลกาภิภุํ วีรํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ
Sabbalokābhibhuṃ vīraṃ, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.
๖๔๘.
648.
อสตฺตํ สุคตํ พุทฺธํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ
Asattaṃ sugataṃ buddhaṃ, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.
๖๔๙.
649.
‘‘ยสฺส คติํ น ชานนฺติ, เทวา คนฺธพฺพมานุสา;
‘‘Yassa gatiṃ na jānanti, devā gandhabbamānusā;
ขีณาสวํ อรหนฺตํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ
Khīṇāsavaṃ arahantaṃ, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.
๖๕๐.
650.
‘‘ยสฺส ปุเร จ ปจฺฉา จ, มเชฺฌ จ นตฺถิ กิญฺจนํ;
‘‘Yassa pure ca pacchā ca, majjhe ca natthi kiñcanaṃ;
อกิญฺจนํ อนาทานํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ
Akiñcanaṃ anādānaṃ, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.
๖๕๑.
651.
‘‘อุสภํ ปวรํ วีรํ, มเหสิํ วิชิตาวินํ;
‘‘Usabhaṃ pavaraṃ vīraṃ, mahesiṃ vijitāvinaṃ;
อเนชํ นฺหาตกํ พุทฺธํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ
Anejaṃ nhātakaṃ buddhaṃ, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.
๖๕๒.
652.
อโถ ชาติกฺขยํ ปโตฺต, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํฯ
Atho jātikkhayaṃ patto, tamahaṃ brūmi brāhmaṇaṃ.
๖๕๓.
653.
‘‘สมญฺญา เหสา โลกสฺมิํ, นามโคตฺตํ ปกปฺปิตํ;
‘‘Samaññā hesā lokasmiṃ, nāmagottaṃ pakappitaṃ;
สมฺมุจฺจา สมุทาคตํ, ตตฺถ ตตฺถ ปกปฺปิตํฯ
Sammuccā samudāgataṃ, tattha tattha pakappitaṃ.
๖๕๔.
654.
‘‘ทีฆรตฺตมนุสยิตํ, ทิฎฺฐิคตมชานตํ;
‘‘Dīgharattamanusayitaṃ, diṭṭhigatamajānataṃ;
๖๕๕.
655.
‘‘น ชจฺจา พฺราหฺมโณ โหติ, น ชจฺจา โหติ อพฺราหฺมโณ;
‘‘Na jaccā brāhmaṇo hoti, na jaccā hoti abrāhmaṇo;
กมฺมุนา พฺราหฺมโณ โหติ, กมฺมุนา โหติ อพฺราหฺมโณฯ
Kammunā brāhmaṇo hoti, kammunā hoti abrāhmaṇo.
๖๕๖.
656.
‘‘กสฺสโก กมฺมุนา โหติ, สิปฺปิโก โหติ กมฺมุนา;
‘‘Kassako kammunā hoti, sippiko hoti kammunā;
วาณิโช กมฺมุนา โหติ, เปสฺสิโก โหติ กมฺมุนาฯ
Vāṇijo kammunā hoti, pessiko hoti kammunā.
๖๕๗.
657.
‘‘โจโรปิ กมฺมุนา โหติ, โยธาชีโวปิ กมฺมุนา;
‘‘Coropi kammunā hoti, yodhājīvopi kammunā;
ยาชโก กมฺมุนา โหติ, ราชาปิ โหติ กมฺมุนาฯ
Yājako kammunā hoti, rājāpi hoti kammunā.
๖๕๘.
658.
‘‘เอวเมตํ ยถาภูตํ, กมฺมํ ปสฺสนฺติ ปณฺฑิตา;
‘‘Evametaṃ yathābhūtaṃ, kammaṃ passanti paṇḍitā;
ปฎิจฺจสมุปฺปาททสฺสา, กมฺมวิปากโกวิทาฯ
Paṭiccasamuppādadassā, kammavipākakovidā.
๖๕๙.
659.
‘‘กมฺมุนา วตฺตติ โลโก, กมฺมุนา วตฺตติ ปชา;
‘‘Kammunā vattati loko, kammunā vattati pajā;
กมฺมนิพนฺธนา สตฺตา, รถสฺสาณีว ยายโตฯ
Kammanibandhanā sattā, rathassāṇīva yāyato.
๖๖๐.
660.
‘‘ตเปน พฺรหฺมจริเยน, สํยเมน ทเมน จ;
‘‘Tapena brahmacariyena, saṃyamena damena ca;
เอเตน พฺราหฺมโณ โหติ, เอตํ พฺราหฺมณมุตฺตมํฯ
Etena brāhmaṇo hoti, etaṃ brāhmaṇamuttamaṃ.
๖๖๑.
661.
‘‘ตีหิ วิชฺชาหิ สมฺปโนฺน, สโนฺต ขีณปุนพฺภโว;
‘‘Tīhi vijjāhi sampanno, santo khīṇapunabbhavo;
เอวํ วาเสฎฺฐ ชานาหิ, พฺรหฺมา สโกฺก วิชานต’’นฺติฯ
Evaṃ vāseṭṭha jānāhi, brahmā sakko vijānata’’nti.
เอวํ วุเตฺต, วาเสฎฺฐภารทฺวาชา มาณวา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป.… อุปาสเก โน ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตเคฺค ปาณุเปเต 29 สรณํ คเต’’ติฯ
Evaṃ vutte, vāseṭṭhabhāradvājā māṇavā bhagavantaṃ etadavocuṃ – ‘‘abhikkantaṃ, bho gotama…pe… upāsake no bhavaṃ gotamo dhāretu ajjatagge pāṇupete 30 saraṇaṃ gate’’ti.
วาเสฎฺฐสุตฺตํ นวมํ นิฎฺฐิตํฯ
Vāseṭṭhasuttaṃ navamaṃ niṭṭhitaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / สุตฺตนิปาต-อฎฺฐกถา • Suttanipāta-aṭṭhakathā / ๙. วาเสฎฺฐสุตฺตวณฺณนา • 9. Vāseṭṭhasuttavaṇṇanā