Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) |
๙. วาสิชฎสุตฺตวณฺณนา
9. Vāsijaṭasuttavaṇṇanā
๑๐๑. นวเม เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, กุกฺกุฎิยา อณฺฑานีติ อิมา กณฺหปกฺขสุกฺกปกฺขวเสน เทฺว อุปมา วุตฺตาฯ ตาสุ กณฺหปกฺขอุปมา อตฺถสฺส อสาธิกา, อิตรา สาธิกาติฯ สุกฺกปกฺขอุปมาย เอวํ อโตฺถ เวทิตโพฺพ – เสยฺยถาติ โอปมฺมเตฺถ นิปาโต, อปีติ สมฺภาวนเตฺถฯ อุภเยนาปิ เสยฺยถา นาม, ภิกฺขเวติ ทเสฺสติฯ กุกฺกุฎิยา อณฺฑานิ อฎฺฐ วา ทส วา ทส วา ทฺวาทส วาติ เอตฺถ ปน กิญฺจาปิ กุกฺกุฎิยา วุตฺตปฺปการโต อูนาธิกานิปิ อณฺฑานิ โหนฺติ, วจนสิลิฎฺฐตาย ปน เอวํ วุตฺตํฯ เอวญฺหิ โลเก สิลิฎฺฐวจนํ โหติฯ ตานสฺสูติ ตานิ อสฺสุ, ตานิ ภเวยฺยุนฺติ อโตฺถฯ กุกฺกุฎิยา สมฺมา อธิสยิตานีติ ตาย จ ชเนตฺติยา กุกฺกุฎิยา ปเกฺข ปสาเรตฺวา เตสํ อุปริ สยนฺติยา สมฺมา อธิสยิตานิฯ สมฺมา ปริเสทิตานีติ กาเลน กาลํ อุตุํ คณฺหาเปนฺติยา สุฎฺฐุ สมนฺตโต เสทิตานิ อุสฺมีกตานิฯ สมฺมา ปริภาวิตานีติ กาเลน กาลํ สุฎฺฐุ สมนฺตโต ภาวิตานิ, กุกฺกุฎคนฺธํ คาหาปิตานีติ อโตฺถฯ กิญฺจาปิ ตสฺสา กุกฺกุฎิยาติ ตสฺสา กุกฺกุฎิยา อิมินา ติวิธกิริยากรเณน อปฺปมาทํ กตฺวา กิญฺจาปิ น เอวํ อิจฺฉา อุปเชฺชยฺยฯ อถ โข ภพฺพาว เตติ อถ โข เต กุกฺกุฎโปตกา วุตฺตนเยน โสตฺถินา อภินิพฺภิชฺชิตุํ ภพฺพาวฯ เต หิ ยสฺมา ตาย กุกฺกุฎิยา เอวํ ตีหากาเรหิ ตานิ อณฺฑานิ ปริปาลิยมานานิ น ปูตีนิ โหนฺติ, โย เนสํ อลฺลสิเนโห, โสปิ ปริยาทานํ คจฺฉติ, กปาลํ ตนุกํ โหติ, ปาทนขสิขา จ มุขตุณฺฑกญฺจ ขรํ โหติ, สยมฺปิ ปริณามํ คจฺฉนฺติ, กปาลสฺส ตนุตฺตา พหิ อาโลโก อโนฺต ปญฺญายติ, ตสฺมา ‘‘จิรํ วต มยํ สงฺกุฎิตหตฺถปาทา สมฺพาเธ สยิมฺหา, อยญฺจ พหิ อาโลโก ทิสฺสติ, เอตฺถ ทานิ โน สุขวิหาโร ภวิสฺสตี’’ติ นิกฺขมิตุกามา หุตฺวา กปาลํ ปาเทน ปหรนฺติ, คีวํ ปสาเรนฺติ, ตโต ตํ กปาลํ เทฺวธา ภิชฺชติฯ อถ เต ปเกฺข วิธุนนฺตา ตํขณานุรูปํ วิรวนฺตา นิกฺขมนฺติเยว, นิกฺขมิตฺวา จ คามเกฺขตฺตํ อุปโสภยมานา วิจรนฺติฯ
101. Navame seyyathāpi, bhikkhave, kukkuṭiyā aṇḍānīti imā kaṇhapakkhasukkapakkhavasena dve upamā vuttā. Tāsu kaṇhapakkhaupamā atthassa asādhikā, itarā sādhikāti. Sukkapakkhaupamāya evaṃ attho veditabbo – seyyathāti opammatthe nipāto, apīti sambhāvanatthe. Ubhayenāpi seyyathā nāma, bhikkhaveti dasseti. Kukkuṭiyā aṇḍāni aṭṭha vā dasa vā dasa vā dvādasa vāti ettha pana kiñcāpi kukkuṭiyā vuttappakārato ūnādhikānipi aṇḍāni honti, vacanasiliṭṭhatāya pana evaṃ vuttaṃ. Evañhi loke siliṭṭhavacanaṃ hoti. Tānassūti tāni assu, tāni bhaveyyunti attho. Kukkuṭiyā sammā adhisayitānīti tāya ca janettiyā kukkuṭiyā pakkhe pasāretvā tesaṃ upari sayantiyā sammā adhisayitāni. Sammā pariseditānīti kālena kālaṃ utuṃ gaṇhāpentiyā suṭṭhu samantato seditāni usmīkatāni. Sammā paribhāvitānīti kālena kālaṃ suṭṭhu samantato bhāvitāni, kukkuṭagandhaṃ gāhāpitānīti attho. Kiñcāpi tassā kukkuṭiyāti tassā kukkuṭiyā iminā tividhakiriyākaraṇena appamādaṃ katvā kiñcāpi na evaṃ icchā upajjeyya. Athakho bhabbāva teti atha kho te kukkuṭapotakā vuttanayena sotthinā abhinibbhijjituṃ bhabbāva. Te hi yasmā tāya kukkuṭiyā evaṃ tīhākārehi tāni aṇḍāni paripāliyamānāni na pūtīni honti, yo nesaṃ allasineho, sopi pariyādānaṃ gacchati, kapālaṃ tanukaṃ hoti, pādanakhasikhā ca mukhatuṇḍakañca kharaṃ hoti, sayampi pariṇāmaṃ gacchanti, kapālassa tanuttā bahi āloko anto paññāyati, tasmā ‘‘ciraṃ vata mayaṃ saṅkuṭitahatthapādā sambādhe sayimhā, ayañca bahi āloko dissati, ettha dāni no sukhavihāro bhavissatī’’ti nikkhamitukāmā hutvā kapālaṃ pādena paharanti, gīvaṃ pasārenti, tato taṃ kapālaṃ dvedhā bhijjati. Atha te pakkhe vidhunantā taṃkhaṇānurūpaṃ viravantā nikkhamantiyeva, nikkhamitvā ca gāmakkhettaṃ upasobhayamānā vicaranti.
เอวเมว โขติ อิทํ โอปมฺมสมฺปฎิปาทนํฯ ตํ เอวํ อเตฺถน สํสนฺทิตฺวา เวทิตพฺพํ – ตสฺสา กุกฺกุฎิยา อเณฺฑสุ ติวิธกิริยากรณํ วิย หิ อิมสฺส ภิกฺขุโน ภาวานุโยคํ อนุยุตฺตกาโล, กุกฺกุฎิยา ติวิธกิริยาสมฺปาทเนน อณฺฑานํ อปูติภาโว วิย ภาวนานุโยคมนุยุตฺตสฺส ภิกฺขุโน ติวิธานุปสฺสนาสมฺปาทเนน วิปสฺสนาญาณสฺส อปริหานิ, ตสฺสา ติวิธกิริยากรเณน อลฺลสิเนหปริยาทานํ วิย ตสฺส ภิกฺขุโน ติวิธานุปสฺสนาสมฺปาทเนน ภวตฺตยานุคตนิกนฺติสิเนหปริยาทานํ, อณฺฑกปาลานํ ตนุภาโว วิย ตสฺส ภิกฺขุโน อวิชฺชณฺฑโกสสฺส ตนุภาโว, กุกฺกุฎโปตกานํ ปาทนขสิขมุขตุณฺฑกานํ ถทฺธขรภาโว วิย ภิกฺขุโน วิปสฺสนาญาณสฺส ติกฺขขรวิปฺปสนฺน สูรภาโว, กุกฺกุฎโปตกานํ ปริณามกาโล วิย ภิกฺขุโน วิปสฺสนาญาณสฺส ปริณามกาโล วฑฺฒิตกาโล คพฺภคฺคหณกาโล, กุกฺกุฎโปตกานํ ปาทนขสิขาย วา มุขตุณฺฑเกน วา อณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา ปเกฺข ปโปฺผเฎตฺวา โสตฺถินา อภินิพฺภิทากาโล วิย ตสฺส ภิกฺขุโน วิปสฺสนาญาณคพฺภํ คณฺหาเปตฺวา วิจรนฺตสฺส ตชฺชาติกํ อุตุสปฺปายํ วา โภชนสปฺปายํ วา ปุคฺคลสปฺปายํ วา ธมฺมสฺสวนสปฺปายํ วา ลภิตฺวา เอกาสเน นิสินฺนเสฺสว วิปสฺสนํ วเฑฺฒนฺตสฺส อนุปุพฺพาธิคเตน อรหตฺตมเคฺคน อวิชฺชณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา อภิญฺญาปเกฺข ปโปฺผเฎตฺวา โสตฺถินา อรหตฺตปตฺตกาโล เวทิตโพฺพฯ ยถา ปน กุกฺกุฎโปตกานํ ปริณตภาวํ ญตฺวา มาตาปิ อณฺฑโกสํ ภินฺทติ, เอวํ ตถารูปสฺส ภิกฺขุโน ญาณปริปากํ ญตฺวา สตฺถาปิ –
Evameva khoti idaṃ opammasampaṭipādanaṃ. Taṃ evaṃ atthena saṃsanditvā veditabbaṃ – tassā kukkuṭiyā aṇḍesu tividhakiriyākaraṇaṃ viya hi imassa bhikkhuno bhāvānuyogaṃ anuyuttakālo, kukkuṭiyā tividhakiriyāsampādanena aṇḍānaṃ apūtibhāvo viya bhāvanānuyogamanuyuttassa bhikkhuno tividhānupassanāsampādanena vipassanāñāṇassa aparihāni, tassā tividhakiriyākaraṇena allasinehapariyādānaṃ viya tassa bhikkhuno tividhānupassanāsampādanena bhavattayānugatanikantisinehapariyādānaṃ, aṇḍakapālānaṃ tanubhāvo viya tassa bhikkhuno avijjaṇḍakosassa tanubhāvo, kukkuṭapotakānaṃ pādanakhasikhamukhatuṇḍakānaṃ thaddhakharabhāvo viya bhikkhuno vipassanāñāṇassa tikkhakharavippasanna sūrabhāvo, kukkuṭapotakānaṃ pariṇāmakālo viya bhikkhuno vipassanāñāṇassa pariṇāmakālo vaḍḍhitakālo gabbhaggahaṇakālo, kukkuṭapotakānaṃ pādanakhasikhāya vā mukhatuṇḍakena vā aṇḍakosaṃ padāletvā pakkhe papphoṭetvā sotthinā abhinibbhidākālo viya tassa bhikkhuno vipassanāñāṇagabbhaṃ gaṇhāpetvā vicarantassa tajjātikaṃ utusappāyaṃ vā bhojanasappāyaṃ vā puggalasappāyaṃ vā dhammassavanasappāyaṃ vā labhitvā ekāsane nisinnasseva vipassanaṃ vaḍḍhentassa anupubbādhigatena arahattamaggena avijjaṇḍakosaṃ padāletvā abhiññāpakkhe papphoṭetvā sotthinā arahattapattakālo veditabbo. Yathā pana kukkuṭapotakānaṃ pariṇatabhāvaṃ ñatvā mātāpi aṇḍakosaṃ bhindati, evaṃ tathārūpassa bhikkhuno ñāṇaparipākaṃ ñatvā satthāpi –
‘‘อุจฺฉินฺท สิเนหมตฺตโน, กุมุทํ สารทิกํว ปาณินา;
‘‘Ucchinda sinehamattano, kumudaṃ sāradikaṃva pāṇinā;
สนฺติมคฺคเมว พฺรูหย, นิพฺพานํ สุคเตน เทสิต’’นฺติฯ (ธ. ป. ๒๘๕) –
Santimaggameva brūhaya, nibbānaṃ sugatena desita’’nti. (dha. pa. 285) –
อาทินา นเยน โอภาสํ ผริตฺวา คาถาย อวิชฺชณฺฑโกสํ ปหรติฯ โส คาถาปริโยสาเน อวิชฺชณฺฑโกสํ ภินฺทิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติฯ ตโต ปฎฺฐาย ยถา เต กุกฺกุฎโปตกา คามเกฺขตฺตํ อุปโสภยมานา ตตฺถ วิจรนฺติ, เอวํ อยมฺปิ มหาขีณาสโว นิพฺพานารมฺมณํ ผลสมาปตฺติํ อเปฺปตฺวา สงฺฆารามํ อุปโสภยมาโน วิจรติฯ
Ādinā nayena obhāsaṃ pharitvā gāthāya avijjaṇḍakosaṃ paharati. So gāthāpariyosāne avijjaṇḍakosaṃ bhinditvā arahattaṃ pāpuṇāti. Tato paṭṭhāya yathā te kukkuṭapotakā gāmakkhettaṃ upasobhayamānā tattha vicaranti, evaṃ ayampi mahākhīṇāsavo nibbānārammaṇaṃ phalasamāpattiṃ appetvā saṅghārāmaṃ upasobhayamāno vicarati.
ปลคณฺฑสฺสาติ วฑฺฒกิสฺสฯ โส หิ โอลมฺพกสงฺขาตํ ปลํ ธาเรตฺวา ทารูนํ คณฺฑํ หรตีติ ปลคโณฺฑติ วุจฺจติฯ วาสิชเฎติ วาสิทณฺฑกสฺส คหณฎฺฐาเนฯ เอตฺตกํ วต เม อชฺช อาสวานํ ขีณนฺติ ปพฺพชิตสฺส หิ ปพฺพชฺชาสเงฺขเปน อุเทฺทเสน ปริปุจฺฉาย โยนิโส มนสิกาเรน วตฺตปฎิปตฺติยา จ นิจฺจกาลํ อาสวา ขียนฺติฯ เอวํ ขียมานานํ ปน เตสํ ‘‘เอตฺตกํ อชฺช ขีณํ, เอตฺตกํ หิโยฺย’’ติ เอวมสฺส ญาณํ น โหตีติ อโตฺถฯ อิมาย อุปมาย วิปสฺสนายานิสํโส ทีปิโตฯ เหมนฺติเกนาติ เหมนฺตสมเยนฯ ปฎิปฺปสฺสมฺภนฺตีติ ถิรภาเวน ปริหายนฺติฯ
Palagaṇḍassāti vaḍḍhakissa. So hi olambakasaṅkhātaṃ palaṃ dhāretvā dārūnaṃ gaṇḍaṃ haratīti palagaṇḍoti vuccati. Vāsijaṭeti vāsidaṇḍakassa gahaṇaṭṭhāne. Ettakaṃ vata me ajja āsavānaṃ khīṇanti pabbajitassa hi pabbajjāsaṅkhepena uddesena paripucchāya yoniso manasikārena vattapaṭipattiyā ca niccakālaṃ āsavā khīyanti. Evaṃ khīyamānānaṃ pana tesaṃ ‘‘ettakaṃ ajja khīṇaṃ, ettakaṃ hiyyo’’ti evamassa ñāṇaṃ na hotīti attho. Imāya upamāya vipassanāyānisaṃso dīpito. Hemantikenāti hemantasamayena. Paṭippassambhantīti thirabhāvena parihāyanti.
เอวเมว โขติ เอตฺถ มหาสมุโทฺท วิย สาสนํ ทฎฺฐพฺพํ, นาวา วิย โยคาวจโร, นาวาย มหาสมุเทฺท ปริยาทานํ วิย อิมสฺส ภิกฺขุโน อูนปญฺจวสฺสกาเล อาจริยุปชฺฌายานํ สนฺติเก วิจรณํ, นาวาย มหาสมุโทฺททเกน ขชฺชมานานํ พนฺธนานํ ตนุภาโว วิย ภิกฺขุโน ปพฺพชฺชาสเงฺขเปน อุเทฺทสปริปุจฺฉาทีหิ เจว สํโยชนานํ ตนุภาโว, นาวาย ถเล อุกฺขิตฺตกาโล วิย ภิกฺขุโน นิสฺสยมุจฺจกสฺส กมฺมฎฺฐานํ คเหตฺวา อรเญฺญ วสนกาโล, ทิวา วาตาตเปน สํสุสฺสนํ วิย วิปสฺสนาญาเณน ตณฺหาเสฺนหสํสุสฺสนํ, รตฺติํ หิโมทเกน เตมนํ วิย กมฺมฎฺฐานํ นิสฺสาย อุปฺปเนฺนน ปีติปาโมเชฺชน จิตฺตเตมนํ, รตฺตินฺทิวํ วาตาตเปน เจว หิโมทเกน จ ปริสุกฺขปริตินฺตานํ พนฺธนานํ ทุพฺพลภาโว วิย เอกทิวสํ อุตุสปฺปายาทีนิ ลทฺธา วิปสฺสนาญาณปีติปาโมเชฺชหิ สํโยชนานํ ภิโยฺยโสมตฺตาย ทุพฺพลภาโว, ปาวุสฺสกเมโฆ วิย อรหตฺตมคฺคญาณํ , เมฆวุฎฺฐิอุทเกน นาวาย พเนฺธ ปูติภาโว วิย อารทฺธวิปสฺสกสฺส รูปสตฺตกาทิวเสน วิปสฺสนํ วเฑฺฒนฺตสฺส โอกฺขายมาเน ปกฺขายมาเน กมฺมฎฺฐาเน เอกทิวสํ อุตุสปฺปายาทีนิ ลทฺธา เอกปลฺลเงฺกน นิสินฺนสฺส อรหตฺตผลาธิคโม, ปูติพนฺธนาวาย กญฺจิ กาลํ ฐานํ วิย ขีณสํโยชนสฺส อรหโต มหาชนํ อนุคฺคณฺหนฺตสฺส ยาวตายุกํ ฐานํ, ปูติพนฺธนาวาย อนุปุเพฺพน ภิชฺชิตฺวา อปณฺณตฺติกภาวูปคโม วิย ขีณาสวสฺส อุปาทิณฺณกฺขนฺธเภเทน อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพุตสฺส อปณฺณตฺติกภาวูปคโมติ อิมาย อุปมาย สํโยชนานํ ทุพฺพลตา ทีปิตาฯ นวมํฯ
Evameva khoti ettha mahāsamuddo viya sāsanaṃ daṭṭhabbaṃ, nāvā viya yogāvacaro, nāvāya mahāsamudde pariyādānaṃ viya imassa bhikkhuno ūnapañcavassakāle ācariyupajjhāyānaṃ santike vicaraṇaṃ, nāvāya mahāsamuddodakena khajjamānānaṃ bandhanānaṃ tanubhāvo viya bhikkhuno pabbajjāsaṅkhepena uddesaparipucchādīhi ceva saṃyojanānaṃ tanubhāvo, nāvāya thale ukkhittakālo viya bhikkhuno nissayamuccakassa kammaṭṭhānaṃ gahetvā araññe vasanakālo, divā vātātapena saṃsussanaṃ viya vipassanāñāṇena taṇhāsnehasaṃsussanaṃ, rattiṃ himodakena temanaṃ viya kammaṭṭhānaṃ nissāya uppannena pītipāmojjena cittatemanaṃ, rattindivaṃ vātātapena ceva himodakena ca parisukkhaparitintānaṃ bandhanānaṃ dubbalabhāvo viya ekadivasaṃ utusappāyādīni laddhā vipassanāñāṇapītipāmojjehi saṃyojanānaṃ bhiyyosomattāya dubbalabhāvo, pāvussakamegho viya arahattamaggañāṇaṃ , meghavuṭṭhiudakena nāvāya bandhe pūtibhāvo viya āraddhavipassakassa rūpasattakādivasena vipassanaṃ vaḍḍhentassa okkhāyamāne pakkhāyamāne kammaṭṭhāne ekadivasaṃ utusappāyādīni laddhā ekapallaṅkena nisinnassa arahattaphalādhigamo, pūtibandhanāvāya kañci kālaṃ ṭhānaṃ viya khīṇasaṃyojanassa arahato mahājanaṃ anuggaṇhantassa yāvatāyukaṃ ṭhānaṃ, pūtibandhanāvāya anupubbena bhijjitvā apaṇṇattikabhāvūpagamo viya khīṇāsavassa upādiṇṇakkhandhabhedena anupādisesāya nibbānadhātuyā parinibbutassa apaṇṇattikabhāvūpagamoti imāya upamāya saṃyojanānaṃ dubbalatā dīpitā. Navamaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๙. วาสิชฎสุตฺตํ • 9. Vāsijaṭasuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๙. วาสิชฎสุตฺตวณฺณนา • 9. Vāsijaṭasuttavaṇṇanā