Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya

    ๗. วสฺสการสุตฺตํ

    7. Vassakārasuttaṃ

    ๑๘๗. เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเปฯ อถ โข วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มคธมหามโตฺต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สโมฺมทิฯ สโมฺมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มคธมหามโตฺต ภควนฺตํ เอตทโวจ –

    187. Ekaṃ samayaṃ bhagavā rājagahe viharati veḷuvane kalandakanivāpe. Atha kho vassakāro brāhmaṇo magadhamahāmatto yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavatā saddhiṃ sammodi. Sammodanīyaṃ kathaṃ sāraṇīyaṃ vītisāretvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho vassakāro brāhmaṇo magadhamahāmatto bhagavantaṃ etadavoca –

    ‘‘ชาเนยฺย นุ โข, โภ โคตม, อสปฺปุริโส อสปฺปุริสํ – ‘อสปฺปุริโส อยํ ภว’’’นฺติ? ‘‘อฎฺฐานํ โข เอตํ, พฺราหฺมณ, อนวกาโส ยํ อสปฺปุริโส อสปฺปุริสํ ชาเนยฺย – ‘อสปฺปุริโส อยํ ภว’’’นฺติฯ ‘‘ชาเนยฺย ปน, โภ โคตม, อสปฺปุริโส สปฺปุริสํ – ‘สปฺปุริโส อยํ ภว’’’นฺติ? ‘‘เอตมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, อฎฺฐานํ อนวกาโส ยํ อสปฺปุริโส สปฺปุริสํ ชาเนยฺย – ‘สปฺปุริโส อยํ ภว’’’นฺติฯ ‘‘ชาเนยฺย นุ โข, โภ โคตม, สปฺปุริโส สปฺปุริสํ – ‘สปฺปุริโส อยํ ภว’’’นฺติ? ‘‘ฐานํ โข เอตํ, พฺราหฺมณ, วิชฺชติ ยํ สปฺปุริโส สปฺปุริสํ ชาเนยฺย – ‘สปฺปุริโส อยํ ภว’’’นฺติฯ ‘‘ชาเนยฺย ปน, โภ โคตม, สปฺปุริโส อสปฺปุริสํ – ‘อสปฺปุริโส อยํ ภว’’’นฺติ? ‘‘เอตมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, ฐานํ วิชฺชติ ยํ สปฺปุริโส อสปฺปุริสํ ชาเนยฺย – ‘อสปฺปุริโส อยํ ภว’’’นฺติฯ

    ‘‘Jāneyya nu kho, bho gotama, asappuriso asappurisaṃ – ‘asappuriso ayaṃ bhava’’’nti? ‘‘Aṭṭhānaṃ kho etaṃ, brāhmaṇa, anavakāso yaṃ asappuriso asappurisaṃ jāneyya – ‘asappuriso ayaṃ bhava’’’nti. ‘‘Jāneyya pana, bho gotama, asappuriso sappurisaṃ – ‘sappuriso ayaṃ bhava’’’nti? ‘‘Etampi kho, brāhmaṇa, aṭṭhānaṃ anavakāso yaṃ asappuriso sappurisaṃ jāneyya – ‘sappuriso ayaṃ bhava’’’nti. ‘‘Jāneyya nu kho, bho gotama, sappuriso sappurisaṃ – ‘sappuriso ayaṃ bhava’’’nti? ‘‘Ṭhānaṃ kho etaṃ, brāhmaṇa, vijjati yaṃ sappuriso sappurisaṃ jāneyya – ‘sappuriso ayaṃ bhava’’’nti. ‘‘Jāneyya pana, bho gotama, sappuriso asappurisaṃ – ‘asappuriso ayaṃ bhava’’’nti? ‘‘Etampi kho, brāhmaṇa, ṭhānaṃ vijjati yaṃ sappuriso asappurisaṃ jāneyya – ‘asappuriso ayaṃ bhava’’’nti.

    ‘‘อจฺฉริยํ, โภ โคตม, อพฺภุตํ, โภ โคตม! ยาว สุภาสิตํ จิทํ, โภตา โคตเมน – ‘อฎฺฐานํ โข เอตํ, พฺราหฺมณ, อนวกาโส ยํ อสปฺปุริโส อสปฺปุริสํ ชาเนยฺย – อสปฺปุริโส อยํ ภวนฺติฯ เอตมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, อฎฺฐานํ อนวกาโส ยํ อสปฺปุริโส สปฺปุริสํ ชาเนยฺย – สปฺปุริโส อยํ ภวนฺติฯ ฐานํ โข เอตํ, พฺราหฺมณ, วิชฺชติ ยํ สปฺปุริโส สปฺปุริสํ ชาเนยฺย – สปฺปุริโส อยํ ภวนฺติฯ เอตมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, ฐานํ วิชฺชติ ยํ สปฺปุริโส อสปฺปุริสํ ชาเนยฺย – อสปฺปุริโส อยํ ภว’’’นฺติฯ

    ‘‘Acchariyaṃ, bho gotama, abbhutaṃ, bho gotama! Yāva subhāsitaṃ cidaṃ, bhotā gotamena – ‘aṭṭhānaṃ kho etaṃ, brāhmaṇa, anavakāso yaṃ asappuriso asappurisaṃ jāneyya – asappuriso ayaṃ bhavanti. Etampi kho, brāhmaṇa, aṭṭhānaṃ anavakāso yaṃ asappuriso sappurisaṃ jāneyya – sappuriso ayaṃ bhavanti. Ṭhānaṃ kho etaṃ, brāhmaṇa, vijjati yaṃ sappuriso sappurisaṃ jāneyya – sappuriso ayaṃ bhavanti. Etampi kho, brāhmaṇa, ṭhānaṃ vijjati yaṃ sappuriso asappurisaṃ jāneyya – asappuriso ayaṃ bhava’’’nti.

    ‘‘เอกมิทํ, โภ โคตม, สมยํ โตเทยฺยสฺส พฺราหฺมณสฺส ปริสติ ปรูปารมฺภํ วเตฺตนฺติ – ‘พาโล อยํ ราชา เอเฬโยฺย สมเณ รามปุเตฺต อภิปฺปสโนฺน, สมเณ จ ปน รามปุเตฺต เอวรูปํ ปรมนิปจฺจการํ กโรติ, ยทิทํ อภิวาทนํ ปจฺจุฎฺฐานํ อญฺชลิกมฺมํ สามีจิกมฺม’นฺติฯ อิเมปิ รโญฺญ เอเฬยฺยสฺส ปริหารกา พาลา – ยมโก โมคฺคโลฺล 1 อุโคฺค นาวินฺทกี คนฺธโพฺพ อคฺคิเวโสฺส, เย สมเณ รามปุเตฺต อภิปฺปสนฺนา, สมเณ จ ปน รามปุเตฺต เอวรูปํ ปรมนิปจฺจการํ กโรนฺติ, ยทิทํ อภิวาทนํ ปจฺจุฎฺฐานํ อญฺชลิกมฺมํ สามีจิกมฺมนฺติฯ ตฺยาสฺสุทํ โตเทโยฺย พฺราหฺมโณ อิมินา นเยน เนติฯ ตํ กิํ มญฺญนฺติ, โภโนฺต, ปณฺฑิโต ราชา เอเฬโยฺย กรณียาธิกรณีเยสุ วจนียาธิวจนีเยสุ อลมตฺถทสตเรหิ อลมตฺถทสตโร’ติ? ‘เอวํ, โภ, ปณฺฑิโต ราชา เอเฬโยฺย กรณียาธิกรณีเยสุ วจนียาธิวจนีเยสุ อลมตฺถทสตเรหิ อลมตฺถทสตโร’’’ติฯ

    ‘‘Ekamidaṃ, bho gotama, samayaṃ todeyyassa brāhmaṇassa parisati parūpārambhaṃ vattenti – ‘bālo ayaṃ rājā eḷeyyo samaṇe rāmaputte abhippasanno, samaṇe ca pana rāmaputte evarūpaṃ paramanipaccakāraṃ karoti, yadidaṃ abhivādanaṃ paccuṭṭhānaṃ añjalikammaṃ sāmīcikamma’nti. Imepi rañño eḷeyyassa parihārakā bālā – yamako moggallo 2 uggo nāvindakī gandhabbo aggivesso, ye samaṇe rāmaputte abhippasannā, samaṇe ca pana rāmaputte evarūpaṃ paramanipaccakāraṃ karonti, yadidaṃ abhivādanaṃ paccuṭṭhānaṃ añjalikammaṃ sāmīcikammanti. Tyāssudaṃ todeyyo brāhmaṇo iminā nayena neti. Taṃ kiṃ maññanti, bhonto, paṇḍito rājā eḷeyyo karaṇīyādhikaraṇīyesu vacanīyādhivacanīyesu alamatthadasatarehi alamatthadasataro’ti? ‘Evaṃ, bho, paṇḍito rājā eḷeyyo karaṇīyādhikaraṇīyesu vacanīyādhivacanīyesu alamatthadasatarehi alamatthadasataro’’’ti.

    ‘‘ยสฺมา จ โข, โภ, สมโณ รามปุโตฺต รญฺญา เอเฬเยฺยน ปณฺฑิเตน ปณฺฑิตตโร กรณียาธิกรณีเยสุ วจนียาธิวจนีเยสุ อลมตฺถทสตเรน อลมตฺถทสตโร, ตสฺมา ราชา เอเฬโยฺย สมเณ รามปุเตฺต อภิปฺปสโนฺน, สมเณ จ ปน รามปุเตฺต เอวรูปํ ปรมนิปจฺจการํ กโรติ, ยทิทํ อภิวาทนํ ปจฺจุฎฺฐานํ อญฺชลิกมฺมํ สามีจิกมฺมํ’’ฯ

    ‘‘Yasmā ca kho, bho, samaṇo rāmaputto raññā eḷeyyena paṇḍitena paṇḍitataro karaṇīyādhikaraṇīyesu vacanīyādhivacanīyesu alamatthadasatarena alamatthadasataro, tasmā rājā eḷeyyo samaṇe rāmaputte abhippasanno, samaṇe ca pana rāmaputte evarūpaṃ paramanipaccakāraṃ karoti, yadidaṃ abhivādanaṃ paccuṭṭhānaṃ añjalikammaṃ sāmīcikammaṃ’’.

    ‘‘ตํ กิํ มญฺญนฺติ, โภโนฺต, ปณฺฑิตา รโญฺญ เอเฬยฺยสฺส ปริหารกา – ยมโก โมคฺคโลฺล อุโคฺค นาวินฺทกี คนฺธโพฺพ อคฺคิเวโสฺส, กรณียาธิกรณีเยสุ วจนียาธิวจนีเยสุ อลมตฺถทสตเรหิ อลมตฺถทสตราติ? ‘เอวํ, โภ, ปณฺฑิตา รโญฺญ เอเฬยฺยสฺส ปริหารกา – ยมโก โมคฺคโลฺล อุโคฺค นาวินฺทกี คนฺธโพฺพ อคฺคิเวโสฺส, กรณียาธิกรณีเยสุ วจนียาธิวจนีเยสุ อลมตฺถทสตเรหิ อลมตฺถทสตรา’’’ติฯ

    ‘‘Taṃ kiṃ maññanti, bhonto, paṇḍitā rañño eḷeyyassa parihārakā – yamako moggallo uggo nāvindakī gandhabbo aggivesso, karaṇīyādhikaraṇīyesu vacanīyādhivacanīyesu alamatthadasatarehi alamatthadasatarāti? ‘Evaṃ, bho, paṇḍitā rañño eḷeyyassa parihārakā – yamako moggallo uggo nāvindakī gandhabbo aggivesso, karaṇīyādhikaraṇīyesu vacanīyādhivacanīyesu alamatthadasatarehi alamatthadasatarā’’’ti.

    ‘‘ยสฺมา จ โข, โภ, สมโณ รามปุโตฺต รโญฺญ เอเฬยฺยสฺส ปริหารเกหิ ปณฺฑิเตหิ ปณฺฑิตตโร กรณียาธิกรณีเยสุ วจนียาธิวจนีเยสุ อลมตฺถทสตเรหิ อลมตฺถทสตโร, ตสฺมา รโญฺญ เอเฬยฺยสฺส ปริหารกา สมเณ รามปุเตฺต อภิปฺปสนฺนา; สมเณ จ ปน รามปุเตฺต เอวรูปํ ปรมนิปจฺจการํ กโรนฺติ, ยทิทํ อภิวาทนํ ปจฺจุฎฺฐานํ อญฺชลิกมฺมํ สามีจิกมฺม’’นฺติฯ

    ‘‘Yasmā ca kho, bho, samaṇo rāmaputto rañño eḷeyyassa parihārakehi paṇḍitehi paṇḍitataro karaṇīyādhikaraṇīyesu vacanīyādhivacanīyesu alamatthadasatarehi alamatthadasataro, tasmā rañño eḷeyyassa parihārakā samaṇe rāmaputte abhippasannā; samaṇe ca pana rāmaputte evarūpaṃ paramanipaccakāraṃ karonti, yadidaṃ abhivādanaṃ paccuṭṭhānaṃ añjalikammaṃ sāmīcikamma’’nti.

    ‘‘อจฺฉริยํ, โภ, โคตม, อพฺภุตํ, โภ โคตม! ยาว สุภาสิตํ จิทํ โภตา โคตเมน – ‘อฎฺฐานํ โข เอตํ, พฺราหฺมณ, อนวกาโส ยํ อสปฺปุริโส อสปฺปุริสํ ชาเนยฺย – อสปฺปุริโส อยํ ภวนฺติฯ เอตมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, อฎฺฐานํ อนวกาโส ยํ อสปฺปุริโส สปฺปุริสํ ชาเนยฺย – สปฺปุริโส อยํ ภวนฺติฯ ฐานํ โข เอตํ, พฺราหฺมณ, วิชฺชติ ยํ สปฺปุริโส สปฺปุริสํ ชาเนยฺย – สปฺปุริโส อยํ ภวนฺติฯ เอตมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, ฐานํ วิชฺชติ ยํ สปฺปุริโส อสปฺปุริสํ ชาเนยฺย – อสปฺปุริโส อยํ ภว’นฺติฯ หนฺท จ ทานิ มยํ, โภ โคตม, คจฺฉามฯ พหุกิจฺจา มยํ พหุกรณียา’’ติฯ ‘‘ยสฺสทานิ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, กาลํ มญฺญสี’’ติฯ อถ โข วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มคธมหามโตฺต ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฎฺฐายาสนา ปกฺกามีติฯ สตฺตมํฯ

    ‘‘Acchariyaṃ, bho, gotama, abbhutaṃ, bho gotama! Yāva subhāsitaṃ cidaṃ bhotā gotamena – ‘aṭṭhānaṃ kho etaṃ, brāhmaṇa, anavakāso yaṃ asappuriso asappurisaṃ jāneyya – asappuriso ayaṃ bhavanti. Etampi kho, brāhmaṇa, aṭṭhānaṃ anavakāso yaṃ asappuriso sappurisaṃ jāneyya – sappuriso ayaṃ bhavanti. Ṭhānaṃ kho etaṃ, brāhmaṇa, vijjati yaṃ sappuriso sappurisaṃ jāneyya – sappuriso ayaṃ bhavanti. Etampi kho, brāhmaṇa, ṭhānaṃ vijjati yaṃ sappuriso asappurisaṃ jāneyya – asappuriso ayaṃ bhava’nti. Handa ca dāni mayaṃ, bho gotama, gacchāma. Bahukiccā mayaṃ bahukaraṇīyā’’ti. ‘‘Yassadāni tvaṃ, brāhmaṇa, kālaṃ maññasī’’ti. Atha kho vassakāro brāhmaṇo magadhamahāmatto bhagavato bhāsitaṃ abhinanditvā anumoditvā uṭṭhāyāsanā pakkāmīti. Sattamaṃ.







    Footnotes:
    1. ปุคฺคโล (ก.)
    2. puggalo (ka.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๗. วสฺสการสุตฺตวณฺณนา • 7. Vassakārasuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๗. วสฺสการสุตฺตวณฺณนา • 7. Vassakārasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact