Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā)

    ๒. วสฺสการสุตฺตวณฺณนา

    2. Vassakārasuttavaṇṇanā

    ๒๒. ทุติเย อภิยาตุกาโมติ อภิภวนตฺถาย ยาตุกาโมฯ วชฺชีติ วชฺชิราชาโนฯ เอวํมหิทฺธิเกติ เอวํ มหติยา ราชิทฺธิยา สมนฺนาคเตฯ เอเตน เนสํ สมคฺคภาวํ กเถติฯ เอวํมหานุภาเวติ เอวํ มหเนฺตน ราชานุภาเวน สมนฺนาคเต ฯ เอเตน เนสํ หตฺถิสิปฺปาทีสุ กตสิกฺขตํ กเถติ, ยํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘สิกฺขิตา วติเม ลิจฺฉวิกุมารกา, สุสิกฺขิตา วติเม ลิจฺฉวิกุมารกา, ยตฺร หิ นาม สุขุเมน ตาฬจฺฉิคฺคเฬน อสนํ อติปาตยิสฺสนฺติ โปงฺขานุโปงฺขํ อวิราธิต’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๑๑๑๕)ฯ อุเจฺฉจฺฉามีติ อุจฺฉินฺทิสฺสามิฯ วินาเสสฺสามีติ อทสฺสนํ นยิสฺสามิฯ อนยพฺยสนนฺติ อวฑฺฒิเญฺจว, ญาติพฺยสนญฺจฯ อาปาเทสฺสามีติ ปาปยิสฺสามิฯ

    22. Dutiye abhiyātukāmoti abhibhavanatthāya yātukāmo. Vajjīti vajjirājāno. Evaṃmahiddhiketi evaṃ mahatiyā rājiddhiyā samannāgate. Etena nesaṃ samaggabhāvaṃ katheti. Evaṃmahānubhāveti evaṃ mahantena rājānubhāvena samannāgate . Etena nesaṃ hatthisippādīsu katasikkhataṃ katheti, yaṃ sandhāya vuttaṃ – ‘‘sikkhitā vatime licchavikumārakā, susikkhitā vatime licchavikumārakā, yatra hi nāma sukhumena tāḷacchiggaḷena asanaṃ atipātayissanti poṅkhānupoṅkhaṃ avirādhita’’nti (saṃ. ni. 5.1115). Ucchecchāmīti ucchindissāmi. Vināsessāmīti adassanaṃ nayissāmi. Anayabyasananti avaḍḍhiñceva, ñātibyasanañca. Āpādessāmīti pāpayissāmi.

    อิติ กิร โส ฐานนิสชฺชาทีสุ อิมํ ยุทฺธกถเมว กเถติ, ‘‘คมนสชฺชา โหถา’’ติ จ พลกายํ อาณาเปติฯ กสฺมา? คงฺคาย กิร เอกํ ปฎฺฎนคามํ นิสฺสาย อทฺธโยชนํ อชาตสตฺตุโน วิชิตํ, อทฺธโยชนํ ลิจฺฉวีนํฯ ตตฺร ปพฺพตปาทโต มหคฺฆภณฺฑํ โอตรติฯ ตํ สุตฺวา ‘‘อชฺช ยามิ, เสฺว ยามี’’ติ อชาตสตฺตุโน สํวิทหนฺตเสฺสว ลิจฺฉวิโน สมคฺคา สโมฺมทมานา ปุเรตรํ อาคนฺตฺวา สพฺพํ คณฺหนฺติฯ อชาตสตฺตุ ปจฺฉา อาคนฺตฺวา ตํ ปวตฺติํ ญตฺวา กุชฺฌิตฺวา คจฺฉติฯ เต ปุนสํวจฺฉเรปิ ตเถว กโรนฺติฯ อถ โส พลวาฆาตชาโต, ตทา เอวมกาสิฯ

    Iti kira so ṭhānanisajjādīsu imaṃ yuddhakathameva katheti, ‘‘gamanasajjā hothā’’ti ca balakāyaṃ āṇāpeti. Kasmā? Gaṅgāya kira ekaṃ paṭṭanagāmaṃ nissāya addhayojanaṃ ajātasattuno vijitaṃ, addhayojanaṃ licchavīnaṃ. Tatra pabbatapādato mahagghabhaṇḍaṃ otarati. Taṃ sutvā ‘‘ajja yāmi, sve yāmī’’ti ajātasattuno saṃvidahantasseva licchavino samaggā sammodamānā puretaraṃ āgantvā sabbaṃ gaṇhanti. Ajātasattu pacchā āgantvā taṃ pavattiṃ ñatvā kujjhitvā gacchati. Te punasaṃvaccharepi tatheva karonti. Atha so balavāghātajāto, tadā evamakāsi.

    ตโต จิเนฺตสิ – ‘‘คเณน สทฺธิํ ยุทฺธํ นาม ภาริยํ, เอโกปิ โมฆปฺปหาโร นาม นตฺถิฯ เอเกน โข ปน ปณฺฑิเตน สทฺธิํ มเนฺตตฺวา กโรโนฺต นิรปราโธ โหติ, ปณฺฑิโต จ สตฺถารา สทิโส นตฺถิ, สตฺถา จ อวิทูเร ธุรวิหาเร วสติ, หนฺทาหํ เปเสตฺวา ปุจฺฉามิฯ สเจ เม คเตน โกจิ อโตฺถ ภวิสฺสติ, สตฺถา ตุณฺหี ภวิสฺสติฯ อนเตฺถ ปน สติ ‘กิํ รโญฺญ ตตฺถ คเตนา’ติ วกฺขตี’’ติฯ โส วสฺสการํ พฺราหฺมณํ เปเสสิฯ พฺราหฺมโณ คนฺตฺวา ภควโต ตมตฺถํ อาโรเจสิฯ เตน วุตฺตํ – อถ โข ราชา…เป.… อาปาเทสฺสามิ วชฺชีติฯ

    Tato cintesi – ‘‘gaṇena saddhiṃ yuddhaṃ nāma bhāriyaṃ, ekopi moghappahāro nāma natthi. Ekena kho pana paṇḍitena saddhiṃ mantetvā karonto niraparādho hoti, paṇḍito ca satthārā sadiso natthi, satthā ca avidūre dhuravihāre vasati, handāhaṃ pesetvā pucchāmi. Sace me gatena koci attho bhavissati, satthā tuṇhī bhavissati. Anatthe pana sati ‘kiṃ rañño tattha gatenā’ti vakkhatī’’ti. So vassakāraṃ brāhmaṇaṃ pesesi. Brāhmaṇo gantvā bhagavato tamatthaṃ ārocesi. Tena vuttaṃ – atha kho rājā…pe… āpādessāmi vajjīti.

    ภควนฺตํ พีชยมาโนติ เถโร วตฺตสีเส ฐตฺวา ภควนฺตํ พีชติ, ภควโต ปน สีตํ วา อุณฺหํ วา นตฺถิฯ ภควา พฺราหฺมณสฺส วจนํ สุตฺวา เตน สทฺธิํ อมเนฺตตฺวา เถเรน สทฺธิํ มเนฺตตุกาโม กินฺติ เต, อานนฺท, สุตนฺติอาทิมาหฯ ตํ วุตฺตตฺถเมวฯ

    Bhagavantaṃ bījayamānoti thero vattasīse ṭhatvā bhagavantaṃ bījati, bhagavato pana sītaṃ vā uṇhaṃ vā natthi. Bhagavā brāhmaṇassa vacanaṃ sutvā tena saddhiṃ amantetvā therena saddhiṃ mantetukāmo kinti te, ānanda, sutantiādimāha. Taṃ vuttatthameva.

    เอกมิทาหนฺติ อิทํ ภควา ปุเพฺพ วชฺชีนํ อิมสฺส วชฺชิสตฺตกสฺส เทสิตภาวปฺปกาสนตฺถํ อาหฯ อกรณียาติ อกตฺตพฺพา, อคฺคเหตพฺพาติ อโตฺถฯ ยทิทนฺติ นิปาตมตฺตํฯ ยุทฺธสฺสาติ กรณเตฺถ สามิวจนํ, อภิมุขํ ยุเทฺธน คเหตุํ น สกฺกาติ อโตฺถฯ อญฺญตฺร อุปลาปนายาติ ฐเปตฺวา อุปลาปนํฯ อุปลาปนา นาม ‘‘อลํ วิวาเทน, อิทานิ สมคฺคา โหมา’’ติ หตฺถิอสฺสรถหิรญฺญสุวณฺณาทีนิ เปเสตฺวา สงฺคหกรณํ, เอวญฺหิ สงฺคหํ กตฺวา เกวลํ วิสฺสาเสน สกฺกา คณฺหิตุนฺติ อโตฺถฯ อญฺญตฺร มิถุเภทาติ ฐเปตฺวา มิถุเภทํฯ อิมินา ‘‘อญฺญมญฺญเภทํ กตฺวาปิ สกฺกา เอเต คเหตุ’’นฺติ ทเสฺสติฯ อิทํ พฺราหฺมโณ ภควโต กถาย นยํ ลภิตฺวา อาหฯ กิํ ปน ภควา พฺราหฺมณสฺส อิมาย กถาย นยลาภํ ชานาตีติ? อาม ชานาติฯ ชานโนฺต กสฺมา กเถสิ? อนุกมฺปายฯ เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘มยา อกถิเตปิ กติปาเหน คนฺตฺวา สเพฺพ คณฺหิสฺสติ, กถิเต ปน สมเคฺค ภินฺทโนฺต ตีหิ สํวจฺฉเรหิ คณฺหิสฺสติฯ เอตฺตกมฺปิ ชีวิตเมว วรํฯ เอตฺตกญฺหิ ชีวนฺตา อตฺตโน ปติฎฺฐาภูตํ ปุญฺญํ กริสฺสนฺตี’’ติฯ อภินนฺทิตฺวาติ จิเตฺตน นนฺทิตฺวาฯ อนุโมทิตฺวาติ ‘‘ยาว สุภาสิตมิทํ โภตา โคตเมนา’’ติ วาจาย อนุโมทิตฺวาฯ ปกฺกามีติ รโญฺญ สนฺติกํ คโตฯ ราชาปิ ตเมว เปเสตฺวา สเพฺพ ภินฺทิตฺวา คนฺตฺวา อนยพฺยสนํ ปาเปสิฯ

    Ekamidāhanti idaṃ bhagavā pubbe vajjīnaṃ imassa vajjisattakassa desitabhāvappakāsanatthaṃ āha. Akaraṇīyāti akattabbā, aggahetabbāti attho. Yadidanti nipātamattaṃ. Yuddhassāti karaṇatthe sāmivacanaṃ, abhimukhaṃ yuddhena gahetuṃ na sakkāti attho. Aññatra upalāpanāyāti ṭhapetvā upalāpanaṃ. Upalāpanā nāma ‘‘alaṃ vivādena, idāni samaggā homā’’ti hatthiassarathahiraññasuvaṇṇādīni pesetvā saṅgahakaraṇaṃ, evañhi saṅgahaṃ katvā kevalaṃ vissāsena sakkā gaṇhitunti attho. Aññatra mithubhedāti ṭhapetvā mithubhedaṃ. Iminā ‘‘aññamaññabhedaṃ katvāpi sakkā ete gahetu’’nti dasseti. Idaṃ brāhmaṇo bhagavato kathāya nayaṃ labhitvā āha. Kiṃ pana bhagavā brāhmaṇassa imāya kathāya nayalābhaṃ jānātīti? Āma jānāti. Jānanto kasmā kathesi? Anukampāya. Evaṃ kirassa ahosi – ‘‘mayā akathitepi katipāhena gantvā sabbe gaṇhissati, kathite pana samagge bhindanto tīhi saṃvaccharehi gaṇhissati. Ettakampi jīvitameva varaṃ. Ettakañhi jīvantā attano patiṭṭhābhūtaṃ puññaṃ karissantī’’ti. Abhinanditvāti cittena nanditvā. Anumoditvāti ‘‘yāva subhāsitamidaṃ bhotā gotamenā’’ti vācāya anumoditvā. Pakkāmīti rañño santikaṃ gato. Rājāpi tameva pesetvā sabbe bhinditvā gantvā anayabyasanaṃ pāpesi.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๒. วสฺสการสุตฺตํ • 2. Vassakārasuttaṃ

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๒. วสฺสการสุตฺตวณฺณนา • 2. Vassakārasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact