Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā

    ๔. วสฺสิกสาฎิกสิกฺขาปทวณฺณนา

    4. Vassikasāṭikasikkhāpadavaṇṇanā

    ๖๒๗. จตุเตฺถ สิพฺพนรชนกปฺปปริโยสาเนน นิฎฺฐาเปตฺวาติ สูจิกมฺมนิฎฺฐาเนน สกิมฺปิ วณฺณเภทมตฺตรชเนน กปฺปพินฺทุกรเณน จ นิฎฺฐาเปตฺวาฯ สมเยติ วสฺสานสมเยฯ

    627. Catutthe sibbanarajanakappapariyosānena niṭṭhāpetvāti sūcikammaniṭṭhānena sakimpi vaṇṇabhedamattarajanena kappabindukaraṇena ca niṭṭhāpetvā. Samayeti vassānasamaye.

    ๖๒๘. กุจฺฉิสมโยติ อโนฺตสมโยฯ ‘‘อยเมโก อฑฺฒมาโส ปริเยสนเกฺขตฺตเญฺจว กรณเกฺขตฺตญฺจฯ เอตสฺมิญฺหิ อนฺตเร วสฺสิกสาฎิกํ อลทฺธํ ปริเยสิตุํ ลทฺธํ กาตุญฺจ วฎฺฎติ, นิวาเสตุํ อธิฎฺฐาตุญฺจ น วฎฺฎตี’’ติ โปตฺถเกสุ ปาโฐ ทิสฺสติ, โส อปาโฐฯ เอวํ ปเนตฺถ ปาเฐน ภวิตพฺพํ ‘‘อยเมโก อฑฺฒมาโส ปริเยสนเกฺขตฺตํฯ เอตสฺมิญฺหิ อนฺตเร วสฺสิกสาฎิกํ อลทฺธํ ปริเยสิตุํ วฎฺฎติ, ลทฺธํ กาตุํ นิวาเสตุํ อธิฎฺฐาตุญฺจ น วฎฺฎตี’’ติฯ น หิ คิมฺหานํ ปจฺฉิมมาสสฺส ปฐโม อฑฺฒมาโส กรณเกฺขตฺตํ โหติฯ ‘‘อฑฺฒมาโส เสโส คิมฺหานนฺติ กตฺวา นิวาเสตพฺพ’’นฺติ วจนโต ปน คิมฺหานํ ปจฺฉิมมาสสฺส ปจฺฉิโม อฑฺฒมาโส กรณเกฺขตฺตเญฺจว นิวาสนเกฺขตฺตญฺจ โหติฯ เตเนว มาติกาฎฺฐกถายํ (กงฺขา. อฎฺฐ. วหิสกสาฎิกสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘คิมฺหานํ ปจฺฉิโม มาโส ปริเยสนเกฺขตฺตํ, ปจฺฉิโม อฑฺฒมาโส กรณนิวาสนเกฺขตฺตมฺปี’’ติ วุตฺตํฯ ตสฺมา ปาฬิยา มาติกาฎฺฐกถาย จ อวิโรธํ อิจฺฉเนฺตน วุตฺตนเยเนว ปาโฐ คเหตโพฺพฯ

    628.Kucchisamayoti antosamayo. ‘‘Ayameko aḍḍhamāso pariyesanakkhettañceva karaṇakkhettañca. Etasmiñhi antare vassikasāṭikaṃ aladdhaṃ pariyesituṃ laddhaṃ kātuñca vaṭṭati, nivāsetuṃ adhiṭṭhātuñca na vaṭṭatī’’ti potthakesu pāṭho dissati, so apāṭho. Evaṃ panettha pāṭhena bhavitabbaṃ ‘‘ayameko aḍḍhamāso pariyesanakkhettaṃ. Etasmiñhi antare vassikasāṭikaṃ aladdhaṃ pariyesituṃ vaṭṭati, laddhaṃ kātuṃ nivāsetuṃ adhiṭṭhātuñca na vaṭṭatī’’ti. Na hi gimhānaṃ pacchimamāsassa paṭhamo aḍḍhamāso karaṇakkhettaṃ hoti. ‘‘Aḍḍhamāso seso gimhānanti katvā nivāsetabba’’nti vacanato pana gimhānaṃ pacchimamāsassa pacchimo aḍḍhamāso karaṇakkhettañceva nivāsanakkhettañca hoti. Teneva mātikāṭṭhakathāyaṃ (kaṅkhā. aṭṭha. vahisakasāṭikasikkhāpadavaṇṇanā) ‘‘gimhānaṃ pacchimo māso pariyesanakkhettaṃ, pacchimo aḍḍhamāso karaṇanivāsanakkhettampī’’ti vuttaṃ. Tasmā pāḷiyā mātikāṭṭhakathāya ca avirodhaṃ icchantena vuttanayeneva pāṭho gahetabbo.

    ‘‘วิญฺญตฺติํ กตฺวา นิปฺผาเทนฺตสฺส อญฺญาตกวิญฺญตฺติสิกฺขาปเทน อนาปตฺตี’’ติ วทเนฺตน ‘‘ปิฎฺฐิสมยตฺตา อิมินา สิกฺขาปเทน อาปตฺตี’’ติ ทีปิตา โหติฯ น หิ ญาตกปวาริตฎฺฐานโต ปิฎฺฐิสมเย สตุปฺปาทกรณมเตฺตนปิ สมฺภวนฺตี อาปตฺติ ตโต ครุกตราย วิญฺญตฺติยา น โหตีติ สกฺกา วตฺตุํฯ เตเนว ภทนฺตพุทฺธทตฺตาจริเยน วุตฺตํ –

    ‘‘Viññattiṃ katvā nipphādentassa aññātakaviññattisikkhāpadena anāpattī’’ti vadantena ‘‘piṭṭhisamayattā iminā sikkhāpadena āpattī’’ti dīpitā hoti. Na hi ñātakapavāritaṭṭhānato piṭṭhisamaye satuppādakaraṇamattenapi sambhavantī āpatti tato garukatarāya viññattiyā na hotīti sakkā vattuṃ. Teneva bhadantabuddhadattācariyena vuttaṃ –

    ‘‘กตฺวา ปน สตุปฺปาทํ, วสฺสิกสาฎิจีวรํ;

    ‘‘Katvā pana satuppādaṃ, vassikasāṭicīvaraṃ;

    นิปฺผาเทนฺตสฺส ภิกฺขุสฺส, สมเย ปิฎฺฐิสมฺมเตฯ

    Nipphādentassa bhikkhussa, samaye piṭṭhisammate.

    ‘‘โหติ นิสฺสคฺคิยาปตฺติ, ญาตกาญาตกาทิโน;

    ‘‘Hoti nissaggiyāpatti, ñātakāñātakādino;

    เตสุเยว จ วิญฺญตฺติํ, กตฺวา นิปฺผาทเน ตถา’’ติฯ

    Tesuyeva ca viññattiṃ, katvā nipphādane tathā’’ti.

    เกนสฺส โหติ อาปตฺตีติ อสฺส มาตรํ จีวรํ ยาจนฺตสฺส เกน สิกฺขาปเทน อาปตฺตีติ ปุจฺฉติฯ ‘‘ปริณตํ วิญฺญาเปนฺตสฺส ปริณามนสิกฺขาปเทน อาปตฺตี’’ติ โจทนาภาวํ ทเสฺสติ โน จ สเงฺฆ ปริณตนฺติฯ อถ อญฺญาตกวิญฺญตฺติสิกฺขาปเทนาติ เจ, เอตมฺปิ นตฺถีติ อาห ‘‘อนาปตฺติ จ ญาตเก’’ติฯ ‘‘ญาตเก วิญฺญาเปนฺตสฺสา’’ติ ปาฐเสโสฯ อิมมตฺถํ สนฺธายาติ ปิฎฺฐิสมเย วสฺสิกสาฎิกตฺถํ ญาตกปวาริตฎฺฐาเน สตุปฺปาทกรเณน อาปตฺติํ, อญฺญาตกวิญฺญตฺติสิกฺขาปเทน อนาปตฺติญฺจ สนฺธายฯ

    Kenassahoti āpattīti assa mātaraṃ cīvaraṃ yācantassa kena sikkhāpadena āpattīti pucchati. ‘‘Pariṇataṃ viññāpentassa pariṇāmanasikkhāpadena āpattī’’ti codanābhāvaṃ dasseti no ca saṅghe pariṇatanti. Atha aññātakaviññattisikkhāpadenāti ce, etampi natthīti āha ‘‘anāpatti ca ñātake’’ti. ‘‘Ñātake viññāpentassā’’ti pāṭhaseso. Imamatthaṃ sandhāyāti piṭṭhisamaye vassikasāṭikatthaṃ ñātakapavāritaṭṭhāne satuppādakaraṇena āpattiṃ, aññātakaviññattisikkhāpadena anāpattiñca sandhāya.

    อญฺญาตกอปฺปวาริตฎฺฐานโต…เป.… ทุกฺกฎนฺติ อิทํ วสฺสิกสาฎิกํ อทินฺนปุเพฺพ สนฺธาย วุตฺตํฯ เตเนเวตฺถ วตฺตเภเท ทุกฺกฎํ วุตฺตํ, ทินฺนปุเพฺพสุ ปน วตฺตเภโท นตฺถิฯ เตเนวาห – ‘‘เย มนุสฺสา…เป.… วตฺตเภโท นตฺถี’’ติฯ อิทนฺติ ยถาวุตฺตนิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยํฯ วิญฺญตฺติํ กตฺวา นิปฺผาเทนฺตสฺสาติ อญฺญาตกอปฺปวาริตฎฺฐานโต วิญฺญตฺติํ กตฺวา นิปฺผาเทนฺตสฺสฯ ปกติยา วสฺสิกสาฎิกทายกา นาม สงฺฆวเสน วา ปุคฺคลวเสน วา อปวาเรตฺวา อนุสํวจฺฉรํ วสฺสิกสาฎิกานํ ทายกาฯ อญฺญาตกวิญฺญตฺติสิกฺขาปเทน อนาปตฺตีติ เอตฺถ อิมินาปิ สิกฺขาปเทน อนาปตฺตีติ เวทิตพฺพํฯ กุจฺฉิสมเย หิ อตฺตโน ญาตกปวาริตฎฺฐานโต ‘‘เทถ เม วสฺสิกสาฎิก’’นฺติอาทินา วิญฺญาเปนฺตสฺสปิ อนาปตฺติฯ เตเนวาห – ‘‘น วตฺตพฺพา เทถ เมติ อิทญฺหิ ปริเยสนกาเล อญฺญาตกอปฺปวาริเต เอว สนฺธาย วุตฺต’’นฺติฯ มาติกาฎฺฐกถายญฺหิ (กงฺขา. อฎฺฐ. วสฺสิกสาฎิกสิกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตํ ‘‘อตฺตโน ญาตกปวาริตฎฺฐานโต ปน ‘เทถ เม วสฺสิกสาฎิกจีวร’นฺติอาทิกาย วิญฺญตฺติยาปิ ปริเยสิตพฺพ’’นฺติฯ

    Aññātakaappavāritaṭṭhānato…pe… dukkaṭanti idaṃ vassikasāṭikaṃ adinnapubbe sandhāya vuttaṃ. Tenevettha vattabhede dukkaṭaṃ vuttaṃ, dinnapubbesu pana vattabhedo natthi. Tenevāha – ‘‘ye manussā…pe… vattabhedo natthī’’ti. Idanti yathāvuttanissaggiyapācittiyaṃ. Viññattiṃ katvā nipphādentassāti aññātakaappavāritaṭṭhānato viññattiṃ katvā nipphādentassa. Pakatiyā vassikasāṭikadāyakā nāma saṅghavasena vā puggalavasena vā apavāretvā anusaṃvaccharaṃ vassikasāṭikānaṃ dāyakā. Aññātakaviññattisikkhāpadena anāpattīti ettha imināpi sikkhāpadena anāpattīti veditabbaṃ. Kucchisamaye hi attano ñātakapavāritaṭṭhānato ‘‘detha me vassikasāṭika’’ntiādinā viññāpentassapi anāpatti. Tenevāha – ‘‘na vattabbā detha meti idañhi pariyesanakāle aññātakaappavārite eva sandhāya vutta’’nti. Mātikāṭṭhakathāyañhi (kaṅkhā. aṭṭha. vassikasāṭikasikkhāpadavaṇṇanā) vuttaṃ ‘‘attano ñātakapavāritaṭṭhānato pana ‘detha me vassikasāṭikacīvara’ntiādikāya viññattiyāpi pariyesitabba’’nti.

    ๖๒๙. ‘‘อากาสโต ปติตอุทเกเนวาติ วจนโต ฉทนโกฎิยา ปติตอุทเกน นหายนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ ตีสุปิ คณฺฐิปเทสุ วุตฺตํฯ

    629.‘‘Ākāsato patitaudakenevāti vacanato chadanakoṭiyā patitaudakena nahāyantassa anāpattī’’ti tīsupi gaṇṭhipadesu vuttaṃ.

    ๖๓๐. ฉ มาเส ปริหารํ ลภตีติ เอเตน อโนฺตวเสฺสปิ ยาว วสฺสานสฺส ปจฺฉิมทิวสา อกตา ปริหารํ ลภตีติ ทีปิตํ โหติฯ ยสฺมา มูลจีวรํ กโรเนฺตน เหมนฺตสฺส ปจฺฉิมุโปสถทิวเสเยว กาตพฺพํ, ตสฺมา คิมฺหานโต เอกูนติํสทิวเส ปริหารํ ลภติ, เอวํ สเนฺตปิ อปฺปกํ อูนมธิกํ วา คณนูปคํ น โหตีติ กตฺวา ‘‘ตโต ปรมฺปิ…เป.… เอกมาส’’นฺติ วุตฺตํฯ เอกาหทฺวีหาทิวเสน…เป.… ลทฺธา เจว นิฎฺฐิตา จาติ อิมินา เอกาหานาคตาย วสฺสูปนายิกาย ลทฺธา เจว นิฎฺฐิตา จ, ทฺวีหานาคตาย…เป.… ทสาหานาคตาย วสฺสูปนายิกาย ลทฺธา เจว นิฎฺฐิตา จ, อโนฺตวเสฺส วา ลทฺธา เจว นิฎฺฐิตา จาติ อยมโตฺถ ทสฺสิโตฯ ตตฺถ อาสาฬฺหิมาสสฺส ชุณฺหปกฺขปุณฺณมิยํ ลทฺธา เจว นิฎฺฐิตา จ วสฺสิกสาฎิกา ‘‘เอกาหานาคตาย วสฺสูปนายิกาย ลทฺธา เจว นิฎฺฐิตา จา’’ติ วุจฺจติฯ เอเตเนว นเยน ชุณฺหปกฺขสฺส ฉฎฺฐิยํ ลทฺธา เจว นิฎฺฐิตา จ ‘‘ทสาหานาคตาย วสฺสูปนายิกาย ลทฺธา เจว นิฎฺฐิตา จา’’ติ วุจฺจติฯ ยาว ปฐมกตฺติกเตมาสปุณฺณมี, ตาว อโนฺตเตมาเส ลทฺธา เจว นิฎฺฐิตา จ ‘‘อโนฺตวเสฺส ลทฺธา เจว นิฎฺฐิตา จา’’ติ วุจฺจติฯ ปฐมกตฺติกเตมาสปุณฺณมิโต ปรญฺหิ ลทฺธา เจว นิฎฺฐิตา จ ยาว จีวรกาโล นาติกฺกมติ, ตาว อนธิฎฺฐหิตฺวา ฐเปตุํ วฎฺฎตีติ น ตตฺรายํ วิจารณา สมฺภวติฯ

    630.Cha māse parihāraṃ labhatīti etena antovassepi yāva vassānassa pacchimadivasā akatā parihāraṃ labhatīti dīpitaṃ hoti. Yasmā mūlacīvaraṃ karontena hemantassa pacchimuposathadivaseyeva kātabbaṃ, tasmā gimhānato ekūnatiṃsadivase parihāraṃ labhati, evaṃ santepi appakaṃ ūnamadhikaṃ vā gaṇanūpagaṃ na hotīti katvā ‘‘tato parampi…pe… ekamāsa’’nti vuttaṃ. Ekāhadvīhādivasena…pe… laddhā ceva niṭṭhitā cāti iminā ekāhānāgatāya vassūpanāyikāya laddhā ceva niṭṭhitā ca, dvīhānāgatāya…pe… dasāhānāgatāya vassūpanāyikāya laddhā ceva niṭṭhitā ca, antovasse vā laddhā ceva niṭṭhitā cāti ayamattho dassito. Tattha āsāḷhimāsassa juṇhapakkhapuṇṇamiyaṃ laddhā ceva niṭṭhitā ca vassikasāṭikā ‘‘ekāhānāgatāya vassūpanāyikāya laddhā ceva niṭṭhitā cā’’ti vuccati. Eteneva nayena juṇhapakkhassa chaṭṭhiyaṃ laddhā ceva niṭṭhitā ca ‘‘dasāhānāgatāya vassūpanāyikāya laddhā ceva niṭṭhitā cā’’ti vuccati. Yāva paṭhamakattikatemāsapuṇṇamī, tāva antotemāse laddhā ceva niṭṭhitā ca ‘‘antovasse laddhā ceva niṭṭhitā cā’’ti vuccati. Paṭhamakattikatemāsapuṇṇamito parañhi laddhā ceva niṭṭhitā ca yāva cīvarakālo nātikkamati, tāva anadhiṭṭhahitvā ṭhapetuṃ vaṭṭatīti na tatrāyaṃ vicāraṇā sambhavati.

    ตสฺมิํเยว อโนฺตทสาเห อธิฎฺฐาตพฺพาติ อวิเสเสน วุเตฺตปิ วสฺสานโต ปุเพฺพ เอกาหทฺวีหาทิวเสน อนาคตาย วสฺสูปนายิกาย ลทฺธา เตหิ ทิวเสหิ สทฺธิํ ทสาหํ อนติกฺกมเนฺตน วสฺสูปนายิกทิวสโต ปฎฺฐาย อธิฎฺฐานเกฺขตฺตํ สมฺปตฺตาเยว อธิฎฺฐาตพฺพา, น ตโต ปุเพฺพ อธิฎฺฐานสฺส อเขตฺตตฺตาฯ อโนฺตวเสฺส ปน ลทฺธา ตสฺมิํเยว อโนฺตวเสฺส ลทฺธทิวสโต ปฎฺฐาย ทสาหํ อนติกฺกาเมตฺวา อธิฎฺฐาตพฺพาฯ

    Tasmiṃyeva antodasāhe adhiṭṭhātabbāti avisesena vuttepi vassānato pubbe ekāhadvīhādivasena anāgatāya vassūpanāyikāya laddhā tehi divasehi saddhiṃ dasāhaṃ anatikkamantena vassūpanāyikadivasato paṭṭhāya adhiṭṭhānakkhettaṃ sampattāyeva adhiṭṭhātabbā, na tato pubbe adhiṭṭhānassa akhettattā. Antovasse pana laddhā tasmiṃyeva antovasse laddhadivasato paṭṭhāya dasāhaṃ anatikkāmetvā adhiṭṭhātabbā.

    นนุ จ วสฺสานโต ปุเพฺพ อนธิฎฺฐหิตฺวา ทสาหํ อติกฺกาเมตุํ วฎฺฎติเยว, ตสฺมา อธิฎฺฐานสฺส อเขตฺตภูเตปิ ทิวเส คเหตฺวา ‘‘อโนฺตทสาเห อธิฎฺฐาตพฺพ’’นฺติ กสฺมา วุตฺตํ? ยถา ‘‘อโนฺตวเสฺส ลทฺธาปิ ยาว น นิฎฺฐาติ, ตาว อนธิฎฺฐหิตฺวา ทสาหํ อติกฺกาเมตุํ วฎฺฎตี’’ติ อกตาย อนธิฎฺฐานเกฺขตฺตสทิสาปิ อติกฺกนฺตทิวสา ทสาหํ อติกฺกาเมตฺวา นิฎฺฐิตาย คณนูปคา โหนฺตีติ นิฎฺฐิตทิวเสเยว อธิฎฺฐาตพฺพา, เอวมิธาปิ วสฺสานโต ปุเพฺพ อนธิฎฺฐานเกฺขตฺตภูตาปิ ทิวสา ลทฺธทิวสโต ปฎฺฐาย คณนูปคา โหนฺตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํฯ ยทิ เอวํ ‘‘ตสฺมิํเยว อโนฺตทสาเห’’ติ อวิเสเสน วุตฺตตฺตา ทสาหานาคตาย วสฺสูปนายิกาย ฉฎฺฐิยํ ลทฺธา ปุณฺณมิยํ อธิฎฺฐาตพฺพาติ อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ ‘‘จาตุมาสํ อธิฎฺฐาตุ’’นฺติ วจเนเนว ปฎิกฺขิตฺตตฺตาฯ เอวํ สเนฺต ‘‘ทสาหานาคตายา’’ติ อิมินา กิํ ปโยชนนฺติ เจ? วสฺสานโต ปุเพฺพเยว ทสาเห อติกฺกเนฺต วสฺสูปนายิกทิวเส นิฎฺฐิตา ตทเหว อธิฎฺฐาตพฺพาติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตนฺติ อิทเมตฺถ ปโยชนํฯ เตเนวาห – ‘‘ทสาหาติกฺกเม นิฎฺฐิตา ตทเหว อธิฎฺฐาตพฺพา’’ติฯ

    Nanu ca vassānato pubbe anadhiṭṭhahitvā dasāhaṃ atikkāmetuṃ vaṭṭatiyeva, tasmā adhiṭṭhānassa akhettabhūtepi divase gahetvā ‘‘antodasāhe adhiṭṭhātabba’’nti kasmā vuttaṃ? Yathā ‘‘antovasse laddhāpi yāva na niṭṭhāti, tāva anadhiṭṭhahitvā dasāhaṃ atikkāmetuṃ vaṭṭatī’’ti akatāya anadhiṭṭhānakkhettasadisāpi atikkantadivasā dasāhaṃ atikkāmetvā niṭṭhitāya gaṇanūpagā hontīti niṭṭhitadivaseyeva adhiṭṭhātabbā, evamidhāpi vassānato pubbe anadhiṭṭhānakkhettabhūtāpi divasā laddhadivasato paṭṭhāya gaṇanūpagā hontīti dassanatthaṃ vuttaṃ. Yadi evaṃ ‘‘tasmiṃyeva antodasāhe’’ti avisesena vuttattā dasāhānāgatāya vassūpanāyikāya chaṭṭhiyaṃ laddhā puṇṇamiyaṃ adhiṭṭhātabbāti āpajjatīti? Nāpajjati ‘‘cātumāsaṃ adhiṭṭhātu’’nti vacaneneva paṭikkhittattā. Evaṃ sante ‘‘dasāhānāgatāyā’’ti iminā kiṃ payojananti ce? Vassānato pubbeyeva dasāhe atikkante vassūpanāyikadivase niṭṭhitā tadaheva adhiṭṭhātabbāti dassanatthaṃ vuttanti idamettha payojanaṃ. Tenevāha – ‘‘dasāhātikkame niṭṭhitā tadaheva adhiṭṭhātabbā’’ti.

    ทสาเห อปฺปโหเนฺต จีวรกาลํ นาติกฺกเมตพฺพาติ เตมาสพฺภนฺตเร ทสาเห อปฺปโหเนฺต ลทฺธา เจว นิฎฺฐิตา จ จีวรกาลํ นาติกฺกเมตพฺพาติ อโตฺถฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ ‘‘ปฐมกตฺติกเตมาสปุณฺณมิโต ปุเพฺพ สตฺตมิโต ปฎฺฐาย ลทฺธา เจว นิฎฺฐิตา จ วสฺสิกสาฎิกา ทสาเห อนติกฺกเนฺตเยว จีวรกาลํ โอติณฺณตฺตา ตตฺถ อนธิฎฺฐหิตฺวาปิ ฐเปตุํ วฎฺฎตี’’ติฯ อิมินา จ อิมํ ทีเปติ – อกตา เจ วสฺสิกสาฎิกา, วสฺสานํ จาตุมาสํ อกตตฺตาเยว ปริหารํ ลภติ, กตาย ปน ทสาหปรมสิกฺขาปทํ อวิโกเปตฺวา ปริหาโร วตฺตโพฺพติฯ

    Dasāhe appahonte cīvarakālaṃ nātikkametabbāti temāsabbhantare dasāhe appahonte laddhā ceva niṭṭhitā ca cīvarakālaṃ nātikkametabbāti attho. Idaṃ vuttaṃ hoti ‘‘paṭhamakattikatemāsapuṇṇamito pubbe sattamito paṭṭhāya laddhā ceva niṭṭhitā ca vassikasāṭikā dasāhe anatikkanteyeva cīvarakālaṃ otiṇṇattā tattha anadhiṭṭhahitvāpi ṭhapetuṃ vaṭṭatī’’ti. Iminā ca imaṃ dīpeti – akatā ce vassikasāṭikā, vassānaṃ cātumāsaṃ akatattāyeva parihāraṃ labhati, katāya pana dasāhaparamasikkhāpadaṃ avikopetvā parihāro vattabboti.

    ยทา วา ตทา วา อธิฎฺฐาตุํ วฎฺฎตีติ จาตุมาสพฺภนฺตเร ทสาเห อติกฺกเนฺตปิ นตฺถิ โทโสติ อธิปฺปาโยฯ ‘‘กทา อธิฎฺฐาตพฺพา…เป.… ยทิ นปฺปโหติ, ยาว กตฺติกปุณฺณมา ปริหารํ ลภตี’’ติ อิมินาปิ กุรุนฺทิวจเนน อกตาย วสฺสิกสาฎิกาย จาตุมาสํ ปริหาโร, กตาย ทสาหเมว ปริหาโรติ อยมโตฺถ ทีปิโตเยวาติ อาห ‘‘อปิจา’’ติอาทิฯ

    Yadā vā tadā vā adhiṭṭhātuṃ vaṭṭatīti cātumāsabbhantare dasāhe atikkantepi natthi dosoti adhippāyo. ‘‘Kadā adhiṭṭhātabbā…pe… yadi nappahoti, yāva kattikapuṇṇamā parihāraṃ labhatī’’ti imināpi kurundivacanena akatāya vassikasāṭikāya cātumāsaṃ parihāro, katāya dasāhameva parihāroti ayamattho dīpitoyevāti āha ‘‘apicā’’tiādi.

    ปาฬิยํ อจฺฉินฺนจีวรสฺส นฎฺฐจีวรสฺสาติอาทินา นิสฺสคฺคิเยน อนาปตฺติ วุตฺตา, อุทาหุ นคฺคสฺส นหายโต ทุกฺกเฎน อนาปตฺติ วุตฺตาติ? กิเมตฺถ ปุจฺฉิตพฺพํฯ สพฺพสิกฺขาปเทสุ หิ ยตฺถ ยตฺถ มูลสิกฺขาปเทน อาปตฺติปฺปสโงฺค, ตตฺถ ตตฺถ อนาปตฺติทสฺสนตฺถํ อนาปตฺติวาโร อารภียตีติ อิธาปิ นิสฺสคฺคิเยน อนาปตฺติทสฺสนตฺถนฺติ ยุตฺตํ วตฺตุํฯ น หิ มูลาปตฺติยา อนาปตฺติํ อทเสฺสตฺวา อนฺตรา วุตฺตาย เอว อาปตฺติยา อนาปตฺติทสฺสนตฺถํ อนาปตฺติวาโร อารภียตีติฯ เตเนว ตีสุปิ คณฺฐิปเทสุ อิทํ วุตฺตํ ‘‘อจฺฉินฺนจีวรสฺส นฎฺฐจีวรสฺส จาติ เอตฺถ อจฺฉินฺนเสสจีวรสฺส นฎฺฐเสสจีวรสฺส จ อสมเย นิวาเสนฺตสฺส ปริเยสนฺตสฺส จ อนาปตฺติ ฯ อาปทาสูติ เอตฺถ อนิวตฺถํ โจรา หรนฺตีติ อสมเย นิวาเสนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติฯ มาติกาฎฺฐกถายมฺปิ (กงฺขา. อฎฺฐ. วสฺสิกสาฎิกสิกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตํ ‘‘อจฺฉินฺนจีวรสฺส วา นฎฺฐจีวรสฺส วา อนิวตฺถํ โจรา หรนฺตีติ เอวํ อาปทาสุ วา นิวาสยโต อุมฺมตฺตกาทีนญฺจ อนาปตฺตี’’ติฯ อฎฺฐกถายํ ปน นคฺคสฺส นหายโต ทุกฺกเฎเนว อนาปตฺติํ สนฺธาย ‘‘อจฺฉินฺนจีวรสฺสาติ เอตํ วสฺสิกสาฎิกเมว สนฺธาย วุตฺตํฯ เตสญฺหิ นคฺคานํ กาโยวสฺสาปเน อนาปตฺติฯ เอตฺถ จ มหคฺฆวสฺสิกสาฎิกํ นิวาเสตฺวา นหายนฺตสฺส โจรุปทฺทโว อาปทา นามา’’ติ ยํ วุตฺตํ, ตตฺถ การณํ ปริเยสิตพฺพํฯ

    Pāḷiyaṃ acchinnacīvarassa naṭṭhacīvarassātiādinā nissaggiyena anāpatti vuttā, udāhu naggassa nahāyato dukkaṭena anāpatti vuttāti? Kimettha pucchitabbaṃ. Sabbasikkhāpadesu hi yattha yattha mūlasikkhāpadena āpattippasaṅgo, tattha tattha anāpattidassanatthaṃ anāpattivāro ārabhīyatīti idhāpi nissaggiyena anāpattidassanatthanti yuttaṃ vattuṃ. Na hi mūlāpattiyā anāpattiṃ adassetvā antarā vuttāya eva āpattiyā anāpattidassanatthaṃ anāpattivāro ārabhīyatīti. Teneva tīsupi gaṇṭhipadesu idaṃ vuttaṃ ‘‘acchinnacīvarassa naṭṭhacīvarassa cāti ettha acchinnasesacīvarassa naṭṭhasesacīvarassa ca asamaye nivāsentassa pariyesantassa ca anāpatti . Āpadāsūti ettha anivatthaṃ corā harantīti asamaye nivāsentassa anāpattī’’ti. Mātikāṭṭhakathāyampi (kaṅkhā. aṭṭha. vassikasāṭikasikkhāpadavaṇṇanā) vuttaṃ ‘‘acchinnacīvarassa vā naṭṭhacīvarassa vā anivatthaṃ corā harantīti evaṃ āpadāsu vā nivāsayato ummattakādīnañca anāpattī’’ti. Aṭṭhakathāyaṃ pana naggassa nahāyato dukkaṭeneva anāpattiṃ sandhāya ‘‘acchinnacīvarassāti etaṃ vassikasāṭikameva sandhāya vuttaṃ. Tesañhi naggānaṃ kāyovassāpane anāpatti. Ettha ca mahagghavassikasāṭikaṃ nivāsetvā nahāyantassa corupaddavo āpadā nāmā’’ti yaṃ vuttaṃ, tattha kāraṇaṃ pariyesitabbaṃ.

    อถ อุภเยนปิ อนาปตฺติทสฺสนตฺถํ ‘‘อจฺฉินฺนจีวรสฺสา’’ติอาทิ อารทฺธนฺติ เอวมธิปฺปาโย สิยา, เอวมฺปิ ‘‘อจฺฉินฺนจีวรสฺสาติ เอตํ วสฺสิกสาฎิกเมว สนฺธาย วุตฺต’’นฺติอาทินา วิเสเสตฺวา น วตฺตพฺพํฯ เอวญฺหิ วตฺตพฺพํ สิยา ‘‘อจฺฉินฺนเสสจีวรสฺส นฎฺฐเสสจีวรสฺส วา อสมเย นิวาเสนฺตสฺส ปริเยสนฺตสฺส จ นิสฺสคฺคิเยน อนาปตฺติ, อจฺฉินฺนวสฺสิกสาฎิกสฺส นฎฺฐวสฺสิกสาฎิกสฺส วา นคฺคสฺส นหายโต ทุกฺกเฎน อนาปตฺติ, อาปทาสุ อนิวตฺถํ โจรา หรนฺตีติ อสมเย นิวาสยโต นิสฺสคฺคิเยน อนาปตฺติ, มหคฺฆวสฺสิกสาฎิกํ นิวาเสตฺวา นหายนฺตสฺส โจรา หรนฺติ, นคฺคสฺส นหายโต ทุกฺกเฎน อนาปตฺตี’’ติฯ เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวฯ

    Atha ubhayenapi anāpattidassanatthaṃ ‘‘acchinnacīvarassā’’tiādi āraddhanti evamadhippāyo siyā, evampi ‘‘acchinnacīvarassāti etaṃ vassikasāṭikameva sandhāya vutta’’ntiādinā visesetvā na vattabbaṃ. Evañhi vattabbaṃ siyā ‘‘acchinnasesacīvarassa naṭṭhasesacīvarassa vā asamaye nivāsentassa pariyesantassa ca nissaggiyena anāpatti, acchinnavassikasāṭikassa naṭṭhavassikasāṭikassa vā naggassa nahāyato dukkaṭena anāpatti, āpadāsu anivatthaṃ corā harantīti asamaye nivāsayato nissaggiyena anāpatti, mahagghavassikasāṭikaṃ nivāsetvā nahāyantassa corā haranti, naggassa nahāyato dukkaṭena anāpattī’’ti. Sesamettha uttānameva.

    อเงฺคสุ ปน วสฺสิกสาฎิกาย อตฺตุเทฺทสิกตา, อสมเย ปริเยสนตา, ตาย จ ปฎิลาโภติ อิมานิ ตาว ปริเยสนาปตฺติยา ตีณิ องฺคานิฯ สจีวรตา, อาปทาภาโว, วสฺสิกสาฎิกาย สกภาโว, อสมเย นิวาสนนฺติ อิมานิ นิวาสนาปตฺติยา จตฺตาริ องฺคานิฯ

    Aṅgesu pana vassikasāṭikāya attuddesikatā, asamaye pariyesanatā, tāya ca paṭilābhoti imāni tāva pariyesanāpattiyā tīṇi aṅgāni. Sacīvaratā, āpadābhāvo, vassikasāṭikāya sakabhāvo, asamaye nivāsananti imāni nivāsanāpattiyā cattāri aṅgāni.

    วสฺสิกสาฎิกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Vassikasāṭikasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๔. วสฺสิกสาฎิกสิกฺขาปทํ • 4. Vassikasāṭikasikkhāpadaṃ

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๔. วสฺสิกสาฎิกสิกฺขาปทวณฺณนา • 4. Vassikasāṭikasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ๔. วสฺสิกสาฎิกสิกฺขาปทวณฺณนา • 4. Vassikasāṭikasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๔. วสฺสิกสาฎิกสิกฺขาปทวณฺณนา • 4. Vassikasāṭikasikkhāpadavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact