Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā |
[๓๙๔] ๙. วฎฺฎกชาตกวณฺณนา
[394] 9. Vaṭṭakajātakavaṇṇanā
ปณีตนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรโนฺต เอกํ โลลภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิฯ ตญฺหิ สตฺถา ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ ภิกฺขุ โลโล’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาม, ภเนฺต’’ติ วุเตฺต ‘‘น โข ภิกฺขุ อิทาเนว โลโล, ปุเพฺพปิ ตฺวํ โลโลเยว, โลลตาย ปน พาราณสิยํ หตฺถิควาสฺสปุริสกุณเปหิ อติโตฺต ‘อิโต อุตฺตริตรํ ลภิสฺสามี’ติ อรญฺญํ ปวิโฎฺฐสี’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริฯ
Paṇītanti idaṃ satthā jetavane viharanto ekaṃ lolabhikkhuṃ ārabbha kathesi. Tañhi satthā ‘‘saccaṃ kira tvaṃ bhikkhu lolo’’ti pucchitvā ‘‘āma, bhante’’ti vutte ‘‘na kho bhikkhu idāneva lolo, pubbepi tvaṃ loloyeva, lolatāya pana bārāṇasiyaṃ hatthigavāssapurisakuṇapehi atitto ‘ito uttaritaraṃ labhissāmī’ti araññaṃ paviṭṭhosī’’ti vatvā atītaṃ āhari.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทเตฺต รชฺชํ กาเรเนฺต โพธิสโตฺต วฎฺฎกโยนิยํ นิพฺพตฺติตฺวา อรเญฺญ ลูขติณพีชาหาโร วสิฯ ตทา พาราณสิยํ เอโก โลลกาโก หตฺถิกุณปาทีหิ อติโตฺต ‘‘อิโต อุตฺตริตรํ ลภิสฺสามี’’ติ อรญฺญํ ปวิสิตฺวา ผลาผลํ ขาทโนฺต โพธิสตฺตํ ทิสฺวา ‘‘อยํ วฎฺฎโก อติวิย ถูลสรีโร, มธุรํ โคจรํ ขาทติ มเญฺญ, เอตสฺส โคจรํ ปุจฺฉิตฺวา ตํ ขาทิตฺวา อหมฺปิ ถูโล ภวิสฺสามี’’ติ จิเนฺตตฺวา โพธิสตฺตสฺส อุปริภาเค สาขาย นิลียิตฺวา โพธิสตฺตํ ปุจฺฉิ ‘‘โภ วฎฺฎก, กิํ นาม ปณีตาหารํ ภุญฺชสิ, ถูลสรีโร อโหสี’’ติ? โพธิสโตฺต เตน ปุจฺฉิโต เตน สทฺธิํ ปฎิสนฺถารํ กโรโนฺต ปฐมํ คาถมาห –
Atīte bārāṇasiyaṃ brahmadatte rajjaṃ kārente bodhisatto vaṭṭakayoniyaṃ nibbattitvā araññe lūkhatiṇabījāhāro vasi. Tadā bārāṇasiyaṃ eko lolakāko hatthikuṇapādīhi atitto ‘‘ito uttaritaraṃ labhissāmī’’ti araññaṃ pavisitvā phalāphalaṃ khādanto bodhisattaṃ disvā ‘‘ayaṃ vaṭṭako ativiya thūlasarīro, madhuraṃ gocaraṃ khādati maññe, etassa gocaraṃ pucchitvā taṃ khāditvā ahampi thūlo bhavissāmī’’ti cintetvā bodhisattassa uparibhāge sākhāya nilīyitvā bodhisattaṃ pucchi ‘‘bho vaṭṭaka, kiṃ nāma paṇītāhāraṃ bhuñjasi, thūlasarīro ahosī’’ti? Bodhisatto tena pucchito tena saddhiṃ paṭisanthāraṃ karonto paṭhamaṃ gāthamāha –
๑๒๘.
128.
‘‘ปณีตํ ภุญฺชเส ภตฺตํ, สปฺปิเตลญฺจ มาตุล;
‘‘Paṇītaṃ bhuñjase bhattaṃ, sappitelañca mātula;
อถ เกน นุ วเณฺณน, กิโส ตฺวมสิ วายสา’’ติฯ
Atha kena nu vaṇṇena, kiso tvamasi vāyasā’’ti.
ตตฺถ ภตฺตนฺติ มนุสฺสานํ โภชนนิยาเมน ปฎิยาทิตภตฺตํฯ มาตุลาติ ตํ ปิยสมุทาจาเรน อาลปติฯ กิโสติ อปฺปมํสโลหิโตฯ
Tattha bhattanti manussānaṃ bhojananiyāmena paṭiyāditabhattaṃ. Mātulāti taṃ piyasamudācārena ālapati. Kisoti appamaṃsalohito.
ตสฺส วจนํ สุตฺวา กาโก ติโสฺส คาถา อภาสิ –
Tassa vacanaṃ sutvā kāko tisso gāthā abhāsi –
๑๒๙.
129.
‘‘อมิตฺตมเชฺฌ วสโต, เตสุ อามิสเมสโต;
‘‘Amittamajjhe vasato, tesu āmisamesato;
นิจฺจํ อุพฺพิคฺคหทยสฺส, กุโต กากสฺส ทฬฺหิยํฯ
Niccaṃ ubbiggahadayassa, kuto kākassa daḷhiyaṃ.
๑๓๐.
130.
‘‘นิจฺจํ อุเพฺพคิโน กากา, ธงฺกา ปาเปน กมฺมุนา;
‘‘Niccaṃ ubbegino kākā, dhaṅkā pāpena kammunā;
ลโทฺธ ปิโณฺฑ น ปีเณติ, กิโส เตนสฺมิ วฎฺฎกฯ
Laddho piṇḍo na pīṇeti, kiso tenasmi vaṭṭaka.
๑๓๑.
131.
‘‘ลูขานิ ติณพีชานิ, อปฺปเสฺนหานิ ภุญฺชสิ;
‘‘Lūkhāni tiṇabījāni, appasnehāni bhuñjasi;
อถ เกน นุ วเณฺณน, ถูโล ตฺวมสิ วฎฺฎกา’’ติฯ
Atha kena nu vaṇṇena, thūlo tvamasi vaṭṭakā’’ti.
ตตฺถ ทฬฺหิยนฺติ เอวรูปสฺส มยฺหํ กากสฺส กุโต ทฬฺหีภาโว, กุโต ถูลนฺติ อโตฺถฯ อุเพฺพคิโนติ อุเพฺพควโนฺตฯ ธงฺกาติ กากานเมว นามํฯ ปาเปน กมฺมุนา ลโทฺธติ กาเกน มนุสฺสสนฺตกวิลุมฺปนสงฺขาเตน ปาเปน กเมฺมน ลโทฺธ ปิโณฺฑฯ น ปีเณตีติ น ตเปฺปติฯ เตนสฺมีติ เตน การเณนาหํ กิโส อสฺมิฯ อปฺปเสฺนหานีติ มโนฺทชานิฯ อิทํ กาโก โพธิสตฺตํ ‘‘ปณีตโภชนํ ขาทตี’’ติ สญฺญี หุตฺวาปิ วฎฺฎกานํ คหิตโคจรํ ปุจฺฉโนฺต อาหฯ
Tattha daḷhiyanti evarūpassa mayhaṃ kākassa kuto daḷhībhāvo, kuto thūlanti attho. Ubbeginoti ubbegavanto. Dhaṅkāti kākānameva nāmaṃ. Pāpena kammunā laddhoti kākena manussasantakavilumpanasaṅkhātena pāpena kammena laddho piṇḍo. Na pīṇetīti na tappeti. Tenasmīti tena kāraṇenāhaṃ kiso asmi. Appasnehānīti mandojāni. Idaṃ kāko bodhisattaṃ ‘‘paṇītabhojanaṃ khādatī’’ti saññī hutvāpi vaṭṭakānaṃ gahitagocaraṃ pucchanto āha.
ตํ สุตฺวา โพธิสโตฺต อตฺตโน ถูลภาวการณํ กเถโนฺต อิมา คาถา อภาสิ –
Taṃ sutvā bodhisatto attano thūlabhāvakāraṇaṃ kathento imā gāthā abhāsi –
๑๓๒.
132.
‘‘อปฺปิจฺฉา อปฺปจินฺตาย, อทูรคมเนน จ;
‘‘Appicchā appacintāya, adūragamanena ca;
ลทฺธาลเทฺธน ยาเปโนฺต, ถูโล เตนสฺมิ วายสฯ
Laddhāladdhena yāpento, thūlo tenasmi vāyasa.
๑๓๓.
133.
‘‘อปฺปิจฺฉสฺส หิ โปสสฺส, อปฺปจินฺตสุขสฺส จ;
‘‘Appicchassa hi posassa, appacintasukhassa ca;
สุสงฺคหิตมานสฺส, วุตฺตี สุสมุทานยา’’ติฯ
Susaṅgahitamānassa, vuttī susamudānayā’’ti.
ตตฺถ อปฺปิจฺฉาติ อาหาเรสุ อปฺปิจฺฉตาย นิตฺตณฺหตาย, เกวลํ สรีรยาปนวเสเนว อาหาราหรณตายาติ อโตฺถฯ อปฺปจินฺตายาติ ‘‘อชฺช กหํ อาหารํ ลภิสฺสามิ, เสฺว กห’’นฺติ เอวํ อาหารจินฺตาย อภาเวนฯ อทูรคมเนน จาติ ‘‘อสุกสฺมิํ นาม ฐาเน มธุรํ ลภิสฺสามี’’ติ จิเนฺตตฺวา อวิทูรคมเนน จฯ ลทฺธาลเทฺธนาติ ลูขํ วา โหตุ ปณีตํ วา, ยํ ลทฺธํ, เตเนวฯ ถูโล เตนสฺมีติ เตน จตุพฺพิเธน การเณน ถูโล อสฺมิฯ วายสาติ กากํ อาลปติฯ อปฺปจินฺตสุขสฺสาติ อาหารจินฺตารหิตานํ อปฺปจินฺตานมริยานํ สุขํ อสฺสตฺถีติ อปฺปจินฺตสุโข, ตสฺส ตาทิเสน สุเขน สมนฺนาคตสฺสฯ สุสงฺคหิตมานสฺสาติ ‘‘เอตฺตกํ ภุญฺชิตฺวา ชีราเปตุํ สกฺขิสฺสามี’’ติ เอวํ สุฎฺฐุ สงฺคหิตาหารมานสฺสฯ วุตฺตี สุสมุทานยาติ เอวรูปสฺส ปุคฺคลสฺส ชีวิตวุตฺติ สุเขน สกฺกา สมุทาเนตุํ สุสมุทานยา สุนิพฺพตฺติยาฯ
Tattha appicchāti āhāresu appicchatāya nittaṇhatāya, kevalaṃ sarīrayāpanavaseneva āhārāharaṇatāyāti attho. Appacintāyāti ‘‘ajja kahaṃ āhāraṃ labhissāmi, sve kaha’’nti evaṃ āhāracintāya abhāvena. Adūragamanena cāti ‘‘asukasmiṃ nāma ṭhāne madhuraṃ labhissāmī’’ti cintetvā avidūragamanena ca. Laddhāladdhenāti lūkhaṃ vā hotu paṇītaṃ vā, yaṃ laddhaṃ, teneva. Thūlo tenasmīti tena catubbidhena kāraṇena thūlo asmi. Vāyasāti kākaṃ ālapati. Appacintasukhassāti āhāracintārahitānaṃ appacintānamariyānaṃ sukhaṃ assatthīti appacintasukho, tassa tādisena sukhena samannāgatassa. Susaṅgahitamānassāti ‘‘ettakaṃ bhuñjitvā jīrāpetuṃ sakkhissāmī’’ti evaṃ suṭṭhu saṅgahitāhāramānassa. Vuttī susamudānayāti evarūpassa puggalassa jīvitavutti sukhena sakkā samudānetuṃ susamudānayā sunibbattiyā.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน โลลภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฎฺฐหิฯ
Satthā imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā saccāni pakāsetvā jātakaṃ samodhānesi, saccapariyosāne lolabhikkhu sotāpattiphale patiṭṭhahi.
ตทา กาโก โลลภิกฺขุ อโหสิ, วฎฺฎโก ปน อหเมว อโหสินฺติฯ
Tadā kāko lolabhikkhu ahosi, vaṭṭako pana ahameva ahosinti.
วฎฺฎกชาตกวณฺณนา นวมาฯ
Vaṭṭakajātakavaṇṇanā navamā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๓๙๔. วฎฺฎกชาตกํ • 394. Vaṭṭakajātakaṃ