Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ขุทฺทสิกฺขา-มูลสิกฺขา • Khuddasikkhā-mūlasikkhā

    ๓๐. วตฺตนิเทฺทสวณฺณนา

    30. Vattaniddesavaṇṇanā

    ๒๑๓. สอุปาหโน…เป.… จีวรํ สีเส กริตฺวา วา อาคนฺตุโก อารามํ น ปวิเสติ สมฺพโนฺธฯ สฉโตฺตติ สีเส กตฉเตฺตน สฉโตฺตฯ โอคุณฺฐิโตติ สสีสํ ปารุปิโตฯ ‘‘ปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส ปริเกฺขโป, อปริกฺขิตฺตสฺส ปริเกฺขปารหฎฺฐาน’’นฺติ วุตฺตํ อุปจารสีมาสมีปํ ปตฺวา อุปาหนาโอมุญฺจนาทิสพฺพํ กตฺวา อาราโม ปวิสิตโพฺพติ อยเมตฺถ พฺยติเรกลโทฺธ อโตฺถฯ

    213. Saupāhano…pe… cīvaraṃ sīse karitvā vā āgantuko ārāmaṃ na paviseti sambandho. Sachattoti sīse katachattena sachatto. Oguṇṭhitoti sasīsaṃ pārupito. ‘‘Parikkhittassa vihārassa parikkhepo, aparikkhittassa parikkhepārahaṭṭhāna’’nti vuttaṃ upacārasīmāsamīpaṃ patvā upāhanāomuñcanādisabbaṃ katvā ārāmo pavisitabboti ayamettha byatirekaladdho attho.

    ๒๑๔. ปานีเยน ปาเท น โธเวยฺยาติ สมฺพโนฺธฯ ปฎิกฺกมนํ ปตฺวา เอกมเนฺต ปตฺตจีวรํ นิกฺขิปิตฺวา ปติรูเป นิสชฺช ปุจฺฉิตฺวา ปานียํ ปาตพฺพํ, ปริโภชนีเยน ยถาวุตฺตํ ปาทา โธวิตพฺพาติ อธิปฺปาโยฯ วุฑฺฒตเร อาวาสิเกปิ จ อภิวาเทยฺยาติ อิมินา วสฺสํ ปุจฺฉิตฺวา นวเกน อาวาสิเกน อภิวาทาเปตพฺพนฺติ ทีเปติฯ ปุเจฺฉยฺย สยนาสนนฺติ ‘‘กตมํ เสนาสนํ ปาปุณาติ, อชฺฌาวุตฺถํ อนชฺฌาวุตฺถํ วา’’ติ เสนาสนํ ปุเจฺฉยฺยฯ อิทญฺจ ปุจฺฉาย ลกฺขณวจนํฯ ตสฺมา อาวาสิกวเตฺต วุตฺตมชฺฌาวุตฺถาทิกญฺจ ปุจฺฉิตพฺพํฯ สเจ ‘‘อนชฺฌาวุตฺถ’’นฺติ วทนฺติ, กวาฎํ อาโกเฎตฺวา มุหุตฺตํ อาคเมตฺวา ฆฎิกํ อุคฺฆาเฎตฺวา กวาฎํ ปณาเมตฺวา พหิ ฐิเตน อุโลฺลเกตฺวา ปวิสิตฺวา สพฺพํ เสนาสนวตฺตํ กาตพฺพํฯ อาคนฺตุกวตฺตํฯ

    214. Pānīyena pāde na dhoveyyāti sambandho. Paṭikkamanaṃ patvā ekamante pattacīvaraṃ nikkhipitvā patirūpe nisajja pucchitvā pānīyaṃ pātabbaṃ, paribhojanīyena yathāvuttaṃ pādā dhovitabbāti adhippāyo. Vuḍḍhatare āvāsikepi ca abhivādeyyāti iminā vassaṃ pucchitvā navakena āvāsikena abhivādāpetabbanti dīpeti. Puccheyya sayanāsananti ‘‘katamaṃ senāsanaṃ pāpuṇāti, ajjhāvutthaṃ anajjhāvutthaṃ vā’’ti senāsanaṃ puccheyya. Idañca pucchāya lakkhaṇavacanaṃ. Tasmā āvāsikavatte vuttamajjhāvutthādikañca pucchitabbaṃ. Sace ‘‘anajjhāvuttha’’nti vadanti, kavāṭaṃ ākoṭetvā muhuttaṃ āgametvā ghaṭikaṃ ugghāṭetvā kavāṭaṃ paṇāmetvā bahi ṭhitena ulloketvā pavisitvā sabbaṃ senāsanavattaṃ kātabbaṃ. Āgantukavattaṃ.

    ๒๑๕-๖. คมิโก ปกฺกเมยฺยาติ สมฺพโนฺธฯ ‘‘ปฎิสาเมตฺวา’’ติอาทีนิมสฺส ปุพฺพกิริยาปทานิฯ ทารุมตฺติกภณฺฑกนฺติ เอตฺถ มญฺจปีฐาทิทารุภณฺฑํ รชนภาชนาทิมตฺติกาภณฺฑํฯ ปฎิสาเมตฺวาติ อตฺถิ เจ อโนวสฺสเก สณฺฐเปตฺวาฯ ถเกตฺวานาติ ทฺวารวาตปาเนหิ ปิธาย ฯ สาธุกํ สโงฺคเปตฺวานาติ จตูสุ ปาสาเณสุ มญฺจํ ปญฺญเปตฺวา มเญฺจ มญฺจสฺส, ปีเฐ ปีฐสฺส อาโรปเนน เสนาสนสฺส อุปรูปริ ปุญฺชกรเณน สาธุกํ สโงฺคปนํ กตฺวาฯ น จาติ เนวฯ คมิกวตฺตํฯ

    215-6. Gamiko pakkameyyāti sambandho. ‘‘Paṭisāmetvā’’tiādīnimassa pubbakiriyāpadāni. Dārumattikabhaṇḍakanti ettha mañcapīṭhādidārubhaṇḍaṃ rajanabhājanādimattikābhaṇḍaṃ. Paṭisāmetvāti atthi ce anovassake saṇṭhapetvā. Thaketvānāti dvāravātapānehi pidhāya . Sādhukaṃ saṅgopetvānāti catūsu pāsāṇesu mañcaṃ paññapetvā mañce mañcassa, pīṭhe pīṭhassa āropanena senāsanassa uparūpari puñjakaraṇena sādhukaṃ saṅgopanaṃ katvā. Na cāti neva. Gamikavattaṃ.

    ๒๑๗-๘. อาวาสิโกติ อิทํ ‘‘ปญฺญเปยฺยา’’ติอาทีนํ กตฺตุปทํฯ นวกมฺมกรณาทิภารนิตฺถรณตาย อาวาโส วิหาโร อสฺส อตฺถีติ อาวาสิโกฯ ยสฺส ปน เกวลํ วิหาเร นิวาสนมตฺตํ อตฺถิ, โส เนวาสิโกฯ อุโภปิ เต อิธ อาวาสิก-สเทฺทน สงฺคหิตาฯ ปาโททปฺปภุตินฺติ เอตฺถ ปภุติ-สเทฺทน ปาทปีฐปาทกถลิกานํ คหณํฯ ปจฺจุคฺคนฺตฺวาน ปตฺตจีวรํ คเณฺหยฺยาติ โยชนาฯ ปญฺญเป สยนาสนนฺติ ‘‘เอตํ ตุมฺหากํ เสนาสนํ ปาปุณาตี’’ติ เอวํ สยนาสนํ ปญฺญเปยฺย, ปกาเสยฺยาติ วุตฺตํ โหติฯ

    217-8.Āvāsikoti idaṃ ‘‘paññapeyyā’’tiādīnaṃ kattupadaṃ. Navakammakaraṇādibhāranittharaṇatāya āvāso vihāro assa atthīti āvāsiko. Yassa pana kevalaṃ vihāre nivāsanamattaṃ atthi, so nevāsiko. Ubhopi te idha āvāsika-saddena saṅgahitā. Pādodappabhutinti ettha pabhuti-saddena pādapīṭhapādakathalikānaṃ gahaṇaṃ. Paccuggantvāna pattacīvaraṃ gaṇheyyāti yojanā. Paññape sayanāsananti ‘‘etaṃ tumhākaṃ senāsanaṃ pāpuṇātī’’ti evaṃ sayanāsanaṃ paññapeyya, pakāseyyāti vuttaṃ hoti.

    ๒๑๙. อชฺฌาวุตฺถนฺติ ปุเพฺพ ภิกฺขูหิ นิวุตฺถํฯ โคจราโคจรํ วเทติ ‘‘ภิกฺขาจารคาโม ทูโร, อาสโนฺน’’ติ วา, ‘‘กาลเสฺสว ปิณฺฑาย จริตพฺพํ, ทิวา วา’’ติ เอวํ โคจรญฺจ, ‘‘มิจฺฉาทิฎฺฐิกานํ วา คาโม, ปริจฺฉินฺนภิโกฺข วา’’ติอาทินา อโคจรญฺจ วเทยฺยาติ อโตฺถฯ วจฺจปสฺสาวฎฺฐานานีติอาทีนิปิ ‘‘วเท’’ติ อิมเสฺสว กมฺมวจนานิฯ เสขสมฺมุตินฺติ ยสฺส สทฺธสฺส กุลสฺส สโงฺฆ เสขสมฺมุติํ เทติ, ตํ กุลญฺจฯ

    219.Ajjhāvutthanti pubbe bhikkhūhi nivutthaṃ. Gocarāgocaraṃ vadeti ‘‘bhikkhācāragāmo dūro, āsanno’’ti vā, ‘‘kālasseva piṇḍāya caritabbaṃ, divā vā’’ti evaṃ gocarañca, ‘‘micchādiṭṭhikānaṃ vā gāmo, paricchinnabhikkho vā’’tiādinā agocarañca vadeyyāti attho. Vaccapassāvaṭṭhānānītiādīnipi ‘‘vade’’ti imasseva kammavacanāni. Sekhasammutinti yassa saddhassa kulassa saṅgho sekhasammutiṃ deti, taṃ kulañca.

    ๒๒๐. ปเวสนิกฺขเม กาลนฺติ ‘‘เกสุจิ ฐาเนสุ วาฬมิคา วา อมนุสฺสา วา โหนฺติ, อิมํ กาลํ ปวิสิตพฺพํ นิกฺขมิตพฺพญฺจา’’ติ เอวํ ปเวสนิกฺขเม จ กาลํฯ เอตํ ปน อาสนปญฺญปนาทิกํ สพฺพํ วตฺตํ วุฑฺฒตเร อาคเต จีวรกมฺมาทิํ วา นาติคิลานสฺส เภสชฺชํ วา ฐเปตฺวาปิ กาตพฺพํฯ มหาคิลานสฺส ปน เภสชฺชเมว กาตพฺพํฯ เจติยงฺคณวตฺตํ กโรเนฺตนาปิ ตสฺส วตฺตํ กาตุํ อารภิตพฺพํฯ ปณฺฑิโต หิ อาคนฺตุโก ‘‘กโรหิ ตาว เภสชฺชํ, เจติยงฺคณํ สมฺมชฺชาหี’’ติ จ วเทยฺยฯ อปิจ พีชเนน พีชิตโพฺพ, ปาทาปิสฺส โธวิตพฺพา, เตเลน มกฺขิตพฺพาฯ ปิฎฺฐิ เจ อาคิลายติ, สมฺพาเธตพฺพาฯ นวกสฺส ปน อาคนฺตุกสฺส ‘‘อิทมาสนํ, เอตฺถ นิสีทา’’ติอาทินา อาจิกฺขิตพฺพนฺติ ทเสฺสโนฺต ‘‘นิสิโนฺนเยวา’’ติอาทิมาหฯ นิสิโนฺนเยวาติ อิมินา ‘‘ฐิโตเยวา’’ติอาทิํ อุปลเกฺขติฯ สมุทฺทิเสติ อาทเรน วเทยฺยฯ อาวาสิกวตฺตํฯ

    220.Pavesanikkhame kālanti ‘‘kesuci ṭhānesu vāḷamigā vā amanussā vā honti, imaṃ kālaṃ pavisitabbaṃ nikkhamitabbañcā’’ti evaṃ pavesanikkhame ca kālaṃ. Etaṃ pana āsanapaññapanādikaṃ sabbaṃ vattaṃ vuḍḍhatare āgate cīvarakammādiṃ vā nātigilānassa bhesajjaṃ vā ṭhapetvāpi kātabbaṃ. Mahāgilānassa pana bhesajjameva kātabbaṃ. Cetiyaṅgaṇavattaṃ karontenāpi tassa vattaṃ kātuṃ ārabhitabbaṃ. Paṇḍito hi āgantuko ‘‘karohi tāva bhesajjaṃ, cetiyaṅgaṇaṃ sammajjāhī’’ti ca vadeyya. Apica bījanena bījitabbo, pādāpissa dhovitabbā, telena makkhitabbā. Piṭṭhi ce āgilāyati, sambādhetabbā. Navakassa pana āgantukassa ‘‘idamāsanaṃ, ettha nisīdā’’tiādinā ācikkhitabbanti dassento ‘‘nisinnoyevā’’tiādimāha. Nisinnoyevāti iminā ‘‘ṭhitoyevā’’tiādiṃ upalakkheti. Samuddiseti ādarena vadeyya. Āvāsikavattaṃ.

    ‘‘วตฺต’’นฺติ ปน สามเญฺญน นิทฺทิฎฺฐตฺตา น เถเร ภิกฺขู อติอลฺลียิตฺวา นิสีทิตพฺพํ, มหาเถรสฺส นิสินฺนาสนโต เอกํ เทฺว อาสนานิ ฐเปตฺวา ‘‘นิสีทา’’ติ วุเตฺต นิสีทิตพฺพํ, น นวาปิ ภิกฺขู อาสเนน ปฎิพาหิตพฺพา, น สงฺฆาฎิํ โอตฺถริตฺวา นิสีทิตพฺพํ, สทฺทํ อกตฺวา อุทกกิจฺจํ กาตพฺพํ, ยถา สูปสฺส โอกาโส โหติ, เอวมตฺตาย โอทโน คณฺหิตโพฺพ, เถเรน ภิกฺขุนา ‘‘ฐเปตฺวา อปฺปกํ โอทนาทิกํ สพฺพํ สเพฺพสํ สมกํ สมฺปาเทหี’’ติ วตฺตพฺพํ, น ตาว เถเรน ภุญฺชิตพฺพํ, ภุตฺตาวินา น ตาว อุทกํ ปฎิคฺคเหตพฺพํ, ภตฺตคฺคโต นิวตฺตเนฺตหิ ยถานุรูปํ นิกฺขมิตฺวา วิรฬาย ปาฬิยา คนฺตพฺพนฺติ เอวมาทิกญฺจ ตทนุรูปํ เสขิยวตฺตญฺจ สมฺปาเทตพฺพนฺติ อิทํ ภตฺตคฺควตฺตญฺจ สาธุกํ อตรมาเนน คาโม ปวิสิตโพฺพ, ‘‘อิมินา ปวิสิสฺสามิ, อิมินา นิกฺขมิสฺสามี’’ติ นิเวสนํ ปวิสเนฺตน สลฺลเกฺขตพฺพํ, นาติสหสา ปวิสิตพฺพํ, นาติสหสา นิกฺขมิตพฺพํ, นาติทูเร นจฺจาสเนฺน ฐาตพฺพํ, นาติจิรํ ฐาตพฺพํ, นาติลหุกํ นิวตฺติตพฺพํ, ทาตุกามตาการํ ญตฺวา ฐาตพฺพํ, โย ปฐมํ คามโต ปฎิกฺกมติ, เตน อาสนปญฺญปนาทิ สพฺพํ กาตพฺพํ, โย ปจฺฉา, เตน อาสนุทฺธรณาทิ สพฺพํ กาตพฺพนฺติ เอวมาทิกญฺจ ตทนุรูปํ เสขิยวตฺตญฺจ สมฺปาเทตพฺพนฺติ อิทํ ปิณฺฑจาริกวตฺตญฺจ กาตพฺพํฯ

    ‘‘Vatta’’nti pana sāmaññena niddiṭṭhattā na there bhikkhū atiallīyitvā nisīditabbaṃ, mahātherassa nisinnāsanato ekaṃ dve āsanāni ṭhapetvā ‘‘nisīdā’’ti vutte nisīditabbaṃ, na navāpi bhikkhū āsanena paṭibāhitabbā, na saṅghāṭiṃ ottharitvā nisīditabbaṃ, saddaṃ akatvā udakakiccaṃ kātabbaṃ, yathā sūpassa okāso hoti, evamattāya odano gaṇhitabbo, therena bhikkhunā ‘‘ṭhapetvā appakaṃ odanādikaṃ sabbaṃ sabbesaṃ samakaṃ sampādehī’’ti vattabbaṃ, na tāva therena bhuñjitabbaṃ, bhuttāvinā na tāva udakaṃ paṭiggahetabbaṃ, bhattaggato nivattantehi yathānurūpaṃ nikkhamitvā viraḷāya pāḷiyā gantabbanti evamādikañca tadanurūpaṃ sekhiyavattañca sampādetabbanti idaṃ bhattaggavattañca sādhukaṃ ataramānena gāmo pavisitabbo, ‘‘iminā pavisissāmi, iminā nikkhamissāmī’’ti nivesanaṃ pavisantena sallakkhetabbaṃ, nātisahasā pavisitabbaṃ, nātisahasā nikkhamitabbaṃ, nātidūre naccāsanne ṭhātabbaṃ, nāticiraṃ ṭhātabbaṃ, nātilahukaṃ nivattitabbaṃ, dātukāmatākāraṃ ñatvā ṭhātabbaṃ, yo paṭhamaṃ gāmato paṭikkamati, tena āsanapaññapanādi sabbaṃ kātabbaṃ, yo pacchā, tena āsanuddharaṇādi sabbaṃ kātabbanti evamādikañca tadanurūpaṃ sekhiyavattañca sampādetabbanti idaṃ piṇḍacārikavattañca kātabbaṃ.

    เสนาสนฎฺฐาเน สพฺพํ วตฺตญฺจ สมฺปาเทตฺวา ตโต นิกฺขมิตฺวา สาธุกํ นิวาเสตฺวา ปารุปิตฺวา จ อตรมาเนน คาโม ปวิสิตโพฺพติอาทิ สพฺพํ ปิณฺฑจาริกวตฺตํ กาตพฺพํฯ ปานียปริโภชนียอคฺคิอรณิสหิตกตฺตรทณฺฑา อุปฎฺฐเปตพฺพา, นกฺขตฺตปทานิ สกลานิ วา เอกเทสานิ วา อุคฺคเหตพฺพานิ, ทิสากุสเลน ภวิตพฺพนฺติ อิทํ อารญฺญิกวตฺตญฺจ อุทฺทิฎฺฐํเยว โหตีติ อวคนฺตพฺพนฺติฯ

    Senāsanaṭṭhāne sabbaṃ vattañca sampādetvā tato nikkhamitvā sādhukaṃ nivāsetvā pārupitvā ca ataramānena gāmo pavisitabbotiādi sabbaṃ piṇḍacārikavattaṃ kātabbaṃ. Pānīyaparibhojanīyaaggiaraṇisahitakattaradaṇḍā upaṭṭhapetabbā, nakkhattapadāni sakalāni vā ekadesāni vā uggahetabbāni, disākusalena bhavitabbanti idaṃ āraññikavattañca uddiṭṭhaṃyeva hotīti avagantabbanti.

    วตฺตนิเทฺทสวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Vattaniddesavaṇṇanā niṭṭhitā.





    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact