Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มิลินฺทปญฺหปาฬิ • Milindapañhapāḷi

    ๓. วตฺถคุยฺหนิทสฺสนปโญฺห

    3. Vatthaguyhanidassanapañho

    . ‘‘ภเนฺต นาคเสน, ภาสิตเมฺปตํ ตถาคเตน –

    3. ‘‘Bhante nāgasena, bhāsitampetaṃ tathāgatena –

    ‘‘‘กาเยน สํวโร สาธุ 1, สาธุ วาจาย สํวโร;

    ‘‘‘Kāyena saṃvaro sādhu 2, sādhu vācāya saṃvaro;

    มนสา สํวโร สาธุ, สาธุ สพฺพตฺถ สํวโร’ติฯ

    Manasā saṃvaro sādhu, sādhu sabbattha saṃvaro’ti.

    ‘‘ปุน จ ตถาคโต จตุนฺนํ ปริสานํ มเชฺฌ นิสีทิตฺวา ปุรโต เทวมนุสฺสานํ เสลสฺส พฺราหฺมณสฺส โกโสหิตํ วตฺถคุยฺหํ ทเสฺสสิฯ ยทิ, ภเนฺต นาคเสน, ภควตา ภณิตํ ‘กาเยน สํวโร สาธู’ติ, เตน หิ เสลสฺส พฺราหฺมณสฺส โกโสหิตํ วตฺถคุยฺหํ ทเสฺสสีติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉาฯ ยทิ เสลสฺส พฺราหฺมณสฺส โกโสหิตํ วตฺถคุยฺหํ ทเสฺสติ, เตน หิ ‘กาเยน สํวโร สาธู’ติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉาฯ อยมฺปิ อุภโต โกฎิโก ปโญฺห ตวานุปฺปโตฺต, โส ตยา นิพฺพาหิตโพฺพ’’ติฯ

    ‘‘Puna ca tathāgato catunnaṃ parisānaṃ majjhe nisīditvā purato devamanussānaṃ selassa brāhmaṇassa kosohitaṃ vatthaguyhaṃ dassesi. Yadi, bhante nāgasena, bhagavatā bhaṇitaṃ ‘kāyena saṃvaro sādhū’ti, tena hi selassa brāhmaṇassa kosohitaṃ vatthaguyhaṃ dassesīti yaṃ vacanaṃ, taṃ micchā. Yadi selassa brāhmaṇassa kosohitaṃ vatthaguyhaṃ dasseti, tena hi ‘kāyena saṃvaro sādhū’ti tampi vacanaṃ micchā. Ayampi ubhato koṭiko pañho tavānuppatto, so tayā nibbāhitabbo’’ti.

    ‘‘ภาสิตเมฺปตํ, มหาราช, ภควตา ‘กาเยน สํวโร สาธู’ติ, เสลสฺส จ พฺราหฺมณสฺส โกโสหิตํ วตฺถคุยฺหํ ทสฺสิตํฯ ยสฺส โข, มหาราช, ตถาคเต กงฺขา อุปฺปนฺนา, ตสฺส โพธนตฺถาย ภควา อิทฺธิยา ตปฺปฎิภาคํ กายํ ทเสฺสติ, โส เยว ตํ ปาฎิหาริยํ ปสฺสตี’’ติฯ

    ‘‘Bhāsitampetaṃ, mahārāja, bhagavatā ‘kāyena saṃvaro sādhū’ti, selassa ca brāhmaṇassa kosohitaṃ vatthaguyhaṃ dassitaṃ. Yassa kho, mahārāja, tathāgate kaṅkhā uppannā, tassa bodhanatthāya bhagavā iddhiyā tappaṭibhāgaṃ kāyaṃ dasseti, so yeva taṃ pāṭihāriyaṃ passatī’’ti.

    ‘‘โก ปเนตํ, ภเนฺต นาคเสน, สทฺทหิสฺสติ, ยํ ปริสคโต เอโก เยว ตํ คุยฺหํ ปสฺสติ, อวเสสา ตเตฺถว วสนฺตา น ปสฺสนฺตีติฯ อิงฺฆ เม ตฺวํ ตตฺถ การณํ อุปทิส, การเณน มํ สญฺญาเปหี’’ติฯ ‘‘ทิฎฺฐปุโพฺพ ปน ตยา, มหาราช, โกจิ พฺยาธิโต ปุริโส ปริกิโณฺณ ญาติมิเตฺตหี’’ติฯ ‘‘อาม ภเนฺต’’ติฯ ‘‘อปิ นุ โข สา, มหาราช, ปริสา ปสฺสเตตํ เวทนํ, ยาย โส ปุริโส เวทนาย เวทยตี’’ติฯ ‘‘น หิ ภเนฺต, อตฺตนา เยว โส, ภเนฺต, ปุริโส เวทยตี’’ติฯ ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ยเสฺสว ตถาคเต กงฺขา อุปฺปนฺนา, ตเสฺสว ตถาคโต โพธนตฺถาย อิทฺธิยา ตปฺปฎิภาคํ กายํ ทเสฺสติ, โส เยว ตํ ปาฎิหาริยํ ปสฺสติฯ

    ‘‘Ko panetaṃ, bhante nāgasena, saddahissati, yaṃ parisagato eko yeva taṃ guyhaṃ passati, avasesā tattheva vasantā na passantīti. Iṅgha me tvaṃ tattha kāraṇaṃ upadisa, kāraṇena maṃ saññāpehī’’ti. ‘‘Diṭṭhapubbo pana tayā, mahārāja, koci byādhito puriso parikiṇṇo ñātimittehī’’ti. ‘‘Āma bhante’’ti. ‘‘Api nu kho sā, mahārāja, parisā passatetaṃ vedanaṃ, yāya so puriso vedanāya vedayatī’’ti. ‘‘Na hi bhante, attanā yeva so, bhante, puriso vedayatī’’ti. ‘‘Evameva kho, mahārāja, yasseva tathāgate kaṅkhā uppannā, tasseva tathāgato bodhanatthāya iddhiyā tappaṭibhāgaṃ kāyaṃ dasseti, so yeva taṃ pāṭihāriyaṃ passati.

    ‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, กญฺจิเทว ปุริสํ ภูโต อาวิเสยฺย, อปิ นุ โข สา, มหาราช, ปริสา ปสฺสติ ตํ ภูตาคมน’’นฺติ? ‘‘น หิ, ภเนฺต, โส เยว อาตุโร ตสฺส ภูตสฺส อาคมนํ ปสฺสตี’’ติฯ ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ยเสฺสว ตถาคเต กงฺขา อุปฺปนฺนา, ตเสฺสว ตถาคโต โพธนตฺถาย อิทฺธิยา ตปฺปฎิภาคํ กายํ ทเสฺสติ, โส เยว ตํ ปาฎิหาริยํ ปสฺสตี’’ติฯ

    ‘‘Yathā vā pana, mahārāja, kañcideva purisaṃ bhūto āviseyya, api nu kho sā, mahārāja, parisā passati taṃ bhūtāgamana’’nti? ‘‘Na hi, bhante, so yeva āturo tassa bhūtassa āgamanaṃ passatī’’ti. ‘‘Evameva kho, mahārāja, yasseva tathāgate kaṅkhā uppannā, tasseva tathāgato bodhanatthāya iddhiyā tappaṭibhāgaṃ kāyaṃ dasseti, so yeva taṃ pāṭihāriyaṃ passatī’’ti.

    ‘‘ทุกฺกรํ, ภเนฺต นาคเสน, ภควตา กตํ, ยํ เอกสฺสปิ อทสฺสนียํ, ตํ ทเสฺสเนฺตนา’’ติฯ ‘‘น, มหาราช, ภควา คุยฺหํ ทเสฺสสิ , อิทฺธิยา ปน ฉายํ ทเสฺสสี’’ติฯ ‘‘ฉายายปิ, ภเนฺต, ทิฎฺฐาย ทิฎฺฐํ เยว โหติ คุยฺหํ, ยํ ทิสฺวา นิฎฺฐํ คโต’’ติฯ ‘‘ทุกฺกรญฺจาปิ, มหาราช, ตถาคโต กโรติ โพธเนเยฺย สเตฺต โพเธตุํฯ ยทิ, มหาราช, ตถาคโต กิริยํ หาเปยฺย, โพธเนยฺยา สตฺตา น พุเชฺฌยฺยุํฯ ยสฺมา จ โข, มหาราช, โยคญฺญู ตถาคโต โพธเนเยฺย สเตฺต โพเธตุํ, ตสฺมา ตถาคโต เยน เยน โยเคน โพธเนยฺยา พุชฺฌนฺติ, เตน เตน โยเคน โพธเนเยฺย โพเธติฯ

    ‘‘Dukkaraṃ, bhante nāgasena, bhagavatā kataṃ, yaṃ ekassapi adassanīyaṃ, taṃ dassentenā’’ti. ‘‘Na, mahārāja, bhagavā guyhaṃ dassesi , iddhiyā pana chāyaṃ dassesī’’ti. ‘‘Chāyāyapi, bhante, diṭṭhāya diṭṭhaṃ yeva hoti guyhaṃ, yaṃ disvā niṭṭhaṃ gato’’ti. ‘‘Dukkarañcāpi, mahārāja, tathāgato karoti bodhaneyye satte bodhetuṃ. Yadi, mahārāja, tathāgato kiriyaṃ hāpeyya, bodhaneyyā sattā na bujjheyyuṃ. Yasmā ca kho, mahārāja, yogaññū tathāgato bodhaneyye satte bodhetuṃ, tasmā tathāgato yena yena yogena bodhaneyyā bujjhanti, tena tena yogena bodhaneyye bodheti.

    ‘‘ยถา, มหาราช, ภิสโกฺก สลฺลกโตฺต เยน เยน เภสเชฺชน อาตุโร อโรโค โหติ, เตน เตน เภสเชฺชน อาตุรํ อุปสงฺกมติ, วมนียํ วเมติ, วิเรจนียํ วิเรเจติ, อนุเลปนียํ อนุลิเมฺปติ, อนุวาสนียํ อนุวาเสติฯ เอวเมว โข, มหาราช, ตถาคโต เยน เยน โยเคน โพธเนยฺยา สตฺตา พุชฺฌนฺติ, เตน เตน โยเคน โพเธติฯ

    ‘‘Yathā, mahārāja, bhisakko sallakatto yena yena bhesajjena āturo arogo hoti, tena tena bhesajjena āturaṃ upasaṅkamati, vamanīyaṃ vameti, virecanīyaṃ vireceti, anulepanīyaṃ anulimpeti, anuvāsanīyaṃ anuvāseti. Evameva kho, mahārāja, tathāgato yena yena yogena bodhaneyyā sattā bujjhanti, tena tena yogena bodheti.

    ‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, อิตฺถี มูฬฺหคพฺภา ภิสกฺกสฺส อทสฺสนียํ คุยฺหํ ทเสฺสติ, เอวเมว โข, มหาราช, ตถาคโต โพธเนเยฺย สเตฺต โพเธตุํ อทสฺสนียํ คุยฺหํ อิทฺธิยา ฉายํ ทเสฺสสิฯ นตฺถิ, มหาราช, อทสฺสนีโย นาม โอกาโส ปุคฺคลํ อุปาทายฯ ยทิ, มหาราช, โกจิ ภควโต หทยํ ทิสฺวา พุเชฺฌยฺย, ตสฺสปิ ภควา โยเคน หทยํ ทเสฺสยฺย, โยคญฺญู, มหาราช, ตถาคโต เทสนากุสโลฯ

    ‘‘Yathā vā pana, mahārāja, itthī mūḷhagabbhā bhisakkassa adassanīyaṃ guyhaṃ dasseti, evameva kho, mahārāja, tathāgato bodhaneyye satte bodhetuṃ adassanīyaṃ guyhaṃ iddhiyā chāyaṃ dassesi. Natthi, mahārāja, adassanīyo nāma okāso puggalaṃ upādāya. Yadi, mahārāja, koci bhagavato hadayaṃ disvā bujjheyya, tassapi bhagavā yogena hadayaṃ dasseyya, yogaññū, mahārāja, tathāgato desanākusalo.

    ‘‘นนุ, มหาราช, ตถาคโต เถรสฺส นนฺทสฺส อธิมุตฺติํ ชานิตฺวา ตํ เทวภวนํ เนตฺวา เทวกญฺญาโย ทเสฺสสิ ‘อิมินายํ กุลปุโตฺต พุชฺฌิสฺสตี’ติ, เตน จ โส กุลปุโตฺต พุชฺฌิฯ อิติ โข, มหาราช, ตถาคโต อเนกปริยาเยน สุภนิมิตฺตํ หีเฬโนฺต ครหโนฺต ชิคุจฺฉโนฺต ตสฺส โพธนเหตุ กกุฎปาทินิโย อจฺฉราโย ทเสฺสสิฯ เอวมฺปิ ตถาคโต โยคญฺญู เทสนากุสโลฯ

    ‘‘Nanu, mahārāja, tathāgato therassa nandassa adhimuttiṃ jānitvā taṃ devabhavanaṃ netvā devakaññāyo dassesi ‘imināyaṃ kulaputto bujjhissatī’ti, tena ca so kulaputto bujjhi. Iti kho, mahārāja, tathāgato anekapariyāyena subhanimittaṃ hīḷento garahanto jigucchanto tassa bodhanahetu kakuṭapādiniyo accharāyo dassesi. Evampi tathāgato yogaññū desanākusalo.

    ‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ตถาคโต เถรสฺส จูฬปนฺถกสฺส ภาตรา นิกฺกฑฺฒิตสฺส ทุกฺขิตสฺส ทุมฺมนสฺส อุปคนฺตฺวา สุขุมํ โจฬขณฺฑํ อทาสิ ‘อิมินายํ กุลปุโตฺต พุชฺฌิสฺสตี’ติ , โส จ กุลปุโตฺต เตน การเณน ชินสาสเน วสีภาวํ ปาปุณิฯ เอวมฺปิ, มหาราช, ตถาคโต โยคญฺญู เทสนากุสโลฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, mahārāja, tathāgato therassa cūḷapanthakassa bhātarā nikkaḍḍhitassa dukkhitassa dummanassa upagantvā sukhumaṃ coḷakhaṇḍaṃ adāsi ‘imināyaṃ kulaputto bujjhissatī’ti , so ca kulaputto tena kāraṇena jinasāsane vasībhāvaṃ pāpuṇi. Evampi, mahārāja, tathāgato yogaññū desanākusalo.

    ‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ตถาคโต พฺราหฺมณสฺส โมฆราชสฺส ยาว ตติยํ ปญฺหํ ปุโฎฺฐ น พฺยากาสิ ‘เอวมิมสฺส กุลปุตฺตสฺส มาโน อุปสมิสฺสติ, มานูปสมา อภิสมโย ภวิสฺสตี’ติ, เตน จ ตสฺส กุลปุตฺตสฺส มาโน อุปสมิ, มานูปสมา โส พฺราหฺมโณ ฉสุ อภิญฺญาสุ วสีภาวํ ปาปุณิฯ เอวมฺปิ, มหาราช, ตถาคโต โยคญฺญู เทสนากุสโล’’ติฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, mahārāja, tathāgato brāhmaṇassa mogharājassa yāva tatiyaṃ pañhaṃ puṭṭho na byākāsi ‘evamimassa kulaputtassa māno upasamissati, mānūpasamā abhisamayo bhavissatī’ti, tena ca tassa kulaputtassa māno upasami, mānūpasamā so brāhmaṇo chasu abhiññāsu vasībhāvaṃ pāpuṇi. Evampi, mahārāja, tathāgato yogaññū desanākusalo’’ti.

    ‘‘สาธุ, ภเนฺต นาคเสน, สุนิเพฺพฐิโต ปโญฺห พหุวิเธหิ การเณหิ, คหนํ อคหนํ กตํ, อนฺธกาโร อาโลโก กโต, คณฺฐิ ภิโนฺน, ภคฺคา ปรวาทา, ชินปุตฺตานํ จกฺขุํ ตยา อุปฺปาทิตํ, นิปฺปฎิภานา ติตฺถิยา, ตฺวํ คณิวรปวรมาสชฺชา’’ติฯ

    ‘‘Sādhu, bhante nāgasena, sunibbeṭhito pañho bahuvidhehi kāraṇehi, gahanaṃ agahanaṃ kataṃ, andhakāro āloko kato, gaṇṭhi bhinno, bhaggā paravādā, jinaputtānaṃ cakkhuṃ tayā uppāditaṃ, nippaṭibhānā titthiyā, tvaṃ gaṇivarapavaramāsajjā’’ti.

    วตฺถคุยฺหนิทสฺสนปโญฺห ตติโยฯ

    Vatthaguyhanidassanapañho tatiyo.







    Footnotes:
    1. ธ. ป. ๓๖๑
    2. dha. pa. 361

    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact