Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya

    ๔. วตฺถสุตฺตํ

    4. Vatthasuttaṃ

    ๑๘๕. เอกํ สมยํ อายสฺมา สาริปุโตฺต สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ ตตฺร โข อายสฺมา สาริปุโตฺต ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อาวุโส, ภิกฺขโว’’ติ! ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปจฺจโสฺสสุํฯ อายสฺมา สาริปุโตฺต เอตทโวจ –

    185. Ekaṃ samayaṃ āyasmā sāriputto sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tatra kho āyasmā sāriputto bhikkhū āmantesi – ‘‘āvuso, bhikkhavo’’ti! ‘‘Āvuso’’ti kho te bhikkhū āyasmato sāriputtassa paccassosuṃ. Āyasmā sāriputto etadavoca –

    ‘‘สตฺติเม, อาวุโส, โพชฺฌงฺคาฯ กตเม สตฺต? สติสโมฺพชฺฌโงฺค, ธมฺมวิจยสโมฺพชฺฌโงฺค, วีริยสโมฺพชฺฌโงฺค, ปีติสโมฺพชฺฌโงฺค, ปสฺสทฺธิสโมฺพชฺฌโงฺค, สมาธิสโมฺพชฺฌโงฺค, อุเปกฺขาสโมฺพชฺฌโงฺค – อิเม โข, อาวุโส, สตฺต โพชฺฌงฺคาฯ อิเมสํ ขฺวาหํ, อาวุโส, สตฺตนฺนํ โพชฺฌงฺคานํ เยน เยน โพชฺฌเงฺคน อากงฺขามิ ปุพฺพณฺหสมยํ วิหริตุํ, เตน เตน โพชฺฌเงฺคน ปุพฺพณฺหสมยํ วิหรามิ; เยน เยน โพชฺฌเงฺคน อากงฺขามิ มชฺฌนฺหิกํ สมยํ วิหริตุํ, เตน เตน โพชฺฌเงฺคน มชฺฌนฺหิกํ สมยํ วิหรามิ; เยน เยน โพชฺฌเงฺคน อากงฺขามิ สายนฺหสมยํ วิหริตุํ, เตน เตน โพชฺฌเงฺคน สายนฺหสมยํ วิหรามิฯ สติสโมฺพชฺฌโงฺค อิติ เจ เม, อาวุโส, โหติ, ‘อปฺปมาโณ’ติ เม โหติ, ‘สุสมารโทฺธ’ติ เม โหติ, ติฎฺฐนฺตญฺจ นํ ‘ติฎฺฐตี’ติ ปชานามิฯ สเจปิ เม จวติ, ‘อิทปฺปจฺจยา เม จวตี’ติ ปชานามิ…เป.… อุเปกฺขาสโมฺพชฺฌโงฺค อิติ เจ เม, อาวุโส, โหติ, ‘อปฺปมาโณ’ติ เม โหติ, ‘สุสมารโทฺธ’ติ เม โหติ, ติฎฺฐนฺตญฺจ นํ ‘ติฎฺฐตี’ติ ปชานามิฯ สเจปิ เม จวติ, ‘อิทปฺปจฺจยา เม จวตี’ติ ปชานามิฯ

    ‘‘Sattime, āvuso, bojjhaṅgā. Katame satta? Satisambojjhaṅgo, dhammavicayasambojjhaṅgo, vīriyasambojjhaṅgo, pītisambojjhaṅgo, passaddhisambojjhaṅgo, samādhisambojjhaṅgo, upekkhāsambojjhaṅgo – ime kho, āvuso, satta bojjhaṅgā. Imesaṃ khvāhaṃ, āvuso, sattannaṃ bojjhaṅgānaṃ yena yena bojjhaṅgena ākaṅkhāmi pubbaṇhasamayaṃ viharituṃ, tena tena bojjhaṅgena pubbaṇhasamayaṃ viharāmi; yena yena bojjhaṅgena ākaṅkhāmi majjhanhikaṃ samayaṃ viharituṃ, tena tena bojjhaṅgena majjhanhikaṃ samayaṃ viharāmi; yena yena bojjhaṅgena ākaṅkhāmi sāyanhasamayaṃ viharituṃ, tena tena bojjhaṅgena sāyanhasamayaṃ viharāmi. Satisambojjhaṅgo iti ce me, āvuso, hoti, ‘appamāṇo’ti me hoti, ‘susamāraddho’ti me hoti, tiṭṭhantañca naṃ ‘tiṭṭhatī’ti pajānāmi. Sacepi me cavati, ‘idappaccayā me cavatī’ti pajānāmi…pe… upekkhāsambojjhaṅgo iti ce me, āvuso, hoti, ‘appamāṇo’ti me hoti, ‘susamāraddho’ti me hoti, tiṭṭhantañca naṃ ‘tiṭṭhatī’ti pajānāmi. Sacepi me cavati, ‘idappaccayā me cavatī’ti pajānāmi.

    ‘‘เสยฺยถาปิ, อาวุโส, รโญฺญ วา ราชมหามตฺตสฺส วา นานารตฺตานํ ทุสฺสานํ ทุสฺสกรณฺฑโก ปูโร อสฺสฯ โส ยญฺญเทว ทุสฺสยุคํ อากเงฺขยฺย ปุพฺพณฺหสมยํ ปารุปิตุํ, ตํ ตเทว ทุสฺสยุคํ ปุพฺพณฺหสมยํ ปารุเปยฺย; ยญฺญเทว ทุสฺสยุคํ อากเงฺขยฺย มชฺฌนฺหิกํ สมยํ ปารุปิตุํ, ตํ ตเทว ทุสฺสยุคํ มชฺฌนฺหิกํ สมยํ ปารุเปยฺย; ยญฺญเทว ทุสฺสยุคํ อากเงฺขยฺย สายนฺหสมยํ ปารุปิตุํ, ตํ ตเทว ทุสฺสยุคํ สายนฺหสมยํ ปารุเปยฺยฯ เอวเมว ขฺวาหํ, อาวุโส, อิเมสํ สตฺตนฺนํ โพชฺฌงฺคานํ เยน เยน โพชฺฌเงฺคน อากงฺขามิ ปุพฺพณฺหสมยํ วิหริตุํ, เตน เตน โพชฺฌเงฺคน ปุพฺพณฺหสมยํ วิหรามิ; เยน เยน โพชฺฌเงฺคน อากงฺขามิ มชฺฌนฺหิกํ สมยํ วิหริตุํ, เตน เตน โพชฺฌเงฺคน มชฺฌนฺหิกํ สมยํ วิหรามิ; เยน เยน โพชฺฌเงฺคน อากงฺขามิ สายนฺหสมยํ วิหริตุํ, เตน เตน โพชฺฌเงฺคน สายนฺหสมยํ วิหรามิฯ สติสโมฺพชฺฌโงฺค อิติ เจ เม, อาวุโส, โหติ, ‘อปฺปมาโณ’ติ เม โหติ, ‘สุสมารโทฺธ’ติ เม โหติ, ติฎฺฐนฺตญฺจ นํ ‘ติฎฺฐตี’ติ ปชานามิฯ สเจปิ เม จวติ, ‘อิทปฺปจฺจยา เม จวตี’ติ ปชานามิ…เป.… อุเปกฺขาสโมฺพชฺฌโงฺค อิติ เจ เม, อาวุโส, โหติ, ‘อปฺปมาโณ’ติ เม โหติ, ‘สุสมารโทฺธ’ติ เม โหติ, ติฎฺฐนฺตญฺจ นํ ‘ติฎฺฐตี’ติ ปชานามิฯ สเจปิ เม จวติ, ‘อิทปฺปจฺจยา เม จวตี’ติ ปชานามี’’ติฯ จตุตฺถํฯ

    ‘‘Seyyathāpi, āvuso, rañño vā rājamahāmattassa vā nānārattānaṃ dussānaṃ dussakaraṇḍako pūro assa. So yaññadeva dussayugaṃ ākaṅkheyya pubbaṇhasamayaṃ pārupituṃ, taṃ tadeva dussayugaṃ pubbaṇhasamayaṃ pārupeyya; yaññadeva dussayugaṃ ākaṅkheyya majjhanhikaṃ samayaṃ pārupituṃ, taṃ tadeva dussayugaṃ majjhanhikaṃ samayaṃ pārupeyya; yaññadeva dussayugaṃ ākaṅkheyya sāyanhasamayaṃ pārupituṃ, taṃ tadeva dussayugaṃ sāyanhasamayaṃ pārupeyya. Evameva khvāhaṃ, āvuso, imesaṃ sattannaṃ bojjhaṅgānaṃ yena yena bojjhaṅgena ākaṅkhāmi pubbaṇhasamayaṃ viharituṃ, tena tena bojjhaṅgena pubbaṇhasamayaṃ viharāmi; yena yena bojjhaṅgena ākaṅkhāmi majjhanhikaṃ samayaṃ viharituṃ, tena tena bojjhaṅgena majjhanhikaṃ samayaṃ viharāmi; yena yena bojjhaṅgena ākaṅkhāmi sāyanhasamayaṃ viharituṃ, tena tena bojjhaṅgena sāyanhasamayaṃ viharāmi. Satisambojjhaṅgo iti ce me, āvuso, hoti, ‘appamāṇo’ti me hoti, ‘susamāraddho’ti me hoti, tiṭṭhantañca naṃ ‘tiṭṭhatī’ti pajānāmi. Sacepi me cavati, ‘idappaccayā me cavatī’ti pajānāmi…pe… upekkhāsambojjhaṅgo iti ce me, āvuso, hoti, ‘appamāṇo’ti me hoti, ‘susamāraddho’ti me hoti, tiṭṭhantañca naṃ ‘tiṭṭhatī’ti pajānāmi. Sacepi me cavati, ‘idappaccayā me cavatī’ti pajānāmī’’ti. Catutthaṃ.







    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๔. วตฺถสุตฺตวณฺณนา • 4. Vatthasuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๔. วตฺถสุตฺตวณฺณนา • 4. Vatthasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact