Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สุตฺตนิปาตปาฬิ • Suttanipātapāḷi |
๕. ปารายนวโคฺค
5. Pārāyanavaggo
วตฺถุคาถา
Vatthugāthā
๙๘๒.
982.
โกสลานํ ปุรา รมฺมา, อคมา ทกฺขิณาปถํ;
Kosalānaṃ purā rammā, agamā dakkhiṇāpathaṃ;
อากิญฺจญฺญํ ปตฺถยาโน, พฺราหฺมโณ มนฺตปารคูฯ
Ākiñcaññaṃ patthayāno, brāhmaṇo mantapāragū.
๙๘๓.
983.
วสิ โคธาวรีกูเล, อุเญฺฉน จ ผเลน จฯ
Vasi godhāvarīkūle, uñchena ca phalena ca.
๙๘๔.
984.
ตเสฺสว อุปนิสฺสาย, คาโม จ วิปุโล อหุ;
Tasseva upanissāya, gāmo ca vipulo ahu;
ตโต ชาเตน อาเยน, มหายญฺญมกปฺปยิฯ
Tato jātena āyena, mahāyaññamakappayi.
๙๘๕.
985.
มหายญฺญํ ยชิตฺวาน, ปุน ปาวิสิ อสฺสมํ;
Mahāyaññaṃ yajitvāna, puna pāvisi assamaṃ;
ตสฺมิํ ปฎิปวิฎฺฐมฺหิ, อโญฺญ อาคญฺฉิ พฺราหฺมโณฯ
Tasmiṃ paṭipaviṭṭhamhi, añño āgañchi brāhmaṇo.
๙๘๖.
986.
โส จ นํ อุปสงฺกมฺม, สตานิ ปญฺจ ยาจติฯ
So ca naṃ upasaṅkamma, satāni pañca yācati.
๙๘๗.
987.
ตเมนํ พาวรี ทิสฺวา, อาสเนน นิมนฺตยิ;
Tamenaṃ bāvarī disvā, āsanena nimantayi;
สุขญฺจ กุสลํ ปุจฺฉิ, อิทํ วจนมพฺรวิฯ
Sukhañca kusalaṃ pucchi, idaṃ vacanamabravi.
๙๘๘.
988.
‘‘ยํ โข มม เทยฺยธมฺมํ, สพฺพํ วิสชฺชิตํ มยา;
‘‘Yaṃ kho mama deyyadhammaṃ, sabbaṃ visajjitaṃ mayā;
อนุชานาหิ เม พฺรเหฺม, นตฺถิ ปญฺจสตานิ เม’’ฯ
Anujānāhi me brahme, natthi pañcasatāni me’’.
๙๘๙.
989.
‘‘สเจ เม ยาจมานสฺส, ภวํ นานุปทสฺสติ;
‘‘Sace me yācamānassa, bhavaṃ nānupadassati;
สตฺตเม ทิวเส ตุยฺหํ, มุทฺธา ผลตุ สตฺตธา’’ฯ
Sattame divase tuyhaṃ, muddhā phalatu sattadhā’’.
๙๙๐.
990.
อภิสงฺขริตฺวา กุหโก, เภรวํ โส อกิตฺตยิ;
Abhisaṅkharitvā kuhako, bheravaṃ so akittayi;
ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา, พาวรี ทุกฺขิโต อหุฯ
Tassa taṃ vacanaṃ sutvā, bāvarī dukkhito ahu.
๙๙๑.
991.
อุสฺสุสฺสติ อนาหาโร, โสกสลฺลสมปฺปิโต;
Ussussati anāhāro, sokasallasamappito;
อโถปิ เอวํ จิตฺตสฺส, ฌาเน น รมตี มโนฯ
Athopi evaṃ cittassa, jhāne na ramatī mano.
๙๙๒.
992.
อุตฺรสฺตํ ทุกฺขิตํ ทิสฺวา, เทวตา อตฺถกามินี;
Utrastaṃ dukkhitaṃ disvā, devatā atthakāminī;
พาวริํ อุปสงฺกมฺม, อิทํ วจนมพฺรวิฯ
Bāvariṃ upasaṅkamma, idaṃ vacanamabravi.
๙๙๓.
993.
‘‘น โส มุทฺธํ ปชานาติ, กุหโก โส ธนตฺถิโก;
‘‘Na so muddhaṃ pajānāti, kuhako so dhanatthiko;
มุทฺธนิ มุทฺธปาเต วา, ญาณํ ตสฺส น วิชฺชติ’’ฯ
Muddhani muddhapāte vā, ñāṇaṃ tassa na vijjati’’.
๙๙๔.
994.
‘‘โภตี จรหิ ชานาสิ, ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิตา;
‘‘Bhotī carahi jānāsi, taṃ me akkhāhi pucchitā;
มุทฺธํ มุทฺธาธิปาตญฺจ, ตํ สุโณม วโจ ตว’’ฯ
Muddhaṃ muddhādhipātañca, taṃ suṇoma vaco tava’’.
๙๙๕.
995.
‘‘อหเมฺปตํ น ชานามิ, ญาณเมตฺถ น วิชฺชติ;
‘‘Ahampetaṃ na jānāmi, ñāṇamettha na vijjati;
มุทฺธนิ มุทฺธาธิปาเต จ, ชินานํ เหตฺถ 5 ทสฺสนํ’’ฯ
Muddhani muddhādhipāte ca, jinānaṃ hettha 6 dassanaṃ’’.
๙๙๖.
996.
มุทฺธํ มุทฺธาธิปาตญฺจ, ตํ เม อกฺขาหิ เทวเต’’ฯ
Muddhaṃ muddhādhipātañca, taṃ me akkhāhi devate’’.
๙๙๗.
997.
‘‘ปุรา กปิลวตฺถุมฺหา, นิกฺขโนฺต โลกนายโก;
‘‘Purā kapilavatthumhā, nikkhanto lokanāyako;
อปโจฺจ โอกฺกากราชสฺส, สกฺยปุโตฺต ปภงฺกโรฯ
Apacco okkākarājassa, sakyaputto pabhaṅkaro.
๙๙๘.
998.
‘‘โส หิ พฺราหฺมณ สมฺพุโทฺธ, สพฺพธมฺมาน ปารคู;
‘‘So hi brāhmaṇa sambuddho, sabbadhammāna pāragū;
สพฺพาภิญฺญาพลปฺปโตฺต, สพฺพธเมฺมสุ จกฺขุมา;
Sabbābhiññābalappatto, sabbadhammesu cakkhumā;
สพฺพกมฺมกฺขยํ ปโตฺต, วิมุโตฺต อุปธิกฺขเยฯ
Sabbakammakkhayaṃ patto, vimutto upadhikkhaye.
๙๙๙.
999.
‘‘พุโทฺธ โส ภควา โลเก, ธมฺมํ เทเสติ จกฺขุมา;
‘‘Buddho so bhagavā loke, dhammaṃ deseti cakkhumā;
ตํ ตฺวํ คนฺตฺวาน ปุจฺฉสฺสุ, โส เต ตํ พฺยากริสฺสติ’’ฯ
Taṃ tvaṃ gantvāna pucchassu, so te taṃ byākarissati’’.
๑๐๐๐.
1000.
สมฺพุโทฺธติ วโจ สุตฺวา, อุทโคฺค พาวรี อหุ;
Sambuddhoti vaco sutvā, udaggo bāvarī ahu;
โสกสฺส ตนุโก อาสิ, ปีติญฺจ วิปุลํ ลภิฯ
Sokassa tanuko āsi, pītiñca vipulaṃ labhi.
๑๐๐๑.
1001.
โส พาวรี อตฺตมโน อุทโคฺค, ตํ เทวตํ ปุจฺฉติ เวทชาโต;
So bāvarī attamano udaggo, taṃ devataṃ pucchati vedajāto;
‘‘กตมมฺหิ คาเม นิคมมฺหิ วา ปน, กตมมฺหิ วา ชนปเท โลกนาโถ;
‘‘Katamamhi gāme nigamamhi vā pana, katamamhi vā janapade lokanātho;
๑๐๐๒.
1002.
‘‘สาวตฺถิยํ โกสลมนฺทิเร ชิโน, ปหูตปโญฺญ วรภูริเมธโส;
‘‘Sāvatthiyaṃ kosalamandire jino, pahūtapañño varabhūrimedhaso;
โส สกฺยปุโตฺต วิธุโร อนาสโว, มุทฺธาธิปาตสฺส วิทู นราสโภ’’ฯ
So sakyaputto vidhuro anāsavo, muddhādhipātassa vidū narāsabho’’.
๑๐๐๓.
1003.
ตโต อามนฺตยี สิเสฺส, พฺราหฺมเณ มนฺตปารเค;
Tato āmantayī sisse, brāhmaṇe mantapārage;
‘‘เอถ มาณวา อกฺขิสฺสํ, สุณาถ วจนํ มมฯ
‘‘Etha māṇavā akkhissaṃ, suṇātha vacanaṃ mama.
๑๐๐๔.
1004.
‘‘ยเสฺสโส ทุลฺลโภ โลเก, ปาตุภาโว อภิณฺหโส;
‘‘Yasseso dullabho loke, pātubhāvo abhiṇhaso;
สฺวาชฺช โลกมฺหิ อุปฺปโนฺน, สมฺพุโทฺธ อิติ วิสฺสุโต;
Svājja lokamhi uppanno, sambuddho iti vissuto;
ขิปฺปํ คนฺตฺวาน สาวตฺถิํ, ปสฺสโวฺห ทฺวิปทุตฺตมํ’’ฯ
Khippaṃ gantvāna sāvatthiṃ, passavho dvipaduttamaṃ’’.
๑๐๐๕.
1005.
‘‘กถํ จรหิ ชาเนมุ, ทิสฺวา พุโทฺธติ พฺราหฺมณ;
‘‘Kathaṃ carahi jānemu, disvā buddhoti brāhmaṇa;
อชานตํ โน ปพฺรูหิ, ยถา ชาเนมุ ตํ มยํ’’ฯ
Ajānataṃ no pabrūhi, yathā jānemu taṃ mayaṃ’’.
๑๐๐๖.
1006.
‘‘อาคตานิ หิ มเนฺตสุ, มหาปุริสลกฺขณา;
‘‘Āgatāni hi mantesu, mahāpurisalakkhaṇā;
๑๐๐๗.
1007.
‘‘ยเสฺสเต โหนฺติ คเตฺตสุ, มหาปุริสลกฺขณา;
‘‘Yassete honti gattesu, mahāpurisalakkhaṇā;
เทฺวเยว ตสฺส คติโย, ตติยา หิ น วิชฺชติฯ
Dveyeva tassa gatiyo, tatiyā hi na vijjati.
๑๐๐๘.
1008.
อทเณฺฑน อสเตฺถน, ธเมฺมนมนุสาสติฯ
Adaṇḍena asatthena, dhammenamanusāsati.
๑๐๐๙.
1009.
‘‘สเจ จ โส ปพฺพชติ, อคารา อนคาริยํ;
‘‘Sace ca so pabbajati, agārā anagāriyaṃ;
๑๐๑๐.
1010.
‘‘ชาติํ โคตฺตญฺจ ลกฺขณํ, มเนฺต สิเสฺส ปุนาปเร;
‘‘Jātiṃ gottañca lakkhaṇaṃ, mante sisse punāpare;
มุทฺธํ มุทฺธาธิปาตญฺจ, มนสาเยว ปุจฺฉถฯ
Muddhaṃ muddhādhipātañca, manasāyeva pucchatha.
๑๐๑๑.
1011.
‘‘อนาวรณทสฺสาวี, ยทิ พุโทฺธ ภวิสฺสติ;
‘‘Anāvaraṇadassāvī, yadi buddho bhavissati;
มนสา ปุจฺฉิเต ปเญฺห, วาจาย วิสฺสเชสฺสติ’’ฯ
Manasā pucchite pañhe, vācāya vissajessati’’.
๑๐๑๒.
1012.
พาวริสฺส วโจ สุตฺวา, สิสฺสา โสฬส พฺราหฺมณา;
Bāvarissa vaco sutvā, sissā soḷasa brāhmaṇā;
อชิโต ติสฺสเมเตฺตโยฺย, ปุณฺณโก อถ เมตฺตคูฯ
Ajito tissametteyyo, puṇṇako atha mettagū.
๑๐๑๓.
1013.
โธตโก อุปสีโว จ, นโนฺท จ อถ เหมโก;
Dhotako upasīvo ca, nando ca atha hemako;
โตเทยฺยกปฺปา ทุภโย, ชตุกณฺณี จ ปณฺฑิโตฯ
Todeyyakappā dubhayo, jatukaṇṇī ca paṇḍito.
๑๐๑๔.
1014.
ภทฺราวุโธ อุทโย จ, โปสาโล จาปิ พฺราหฺมโณ;
Bhadrāvudho udayo ca, posālo cāpi brāhmaṇo;
โมฆราชา จ เมธาวี, ปิงฺคิโย จ มหาอิสิฯ
Mogharājā ca medhāvī, piṅgiyo ca mahāisi.
๑๐๑๕.
1015.
ปเจฺจกคณิโน สเพฺพ, สพฺพโลกสฺส วิสฺสุตา;
Paccekagaṇino sabbe, sabbalokassa vissutā;
ฌายี ฌานรตา ธีรา, ปุพฺพวาสนวาสิตาฯ
Jhāyī jhānaratā dhīrā, pubbavāsanavāsitā.
๑๐๑๖.
1016.
พาวริํ อภิวาเทตฺวา, กตฺวา จ นํ ปทกฺขิณํ;
Bāvariṃ abhivādetvā, katvā ca naṃ padakkhiṇaṃ;
ชฎาชินธรา สเพฺพ, ปกฺกามุํ อุตฺตรามุขาฯ
Jaṭājinadharā sabbe, pakkāmuṃ uttarāmukhā.
๑๐๑๗.
1017.
อุเชฺชนิญฺจาปิ โคนทฺธํ, เวทิสํ วนสวฺหยํฯ
Ujjeniñcāpi gonaddhaṃ, vedisaṃ vanasavhayaṃ.
๑๐๑๘.
1018.
โกสมฺพิญฺจาปิ สาเกตํ, สาวตฺถิญฺจ ปุรุตฺตมํ;
Kosambiñcāpi sāketaṃ, sāvatthiñca puruttamaṃ;
เสตพฺยํ กปิลวตฺถุํ, กุสินารญฺจ มนฺทิรํฯ
Setabyaṃ kapilavatthuṃ, kusinārañca mandiraṃ.
๑๐๑๙.
1019.
ปาวญฺจ โภคนครํ, เวสาลิํ มาคธํ ปุรํ;
Pāvañca bhoganagaraṃ, vesāliṃ māgadhaṃ puraṃ;
ปาสาณกํ เจติยญฺจ, รมณียํ มโนรมํฯ
Pāsāṇakaṃ cetiyañca, ramaṇīyaṃ manoramaṃ.
๑๐๒๐.
1020.
ตสิโตวุทกํ สีตํ, มหาลาภํว วาณิโช;
Tasitovudakaṃ sītaṃ, mahālābhaṃva vāṇijo;
ฉายํ ธมฺมาภิตโตฺตว, ตุริตา ปพฺพตมารุหุํฯ
Chāyaṃ dhammābhitattova, turitā pabbatamāruhuṃ.
๑๐๒๑.
1021.
ภควา ตมฺหิ สมเย, ภิกฺขุสงฺฆปุรกฺขโต;
Bhagavā tamhi samaye, bhikkhusaṅghapurakkhato;
ภิกฺขูนํ ธมฺมํ เทเสติ, สีโหว นทตี วเนฯ
Bhikkhūnaṃ dhammaṃ deseti, sīhova nadatī vane.
๑๐๒๒.
1022.
จนฺทํ ยถา ปนฺนรเส, ปาริปูริํ อุปาคตํฯ
Candaṃ yathā pannarase, pāripūriṃ upāgataṃ.
๑๐๒๓.
1023.
อถสฺส คเตฺต ทิสฺวาน, ปริปูรญฺจ พฺยญฺชนํ;
Athassa gatte disvāna, paripūrañca byañjanaṃ;
เอกมนฺตํ ฐิโต หโฎฺฐ, มโนปเญฺห อปุจฺฉถฯ
Ekamantaṃ ṭhito haṭṭho, manopañhe apucchatha.
๑๐๒๔.
1024.
มเนฺตสุ ปารมิํ พฺรูหิ, กติ วาเจติ พฺราหฺมโณ’’ฯ
Mantesu pāramiṃ brūhi, kati vāceti brāhmaṇo’’.
๑๐๒๕.
1025.
‘‘วีสํ วสฺสสตํ อายุ, โส จ โคเตฺตน พาวรี;
‘‘Vīsaṃ vassasataṃ āyu, so ca gottena bāvarī;
ตีณิสฺส ลกฺขณา คเตฺต, ติณฺณํ เวทาน ปารคูฯ
Tīṇissa lakkhaṇā gatte, tiṇṇaṃ vedāna pāragū.
๑๐๒๖.
1026.
‘‘ลกฺขเณ อิติหาเส จ, สนิฆณฺฑุสเกฎุเภ;
‘‘Lakkhaṇe itihāse ca, sanighaṇḍusakeṭubhe;
ปญฺจสตานิ วาเจติ, สธเมฺม ปารมิํ คโต’’ฯ
Pañcasatāni vāceti, sadhamme pāramiṃ gato’’.
๑๐๒๗.
1027.
‘‘ลกฺขณานํ ปวิจยํ, พาวริสฺส นรุตฺตม;
‘‘Lakkhaṇānaṃ pavicayaṃ, bāvarissa naruttama;
๑๐๒๘.
1028.
‘‘มุขํ ชิวฺหาย ฉาเทติ, อุณฺณสฺส ภมุกนฺตเร;
‘‘Mukhaṃ jivhāya chādeti, uṇṇassa bhamukantare;
โกโสหิตํ วตฺถคุยฺหํ, เอวํ ชานาหิ มาณว’’ฯ
Kosohitaṃ vatthaguyhaṃ, evaṃ jānāhi māṇava’’.
๑๐๒๙.
1029.
ปุจฺฉญฺหิ กิญฺจิ อสุณโนฺต, สุตฺวา ปเญฺห วิยากเต;
Pucchañhi kiñci asuṇanto, sutvā pañhe viyākate;
วิจิเนฺตติ ชโน สโพฺพ, เวทชาโต กตญฺชลีฯ
Vicinteti jano sabbo, vedajāto katañjalī.
๑๐๓๐.
1030.
‘‘โก นุ เทโว วา พฺรหฺมา วา, อิโนฺท วาปิ สุชมฺปติ;
‘‘Ko nu devo vā brahmā vā, indo vāpi sujampati;
มนสา ปุจฺฉิเต ปเญฺห, กเมตํ ปฎิภาสติฯ
Manasā pucchite pañhe, kametaṃ paṭibhāsati.
๑๐๓๑.
1031.
‘‘มุทฺธํ มุทฺธาธิปาตญฺจ, พาวรี ปริปุจฺฉติ;
‘‘Muddhaṃ muddhādhipātañca, bāvarī paripucchati;
ตํ พฺยากโรหิ ภควา, กงฺขํ วินย โน อิเส’’ฯ
Taṃ byākarohi bhagavā, kaṅkhaṃ vinaya no ise’’.
๑๐๓๒.
1032.
‘‘อวิชฺชา มุทฺธาติ ชานาหิ, วิชฺชา มุทฺธาธิปาตินี;
‘‘Avijjā muddhāti jānāhi, vijjā muddhādhipātinī;
สทฺธาสติสมาธีหิ, ฉนฺทวีริเยน สํยุตา’’ฯ
Saddhāsatisamādhīhi, chandavīriyena saṃyutā’’.
๑๐๓๓.
1033.
ตโต เวเทน มหตา, สนฺถมฺภิตฺวาน มาณโว;
Tato vedena mahatā, santhambhitvāna māṇavo;
เอกํสํ อชินํ กตฺวา, ปาเทสุ สิรสา ปติฯ
Ekaṃsaṃ ajinaṃ katvā, pādesu sirasā pati.
๑๐๓๔.
1034.
‘‘พาวรี พฺราหฺมโณ โภโต, สห สิเสฺสหิ มาริส;
‘‘Bāvarī brāhmaṇo bhoto, saha sissehi mārisa;
อุทคฺคจิโตฺต สุมโน, ปาเท วนฺทติ จกฺขุม’’ฯ
Udaggacitto sumano, pāde vandati cakkhuma’’.
๑๐๓๕.
1035.
‘‘สุขิโต พาวรี โหตุ, สห สิเสฺสหิ พฺราหฺมโณ;
‘‘Sukhito bāvarī hotu, saha sissehi brāhmaṇo;
ตฺวญฺจาปิ สุขิโต โหหิ, จิรํ ชีวาหิ มาณวฯ
Tvañcāpi sukhito hohi, ciraṃ jīvāhi māṇava.
๑๐๓๖.
1036.
‘‘พาวริสฺส จ ตุยฺหํ วา, สเพฺพสํ สพฺพสํสยํ;
‘‘Bāvarissa ca tuyhaṃ vā, sabbesaṃ sabbasaṃsayaṃ;
กตาวกาสา ปุจฺฉโวฺห, ยํ กิญฺจิ มนสิจฺฉถ’’ฯ
Katāvakāsā pucchavho, yaṃ kiñci manasicchatha’’.
๑๐๓๗.
1037.
สมฺพุเทฺธน กโตกาโส, นิสีทิตฺวาน ปญฺชลี;
Sambuddhena katokāso, nisīditvāna pañjalī;
อชิโต ปฐมํ ปญฺหํ, ตตฺถ ปุจฺฉิ ตถาคตํฯ
Ajito paṭhamaṃ pañhaṃ, tattha pucchi tathāgataṃ.
วตฺถุคาถา นิฎฺฐิตาฯ
Vatthugāthā niṭṭhitā.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / สุตฺตนิปาต-อฎฺฐกถา • Suttanipāta-aṭṭhakathā / วตฺถุคาถาวณฺณนา • Vatthugāthāvaṇṇanā