Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปญฺจปกรณ-อฎฺฐกถา • Pañcapakaraṇa-aṭṭhakathā

    ๒. เวทนาตฺติกวณฺณนา

    2. Vedanāttikavaṇṇanā

    . เวทนาตฺติเก ติโสฺส เวทนา รูปํ นิพฺพานนฺติ อิเม ธมฺมา น ลพฺภนฺติ, ตสฺมา เอกํ ขนฺธํ ปฎิจฺจ เทฺว ขนฺธาติอาทิ วุตฺตํฯ ปฎิสนฺธิกฺขเณ สุขาย เวทนายาติ สเหตุกปฎิสนฺธิวเสน วุตฺตํฯ ทุกฺขเวทนา ปฎิสนฺธิยํ น ลพฺภตีติ ทุติยวาเร ปฎิสนฺธิคฺคหณํ น กตํฯ ตติยวาเร ปฎิสนฺธิกฺขเณติ สเหตุกปฎิสนฺธิวเสน วุตฺตํฯ เสสเมตฺถ อิโต ปเรสุ จ ปจฺจเยสุ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาติฯ สพฺพตฺถ ตโย ตโย วารา วุตฺตาฯ เตน วุตฺตํ เหตุยา ตีณิ…เป.… อวิคเต ตีณีติฯ

    1. Vedanāttike tisso vedanā rūpaṃ nibbānanti ime dhammā na labbhanti, tasmā ekaṃ khandhaṃ paṭicca dve khandhātiādi vuttaṃ. Paṭisandhikkhaṇe sukhāya vedanāyāti sahetukapaṭisandhivasena vuttaṃ. Dukkhavedanā paṭisandhiyaṃ na labbhatīti dutiyavāre paṭisandhiggahaṇaṃ na kataṃ. Tatiyavāre paṭisandhikkhaṇeti sahetukapaṭisandhivasena vuttaṃ. Sesamettha ito paresu ca paccayesu yathāpāḷimeva niyyāti. Sabbattha tayo tayo vārā vuttā. Tena vuttaṃ hetuyā tīṇi…pe… avigate tīṇīti.

    . ปจฺจยสํสนฺทเน ปน สเหตุกาย วิปากทุกฺขเวทนาย อภาวโต เหตุมูลกนเย วิปาเก เทฺวติ วุตฺตํฯ อธิปติอาทีหิ สทฺธิํ สํสนฺทเนสุปิ วิปาเก เทฺวเยวฯ กสฺมา? วิปาเก ทุกฺขเวทนาย อธิปติฌานมคฺคานํ อภาวโตฯ เยหิ จ สทฺธิํ สํสนฺทเน วิปาเก เทฺว วารา ลพฺภนฺติ, วิปาเกน สทฺธิํ สํสนฺทเน เตสุปิ เทฺวเยวฯ

    6. Paccayasaṃsandane pana sahetukāya vipākadukkhavedanāya abhāvato hetumūlakanaye vipāke dveti vuttaṃ. Adhipatiādīhi saddhiṃ saṃsandanesupi vipāke dveyeva. Kasmā? Vipāke dukkhavedanāya adhipatijhānamaggānaṃ abhāvato. Yehi ca saddhiṃ saṃsandane vipāke dve vārā labbhanti, vipākena saddhiṃ saṃsandane tesupi dveyeva.

    ๑๐. ปจฺจนีเย นปุเรชาเต อารุเปฺป จ ปฎิสนฺธิยญฺจ ทุกฺขเวทนาย อภาวโต เทฺว วารา อาคตาฯ นวิปฺปยุเตฺตปิ อารุเปฺป ทุกฺขาภาวโต เทฺวเยวฯ สพฺพอรูปธมฺมปริคฺคาหกา ปน สหชาตาทโย ปจฺจยา อิมสฺมิํ ปจฺจนียวาเร ปริหายนฺติฯ กสฺมา? เวทนาสมฺปยุตฺตสฺส ธมฺมสฺส เวทนาสมฺปยุตฺตํ ปฎิจฺจ สหชาตาทีหิ วินา อนุปฺปตฺติโต ปจฺฉาชาตปจฺจยญฺจ วินาว อุปฺปตฺติโตฯ

    10. Paccanīye napurejāte āruppe ca paṭisandhiyañca dukkhavedanāya abhāvato dve vārā āgatā. Navippayuttepi āruppe dukkhābhāvato dveyeva. Sabbaarūpadhammapariggāhakā pana sahajātādayo paccayā imasmiṃ paccanīyavāre parihāyanti. Kasmā? Vedanāsampayuttassa dhammassa vedanāsampayuttaṃ paṭicca sahajātādīhi vinā anuppattito pacchājātapaccayañca vināva uppattito.

    ๑๗. ปจฺจยสํสนฺทเน ปน นปุเรชาเต เอกนฺติ อารุเปฺป ปฎิสนฺธิยญฺจ อเหตุกาทุกฺขมสุขเวทนาสมฺปยุตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํฯ นกเมฺม เทฺวติ อเหตุกกิริยสมฺปยุตฺตเจตนาวเสน วุตฺตํฯ สุขาย หิ อทุกฺขมสุขาย จ เวทนาย สมฺปยุเตฺต ธเมฺม ปฎิจฺจ ตาหิ เวทนาหิ สมฺปยุตฺตา อเหตุกกิริยเจตนา อุปฺปชฺชนฺติฯ นเหตุปจฺจยา นวิปาเกปิ เอเสว นโยฯ นวิปฺปยุเตฺต เอกนฺติ อารุเปฺป อาวชฺชนวเสน วุตฺตํฯ อิมินา อุปาเยน สพฺพสํสนฺทเนสุ คณนา เวทิตพฺพาฯ

    17. Paccayasaṃsandane pana napurejāte ekanti āruppe paṭisandhiyañca ahetukādukkhamasukhavedanāsampayuttaṃ sandhāya vuttaṃ. Nakamme dveti ahetukakiriyasampayuttacetanāvasena vuttaṃ. Sukhāya hi adukkhamasukhāya ca vedanāya sampayutte dhamme paṭicca tāhi vedanāhi sampayuttā ahetukakiriyacetanā uppajjanti. Nahetupaccayā navipākepi eseva nayo. Navippayutte ekanti āruppe āvajjanavasena vuttaṃ. Iminā upāyena sabbasaṃsandanesu gaṇanā veditabbā.

    ๒๕-๓๗. อนุโลมปจฺจนีเย ปจฺจนีเย ลทฺธปจฺจยา เอว ปจฺจนียโต ติฎฺฐนฺติฯ ปจฺจนียานุโลเม สพฺพา รูปธมฺมปริคฺคาหกา สหชาตาทโย อนุโลมโตว ติฎฺฐนฺติ, น ปจฺจนียโตฯ อเหตุกสฺส ปน จิตฺตุปฺปาทสฺส อธิปติ นตฺถีติ อธิปติปจฺจโย อนุโลมโต น ติฎฺฐติฯ ปฎิจฺจวาราทีสุ ปน ปจฺฉาชาโต อนุโลมโต น ลพฺภติเยวาติ ปริหีโนฯ เย เจตฺถ อนุโลมโต ลพฺภนฺติ, เต ปจฺจนียโต ลพฺภมาเนหิ สทฺธิํ ปริวเตฺตตฺวาปิ โยชิตาเยวฯ เตสุ ตีณิ เทฺว เอกนฺติ ตโยว วารปริเจฺฉทา, เต สพฺพตฺถ ยถานุรูปํ สลฺลเกฺขตพฺพาฯ โย จายํ ปฎิจฺจวาเร วุโตฺต, สหชาตวาราทีสุปิ อยเมว วณฺณนานโยฯ

    25-37. Anulomapaccanīye paccanīye laddhapaccayā eva paccanīyato tiṭṭhanti. Paccanīyānulome sabbā rūpadhammapariggāhakā sahajātādayo anulomatova tiṭṭhanti, na paccanīyato. Ahetukassa pana cittuppādassa adhipati natthīti adhipatipaccayo anulomato na tiṭṭhati. Paṭiccavārādīsu pana pacchājāto anulomato na labbhatiyevāti parihīno. Ye cettha anulomato labbhanti, te paccanīyato labbhamānehi saddhiṃ parivattetvāpi yojitāyeva. Tesu tīṇi dve ekanti tayova vāraparicchedā, te sabbattha yathānurūpaṃ sallakkhetabbā. Yo cāyaṃ paṭiccavāre vutto, sahajātavārādīsupi ayameva vaṇṇanānayo.

    ๓๘. ปญฺหาวาเร ปน สมฺปยุตฺตกานํ ขนฺธานนฺติ เตน สทฺธิํ สมฺปยุตฺตกานํ ขนฺธานํ เตหิเยว วา เหตูหิ สุขเวทนาทีหิ วาฯ

    38. Pañhāvāre pana sampayuttakānaṃ khandhānanti tena saddhiṃ sampayuttakānaṃ khandhānaṃ tehiyeva vā hetūhi sukhavedanādīhi vā.

    ๓๙. วิปฺปฎิสาริสฺสาติ ทานาทีสุ ตาว ‘‘กสฺมา มยา อิทํ กตํ, ทุฎฺฐุ เม กตํ, อกตํ เสโยฺย สิยา’’ติ เอวํ วิปฺปฎิสาริสฺสฯ ฌานปริหานิยํ ปน ‘‘ปริหีนํ เม ฌานํ, มหาชานิโย วตมฺหี’’ติ เอวํ วิปฺปฎิสาริสฺสฯ โมโห อุปฺปชฺชตีติ โทสสมฺปยุตฺตโมโหฯ ตถา โมหํ อรพฺภาติ โทสสมฺปยุตฺตโมหเมวฯ

    39. Vippaṭisārissāti dānādīsu tāva ‘‘kasmā mayā idaṃ kataṃ, duṭṭhu me kataṃ, akataṃ seyyo siyā’’ti evaṃ vippaṭisārissa. Jhānaparihāniyaṃ pana ‘‘parihīnaṃ me jhānaṃ, mahājāniyo vatamhī’’ti evaṃ vippaṭisārissa. Moho uppajjatīti dosasampayuttamoho. Tathā mohaṃ arabbhāti dosasampayuttamohameva.

    ๔๕. สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตํ ภวงฺคํ อทุกฺขมสุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตสฺส ภวงฺคสฺสาติ ตทารมฺมณสงฺขาตํ ปิฎฺฐิภวงฺคํ มูลภวงฺคสฺสฯ วุฎฺฐานสฺสาติ ตทารมฺมณสฺส ภวงฺคสฺส วาฯ อุภยมฺปิ เหตํ กุสลากุสลชวนโต วุฎฺฐิตตฺตา วุฎฺฐานนฺติ วุจฺจติฯ กิริยํ วุฎฺฐานสฺสาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโยฯ ผลํ วุฎฺฐานสฺสาติ ผลจิตฺตํ ภวงฺคสฺสฯ ภวเงฺคน หิ ผลโต วุฎฺฐิโต นาม โหติฯ ปรโต ‘‘วุฎฺฐาน’’นฺติ อาคตฎฺฐาเนสุปิ เอเสว นโยฯ

    45. Sukhāya vedanāya sampayuttaṃ bhavaṅgaṃ adukkhamasukhāya vedanāya sampayuttassa bhavaṅgassāti tadārammaṇasaṅkhātaṃ piṭṭhibhavaṅgaṃ mūlabhavaṅgassa. Vuṭṭhānassāti tadārammaṇassa bhavaṅgassa vā. Ubhayampi hetaṃ kusalākusalajavanato vuṭṭhitattā vuṭṭhānanti vuccati. Kiriyaṃ vuṭṭhānassāti etthāpi eseva nayo. Phalaṃ vuṭṭhānassāti phalacittaṃ bhavaṅgassa. Bhavaṅgena hi phalato vuṭṭhito nāma hoti. Parato ‘‘vuṭṭhāna’’nti āgataṭṭhānesupi eseva nayo.

    ๔๖. ทุกฺขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา ขนฺธาติ โทมนสฺสสมฺปยุตฺตา อกุสลา ขนฺธาฯ อทุกฺขมสุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตสฺส วุฎฺฐานสฺสาติ ตทารมฺมณสงฺขาตสฺส อาคนฺตุกภวงฺคสฺส วา อุเปกฺขาสมฺปยุตฺตมูลภวงฺคสฺส วาฯ สเจ ปน โสมนสฺสสหคตํ มูลภวงฺคํ โหติ, ตทารมฺมณสฺส จ อุปฺปตฺติการณํ น โหติ, ชวนสฺส อารมฺมณโต อญฺญสฺมิมฺปิ อารมฺมเณ อทุกฺขมสุขเวทนํ อกุสลวิปากํ อุปฺปชฺชเตวฯ ตมฺปิ หิ ชวนโต วุฎฺฐิตตฺตา วุฎฺฐานนฺติ วุจฺจติฯ สหชาตปจฺจยาทินิเทฺทสา อุตฺตานตฺถาเยวฯ นเหตฺถ กิญฺจิ อตฺถิ, ยํ น สกฺกา สิยา เหฎฺฐา วุตฺตนเยน เวเทตุํ, ตสฺมา สาธุกํ อุปลเกฺขตพฺพํฯ

    46. Dukkhāya vedanāya sampayuttā khandhāti domanassasampayuttā akusalā khandhā. Adukkhamasukhāya vedanāya sampayuttassa vuṭṭhānassāti tadārammaṇasaṅkhātassa āgantukabhavaṅgassa vā upekkhāsampayuttamūlabhavaṅgassa vā. Sace pana somanassasahagataṃ mūlabhavaṅgaṃ hoti, tadārammaṇassa ca uppattikāraṇaṃ na hoti, javanassa ārammaṇato aññasmimpi ārammaṇe adukkhamasukhavedanaṃ akusalavipākaṃ uppajjateva. Tampi hi javanato vuṭṭhitattā vuṭṭhānanti vuccati. Sahajātapaccayādiniddesā uttānatthāyeva. Nahettha kiñci atthi, yaṃ na sakkā siyā heṭṭhā vuttanayena vedetuṃ, tasmā sādhukaṃ upalakkhetabbaṃ.

    ๖๒. อิทานิ ยสฺมิํ ยสฺมิํ ปจฺจเย เย เย วารา ลทฺธา, สเพฺพ เต สงฺขิปิตฺวา คณนาย ทเสฺสตุํ เหตุยา ตีณีติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ สพฺพานิ ตีณิ สุทฺธานํ ติณฺณํ ปทานํ วเสน เวทิตพฺพานิฯ อารมฺมเณ นว เอกมูลเกกาวสานานิฯ อธิปติยา ปญฺจ สหชาตาธิปติวเสน อมิสฺสานิ ตีณิ, อารมฺมณาธิปติวเสน จ ‘‘สุขาย สมฺปยุโตฺต สุขาย สมฺปยุตฺตสฺส, อทุกฺขมสุขาย สมฺปยุโตฺต อทุกฺขมสุขาย สมฺปยุตฺตสฺสา’’ติ เทฺว, ตานิ น คเณตพฺพานิฯ สุขาย ปน สมฺปยุโตฺต อทุกฺขมสุขาย, อทุกฺขมสุขาย สมฺปยุโตฺต สุขายาติ อิมานิ เทฺว คเณตพฺพานีติ เอวํ ปญฺจฯ อนนฺตรสมนนฺตเรสุ สตฺตาติ สุขา ทฺวินฺนํ, ตถา ทุกฺขา, อทุกฺขมสุขา ติณฺณมฺปีติ เอวํ สตฺตฯ อุปนิสฺสเย นวาติ สุขสมฺปยุโตฺต สุขสมฺปยุตฺตสฺส ตีหิปิ อุปนิสฺสเยหิ, ทุกฺขสมฺปยุตฺตสฺส ปกตูปนิสฺสเยเนว, อุเปกฺขาสมฺปยุตฺตสฺส ตีหิปิ, ทุกฺขสมฺปยุโตฺต ทุกฺขสมฺปยุตฺตสฺส อนนฺตรปกตูปนิสฺสเยหิ, สุขสมฺปยุตฺตสฺส ปกตูปนิสฺสเยน, อทุกฺขมสุขสมฺปยุตฺตสฺส ทฺวิธา, อทุกฺขมสุขสมฺปยุโตฺต อทุกฺขมสุขสมฺปยุตฺตสฺส ติธาปิ, ตถา สุขสมฺปยุตฺตสฺส, ทุกฺขสมฺปยุตฺตสฺส อนนฺตรปกตูปนิสฺสเยหีติ เอวํ นวฯ ปจฺจยเภทโต ปเนตฺถ ปกตูปนิสฺสยา นว, อนนฺตรูปนิสฺสยา สตฺต, อารมฺมณูปนิสฺสยา จตฺตาโรติ วีสติ อุปนิสฺสยาฯ ปุเรชาตปจฺฉาชาตา ปเนตฺถ ฉิชฺชนฺติฯ น หิ ปุเรชาตา ปจฺฉาชาตา วา อรูปธมฺมา อรูปธมฺมานํ ปจฺจยา โหนฺติฯ

    62. Idāni yasmiṃ yasmiṃ paccaye ye ye vārā laddhā, sabbe te saṅkhipitvā gaṇanāya dassetuṃ hetuyā tīṇītiādi vuttaṃ. Tattha sabbāni tīṇi suddhānaṃ tiṇṇaṃ padānaṃ vasena veditabbāni. Ārammaṇe nava ekamūlakekāvasānāni. Adhipatiyā pañca sahajātādhipativasena amissāni tīṇi, ārammaṇādhipativasena ca ‘‘sukhāya sampayutto sukhāya sampayuttassa, adukkhamasukhāya sampayutto adukkhamasukhāya sampayuttassā’’ti dve, tāni na gaṇetabbāni. Sukhāya pana sampayutto adukkhamasukhāya, adukkhamasukhāya sampayutto sukhāyāti imāni dve gaṇetabbānīti evaṃ pañca. Anantarasamanantaresu sattāti sukhā dvinnaṃ, tathā dukkhā, adukkhamasukhā tiṇṇampīti evaṃ satta. Upanissaye navāti sukhasampayutto sukhasampayuttassa tīhipi upanissayehi, dukkhasampayuttassa pakatūpanissayeneva, upekkhāsampayuttassa tīhipi, dukkhasampayutto dukkhasampayuttassa anantarapakatūpanissayehi, sukhasampayuttassa pakatūpanissayena, adukkhamasukhasampayuttassa dvidhā, adukkhamasukhasampayutto adukkhamasukhasampayuttassa tidhāpi, tathā sukhasampayuttassa, dukkhasampayuttassa anantarapakatūpanissayehīti evaṃ nava. Paccayabhedato panettha pakatūpanissayā nava, anantarūpanissayā satta, ārammaṇūpanissayā cattāroti vīsati upanissayā. Purejātapacchājātā panettha chijjanti. Na hi purejātā pacchājātā vā arūpadhammā arūpadhammānaṃ paccayā honti.

    กเมฺม อฎฺฐาติ สุขสมฺปยุโตฺต สุขสมฺปยุตฺตสฺส ทฺวิธาปิ, ทุกฺขสมฺปยุตฺตสฺส นานากฺขณิกโตว ตถา อิตรสฺสฯ ทุกฺขสมฺปยุโตฺต ทุกฺขสมฺปยุตฺตสฺส ทฺวิธาปิ, สุขสมฺปยุตฺตสฺส นตฺถิ, อิตรสฺส นานากฺขณิกโตว อทุกฺขมสุขสมฺปยุโตฺต อทุกฺขมสุขสมฺปยุตฺตสฺส ทฺวิธาปิ, อิตเรสํ นานากฺขณิกโตติ เอวํ อฎฺฐฯ ปจฺจยเภทโต ปเนตฺถ นานากฺขณิกา อฎฺฐ, สหชาตา ตีณีติ เอกาทส กมฺมปจฺจยาฯ ยถา จ ปุเรชาตปจฺฉาชาตา, เอวํ วิปฺปยุตฺตปจฺจโยเปตฺถ ฉิชฺชติฯ อรูปธมฺมา หิ อรูปธมฺมานํ วิปฺปยุตฺตปจฺจโย น โหนฺติฯ นตฺถิวิคเตสุ สตฺต อนนฺตรสทิสาวฯ เอวเมตฺถ ตีณิ ปญฺจ สตฺต อฎฺฐ นวาติ ปญฺจ คณนปริเจฺฉทาฯ เตสํ วเสน ปจฺจยสํสนฺทเน อูนตรคณเนน สทฺธิํ สํสนฺทเนสุ อติเรกญฺจ อลพฺภมานญฺจ อปเนตฺวา คณนา เวทิตพฺพาฯ

    Kammeaṭṭhāti sukhasampayutto sukhasampayuttassa dvidhāpi, dukkhasampayuttassa nānākkhaṇikatova tathā itarassa. Dukkhasampayutto dukkhasampayuttassa dvidhāpi, sukhasampayuttassa natthi, itarassa nānākkhaṇikatova adukkhamasukhasampayutto adukkhamasukhasampayuttassa dvidhāpi, itaresaṃ nānākkhaṇikatoti evaṃ aṭṭha. Paccayabhedato panettha nānākkhaṇikā aṭṭha, sahajātā tīṇīti ekādasa kammapaccayā. Yathā ca purejātapacchājātā, evaṃ vippayuttapaccayopettha chijjati. Arūpadhammā hi arūpadhammānaṃ vippayuttapaccayo na honti. Natthivigatesu satta anantarasadisāva. Evamettha tīṇi pañca satta aṭṭha navāti pañca gaṇanaparicchedā. Tesaṃ vasena paccayasaṃsandane ūnataragaṇanena saddhiṃ saṃsandanesu atirekañca alabbhamānañca apanetvā gaṇanā veditabbā.

    ๖๓-๖๔. เหตุยา สทฺธิํ อารมฺมณํ น ลพฺภติ, ตถา อนนฺตราทโยฯ อธิปติยา เทฺวติ ทุกฺขปทํ ฐเปตฺวา เสสานิ เทฺวฯ ทุกฺขสมฺปยุโตฺต หิ เหตุ อธิปติ นาม นตฺถิ, ตสฺมา โส น ลพฺภตีติ อปนีโตฯ เสสทฺวเยสุปิ เอเสว นโยฯ อิติ เหตุมูลเก เทฺวเยว คณนปริเจฺฉทา, เตสํ วเสน ฉ ฆฎนานิ วุตฺตานิฯ เตสุ ปฐมํ อวิปากภูตานํ ญาณวิปฺปยุตฺตนิราธิปติธมฺมานํ วเสน วุตฺตํ, ทุติยํ เตสเญฺญว วิปากภูตานํ, ตติยจตุตฺถานิ เตสเญฺญว ญาณสมฺปยุตฺตานํ, ปญฺจมํ อวิปากภูตสาธิปติอโมหวเสน, ฉฎฺฐํ วิปากภูตสาธิปติอโมหวเสนฯ ปฐมํ วา สพฺพเหตุวเสน, ทุติยํ สพฺพวิปากเหตุวเสน, ตติยํ สพฺพาโมหเหตุวเสน, จตุตฺถํ สพฺพวิปากาโมหเหตุวเสนฯ ปญฺจมํ สพฺพสาธิปติอโมหวเสน, ฉฎฺฐํ สพฺพสาธิปติวิปากาโมหวเสนฯ

    63-64. Hetuyā saddhiṃ ārammaṇaṃ na labbhati, tathā anantarādayo. Adhipatiyā dveti dukkhapadaṃ ṭhapetvā sesāni dve. Dukkhasampayutto hi hetu adhipati nāma natthi, tasmā so na labbhatīti apanīto. Sesadvayesupi eseva nayo. Iti hetumūlake dveyeva gaṇanaparicchedā, tesaṃ vasena cha ghaṭanāni vuttāni. Tesu paṭhamaṃ avipākabhūtānaṃ ñāṇavippayuttanirādhipatidhammānaṃ vasena vuttaṃ, dutiyaṃ tesaññeva vipākabhūtānaṃ, tatiyacatutthāni tesaññeva ñāṇasampayuttānaṃ, pañcamaṃ avipākabhūtasādhipatiamohavasena, chaṭṭhaṃ vipākabhūtasādhipatiamohavasena. Paṭhamaṃ vā sabbahetuvasena, dutiyaṃ sabbavipākahetuvasena, tatiyaṃ sabbāmohahetuvasena, catutthaṃ sabbavipākāmohahetuvasena. Pañcamaṃ sabbasādhipatiamohavasena, chaṭṭhaṃ sabbasādhipativipākāmohavasena.

    ๖๖. อารมฺมณมูลเก อธิปติยา จตฺตารีติ อารมฺมณาธิปติวเสน สุขํ สุขสฺส, อทุกฺขมสุขสฺส, อทุกฺขมสุขํ อทุกฺขมสุขสฺส, สุขสฺสาติ เอวํ จตฺตาริฯ อุปนิสฺสเยปิ อารมฺมณูปนิสฺสยวเสน จตฺตาโร วุตฺตาฯ ฆฎนานิ ปเนตฺถ เอกเมวฯ อธิปติมูลกาทีสุปิ เหฎฺฐา วุตฺตนเยเนว ยํ ลพฺภติ ยญฺจ น ลพฺภติ, ตํ สพฺพํ สาธุกํ สลฺลเกฺขตฺวา สํสนฺทนฆฎนคณนา เวทิตพฺพาฯ

    66. Ārammaṇamūlake adhipatiyā cattārīti ārammaṇādhipativasena sukhaṃ sukhassa, adukkhamasukhassa, adukkhamasukhaṃ adukkhamasukhassa, sukhassāti evaṃ cattāri. Upanissayepi ārammaṇūpanissayavasena cattāro vuttā. Ghaṭanāni panettha ekameva. Adhipatimūlakādīsupi heṭṭhā vuttanayeneva yaṃ labbhati yañca na labbhati, taṃ sabbaṃ sādhukaṃ sallakkhetvā saṃsandanaghaṭanagaṇanā veditabbā.

    ๘๓-๘๗. ปจฺจนียมฺหิ กุสลตฺติเก วุตฺตนเยเนว อนุโลมโต ปจฺจเย อุทฺธริตฺวา ตตฺถ ลทฺธานํ วารานํ วเสน ปจฺจนียโต คณนวเสน นเหตุยา นวาติ สพฺพปจฺจเยสุ นว วารา ทสฺสิตา ฯ เต เอกมูลเกกาวสานานํ นวนฺนํ วิสฺสชฺชนานํ วเสน ‘‘สุขาย เวทนาย สมฺปยุโตฺต ธโมฺม สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตสฺส ธมฺมสฺส นเหตุปจฺจเยน ปจฺจโย, สุขาย เวทนาย สมฺปยุเตฺตน จิเตฺตน ทานํ ทตฺวา’’ติอาทินา นเยน ปาฬิํ อุทฺธริตฺวา ทเสฺสตพฺพาฯ ปจฺจยสํสนฺทเน ปเนตฺถ นเหตุปจฺจยา…เป.… นอุปนิสฺสเย อฎฺฐาติ นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยวเสน เวทิตพฺพาฯ ทุพฺพลกมฺมญฺหิ วิปากสฺส น อุปนิสฺสโย โหติฯ เกวลํ ปน นานากฺขณิกกมฺมปจฺจเยเนว ปจฺจโย โหติฯ เสสเมตฺถ อนุโลมปจฺจนียปจฺจนียานุโลเมสุ จ เตสํ เตสํ ปจฺจยานํ โยเค ลทฺธวารวเสน สกฺกา เหฎฺฐา วุตฺตนเยเนว คเณตุํ, ตสฺมา น วิตฺถาริตนฺติฯ

    83-87. Paccanīyamhi kusalattike vuttanayeneva anulomato paccaye uddharitvā tattha laddhānaṃ vārānaṃ vasena paccanīyato gaṇanavasena nahetuyā navāti sabbapaccayesu nava vārā dassitā . Te ekamūlakekāvasānānaṃ navannaṃ vissajjanānaṃ vasena ‘‘sukhāya vedanāya sampayutto dhammo sukhāya vedanāya sampayuttassa dhammassa nahetupaccayena paccayo, sukhāya vedanāya sampayuttena cittena dānaṃ datvā’’tiādinā nayena pāḷiṃ uddharitvā dassetabbā. Paccayasaṃsandane panettha nahetupaccayā…pe… naupanissaye aṭṭhāti nānākkhaṇikakammapaccayavasena veditabbā. Dubbalakammañhi vipākassa na upanissayo hoti. Kevalaṃ pana nānākkhaṇikakammapaccayeneva paccayo hoti. Sesamettha anulomapaccanīyapaccanīyānulomesu ca tesaṃ tesaṃ paccayānaṃ yoge laddhavāravasena sakkā heṭṭhā vuttanayeneva gaṇetuṃ, tasmā na vitthāritanti.

    เวทนาตฺติกวณฺณนาฯ

    Vedanāttikavaṇṇanā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / อภิธมฺมปิฎก • Abhidhammapiṭaka / ปฎฺฐานปาฬิ • Paṭṭhānapāḷi / ๒. เวทนาตฺติกํ • 2. Vedanāttikaṃ


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact