Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปญฺจปกรณ-อนุฎีกา • Pañcapakaraṇa-anuṭīkā |
๒. เวทนาตฺติกวณฺณนา
2. Vedanāttikavaṇṇanā
๑. เวทนาตฺติเก ปฎิจฺจาทินิยมนฺติ ติกปทสมฺพนฺธวเสน ปฎิจฺจวาราทีสุ วตฺตพฺพํ ปฎิจฺจสหชาตฎฺฐาทินิยมนํ น ลภนฺติ เวทนารูปนิพฺพานานิฯ กสฺมา? ติกมุตฺตกตฺตาฯ ตถา ปจฺจยุปฺปนฺนวจนํฯ น หิ สกฺกา วตฺตุํ เวทนํ รูปํ นิพฺพานญฺจ สนฺธาย ‘‘สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตํ ธมฺมํ ปฎิจฺจ สุขาย เวทนาย สมฺปยุโตฺต อุปฺปชฺชตี’’ติฯ ติกธมฺมานนฺติ เวทนาตฺติกธมฺมานํฯ ตตฺถาติ เหตุปจฺจยาทีสุฯ ยถานุรูปโตติ เวทนาทีสุ โย ยสฺส เวทนาย สมฺปยุตฺตธมฺมสฺส อารมฺมณาทิปจฺจโย ภวิตุํ ยุโตฺต, ตทนุรูปโตฯ อารมฺมณาทีติ อาทิ-สเทฺทน อารมฺมณาธิปติอารมฺมณูปนิสฺสยาทิเก สงฺคณฺหาติฯ
1. Vedanāttike paṭiccādiniyamanti tikapadasambandhavasena paṭiccavārādīsu vattabbaṃ paṭiccasahajātaṭṭhādiniyamanaṃ na labhanti vedanārūpanibbānāni. Kasmā? Tikamuttakattā. Tathā paccayuppannavacanaṃ. Na hi sakkā vattuṃ vedanaṃ rūpaṃ nibbānañca sandhāya ‘‘sukhāya vedanāya sampayuttaṃ dhammaṃ paṭicca sukhāya vedanāya sampayutto uppajjatī’’ti. Tikadhammānanti vedanāttikadhammānaṃ. Tatthāti hetupaccayādīsu. Yathānurūpatoti vedanādīsu yo yassa vedanāya sampayuttadhammassa ārammaṇādipaccayo bhavituṃ yutto, tadanurūpato. Ārammaṇādīti ādi-saddena ārammaṇādhipatiārammaṇūpanissayādike saṅgaṇhāti.
๑๐. กุสลตฺติเกปิ ปริหีนนฺติ อิทํ ปจฺจนียํ สนฺธาย วุตฺตํฯ รูปารูปธมฺมปริคฺคาหกตฺตาติ อิทํ อนาทิภูตสฺสปิ สหชาตสฺส อาทิมฺหิ ฐปเน การณวจนํฯ อาทิ-สเทฺทนาติ ‘‘สหชาตาทโย’’ติ เอตฺถ อาทิ-สเทฺทนฯ ยถารหํ อารพฺภ อุปฺปตฺติวเสน สเพฺพ อรูปธมฺมา อารมฺมณาทีนํ ปจฺจยุปฺปนฺนา โหนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘ปจฺจยุปฺปนฺนวเสน สพฺพารูปธมฺมปริคฺคาหกานํ อารมฺมณาทีน’’นฺติฯ อาทิ-สเทฺทน อารมฺมณาธิปติอารมฺมณูปนิสฺสยาทิเก สงฺคณฺหาติฯ เตนาติ ‘‘สพฺพารูปธมฺมปริคฺคาหกา ปนา’’ติอาทิวจเนนฯ สพฺพฎฺฐานิกานํ…เป.… ทสฺสิตา โหติ สหชาตทสฺสเนนาติ อโตฺถฯ เอกเทสปริหานิทสฺสเนเนว หิ สมุทายปริหานิ ทสฺสิตา โหตีติฯ สหชาตาทโยติ วา อาทิ-สเทฺทน สพฺพฎฺฐานิกา จตฺตาโรปิ ทสฺสิตา โหนฺตีติฯ สหชาตมูลกาติ สหชาตปจฺจเย สติ ภวนฺตา น สหชาตํ ปุรโต กตฺวา ปาฬิยํ อาคตาฯ เตนาห ‘‘สหชาตนิพนฺธนา…เป.… วุตฺตํ โหตี’’ติฯ โส ปจฺฉาชาโต กสฺมา ปน น ปริหายตีติ สมฺพโนฺธฯ ตตฺถาติ ยถาวุตฺตาย ปริหานิยํ อปริหานิยญฺจฯ สหชาตนิพนฺธเนหีติ สหชาตธมฺมนิมิเตฺตหิ ปจฺจยภาเวหิ อิธ ปจฺจยธมฺมเหตุโก วุโตฺตฯ เอเตฺถวาติ ปริหานิยํเยวฯ สา หิ อิธ อธิกตาฯ สหชาตนิพนฺธนานเมว ปริหานีติ วุเตฺต ‘‘กิํ สเพฺพสํเยว เนสํ ปริหานี’’ติ อาสงฺกาย อาห ‘‘สหชาต…เป.… ทสฺสิตเมต’’นฺติฯ
10. Kusalattikepi parihīnanti idaṃ paccanīyaṃ sandhāya vuttaṃ. Rūpārūpadhammapariggāhakattāti idaṃ anādibhūtassapi sahajātassa ādimhi ṭhapane kāraṇavacanaṃ. Ādi-saddenāti ‘‘sahajātādayo’’ti ettha ādi-saddena. Yathārahaṃ ārabbha uppattivasena sabbe arūpadhammā ārammaṇādīnaṃ paccayuppannā hontīti vuttaṃ ‘‘paccayuppannavasena sabbārūpadhammapariggāhakānaṃ ārammaṇādīna’’nti. Ādi-saddena ārammaṇādhipatiārammaṇūpanissayādike saṅgaṇhāti. Tenāti ‘‘sabbārūpadhammapariggāhakā panā’’tiādivacanena. Sabbaṭṭhānikānaṃ…pe… dassitā hoti sahajātadassanenāti attho. Ekadesaparihānidassaneneva hi samudāyaparihāni dassitā hotīti. Sahajātādayoti vā ādi-saddena sabbaṭṭhānikā cattāropi dassitā hontīti. Sahajātamūlakāti sahajātapaccaye sati bhavantā na sahajātaṃ purato katvā pāḷiyaṃ āgatā. Tenāha ‘‘sahajātanibandhanā…pe… vuttaṃ hotī’’ti. So pacchājāto kasmā pana na parihāyatīti sambandho. Tatthāti yathāvuttāya parihāniyaṃ aparihāniyañca. Sahajātanibandhanehīti sahajātadhammanimittehi paccayabhāvehi idha paccayadhammahetuko vutto. Etthevāti parihāniyaṃyeva. Sā hi idha adhikatā. Sahajātanibandhanānameva parihānīti vutte ‘‘kiṃ sabbesaṃyeva nesaṃ parihānī’’ti āsaṅkāya āha ‘‘sahajāta…pe… dassitameta’’nti.
๑๗. นยทสฺสนเมว กโรตีติ ยถา อเหตุกกิริยเจตนํ สนฺธาย ‘‘นเหตุปจฺจยา นกมฺมปจฺจยา’’ติ วตฺตุํ ลพฺภา, เอวํ นวิปากปจฺจยาติปิ ลพฺภาฯ อเหตุกโมหํ ปน สนฺธาย ‘‘นเหตุปจฺจยา นวิปากปจฺจยา’’ติ ลพฺภา, น ‘‘นกมฺมปจฺจยา’’ติฯ เตนาห ‘‘น จ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนธมฺมสามญฺญทสฺสน’’นฺติอาทิฯ
17. Nayadassanameva karotīti yathā ahetukakiriyacetanaṃ sandhāya ‘‘nahetupaccayā nakammapaccayā’’ti vattuṃ labbhā, evaṃ navipākapaccayātipi labbhā. Ahetukamohaṃ pana sandhāya ‘‘nahetupaccayā navipākapaccayā’’ti labbhā, na ‘‘nakammapaccayā’’ti. Tenāha ‘‘na ca paccayapaccayuppannadhammasāmaññadassana’’ntiādi.
๒๕-๓๗. ยถา กุสลตฺติกํ, เอวํ คเณตพฺพนฺติ อิทํ ยํ สนฺธาย ปาฬิยํ นิกฺขิตฺตํ, ตํ ทเสฺสตุํ วุตฺตํ ‘‘เหตุมูลกานํ…เป.… นคณนสามญฺญ’’นฺติฯ น หิ กุสลตฺติเก อนุโลมปจฺจนีเย คณนาหิ เวทนาตฺติเก ตา สมานาฯ ปริวเตฺตตฺวาปิ โยชิตาติ เอตฺถ ‘‘นเหตุปจฺจยา นปุเรชาตปจฺจยา อารมฺมเณ เอก’’นฺติ อารมฺมณํ ปฐมํ วตฺวา วตฺตพฺพมฺปิ ปุเรชาตํ ปริวเตฺตตฺวา ปฐมํ วุตฺตนฺติ วทนฺติฯ ตถา นเหตุปจฺจยา กเมฺม ตีณีติ อิทเมว ปทํ ปริวเตฺตตฺวา ‘‘นกมฺมปจฺจยา เหตุยา ตีณีติ วุตฺต’’นฺติปิ วทนฺติฯ
25-37. Yathā kusalattikaṃ, evaṃ gaṇetabbanti idaṃ yaṃ sandhāya pāḷiyaṃ nikkhittaṃ, taṃ dassetuṃ vuttaṃ ‘‘hetumūlakānaṃ…pe… nagaṇanasāmañña’’nti. Na hi kusalattike anulomapaccanīye gaṇanāhi vedanāttike tā samānā. Parivattetvāpi yojitāti ettha ‘‘nahetupaccayā napurejātapaccayā ārammaṇe eka’’nti ārammaṇaṃ paṭhamaṃ vatvā vattabbampi purejātaṃ parivattetvā paṭhamaṃ vuttanti vadanti. Tathā nahetupaccayā kamme tīṇīti idameva padaṃ parivattetvā ‘‘nakammapaccayā hetuyā tīṇīti vutta’’ntipi vadanti.
๓๙. ตํสมฺปยุเตฺตติ เตน โทมนเสฺสน สมฺปยุเตฺตฯ โทมนสฺสสีเสน สมฺปยุตฺตธมฺมา วุตฺตาฯ สทฺธาปญฺจเกสูติ สทฺธาสีลสุตจาคปญฺญาสุฯ กตฺตพฺพนฺติ วา โยชนา กาตพฺพาติ อโตฺถฯ อวเสเสสูติ ราคาทีสุฯ ปาฬิคติทสฺสนตฺถนฺติ ‘‘เอวํ ปาฬิ ปวตฺตา’’ติ ปาฬิยา ปวตฺติทสฺสนตฺถํฯ ราคาทีหิ อุปนิสฺสยภูเตหิฯ อนุปฺปตฺติโตติ น อุปฺปชฺชนโตฯ ตํ ปาฬิคติํ ติกนฺตรปาฬิยา ทเสฺสโนฺต ‘‘กุสลตฺติเกปิหี’’ติอาทิมาหฯ อิธาปีติ อิมสฺมิํ เวทนาตฺติเกปิฯ
39. Taṃsampayutteti tena domanassena sampayutte. Domanassasīsena sampayuttadhammā vuttā. Saddhāpañcakesūti saddhāsīlasutacāgapaññāsu. Kattabbanti vā yojanā kātabbāti attho. Avasesesūti rāgādīsu. Pāḷigatidassanatthanti ‘‘evaṃ pāḷi pavattā’’ti pāḷiyā pavattidassanatthaṃ. Rāgādīhi upanissayabhūtehi. Anuppattitoti na uppajjanato. Taṃ pāḷigatiṃ tikantarapāḷiyā dassento ‘‘kusalattikepihī’’tiādimāha. Idhāpīti imasmiṃ vedanāttikepi.
๖๒. อนญฺญตฺตนฺติ อเภทํฯ สุขเวทนาสมฺปยุโตฺต หิ ธโมฺม สุขเวทนาสมฺปยุตฺตเสฺสว ธมฺมสฺส เหตุปจฺจเยน ปจฺจโย, น อิตเรสํฯ เอส นโย เสสปเทสุ เสเสสุ จ ‘‘ตีณี’’ติ อาคตฎฺฐาเนสุฯ เตน วุตฺตํ ‘‘สพฺพานิ ตีณิ สุทฺธานํ ติณฺณํ ปทานํ วเสน เวทิตพฺพานี’’ติฯ ‘‘ปจฺฉาชาตา อรูปธมฺมานํ ปจฺจโย น โหนฺตี’’ติ ยุตฺตเมตํ, ปุเรชาตา ปน อรูปธมฺมานํ ปจฺจยา น โหนฺตีติ กถมิทํ คเหตพฺพนฺติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ปุเรชาตา’’ติอาทิ, ปุเรชาตา หุตฺวา ปจฺจโย น โหนฺตีติ อโตฺถฯ ปุริมตรํ อุปฺปชฺชิตฺวา ฐิตา หิ รูปธมฺมา ปจฺฉา อุปฺปนฺนานํ อรูปธมฺมานํ ปุเรชาตปจฺจโย โหนฺติ, น จายํ นโย อรูปธเมฺมสุ ลพฺภติฯ เตน วุตฺตํ ‘‘ปุเรชาตตฺตาภาวโต’’ติฯ ตถา ปจฺฉาชาตตฺตาภาวโตติ ยถา อิมสฺมิํ ติเก กสฺสจิ ธมฺมสฺส ปุเรชาตตฺตาภาวโต ปุเรชาตปจฺจโย น โหนฺตีติ วุตฺตํ, ตถา ปจฺฉาชาตตฺตาภาวโต ปจฺฉาชาตา หุตฺวา ปจฺจโย น โหนฺติ, ปจฺฉาชาตปจฺจโย น โหนฺตีติ อโตฺถฯ น หิ เอกสฺมิํ สนฺตาเน เกสุจิ อรูปธเมฺมสุ ปฐมตรํ อุปฺปชฺชิตฺวา ฐิเตสุ ปจฺฉา เกจิ อรูปธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ, ยโต เต เตสํ ปจฺฉาชาตปจฺจโย ภเวยฺยุํฯ
62. Anaññattanti abhedaṃ. Sukhavedanāsampayutto hi dhammo sukhavedanāsampayuttasseva dhammassa hetupaccayena paccayo, na itaresaṃ. Esa nayo sesapadesu sesesu ca ‘‘tīṇī’’ti āgataṭṭhānesu. Tena vuttaṃ ‘‘sabbāni tīṇi suddhānaṃ tiṇṇaṃ padānaṃ vasena veditabbānī’’ti. ‘‘Pacchājātā arūpadhammānaṃ paccayo na hontī’’ti yuttametaṃ, purejātā pana arūpadhammānaṃ paccayā na hontīti kathamidaṃ gahetabbanti codanaṃ sandhāyāha ‘‘purejātā’’tiādi, purejātā hutvā paccayo na hontīti attho. Purimataraṃ uppajjitvā ṭhitā hi rūpadhammā pacchā uppannānaṃ arūpadhammānaṃ purejātapaccayo honti, na cāyaṃ nayo arūpadhammesu labbhati. Tena vuttaṃ ‘‘purejātattābhāvato’’ti. Tathā pacchājātattābhāvatoti yathā imasmiṃ tike kassaci dhammassa purejātattābhāvato purejātapaccayo na hontīti vuttaṃ, tathā pacchājātattābhāvato pacchājātā hutvā paccayo na honti, pacchājātapaccayo na hontīti attho. Na hi ekasmiṃ santāne kesuci arūpadhammesu paṭhamataraṃ uppajjitvā ṭhitesu pacchā keci arūpadhammā uppajjanti, yato te tesaṃ pacchājātapaccayo bhaveyyuṃ.
๘๓-๘๗. อวเสเสสุ อฎฺฐสูติ ‘‘สุขาย เวทนาย สมฺปยุโตฺต ธโมฺม’’ติอาทินา เอกมูลเกกาวสานา เย นว นว วารา อารมฺมณปจฺจยาทีสุ ลพฺภนฺติ, เตสุ ยถาวุตฺตเมกํ วเชฺชตฺวา เสเสสุ อฎฺฐสุฯ ตีเสฺววาติ สุเทฺธสุ ตีเสฺวว สหชาตกมฺมปจฺจโย ลพฺภติฯ
83-87. Avasesesu aṭṭhasūti ‘‘sukhāya vedanāya sampayutto dhammo’’tiādinā ekamūlakekāvasānā ye nava nava vārā ārammaṇapaccayādīsu labbhanti, tesu yathāvuttamekaṃ vajjetvā sesesu aṭṭhasu. Tīsvevāti suddhesu tīsveva sahajātakammapaccayo labbhati.
เวทนาตฺติกวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Vedanāttikavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ปญฺจปกรณ-มูลฎีกา • Pañcapakaraṇa-mūlaṭīkā / ๒. เวทนาตฺติกวณฺณนา • 2. Vedanāttikavaṇṇanā