Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā)

    ๑๐. เวลามสุตฺตวณฺณนา

    10. Velāmasuttavaṇṇanā

    ๒๐. ทสเม สกุณฺฑกภตฺตนฺติ สกุณฺฑกํ อุตฺตณฺฑุลภตฺตํฯ ปริเตฺตหิ สกุเณฺฑหิ ตณฺฑุเลหิปิ สทฺธิํ วิปกฺกภตฺตํ อุตฺตณฺฑุลเมว โหติฯ พิฬงฺคํ วุจฺจติ อารนาฬํ, พิฬงฺคโต นิพฺพตฺตนโต ตเทว กญฺชิยโต ชาตนฺติ กญฺชิยํ, ตํ ทุติยํ เอตสฺสาติ พิฬงฺคทุติยํ, ตํ กญฺชิยทุติยนฺติ วุตฺตํฯ อสกฺกริตฺวาติ เทยฺยธมฺมมฺปิ ปุคฺคลมฺปิ อสกฺกริตฺวาฯ เทยฺยธมฺมสฺส อสกฺกรณํ อสมฺปนฺนกาโร, ปุคฺคลสฺส อสกฺกรณํ อครุกรณํฯ เทยฺยธมฺมํ อสกฺกโรโนฺต หิ อุตฺตณฺฑุลาทิโทสสมนฺนาคตํ อาหารํ เทติ, น สมฺปนฺนํ กโรติฯ ปุคฺคลํ อสกฺกโรโนฺต นิสีทนฎฺฐานํ อสมฺมชฺชิตฺวา ยตฺถ ตตฺถ วา นิสีทาเปตฺวา ยํ วา ตํ วา ทารกํ เปเสตฺวา เทติฯ อจิตฺตีกตฺวาติ น จิตฺติํ กตฺวา, น ปูเชตฺวาติ อโตฺถฯ ปูเชโนฺต หิ ปูเชตพฺพวตฺถุํ จิเตฺต ฐเปติ, น ตโต พหิ กโรติฯ จิตฺตํ วา อจฺฉริยํ กตฺวา ปฎิปตฺติ จิตฺตีกรณํ สมฺภาวนกิริยา, ตปฺปฎิเกฺขปโต อจิตฺตีกรณํ อสมฺภาวนกิริยาฯ อปวิทฺธนฺติ อุจฺฉิฎฺฐาทิฉฑฺฑนียธมฺมํ วิย อวขิตฺตกํฯ โย หิ ฉเฑฺฑตุกาโม หุตฺวา โรคิโน สรีเร โอทนาทีนิ มชฺชิตฺวา วมฺมิเก โรคํ ปกฺขิปโนฺต วิย เทติ, อยํ อปวิทฺธํ เทติ นามฯ อนาคมนทิฎฺฐิโกติ ‘‘อทฺธา อิมสฺส ทานสฺส ผลํ มม อาคจฺฉตี’’ติ เอวํ ยสฺส กมฺมสฺสกตทิฎฺฐิ อตฺถิ, โส อาคมนทิฎฺฐิโกฯ อยํ ปน น ตาทิโสติ อนาคมนทิฎฺฐิโก, ผลํ ปาฎิกงฺขํ หุตฺวา น เทตีติ อโตฺถฯ เตนาห ‘‘น กมฺมญฺจ ผลญฺจ สทฺทหิตฺวา เทตี’’ติฯ

    20. Dasame sakuṇḍakabhattanti sakuṇḍakaṃ uttaṇḍulabhattaṃ. Parittehi sakuṇḍehi taṇḍulehipi saddhiṃ vipakkabhattaṃ uttaṇḍulameva hoti. Biḷaṅgaṃ vuccati āranāḷaṃ, biḷaṅgato nibbattanato tadeva kañjiyato jātanti kañjiyaṃ, taṃ dutiyaṃ etassāti biḷaṅgadutiyaṃ, taṃ kañjiyadutiyanti vuttaṃ. Asakkaritvāti deyyadhammampi puggalampi asakkaritvā. Deyyadhammassa asakkaraṇaṃ asampannakāro, puggalassa asakkaraṇaṃ agarukaraṇaṃ. Deyyadhammaṃ asakkaronto hi uttaṇḍulādidosasamannāgataṃ āhāraṃ deti, na sampannaṃ karoti. Puggalaṃ asakkaronto nisīdanaṭṭhānaṃ asammajjitvā yattha tattha vā nisīdāpetvā yaṃ vā taṃ vā dārakaṃ pesetvā deti. Acittīkatvāti na cittiṃ katvā, na pūjetvāti attho. Pūjento hi pūjetabbavatthuṃ citte ṭhapeti, na tato bahi karoti. Cittaṃ vā acchariyaṃ katvā paṭipatti cittīkaraṇaṃ sambhāvanakiriyā, tappaṭikkhepato acittīkaraṇaṃ asambhāvanakiriyā. Apaviddhanti ucchiṭṭhādichaḍḍanīyadhammaṃ viya avakhittakaṃ. Yo hi chaḍḍetukāmo hutvā rogino sarīre odanādīni majjitvā vammike rogaṃ pakkhipanto viya deti, ayaṃ apaviddhaṃ deti nāma. Anāgamanadiṭṭhikoti ‘‘addhā imassa dānassa phalaṃ mama āgacchatī’’ti evaṃ yassa kammassakatadiṭṭhi atthi, so āgamanadiṭṭhiko. Ayaṃ pana na tādisoti anāgamanadiṭṭhiko, phalaṃ pāṭikaṅkhaṃ hutvā na detīti attho. Tenāha ‘‘na kammañca phalañca saddahitvā detī’’ti.

    เวลาโมติ เอตฺถ มา-สโทฺท ปฎิเสธวจโนฯ ชาติโคตฺตรูปโภคาทิคุณานํ เวลา มริยาทา นตฺถิ เอตสฺมินฺติ เวลาโมฯ อถ วา ยถาวุตฺตคุณานํ เวลา มริยาทา อมติ โอสานํ คจฺฉติ เอตสฺมินฺติ เวลาโม, เวลํ วา มริยาทํ อมติ คจฺฉติ อติกฺกมตีติ เวลาโมฯ เตนาห ‘‘ชาติโคตฺต…เป.… เอวํลทฺธนาโม’’ติฯ ทียตีติ ทานํ, ทานวตฺถุฯ ตํ อคฺคียติ นิสฺสชฺชียติ เอตฺถาติ ทานคฺคํฯ ทานํ วา คณฺหนฺติ เอตฺถาติ ทานคฺคํ, เอวํ ภตฺตคฺคํ, ปริเวสนฎฺฐานํฯ ทุกูลสนฺทนานีติ รชตภาชนาทินิสฺสิเต ทุกูเล ขีรสฺส สนฺทนํ เอเตสนฺติ ทุกูลสนฺทนานิฯ กํสูปธารณานีติ รชตมยโทหภาชนานิฯ เตนาห ‘‘รชตมยขีรปฎิจฺฉกานี’’ติฯ รชตมยานิ ขีรปฎิจฺฉกานิ ขีรปฎิคฺคหภาชนานิ เอเตสนฺติ รชตมยขีรปฎิจฺฉกานิฯ โสเธยฺยาติ มหปฺผลภาวกรเณน วิโสเธยฺยฯ มหปฺผลภาวปฺปตฺติยา หิ ทกฺขิณา วิสุชฺฌติ นามฯ

    Velāmoti ettha -saddo paṭisedhavacano. Jātigottarūpabhogādiguṇānaṃ velā mariyādā natthi etasminti velāmo. Atha vā yathāvuttaguṇānaṃ velā mariyādā amati osānaṃ gacchati etasminti velāmo, velaṃ vā mariyādaṃ amati gacchati atikkamatīti velāmo. Tenāha ‘‘jātigotta…pe… evaṃladdhanāmo’’ti. Dīyatīti dānaṃ, dānavatthu. Taṃ aggīyati nissajjīyati etthāti dānaggaṃ. Dānaṃ vā gaṇhanti etthāti dānaggaṃ, evaṃ bhattaggaṃ, parivesanaṭṭhānaṃ. Dukūlasandanānīti rajatabhājanādinissite dukūle khīrassa sandanaṃ etesanti dukūlasandanāni. Kaṃsūpadhāraṇānīti rajatamayadohabhājanāni. Tenāha ‘‘rajatamayakhīrapaṭicchakānī’’ti. Rajatamayāni khīrapaṭicchakāni khīrapaṭiggahabhājanāni etesanti rajatamayakhīrapaṭicchakāni. Sodheyyāti mahapphalabhāvakaraṇena visodheyya. Mahapphalabhāvappattiyā hi dakkhiṇā visujjhati nāma.

    มเคฺคนาคตํ อนิวตฺตนสรณนฺติ อิมินา โลกุตฺตรสรณคมนํ ทีเปติฯ อปเรติอาทินา โลกิยสรณคมนํ วุตฺตํฯ สรณํ นาม ติณฺณํ รตนานํ ชีวิตปริจฺจาคมยํ ปุญฺญํ สพฺพสมฺปตฺติํ เทติ, ตสฺมา มหปฺผลตรนฺติ อธิปฺปาโยฯ อิทญฺจ – ‘‘สเจ ตฺวํ ยถา คหิตํ สรณํ น ภินฺทิสฺสสิ, เอวาหํ ตํ มาเรมี’’ติ ยทิปิ โกจิ ติเณฺหน สเตฺถน ชีวิตา โวโรเปยฺย, ตถาปิ ‘‘เนวาหํ พุทฺธํ น พุโทฺธติ, ธมฺมํ น ธโมฺมติ, สงฺฆํ น สโงฺฆติ วทามี’’ติ ทฬฺหตรํ กตฺวา คหิตสฺส วเสน วุตฺตํฯ มเคฺคนาคตนฺติ โลกุตฺตรสีลํ สนฺธาย วทติฯ อปเรติอาทินา ปน โลกิยสีลํ วุตฺตํฯ สเพฺพสํ สตฺตานํ ชีวิตทานาทินิหิตทณฺฑตาย สกลโลกิยโลกุตฺตรคุณาธิฎฺฐานโต จสฺส มหปฺผลมหานิสํสตา เวทิตพฺพาฯ

    Maggenāgataṃ anivattanasaraṇanti iminā lokuttarasaraṇagamanaṃ dīpeti. Aparetiādinā lokiyasaraṇagamanaṃ vuttaṃ. Saraṇaṃ nāma tiṇṇaṃ ratanānaṃ jīvitapariccāgamayaṃ puññaṃ sabbasampattiṃ deti, tasmā mahapphalataranti adhippāyo. Idañca – ‘‘sace tvaṃ yathā gahitaṃ saraṇaṃ na bhindissasi, evāhaṃ taṃ māremī’’ti yadipi koci tiṇhena satthena jīvitā voropeyya, tathāpi ‘‘nevāhaṃ buddhaṃ na buddhoti, dhammaṃ na dhammoti, saṅghaṃ na saṅghoti vadāmī’’ti daḷhataraṃ katvā gahitassa vasena vuttaṃ. Maggenāgatanti lokuttarasīlaṃ sandhāya vadati. Aparetiādinā pana lokiyasīlaṃ vuttaṃ. Sabbesaṃ sattānaṃ jīvitadānādinihitadaṇḍatāya sakalalokiyalokuttaraguṇādhiṭṭhānato cassa mahapphalamahānisaṃsatā veditabbā.

    อุปสิงฺฆนมตฺตนฺติ ฆายนมตฺตํฯ คโทฺทหนมตฺตนฺติ ปาฐนฺตเร โคโทหนมตฺตํ กาลนฺติ อโตฺถฯ โส จ น สกโล โคโทหนกฺขโณ อธิเปฺปโตติ ทเสฺสตุํ ‘‘คาวิยา เอกวารํ ถนอญฺฉนมตฺต’’นฺติ อโตฺถ วุโตฺตฯ อญฺฉนมตฺตนฺติ อากฑฺฒนมตฺตํฯ คาวิยา ถนํ คเหตฺวา เอกขีรพินฺทุทุหนกาลมตฺตมฺปิ คทฺทุหนมตฺตนฺติ วทนฺติฯ เอตฺตกมฺปิ หิ กาลํ โย วสนคพฺภปริเวณวิหารูปจารปริเจฺฉเทน วา อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ สพฺพสเตฺต หิตผรณํ เมตฺตจิตฺตํ ภาเวตุํ สโกฺกติฯ อิทํ ตโต ยถาวุตฺตทานาทิโต มหปฺผลตรํฯ

    Upasiṅghanamattanti ghāyanamattaṃ. Gaddohanamattanti pāṭhantare godohanamattaṃ kālanti attho. So ca na sakalo godohanakkhaṇo adhippetoti dassetuṃ ‘‘gāviyā ekavāraṃ thanaañchanamatta’’nti attho vutto. Añchanamattanti ākaḍḍhanamattaṃ. Gāviyā thanaṃ gahetvā ekakhīrabinduduhanakālamattampi gadduhanamattanti vadanti. Ettakampi hi kālaṃ yo vasanagabbhapariveṇavihārūpacāraparicchedena vā aparimāṇāsu lokadhātūsu sabbasatte hitapharaṇaṃ mettacittaṃ bhāvetuṃ sakkoti. Idaṃ tato yathāvuttadānādito mahapphalataraṃ.

    เวลามสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Velāmasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.

    สีหนาทวคฺควณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Sīhanādavaggavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๑๐. เวลามสุตฺตํ • 10. Velāmasuttaṃ

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๑๐. เวลามสุตฺตวณฺณนา • 10. Velāmasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact