Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā |
[๔๓] ๓. เวฬุกชาตกวณฺณนา
[43] 3. Veḷukajātakavaṇṇanā
โย อตฺถกามสฺสาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรโนฺต อญฺญตรํ ทุพฺพจภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิฯ ตญฺหิ ภควา ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ ภิกฺขุ ทุพฺพโจสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ, ภเนฺต’’ติ วุเตฺต ‘‘น ตฺวํ ภิกฺขุ อิทาเนว ทุพฺพโจ, ปุเพฺพปิ ทุพฺพโจเยว, ทุพฺพจตฺตาเยว จ ปณฺฑิตานํ วจนํ อกตฺวา สปฺปมุเข ชีวิตกฺขยํ ปโตฺต’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริฯ
Yoatthakāmassāti idaṃ satthā jetavane viharanto aññataraṃ dubbacabhikkhuṃ ārabbha kathesi. Tañhi bhagavā ‘‘saccaṃ kira tvaṃ bhikkhu dubbacosī’’ti pucchitvā ‘‘saccaṃ, bhante’’ti vutte ‘‘na tvaṃ bhikkhu idāneva dubbaco, pubbepi dubbacoyeva, dubbacattāyeva ca paṇḍitānaṃ vacanaṃ akatvā sappamukhe jīvitakkhayaṃ patto’’ti vatvā atītaṃ āhari.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทเตฺต รชฺชํ กาเรเนฺต โพธิสโตฺต กาสิรเฎฺฐ มหาโภคกุเล นิพฺพโตฺต วิญฺญุตํ ปตฺวา กาเมสุ อาทีนวํ เนกฺขเมฺม จานิสํสํ ทิสฺวา กาเม ปหาย หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา กสิณปริกมฺมํ กตฺวา ปญฺจาภิญฺญา อฎฺฐ สมาปตฺติโย จ อุปฺปาเทตฺวา ฌานสุเขน วีตินาเมโนฺต อปรภาเค มหาปริวาโร ปญฺจหิ ตาปสสเตหิ ปริวุโต คณสฺส สตฺถา หุตฺวา วิหาสิฯ อเถโก อาสิวิสโปตโก อตฺตโน ธมฺมตาย จรโนฺต อญฺญตรสฺส ตาปสสฺส อสฺสมปทํ ปโตฺตฯ ตาปโส ตสฺมิํ ปุตฺตสิเนหํ อุปฺปาเทตฺวา ตํ เอกสฺมิํ เวฬุปเพฺพ สยาเปตฺวา ปฎิชคฺคติฯ ตสฺส เวฬุปเพฺพ สยนโต ‘‘เวฬุโก’’เตฺวว นามํ อกํสุฯ ตํ ปุตฺตสิเนเหน ปฎิชคฺคนโต ตาปสสฺส ‘‘เวฬุกปิตา’’เตฺวว นามํ อกํสุฯ
Atīte bārāṇasiyaṃ brahmadatte rajjaṃ kārente bodhisatto kāsiraṭṭhe mahābhogakule nibbatto viññutaṃ patvā kāmesu ādīnavaṃ nekkhamme cānisaṃsaṃ disvā kāme pahāya himavantaṃ pavisitvā isipabbajjaṃ pabbajitvā kasiṇaparikammaṃ katvā pañcābhiññā aṭṭha samāpattiyo ca uppādetvā jhānasukhena vītināmento aparabhāge mahāparivāro pañcahi tāpasasatehi parivuto gaṇassa satthā hutvā vihāsi. Atheko āsivisapotako attano dhammatāya caranto aññatarassa tāpasassa assamapadaṃ patto. Tāpaso tasmiṃ puttasinehaṃ uppādetvā taṃ ekasmiṃ veḷupabbe sayāpetvā paṭijaggati. Tassa veḷupabbe sayanato ‘‘veḷuko’’tveva nāmaṃ akaṃsu. Taṃ puttasinehena paṭijagganato tāpasassa ‘‘veḷukapitā’’tveva nāmaṃ akaṃsu.
ตทา โพธิสโตฺต ‘‘เอโก กิร ตาปโส อาสิวิสํ ปฎิชคฺคตี’’ติ สุตฺวา ตํ ปโกฺกสาเปตฺวา ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ อาสิวิสํ ปฎิชคฺคสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจ’’นฺติ วุเตฺต ‘‘อาสิวิเสน สทฺธิํ วิสฺสาโส นาม นตฺถิ, มา เอวํ ชคฺคาหี’’ติ อาหฯ ‘‘โส เม อาจริย ปุโตฺต, นาหํ เตน วินา วตฺติตุํ สกฺขิสฺสามี’’ติฯ ‘‘เตน หิ เอตเสฺสว สนฺติกา ชีวิตกฺขยํ ปาปุณิสฺสสี’’ติฯ ตาปโส โพธิสตฺตสฺส วจนํ น คณฺหิ, อาสิวิสมฺปิ ชหิตุํ นาสกฺขิฯ ตโต กติปาหจฺจเยเนว สเพฺพ ตาปสา ผลาผลตฺถาย คนฺตฺวา คตฎฺฐาเน ผลาผลสฺส สุลภภาวํ ทิสฺวา เทฺว ตโย ทิวเส ตเตฺถว วสิํสุ, เวฬุกปิตาปิ เตหิ สทฺธิํ คจฺฉโนฺต อาสิวิสํ เวฬุปเพฺพเยว สยาเปตฺวา ปิทหิตฺวา คโตฯ โส ปุน ตาปเสหิ สทฺธิํ ทฺวีหตีหจฺจเยน อาคนฺตฺวา ‘‘เวฬุกสฺส โคจรํ ทสฺสามี’’ติ เวฬุปพฺพํ อุคฺฆาเฎตฺวา ‘‘เอหิ, ปุตฺตก, ฉาตโกสี’’ติ หตฺถํ ปสาเรสิฯ อาสิวิโส ทฺวีหตีหํ นิราหารตาย กุชฺฌิตฺวา ปสาริตหตฺถํ ฑํสิตฺวา ตาปสํ ตเตฺถว ชีวิตกฺขยํ ปาเปตฺวา อรญฺญํ ปาวิสิฯ ตาปสา ตํ ทิสฺวา โพธิสตฺตสฺส อาโรเจสุํฯ โพธิสโตฺต ตสฺส สรีรกิจฺจํ กาเรตฺวา อิสิคณสฺส มเชฺฌ นิสีทิตฺวา อิสีนํ โอวาทวเสน อิมํ คาถมาห –
Tadā bodhisatto ‘‘eko kira tāpaso āsivisaṃ paṭijaggatī’’ti sutvā taṃ pakkosāpetvā ‘‘saccaṃ kira tvaṃ āsivisaṃ paṭijaggasī’’ti pucchitvā ‘‘sacca’’nti vutte ‘‘āsivisena saddhiṃ vissāso nāma natthi, mā evaṃ jaggāhī’’ti āha. ‘‘So me ācariya putto, nāhaṃ tena vinā vattituṃ sakkhissāmī’’ti. ‘‘Tena hi etasseva santikā jīvitakkhayaṃ pāpuṇissasī’’ti. Tāpaso bodhisattassa vacanaṃ na gaṇhi, āsivisampi jahituṃ nāsakkhi. Tato katipāhaccayeneva sabbe tāpasā phalāphalatthāya gantvā gataṭṭhāne phalāphalassa sulabhabhāvaṃ disvā dve tayo divase tattheva vasiṃsu, veḷukapitāpi tehi saddhiṃ gacchanto āsivisaṃ veḷupabbeyeva sayāpetvā pidahitvā gato. So puna tāpasehi saddhiṃ dvīhatīhaccayena āgantvā ‘‘veḷukassa gocaraṃ dassāmī’’ti veḷupabbaṃ ugghāṭetvā ‘‘ehi, puttaka, chātakosī’’ti hatthaṃ pasāresi. Āsiviso dvīhatīhaṃ nirāhāratāya kujjhitvā pasāritahatthaṃ ḍaṃsitvā tāpasaṃ tattheva jīvitakkhayaṃ pāpetvā araññaṃ pāvisi. Tāpasā taṃ disvā bodhisattassa ārocesuṃ. Bodhisatto tassa sarīrakiccaṃ kāretvā isigaṇassa majjhe nisīditvā isīnaṃ ovādavasena imaṃ gāthamāha –
๔๓.
43.
‘‘โย อตฺถกามสฺส หิตานุกมฺปิโน, โอวชฺชมาโน น กโรติ สาสนํ;
‘‘Yo atthakāmassa hitānukampino, ovajjamāno na karoti sāsanaṃ;
เอวํ โส นิหโต เสติ, เวฬุกสฺส ยถา ปิตา’’ติฯ
Evaṃ so nihato seti, veḷukassa yathā pitā’’ti.
ตตฺถ เอวํ โส นิหโต เสตีติ โย หิ อิสีนํ โอวาทํ น คณฺหาติ, โส ยถา เอส ตาปโส อาสิวิสมุเข ปูติภาวํ ปตฺวา นิหโต เสติ, เอวํ มหาวินาสํ ปตฺวา นิหโต เสตีติ อโตฺถฯ เอวํ โพธิสโตฺต อิสิคณํ โอวทิตฺวา จตฺตาโร พฺรหฺมวิหาเร ภาเวตฺวา อายุปริโยสาเน พฺรหฺมโลเก อุปฺปชฺชิฯ
Tattha evaṃ so nihato setīti yo hi isīnaṃ ovādaṃ na gaṇhāti, so yathā esa tāpaso āsivisamukhe pūtibhāvaṃ patvā nihato seti, evaṃ mahāvināsaṃ patvā nihato setīti attho. Evaṃ bodhisatto isigaṇaṃ ovaditvā cattāro brahmavihāre bhāvetvā āyupariyosāne brahmaloke uppajji.
สตฺถา ‘‘น ตฺวํ ภิกฺขุ อิทาเนว ทุพฺพโจ, ปุเพฺพปิ ทุพฺพโจเยว, ทุพฺพจภาเวเนว จ อาสิวิสมุเข ปูติภาวํ ปโตฺต’’ติ อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา อนุสนฺธิํ ฆเฎตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา เวฬุกปิตา ทุพฺพจภิกฺขุ อโหสิ, เสสปริสา พุทฺธปริสา, คณสตฺถา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ
Satthā ‘‘na tvaṃ bhikkhu idāneva dubbaco, pubbepi dubbacoyeva, dubbacabhāveneva ca āsivisamukhe pūtibhāvaṃ patto’’ti imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā anusandhiṃ ghaṭetvā jātakaṃ samodhānesi – ‘‘tadā veḷukapitā dubbacabhikkhu ahosi, sesaparisā buddhaparisā, gaṇasatthā pana ahameva ahosi’’nti.
เวฬุกชาตกวณฺณนา ตติยาฯ
Veḷukajātakavaṇṇanā tatiyā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๔๓. เวฬุกชาตกํ • 43. Veḷukajātakaṃ