Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya |
๔. เวปจิตฺติสุตฺตํ
4. Vepacittisuttaṃ
๒๕๐. สาวตฺถินิทานํฯ ‘‘ภูตปุพฺพํ , ภิกฺขเว, เทวาสุรสงฺคาโม สมุปพฺยูโฬฺห อโหสิฯ อถ โข, ภิกฺขเว, เวปจิตฺติ อสุริโนฺท อสุเร อามเนฺตสิ – ‘สเจ, มาริสา, เทวานํ อสุรสงฺคาเม สมุปพฺยูเฬฺห อสุรา ชิเนยฺยุํ เทวา ปราชิเนยฺยุํ 1, เยน นํ สกฺกํ เทวานมินฺทํ กณฺฐปญฺจเมหิ พนฺธเนหิ พนฺธิตฺวา มม สนฺติเก อาเนยฺยาถ อสุรปุร’นฺติฯ สโกฺกปิ โข, ภิกฺขเว, เทวานมิโนฺท เทเว ตาวติํเส อามเนฺตสิ – ‘สเจ, มาริสา, เทวานํ อสุรสงฺคาเม สมุปพฺยูเฬฺห เทวา ชิเนยฺยุํ อสุรา ปราชิเนยฺยุํ, เยน นํ เวปจิตฺติํ อสุรินฺทํ กณฺฐปญฺจเมหิ พนฺธเนหิ พนฺธิตฺวา มม สนฺติเก อาเนยฺยาถ สุธมฺมสภ’’’นฺติฯ ตสฺมิํ โข ปน, ภิกฺขเว, สงฺคาเม เทวา ชินิํสุ , อสุรา ปราชินิํสุ 2ฯ อถ โข, ภิกฺขเว, เทวา ตาวติํสา เวปจิตฺติํ อสุรินฺทํ กณฺฐปญฺจเมหิ พนฺธเนหิ พนฺธิตฺวา สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส สนฺติเก อาเนสุํ สุธมฺมสภํฯ ตตฺร สุทํ, ภิกฺขเว, เวปจิตฺติ อสุริโนฺท กณฺฐปญฺจเมหิ พนฺธเนหิ พโทฺธ สกฺกํ เทวานมินฺทํ สุธมฺมสภํ ปวิสนฺตญฺจ นิกฺขมนฺตญฺจ อสพฺภาหิ ผรุสาหิ วาจาหิ อโกฺกสติ ปริภาสติฯ อถ โข, ภิกฺขเว, มาตลิ สงฺคาหโก สกฺกํ เทวานมินฺทํ คาถาหิ อชฺฌภาสิ –
250. Sāvatthinidānaṃ. ‘‘Bhūtapubbaṃ , bhikkhave, devāsurasaṅgāmo samupabyūḷho ahosi. Atha kho, bhikkhave, vepacitti asurindo asure āmantesi – ‘sace, mārisā, devānaṃ asurasaṅgāme samupabyūḷhe asurā jineyyuṃ devā parājineyyuṃ 3, yena naṃ sakkaṃ devānamindaṃ kaṇṭhapañcamehi bandhanehi bandhitvā mama santike āneyyātha asurapura’nti. Sakkopi kho, bhikkhave, devānamindo deve tāvatiṃse āmantesi – ‘sace, mārisā, devānaṃ asurasaṅgāme samupabyūḷhe devā jineyyuṃ asurā parājineyyuṃ, yena naṃ vepacittiṃ asurindaṃ kaṇṭhapañcamehi bandhanehi bandhitvā mama santike āneyyātha sudhammasabha’’’nti. Tasmiṃ kho pana, bhikkhave, saṅgāme devā jiniṃsu , asurā parājiniṃsu 4. Atha kho, bhikkhave, devā tāvatiṃsā vepacittiṃ asurindaṃ kaṇṭhapañcamehi bandhanehi bandhitvā sakkassa devānamindassa santike ānesuṃ sudhammasabhaṃ. Tatra sudaṃ, bhikkhave, vepacitti asurindo kaṇṭhapañcamehi bandhanehi baddho sakkaṃ devānamindaṃ sudhammasabhaṃ pavisantañca nikkhamantañca asabbhāhi pharusāhi vācāhi akkosati paribhāsati. Atha kho, bhikkhave, mātali saṅgāhako sakkaṃ devānamindaṃ gāthāhi ajjhabhāsi –
‘‘ภยา นุ มฆวา สกฺก, ทุพฺพลฺยา โน ติติกฺขสิ;
‘‘Bhayā nu maghavā sakka, dubbalyā no titikkhasi;
สุณโนฺต ผรุสํ วาจํ, สมฺมุขา เวปจิตฺติโน’’ติฯ
Suṇanto pharusaṃ vācaṃ, sammukhā vepacittino’’ti.
‘‘นาหํ ภยา น ทุพฺพลฺยา, ขมามิ เวปจิตฺติโน;
‘‘Nāhaṃ bhayā na dubbalyā, khamāmi vepacittino;
กถญฺหิ มาทิโส วิญฺญู, พาเลน ปฎิสํยุเช’’ติฯ
Kathañhi mādiso viññū, bālena paṭisaṃyuje’’ti.
‘‘ภิโยฺย พาลา ปภิเชฺชยฺยุํ, โน จสฺส ปฎิเสธโก;
‘‘Bhiyyo bālā pabhijjeyyuṃ, no cassa paṭisedhako;
ตสฺมา ภุเสน ทเณฺฑน, ธีโร พาลํ นิเสธเย’’ติฯ
Tasmā bhusena daṇḍena, dhīro bālaṃ nisedhaye’’ti.
‘‘เอตเทว อหํ มเญฺญ, พาลสฺส ปฎิเสธนํ;
‘‘Etadeva ahaṃ maññe, bālassa paṭisedhanaṃ;
ปรํ สงฺกุปิตํ ญตฺวา, โย สโต อุปสมฺมตี’’ติฯ
Paraṃ saṅkupitaṃ ñatvā, yo sato upasammatī’’ti.
‘‘เอตเทว ติติกฺขาย, วชฺชํ ปสฺสามิ วาสว;
‘‘Etadeva titikkhāya, vajjaṃ passāmi vāsava;
ยทา นํ มญฺญติ พาโล, ภยา มฺยายํ ติติกฺขติ;
Yadā naṃ maññati bālo, bhayā myāyaṃ titikkhati;
อชฺฌารุหติ ทุเมฺมโธ, โคว ภิโยฺย ปลายิน’’นฺติฯ
Ajjhāruhati dummedho, gova bhiyyo palāyina’’nti.
‘‘กามํ มญฺญตุ วา มา วา, ภยา มฺยายํ ติติกฺขติ;
‘‘Kāmaṃ maññatu vā mā vā, bhayā myāyaṃ titikkhati;
สทตฺถปรมา อตฺถา, ขนฺตฺยา ภิโยฺย น วิชฺชติฯ
Sadatthaparamā atthā, khantyā bhiyyo na vijjati.
‘‘โย หเว พลวา สโนฺต, ทุพฺพลสฺส ติติกฺขติ;
‘‘Yo have balavā santo, dubbalassa titikkhati;
ตมาหุ ปรมํ ขนฺติํ, นิจฺจํ ขมติ ทุพฺพโลฯ
Tamāhu paramaṃ khantiṃ, niccaṃ khamati dubbalo.
‘‘อพลํ ตํ พลํ อาหุ, ยสฺส พาลพลํ พลํ;
‘‘Abalaṃ taṃ balaṃ āhu, yassa bālabalaṃ balaṃ;
พลสฺส ธมฺมคุตฺตสฺส, ปฎิวตฺตา น วิชฺชติฯ
Balassa dhammaguttassa, paṭivattā na vijjati.
‘‘ตเสฺสว เตน ปาปิโย, โย กุทฺธํ ปฎิกุชฺฌติ;
‘‘Tasseva tena pāpiyo, yo kuddhaṃ paṭikujjhati;
กุทฺธํ อปฺปฎิกุชฺฌโนฺต, สงฺคามํ เชติ ทุชฺชยํฯ
Kuddhaṃ appaṭikujjhanto, saṅgāmaṃ jeti dujjayaṃ.
‘‘อุภินฺนมตฺถํ จรติ, อตฺตโน จ ปรสฺส จ;
‘‘Ubhinnamatthaṃ carati, attano ca parassa ca;
ปรํ สงฺกุปิตํ ญตฺวา, โย สโต อุปสมฺมติฯ
Paraṃ saṅkupitaṃ ñatvā, yo sato upasammati.
‘‘อุภินฺนํ ติกิจฺฉนฺตานํ, อตฺตโน จ ปรสฺส จ;
‘‘Ubhinnaṃ tikicchantānaṃ, attano ca parassa ca;
ชนา มญฺญนฺติ พาโลติ, เย ธมฺมสฺส อโกวิทา’’ติฯ
Janā maññanti bāloti, ye dhammassa akovidā’’ti.
‘‘โส หิ นาม, ภิกฺขเว, สโกฺก เทวานมิโนฺท สกํ ปุญฺญผลํ อุปชีวมาโน เทวานํ ตาวติํสานํ อิสฺสริยาธิปจฺจํ รชฺชํ กาเรโนฺต ขนฺติโสรจฺจสฺส วณฺณวาที ภวิสฺสติฯ อิธ โข ตํ, ภิกฺขเว, โสเภถ ยํ ตุเมฺห เอวํ สฺวากฺขาเต ธมฺมวินเย ปพฺพชิตา สมานา ขมา จ ภเวยฺยาถ โสรตา จา’’ติฯ
‘‘So hi nāma, bhikkhave, sakko devānamindo sakaṃ puññaphalaṃ upajīvamāno devānaṃ tāvatiṃsānaṃ issariyādhipaccaṃ rajjaṃ kārento khantisoraccassa vaṇṇavādī bhavissati. Idha kho taṃ, bhikkhave, sobhetha yaṃ tumhe evaṃ svākkhāte dhammavinaye pabbajitā samānā khamā ca bhaveyyātha soratā cā’’ti.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๔. เวปจิตฺติสุตฺตวณฺณนา • 4. Vepacittisuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๔. เวปจิตฺติสุตฺตวณฺณนา • 4. Vepacittisuttavaṇṇanā