Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) |
๔. เวปจิตฺติสุตฺตวณฺณนา
4. Vepacittisuttavaṇṇanā
๒๕๐. จตุเตฺถ เวปจิตฺตีติ โส กิร อสุรานํ สพฺพเชฎฺฐโกฯ เยนาติ นิปาตมตฺตํ นนฺติ จฯ กณฺฐปญฺจเมหีติ ทฺวีสุ หเตฺถสุ ปาเทสุ กเณฺฐ จาติ เอวํ ปญฺจหิ พนฺธเนหิฯ ตานิ ปน นฬินสุตฺตํ วิย มกฺกฎกสุตฺตํ วิย จ จกฺขุสฺสาปาถํ อาคจฺฉนฺติ, อิริยาปถํ รุชฺฌนฺติฯ เตหิ ปน จิเตฺตเนว พชฺฌติ, จิเตฺตเนว มุจฺจติฯ อโกฺกสตีติ โจโรสิ พาโลสิ มูโฬฺหสิ เถโนสิ โอโฎฺฐสิ โคโณสิ คทฺรโภสิ เนรยิโกสิ ติรจฺฉานคโตสิ, นตฺถิ ตุยฺหํ สุคติ, ทุคฺคติเยว ตุยฺหํ ปาฎิกงฺขาติ อิเมหิ ทสหิ อโกฺกสวตฺถูหิ อโกฺกสติฯ ปริภาสตีติ, ชรสกฺก, น ตฺวํ สพฺพกาลํ ชินิสฺสสิ, ยทา อสุรานํ ชโย ภวิสฺสติ, ตทา ตมฺปิ เอวํ พนฺธิตฺวา อสุรภวนสฺส ทฺวาเร นิปชฺชาเปตฺวา โปถาเปสฺสามีติ อาทีนิ วตฺวา ตเชฺชติฯ สโกฺก วิชิตวิชโย น ตํ มนสิ กโรติ, มหาปฎิคฺคหณํ ปนสฺส มตฺถเก วิธุนโนฺต สุธมฺมเทวสภํ ปวิสติ เจว นิกฺขมติ จฯ อชฺฌภาสีติ ‘‘กิํ นุ โข เอส สโกฺก อิมานิ ผรุสวจนานิ ภเยน ติติกฺขติ, อุทาหุ อธิวาสนขนฺติยา สมนฺนาคตตฺตา’’ติ? วีมํสโนฺต อภาสิฯ
250. Catutthe vepacittīti so kira asurānaṃ sabbajeṭṭhako. Yenāti nipātamattaṃ nanti ca. Kaṇṭhapañcamehīti dvīsu hatthesu pādesu kaṇṭhe cāti evaṃ pañcahi bandhanehi. Tāni pana naḷinasuttaṃ viya makkaṭakasuttaṃ viya ca cakkhussāpāthaṃ āgacchanti, iriyāpathaṃ rujjhanti. Tehi pana citteneva bajjhati, citteneva muccati. Akkosatīti corosi bālosi mūḷhosi thenosi oṭṭhosi goṇosi gadrabhosi nerayikosi tiracchānagatosi, natthi tuyhaṃ sugati, duggatiyeva tuyhaṃ pāṭikaṅkhāti imehi dasahi akkosavatthūhi akkosati. Paribhāsatīti, jarasakka, na tvaṃ sabbakālaṃ jinissasi, yadā asurānaṃ jayo bhavissati, tadā tampi evaṃ bandhitvā asurabhavanassa dvāre nipajjāpetvā pothāpessāmīti ādīni vatvā tajjeti. Sakko vijitavijayo na taṃ manasi karoti, mahāpaṭiggahaṇaṃ panassa matthake vidhunanto sudhammadevasabhaṃ pavisati ceva nikkhamati ca. Ajjhabhāsīti ‘‘kiṃ nu kho esa sakko imāni pharusavacanāni bhayena titikkhati, udāhu adhivāsanakhantiyā samannāgatattā’’ti? Vīmaṃsanto abhāsi.
ทุพฺพลฺยา โนติ ทุพฺพลภาเวน นุฯ ปฎิสํยุเชติ ปฎิสํยุเชยฺย ปฎิปฺผเรยฺยฯ ปภิเชฺชยฺยุนฺติ วิรเชฺชยฺยุํฯ ปกุเชฺฌยฺยุนฺติปิ ปาโฐฯ ปรนฺติ ปจฺจตฺถิกํฯ โย สโต อุปสมฺมตีติ โย สติมา หุตฺวา อุปสมฺมติ, ตสฺส อุปสมํเยวาหํ พาลสฺส ปฎิเสธนํ มเญฺญติ อโตฺถฯ ยทา นํ มญฺญตีติ ยสฺมา ตํ มญฺญติฯ อชฺฌารุหตีติ อโชฺฌตฺถรติฯ โคว ภิโยฺย ปลายินนฺติ ยถา โคยุเทฺธ ตาวเทว เทฺว คาโว ยุชฺฌเนฺต โคคโณ โอโลเกโนฺต ติฎฺฐติ, ยทา ปน เอโก ปลายติ, อถ นํ ปลายนฺตํ สโพฺพ โคคโณ ภิโยฺย อโชฺฌตฺถรติฯ เอวํ ทุเมฺมโธ ขมนฺตํ ภิโยฺย อโชฺฌตฺถรตีติ อโตฺถฯ
Dubbalyā noti dubbalabhāvena nu. Paṭisaṃyujeti paṭisaṃyujeyya paṭipphareyya. Pabhijjeyyunti virajjeyyuṃ. Pakujjheyyuntipi pāṭho. Paranti paccatthikaṃ. Yo sato upasammatīti yo satimā hutvā upasammati, tassa upasamaṃyevāhaṃ bālassa paṭisedhanaṃ maññeti attho. Yadā naṃ maññatīti yasmā taṃ maññati. Ajjhāruhatīti ajjhottharati. Gova bhiyyo palāyinanti yathā goyuddhe tāvadeva dve gāvo yujjhante gogaṇo olokento tiṭṭhati, yadā pana eko palāyati, atha naṃ palāyantaṃ sabbo gogaṇo bhiyyo ajjhottharati. Evaṃ dummedho khamantaṃ bhiyyo ajjhottharatīti attho.
สทตฺถปรมาติ สกตฺถปรมาฯ ขนฺตฺยา ภิโยฺย น วิชฺชตีติ เตสุ สกอตฺถปรเมสุ อเตฺถสุ ขนฺติโต อุตฺตริตโร อโญฺญ อโตฺถ น วิชฺชติฯ ตมาหุ ปรมํ ขนฺตินฺติ โย พลวา ติติกฺขติ, ตสฺส ตํ ขนฺติํ ปรมํ อาหุฯ พาลพลํ นาม อญฺญาณพลํฯ ตํ ยสฺส พลํ, อพลเมว ตํ พลนฺติ อาหุ กเถนฺตีติ ทีเปติฯ ธมฺมคุตฺตสฺสาติ ธเมฺมน รกฺขิตสฺส, ธมฺมํ วา รกฺขนฺตสฺสฯ ปฎิวตฺตาติ ปฎิปฺผริตฺวา วตฺตา, ปฎิปฺผริตฺวา วา พาลพลนฺติ วเทยฺยาปิ, ธมฺมฎฺฐํ ปน จาเลตุํ สมโตฺถ นาม นตฺถิฯ ตเสฺสว เตน ปาปิโยติ เตน โกเธน ตเสฺสว ปุคฺคลสฺส ปาปํฯ กตรสฺส? โย กุทฺธํ ปฎิกุชฺฌติฯ ติกิจฺฉนฺตานนฺติ เอกวจเน พหุวจนํ, ติกิจฺฉนฺตนฺติ อโตฺถฯ ชนา มญฺญนฺตีติ เอวรูปํ อตฺตโน จ ปรสฺส จาติ อุภินฺนํ อตฺถํ ติกิจฺฉนฺตํ นิปฺผาเทนฺตํ ปุคฺคลํ ‘‘อนฺธพาโล อย’’นฺติ อนฺธพาลปุถุชฺชนาว เอวํ มญฺญนฺติฯ ธมฺมสฺส อโกวิทาติ จตุสจฺจธเมฺม อเฉกาฯ อิธาติ อิมสฺมิํ สาสเนฯ โขติ นิปาตมตฺตํฯ จตุตฺถํฯ
Sadatthaparamāti sakatthaparamā. Khantyā bhiyyo na vijjatīti tesu sakaatthaparamesu atthesu khantito uttaritaro añño attho na vijjati. Tamāhu paramaṃ khantinti yo balavā titikkhati, tassa taṃ khantiṃ paramaṃ āhu. Bālabalaṃ nāma aññāṇabalaṃ. Taṃ yassa balaṃ, abalameva taṃ balanti āhu kathentīti dīpeti. Dhammaguttassāti dhammena rakkhitassa, dhammaṃ vā rakkhantassa. Paṭivattāti paṭippharitvā vattā, paṭippharitvā vā bālabalanti vadeyyāpi, dhammaṭṭhaṃ pana cāletuṃ samattho nāma natthi. Tasseva tena pāpiyoti tena kodhena tasseva puggalassa pāpaṃ. Katarassa? Yo kuddhaṃ paṭikujjhati. Tikicchantānanti ekavacane bahuvacanaṃ, tikicchantanti attho. Janā maññantīti evarūpaṃ attano ca parassa cāti ubhinnaṃ atthaṃ tikicchantaṃ nipphādentaṃ puggalaṃ ‘‘andhabālo aya’’nti andhabālaputhujjanāva evaṃ maññanti. Dhammassa akovidāti catusaccadhamme achekā. Idhāti imasmiṃ sāsane. Khoti nipātamattaṃ. Catutthaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๔. เวปจิตฺติสุตฺตํ • 4. Vepacittisuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๔. เวปจิตฺติสุตฺตวณฺณนา • 4. Vepacittisuttavaṇṇanā