Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā |
[๕๔๗] ๑๐. เวสฺสนฺตรชาตกวณฺณนา
[547] 10. Vessantarajātakavaṇṇanā
ทสวรกถาวณฺณนา
Dasavarakathāvaṇṇanā
ผุสฺสตี วรวณฺณาเภติ อิทํ สตฺถา กปิลวตฺถุํ อุปนิสฺสาย นิโคฺรธาราเม วิหรโนฺต โปกฺขรวสฺสํ อารพฺภ กเถสิฯ ยทา หิ สตฺถา ปวตฺติตวรธมฺมจโกฺก อนุกฺกเมน ราชคหํ คนฺตฺวา ตตฺถ เหมนฺตํ วีตินาเมตฺวา อุทายิเตฺถเรน มคฺคเทสเกน วีสติสหสฺสขีณาสวปริวุโต ปฐมคมเนน กปิลวตฺถุํ อคมาสิ, ตทา สกฺยราชาโน ‘‘มยํ อมฺหากํ ญาติเสฎฺฐํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ สนฺนิปติตฺวา ภควโต วสนฎฺฐานํ วีมํสมานา ‘‘นิโคฺรธสกฺกสฺสาราโม รมณีโย’’ติ สลฺลเกฺขตฺวา ตตฺถ สพฺพํ ปฎิชคฺคนวิธิํ กตฺวา คนฺธปุปฺผาทิหตฺถา ปจฺจุคฺคมนํ กโรนฺตา สพฺพาลงฺการปฺปฎิมณฺฑิเต ทหรทหเร นาครทารเก จ นาครทาริกาโย จ ปฐมํ ปหิณิํสุ, ตโต ราชกุมาเร จ ราชกุมาริกาโย จฯ เตสํ อนฺตรา สามํ คนฺธปุปฺผจุณฺณาทีหิ สตฺถารํ ปูเชตฺวา ภควนฺตํ คเหตฺวา นิโคฺรธารามเมว อคมิํสุฯ ตตฺถ ภควา วีสติสหสฺสขีณาสวปริวุโต ปญฺญตฺตวรพุทฺธาสเน นิสีทิฯ ตทา หิ สากิยา มานชาติกา มานตฺถทฺธาฯ เต ‘‘อยํ สิทฺธตฺถกุมาโร อเมฺหหิ ทหรตโร, อมฺหากํ กนิโฎฺฐ ภาคิเนโยฺย ปุโตฺต นตฺตา’’ติ จิเนฺตตฺวา ทหรทหเร ราชกุมาเร จ ราชกุมาริกาโย จ อาหํสุ ‘‘ตุเมฺห ภควนฺตํ วนฺทถ, มยํ ตุมฺหากํ ปิฎฺฐิโต นิสีทิสฺสามา’’ติฯ
Phussatīvaravaṇṇābheti idaṃ satthā kapilavatthuṃ upanissāya nigrodhārāme viharanto pokkharavassaṃ ārabbha kathesi. Yadā hi satthā pavattitavaradhammacakko anukkamena rājagahaṃ gantvā tattha hemantaṃ vītināmetvā udāyittherena maggadesakena vīsatisahassakhīṇāsavaparivuto paṭhamagamanena kapilavatthuṃ agamāsi, tadā sakyarājāno ‘‘mayaṃ amhākaṃ ñātiseṭṭhaṃ passissāmā’’ti sannipatitvā bhagavato vasanaṭṭhānaṃ vīmaṃsamānā ‘‘nigrodhasakkassārāmo ramaṇīyo’’ti sallakkhetvā tattha sabbaṃ paṭijagganavidhiṃ katvā gandhapupphādihatthā paccuggamanaṃ karontā sabbālaṅkārappaṭimaṇḍite daharadahare nāgaradārake ca nāgaradārikāyo ca paṭhamaṃ pahiṇiṃsu, tato rājakumāre ca rājakumārikāyo ca. Tesaṃ antarā sāmaṃ gandhapupphacuṇṇādīhi satthāraṃ pūjetvā bhagavantaṃ gahetvā nigrodhārāmameva agamiṃsu. Tattha bhagavā vīsatisahassakhīṇāsavaparivuto paññattavarabuddhāsane nisīdi. Tadā hi sākiyā mānajātikā mānatthaddhā. Te ‘‘ayaṃ siddhatthakumāro amhehi daharataro, amhākaṃ kaniṭṭho bhāgineyyo putto nattā’’ti cintetvā daharadahare rājakumāre ca rājakumārikāyo ca āhaṃsu ‘‘tumhe bhagavantaṃ vandatha, mayaṃ tumhākaṃ piṭṭhito nisīdissāmā’’ti.
เตสุ เอวํ อวนฺทิตฺวา นิสิเนฺนสุ ภควา เตสํ อชฺฌาสยํ โอโลเกตฺวา ‘‘น มํ ญาตโย วนฺทนฺติ, หนฺท อิทาเนว วนฺทาเปสฺสามี’’ติ อภิญฺญาปาทกํ จตุตฺถชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา ตโต วุฎฺฐาย อากาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา เตสํ สีเส ปาทปํสุํ โอกิรมาโน วิย กณฺฑมฺพรุกฺขมูเล ยมกปาฎิหาริยสทิสํ ปาฎิหาริยํ อกาสิฯ ราชา สุโทฺธทโน ตํ อจฺฉริยํ ทิสฺวา อาห ‘‘ภเนฺต, ตุมฺหากํ ชาตทิวเส กาฬเทวลสฺส วนฺทนตฺถํ อุปนีตานํ โว ปาเท ปริวตฺติตฺวา พฺราหฺมณสฺส มตฺถเก ฐิเต ทิสฺวา อหํ ตุมฺหากํ ปาเท วนฺทิํ, อยํ เม ปฐมวนฺทนาฯ ปุนปิ วปฺปมงฺคลทิวเส ชมฺพุจฺฉายาย สิริสยเน นิสินฺนานํ โว ชมฺพุจฺฉายาย อปริวตฺตนํ ทิสฺวาปิ อหํ ตุมฺหากํ ปาเท วนฺทิํ, อยํ เม ทุติยวนฺทนาฯ อิทานิ อิมํ อทิฎฺฐปุพฺพํ ปาฎิหาริยํ ทิสฺวาปิ ตุมฺหากํ ปาเท วนฺทามิ, อยํ เม ตติยวนฺทนา’’ติฯ รญฺญา ปน วนฺทิเต อวนฺทิตฺวา ฐาตุํ สมโตฺถ นาม เอกสากิโยปิ นาโหสิ, สเพฺพ วนฺทิํสุเยวฯ
Tesu evaṃ avanditvā nisinnesu bhagavā tesaṃ ajjhāsayaṃ oloketvā ‘‘na maṃ ñātayo vandanti, handa idāneva vandāpessāmī’’ti abhiññāpādakaṃ catutthajjhānaṃ samāpajjitvā tato vuṭṭhāya ākāsaṃ abbhuggantvā tesaṃ sīse pādapaṃsuṃ okiramāno viya kaṇḍambarukkhamūle yamakapāṭihāriyasadisaṃ pāṭihāriyaṃ akāsi. Rājā suddhodano taṃ acchariyaṃ disvā āha ‘‘bhante, tumhākaṃ jātadivase kāḷadevalassa vandanatthaṃ upanītānaṃ vo pāde parivattitvā brāhmaṇassa matthake ṭhite disvā ahaṃ tumhākaṃ pāde vandiṃ, ayaṃ me paṭhamavandanā. Punapi vappamaṅgaladivase jambucchāyāya sirisayane nisinnānaṃ vo jambucchāyāya aparivattanaṃ disvāpi ahaṃ tumhākaṃ pāde vandiṃ, ayaṃ me dutiyavandanā. Idāni imaṃ adiṭṭhapubbaṃ pāṭihāriyaṃ disvāpi tumhākaṃ pāde vandāmi, ayaṃ me tatiyavandanā’’ti. Raññā pana vandite avanditvā ṭhātuṃ samattho nāma ekasākiyopi nāhosi, sabbe vandiṃsuyeva.
อิติ ภควา ญาตโย วนฺทาเปตฺวา อากาสโต โอตริตฺวา ปญฺญตฺตวรพุทฺธาสเน นิสีทิฯ นิสิเนฺน จ ภควติ สิขาปโตฺต ญาติสมาคโม อโหสิ, สเพฺพ เอกคฺคจิตฺตา หุตฺวา นิสีทิํสุฯ ตโต มหาเมโฆ อุฎฺฐหิตฺวา โปกฺขรวสฺสํ วสฺสิ, ตมฺพวณฺณํ อุทกํ เหฎฺฐา วิรวนฺตํ คจฺฉติฯ เย เตเมตุกามา, เต เตเมนฺติฯ อเตเมตุกามสฺส สรีเร เอกพินฺทุมตฺตมฺปิ น ปตติฯ ตํ ทิสฺวา สเพฺพ อจฺฉริยพฺภุตจิตฺตชาตา อเหสุํฯ ‘‘อโห อจฺฉริยํ อโห อพฺภุตํ อโห พุทฺธานํ มหานุภาวตา, เยสํ ญาติสมาคเม เอวรูปํ โปกฺขรวสฺสํ วสฺสี’’ติ ภิกฺขู กถํ สมุฎฺฐาเปสุํฯ ตํ สุตฺวา สตฺถา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุเพฺพปิ มม ญาติสมาคเม มหาเมโฆ โปกฺขรวสฺสํ วสฺสิเยวา’’ติ วตฺวา เตหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริฯ
Iti bhagavā ñātayo vandāpetvā ākāsato otaritvā paññattavarabuddhāsane nisīdi. Nisinne ca bhagavati sikhāpatto ñātisamāgamo ahosi, sabbe ekaggacittā hutvā nisīdiṃsu. Tato mahāmegho uṭṭhahitvā pokkharavassaṃ vassi, tambavaṇṇaṃ udakaṃ heṭṭhā viravantaṃ gacchati. Ye temetukāmā, te tementi. Atemetukāmassa sarīre ekabindumattampi na patati. Taṃ disvā sabbe acchariyabbhutacittajātā ahesuṃ. ‘‘Aho acchariyaṃ aho abbhutaṃ aho buddhānaṃ mahānubhāvatā, yesaṃ ñātisamāgame evarūpaṃ pokkharavassaṃ vassī’’ti bhikkhū kathaṃ samuṭṭhāpesuṃ. Taṃ sutvā satthā ‘‘na, bhikkhave, idāneva, pubbepi mama ñātisamāgame mahāmegho pokkharavassaṃ vassiyevā’’ti vatvā tehi yācito atītaṃ āhari.
อตีเต สิวิรเฎฺฐ เชตุตฺตรนคเร สิวิมหาราชา นาม รชฺชํ กาเรโนฺต สญฺชยํ นาม ปุตฺตํ ปฎิลภิฯ โส ตสฺส วยปฺปตฺตสฺส มทฺทราชธีตรํ ผุสฺสติํ นาม ราชกญฺญํ อาเนตฺวา รชฺชํ นิยฺยาเทตฺวา ผุสฺสติํ อคฺคมเหสิํ อกาสิฯ ตสฺสา อยํ ปุพฺพโยโค – อิโต เอกนวุติกเปฺป วิปสฺสี นาม สตฺถา โลเก อุทปาทิฯ ตสฺมิํ พนฺธุมตินครํ นิสฺสาย เขเม มิคทาเย วิหรเนฺต เอโก ราชา รโญฺญ พนฺธุมสฺส อนเคฺฆน จนฺทนสาเรน สทฺธิํ สตสหสฺสคฺฆนิกํ สุวณฺณมาลํ เปเสสิฯ รโญฺญ ปน เทฺว ธีตโร อเหสุํฯ โส ตํ ปณฺณาการํ ตาสํ ทาตุกาโม หุตฺวา จนฺทนสารํ เชฎฺฐิกาย อทาสิ, สุวณฺณมาลํ กนิฎฺฐาย อทาสิฯ ตา อุโภปิ ‘‘น มยํ อิมํ อตฺตโน สรีเร ปิฬนฺธิสฺสาม, สตฺถารเมว ปูเชสฺสามา’’ติ จิเนฺตตฺวา ราชานํ อาหํสุ ‘‘ตาต, จนฺทนสาเรน จ สุวณฺณมาลาย จ ทสพลํ ปูเชสฺสามา’’ติฯ ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฎิจฺฉิฯ เชฎฺฐิกา สุขุมจนฺทนจุณฺณํ กาเรตฺวา สุวณฺณสมุคฺคํ ปูเรตฺวา คณฺหาเปสิฯ กนิฎฺฐภคินี ปน สุวณฺณมาลํ อุรจฺฉทมาลํ การาเปตฺวา สุวณฺณสมุเคฺคน คณฺหาเปสิฯ ตา อุโภปิ มิคทายวิหารํ คนฺตฺวา เชฎฺฐิกา จนฺทนจุเณฺณน ทสพลสฺส สุวณฺณวณฺณํ สรีรํ ปูเชตฺวา เสสจุณฺณานิ คนฺธกุฎิยํ วิกิริตฺวา ‘‘ภเนฺต, อนาคเต ตุมฺหาทิสสฺส พุทฺธสฺส มาตา ภเวยฺย’’นฺติ ปตฺถนํ อกาสิฯ กนิฎฺฐภคินีปิ ตถาคตสฺส สุวณฺณวณํ สรีรํ สุวณฺณมาลาย กเตน อุรจฺฉเทน ปูเชตฺวา ‘‘ภเนฺต, ยาว อรหตฺตปฺปตฺติ, ตาว อิทํ ปสาธนํ มม สรีรา มา วิคตํ โหตู’’ติ ปตฺถนํ อกาสิฯ สตฺถาปิ ตาสํ อนุโมทนํ อกาสิฯ
Atīte siviraṭṭhe jetuttaranagare sivimahārājā nāma rajjaṃ kārento sañjayaṃ nāma puttaṃ paṭilabhi. So tassa vayappattassa maddarājadhītaraṃ phussatiṃ nāma rājakaññaṃ ānetvā rajjaṃ niyyādetvā phussatiṃ aggamahesiṃ akāsi. Tassā ayaṃ pubbayogo – ito ekanavutikappe vipassī nāma satthā loke udapādi. Tasmiṃ bandhumatinagaraṃ nissāya kheme migadāye viharante eko rājā rañño bandhumassa anagghena candanasārena saddhiṃ satasahassagghanikaṃ suvaṇṇamālaṃ pesesi. Rañño pana dve dhītaro ahesuṃ. So taṃ paṇṇākāraṃ tāsaṃ dātukāmo hutvā candanasāraṃ jeṭṭhikāya adāsi, suvaṇṇamālaṃ kaniṭṭhāya adāsi. Tā ubhopi ‘‘na mayaṃ imaṃ attano sarīre piḷandhissāma, satthārameva pūjessāmā’’ti cintetvā rājānaṃ āhaṃsu ‘‘tāta, candanasārena ca suvaṇṇamālāya ca dasabalaṃ pūjessāmā’’ti. Taṃ sutvā rājā ‘‘sādhū’’ti sampaṭicchi. Jeṭṭhikā sukhumacandanacuṇṇaṃ kāretvā suvaṇṇasamuggaṃ pūretvā gaṇhāpesi. Kaniṭṭhabhaginī pana suvaṇṇamālaṃ uracchadamālaṃ kārāpetvā suvaṇṇasamuggena gaṇhāpesi. Tā ubhopi migadāyavihāraṃ gantvā jeṭṭhikā candanacuṇṇena dasabalassa suvaṇṇavaṇṇaṃ sarīraṃ pūjetvā sesacuṇṇāni gandhakuṭiyaṃ vikiritvā ‘‘bhante, anāgate tumhādisassa buddhassa mātā bhaveyya’’nti patthanaṃ akāsi. Kaniṭṭhabhaginīpi tathāgatassa suvaṇṇavaṇaṃ sarīraṃ suvaṇṇamālāya katena uracchadena pūjetvā ‘‘bhante, yāva arahattappatti, tāva idaṃ pasādhanaṃ mama sarīrā mā vigataṃ hotū’’ti patthanaṃ akāsi. Satthāpi tāsaṃ anumodanaṃ akāsi.
ตา อุโภปิ ยาวตายุกํ ฐตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺติํสุฯ ตาสุ เชฎฺฐภคินี เทวโลกโต มนุสฺสโลกํ , มนุสฺสโลกโต เทวโลกํ สํสรนฺตี เอกนวุติกปฺปาวสาเน อมฺหากํ พุทฺธุปฺปาทกาเล พุทฺธมาตา มหามายาเทวี นาม อโหสิฯ กนิฎฺฐภคินีปิ ตเถว สํสรนฺตี กสฺสปทสพลสฺส กาเล กิกิสฺส รโญฺญ ธีตา หุตฺวา นิพฺพตฺติฯ สา จิตฺตกมฺมกตาย วิย อุรจฺฉทมาลาย อลงฺกเตน อุเรน ชาตตฺตา อุรจฺฉทา นาม กุมาริกา หุตฺวา โสฬสวสฺสิกกาเล สตฺถุ ภตฺตานุโมทนํ สุตฺวา โสตาปตฺติผเล ปติฎฺฐาย อปรภาเค ภตฺตานุโมทนํ สุณเนฺตเนว ปิตรา โสตาปตฺติผลํ ปตฺตทิวเสเยว อรหตฺตํ ปตฺวา ปพฺพชิตฺวา ปรินิพฺพายิฯ กิกิราชาปิ อญฺญา สตฺต ธีตโร ลภิฯ ตาสํ นามานิ –
Tā ubhopi yāvatāyukaṃ ṭhatvā devaloke nibbattiṃsu. Tāsu jeṭṭhabhaginī devalokato manussalokaṃ , manussalokato devalokaṃ saṃsarantī ekanavutikappāvasāne amhākaṃ buddhuppādakāle buddhamātā mahāmāyādevī nāma ahosi. Kaniṭṭhabhaginīpi tatheva saṃsarantī kassapadasabalassa kāle kikissa rañño dhītā hutvā nibbatti. Sā cittakammakatāya viya uracchadamālāya alaṅkatena urena jātattā uracchadā nāma kumārikā hutvā soḷasavassikakāle satthu bhattānumodanaṃ sutvā sotāpattiphale patiṭṭhāya aparabhāge bhattānumodanaṃ suṇanteneva pitarā sotāpattiphalaṃ pattadivaseyeva arahattaṃ patvā pabbajitvā parinibbāyi. Kikirājāpi aññā satta dhītaro labhi. Tāsaṃ nāmāni –
‘‘สมณี สมณคุตฺตา จ, ภิกฺขุนี ภิกฺขทายิกา;
‘‘Samaṇī samaṇaguttā ca, bhikkhunī bhikkhadāyikā;
ธมฺมา เจว สุธมฺมา จ, สงฺฆทาสี จ สตฺตมี’’ติฯ
Dhammā ceva sudhammā ca, saṅghadāsī ca sattamī’’ti.
ตา อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท –
Tā imasmiṃ buddhuppāde –
‘‘เขมา อุปฺปลวณฺณา จ, ปฎาจารา จ โคตมี;
‘‘Khemā uppalavaṇṇā ca, paṭācārā ca gotamī;
ธมฺมทินฺนา มหามายา, วิสาขา จาปิ สตฺตมี’’ติฯ
Dhammadinnā mahāmāyā, visākhā cāpi sattamī’’ti.
ตาสุ ผุสฺสตี สุธมฺมา นาม หุตฺวา ทานาทีนิ ปุญฺญานิ กตฺวา วิปสฺสิสมฺมาสมฺพุทฺธสฺส กตาย จนฺทนจุณฺณปูชาย ผเลน รตฺตจนฺทนรสปริโปฺผสิเตน วิย สรีเรน ชาตตฺตา ผุสฺสตี นาม กุมาริกา หุตฺวา เทเวสุ จ มนุเสฺสสุ จ สํสรนฺตี อปรภาเค สกฺกสฺส เทวรโญฺญ อคฺคมเหสี หุตฺวา นิพฺพตฺติฯ อถสฺสา ยาวตายุกํ ฐตฺวา ปญฺจสุ ปุพฺพนิมิเตฺตสุ อุปฺปเนฺนสุ สโกฺก เทวราชา ตสฺสา ปริกฺขีณายุกตํ ญตฺวา มหเนฺตน ยเสน ตํ อาทาย นนฺทนวนุยฺยานํ คนฺตฺวา ตตฺถ ตํ อลงฺกตสยนปิเฎฺฐ นิสินฺนํ สยํ สยนปเสฺส นิสีทิตฺวา เอตทโวจ ‘‘ภเทฺท ผุสฺสติ, เต ทส วเร ทมฺมิ, เต คณฺหสฺสู’’ติ วทโนฺต อิมสฺมิํ คาถาสหสฺสปฎิมณฺฑิเต มหาเวสฺสนฺตรชาตเก ปฐมํ คาถมาห –
Tāsu phussatī sudhammā nāma hutvā dānādīni puññāni katvā vipassisammāsambuddhassa katāya candanacuṇṇapūjāya phalena rattacandanarasaparipphositena viya sarīrena jātattā phussatī nāma kumārikā hutvā devesu ca manussesu ca saṃsarantī aparabhāge sakkassa devarañño aggamahesī hutvā nibbatti. Athassā yāvatāyukaṃ ṭhatvā pañcasu pubbanimittesu uppannesu sakko devarājā tassā parikkhīṇāyukataṃ ñatvā mahantena yasena taṃ ādāya nandanavanuyyānaṃ gantvā tattha taṃ alaṅkatasayanapiṭṭhe nisinnaṃ sayaṃ sayanapasse nisīditvā etadavoca ‘‘bhadde phussati, te dasa vare dammi, te gaṇhassū’’ti vadanto imasmiṃ gāthāsahassapaṭimaṇḍite mahāvessantarajātake paṭhamaṃ gāthamāha –
๑๖๕๕.
1655.
‘‘ผุสฺสตี วรวณฺณาเภ, วรสฺสุ ทสธา วเร;
‘‘Phussatī varavaṇṇābhe, varassu dasadhā vare;
ปถพฺยา จารุปุพฺพงฺคิ, ยํ ตุยฺหํ มนโส ปิย’’นฺติฯ
Pathabyā cārupubbaṅgi, yaṃ tuyhaṃ manaso piya’’nti.
เอวเมสา มหาเวสฺสนฺตรธมฺมเทสนา เทวโลเก ปติฎฺฐาปิตา นาม โหติฯ
Evamesā mahāvessantaradhammadesanā devaloke patiṭṭhāpitā nāma hoti.
ตตฺถ ผุสฺสตีติ ตํ นาเมนาลปติฯ วรวณฺณาเภติ วราย วณฺณาภาย สมนฺนาคเตฯ ทสธาติ ทสวิเธฯ ปถพฺยาติ ปถวิยํ คเหตเพฺพ กตฺวา วรสฺสุ คณฺหสฺสูติ วทติฯ จารุปุพฺพงฺคีติ จารุนา ปุพฺพเงฺคน วรลกฺขเณน สมนฺนาคเตฯ ยํ ตุยฺหํ มนโส ปิยนฺติ ยํ ยํ ตว มนสา ปิยํ, ตํ ตํ ทสหิ โกฎฺฐาเสหิ คณฺหาหีติ วทติฯ
Tattha phussatīti taṃ nāmenālapati. Varavaṇṇābheti varāya vaṇṇābhāya samannāgate. Dasadhāti dasavidhe. Pathabyāti pathaviyaṃ gahetabbe katvā varassu gaṇhassūti vadati. Cārupubbaṅgīti cārunā pubbaṅgena varalakkhaṇena samannāgate. Yaṃ tuyhaṃ manaso piyanti yaṃ yaṃ tava manasā piyaṃ, taṃ taṃ dasahi koṭṭhāsehi gaṇhāhīti vadati.
สา อตฺตโน จวนธมฺมตํ อชานนฺตี ปมตฺตา หุตฺวา ทุติยคาถมาห –
Sā attano cavanadhammataṃ ajānantī pamattā hutvā dutiyagāthamāha –
๑๖๕๖.
1656.
‘‘เทวราช นโม ตฺยตฺถุ, กิํ ปาปํ ปกตํ มยา;
‘‘Devarāja namo tyatthu, kiṃ pāpaṃ pakataṃ mayā;
รมฺมา จาเวสิ มํ ฐานา, วาโตว ธรณีรุห’’นฺติฯ
Rammā cāvesi maṃ ṭhānā, vātova dharaṇīruha’’nti.
ตตฺถ นโม ตฺยตฺถูติ นโม เต อตฺถุฯ กิํ ปาปนฺติ กิํ มยา ตว สนฺติเก ปาปํ ปกตนฺติ ปุจฺฉติฯ ธรณีรุหนฺติ รุกฺขํฯ
Tattha namo tyatthūti namo te atthu. Kiṃ pāpanti kiṃ mayā tava santike pāpaṃ pakatanti pucchati. Dharaṇīruhanti rukkhaṃ.
อถสฺสา ปมตฺตภาวํ ญตฺวา สโกฺก เทฺว คาถา อภาสิ –
Athassā pamattabhāvaṃ ñatvā sakko dve gāthā abhāsi –
๑๖๕๗.
1657.
‘‘น เจว เต กตํ ปาปํ, น จ เม ตฺวมสิ อปฺปิยา;
‘‘Na ceva te kataṃ pāpaṃ, na ca me tvamasi appiyā;
ปุญฺญญฺจ เต ปริกฺขีณํ, เยน เตวํ วทามหํฯ
Puññañca te parikkhīṇaṃ, yena tevaṃ vadāmahaṃ.
๑๖๕๘.
1658.
‘‘สนฺติเก มรณํ ตุยฺหํ, วินาภาโว ภวิสฺสติ;
‘‘Santike maraṇaṃ tuyhaṃ, vinābhāvo bhavissati;
ปฎิคฺคณฺหาหิ เม เอเต, วเร ทส ปเวจฺฉโต’’ติฯ
Paṭiggaṇhāhi me ete, vare dasa pavecchato’’ti.
ตตฺถ เยน เตวนฺติ เยน เต เอวํ วทามิฯ ตุยฺหํ วินาภาโวติ ตว อเมฺหหิ สทฺธิํ วิโยโค ภวิสฺสติฯ ปเวจฺฉโตติ ททมานสฺสฯ
Tattha yena tevanti yena te evaṃ vadāmi. Tuyhaṃ vinābhāvoti tava amhehi saddhiṃ viyogo bhavissati. Pavecchatoti dadamānassa.
สา สกฺกสฺส วจนํ สุตฺวา นิจฺฉเยน อตฺตโน มรณํ ญตฺวา วรํ คณฺหนฺตี อาห –
Sā sakkassa vacanaṃ sutvā nicchayena attano maraṇaṃ ñatvā varaṃ gaṇhantī āha –
๑๖๕๙.
1659.
‘‘วรํ เจ เม อโท สกฺก, สพฺพภูตานมิสฺสร;
‘‘Varaṃ ce me ado sakka, sabbabhūtānamissara;
สิวิราชสฺส ภทฺทเนฺต, ตตฺถ อสฺสํ นิเวสเนฯ
Sivirājassa bhaddante, tattha assaṃ nivesane.
๑๖๖๐.
1660.
‘‘นีลเนตฺตา นีลภมุ, นีลกฺขี จ ยถา มิคี;
‘‘Nīlanettā nīlabhamu, nīlakkhī ca yathā migī;
ผุสฺสตี นาม นาเมน, ตตฺถปสฺสํ ปุรินฺทนฯ
Phussatī nāma nāmena, tatthapassaṃ purindana.
๑๖๖๑.
1661.
‘‘ปุตฺตํ ลเภถ วรทํ, ยาจโยคํ อมจฺฉริํ;
‘‘Puttaṃ labhetha varadaṃ, yācayogaṃ amacchariṃ;
ปูชิตํ ปฎิราชูหิ, กิตฺติมนฺตํ ยสสฺสินํฯ
Pūjitaṃ paṭirājūhi, kittimantaṃ yasassinaṃ.
๑๖๖๒.
1662.
‘‘คพฺภํ เม ธารยนฺติยา, มชฺฌิมงฺคํ อนุนฺนตํ;
‘‘Gabbhaṃ me dhārayantiyā, majjhimaṅgaṃ anunnataṃ;
กุจฺฉิ อนุนฺนโต อสฺส, จาปํว ลิขิตํ สมํฯ
Kucchi anunnato assa, cāpaṃva likhitaṃ samaṃ.
๑๖๖๓.
1663.
‘‘ถนา เม นปฺปปเตยฺยุํ, ปลิตา น สนฺตุ วาสว;
‘‘Thanā me nappapateyyuṃ, palitā na santu vāsava;
กาเย รโช น ลิเมฺปถ, วชฺฌญฺจาปิ ปโมจเยฯ
Kāye rajo na limpetha, vajjhañcāpi pamocaye.
๑๖๖๔.
1664.
‘‘มยูรโกญฺจาภิรุเท, นาริวรคณายุเต;
‘‘Mayūrakoñcābhirude, nārivaragaṇāyute;
ขุชฺชเจลาปกากิเณฺณ, สูตมาคธวณฺณิเตฯ
Khujjacelāpakākiṇṇe, sūtamāgadhavaṇṇite.
๑๖๖๕.
1665.
‘‘จิตฺรคฺคเฬรุฆุสิเต, สุรามํสปโพธเน;
‘‘Citraggaḷerughusite, surāmaṃsapabodhane;
สิวิราชสฺส ภทฺทเนฺต, ตตฺถสฺสํ มเหสี ปิยา’’ติฯ
Sivirājassa bhaddante, tatthassaṃ mahesī piyā’’ti.
ตตฺถ สิวิราชสฺสาติ สา สกลชมฺพุทีปตลํ โอโลเกนฺตี อตฺตโน อนุจฺฉวิกํ สิวิรโญฺญ นิเวสนํ ทิสฺวา ตตฺถ อคฺคมเหสิภาวํ ปเตฺถนฺตี เอวมาหฯ ยถา มิคีติ เอกวสฺสิกา หิ มิคโปติกา นีลเนตฺตา โหติ, เตเนวมาหฯ ตตฺถปสฺสนฺติ ตตฺถปิ อิมินาว นาเมน อสฺสํฯ ลเภถาติ ลเภยฺยํฯ วรทนฺติ อลงฺกตสีสอกฺขิยุคลหทยมํสรุธิรเสตจฺฉตฺตปุตฺตทาเรสุ ยาจิตยาจิตสฺส วรภณฺฑสฺส ทายกํฯ กุจฺฉีติ ‘‘มชฺฌิมงฺค’’นฺติ วุตฺตํ สรูปโต ทเสฺสติฯ ลิขิตนฺติ ยถา เฉเกน ธนุกาเรน สมฺมา ลิขิตํ ธนุ อนุนฺนตมชฺฌํ ตุลาวฎฺฎํ สมํ โหติ, เอวรูโป เม กุจฺฉิ ภเวยฺยฯ
Tattha sivirājassāti sā sakalajambudīpatalaṃ olokentī attano anucchavikaṃ sivirañño nivesanaṃ disvā tattha aggamahesibhāvaṃ patthentī evamāha. Yathā migīti ekavassikā hi migapotikā nīlanettā hoti, tenevamāha. Tatthapassanti tatthapi imināva nāmena assaṃ. Labhethāti labheyyaṃ. Varadanti alaṅkatasīsaakkhiyugalahadayamaṃsarudhirasetacchattaputtadāresu yācitayācitassa varabhaṇḍassa dāyakaṃ. Kucchīti ‘‘majjhimaṅga’’nti vuttaṃ sarūpato dasseti. Likhitanti yathā chekena dhanukārena sammā likhitaṃ dhanu anunnatamajjhaṃ tulāvaṭṭaṃ samaṃ hoti, evarūpo me kucchi bhaveyya.
นปฺปปเตยฺยุนฺติ ปติตฺวา ลมฺพา น ภเวยฺยุํฯ ปลิตา น สนฺตุ วาสวาติ วาสว เทวเสฎฺฐ, ปลิตานิปิ เม สิรสฺมิํ น สนฺตุ มา ปญฺญายิํสุฯ ‘‘ปลิตานิ สิโรรุหา’’ติปิ ปาโฐฯ วชฺฌญฺจาปีติ กิพฺพิสการกํ ราชาปราธิกํ วชฺฌปฺปตฺตโจรํ อตฺตโน พเลน โมเจตุํ สมตฺถา ภเวยฺยํฯ อิมินา อตฺตโน อิสฺสริยภาวํ ทีเปติฯ ภูตมาคธวณฺณิเตติ โภชนกาลาทีสุ ถุติวเสน กาลํ อาโรเจเนฺตหิ สูเตหิ เจว มาคธเกหิ จ วณฺณิเตฯ จิตฺรคฺคเฬรุฆุสิเตติ ปญฺจงฺคิกตูริยสทฺทสทิสํ มโนรมํ รวํ รวเนฺตหิ สตฺตรตนวิจิเตฺตหิ ทฺวารกวาเฎหิ อุโคฺฆสิเตฯ สุรามํสปโพธเนติ ‘‘ปิวถ, ขาทถา’’ติ สุรามํเสหิ ปโพธิยมานชเน เอวรูเป สิวิราชสฺส นิเวสเน ตสฺส อคฺคมเหสี ภเวยฺยนฺติ อิเม ทส วเร คณฺหิฯ
Nappapateyyunti patitvā lambā na bhaveyyuṃ. Palitā na santu vāsavāti vāsava devaseṭṭha, palitānipi me sirasmiṃ na santu mā paññāyiṃsu. ‘‘Palitāni siroruhā’’tipi pāṭho. Vajjhañcāpīti kibbisakārakaṃ rājāparādhikaṃ vajjhappattacoraṃ attano balena mocetuṃ samatthā bhaveyyaṃ. Iminā attano issariyabhāvaṃ dīpeti. Bhūtamāgadhavaṇṇiteti bhojanakālādīsu thutivasena kālaṃ ārocentehi sūtehi ceva māgadhakehi ca vaṇṇite. Citraggaḷerughusiteti pañcaṅgikatūriyasaddasadisaṃ manoramaṃ ravaṃ ravantehi sattaratanavicittehi dvārakavāṭehi ugghosite. Surāmaṃsapabodhaneti ‘‘pivatha, khādathā’’ti surāmaṃsehi pabodhiyamānajane evarūpe sivirājassa nivesane tassa aggamahesī bhaveyyanti ime dasa vare gaṇhi.
ตตฺถ สิวิราชสฺส อคฺคมเหสิภาโว ปฐโม วโร, นีลเนตฺตตา ทุติโย, นีลภมุกตา ตติโย, ผุสฺสตีติ นามํ จตุโตฺถ, ปุตฺตปฎิลาโภ ปญฺจโม, อนุนฺนตกุจฺฉิตา ฉโฎฺฐ, อลมฺพตฺถนตา สตฺตโม, อปลิตภาโว อฎฺฐโม, สุขุมจฺฉวิภาโว นวโม, วชฺฌปฺปโมจนสมตฺถตา ทสโม วโรติฯ
Tattha sivirājassa aggamahesibhāvo paṭhamo varo, nīlanettatā dutiyo, nīlabhamukatā tatiyo, phussatīti nāmaṃ catuttho, puttapaṭilābho pañcamo, anunnatakucchitā chaṭṭho, alambatthanatā sattamo, apalitabhāvo aṭṭhamo, sukhumacchavibhāvo navamo, vajjhappamocanasamatthatā dasamo varoti.
สโกฺก อาห –
Sakko āha –
๑๖๖๖.
1666.
‘‘เย เต ทส วรา ทินฺนา, มยา สพฺพงฺคโสภเน;
‘‘Ye te dasa varā dinnā, mayā sabbaṅgasobhane;
สิวิราชสฺส วิชิเต, สเพฺพ เต ลจฺฉสี วเร’’ติฯ
Sivirājassa vijite, sabbe te lacchasī vare’’ti.
อถสฺสา สโกฺก เทวราชา ผุสฺสติยา ทส วเร อทาสิ, ทตฺวา จ ปน ‘‘ภเทฺท ผุสฺสติ, ตว สเพฺพ เต สมิชฺฌนฺตู’’ติ วตฺวา อนุโมทิฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Athassā sakko devarājā phussatiyā dasa vare adāsi, datvā ca pana ‘‘bhadde phussati, tava sabbe te samijjhantū’’ti vatvā anumodi. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๑๖๖๗.
1667.
‘‘อิทํ วตฺวาน มฆวา, เทวราชา สุชมฺปติ;
‘‘Idaṃ vatvāna maghavā, devarājā sujampati;
ผุสฺสติยา วรํ ทตฺวา, อนุโมทิตฺถ วาสโว’’ติฯ
Phussatiyā varaṃ datvā, anumodittha vāsavo’’ti.
ตตฺถ อนุโมทิตฺถาติ ‘‘สเพฺพ เต ลจฺฉสิ วเร’’ติ เอวํ วเร ทตฺวา ปมุทฺทิโต ตุฎฺฐมานโส อโหสีติ อโตฺถฯ
Tattha anumoditthāti ‘‘sabbe te lacchasi vare’’ti evaṃ vare datvā pamuddito tuṭṭhamānaso ahosīti attho.
ทสวรกถา นิฎฺฐิตาฯ
Dasavarakathā niṭṭhitā.
หิมวนฺตวณฺณนา
Himavantavaṇṇanā
อิติ สา วเร คเหตฺวา ตโต จุตา มทฺทรโญฺญ อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติฯ ชายมานา จ จนฺทนจุณฺณปริกิเณฺณน วิย สรีเรน ชาตาฯ เตนสฺสา นามคฺคหณทิวเส ‘‘ผุสฺสตี’’เตฺวว นามํ กริํสุฯ สา มหเนฺตน ปริวาเรน วฑฺฒิตฺวา โสฬสวสฺสกาเล อุตฺตมรูปธรา อโหสิฯ อถ นํ สิวิมหาราชา ปุตฺตสฺส สญฺชยกุมารสฺส อตฺถาย อาเนตฺวา ตสฺส ฉตฺตํ อุสฺสาเปตฺวา โสฬสนฺนํ อิตฺถิสหสฺสานํ เชฎฺฐิกํ กตฺวา อคฺคมเหสิฎฺฐาเน ฐเปสิฯ เตน วุตฺตํ –
Iti sā vare gahetvā tato cutā maddarañño aggamahesiyā kucchimhi nibbatti. Jāyamānā ca candanacuṇṇaparikiṇṇena viya sarīrena jātā. Tenassā nāmaggahaṇadivase ‘‘phussatī’’tveva nāmaṃ kariṃsu. Sā mahantena parivārena vaḍḍhitvā soḷasavassakāle uttamarūpadharā ahosi. Atha naṃ sivimahārājā puttassa sañjayakumārassa atthāya ānetvā tassa chattaṃ ussāpetvā soḷasannaṃ itthisahassānaṃ jeṭṭhikaṃ katvā aggamahesiṭṭhāne ṭhapesi. Tena vuttaṃ –
‘‘ตโต จุตา สา ผุสฺสตี, ฉตฺติเย อุปปชฺชถ;
‘‘Tato cutā sā phussatī, chattiye upapajjatha;
เชตุตฺตรมฺหิ นคเร, สญฺชเยน สมาคมี’’ติฯ
Jetuttaramhi nagare, sañjayena samāgamī’’ti.
สา สญฺชยสฺส ปิยา มนาปา อโหสิฯ อถ นํ สโกฺก อาวชฺชมาโน ‘‘มยา ผุสฺสติยา ทินฺนวเรสุ นว วรา สมิทฺธา’’ติ ทิสฺวา ‘‘เอโก ปน ปุตฺตวโร น ตาว สมิชฺฌติ, ตมฺปิสฺสา สมิชฺฌาเปสฺสามี’’ติ จิเนฺตสิฯ ตทา มหาสโตฺต ตาวติํสเทวโลเก วสติ, อายุ จสฺส ปริกฺขีณํ อโหสิฯ ตํ ญตฺวา สโกฺก ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘มาริส, ตยา มนุสฺสโลกํ คนฺตุํ วฎฺฎติ, ตตฺถ สิวิรโญฺญ อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ ปฎิสนฺธิํ คณฺหิตุํ วฎฺฎตี’’ติ วตฺวา ตสฺส เจว อเญฺญสญฺจ จวนธมฺมานํ สฎฺฐิสหสฺสานํ เทวปุตฺตานํ ปฎิญฺญํ คเหตฺวา สกฎฺฐานเมว คโตฯ มหาสโตฺตปิ ตโต จวิตฺวา ตตฺถุปปโนฺน, เสสเทวปุตฺตาปิ สฎฺฐิสหสฺสานํ อมจฺจานํ เคเหสุ นิพฺพตฺติํสุฯ มหาสเตฺต กุจฺฉิคเต ผุสฺสตี โทหฬินี หุตฺวา จตูสุ นครทฺวาเรสุ นครมเชฺฌ ราชนิเวสนทฺวาเร จาติ ฉสุ ฐาเนสุ ฉ ทานสาลาโย การาเปตฺวา เทวสิกํ ฉ สตสหสฺสานิ วิสฺสเชฺชตฺวา มหาทานํ ทาตุกามา อโหสิฯ
Sā sañjayassa piyā manāpā ahosi. Atha naṃ sakko āvajjamāno ‘‘mayā phussatiyā dinnavaresu nava varā samiddhā’’ti disvā ‘‘eko pana puttavaro na tāva samijjhati, tampissā samijjhāpessāmī’’ti cintesi. Tadā mahāsatto tāvatiṃsadevaloke vasati, āyu cassa parikkhīṇaṃ ahosi. Taṃ ñatvā sakko tassa santikaṃ gantvā ‘‘mārisa, tayā manussalokaṃ gantuṃ vaṭṭati, tattha sivirañño aggamahesiyā kucchimhi paṭisandhiṃ gaṇhituṃ vaṭṭatī’’ti vatvā tassa ceva aññesañca cavanadhammānaṃ saṭṭhisahassānaṃ devaputtānaṃ paṭiññaṃ gahetvā sakaṭṭhānameva gato. Mahāsattopi tato cavitvā tatthupapanno, sesadevaputtāpi saṭṭhisahassānaṃ amaccānaṃ gehesu nibbattiṃsu. Mahāsatte kucchigate phussatī dohaḷinī hutvā catūsu nagaradvāresu nagaramajjhe rājanivesanadvāre cāti chasu ṭhānesu cha dānasālāyo kārāpetvā devasikaṃ cha satasahassāni vissajjetvā mahādānaṃ dātukāmā ahosi.
ราชา ตสฺสา โทหฬํ สุตฺวา เนมิตฺตเก พฺราหฺมเณ ปโกฺกสาเปตฺวา ปุจฺฉิฯ เนมิตฺตกา – ‘‘มหาราช, เทวิยา กุจฺฉิมฺหิ ทานาภิรโต สโตฺต อุปฺปโนฺน, ทาเนน ติตฺติํ น คมิสฺสตี’’ติ วทิํสุฯ ตํ สุตฺวา ราชา ตุฎฺฐมานโส หุตฺวา ฉ ทานสาลาโย การาเปตฺวา วุตฺตปฺปการํ ทานํ ปฎฺฐเปสิฯ โพธิสตฺตสฺส ปฎิสนฺธิคฺคหณกาลโต ปฎฺฐาย รโญฺญ อายสฺส ปมาณํ นาม นาโหสิฯ ตสฺส ปุญฺญานุภาเวน สกลชมฺพุทีปราชาโน ปณฺณาการํ ปหิณิํสุฯ เทวี มหเนฺตน ปริวาเรน คพฺภํ ธาเรนฺตี ทสมาเส ปริปุเณฺณ นครํ ทฎฺฐุกามา หุตฺวา รโญฺญ อาโรเจสิฯ ราชา นครํ เทวนครํ วิย อลงฺการาเปตฺวา เทวิํ รถวรํ อาโรเปตฺวา นครํ ปทกฺขิณํ กาเรสิฯ ตสฺสา เวสฺสานํ วีถิยา เวมชฺฌํ สมฺปตฺตกาเล กมฺมชวาตา จลิํสุฯ อถ อมจฺจา รโญฺญ อาโรเจสุํฯ ตํ สุตฺวา เวสฺสวีถิยํเยว ตสฺสา สูติฆรํ การาเปตฺวา วาสํ คณฺหาเปสิฯ สา ตตฺถ ปุตฺตํ วิชายิฯ เตน วุตฺตํ –
Rājā tassā dohaḷaṃ sutvā nemittake brāhmaṇe pakkosāpetvā pucchi. Nemittakā – ‘‘mahārāja, deviyā kucchimhi dānābhirato satto uppanno, dānena tittiṃ na gamissatī’’ti vadiṃsu. Taṃ sutvā rājā tuṭṭhamānaso hutvā cha dānasālāyo kārāpetvā vuttappakāraṃ dānaṃ paṭṭhapesi. Bodhisattassa paṭisandhiggahaṇakālato paṭṭhāya rañño āyassa pamāṇaṃ nāma nāhosi. Tassa puññānubhāvena sakalajambudīparājāno paṇṇākāraṃ pahiṇiṃsu. Devī mahantena parivārena gabbhaṃ dhārentī dasamāse paripuṇṇe nagaraṃ daṭṭhukāmā hutvā rañño ārocesi. Rājā nagaraṃ devanagaraṃ viya alaṅkārāpetvā deviṃ rathavaraṃ āropetvā nagaraṃ padakkhiṇaṃ kāresi. Tassā vessānaṃ vīthiyā vemajjhaṃ sampattakāle kammajavātā caliṃsu. Atha amaccā rañño ārocesuṃ. Taṃ sutvā vessavīthiyaṃyeva tassā sūtigharaṃ kārāpetvā vāsaṃ gaṇhāpesi. Sā tattha puttaṃ vijāyi. Tena vuttaṃ –
‘‘ทส มาเส ธารยิตฺวาน, กโรนฺตี ปุรํ ปทกฺขิณํ;
‘‘Dasa māse dhārayitvāna, karontī puraṃ padakkhiṇaṃ;
เวสฺสานํ วีถิยา มเชฺฌ, ชเนสิ ผุสฺสตี มม’’นฺติฯ (จริยา. ๑.๗๖);
Vessānaṃ vīthiyā majjhe, janesi phussatī mama’’nti. (cariyā. 1.76);
มหาสโตฺต มาตุ กุจฺฉิโต นิกฺขโนฺตเยว วิสโท หุตฺวา อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา นิกฺขมิฯ นิกฺขโนฺตเยว จ มาตุ หตฺถํ ปสาเรตฺวา ‘‘อมฺม, ทานํ ทสฺสามิ, อตฺถิ กิญฺจิ เต ธน’’นฺติ อาหฯ อถสฺส มาตา ‘‘ตาต, ยถาอชฺฌาสเยน ทานํ เทหี’’ติ ปสาริตหเตฺถ สหสฺสตฺถวิกํ ฐเปสิฯ มหาสโตฺต หิ อุมงฺคชาตเก อิมสฺมิํ ชาตเก ปจฺฉิมตฺตภาเวติ ตีสุ ฐาเนสุ ชาตมเตฺตเยว มาตรา สทฺธิํ กเถสิฯ อถสฺส นามคฺคหณทิวเส เวสฺสวีถิยํ ชาตตฺตา ‘‘เวสฺสนฺตโร’’ติ นามํ กริํสุฯ
Mahāsatto mātu kucchito nikkhantoyeva visado hutvā akkhīni ummīletvā nikkhami. Nikkhantoyeva ca mātu hatthaṃ pasāretvā ‘‘amma, dānaṃ dassāmi, atthi kiñci te dhana’’nti āha. Athassa mātā ‘‘tāta, yathāajjhāsayena dānaṃ dehī’’ti pasāritahatthe sahassatthavikaṃ ṭhapesi. Mahāsatto hi umaṅgajātake imasmiṃ jātake pacchimattabhāveti tīsu ṭhānesu jātamatteyeva mātarā saddhiṃ kathesi. Athassa nāmaggahaṇadivase vessavīthiyaṃ jātattā ‘‘vessantaro’’ti nāmaṃ kariṃsu.
เตน วุตฺตํ –
Tena vuttaṃ –
‘‘น มยฺหํ มตฺติกํ นามํ, นปิ เปตฺติกสมฺภวํ;
‘‘Na mayhaṃ mattikaṃ nāmaṃ, napi pettikasambhavaṃ;
ชาโตมฺหิ เวสฺสวีถิยํ, ตสฺมา เวสฺสนฺตโร อหุ’’นฺติฯ (จริยา. ๑.๗๗);
Jātomhi vessavīthiyaṃ, tasmā vessantaro ahu’’nti. (cariyā. 1.77);
ชาตทิวเสเยว ปนสฺส เอกา อากาสจารินี กเรณุกา อภิมงฺคลสมฺมตํ สพฺพเสตํ หตฺถิโปตกํ อาเนตฺวา มงฺคลหตฺถิฎฺฐาเน ฐเปตฺวา ปกฺกามิฯ ตสฺส มหาสตฺตํ ปจฺจยํ กตฺวา อุปฺปนฺนตฺตา ‘‘ปจฺจโย’’เตฺวว นามํ กริํสุฯ ตํ ทิวสเมว อมจฺจเคเหสุ สฎฺฐิสหสฺสกุมารกา ชายิํสุฯ ราชา มหาสตฺตสฺส อติทีฆาทิโทเส วิวเชฺชตฺวา อลมฺพถนิโย มธุรขีราโย จตุสฎฺฐิ ธาติโย อุปฎฺฐาเปสิฯ เตน สทฺธิํ ชาตานญฺจ สฎฺฐิทารกสหสฺสานํ เอเกกา ธาติโย อุปฎฺฐาเปสิฯ โส สฎฺฐิสหเสฺสหิ ทารเกหิ สทฺธิํ มหเนฺตน ปริวาเรน วฑฺฒติฯ อถสฺส ราชา สตสหสฺสคฺฆนกํ กุมารปิฬนฺธนํ การาเปสิฯ โส จตุปฺปญฺจวสฺสิกกาเล ตํ โอมุญฺจิตฺวา ธาตีนํ ทตฺวา ปุน ตาหิ ทียมานมฺปิ น คณฺหิฯ ตา รโญฺญ อาโรจยิํสุฯ ราชา ตํ สุตฺวา ‘‘มม ปุเตฺตน ทินฺนํ พฺรหฺมเทยฺยเมว โหตู’’ติ อปรมฺปิ กาเรสิฯ กุมาโร ตมฺปิ อทาสิเยวฯ อิติ ทารกกาเลเยว ธาตีนํ นว วาเร ปิฬนฺธนํ อทาสิฯ
Jātadivaseyeva panassa ekā ākāsacārinī kareṇukā abhimaṅgalasammataṃ sabbasetaṃ hatthipotakaṃ ānetvā maṅgalahatthiṭṭhāne ṭhapetvā pakkāmi. Tassa mahāsattaṃ paccayaṃ katvā uppannattā ‘‘paccayo’’tveva nāmaṃ kariṃsu. Taṃ divasameva amaccagehesu saṭṭhisahassakumārakā jāyiṃsu. Rājā mahāsattassa atidīghādidose vivajjetvā alambathaniyo madhurakhīrāyo catusaṭṭhi dhātiyo upaṭṭhāpesi. Tena saddhiṃ jātānañca saṭṭhidārakasahassānaṃ ekekā dhātiyo upaṭṭhāpesi. So saṭṭhisahassehi dārakehi saddhiṃ mahantena parivārena vaḍḍhati. Athassa rājā satasahassagghanakaṃ kumārapiḷandhanaṃ kārāpesi. So catuppañcavassikakāle taṃ omuñcitvā dhātīnaṃ datvā puna tāhi dīyamānampi na gaṇhi. Tā rañño ārocayiṃsu. Rājā taṃ sutvā ‘‘mama puttena dinnaṃ brahmadeyyameva hotū’’ti aparampi kāresi. Kumāro tampi adāsiyeva. Iti dārakakāleyeva dhātīnaṃ nava vāre piḷandhanaṃ adāsi.
อฎฺฐวสฺสิกกาเล ปน ปาสาทวรคโต สิริสยนปิเฎฺฐ นิสิโนฺนว จิเนฺตสิ ‘‘อหํ พาหิรกทานเมว เทมิ, ตํ มํ น ปริโตเสติ, อชฺฌตฺติกทานํ ทาตุกาโมมฺหิ, สเจ มํ โกจิ สีสํ ยาเจยฺย, สีสํ ฉินฺทิตฺวา ตสฺส ทเทยฺยํฯ สเจปิ มํ โกจิ หทยํ ยาเจยฺย, อุรํ ภินฺทิตฺวา หทยํ นีหริตฺวา ทเทยฺยํฯ สเจ อกฺขีนิ ยาเจยฺย, อกฺขีนิ อุปฺปาเฎตฺวา ทเทยฺยํฯ สเจ สรีรมํสํ ยาเจยฺย, สกลสรีรโต มํสํ ฉินฺทิตฺวา ทเทยฺยํฯ สเจปิ มํ โกจิ รุธิรํ ยาเจยฺย, รุธิรํ คเหตฺวา ทเทยฺยํฯ อถ วาปิ โกจิ ‘ทาโส เม โหหี’ติ วเทยฺย, อตฺตานมสฺส สาเวตฺวา ทาสํ กตฺวา ทเทยฺย’’นฺติฯ ตเสฺสวํ สภาวํ จิเนฺตนฺตสฺส จตุนหุตาธิกทฺวิโยชนสตสหสฺสพหลา อยํ มหาปถวี มตฺตวรวารโณ วิย คชฺชมานา กมฺปิฯ สิเนรุปพฺพตราชา สุเสทิตเวตฺตงฺกุโร วิย โอนมิตฺวา เชตุตฺตรนคราภิมุโข อฎฺฐาสิฯ ปถวิสเทฺทน เทวา คชฺชโนฺต ขณิกวสฺสํ วสฺสิ, อกาลวิชฺชุลตา นิจฺฉริํสุ, สาคโร สงฺขุภิฯ สโกฺก เทวราชา อโปฺผเฎสิ, มหาพฺรหฺมา สาธุการมทาสิฯ ปถวิตลโต ปฎฺฐาย ยาว พฺรหฺมโลกา เอกโกลาหลํ อโหสิฯ
Aṭṭhavassikakāle pana pāsādavaragato sirisayanapiṭṭhe nisinnova cintesi ‘‘ahaṃ bāhirakadānameva demi, taṃ maṃ na paritoseti, ajjhattikadānaṃ dātukāmomhi, sace maṃ koci sīsaṃ yāceyya, sīsaṃ chinditvā tassa dadeyyaṃ. Sacepi maṃ koci hadayaṃ yāceyya, uraṃ bhinditvā hadayaṃ nīharitvā dadeyyaṃ. Sace akkhīni yāceyya, akkhīni uppāṭetvā dadeyyaṃ. Sace sarīramaṃsaṃ yāceyya, sakalasarīrato maṃsaṃ chinditvā dadeyyaṃ. Sacepi maṃ koci rudhiraṃ yāceyya, rudhiraṃ gahetvā dadeyyaṃ. Atha vāpi koci ‘dāso me hohī’ti vadeyya, attānamassa sāvetvā dāsaṃ katvā dadeyya’’nti. Tassevaṃ sabhāvaṃ cintentassa catunahutādhikadviyojanasatasahassabahalā ayaṃ mahāpathavī mattavaravāraṇo viya gajjamānā kampi. Sinerupabbatarājā suseditavettaṅkuro viya onamitvā jetuttaranagarābhimukho aṭṭhāsi. Pathavisaddena devā gajjanto khaṇikavassaṃ vassi, akālavijjulatā nicchariṃsu, sāgaro saṅkhubhi. Sakko devarājā apphoṭesi, mahābrahmā sādhukāramadāsi. Pathavitalato paṭṭhāya yāva brahmalokā ekakolāhalaṃ ahosi.
วุตฺตมฺปิ เจตํ –
Vuttampi cetaṃ –
‘‘ยทาหํ ทารโก โหมิ, ชาติยา อฎฺฐวสฺสิโก;
‘‘Yadāhaṃ dārako homi, jātiyā aṭṭhavassiko;
ตทา นิสชฺช ปาสาเท, ทานํ ทาตุํ วิจินฺตยิํฯ
Tadā nisajja pāsāde, dānaṃ dātuṃ vicintayiṃ.
‘‘หทยํ ทเทยฺยํ จกฺขุํ, มํสมฺปิ รุธิรมฺปิ จ;
‘‘Hadayaṃ dadeyyaṃ cakkhuṃ, maṃsampi rudhirampi ca;
ทเทยฺยํ กายํ สาเวตฺวา, ยทิ โกจิ ยาจเย มมํฯ
Dadeyyaṃ kāyaṃ sāvetvā, yadi koci yācaye mamaṃ.
‘‘สภาวํ จินฺตยนฺตสฺส, อกมฺปิตมสณฺฐิตํ;
‘‘Sabhāvaṃ cintayantassa, akampitamasaṇṭhitaṃ;
อกมฺปิ ตตฺถ ปถวี, สิเนรุวนวฎํสกา’’ติฯ (จริยา. ๑.๗๘-๘๐);
Akampi tattha pathavī, sineruvanavaṭaṃsakā’’ti. (cariyā. 1.78-80);
โพธิสโตฺต โสฬสวสฺสิกกาเลเยว สพฺพสิเปฺปสุ นิปฺผตฺติํ ปาปุณิฯ อถสฺส ปิตา รชฺชํ ทาตุกาโม มาตรา สทฺธิํ มเนฺตตฺวา มทฺทราชกุลโต มาตุลธีตรํ มทฺทิํ นาม ราชกญฺญํ อาเนตฺวา โสฬสนฺนํ อิตฺถิสหสฺสานํ เชฎฺฐิกํ อคฺคมเหสิํ กตฺวา มหาสตฺตํ รเชฺช อภิสิญฺจิฯ มหาสโตฺต รเชฺช ปติฎฺฐิตกาลโต ปฎฺฐาย เทวสิกํ ฉ สตสหสฺสานิ วิสฺสเชฺชโนฺต มหาทานํ ปวเตฺตสิฯ อปรภาเค มทฺทิเทวี ปุตฺตํ วิชายิฯ ตํ กญฺจนชาเลน สมฺปฎิจฺฉิํสุ, เตนสฺส ‘‘ชาลีกุมาโร’’เตฺวว นามํ กริํสุฯ ตสฺส ปทสา คมนกาเล ธีตรํ วิชายิฯ ตํ กณฺหาชิเนน สมฺปฎิจฺฉิํสุ, เตนสฺสา ‘‘กณฺหาชินา’’เตฺวว นามํ กริํสุฯ มหาสโตฺต มาสสฺส ฉกฺขตฺตุํ อลงฺกตหตฺถิกฺขนฺธวรคโต ฉ ทานสาลาโย โอโลเกสิฯ ตทา กาลิงฺครเฎฺฐ ทุพฺพุฎฺฐิกา อโหสิ, สสฺสานิ น สมฺปชฺชิํสุ, มนุสฺสานํ มหนฺตํ ฉาตภยํ ปวตฺติฯ มนุสฺสา ชีวิตุํ อสโกฺกนฺตาโจรกมฺมํ กโรนฺติฯ ทุพฺภิกฺขปีฬิตา ชานปทา ราชงฺคเณ สนฺนิปติตฺวา ราชานํ อุปโกฺกสิํสุ ฯ ตํ สุตฺวา รญฺญา ‘‘กิํ, ตาตา’’ติ วุเตฺต ตมตฺถํ อาโรจยิํสุฯ ราชา ‘‘สาธุ, ตาตา, เทวํ วสฺสาเปสฺสามี’’ติ เต อุโยฺยเชตฺวา สมาทินฺนสีโล อุโปสถวาสํ วสโนฺตปิ เทวํ วสฺสาเปตุํ นาสกฺขิฯ โส นาคเร สนฺนิปาเตตฺวา ‘‘อหํ สมาทินฺนสีโล สตฺตาหํ อุโปสถวาสํ วสโนฺตปิ เทวํ วสฺสาเปตุํ นาสกฺขิํ, กิํ นุ โข กาตพฺพ’’นฺติ ปุจฺฉิฯ สเจ, เทว, เทวํ วสฺสาเปตุํ น สโกฺกสิ, เอส เชตุตฺตรนคเร สญฺชยสฺส รโญฺญ ปุโตฺต เวสฺสนฺตโร นาม ทานาภิรโตฯ ตสฺสํ กิร สพฺพเสโต มงฺคลหตฺถี อตฺถิ, ตสฺส คตคตฎฺฐาเน เทโว วสฺสิฯ พฺราหฺมเณ เปเสตฺวา ตํ หตฺถิํ ยาจาเปตุํ วฎฺฎติ, อาณาเปถาติฯ
Bodhisatto soḷasavassikakāleyeva sabbasippesu nipphattiṃ pāpuṇi. Athassa pitā rajjaṃ dātukāmo mātarā saddhiṃ mantetvā maddarājakulato mātuladhītaraṃ maddiṃ nāma rājakaññaṃ ānetvā soḷasannaṃ itthisahassānaṃ jeṭṭhikaṃ aggamahesiṃ katvā mahāsattaṃ rajje abhisiñci. Mahāsatto rajje patiṭṭhitakālato paṭṭhāya devasikaṃ cha satasahassāni vissajjento mahādānaṃ pavattesi. Aparabhāge maddidevī puttaṃ vijāyi. Taṃ kañcanajālena sampaṭicchiṃsu, tenassa ‘‘jālīkumāro’’tveva nāmaṃ kariṃsu. Tassa padasā gamanakāle dhītaraṃ vijāyi. Taṃ kaṇhājinena sampaṭicchiṃsu, tenassā ‘‘kaṇhājinā’’tveva nāmaṃ kariṃsu. Mahāsatto māsassa chakkhattuṃ alaṅkatahatthikkhandhavaragato cha dānasālāyo olokesi. Tadā kāliṅgaraṭṭhe dubbuṭṭhikā ahosi, sassāni na sampajjiṃsu, manussānaṃ mahantaṃ chātabhayaṃ pavatti. Manussā jīvituṃ asakkontācorakammaṃ karonti. Dubbhikkhapīḷitā jānapadā rājaṅgaṇe sannipatitvā rājānaṃ upakkosiṃsu . Taṃ sutvā raññā ‘‘kiṃ, tātā’’ti vutte tamatthaṃ ārocayiṃsu. Rājā ‘‘sādhu, tātā, devaṃ vassāpessāmī’’ti te uyyojetvā samādinnasīlo uposathavāsaṃ vasantopi devaṃ vassāpetuṃ nāsakkhi. So nāgare sannipātetvā ‘‘ahaṃ samādinnasīlo sattāhaṃ uposathavāsaṃ vasantopi devaṃ vassāpetuṃ nāsakkhiṃ, kiṃ nu kho kātabba’’nti pucchi. Sace, deva, devaṃ vassāpetuṃ na sakkosi, esa jetuttaranagare sañjayassa rañño putto vessantaro nāma dānābhirato. Tassaṃ kira sabbaseto maṅgalahatthī atthi, tassa gatagataṭṭhāne devo vassi. Brāhmaṇe pesetvā taṃ hatthiṃ yācāpetuṃ vaṭṭati, āṇāpethāti.
โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฎิจฺฉิตฺวา พฺราหฺมเณ สนฺนิปาเตตฺวา เตสุ คุณวณฺณสมฺปเนฺน อฎฺฐ ชเน วิจินิตฺวา เตสํ ปริพฺพยํ ทตฺวา ‘‘คจฺฉถ, ตุเมฺห เวสฺสนฺตรํ หตฺถิํ ยาจิตฺวา อาเนถา’’ติ เปเสสิฯ พฺราหฺมณา อนุปุเพฺพน เชตุตฺตรนครํ คนฺตฺวา ทานเคฺค ภตฺตํ ปริภุญฺชิตฺวา อตฺตโน สรีรํ รโชปริกิณฺณํ ปํสุมกฺขิตํ กตฺวา ปุณฺณมทิวเส ราชานํ หตฺถิํ ยาจิตุกามา หุตฺวา รโญฺญ ทานคฺคํ อาคมนกาเล ปาจีนทฺวารํ อคมํสุฯ ราชาปิ ‘‘ทานคฺคํ โอโลเกสฺสามี’’ติ ปาโตว นฺหตฺวา นานคฺครสโภชนํ ภุญฺชิตฺวา อลงฺกริตฺวา อลงฺกตหตฺถิกฺขนฺธวรคโต ปาจีนทฺวารํ อคมาสิฯ พฺราหฺมณา ตโตฺถกาสํ อลภิตฺวา ทกฺขิณทฺวารํ คนฺตฺวา อุนฺนตปเทเส ฐตฺวา รโญฺญ ปาจีนทฺวาเร ทานคฺคํ โอโลเกตฺวา ทกฺขิณทฺวาราคมนกาเล หเตฺถ ปสาเรตฺวา ‘‘ชยตุ ภวํ เวสฺสนฺตโร’’ติ ติกฺขตฺตุํ อาหํสุฯ มหาสโตฺต เต พฺราหฺมเณ ทิสฺวา หตฺถิํ เตสํ ฐิตฎฺฐานํ เปเสตฺวา หตฺถิกฺขเนฺธ นิสิโนฺน ปฐมํ คาถมาห –
So ‘‘sādhū’’ti sampaṭicchitvā brāhmaṇe sannipātetvā tesu guṇavaṇṇasampanne aṭṭha jane vicinitvā tesaṃ paribbayaṃ datvā ‘‘gacchatha, tumhe vessantaraṃ hatthiṃ yācitvā ānethā’’ti pesesi. Brāhmaṇā anupubbena jetuttaranagaraṃ gantvā dānagge bhattaṃ paribhuñjitvā attano sarīraṃ rajoparikiṇṇaṃ paṃsumakkhitaṃ katvā puṇṇamadivase rājānaṃ hatthiṃ yācitukāmā hutvā rañño dānaggaṃ āgamanakāle pācīnadvāraṃ agamaṃsu. Rājāpi ‘‘dānaggaṃ olokessāmī’’ti pātova nhatvā nānaggarasabhojanaṃ bhuñjitvā alaṅkaritvā alaṅkatahatthikkhandhavaragato pācīnadvāraṃ agamāsi. Brāhmaṇā tatthokāsaṃ alabhitvā dakkhiṇadvāraṃ gantvā unnatapadese ṭhatvā rañño pācīnadvāre dānaggaṃ oloketvā dakkhiṇadvārāgamanakāle hatthe pasāretvā ‘‘jayatu bhavaṃ vessantaro’’ti tikkhattuṃ āhaṃsu. Mahāsatto te brāhmaṇe disvā hatthiṃ tesaṃ ṭhitaṭṭhānaṃ pesetvā hatthikkhandhe nisinno paṭhamaṃ gāthamāha –
๑๖๖๘.
1668.
‘‘ปรูฬฺหกจฺฉนขโลมา , ปงฺกทนฺตา รชสฺสิรา;
‘‘Parūḷhakacchanakhalomā , paṅkadantā rajassirā;
ปคฺคยฺห ทกฺขิณํ พาหุํ, กิํ มํ ยาจนฺติ พฺราหฺมณา’’ติฯ
Paggayha dakkhiṇaṃ bāhuṃ, kiṃ maṃ yācanti brāhmaṇā’’ti.
พฺราหฺมณา อาหํสุ –
Brāhmaṇā āhaṃsu –
๑๖๖๙.
1669.
‘‘รตนํ เทว ยาจาม, สิวีนํ รฎฺฐวฑฺฒน;
‘‘Ratanaṃ deva yācāma, sivīnaṃ raṭṭhavaḍḍhana;
ททาหิ ปวรํ นาคํ, อีสาทนฺตํ อุรูฬฺหว’’นฺติฯ
Dadāhi pavaraṃ nāgaṃ, īsādantaṃ urūḷhava’’nti.
ตตฺถ อุรูฬฺหวนฺติ อุพฺพาหนสมตฺถํฯ
Tattha urūḷhavanti ubbāhanasamatthaṃ.
ตํ สุตฺวา มหาสโตฺต ‘‘อหํ สีสํ อาทิํ กตฺวา อชฺฌตฺติกทานํ ทาตุกาโมมฺหิ, อิเม ปน มํ พาหิรกทานเมว ยาจนฺติ, ปูเรสฺสามิ เตสํ มโนรถ’’นฺติ จิเนฺตตฺวา หตฺถิกฺขนฺธวรคโต ตติยํ คาถมาห –
Taṃ sutvā mahāsatto ‘‘ahaṃ sīsaṃ ādiṃ katvā ajjhattikadānaṃ dātukāmomhi, ime pana maṃ bāhirakadānameva yācanti, pūressāmi tesaṃ manoratha’’nti cintetvā hatthikkhandhavaragato tatiyaṃ gāthamāha –
๑๖๗๐.
1670.
‘‘ททามิ น วิกมฺปามิ, ยํ มํ ยาจนฺติ พฺราหฺมณา;
‘‘Dadāmi na vikampāmi, yaṃ maṃ yācanti brāhmaṇā;
ปภินฺนํ กุญฺชรํ ทนฺติํ, โอปวยฺหํ คชุตฺตม’’นฺติฯ
Pabhinnaṃ kuñjaraṃ dantiṃ, opavayhaṃ gajuttama’’nti.
ปฎิชานิตฺวา จ ปน –
Paṭijānitvā ca pana –
๑๖๗๑.
1671.
‘‘หตฺถิกฺขนฺธโต โอรุยฺห, ราชา จาคาธิมานโส;
‘‘Hatthikkhandhato oruyha, rājā cāgādhimānaso;
พฺราหฺมณานํ อทา ทานํ, สิวีนํ รฎฺฐวฑฺฒโน’’ติฯ
Brāhmaṇānaṃ adā dānaṃ, sivīnaṃ raṭṭhavaḍḍhano’’ti.
ตตฺถ โอปวยฺหนฺติ ราชวาหนํฯ จาคาธิมานโสติ จาเคน อธิกมานโส ราชาฯ พฺราหฺมณานํ อทา ทานนฺติ โส วารณสฺส อนลงฺกตฎฺฐานํ โอโลกนตฺถํ ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา อนลงฺกตฎฺฐานํ อทิสฺวา กุสุมมิสฺสกสุคโนฺธทกปูริตํ สุวณฺณภิงฺคารํ คเหตฺวา ‘‘อิโต เอถา’’ติ วตฺวา อลงฺกตรชตทามสทิสํ หตฺถิโสณฺฑํ คเหตฺวา เตสํ หเตฺถ ฐเปตฺวา อุทกํ ปาเตตฺวา อลงฺกตวารณํ พฺราหฺมณานํ อทาสิฯ
Tattha opavayhanti rājavāhanaṃ. Cāgādhimānasoti cāgena adhikamānaso rājā. Brāhmaṇānaṃ adā dānanti so vāraṇassa analaṅkataṭṭhānaṃ olokanatthaṃ tikkhattuṃ padakkhiṇaṃ katvā analaṅkataṭṭhānaṃ adisvā kusumamissakasugandhodakapūritaṃ suvaṇṇabhiṅgāraṃ gahetvā ‘‘ito ethā’’ti vatvā alaṅkatarajatadāmasadisaṃ hatthisoṇḍaṃ gahetvā tesaṃ hatthe ṭhapetvā udakaṃ pātetvā alaṅkatavāraṇaṃ brāhmaṇānaṃ adāsi.
ตสฺส จตูสุ ปาเทสุ อลงฺกาโร จตฺตาริ สตสหสฺสานิ อคฺฆติ, อุโภสุ ปเสฺสสุ อลงฺกาโร เทฺว สตสหสฺสานิ, เหฎฺฐา อุทเร กมฺพลํ สตสหสฺสํ, ปิฎฺฐิยํ มุตฺตชาลํ มณิชาลํ กญฺจนชาลนฺติ ตีณิ ชาลานิ ตีณิ สตสหสฺสานิ, อุโภสุ กเณฺณสุ อลงฺกาโร เทฺว สตสหสฺสานิ, ปิฎฺฐิยํ อตฺถรณกมฺพลํ สตสหสฺสํ, กุมฺภาลงฺกาโร สตสหสฺสํ, ตโย วฎํสกา ตีณิ สตสหสฺสานิ, กณฺณจูฬาลงฺกาโร เทฺว สตสหสฺสานิ, ทฺวินฺนํ ทนฺตานํ อลงฺกาโร เทฺว สตสหสฺสานิ, โสณฺฑาย โสวตฺถิกาลงฺกาโร สตสหสฺสํ, นงฺคุฎฺฐาลงฺกาโร สตสหสฺสํ, อาโรหณนิเสฺสณิ สตสหสฺสํ, ภุญฺชนกฎาหํ สตสหสฺสํ, ฐเปตฺวา อนคฺฆํ ภณฺฑํ กายารุฬฺหปสาธนํ ทฺวาวีสติ สตสหสฺสานิ ฯ เอวํ ตาว เอตฺตกํ ธนํ จตุวีสติสตสหสฺสานิ อคฺฆติฯ ฉตฺตปิณฺฑิยํ ปน มณิ, จูฬามณิ, มุตฺตาหาเร มณิ, องฺกุเส มณิ, หตฺถิกเณฺฐ เวฐนมุตฺตาหาเร มณิ, หตฺถิกุเมฺภ มณีติ อิมานิ ฉ อนคฺฆานิ, หตฺถีปิ อนโคฺฆเยวาติ หตฺถินา สทฺธิํ สตฺต อนคฺฆานีติ สพฺพานิ ตานิ พฺราหฺมณานํ อทาสิฯ ตถา หตฺถิโน ปริจารกานิ ปญฺจ กุลสตานิ หตฺถิเมณฺฑหตฺถิโคปเกหิ สทฺธิํ อทาสิฯ สห ทาเนเนวสฺส เหฎฺฐา วุตฺตนเยเนว ภูมิกมฺปาทโย อเหสุํฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Tassa catūsu pādesu alaṅkāro cattāri satasahassāni agghati, ubhosu passesu alaṅkāro dve satasahassāni, heṭṭhā udare kambalaṃ satasahassaṃ, piṭṭhiyaṃ muttajālaṃ maṇijālaṃ kañcanajālanti tīṇi jālāni tīṇi satasahassāni, ubhosu kaṇṇesu alaṅkāro dve satasahassāni, piṭṭhiyaṃ attharaṇakambalaṃ satasahassaṃ, kumbhālaṅkāro satasahassaṃ, tayo vaṭaṃsakā tīṇi satasahassāni, kaṇṇacūḷālaṅkāro dve satasahassāni, dvinnaṃ dantānaṃ alaṅkāro dve satasahassāni, soṇḍāya sovatthikālaṅkāro satasahassaṃ, naṅguṭṭhālaṅkāro satasahassaṃ, ārohaṇanisseṇi satasahassaṃ, bhuñjanakaṭāhaṃ satasahassaṃ, ṭhapetvā anagghaṃ bhaṇḍaṃ kāyāruḷhapasādhanaṃ dvāvīsati satasahassāni . Evaṃ tāva ettakaṃ dhanaṃ catuvīsatisatasahassāni agghati. Chattapiṇḍiyaṃ pana maṇi, cūḷāmaṇi, muttāhāre maṇi, aṅkuse maṇi, hatthikaṇṭhe veṭhanamuttāhāre maṇi, hatthikumbhe maṇīti imāni cha anagghāni, hatthīpi anagghoyevāti hatthinā saddhiṃ satta anagghānīti sabbāni tāni brāhmaṇānaṃ adāsi. Tathā hatthino paricārakāni pañca kulasatāni hatthimeṇḍahatthigopakehi saddhiṃ adāsi. Saha dānenevassa heṭṭhā vuttanayeneva bhūmikampādayo ahesuṃ. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๑๖๗๒.
1672.
‘‘ตทาสิ ยํ ภิํสนกํ, ตทาสิ โลมหํสนํ;
‘‘Tadāsi yaṃ bhiṃsanakaṃ, tadāsi lomahaṃsanaṃ;
หตฺถินาเค ปทินฺนมฺหิ, เมทนี สมฺปกมฺปถฯ
Hatthināge padinnamhi, medanī sampakampatha.
๑๖๗๓.
1673.
‘‘ตทาสิ ยํ ภิํสนกํ, ตทาสิ โลมหํสนํ;
‘‘Tadāsi yaṃ bhiṃsanakaṃ, tadāsi lomahaṃsanaṃ;
หตฺถินาเค ปทินฺนมฺหิ, ขุภิตฺถ นครํ ตทาฯ
Hatthināge padinnamhi, khubhittha nagaraṃ tadā.
๑๖๗๔.
1674.
‘‘สมากุลํ ปุรํ อาสิ, โฆโส จ วิปุโล มหา;
‘‘Samākulaṃ puraṃ āsi, ghoso ca vipulo mahā;
หตฺถินาเค ปทินฺนมฺหิ, สิวีนํ รฎฺฐวฑฺฒเน’’ติฯ
Hatthināge padinnamhi, sivīnaṃ raṭṭhavaḍḍhane’’ti.
ตตฺถ ตทาสีติ ตทา อาสิฯ หตฺถินาเคติ หตฺถิสงฺขาเต นาเคฯ ขุภิตฺถ นครํ ตทาติ ตทา เชตุตฺตรนครํ สงฺขุภิตํ อโหสิฯ
Tattha tadāsīti tadā āsi. Hatthināgeti hatthisaṅkhāte nāge. Khubhittha nagaraṃ tadāti tadā jetuttaranagaraṃ saṅkhubhitaṃ ahosi.
พฺราหฺมณา กิร ทกฺขิณทฺวาเร หตฺถิํ ลภิตฺวา หตฺถิปิเฎฺฐ นิสีทิตฺวา มหาชนปริวารา นครมเชฺฌน ปายิํสุฯ มหาชโน เต ทิสฺวา ‘‘อโมฺภ พฺราหฺมณา, อมฺหากํ หตฺถิํ อารุฬฺหา กุโต โว หตฺถี ลทฺธา’’ติ อาหฯ พฺราหฺมณา ‘‘เวสฺสนฺตรมหาราเชน โน หตฺถี ทิโนฺน, เก ตุเมฺห’’ติ มหาชนํ หตฺถวิการาทีหิ ฆเฎฺฎนฺตา นครมเชฺฌน คนฺตฺวา อุตฺตรทฺวาเรน นิกฺขมิํสุฯ นาครา เทวตาวฎฺฎเนน โพธิสตฺตสฺส กุทฺธา ราชทฺวาเร สนฺนิปติตฺวา มหนฺตํ อุปโกฺกสมกํสุฯ เตน วุตฺตํ –
Brāhmaṇā kira dakkhiṇadvāre hatthiṃ labhitvā hatthipiṭṭhe nisīditvā mahājanaparivārā nagaramajjhena pāyiṃsu. Mahājano te disvā ‘‘ambho brāhmaṇā, amhākaṃ hatthiṃ āruḷhā kuto vo hatthī laddhā’’ti āha. Brāhmaṇā ‘‘vessantaramahārājena no hatthī dinno, ke tumhe’’ti mahājanaṃ hatthavikārādīhi ghaṭṭentā nagaramajjhena gantvā uttaradvārena nikkhamiṃsu. Nāgarā devatāvaṭṭanena bodhisattassa kuddhā rājadvāre sannipatitvā mahantaṃ upakkosamakaṃsu. Tena vuttaṃ –
‘‘สมากุลํ ปุรํ อาสิ, โฆโส จ วิปุโล มหา;
‘‘Samākulaṃ puraṃ āsi, ghoso ca vipulo mahā;
หตฺถินาเค ปทินฺนมฺหิ, สิวีนํ รฎฺฐวฑฺฒเนฯ
Hatthināge padinnamhi, sivīnaṃ raṭṭhavaḍḍhane.
‘‘อเถตฺถ วตฺตติ สโทฺท, ตุมุโล เภรโว มหา;
‘‘Athettha vattati saddo, tumulo bheravo mahā;
หตฺถินาเค ปทินฺนมฺหิ, ขุภิตฺถ นครํ ตทาฯ
Hatthināge padinnamhi, khubhittha nagaraṃ tadā.
‘‘อเถตฺถ วตฺตติ สโทฺท, ตุมุโล เภรโว มหา;
‘‘Athettha vattati saddo, tumulo bheravo mahā;
หตฺถินาเค ปทินฺนมฺหิ, สิวีนํ รฎฺฐวฑฺฒเน’’ติฯ
Hatthināge padinnamhi, sivīnaṃ raṭṭhavaḍḍhane’’ti.
ตตฺถ โฆโสติ อุปโกฺกสนสโทฺท ปตฺถฎตฺตา วิปุโล, อุทฺธํ คตตฺตา มหาฯ สิวีนํ รฎฺฐวฑฺฒเนติ สิวิรฎฺฐสฺส วุทฺธิกเรฯ
Tattha ghosoti upakkosanasaddo patthaṭattā vipulo, uddhaṃ gatattā mahā. Sivīnaṃ raṭṭhavaḍḍhaneti siviraṭṭhassa vuddhikare.
อถสฺส ทาเนน สงฺขุภิตจิตฺตา หุตฺวา นครวาสิโน รโญฺญ อาโรเจสุํฯ เตน วุตฺตํ –
Athassa dānena saṅkhubhitacittā hutvā nagaravāsino rañño ārocesuṃ. Tena vuttaṃ –
๑๖๗๕.
1675.
‘‘อุคฺคา จ ราชปุตฺตา จ, เวสิยานา จ พฺราหฺมณา;
‘‘Uggā ca rājaputtā ca, vesiyānā ca brāhmaṇā;
หตฺถาโรหา อนีกฎฺฐา, รถิกา ปตฺติการกาฯ
Hatthārohā anīkaṭṭhā, rathikā pattikārakā.
๑๖๗๖.
1676.
‘‘เกวโล จาปิ นิคโม, สิวโย จ สมาคตา;
‘‘Kevalo cāpi nigamo, sivayo ca samāgatā;
ทิสฺวา นาคํ นียมานํ, เต รโญฺญ ปฎิเวทยุํฯ
Disvā nāgaṃ nīyamānaṃ, te rañño paṭivedayuṃ.
๑๖๗๗.
1677.
‘‘วิธมํ เทว เต รฎฺฐํ, ปุโตฺต เวสฺสนฺตโร ตว;
‘‘Vidhamaṃ deva te raṭṭhaṃ, putto vessantaro tava;
กถํ โน หตฺถินํ ทชฺชา, นาคํ รฎฺฐสฺส ปูชิตํฯ
Kathaṃ no hatthinaṃ dajjā, nāgaṃ raṭṭhassa pūjitaṃ.
๑๖๗๘.
1678.
‘‘กถํ โน กุญฺชรํ ทชฺชา, อีสาทนฺตํ อุรูฬฺหวํ;
‘‘Kathaṃ no kuñjaraṃ dajjā, īsādantaṃ urūḷhavaṃ;
เขตฺตญฺญุํ สพฺพยุทฺธานํ, สพฺพเสตํ คชุตฺตมํฯ
Khettaññuṃ sabbayuddhānaṃ, sabbasetaṃ gajuttamaṃ.
๑๖๗๙.
1679.
‘‘ปณฺฑุกมฺพลสญฺฉนฺนํ, ปภินฺนํ สตฺตุมทฺทนํ;
‘‘Paṇḍukambalasañchannaṃ, pabhinnaṃ sattumaddanaṃ;
ทนฺติํ สวาลพีชนิํ, เสตํ เกลาสสาทิสํฯ
Dantiṃ savālabījaniṃ, setaṃ kelāsasādisaṃ.
๑๖๘๐.
1680.
‘‘สเสตจฺฉตฺตํ สอุปาเธยฺยํ, สาถพฺพนํ สหตฺถิปํ;
‘‘Sasetacchattaṃ saupādheyyaṃ, sāthabbanaṃ sahatthipaṃ;
อคฺคยานํ ราชวาหิํ, พฺราหฺมณานํ อทา คช’’นฺติฯ
Aggayānaṃ rājavāhiṃ, brāhmaṇānaṃ adā gaja’’nti.
ตตฺถ อุคฺคาติ อุคฺคตา ปญฺญาตาฯ นิคโมติ เนคมกุฎุมฺพิกชโนฯ วิธมํ เทว เต รฎฺฐนฺติ เทว, ตว รฎฺฐํ วิธมํฯ กถํ โน หตฺถินํ ทชฺชาติ เกน การเณน อมฺหากํ หตฺถินํ อภิมงฺคลสมฺมตํ กาลิงฺครฎฺฐวาสีนํ พฺราหฺมณานํ ทเทยฺยฯ เขตฺตญฺญุํ สพฺพยุทฺธานนฺติ สพฺพยุทฺธานํ เขตฺตภูมิสีสชานนสมตฺถํฯ ทนฺตินฺติ มโนรมทนฺตยุตฺตํฯ สวาลพีชนินฺติ สหวาลพีชนิํฯ สอุปาเธยฺยนฺติ สอตฺถรณํฯ สาถพฺพนนฺติ สหตฺถิเวชฺชํฯ สหตฺถิปนฺติ หตฺถิปริจารกานํ ปญฺจนฺนํ กุลสตานํ หตฺถิเมณฺฑหตฺถิโคปกานญฺจ วเสน สหตฺถิปํฯ
Tattha uggāti uggatā paññātā. Nigamoti negamakuṭumbikajano. Vidhamaṃ deva te raṭṭhanti deva, tava raṭṭhaṃ vidhamaṃ. Kathaṃ no hatthinaṃ dajjāti kena kāraṇena amhākaṃ hatthinaṃ abhimaṅgalasammataṃ kāliṅgaraṭṭhavāsīnaṃ brāhmaṇānaṃ dadeyya. Khettaññuṃ sabbayuddhānanti sabbayuddhānaṃ khettabhūmisīsajānanasamatthaṃ. Dantinti manoramadantayuttaṃ. Savālabījaninti sahavālabījaniṃ. Saupādheyyanti saattharaṇaṃ. Sāthabbananti sahatthivejjaṃ. Sahatthipanti hatthiparicārakānaṃ pañcannaṃ kulasatānaṃ hatthimeṇḍahatthigopakānañca vasena sahatthipaṃ.
เอวญฺจ ปน วตฺวา ปุนปิ อาหํสุ –
Evañca pana vatvā punapi āhaṃsu –
๑๖๘๑.
1681.
‘‘อนฺนํ ปานญฺจ โย ทชฺชา, วตฺถเสนาสนานิ จ;
‘‘Annaṃ pānañca yo dajjā, vatthasenāsanāni ca;
เอตํ โข ทานํ ปติรูปํ, เอตํ โข พฺราหฺมณารหํฯ
Etaṃ kho dānaṃ patirūpaṃ, etaṃ kho brāhmaṇārahaṃ.
๑๖๘๒.
1682.
‘‘อยํ เต วํสราชา โน, สิวีนํ รฎฺฐวฑฺฒโน;
‘‘Ayaṃ te vaṃsarājā no, sivīnaṃ raṭṭhavaḍḍhano;
กถํ เวสฺสนฺตโร ปุโตฺต, คชํ ภาเชติ สญฺชยฯ
Kathaṃ vessantaro putto, gajaṃ bhājeti sañjaya.
๑๖๘๓.
1683.
‘‘สเจ ตฺวํ น กริสฺสสิ, สิวีนํ วจนํ อิทํ;
‘‘Sace tvaṃ na karissasi, sivīnaṃ vacanaṃ idaṃ;
มเญฺญ ตํ สห ปุเตฺตน, สิวี หเตฺถ กริสฺสเร’’ติฯ
Maññe taṃ saha puttena, sivī hatthe karissare’’ti.
ตตฺถ วํสราชาติ ปเวณิยา อาคโต มหาราชาฯ ภาเชตีติ เทติฯ สิวี หเตฺถ กริสฺสเรติ สิวิรฎฺฐวาสิโน สห ปุเตฺตน ตํ อตฺตโน หเตฺถ กริสฺสนฺตีติฯ
Tattha vaṃsarājāti paveṇiyā āgato mahārājā. Bhājetīti deti. Sivī hatthe karissareti siviraṭṭhavāsino saha puttena taṃ attano hatthe karissantīti.
ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘เอเต เวสฺสนฺตรํ มาราเปตุํ อิจฺฉนฺตี’’ติ สญฺญาย อาห –
Taṃ sutvā rājā ‘‘ete vessantaraṃ mārāpetuṃ icchantī’’ti saññāya āha –
๑๖๘๔.
1684.
‘‘กามํ ชนปโท มาสิ, รฎฺฐญฺจาปิ วินสฺสตุ;
‘‘Kāmaṃ janapado māsi, raṭṭhañcāpi vinassatu;
นาหํ สิวีนํ วจนา, ราชปุตฺตํ อทูสกํ;
Nāhaṃ sivīnaṃ vacanā, rājaputtaṃ adūsakaṃ;
ปพฺพาเชยฺยํ สกา รฎฺฐา, ปุโตฺต หิ มม โอรโสฯ
Pabbājeyyaṃ sakā raṭṭhā, putto hi mama oraso.
๑๖๘๕.
1685.
‘‘กามํ ชนปโท มาสิ, รฎฺฐญฺจาปิ วินสฺสตุ;
‘‘Kāmaṃ janapado māsi, raṭṭhañcāpi vinassatu;
นาหํ สิวีนํ วจนา, ราชปุตฺตํ อทูสกํ;
Nāhaṃ sivīnaṃ vacanā, rājaputtaṃ adūsakaṃ;
ปพฺพาเชยฺยํ สกา รฎฺฐา, ปุโตฺต หิ มม อตฺรโชฯ
Pabbājeyyaṃ sakā raṭṭhā, putto hi mama atrajo.
๑๖๘๖.
1686.
‘‘น จาหํ ตสฺมิํ ทุเพฺภยฺยํ, อริยสีลวโต หิ โส;
‘‘Na cāhaṃ tasmiṃ dubbheyyaṃ, ariyasīlavato hi so;
อสิโลโกปิ เม อสฺส, ปาปญฺจ ปสเว พหุํ;
Asilokopi me assa, pāpañca pasave bahuṃ;
กถํ เวสฺสนฺตรํ ปุตฺตํ, สเตฺถน ฆาตยามเส’’ติฯ
Kathaṃ vessantaraṃ puttaṃ, satthena ghātayāmase’’ti.
ตตฺถ มาสีติ มา อาสิ, มา โหตูติ อโตฺถฯ อริยสีลวโตติ อริเยน สีลวเตน อริยาย จ อาจารสมฺปตฺติยา สมนฺนาคโตฯ ฆาตยามเสติ ฆาตยิสฺสามฯ
Tattha māsīti mā āsi, mā hotūti attho. Ariyasīlavatoti ariyena sīlavatena ariyāya ca ācārasampattiyā samannāgato. Ghātayāmaseti ghātayissāma.
ตํ สุตฺวา สิวโย อโวจุํ –
Taṃ sutvā sivayo avocuṃ –
๑๖๘๗.
1687.
‘‘มา นํ ทเณฺฑน สเตฺถน, น หิ โส พนฺธนารโห;
‘‘Mā naṃ daṇḍena satthena, na hi so bandhanāraho;
ปพฺพาเชหิ จ นํ รฎฺฐา, วเงฺก วสตุ ปพฺพเต’’ติฯ
Pabbājehi ca naṃ raṭṭhā, vaṅke vasatu pabbate’’ti.
ตตฺถ มา นํ ทเณฺฑน สเตฺถนาติ เทว, ตุเมฺห ตํ ทเณฺฑน วา สเตฺถน วา มา ฆาตยิตฺถฯ น หิ โส พนฺธนารโหติ โส พนฺธนารโหปิ น โหติเยวฯ
Tattha mā naṃ daṇḍena satthenāti deva, tumhe taṃ daṇḍena vā satthena vā mā ghātayittha. Na hi so bandhanārahoti so bandhanārahopi na hotiyeva.
ราชา อาห –
Rājā āha –
๑๖๘๘.
1688.
‘‘เอโส เจ สิวีนํ ฉโนฺท, ฉนฺทํ น ปนุทามเส;
‘‘Eso ce sivīnaṃ chando, chandaṃ na panudāmase;
อิมํ โส วสตุ รตฺติํ, กาเม จ ปริภุญฺชตุฯ
Imaṃ so vasatu rattiṃ, kāme ca paribhuñjatu.
๑๖๘๙.
1689.
‘‘ตโต รตฺยา วิวสาเน, สูริยสฺสุคฺคมนํ ปติ;
‘‘Tato ratyā vivasāne, sūriyassuggamanaṃ pati;
สมคฺคา สิวโย หุตฺวา, รฎฺฐา ปพฺพาชยนฺตุ น’’นฺติฯ
Samaggā sivayo hutvā, raṭṭhā pabbājayantu na’’nti.
ตตฺถ วสตูติ ปุตฺตทารสฺส โอวาทํ ททมาโน วสตุ, เอกรตฺติญฺจสฺส โอกาสํ เทถาติ วทติฯ
Tattha vasatūti puttadārassa ovādaṃ dadamāno vasatu, ekarattiñcassa okāsaṃ dethāti vadati.
เต ‘‘เอกรตฺติมตฺตํ วสตู’’ติ รโญฺญ วจนํ สมฺปฎิจฺฉิํสุฯ อถ ราชา เน อุโยฺยเชตฺวา ปุตฺตสฺส สาสนํ เปเสโนฺต กตฺตารํ อามเนฺตตฺวา ตสฺส สนฺติกํ เปเสสิฯ โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฎิจฺฉิตฺวา เวสฺสนฺตรสฺส นิเวสนํ คนฺตฺวา ตํ ปวตฺติํ อาโรเจสิฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Te ‘‘ekarattimattaṃ vasatū’’ti rañño vacanaṃ sampaṭicchiṃsu. Atha rājā ne uyyojetvā puttassa sāsanaṃ pesento kattāraṃ āmantetvā tassa santikaṃ pesesi. So ‘‘sādhū’’ti sampaṭicchitvā vessantarassa nivesanaṃ gantvā taṃ pavattiṃ ārocesi. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๑๖๙๐.
1690.
‘‘อุเฎฺฐหิ กเตฺต ตรมาโน, คนฺตฺวา เวสฺสนฺตรํ วท;
‘‘Uṭṭhehi katte taramāno, gantvā vessantaraṃ vada;
‘สิวโย เทว เต กุทฺธา, เนคมา จ สมาคตาฯ
‘Sivayo deva te kuddhā, negamā ca samāgatā.
๑๖๙๑.
1691.
‘‘อุคฺคา จ ราชปุตฺตา จ, เวสิยานา จ พฺราหฺมณา;
‘‘Uggā ca rājaputtā ca, vesiyānā ca brāhmaṇā;
หตฺถาโรหา อนีกฎฺฐา, รถิกา ปตฺติการกา;
Hatthārohā anīkaṭṭhā, rathikā pattikārakā;
เกวโล จาปิ นิคโม, สิวโย จ สมาคตาฯ
Kevalo cāpi nigamo, sivayo ca samāgatā.
๑๖๙๒.
1692.
‘‘อสฺมา รตฺยา วิวสาเน, สูริยสฺสุคฺคมนํ ปติ;
‘‘Asmā ratyā vivasāne, sūriyassuggamanaṃ pati;
สมคฺคา สิวโย หุตฺวา, รฎฺฐา ปพฺพาชยนฺติ ตํ’ฯ
Samaggā sivayo hutvā, raṭṭhā pabbājayanti taṃ’.
๑๖๙๓.
1693.
‘‘ส กตฺตา ตรมาโนว, สิวิราเชน เปสิโต;
‘‘Sa kattā taramānova, sivirājena pesito;
อามุตฺตหตฺถาภรโณ, สุวโตฺถ จนฺทนภูสิโตฯ
Āmuttahatthābharaṇo, suvattho candanabhūsito.
๑๖๙๔.
1694.
‘‘สีสํ นฺหาโต อุทเก โส, อามุตฺตมณิกุณฺฑโล;
‘‘Sīsaṃ nhāto udake so, āmuttamaṇikuṇḍalo;
อุปาคมิ ปุรํ รมฺมํ, เวสฺสนฺตรนิเวสนํฯ
Upāgami puraṃ rammaṃ, vessantaranivesanaṃ.
๑๖๙๕.
1695.
‘‘ตตฺถทฺทส กุมารํ โส, รมมานํ สเก ปุเร;
‘‘Tatthaddasa kumāraṃ so, ramamānaṃ sake pure;
ปริกิณฺณํ อมเจฺจหิ, ติทสานํว วาสวํฯ
Parikiṇṇaṃ amaccehi, tidasānaṃva vāsavaṃ.
๑๖๙๖.
1696.
‘‘โส ตตฺถ คนฺตฺวา ตรมาโน, กตฺตา เวสฺสนฺตรํพฺรวิ;
‘‘So tattha gantvā taramāno, kattā vessantaraṃbravi;
‘ทุกฺขํ เต เวทยิสฺสามิ, มา เม กุชฺฌิ รเถสภ’ฯ
‘Dukkhaṃ te vedayissāmi, mā me kujjhi rathesabha’.
๑๖๙๗.
1697.
‘‘วนฺทิตฺวา โรทมาโน โส, กตฺตา ราชานมพฺรวิ;
‘‘Vanditvā rodamāno so, kattā rājānamabravi;
ภตฺตา เมสิ มหาราช, สพฺพกามรสาหโรฯ
Bhattā mesi mahārāja, sabbakāmarasāharo.
๑๖๙๘.
1698.
‘‘ทุกฺขํ เต เวทยิสฺสามิ, ตตฺถ อสฺสาสยนฺตุ มํ;
‘‘Dukkhaṃ te vedayissāmi, tattha assāsayantu maṃ;
สิวโย เทว เต กุทฺธา, เนคมา จ สมาคตาฯ
Sivayo deva te kuddhā, negamā ca samāgatā.
๑๖๙๙.
1699.
‘‘อุคฺคา จ ราชปุตฺตา จ, เวสิยานา จ พฺราหฺมณา;
‘‘Uggā ca rājaputtā ca, vesiyānā ca brāhmaṇā;
หตฺถาโรหา อนีกฎฺฐา, รถิกา ปตฺติการกา;
Hatthārohā anīkaṭṭhā, rathikā pattikārakā;
เกวโล จาปิ นิคโม, สิวโย จ สมาคตาฯ
Kevalo cāpi nigamo, sivayo ca samāgatā.
๑๗๐๐.
1700.
‘‘อสฺมา รตฺยา วิวสาเน, สูริยสฺสุคฺคมนํ ปติ;
‘‘Asmā ratyā vivasāne, sūriyassuggamanaṃ pati;
สมคฺคา สิวโย หุตฺวา, รฎฺฐา ปพฺพาชยนฺติ ต’’นฺติฯ
Samaggā sivayo hutvā, raṭṭhā pabbājayanti ta’’nti.
ตตฺถ กุมารนฺติ มาตาปิตูนํ อตฺถิตาย ‘‘กุมาโร’’เตฺวว สงฺขํ คตํ ราชานํฯ รมมานนฺติ อตฺตนา ทินฺนทานสฺส วณฺณํ กถยมานํ โสมนสฺสปฺปตฺตํ หุตฺวา นิสินฺนํฯ ปริกิณฺณํ อมเจฺจหีติ อตฺตนา สหชาเตหิ สฎฺฐิสหเสฺสหิ อมเจฺจหิ ปริวุตํ สมุสฺสิตเสตจฺฉเตฺต ราชาสเน นิสินฺนํฯ เวทยิสฺสามีติ กถยิสฺสามิฯ ตตฺถ อสฺสาสยนฺตุ มนฺติ ตสฺมิํ ทุกฺขสฺสาสนาโรจเน กเถตุํ อวิสหวเสน กิลนฺตํ มํ, เทว, เต ปาทา อสฺสาสยนฺตุ, วิสฺสโตฺถ กเถหีติ มํ วทถาติ อธิปฺปาเยเนวมาหฯ
Tattha kumāranti mātāpitūnaṃ atthitāya ‘‘kumāro’’tveva saṅkhaṃ gataṃ rājānaṃ. Ramamānanti attanā dinnadānassa vaṇṇaṃ kathayamānaṃ somanassappattaṃ hutvā nisinnaṃ. Parikiṇṇaṃ amaccehīti attanā sahajātehi saṭṭhisahassehi amaccehi parivutaṃ samussitasetacchatte rājāsane nisinnaṃ. Vedayissāmīti kathayissāmi. Tattha assāsayantu manti tasmiṃ dukkhassāsanārocane kathetuṃ avisahavasena kilantaṃ maṃ, deva, te pādā assāsayantu, vissattho kathehīti maṃ vadathāti adhippāyenevamāha.
มหาสโตฺต อาห –
Mahāsatto āha –
๑๗๐๑.
1701.
‘‘กิสฺมิํ เม สิวโย กุทฺธา, นาหํ ปสฺสามิ ทุกฺกฎํ;
‘‘Kismiṃ me sivayo kuddhā, nāhaṃ passāmi dukkaṭaṃ;
ตํ เม กเตฺต วิยาจิกฺข, กสฺมา ปพฺพาชยนฺติ ม’’นฺติฯ
Taṃ me katte viyācikkha, kasmā pabbājayanti ma’’nti.
ตตฺถ กิสฺมินฺติ กตรสฺมิํ การเณฯ วิยาจิกฺขาติ วิตฺถารโต กเถหิฯ
Tattha kisminti katarasmiṃ kāraṇe. Viyācikkhāti vitthārato kathehi.
กตฺตา อาห –
Kattā āha –
๑๗๐๒.
1702.
‘‘อุคฺคา จ ราชปุตฺตา จ, เวสิยานา จ พฺราหฺมณา;
‘‘Uggā ca rājaputtā ca, vesiyānā ca brāhmaṇā;
หตฺถาโรหา อนีกฎฺฐา, รถิกา ปตฺติการกา;
Hatthārohā anīkaṭṭhā, rathikā pattikārakā;
นาคทาเนน ขิยฺยนฺติ, ตสฺมา ปพฺพาชยนฺติ ต’’นฺติฯ
Nāgadānena khiyyanti, tasmā pabbājayanti ta’’nti.
ตตฺถ ขิยฺยนฺตีติ กุชฺฌนฺติฯ
Tattha khiyyantīti kujjhanti.
ตํ สุตฺวา มหาสโตฺต โสมนสฺสปฺปโตฺต หุตฺวา อาห –
Taṃ sutvā mahāsatto somanassappatto hutvā āha –
๑๗๐๓.
1703.
‘‘หทยํ จกฺขุมฺปหํ ทชฺชํ, กิํ เม พาหิรกํ ธนํ;
‘‘Hadayaṃ cakkhumpahaṃ dajjaṃ, kiṃ me bāhirakaṃ dhanaṃ;
หิรญฺญํ วา สุวณฺณํ วา, มุตฺตา เวฬุริยา มณิฯ
Hiraññaṃ vā suvaṇṇaṃ vā, muttā veḷuriyā maṇi.
๑๗๐๔.
1704.
‘‘ทกฺขิณํ วาปหํ พาหุํ, ทิสฺวา ยาจกมาคเต;
‘‘Dakkhiṇaṃ vāpahaṃ bāhuṃ, disvā yācakamāgate;
ทเทยฺยํ น วิกเมฺปยฺยํ, ทาเน เม รมเต มโนฯ
Dadeyyaṃ na vikampeyyaṃ, dāne me ramate mano.
๑๗๐๕.
1705.
‘‘กามํ มํ สิวโย สเพฺพ, ปพฺพาเชนฺตุ หนนฺตุ วา;
‘‘Kāmaṃ maṃ sivayo sabbe, pabbājentu hanantu vā;
เนว ทานา วิรมิสฺสํ, กามํ ฉินฺทนฺตุ สตฺตธา’’ติฯ
Neva dānā viramissaṃ, kāmaṃ chindantu sattadhā’’ti.
ตตฺถ ยาจกมาคเตติ ยาจเก อาคเต ตํ ยาจกํ ทิสฺวาฯ เนว ทานา วิรมิสฺสนฺติ เนว ทานา วิรมิสฺสามิฯ
Tattha yācakamāgateti yācake āgate taṃ yācakaṃ disvā. Neva dānā viramissanti neva dānā viramissāmi.
ตํ สุตฺวา กตฺตา เนว รญฺญา ทินฺนํ น นาคเรหิ ทินฺนํ อตฺตโน มติยา เอว อปรํ สาสนํ กเถโนฺต อาห –
Taṃ sutvā kattā neva raññā dinnaṃ na nāgarehi dinnaṃ attano matiyā eva aparaṃ sāsanaṃ kathento āha –
๑๗๐๖.
1706.
‘‘เอวํ ตํ สิวโย อาหุ, เนคมา จ สมาคตา;
‘‘Evaṃ taṃ sivayo āhu, negamā ca samāgatā;
โกนฺติมาราย ตีเรน, คิริมารญฺชรํ ปติ;
Kontimārāya tīrena, girimārañjaraṃ pati;
เยน ปพฺพาชิตา ยนฺติ, เตน คจฺฉตุ สุพฺพโต’’ติฯ
Yena pabbājitā yanti, tena gacchatu subbato’’ti.
ตตฺถ โกนฺติมารายาติ โกนฺติมาราย นาม นทิยา ตีเรนฯ คิริมารญฺชรํ ปตีติ อารญฺชรํ นาม คิริํ อภิมุโข หุตฺวาฯ เยนาติ เยน มเคฺคน รฎฺฐา ปพฺพาชิตา ราชาโน คจฺฉนฺติ, เตน สุพฺพโต เวสฺสนฺตโรปิ คจฺฉตูติ เอวํ สิวโย กเถนฺตีติ อาหฯ อิทํ กิร โส เทวตาธิคฺคหิโต หุตฺวา กเถสิฯ
Tattha kontimārāyāti kontimārāya nāma nadiyā tīrena. Girimārañjaraṃ patīti ārañjaraṃ nāma giriṃ abhimukho hutvā. Yenāti yena maggena raṭṭhā pabbājitā rājāno gacchanti, tena subbato vessantaropi gacchatūti evaṃ sivayo kathentīti āha. Idaṃ kira so devatādhiggahito hutvā kathesi.
ตํ สุตฺวา โพธิสโตฺต ‘‘สาธุ โทสการกานํ คตมเคฺคน คมิสฺสามิ, มํ โข ปน นาครา น อเญฺญน โทเสน ปพฺพาเชนฺติ, มยา หตฺถิสฺส ทินฺนตฺตา ปพฺพาเชนฺติฯ เอวํ สเนฺตปิ อหํ สตฺตสตกํ มหาทานํ ทสฺสามิ, นาครา เม เอกทิวสํ ทานํ ทาตุํ โอกาสํ เทนฺตุ, เสฺว ทานํ ทตฺวา ตติยทิวเส คมิสฺสามี’’ติ วตฺวา อาห –
Taṃ sutvā bodhisatto ‘‘sādhu dosakārakānaṃ gatamaggena gamissāmi, maṃ kho pana nāgarā na aññena dosena pabbājenti, mayā hatthissa dinnattā pabbājenti. Evaṃ santepi ahaṃ sattasatakaṃ mahādānaṃ dassāmi, nāgarā me ekadivasaṃ dānaṃ dātuṃ okāsaṃ dentu, sve dānaṃ datvā tatiyadivase gamissāmī’’ti vatvā āha –
๑๗๐๗.
1707.
‘‘โสหํ เตน คมิสฺสามิ, เยน คจฺฉนฺติ ทูสกา;
‘‘Sohaṃ tena gamissāmi, yena gacchanti dūsakā;
รตฺตินฺทิวํ เม ขมถ, ยาว ทานํ ททามห’’นฺติฯ
Rattindivaṃ me khamatha, yāva dānaṃ dadāmaha’’nti.
ตํ สุตฺวา กตฺตา ‘‘สาธุ, เทว, นาครานํ วกฺขามี’’ติ วตฺวา ปกฺกามิฯ มหาสโตฺต ตํ อุโยฺยเชตฺวา มหาเสนคุตฺตํ ปโกฺกสาเปตฺวา ‘ตาต, อหํ เสฺว สตฺตสตกํ นาม มหาทานํ ทสฺสามิ, สตฺต หตฺถิสตานิ, สตฺต อสฺสสตานิ, สตฺต รถสตานิ, สตฺต อิตฺถิสตานิ, สตฺต เธนุสตานิ, สตฺต ทาสสตานิ, สตฺต ทาสิสตานิ จ ปฎิยาเทหิ, นานปฺปการานิ จ อนฺนปานาทีนิ อนฺตมโส สุรมฺปิ สพฺพํ ทาตพฺพยุตฺตกํ อุปฎฺฐเปหี’’ติ สตฺตสตกํ มหาทานํ วิจาเรตฺวา อมเจฺจ อุโยฺยเชตฺวา เอกโกว มทฺทิยา วสนฎฺฐานํ คนฺตฺวา สิริสยนปิเฎฺฐ นิสีทิตฺวา ตาย สทฺธิํ กถํ ปวเตฺตสิฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Taṃ sutvā kattā ‘‘sādhu, deva, nāgarānaṃ vakkhāmī’’ti vatvā pakkāmi. Mahāsatto taṃ uyyojetvā mahāsenaguttaṃ pakkosāpetvā ‘tāta, ahaṃ sve sattasatakaṃ nāma mahādānaṃ dassāmi, satta hatthisatāni, satta assasatāni, satta rathasatāni, satta itthisatāni, satta dhenusatāni, satta dāsasatāni, satta dāsisatāni ca paṭiyādehi, nānappakārāni ca annapānādīni antamaso surampi sabbaṃ dātabbayuttakaṃ upaṭṭhapehī’’ti sattasatakaṃ mahādānaṃ vicāretvā amacce uyyojetvā ekakova maddiyā vasanaṭṭhānaṃ gantvā sirisayanapiṭṭhe nisīditvā tāya saddhiṃ kathaṃ pavattesi. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๑๗๐๘.
1708.
‘‘อามนฺตยิตฺถ ราชานํ, มทฺทิํ สพฺพงฺคโสภนํ;
‘‘Āmantayittha rājānaṃ, maddiṃ sabbaṅgasobhanaṃ;
ยํ เต กิญฺจิ มยา ทินฺนํ, ธนํ ธญฺญญฺจ วิชฺชติฯ
Yaṃ te kiñci mayā dinnaṃ, dhanaṃ dhaññañca vijjati.
๑๗๐๙.
1709.
‘‘หิรญฺญํ วา สุวณฺณํ วา, มุตฺตา เวฬุริยา พหู;
‘‘Hiraññaṃ vā suvaṇṇaṃ vā, muttā veḷuriyā bahū;
สพฺพํ ตํ นิทเหยฺยาสิ, ยญฺจ เต เปตฺติกํ ธน’’นฺติฯ
Sabbaṃ taṃ nidaheyyāsi, yañca te pettikaṃ dhana’’nti.
ตตฺถ นิทเหยฺยาสีติ นิธิํ กตฺวา ฐเปยฺยาสิฯ เปตฺติกนฺติ ปิติโต อาคตํฯ
Tattha nidaheyyāsīti nidhiṃ katvā ṭhapeyyāsi. Pettikanti pitito āgataṃ.
๑๗๑๐.
1710.
‘‘ตมพฺรวิ ราชปุตฺตี, มทฺที สพฺพงฺคโสภนา;
‘‘Tamabravi rājaputtī, maddī sabbaṅgasobhanā;
กุหิํ เทว นิทหามิ, ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิโต’’ติฯ
Kuhiṃ deva nidahāmi, taṃ me akkhāhi pucchito’’ti.
ตตฺถ ตมพฺรวีติ ‘‘มยฺหํ สามิเกน เวสฺสนฺตเรน เอตฺตกํ กาลํ ‘ธนํ นิเธหี’ติ น วุตฺตปุพฺพํ, อิทาเนว วทติ, กุหิํ นุ โข นิเธตพฺพํ, ปุจฺฉิสฺสามิ น’’นฺติ จิเนฺตตฺวา ตํ อพฺรวิฯ
Tattha tamabravīti ‘‘mayhaṃ sāmikena vessantarena ettakaṃ kālaṃ ‘dhanaṃ nidhehī’ti na vuttapubbaṃ, idāneva vadati, kuhiṃ nu kho nidhetabbaṃ, pucchissāmi na’’nti cintetvā taṃ abravi.
เวสฺสนฺตโร อาห –
Vessantaro āha –
๑๗๑๑.
1711.
‘‘สีลวเนฺตสุ ทชฺชาสิ, ทานํ มทฺทิ ยถารหํ;
‘‘Sīlavantesu dajjāsi, dānaṃ maddi yathārahaṃ;
น หิ ทานา ปรํ อตฺถิ, ปติฎฺฐา สพฺพปาณิน’’นฺติฯ
Na hi dānā paraṃ atthi, patiṭṭhā sabbapāṇina’’nti.
ตตฺถ ทชฺชาสีติ ภเทฺท, มทฺทิ โกฎฺฐาทีสุ อนิทหิตฺวา อนุคามิกนิธิํ นิทหมานา สีลวเนฺตสุ ทเทยฺยาสิฯ น หิ ทานา ปรนฺติ ทานโต อุตฺตริตรํ ปติฎฺฐา นาม น หิ อตฺถิฯ
Tattha dajjāsīti bhadde, maddi koṭṭhādīsu anidahitvā anugāmikanidhiṃ nidahamānā sīlavantesu dadeyyāsi. Na hi dānā paranti dānato uttaritaraṃ patiṭṭhā nāma na hi atthi.
สา ‘‘สาธู’’ติ ตสฺส วจนํ สมฺปฎิจฺฉิฯ อถ นํ อุตฺตริปิ โอวทโนฺต อาห –
Sā ‘‘sādhū’’ti tassa vacanaṃ sampaṭicchi. Atha naṃ uttaripi ovadanto āha –
๑๗๑๒.
1712.
‘‘ปุเตฺตสุ มทฺทิ ทเยสิ, สสฺสุยา สสุรมฺหิ จ;
‘‘Puttesu maddi dayesi, sassuyā sasuramhi ca;
โย จ ตํ ภตฺตา มเญฺญยฺย, สกฺกจฺจํ ตํ อุปฎฺฐเหฯ
Yo ca taṃ bhattā maññeyya, sakkaccaṃ taṃ upaṭṭhahe.
๑๗๑๓.
1713.
‘‘โน เจ ตํ ภตฺตา มเญฺญยฺย, มยา วิปฺปวเสน เต;
‘‘No ce taṃ bhattā maññeyya, mayā vippavasena te;
อญฺญํ ภตฺตารํ ปริเยส, มา กิสิโตฺถ มยา วินา’’ติฯ
Aññaṃ bhattāraṃ pariyesa, mā kisittho mayā vinā’’ti.
ตตฺถ ทเยสีติ ทยํ เมตฺตํ กเรยฺยาสิฯ โย จ ตํ ภตฺตา มเญฺญยฺยาติ ภเทฺท, โย จ มยิ คเต ‘‘อหํ เต ภตฺตา ภวิสฺสามี’’ติ ตํ มญฺญิสฺสติ, ตมฺปิ สกฺกจฺจํ อุปฎฺฐเหยฺยาสิฯ มยา วิปฺปวเสน เตติ มยา สทฺธิํ ตว วิปฺปวาเสน สเจ โกจิ ‘‘อหํ เต ภตฺตา ภวิสฺสามี’’ติ ตํ น มเญฺญยฺย, อถ สยเมว อญฺญํ ภตฺตารํ ปริเยสฯ มา กิสิโตฺถ มยา วินาติ มยา วินา หุตฺวา มา กิสา ภวิ, มา กิลมีติ อโตฺถฯ
Tattha dayesīti dayaṃ mettaṃ kareyyāsi. Yo ca taṃ bhattā maññeyyāti bhadde, yo ca mayi gate ‘‘ahaṃ te bhattā bhavissāmī’’ti taṃ maññissati, tampi sakkaccaṃ upaṭṭhaheyyāsi. Mayā vippavasena teti mayā saddhiṃ tava vippavāsena sace koci ‘‘ahaṃ te bhattā bhavissāmī’’ti taṃ na maññeyya, atha sayameva aññaṃ bhattāraṃ pariyesa. Mā kisittho mayā vināti mayā vinā hutvā mā kisā bhavi, mā kilamīti attho.
อถ นํ มทฺที ‘‘กิํ นุ โข เอส เอวรูปํ วจนํ มํ ภณตี’’ติ จิเนฺตตฺวา ‘‘กสฺมา, เทว, อิมํ อยุตฺตํ กถํ กเถสี’’ติ ปุจฺฉิฯ มหาสโตฺต ‘‘ภเทฺท, มยา หตฺถิสฺส ทินฺนตฺตา สิวโย กุทฺธา มํ รฎฺฐา ปพฺพาเชนฺติ, เสฺว อหํ สตฺตสตกํ มหาทานํ ทตฺวา ตติยทิวเส นครา นิกฺขมิสฺสามี’’ติ วตฺวา อาห –
Atha naṃ maddī ‘‘kiṃ nu kho esa evarūpaṃ vacanaṃ maṃ bhaṇatī’’ti cintetvā ‘‘kasmā, deva, imaṃ ayuttaṃ kathaṃ kathesī’’ti pucchi. Mahāsatto ‘‘bhadde, mayā hatthissa dinnattā sivayo kuddhā maṃ raṭṭhā pabbājenti, sve ahaṃ sattasatakaṃ mahādānaṃ datvā tatiyadivase nagarā nikkhamissāmī’’ti vatvā āha –
๑๗๑๔.
1714.
‘‘อหญฺหิ วนํ คจฺฉามิ, โฆรํ วาฬมิคายุตํ;
‘‘Ahañhi vanaṃ gacchāmi, ghoraṃ vāḷamigāyutaṃ;
สํสโย ชีวิตํ มยฺหํ, เอกกสฺส พฺรหาวเน’’ติฯ
Saṃsayo jīvitaṃ mayhaṃ, ekakassa brahāvane’’ti.
ตตฺถ สํสโยติ อเนกปจฺจตฺถิเก เอกกสฺส สุขุมาลสฺส มม วเน วสโต กุโต ชีวิตํ, นิจฺฉเยน มริสฺสามีติ อธิปฺปาเยเนวํ อาหฯ
Tattha saṃsayoti anekapaccatthike ekakassa sukhumālassa mama vane vasato kuto jīvitaṃ, nicchayena marissāmīti adhippāyenevaṃ āha.
๑๗๑๕.
1715.
‘‘ตมพฺรวิ ราชปุตฺตี, มทฺที สพฺพงฺคโสภนา;
‘‘Tamabravi rājaputtī, maddī sabbaṅgasobhanā;
อภุเมฺม กถํ นุ ภณสิ, ปาปกํ วต ภาสสิฯ
Abhumme kathaṃ nu bhaṇasi, pāpakaṃ vata bhāsasi.
๑๗๑๖.
1716.
‘‘เนส ธโมฺม มหาราช, ยํ ตฺวํ คเจฺฉยฺย เอกโก;
‘‘Nesa dhammo mahārāja, yaṃ tvaṃ gaccheyya ekako;
อหมฺปิ เตน คจฺฉามิ, เยน คจฺฉสิ ขตฺติยฯ
Ahampi tena gacchāmi, yena gacchasi khattiya.
๑๗๑๗.
1717.
‘‘มรณํ วา ตยา สทฺธิํ, ชีวิตํ วา ตยา วินา;
‘‘Maraṇaṃ vā tayā saddhiṃ, jīvitaṃ vā tayā vinā;
ตเทว มรณํ เสโยฺย, ยํ เจ ชีเว ตยา วินาฯ
Tadeva maraṇaṃ seyyo, yaṃ ce jīve tayā vinā.
๑๗๑๘.
1718.
‘‘อคฺคิํ อุชฺชาลยิตฺวาน, เอกชาลสมาหิตํ;
‘‘Aggiṃ ujjālayitvāna, ekajālasamāhitaṃ;
ตตฺถ เม มรณํ เสโยฺย, ยํ เจ ชีเว ตยา วินาฯ
Tattha me maraṇaṃ seyyo, yaṃ ce jīve tayā vinā.
๑๗๑๙.
1719.
‘‘ยถา อารญฺญกํ นาคํ, ทนฺติํ อเนฺวติ หตฺถินี;
‘‘Yathā āraññakaṃ nāgaṃ, dantiṃ anveti hatthinī;
เชสฺสนฺตํ คิริทุเคฺคสุ, สเมสุ วิสเมสุ จฯ
Jessantaṃ giriduggesu, samesu visamesu ca.
๑๗๒๐.
1720.
‘‘เอวํ ตํ อนุคจฺฉามิ, ปุเตฺต อาทาย ปจฺฉโต;
‘‘Evaṃ taṃ anugacchāmi, putte ādāya pacchato;
สุภรา เต ภวิสฺสามิ, น เต เหสฺสามิ ทุพฺภรา’’ติฯ
Subharā te bhavissāmi, na te hessāmi dubbharā’’ti.
ตตฺถ อภุเมฺมติ อภูตํ วต เม กเถยฺยาสิฯ เนส ธโมฺมติ น เอโส สภาโว, เนตํ การณํฯ ตเทวาติ ตยา สทฺธิํ ยํ มรณํ อตฺถิ, ตเทว มรณํ เสโยฺยฯ ตตฺถาติ ตสฺมิํ เอกชาลภูเต ทารุจิตเกฯ เชสฺสนฺตนฺติ วิจรนฺตํฯ
Tattha abhummeti abhūtaṃ vata me katheyyāsi. Nesa dhammoti na eso sabhāvo, netaṃ kāraṇaṃ. Tadevāti tayā saddhiṃ yaṃ maraṇaṃ atthi, tadeva maraṇaṃ seyyo. Tatthāti tasmiṃ ekajālabhūte dārucitake. Jessantanti vicarantaṃ.
เอวญฺจ ปน วตฺวา สา ปุน ทิฎฺฐปุพฺพํ วิย หิมวนฺตปฺปเทสํ วเณฺณนฺตี อาห –
Evañca pana vatvā sā puna diṭṭhapubbaṃ viya himavantappadesaṃ vaṇṇentī āha –
๑๗๒๑.
1721.
‘‘อิเม กุมาเร ปสฺสโนฺต, มญฺชุเก ปิยภาณิเน;
‘‘Ime kumāre passanto, mañjuke piyabhāṇine;
อาสีเน วนคุมฺพสฺมิํ, น รชฺชสฺส สริสฺสสิฯ
Āsīne vanagumbasmiṃ, na rajjassa sarissasi.
๑๗๒๒.
1722.
‘‘อิเม กุมาเร ปสฺสโนฺต, มญฺชุเก ปิยภาณิเน;
‘‘Ime kumāre passanto, mañjuke piyabhāṇine;
กีฬเนฺต วนคุมฺพสฺมิํ, น รชฺชสฺส สริสฺสสิฯ
Kīḷante vanagumbasmiṃ, na rajjassa sarissasi.
๑๗๒๓.
1723.
‘‘อิเม กุมาเร ปสฺสโนฺต, มญฺชุเก ปิยภาณิเน;
‘‘Ime kumāre passanto, mañjuke piyabhāṇine;
อสฺสเม รมณียมฺหิ, น รชฺชสฺส สริสฺสสิฯ
Assame ramaṇīyamhi, na rajjassa sarissasi.
๑๗๒๔.
1724.
‘‘อิเม กุมาเร ปสฺสโนฺต, มญฺชุเก ปิยภาณิเน;
‘‘Ime kumāre passanto, mañjuke piyabhāṇine;
กีฬเนฺต อสฺสเม รเมฺม, น รชฺชสฺส สริสฺสสิฯ
Kīḷante assame ramme, na rajjassa sarissasi.
๑๗๒๕.
1725.
‘‘อิเม กุมาเร ปสฺสโนฺต, มาลธารี อลงฺกเต;
‘‘Ime kumāre passanto, māladhārī alaṅkate;
อสฺสเม รมณียมฺหิ, น รชฺชสฺส สริสฺสสิฯ
Assame ramaṇīyamhi, na rajjassa sarissasi.
๑๗๒๖.
1726.
‘‘อิเม กุมาเร ปสฺสโนฺต, มาลธารี อลงฺกเต;
‘‘Ime kumāre passanto, māladhārī alaṅkate;
กีฬเนฺต อสฺสเม รเมฺม, น รชฺชสฺส สริสฺสสิฯ
Kīḷante assame ramme, na rajjassa sarissasi.
๑๗๒๗.
1727.
‘‘ยทา ทกฺขิสิ นจฺจเนฺต, กุมาเร มาลธาริเน;
‘‘Yadā dakkhisi naccante, kumāre māladhārine;
อสฺสเม รมณียมฺหิ, น รชฺชสฺส สริสฺสสิฯ
Assame ramaṇīyamhi, na rajjassa sarissasi.
๑๗๒๘.
1728.
‘‘ยทา ทกฺขิสิ นจฺจเนฺต, กุมาเร มาลธาริเน;
‘‘Yadā dakkhisi naccante, kumāre māladhārine;
กีฬเนฺต อสฺสเม รเมฺม, น รชฺชสฺส สริสฺสสิฯ
Kīḷante assame ramme, na rajjassa sarissasi.
๑๗๒๙.
1729.
‘‘ยทา ทกฺขิสิ มาตงฺคํ, กุญฺชรํ สฎฺฐิหายนํ;
‘‘Yadā dakkhisi mātaṅgaṃ, kuñjaraṃ saṭṭhihāyanaṃ;
เอกํ อรเญฺญ จรนฺตํ, น รชฺชสฺส สริสฺสสิฯ
Ekaṃ araññe carantaṃ, na rajjassa sarissasi.
๑๗๓๐.
1730.
‘‘ยทา ทกฺขิสิ มาตงฺคํ, กุญฺชรํ สฎฺฐิหายนํ;
‘‘Yadā dakkhisi mātaṅgaṃ, kuñjaraṃ saṭṭhihāyanaṃ;
สายํ ปาโต วิจรนฺตํ, น รชฺชสฺส สริสฺสสิฯ
Sāyaṃ pāto vicarantaṃ, na rajjassa sarissasi.
๑๗๓๑.
1731.
‘‘ยทา กเรณุสงฺฆสฺส, ยูถสฺส ปุรโต วชํ;
‘‘Yadā kareṇusaṅghassa, yūthassa purato vajaṃ;
โกญฺจํ กาหติ มาตโงฺค, กุญฺชโร สฎฺฐิหายโน;
Koñcaṃ kāhati mātaṅgo, kuñjaro saṭṭhihāyano;
ตสฺส ตํ นทโต สุตฺวา, น รชฺชสฺส สริสฺสสิฯ
Tassa taṃ nadato sutvā, na rajjassa sarissasi.
๑๗๓๒.
1732.
‘‘ทุภโต วนวิกาเส, ยทา ทกฺขิสิ กามโท;
‘‘Dubhato vanavikāse, yadā dakkhisi kāmado;
วเน วาฬมิคากิเณฺณ, น รชฺชสฺส สริสฺสสิฯ
Vane vāḷamigākiṇṇe, na rajjassa sarissasi.
๑๗๓๓.
1733.
‘‘มิคํ ทิสฺวาน สายนฺหํ, ปญฺจมาลินมาคตํ;
‘‘Migaṃ disvāna sāyanhaṃ, pañcamālinamāgataṃ;
กิมฺปุริเส จ นจฺจเนฺต, น รชฺชสฺส สริสฺสสิฯ
Kimpurise ca naccante, na rajjassa sarissasi.
๑๗๓๔.
1734.
‘‘ยทา โสสฺสสิ นิโคฺฆสํ, สนฺทมานาย สินฺธุยา;
‘‘Yadā sossasi nigghosaṃ, sandamānāya sindhuyā;
คีตํ กิมฺปุริสานญฺจ, น รชฺชสฺส สริสฺสสิฯ
Gītaṃ kimpurisānañca, na rajjassa sarissasi.
๑๗๓๕.
1735.
‘‘ยทา โสสฺสสิ นิโคฺฆสํ, คิริคพฺภรจาริโน;
‘‘Yadā sossasi nigghosaṃ, girigabbharacārino;
วสฺสมานสฺสุลูกสฺส, น รชฺชสฺส สริสฺสสิฯ
Vassamānassulūkassa, na rajjassa sarissasi.
๑๗๓๖.
1736.
‘‘ยทา สีหสฺส พฺยคฺฆสฺส, ขคฺคสฺส ควยสฺส จ;
‘‘Yadā sīhassa byagghassa, khaggassa gavayassa ca;
วเน โสสฺสสิ วาฬานํ, น รชฺชสฺส สริสฺสสิฯ
Vane sossasi vāḷānaṃ, na rajjassa sarissasi.
๑๗๓๗.
1737.
‘‘ยทา โมรีหิ ปริกิณฺณํ, พริหีนํ มตฺถกาสินํ;
‘‘Yadā morīhi parikiṇṇaṃ, barihīnaṃ matthakāsinaṃ;
โมรํ ทกฺขิสิ นจฺจนฺตํ, น รชฺชสฺส สริสฺสสิฯ
Moraṃ dakkhisi naccantaṃ, na rajjassa sarissasi.
๑๗๓๘.
1738.
‘‘ยทา โมรีหิ ปริกิณฺณํ, อณฺฑชํ จิตฺรปกฺขินํ;
‘‘Yadā morīhi parikiṇṇaṃ, aṇḍajaṃ citrapakkhinaṃ;
โมรํ ทกฺขิสิ นจฺจนฺตํ, น รชฺชสฺส สริสฺสสิฯ
Moraṃ dakkhisi naccantaṃ, na rajjassa sarissasi.
๑๗๓๙.
1739.
‘‘ยทา โมรีหิ ปริกิณฺณํ, นีลคีวํ สิขณฺฑินํ;
‘‘Yadā morīhi parikiṇṇaṃ, nīlagīvaṃ sikhaṇḍinaṃ;
โมรํ ทกฺขิสิ นจฺจนฺตํ, น รชฺชสฺส สริสฺสสิฯ
Moraṃ dakkhisi naccantaṃ, na rajjassa sarissasi.
๑๗๔๐.
1740.
‘‘ยทา ทกฺขิสิ เหมเนฺต, ปุปฺผิเต ธรณีรุเห;
‘‘Yadā dakkhisi hemante, pupphite dharaṇīruhe;
สุรภิํ สมฺปวายเนฺต, น รชฺชสฺส สริสฺสสิฯ
Surabhiṃ sampavāyante, na rajjassa sarissasi.
๑๗๔๑.
1741.
‘‘ยทา เหมนฺติเก มาเส, หริตํ ทกฺขิสิ เมทนิํ;
‘‘Yadā hemantike māse, haritaṃ dakkhisi medaniṃ;
อินฺทโคปกสญฺฉนฺนํ, น รชฺชสฺส สริสฺสสิฯ
Indagopakasañchannaṃ, na rajjassa sarissasi.
๑๗๔๒.
1742.
‘‘ยทา ทกฺขิสิ เหมเนฺต, ปุปฺผิเต ธรณีรุเห;
‘‘Yadā dakkhisi hemante, pupphite dharaṇīruhe;
กุฎชํ พิมฺพชาลญฺจ, ปุปฺผิตํ โลทฺทปทฺธกํ;
Kuṭajaṃ bimbajālañca, pupphitaṃ loddapaddhakaṃ;
สุรติํ สมฺปวายเนฺต, น รชฺชสฺส สริสฺสสิฯ
Suratiṃ sampavāyante, na rajjassa sarissasi.
๑๗๔๓.
1743.
‘‘ยทา เหมนฺติเก มาเส, วนํ ทกฺขิสิ ปุปฺผิตํ;
‘‘Yadā hemantike māse, vanaṃ dakkhisi pupphitaṃ;
โอปุปฺผานิ จ ปทฺธานิ, น รชฺชสฺส สริสฺสสี’’ติฯ
Opupphāni ca paddhāni, na rajjassa sarissasī’’ti.
ตตฺถ มญฺชุเกติ มธุรกเถฯ กเรณุสงฺฆสฺสาติ หตฺถินิฆฎายฯ ยูถสฺสาติ หตฺถิยูถสฺส ปุรโต วชโนฺต คจฺฉโนฺตฯ ทุภโตติ อุภยปเสฺสสุฯ วนวิกาเสติ วนฆฎาโยฯ กามโทติ มยฺหํ สพฺพกามโทฯ สินฺธุยาติ นทิยาฯ วสฺสมานสฺสุลูกสฺสาติ อุลูกสกุณสฺส วสฺสมานสฺสฯ วาฬานนฺติ วาฬมิคานํฯ เตสญฺหิ สายนฺหสมเย โส สโทฺท ปญฺจงฺคิกตูริยสโทฺท วิย ภวิสฺสติ, ตสฺมา เตสํ สทฺทํ สุตฺวา รชฺชสฺส น สริสฺสสีติ วทติ, พริหีนนฺติ กลาปสญฺฉนฺนํ ฯ มตฺถกาสินนฺติ นิจฺจํ ปพฺพตมตฺถเก นิสินฺนํฯ ‘‘มตฺตกาสิน’’นฺติปิ ปาโฐ, กามมทมตฺตํ หุตฺวา อาสีนนฺติ อโตฺถฯ พิมฺพชาลนฺติ รตฺตงฺกุรรุกฺขํฯ โอปุปฺผานีติ โอลมฺพกปุปฺผานิ ปติตปุปฺผานิฯ
Tattha mañjuketi madhurakathe. Kareṇusaṅghassāti hatthinighaṭāya. Yūthassāti hatthiyūthassa purato vajanto gacchanto. Dubhatoti ubhayapassesu. Vanavikāseti vanaghaṭāyo. Kāmadoti mayhaṃ sabbakāmado. Sindhuyāti nadiyā. Vassamānassulūkassāti ulūkasakuṇassa vassamānassa. Vāḷānanti vāḷamigānaṃ. Tesañhi sāyanhasamaye so saddo pañcaṅgikatūriyasaddo viya bhavissati, tasmā tesaṃ saddaṃ sutvā rajjassa na sarissasīti vadati, barihīnanti kalāpasañchannaṃ . Matthakāsinanti niccaṃ pabbatamatthake nisinnaṃ. ‘‘Mattakāsina’’ntipi pāṭho, kāmamadamattaṃ hutvā āsīnanti attho. Bimbajālanti rattaṅkurarukkhaṃ. Opupphānīti olambakapupphāni patitapupphāni.
เอวํ มทฺที หิมวนฺตวาสินี วิย เอตฺตกาหิ คาถาหิ หิมวนฺตํ วเณฺณสีติฯ
Evaṃ maddī himavantavāsinī viya ettakāhi gāthāhi himavantaṃ vaṇṇesīti.
หีมวนฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Hīmavantavaṇṇanā niṭṭhitā.
ทานกณฺฑวณฺณนา
Dānakaṇḍavaṇṇanā
ผุสฺสตีปิ โข เทวี ‘‘ปุตฺตสฺส เม กฎุกสาสนํ คตํ, กิํ นุ โข กโรติ, คนฺตฺวา ชานิสฺสามี’’ติ ปฎิจฺฉนฺนโยเคฺคน คนฺตฺวา สิริคพฺภทฺวาเร ฐิตา เตสํ ตํ สลฺลาปํ สุตฺวา กลุนํ ปริเทวิฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Phussatīpi kho devī ‘‘puttassa me kaṭukasāsanaṃ gataṃ, kiṃ nu kho karoti, gantvā jānissāmī’’ti paṭicchannayoggena gantvā sirigabbhadvāre ṭhitā tesaṃ taṃ sallāpaṃ sutvā kalunaṃ paridevi. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๑๗๔๔.
1744.
‘‘เตสํ ลาลปฺปิตํ สุตฺวา, ปุตฺตสฺส สุณิสาย จ;
‘‘Tesaṃ lālappitaṃ sutvā, puttassa suṇisāya ca;
กลุนํ ปริเทเวสิ, ราชปุตฺตี ยสสฺสินีฯ
Kalunaṃ paridevesi, rājaputtī yasassinī.
๑๗๔๕.
1745.
‘‘เสโยฺย วิสํ เม ขายิตํ, ปปาตา ปปเตยฺยหํ;
‘‘Seyyo visaṃ me khāyitaṃ, papātā papateyyahaṃ;
รชฺชุยา พชฺฌ มิยฺยาหํ, กสฺมา เวสฺสนฺตรํ ปุตฺตํ;
Rajjuyā bajjha miyyāhaṃ, kasmā vessantaraṃ puttaṃ;
ปพฺพาเชนฺติ อทูสกํฯ
Pabbājenti adūsakaṃ.
๑๗๔๖.
1746.
‘‘อชฺฌายกํ ทานปติํ, ยาจโยคํ อมจฺฉริํ;
‘‘Ajjhāyakaṃ dānapatiṃ, yācayogaṃ amacchariṃ;
ปูชิตํ ปฎิราชูหิ, กิตฺติมนฺตํ ยสสฺสินํ;
Pūjitaṃ paṭirājūhi, kittimantaṃ yasassinaṃ;
กสฺมา เวสฺสนฺตรํ ปุตฺตํ, ปพฺพาเชนฺติ อทูสกํฯ
Kasmā vessantaraṃ puttaṃ, pabbājenti adūsakaṃ.
๑๗๔๗.
1747.
‘‘มาตาเปตฺติภรํ ชนฺตุํ, กุเล เชฎฺฐาปจายิกํ;
‘‘Mātāpettibharaṃ jantuṃ, kule jeṭṭhāpacāyikaṃ;
กสฺมา เวสฺสนฺตรํ ปุตฺตํ, ปพฺพาเชนฺติ อทูสกํฯ
Kasmā vessantaraṃ puttaṃ, pabbājenti adūsakaṃ.
๑๗๔๘.
1748.
‘‘รโญฺญ หิตํ เทวิหิตํ, ญาตีนํ สขินํ หิตํ;
‘‘Rañño hitaṃ devihitaṃ, ñātīnaṃ sakhinaṃ hitaṃ;
หิตํ สพฺพสฺส รฎฺฐสฺส, กสฺมา เวสฺสนฺตรํ ปุตฺตํ;
Hitaṃ sabbassa raṭṭhassa, kasmā vessantaraṃ puttaṃ;
ปพฺพาเชนฺติ อทูสก’’นฺติฯ
Pabbājenti adūsaka’’nti.
ตตฺถ ราชปุตฺตีติ ผุสฺสตี มทฺทราชธีตาฯ ปปเตยฺยหนฺติ ปปเตยฺยํ อหํฯ รชฺชุยา พชฺฌ มิยฺยาหนฺติ รชฺชุยา คีวํ พนฺธิตฺวา มเรยฺยํ อหํฯ กสฺมาติ เอวํ อมตายเมว มยิ เกน การเณน มม ปุตฺตํ อทูสกํ รฎฺฐา ปพฺพาเชนฺติฯ อชฺฌายกนฺติ ติณฺณํ เวทานํ ปารงฺคตํ, นานาสิเปฺปสุ จ นิปฺผตฺติํ ปตฺตํฯ
Tattha rājaputtīti phussatī maddarājadhītā. Papateyyahanti papateyyaṃ ahaṃ. Rajjuyā bajjha miyyāhanti rajjuyā gīvaṃ bandhitvā mareyyaṃ ahaṃ. Kasmāti evaṃ amatāyameva mayi kena kāraṇena mama puttaṃ adūsakaṃ raṭṭhā pabbājenti. Ajjhāyakanti tiṇṇaṃ vedānaṃ pāraṅgataṃ, nānāsippesu ca nipphattiṃ pattaṃ.
อิติ สา กลุนํ ปริเทวิตฺวา ปุตฺตญฺจ สุณิสญฺจ อสฺสาเสตฺวา รโญฺญ สนฺติกํ คนฺตฺวา อาห –
Iti sā kalunaṃ paridevitvā puttañca suṇisañca assāsetvā rañño santikaṃ gantvā āha –
๑๗๔๙.
1749.
‘‘มธูนิว ปลาตานิ, อมฺพาว ปติตา ฉมา;
‘‘Madhūniva palātāni, ambāva patitā chamā;
เอวํ เหสฺสติ เต รฎฺฐํ, ปพฺพาเชนฺติ อทูสกํฯ
Evaṃ hessati te raṭṭhaṃ, pabbājenti adūsakaṃ.
๑๗๕๐.
1750.
‘‘หํโส นิขีณปโตฺตว, ปลฺลลสฺมิํ อนูทเก;
‘‘Haṃso nikhīṇapattova, pallalasmiṃ anūdake;
อปวิโทฺธ อมเจฺจหิ, เอโก ราชา วิหิยฺยสิฯ
Apaviddho amaccehi, eko rājā vihiyyasi.
๑๗๕๑.
1751.
‘‘ตํ ตํ พฺรูมิ มหาราช, อโตฺถ เต มา อุปจฺจคา;
‘‘Taṃ taṃ brūmi mahārāja, attho te mā upaccagā;
มา นํ สิวีนํ วจนา, ปพฺพาเชสิ อทูสก’’นฺติฯ
Mā naṃ sivīnaṃ vacanā, pabbājesi adūsaka’’nti.
ตตฺถ ปลาตานีติ ปลาตมกฺขิกานิ มธูนิ วิยฯ อมฺพาว ปติตา ฉมาติ ภูมิยํ ปติตอมฺพปกฺกานิ วิยฯ เอวํ มม ปุเตฺต ปพฺพาชิเต ตว รฎฺฐํ สพฺพสาธารณํ ภวิสฺสตีติ ทีเปติฯ นิขีณปโตฺตวาติ ปคฺฆริตปโตฺต วิยฯ อปวิโทฺธ อมเจฺจหีติ มม ปุเตฺตน สหชาเตหิ สฎฺฐิสหเสฺสหิ อมเจฺจหิ ฉฑฺฑิโต หุตฺวาฯ วิหิยฺยสีติ กิลมิสฺสสิฯ สิวีนํ วจนาติ สิวีนํ วจเนน มา นํ อทูสกํ มม ปุตฺตํ ปพฺพาเชสีติฯ
Tattha palātānīti palātamakkhikāni madhūni viya. Ambāva patitā chamāti bhūmiyaṃ patitaambapakkāni viya. Evaṃ mama putte pabbājite tava raṭṭhaṃ sabbasādhāraṇaṃ bhavissatīti dīpeti. Nikhīṇapattovāti paggharitapatto viya. Apaviddho amaccehīti mama puttena sahajātehi saṭṭhisahassehi amaccehi chaḍḍito hutvā. Vihiyyasīti kilamissasi. Sivīnaṃ vacanāti sivīnaṃ vacanena mā naṃ adūsakaṃ mama puttaṃ pabbājesīti.
ตํ สุตฺวา ราชา อาห –
Taṃ sutvā rājā āha –
๑๗๕๒.
1752.
‘‘ธมฺมสฺสาปจิติํ กุมฺมิ, สิวีนํ วินยํ ธชํ;
‘‘Dhammassāpacitiṃ kummi, sivīnaṃ vinayaṃ dhajaṃ;
ปพฺพาเชมิ สกํ ปุตฺตํ, ปาณา ปิยตโร หิ เม’’ติฯ
Pabbājemi sakaṃ puttaṃ, pāṇā piyataro hi me’’ti.
ตสฺสโตฺถ – ภเทฺท, อหํ สิวีนํ ธชํ เวสฺสนฺตรํ กุมารํ วินยโนฺต ปพฺพาเชโนฺต สิวิรเฎฺฐ โปราณกราชูนํ ปเวณิธมฺมสฺส อปจิติํ กุมฺมิ กโรมิ, ตสฺมา สเจปิ เม ปาณา ปิยตโร โส, ตถาปิ นํ ปพฺพาเชมีติฯ
Tassattho – bhadde, ahaṃ sivīnaṃ dhajaṃ vessantaraṃ kumāraṃ vinayanto pabbājento siviraṭṭhe porāṇakarājūnaṃ paveṇidhammassa apacitiṃ kummi karomi, tasmā sacepi me pāṇā piyataro so, tathāpi naṃ pabbājemīti.
ตํ สุตฺวา สา ปริเทวมานา อาห –
Taṃ sutvā sā paridevamānā āha –
๑๗๕๓.
1753.
‘‘ยสฺส ปุเพฺพ ธชคฺคานิ, กณิการาว ปุปฺผิตา;
‘‘Yassa pubbe dhajaggāni, kaṇikārāva pupphitā;
ยายนฺตมนุยายนฺติ, สฺวเชฺชโกว คมิสฺสติฯ
Yāyantamanuyāyanti, svajjekova gamissati.
๑๗๕๔.
1754.
‘‘ยสฺส ปุเพฺพ ธชคฺคานิ, กณิการวนานิว;
‘‘Yassa pubbe dhajaggāni, kaṇikāravanāniva;
ยายนฺตมนุยายนฺติ, สฺวเชฺชโกว คมิสฺสติฯ
Yāyantamanuyāyanti, svajjekova gamissati.
๑๗๕๕.
1755.
‘‘ยสฺส ปุเพฺพ อนีกานิ, กณิการาว ปุปฺผิตา;
‘‘Yassa pubbe anīkāni, kaṇikārāva pupphitā;
ยายนฺตมนุยายนฺติ, สฺวเชฺชโกว คมิสฺสติฯ
Yāyantamanuyāyanti, svajjekova gamissati.
๑๗๕๖.
1756.
‘‘ยสฺส ปุเพฺพ อนีกานิ, กณิการวนานิว;
‘‘Yassa pubbe anīkāni, kaṇikāravanāniva;
ยายนฺตมนุยายนฺติ, สฺวเชฺชโกว คมิสฺสติฯ
Yāyantamanuyāyanti, svajjekova gamissati.
๑๗๕๗.
1757.
‘‘อินฺทโคปกวณฺณาภา , คนฺธารา ปณฺฑุกมฺพลา;
‘‘Indagopakavaṇṇābhā , gandhārā paṇḍukambalā;
ยายนฺตมนุยายนฺติ, สฺวเชฺชโกว คมิสฺสติฯ
Yāyantamanuyāyanti, svajjekova gamissati.
๑๗๕๘.
1758.
‘‘โย ปุเพฺพ หตฺถินา ยาติ, สิวิกาย รเถน จ;
‘‘Yo pubbe hatthinā yāti, sivikāya rathena ca;
สฺวชฺช เวสฺสนฺตโร ราชา, กถํ คจฺฉติ ปตฺติโกฯ
Svajja vessantaro rājā, kathaṃ gacchati pattiko.
๑๗๕๙.
1759.
‘‘กถํ จนฺทนลิตฺตโงฺค, นจฺจคีตปฺปโพธโน;
‘‘Kathaṃ candanalittaṅgo, naccagītappabodhano;
ขุราชินํ ผรสุญฺจ, ขาริกาชญฺจ หาหิติฯ
Khurājinaṃ pharasuñca, khārikājañca hāhiti.
๑๗๖๐.
1760.
‘‘กสฺมา นาภิหริสฺสนฺติ, กาสาวา อชินานิ จ;
‘‘Kasmā nābhiharissanti, kāsāvā ajināni ca;
ปวิสนฺตํ พฺรหารญฺญํ, กสฺมา จีรํ น พชฺฌเรฯ
Pavisantaṃ brahāraññaṃ, kasmā cīraṃ na bajjhare.
๑๗๖๑.
1761.
‘‘กถํ นุ จีรํ ธาเรนฺติ, ราชปพฺพชิตา ชนา;
‘‘Kathaṃ nu cīraṃ dhārenti, rājapabbajitā janā;
กถํ กุสมยํ จีรํ, มทฺที ปริทหิสฺสติฯ
Kathaṃ kusamayaṃ cīraṃ, maddī paridahissati.
๑๗๖๒.
1762.
‘‘กาสิยานิ จ ธาเรตฺวา, โขมโกฎุมฺพรานิ จ;
‘‘Kāsiyāni ca dhāretvā, khomakoṭumbarāni ca;
กุสจีรานิ ธาเรนฺตี, กถํ มทฺที กริสฺสติฯ
Kusacīrāni dhārentī, kathaṃ maddī karissati.
๑๗๖๓.
1763.
‘‘วยฺหาหิ ปริยายิตฺวา, สิวิกาย รเถน จ;
‘‘Vayhāhi pariyāyitvā, sivikāya rathena ca;
สา กถชฺช อนุชฺฌงฺคี, ปถํ คจฺฉติ ปตฺติกาฯ
Sā kathajja anujjhaṅgī, pathaṃ gacchati pattikā.
๑๗๖๔.
1764.
‘‘ยสฺสา มุทุตลา หตฺถา, จรณา จ สุเขธิตา;
‘‘Yassā mudutalā hatthā, caraṇā ca sukhedhitā;
สา กถชฺช อนุชฺฌงฺคี, ปถํ คจฺฉติ ปตฺติกาฯ
Sā kathajja anujjhaṅgī, pathaṃ gacchati pattikā.
๑๗๖๕.
1765.
‘‘ยสฺสา มุทุตลา ปาทา, จรณา จ สุเขธิตา;
‘‘Yassā mudutalā pādā, caraṇā ca sukhedhitā;
ปาทุกาหิ สุวณฺณาหิ, ปีฬมานาว คจฺฉติ;
Pādukāhi suvaṇṇāhi, pīḷamānāva gacchati;
สา กถชฺช อนุชฺฌงฺคี, ปถํ คจฺฉติ ปตฺติกาฯ
Sā kathajja anujjhaṅgī, pathaṃ gacchati pattikā.
๑๗๖๖.
1766.
‘‘ยาสฺสุ อิตฺถิสหสฺสานํ, ปุรโต คจฺฉติ มาลินี;
‘‘Yāssu itthisahassānaṃ, purato gacchati mālinī;
สา กถชฺช อนุชฺฌงฺคี, วนํ คจฺฉติ เอกิกาฯ
Sā kathajja anujjhaṅgī, vanaṃ gacchati ekikā.
๑๗๖๗.
1767.
‘‘ยาสฺสุ สิวาย สุตฺวาน, มุหุํ อุตฺตสเต ปุเร;
‘‘Yāssu sivāya sutvāna, muhuṃ uttasate pure;
สา กถชฺช อนุชฺฌงฺคี, วนํ คจฺฉติ ภีรุกาฯ
Sā kathajja anujjhaṅgī, vanaṃ gacchati bhīrukā.
๑๗๖๘.
1768.
‘‘ยาสฺสุ อินฺทสโคตฺตสฺส, อุลูกสฺส ปวสฺสโต;
‘‘Yāssu indasagottassa, ulūkassa pavassato;
สุตฺวาน นทโต ภีตา, วารุณีว ปเวธติ;
Sutvāna nadato bhītā, vāruṇīva pavedhati;
สา กถชฺช อนุชฺฌงฺคี, วนํ คจฺฉติ ภีรุกาฯ
Sā kathajja anujjhaṅgī, vanaṃ gacchati bhīrukā.
๑๗๖๙.
1769.
‘‘สกุณี หตปุตฺตาว, สุญฺญํ ทิสฺวา กุลาวกํ;
‘‘Sakuṇī hataputtāva, suññaṃ disvā kulāvakaṃ;
จิรํ ทุเกฺขน ฌายิสฺสํ, สุญฺญํ อาคมฺมิมํ ปุรํฯ
Ciraṃ dukkhena jhāyissaṃ, suññaṃ āgammimaṃ puraṃ.
๑๗๗๐.
1770.
‘‘สกุณี หตปุตฺตาว, สุญฺญํ ทิสฺวา กุลาวกํ;
‘‘Sakuṇī hataputtāva, suññaṃ disvā kulāvakaṃ;
กิสา ปณฺฑุ ภวิสฺสามิ, ปิเย ปุเตฺต อปสฺสตีฯ
Kisā paṇḍu bhavissāmi, piye putte apassatī.
๑๗๗๑.
1771.
‘‘สกุณี หตปุตฺตาว, สุญฺญํ ทิสฺวา กุลาวกํ;
‘‘Sakuṇī hataputtāva, suññaṃ disvā kulāvakaṃ;
เตน เตน ปธาวิสฺสํ, ปิเย ปุเตฺต อปสฺสตีฯ
Tena tena padhāvissaṃ, piye putte apassatī.
๑๗๗๒.
1772.
‘‘กุรรี หตฉาปาว, สุญฺญํ ทิสฺวา กุลาวกํ;
‘‘Kurarī hatachāpāva, suññaṃ disvā kulāvakaṃ;
จิรํ ทุเกฺขน ฌายิสฺสํ, สุญฺญํ อาคมฺมิมํ ปุรํฯ
Ciraṃ dukkhena jhāyissaṃ, suññaṃ āgammimaṃ puraṃ.
๑๗๗๓.
1773.
‘‘กุรรี หตฉาปาว, สุญฺญํ ทิสฺวา กุลาวกํ;
‘‘Kurarī hatachāpāva, suññaṃ disvā kulāvakaṃ;
กิสา ปณฺฑุ ภวิสฺสามิ, ปิเย ปุเตฺต อปสฺสตีฯ
Kisā paṇḍu bhavissāmi, piye putte apassatī.
๑๗๗๔.
1774.
‘‘กุรรี หตฉาปาว, สุญฺญํ ทิสฺวา กุลาวกํ;
‘‘Kurarī hatachāpāva, suññaṃ disvā kulāvakaṃ;
เตน เตน ปธาวิสฺสํ, ปิเย ปุเตฺต อปสฺสตีฯ
Tena tena padhāvissaṃ, piye putte apassatī.
๑๗๗๕.
1775.
‘‘สา นูน จกฺกวากีว, ปลฺลลสฺมิํ อนูทเก;
‘‘Sā nūna cakkavākīva, pallalasmiṃ anūdake;
จิรํ ทุเกฺขน ฌายิสฺสํ, สุญฺญํ อาคมฺมิมํ ปุรํฯ
Ciraṃ dukkhena jhāyissaṃ, suññaṃ āgammimaṃ puraṃ.
๑๗๗๖.
1776.
‘‘สา นูน จกฺกวากีว, ปลฺลลสฺมิํ อนูทเก;
‘‘Sā nūna cakkavākīva, pallalasmiṃ anūdake;
กิสา ปณฺฑุ ภวิสฺสามิ, ปิเย ปุเตฺต อปสฺสตีฯ
Kisā paṇḍu bhavissāmi, piye putte apassatī.
๑๗๗๗.
1777.
‘‘สา นูน จกฺกวากีว, ปลฺลลสฺมิํ อนูทเก;
‘‘Sā nūna cakkavākīva, pallalasmiṃ anūdake;
เตน เตน ปธาวิสฺสํ, ปิเย ปุเตฺต อปสฺสตีฯ
Tena tena padhāvissaṃ, piye putte apassatī.
๑๗๗๘.
1778.
‘‘เอวํ เม วิลปนฺติยา, ราชา ปุตฺตํ อทูสกํ;
‘‘Evaṃ me vilapantiyā, rājā puttaṃ adūsakaṃ;
ปพฺพาเชสิ วนํ รฎฺฐา, มเญฺญ หิสฺสามิ ชีวิต’’นฺติฯ
Pabbājesi vanaṃ raṭṭhā, maññe hissāmi jīvita’’nti.
ตตฺถ กณิการาวาติ สุวณฺณาภรณสุวณฺณวตฺถปฎิมณฺฑิตตฺตา สุปุปฺผิตา กณิการา วิยฯ ยายนฺตมนุยายนฺตีติ อุยฺยานวนกีฬาทีนํ อตฺถาย คจฺฉนฺตํ เวสฺสนฺตรํ อนุคจฺฉนฺติฯ สฺวเชฺชโกวาติ โส อชฺช เอโกว หุตฺวา คมิสฺสติฯ อนีกานีติ หตฺถานีกาทีนิฯ คนฺธารา ปณฺฑุกมฺพลาติ คนฺธารรเฎฺฐ อุปฺปนฺนา สตสหสฺสคฺฆนกา เสนาย ปารุตา รตฺตกมฺพลาฯ หาหิตีติ ขเนฺธ กตฺวา หริสฺสติฯ ปวิสนฺตนฺติ ปวิสนฺตสฺสฯ กสฺมา จีรํ น พชฺฌเรติ กสฺมา พนฺธิตุํ ชานนฺตา วากจีรํ น พนฺธนฺติฯ ราชปพฺพชิตาติ ราชาโน หุตฺวา ปพฺพชิตาฯ โขมโกฎุมฺพรานีติ โขมรเฎฺฐ โกฎุมฺพรรเฎฺฐ อุปฺปนฺนานิ สาฎกานิฯ
Tattha kaṇikārāvāti suvaṇṇābharaṇasuvaṇṇavatthapaṭimaṇḍitattā supupphitā kaṇikārā viya. Yāyantamanuyāyantīti uyyānavanakīḷādīnaṃ atthāya gacchantaṃ vessantaraṃ anugacchanti. Svajjekovāti so ajja ekova hutvā gamissati. Anīkānīti hatthānīkādīni. Gandhārā paṇḍukambalāti gandhāraraṭṭhe uppannā satasahassagghanakā senāya pārutā rattakambalā. Hāhitīti khandhe katvā harissati. Pavisantanti pavisantassa. Kasmā cīraṃ na bajjhareti kasmā bandhituṃ jānantā vākacīraṃ na bandhanti. Rājapabbajitāti rājāno hutvā pabbajitā. Khomakoṭumbarānīti khomaraṭṭhe koṭumbararaṭṭhe uppannāni sāṭakāni.
สา กถชฺชาติ สา กถํ อชฺชฯ อนุชฺฌงฺคีติ อครหิตองฺคีฯ ปีฬมานาว คจฺฉตีติ กมฺปิตฺวา กมฺปิตฺวา ติฎฺฐนฺตี วิย คจฺฉติฯ ยาสฺสุ อิตฺถิสหสฺสานนฺติอาทีสุ อสฺสูติ นิปาโต, ยาติ อโตฺถฯ ‘‘ยา สา’’ติปิ ปาโฐฯ สิวายาติ สิงฺคาลิยาฯ ปุเรติ ปุเพฺพ นคเร วสนฺตีฯ อินฺทสโคตฺตสฺสาติ โกสิยโคตฺตสฺสฯ วารุณีวาติ เทวตาปวิฎฺฐา ยกฺขทาสี วิยฯ ทุเกฺขนาติ ปุตฺตวิโยคโสกทุเกฺขนฯ อาคมฺมิ มํ ปุรนฺติ อิมํ มม ปุเตฺต คเต ปุตฺตนิเวสนํ อาคนฺตฺวาฯ ปิเย ปุเตฺตติ เวสฺสนฺตรเญฺจว มทฺทิญฺจ สนฺธายาหฯ หตฉาปาติ หตโปตกาฯ ปพฺพาเชสิ วนํ รฎฺฐาติ ยทิ นํ รฎฺฐา ปพฺพาเชสีติฯ
Sā kathajjāti sā kathaṃ ajja. Anujjhaṅgīti agarahitaaṅgī. Pīḷamānāva gacchatīti kampitvā kampitvā tiṭṭhantī viya gacchati. Yāssu itthisahassānantiādīsu assūti nipāto, yāti attho. ‘‘Yā sā’’tipi pāṭho. Sivāyāti siṅgāliyā. Pureti pubbe nagare vasantī. Indasagottassāti kosiyagottassa. Vāruṇīvāti devatāpaviṭṭhā yakkhadāsī viya. Dukkhenāti puttaviyogasokadukkhena. Āgammi maṃ puranti imaṃ mama putte gate puttanivesanaṃ āgantvā. Piye putteti vessantarañceva maddiñca sandhāyāha. Hatachāpāti hatapotakā. Pabbājesi vanaṃ raṭṭhāti yadi naṃ raṭṭhā pabbājesīti.
เทวิยา ปริเทวิตสทฺทํ สุตฺวา สพฺพา สญฺชยสฺส สิวิกญฺญา สมาคตา ปกฺกนฺทิํสุฯ ตาสํ ปกฺกนฺทิตสทฺทํ สุตฺวา มหาสตฺตสฺสปิ นิเวสเน ตเถว ปกฺกนฺทิํสุฯ อิติ ทฺวีสุ ราชกุเลสุ เกจิ สกภาเวน สณฺฐาตุํ อสโกฺกนฺตา วาตเวเคน ปมทฺทิตา สาลา วิย ปติตฺวา ปริวตฺตมานา ปริเทวิํสุฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Deviyā paridevitasaddaṃ sutvā sabbā sañjayassa sivikaññā samāgatā pakkandiṃsu. Tāsaṃ pakkanditasaddaṃ sutvā mahāsattassapi nivesane tatheva pakkandiṃsu. Iti dvīsu rājakulesu keci sakabhāvena saṇṭhātuṃ asakkontā vātavegena pamadditā sālā viya patitvā parivattamānā parideviṃsu. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๑๗๗๙.
1779.
‘‘ตสฺสา ลาลปฺปิตํ สุตฺวา, สพฺพา อเนฺตปุเร พหู;
‘‘Tassā lālappitaṃ sutvā, sabbā antepure bahū;
พาหา ปคฺคยฺห ปกฺกนฺทุํ, สิวิกญฺญา สมาคตาฯ
Bāhā paggayha pakkanduṃ, sivikaññā samāgatā.
๑๗๘๐.
1780.
‘‘สาลาว สมฺปมถิตา, มาลุเตน ปมทฺทิตา;
‘‘Sālāva sampamathitā, mālutena pamadditā;
เสนฺติ ปุตฺตา จ ทารา จ, เวสฺสนฺตรนิเวสเนฯ
Senti puttā ca dārā ca, vessantaranivesane.
๑๗๘๑.
1781.
‘‘โอโรธา จ กุมารา จ, เวสิยานา จ พฺราหฺมณา;
‘‘Orodhā ca kumārā ca, vesiyānā ca brāhmaṇā;
พาหา ปคฺคยฺห ปกฺกนฺทุํ, เวสฺสนฺตรนิเวสเนฯ
Bāhā paggayha pakkanduṃ, vessantaranivesane.
๑๗๘๒.
1782.
‘‘หตฺถาโรหา อนีกฎฺฐา, รถิกา ปตฺติการกา;
‘‘Hatthārohā anīkaṭṭhā, rathikā pattikārakā;
พาหา ปคฺคยฺห ปกฺกนฺทุํ, เวสฺสนฺตรนิเวสเนฯ
Bāhā paggayha pakkanduṃ, vessantaranivesane.
๑๗๘๓.
1783.
‘‘ตโต รตฺยา วิวสาเน, สูริยสฺสุคฺคมนํ ปติ;
‘‘Tato ratyā vivasāne, sūriyassuggamanaṃ pati;
อถ เวสฺสนฺตโร ราชา, ทานํ ทาตุํ อุปาคมิฯ
Atha vessantaro rājā, dānaṃ dātuṃ upāgami.
๑๗๘๔.
1784.
‘‘วตฺถานิ วตฺถกามานํ, โสณฺฑานํ เทถ วารุณิํ;
‘‘Vatthāni vatthakāmānaṃ, soṇḍānaṃ detha vāruṇiṃ;
โภชนํ โภชนตฺถีนํ, สมฺมเทว ปเวจฺฉถฯ
Bhojanaṃ bhojanatthīnaṃ, sammadeva pavecchatha.
๑๗๘๕.
1785.
‘‘มา จ กญฺจิ วนิพฺพเก, เหฎฺฐยิตฺถ อิธาคเต;
‘‘Mā ca kañci vanibbake, heṭṭhayittha idhāgate;
ตเปฺปถ อนฺนปาเนน, คจฺฉนฺตุ ปฎิปูชิตาฯ
Tappetha annapānena, gacchantu paṭipūjitā.
๑๗๘๖.
1786.
‘‘อเถตฺถ วตฺตตี สโทฺท, ตุมุโล เภรโว มหา;
‘‘Athettha vattatī saddo, tumulo bheravo mahā;
ทาเนน ตํ นีหรนฺติ, ปุน ทานํ อทา ตุวํฯ
Dānena taṃ nīharanti, puna dānaṃ adā tuvaṃ.
๑๗๘๗.
1787.
‘‘เต สุ มตฺตา กิลนฺตาว, สมฺปตนฺติ วนิพฺพกา;
‘‘Te su mattā kilantāva, sampatanti vanibbakā;
นิกฺขมเนฺต มหาราเช, สิวีนํ รฎฺฐวฑฺฒเนฯ
Nikkhamante mahārāje, sivīnaṃ raṭṭhavaḍḍhane.
๑๗๘๘.
1788.
‘‘อเจฺฉจฺฉุํ วต โภ รุกฺขํ, นานาผลธรํ ทุมํ;
‘‘Acchecchuṃ vata bho rukkhaṃ, nānāphaladharaṃ dumaṃ;
ยถา เวสฺสนฺตรํ รฎฺฐา, ปพฺพาเชนฺติ อทูสกํฯ
Yathā vessantaraṃ raṭṭhā, pabbājenti adūsakaṃ.
๑๗๘๙.
1789.
‘‘อเจฺฉจฺฉุํ วต โภ รุกฺขํ, สพฺพกามททํ ทุมํ;
‘‘Acchecchuṃ vata bho rukkhaṃ, sabbakāmadadaṃ dumaṃ;
ยถา เวสฺสนฺตรํ รฎฺฐา, ปพฺพาเชนฺติ อทูสกํฯ
Yathā vessantaraṃ raṭṭhā, pabbājenti adūsakaṃ.
๑๗๙๐.
1790.
‘‘อเจฺฉจฺฉุํ วต โภ รุกฺขํ, สพฺพกามรสาหรํ;
‘‘Acchecchuṃ vata bho rukkhaṃ, sabbakāmarasāharaṃ;
ยถา เวสฺสนฺตรํ รฎฺฐา, ปพฺพาเชนฺติ อทูสกํฯ
Yathā vessantaraṃ raṭṭhā, pabbājenti adūsakaṃ.
๑๗๙๑.
1791.
‘‘เย วุฑฺฒา เย จ ทหรา, เย จ มชฺฌิมโปริสา;
‘‘Ye vuḍḍhā ye ca daharā, ye ca majjhimaporisā;
พาหา ปคฺคยฺห ปกฺกนฺทุํ, นิกฺขมเนฺต มหาราเช;
Bāhā paggayha pakkanduṃ, nikkhamante mahārāje;
สิวีนํ รฎฺฐวฑฺฒเนฯ
Sivīnaṃ raṭṭhavaḍḍhane.
๑๗๙๒.
1792.
‘‘อติยกฺขา วสฺสวรา, อิตฺถาคารา จ ราชิโน;
‘‘Atiyakkhā vassavarā, itthāgārā ca rājino;
พาหา ปคฺคยฺห ปกฺกนฺทุํ, นิกฺขมเนฺต มหาราเช;
Bāhā paggayha pakkanduṃ, nikkhamante mahārāje;
สิวีนํ รฎฺฐวฑฺฒเนฯ
Sivīnaṃ raṭṭhavaḍḍhane.
๑๗๙๓.
1793.
‘‘ถิโยปิ ตตฺถ ปกฺกนฺทุํ, ยา ตมฺหิ นคเร อหุ;
‘‘Thiyopi tattha pakkanduṃ, yā tamhi nagare ahu;
นิกฺขมเนฺต มหาราเช, สิวีนํ รฎฺฐวฑฺฒเนฯ
Nikkhamante mahārāje, sivīnaṃ raṭṭhavaḍḍhane.
๑๗๙๔.
1794.
‘‘เย พฺราหฺมณา เย จ สมณา, อเญฺญ วาปิ วนิพฺพกา;
‘‘Ye brāhmaṇā ye ca samaṇā, aññe vāpi vanibbakā;
พาหา ปคฺคยฺห ปกฺกนฺทุํ, ‘อธโมฺม กิร โภ’ อิติฯ
Bāhā paggayha pakkanduṃ, ‘adhammo kira bho’ iti.
๑๗๙๕.
1795.
‘‘ยถา เวสฺสนฺตโร ราชา, ยชมาโน สเก ปุเร;
‘‘Yathā vessantaro rājā, yajamāno sake pure;
สิวีนํ วจนเตฺถน, สมฺหา รฎฺฐา นิรชฺชติฯ
Sivīnaṃ vacanatthena, samhā raṭṭhā nirajjati.
๑๗๙๖.
1796.
‘‘สตฺต หตฺถิสเต ทตฺวา, สพฺพาลงฺการภูสิเต;
‘‘Satta hatthisate datvā, sabbālaṅkārabhūsite;
สุวณฺณกเจฺฉ มาตเงฺค, เหมกปฺปนวาสเส;
Suvaṇṇakacche mātaṅge, hemakappanavāsase;
๑๗๙๗.
1797.
‘‘อารูเฬฺห คามณีเยหิ, โตมรงฺกุสปาณิภิ;
‘‘Ārūḷhe gāmaṇīyehi, tomaraṅkusapāṇibhi;
เอส เวสฺสนฺตโร ราชา, สมฺหา รฎฺฐา นิรชฺชติฯ
Esa vessantaro rājā, samhā raṭṭhā nirajjati.
๑๗๙๘.
1798.
‘‘สตฺต อสฺสสเต ทตฺวา, สพฺพาลงฺการภูสิเต;
‘‘Satta assasate datvā, sabbālaṅkārabhūsite;
อาชานีเยว ชาติยา, สินฺธเว สีฆวาหเนฯ
Ājānīyeva jātiyā, sindhave sīghavāhane.
๑๗๙๙.
1799.
‘‘อารูเฬฺห คามณีเยหิ, อิลฺลิยาจาปธาริภิ;
‘‘Ārūḷhe gāmaṇīyehi, illiyācāpadhāribhi;
เอส เวสฺสนฺตโร ราชา, สมฺหา รฎฺฐา นิรชฺชติฯ
Esa vessantaro rājā, samhā raṭṭhā nirajjati.
๑๘๐๐.
1800.
‘‘สตฺต รถสเต ทตฺวา, สนฺนเทฺธ อุสฺสิตทฺธเช;
‘‘Satta rathasate datvā, sannaddhe ussitaddhaje;
ทีเป อโถปิ เวยเคฺฆ, สพฺพาลงฺการภูสิเตฯ
Dīpe athopi veyagghe, sabbālaṅkārabhūsite.
๑๘๐๑.
1801.
‘‘อารูเฬฺห คามณีเยหิ, จาปหเตฺถหิ วมฺมิภิ;
‘‘Ārūḷhe gāmaṇīyehi, cāpahatthehi vammibhi;
เอส เวสฺสนฺตโร ราชา, สมฺหา รฎฺฐา นิรชฺชติฯ
Esa vessantaro rājā, samhā raṭṭhā nirajjati.
๑๘๐๒.
1802.
‘‘สตฺต อิตฺถิสเต ทตฺวา, เอกเมกา รเถ ฐิตา;
‘‘Satta itthisate datvā, ekamekā rathe ṭhitā;
สนฺนทฺธา นิกฺขรชฺชูหิ, สุวเณฺณหิ อลงฺกตาฯ
Sannaddhā nikkharajjūhi, suvaṇṇehi alaṅkatā.
๑๘๐๓.
1803.
‘‘ปีตาลงฺการา ปีตวสนา, ปีตาภรณภูสิตา;
‘‘Pītālaṅkārā pītavasanā, pītābharaṇabhūsitā;
อาฬารปมฺหา หสุลา, สุสญฺญา ตนุมชฺฌิมา;
Āḷārapamhā hasulā, susaññā tanumajjhimā;
เอส เวสฺสนฺตรา ราชา, สมฺหา รฎฺฐา นิรชฺชติฯ
Esa vessantarā rājā, samhā raṭṭhā nirajjati.
๑๘๐๔.
1804.
‘‘สตฺต เธนุสเต ทตฺวา, สพฺพา กํสุปธารณา;
‘‘Satta dhenusate datvā, sabbā kaṃsupadhāraṇā;
เอส เวสฺสนฺตโร ราชา, สมฺหา รฎฺฐา นิรชฺชติฯ
Esa vessantaro rājā, samhā raṭṭhā nirajjati.
๑๘๐๕.
1805.
‘‘สตฺต ทาสิสเต ทตฺวา, สตฺต ทาสสตานิ จ;
‘‘Satta dāsisate datvā, satta dāsasatāni ca;
เอส เวสฺสนฺตโร ราชา, สมฺหา รฎฺฐา นิรชฺชติฯ
Esa vessantaro rājā, samhā raṭṭhā nirajjati.
๑๘๐๖.
1806.
‘‘หตฺถี อสฺสรเถ ทตฺวา, นาริโย จ อลงฺกตา;
‘‘Hatthī assarathe datvā, nāriyo ca alaṅkatā;
เอส เวสฺสนฺตโร ราชา, สมฺหา รฎฺฐา นิรชฺชติฯ
Esa vessantaro rājā, samhā raṭṭhā nirajjati.
๑๘๐๗.
1807.
‘‘ตทาสิ ยํ ภิํสนกํ, ตทาสิ โลมหํสนํ;
‘‘Tadāsi yaṃ bhiṃsanakaṃ, tadāsi lomahaṃsanaṃ;
มหาทาเน ปทินฺนมฺหิ, เมทนี สมฺปกมฺปถฯ
Mahādāne padinnamhi, medanī sampakampatha.
๑๘๐๘.
1808.
‘‘ตทาสิ ยํ ภิํสนกํ, ตทาสิ โลมหํสนํ;
‘‘Tadāsi yaṃ bhiṃsanakaṃ, tadāsi lomahaṃsanaṃ;
ยํ ปญฺชลิกโต ราชา, สมฺหา รฎฺฐา นิรชฺชตี’’ติฯ
Yaṃ pañjalikato rājā, samhā raṭṭhā nirajjatī’’ti.
ตตฺถ สิวิกญฺญาติ ภิกฺขเว, ผุสฺสติยา ปริเทวิตสทฺทํ สุตฺวา สพฺพาปิ สญฺชยสฺส สิวิรโญฺญ อิตฺถิโย สมาคตา หุตฺวา ปกฺกนฺทุํ ปริเทวิํสุฯ เวสฺสนฺตรนิเวสเนติ ตตฺถ อิตฺถีนํ ปกฺกนฺทิตสทฺทํ สุตฺวา เวสฺสนฺตรสฺสปิ นิเวสเน ตเถว ปกฺกนฺทิตฺวา ทฺวีสุ ราชกุเลสุ เกจิ สกภาเวน สณฺฐาตุํ อสโกฺกนฺตา วาตเวเคน สมฺปมถิตา สาลา วิย ปติตฺวา ปริวตฺตนฺตา ปริเทวิํสุฯ ตโต รตฺยา วิวสาเนติ ภิกฺขเว, ตโต ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน สูริเย อุคฺคเต ทานเวยฺยาวติกา ‘‘ทานํ ปฎิยาทิต’’นฺติ รโญฺญ อาโรจยิํสุฯ อถ เวสฺสนฺตโร ราชา ปาโตว นฺหตฺวา สพฺพาลงฺการปฺปฎิมณฺฑิโต สาทุรสโภชนํ ภุญฺชิตฺวา มหาชนปริวุโต สตฺตสตกํ มหาทานํ ทาตุํ ทานคฺคํ อุปาคมิฯ
Tattha sivikaññāti bhikkhave, phussatiyā paridevitasaddaṃ sutvā sabbāpi sañjayassa sivirañño itthiyo samāgatā hutvā pakkanduṃ parideviṃsu. Vessantaranivesaneti tattha itthīnaṃ pakkanditasaddaṃ sutvā vessantarassapi nivesane tatheva pakkanditvā dvīsu rājakulesu keci sakabhāvena saṇṭhātuṃ asakkontā vātavegena sampamathitā sālā viya patitvā parivattantā parideviṃsu. Tato ratyā vivasāneti bhikkhave, tato tassā rattiyā accayena sūriye uggate dānaveyyāvatikā ‘‘dānaṃ paṭiyādita’’nti rañño ārocayiṃsu. Atha vessantaro rājā pātova nhatvā sabbālaṅkārappaṭimaṇḍito sādurasabhojanaṃ bhuñjitvā mahājanaparivuto sattasatakaṃ mahādānaṃ dātuṃ dānaggaṃ upāgami.
เทถาติ ตตฺถ คนฺตฺวา สฎฺฐิสหสฺสอมเจฺจ อาณาเปโนฺต เอวมาหฯ วารุณินฺติ ‘‘มชฺชทานํ นาม นิปฺผล’’นฺติ ชานาติ, เอวํ สเนฺตปิ ‘‘สุราโสณฺฑา ทานคฺคํ ปตฺวา ‘เวสฺสนฺตรสฺส ทานเคฺค สุรํ น ลภิมฺหา’ติ วตฺตุํ มา ลภนฺตู’’ติ ทาเปสิฯ วนิพฺพเกติ วนิพฺพกชเนสุ กญฺจิ เอกมฺปิ มา วิเหฐยิตฺถฯ ปฎิปูชิตาติ มยา ปูชิตา หุตฺวา ยถา มํ โถมยมานา คจฺฉนฺติ , ตถา ตุเมฺห กโรถาติ วทติฯ
Dethāti tattha gantvā saṭṭhisahassaamacce āṇāpento evamāha. Vāruṇinti ‘‘majjadānaṃ nāma nipphala’’nti jānāti, evaṃ santepi ‘‘surāsoṇḍā dānaggaṃ patvā ‘vessantarassa dānagge suraṃ na labhimhā’ti vattuṃ mā labhantū’’ti dāpesi. Vanibbaketi vanibbakajanesu kañci ekampi mā viheṭhayittha. Paṭipūjitāti mayā pūjitā hutvā yathā maṃ thomayamānā gacchanti , tathā tumhe karothāti vadati.
อิติ โส สุวณฺณาลงฺการานํ สุวณฺณธชานํ เหมชาลปฺปฎิจฺฉนฺนานํ หตฺถีนํ สตฺตสตานิ จ, ตถารูปานเญฺญว อสฺสานํ สตฺตสตานิ จ, สีหจมฺมาทีหิ ปริกฺขิตฺตานํ นานารตนวิจิตฺรานํ สุวณฺณธชานํ รถานํ สตฺตสตานิ, สพฺพาลงฺการปฺปฎิมณฺฑิตานํ อุตฺตมรูปธรานํ ขตฺติยกญฺญาทีนํ อิตฺถีนํ สตฺตสตานิ, สุวินีตานํ สุสิกฺขิตานํ ทาสานํ สตฺตสตานิ, ตถา ทาสีนํ สตฺตสตานิ, วรอุสภเชฎฺฐกานํ กุโณฺฑปโทหินีนํ เธนูนํ สตฺตสตานิ, อปริมาณานิ ปานโภชนานีติ สตฺตสตกํ มหาทานํ อทาสิฯ ตสฺมิํ เอวํ ทานํ ททมาเน เชตุตฺตรนครวาสิโน ขตฺติยพฺราหฺมณเวสฺสสุทฺทาทโย ‘‘สามิ, เวสฺสนฺตร สิวิรฎฺฐวาสิโน ตํ ‘ทานํ เทตี’ติ ปพฺพาเชนฺติ, ตฺวํ ปุน ทานเมว เทสี’’ติ ปริเทวิํสุฯ เตน วุตฺตํ –
Iti so suvaṇṇālaṅkārānaṃ suvaṇṇadhajānaṃ hemajālappaṭicchannānaṃ hatthīnaṃ sattasatāni ca, tathārūpānaññeva assānaṃ sattasatāni ca, sīhacammādīhi parikkhittānaṃ nānāratanavicitrānaṃ suvaṇṇadhajānaṃ rathānaṃ sattasatāni, sabbālaṅkārappaṭimaṇḍitānaṃ uttamarūpadharānaṃ khattiyakaññādīnaṃ itthīnaṃ sattasatāni, suvinītānaṃ susikkhitānaṃ dāsānaṃ sattasatāni, tathā dāsīnaṃ sattasatāni, varausabhajeṭṭhakānaṃ kuṇḍopadohinīnaṃ dhenūnaṃ sattasatāni, aparimāṇāni pānabhojanānīti sattasatakaṃ mahādānaṃ adāsi. Tasmiṃ evaṃ dānaṃ dadamāne jetuttaranagaravāsino khattiyabrāhmaṇavessasuddādayo ‘‘sāmi, vessantara siviraṭṭhavāsino taṃ ‘dānaṃ detī’ti pabbājenti, tvaṃ puna dānameva desī’’ti parideviṃsu. Tena vuttaṃ –
๑๘๐๙.
1809.
‘‘อเถตฺถ วตฺตตี สโทฺท, ตุมุโล เภรโว มหา;
‘‘Athettha vattatī saddo, tumulo bheravo mahā;
ทาเนน ตํ นีหรนฺติ, ปุน ทานํ อทา ตุว’’นฺติฯ
Dānena taṃ nīharanti, puna dānaṃ adā tuva’’nti.
ทานปฎิคฺคาหกา ปน ทานํ คเหตฺวา ‘‘อิทานิ กิร เวสฺสนฺตโร ราชา อเมฺห อนาเถ กตฺวา อรญฺญํ ปวิสิสฺสติ, อิโต ปฎฺฐาย กสฺส สนฺติกํ คมิสฺสามา’’ติ ฉินฺนปาทา วิย ปตนฺตา อาวตฺตนฺตา ปริวตฺตนฺตา มหาสเทฺทน ปริเทวิํสุฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Dānapaṭiggāhakā pana dānaṃ gahetvā ‘‘idāni kira vessantaro rājā amhe anāthe katvā araññaṃ pavisissati, ito paṭṭhāya kassa santikaṃ gamissāmā’’ti chinnapādā viya patantā āvattantā parivattantā mahāsaddena parideviṃsu. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๑๘๑๐.
1810.
‘‘เต สุ มตฺตา กิลนฺตาว, สมฺปตนฺติ วนิพฺพกา;
‘‘Te su mattā kilantāva, sampatanti vanibbakā;
นิกฺขมเนฺต มหาราเช, สิวีนํ รฎฺฐวฑฺฒเน’’ติฯ
Nikkhamante mahārāje, sivīnaṃ raṭṭhavaḍḍhane’’ti.
ตตฺถ เต สุ มตฺตาติ สุ-กาโร นิปาตมโตฺต, เต วนิพฺพกาติ อโตฺถฯ มตฺตา กิลนฺตาวาติ มตฺตา วิย กิลนฺตา วิย จ หุตฺวาฯ สมฺปตนฺตีติ ปริวตฺติตฺวา ภูมิยํ ปตนฺติฯ อเจฺฉจฺฉุํ วตาติ ฉินฺทิํสุ, วตาติ นิปาตมตฺตํฯ ยถาติ เยน การเณนฯ อติยกฺขาติ ภูตวิชฺชา อิกฺขณิกาปิฯ วสฺสวราติ อุทฺธฎพีชา โอโรธปาลกาฯ วจนเตฺถนาติ วจนการเณนฯ สมฺหา รฎฺฐา นิรชฺชตีติ อตฺตโน รฎฺฐา นิคฺคจฺฉติฯ คามณีเยหีติ หตฺถาจริเยหิฯ อาชานีเยวาติ ชาติสมฺปเนฺน ฯ คามณีเยหีติ อสฺสาจริเยหิฯ อิลฺลิยาจาปธาริภีติ อิลฺลิยญฺจ จาปญฺจ ธาเรเนฺตหิฯ ทีเป อโถปิ เวยฺยเคฺฆติ ทีปิจมฺมพฺยคฺฆจมฺมปริกฺขิเตฺตฯ เอกเมกา รเถ ฐิตาติ โส กิร เอกเมกํ อิตฺถิรตนํ รเถ ฐเปตฺวา อฎฺฐอฎฺฐวณฺณทาสีหิ ปริวุตํ กตฺวา อทาสิฯ
Tattha te su mattāti su-kāro nipātamatto, te vanibbakāti attho. Mattā kilantāvāti mattā viya kilantā viya ca hutvā. Sampatantīti parivattitvā bhūmiyaṃ patanti. Acchecchuṃ vatāti chindiṃsu, vatāti nipātamattaṃ. Yathāti yena kāraṇena. Atiyakkhāti bhūtavijjā ikkhaṇikāpi. Vassavarāti uddhaṭabījā orodhapālakā. Vacanatthenāti vacanakāraṇena. Samhā raṭṭhā nirajjatīti attano raṭṭhā niggacchati. Gāmaṇīyehīti hatthācariyehi. Ājānīyevāti jātisampanne . Gāmaṇīyehīti assācariyehi. Illiyācāpadhāribhīti illiyañca cāpañca dhārentehi. Dīpe athopi veyyaggheti dīpicammabyagghacammaparikkhitte. Ekamekā rathe ṭhitāti so kira ekamekaṃ itthiratanaṃ rathe ṭhapetvā aṭṭhaaṭṭhavaṇṇadāsīhi parivutaṃ katvā adāsi.
นิกฺขรชฺชูหีติ สุวณฺณสุตฺตมเยหิ ปามเงฺคหิฯ อาฬารปมฺหาติ วิสาลกฺขิคณฺฑาฯ หสุลาติ มฺหิตปุพฺพงฺคมกถาฯ สุสญฺญาติ สุโสฺสณิโยฯ ตนุมชฺฌิมาติ กรตลมิว ตนุมชฺฌิมภาคาฯ ตทา ปน เทวตาโย ชมฺพุทีปตเล ราชูนํ ‘‘เวสฺสนฺตโร ราชา มหาทานํ เทตี’’ติ อาโรจยิํสุ, ตสฺมา เต ขตฺติยา เทวตานุภาเวนาคนฺตฺวา ตา คณฺหิตฺวา ปกฺกมิํสุฯ กํสุปธารณาติ อิธ กํสนฺติ รชตสฺส นามํ, รชตมเยน ขีรปฎิจฺฉนภาชเนน สทฺธิเญฺญว อทาสีติ อโตฺถฯ ปทินฺนมฺหีติ ทียมาเนฯ สมฺปกมฺปถาติ ทานเตเชน กมฺปิตฺถฯ ยํ ปญฺชลิกโตติ ยํ โส เวสฺสนฺตโร ราชา มหาทานํ ทตฺวา อญฺชลิํ ปคฺคยฺห อตฺตโน ทานํ นมสฺสมาโน ‘‘สพฺพญฺญุตญฺญาณสฺส เม อิทํ ปจฺจโย โหตู’’ติ ปญฺชลิกโต อโหสิ, ตทาปิ ภีสนกเมว อโหสิ, ตสฺมิํ ขเณ ปถวี กมฺปิตฺถาติ อโตฺถฯ นิรชฺชตีติ เอวํ กตฺวา นิคฺคจฺฉติเยว, น โกจิ นํ นิวาเรตีติ อโตฺถฯ
Nikkharajjūhīti suvaṇṇasuttamayehi pāmaṅgehi. Āḷārapamhāti visālakkhigaṇḍā. Hasulāti mhitapubbaṅgamakathā. Susaññāti sussoṇiyo. Tanumajjhimāti karatalamiva tanumajjhimabhāgā. Tadā pana devatāyo jambudīpatale rājūnaṃ ‘‘vessantaro rājā mahādānaṃ detī’’ti ārocayiṃsu, tasmā te khattiyā devatānubhāvenāgantvā tā gaṇhitvā pakkamiṃsu. Kaṃsupadhāraṇāti idha kaṃsanti rajatassa nāmaṃ, rajatamayena khīrapaṭicchanabhājanena saddhiññeva adāsīti attho. Padinnamhīti dīyamāne. Sampakampathāti dānatejena kampittha. Yaṃ pañjalikatoti yaṃ so vessantaro rājā mahādānaṃ datvā añjaliṃ paggayha attano dānaṃ namassamāno ‘‘sabbaññutaññāṇassa me idaṃ paccayo hotū’’ti pañjalikato ahosi, tadāpi bhīsanakameva ahosi, tasmiṃ khaṇe pathavī kampitthāti attho. Nirajjatīti evaṃ katvā niggacchatiyeva, na koci naṃ nivāretīti attho.
อปิจ โข ตสฺส ทานํ ททนฺตเสฺสว สายํ อโหสิฯ โส อตฺตโน นิเวสนเมว คนฺตฺวา ‘‘มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา เสฺว คมิสฺสามี’’ติ จิเนฺตตฺวา อลงฺกตรเถน มาตาปิตูนํ วสนฎฺฐานํ คโตฯ มทฺทีเทวีปิ ‘‘อหํ สามินา สทฺธิํ คนฺตฺวา มาตาปิตโร อนุชานาเปสฺสามี’’ติ เตเนว สทฺธิํ คตาฯ มหาสโตฺต ปิตรํ วนฺทิตฺวา อตฺตโน คมนภาวํ กเถสิฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Apica kho tassa dānaṃ dadantasseva sāyaṃ ahosi. So attano nivesanameva gantvā ‘‘mātāpitaro vanditvā sve gamissāmī’’ti cintetvā alaṅkatarathena mātāpitūnaṃ vasanaṭṭhānaṃ gato. Maddīdevīpi ‘‘ahaṃ sāminā saddhiṃ gantvā mātāpitaro anujānāpessāmī’’ti teneva saddhiṃ gatā. Mahāsatto pitaraṃ vanditvā attano gamanabhāvaṃ kathesi. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๑๘๑๑.
1811.
‘‘อามนฺตยิตฺถ ราชานํ, สญฺชยํ ธมฺมินํ วรํ;
‘‘Āmantayittha rājānaṃ, sañjayaṃ dhamminaṃ varaṃ;
อวรุทฺธสิ มํ เทว, วงฺกํ คจฺฉามิ ปพฺพตํฯ
Avaruddhasi maṃ deva, vaṅkaṃ gacchāmi pabbataṃ.
๑๘๑๒.
1812.
‘‘เย หิ เกจิ มหาราช, ภูตา เย จ ภวิสฺสเร;
‘‘Ye hi keci mahārāja, bhūtā ye ca bhavissare;
อติตฺตาเยว กาเมหิ, คจฺฉนฺติ ยมสาธนํฯ
Atittāyeva kāmehi, gacchanti yamasādhanaṃ.
๑๘๑๓.
1813.
‘‘สฺวาหํ สเก อภิสฺสสิํ, ยชมาโน สเก ปุเร;
‘‘Svāhaṃ sake abhissasiṃ, yajamāno sake pure;
สิวีนํ วจนเตฺถน, สมฺหา รฎฺฐา นิรชฺชหํฯ
Sivīnaṃ vacanatthena, samhā raṭṭhā nirajjahaṃ.
๑๘๑๔.
1814.
‘‘อฆํ ตํ ปฎิเสวิสฺสํ, วเน วาฬมิคากิเณฺณ;
‘‘Aghaṃ taṃ paṭisevissaṃ, vane vāḷamigākiṇṇe;
ขคฺคทีปินิเสวิเต, อหํ ปุญฺญานิ กโรมิ;
Khaggadīpinisevite, ahaṃ puññāni karomi;
ตุเมฺห ปงฺกมฺหิ สีทถา’’ติฯ
Tumhe paṅkamhi sīdathā’’ti.
ตตฺถ ธมฺมินํ วรนฺติ ธมฺมิกราชูนํ อนฺตเร อุตฺตมํฯ อวรุทฺธสีติ รฎฺฐา นีหรสิฯ ภูตาติ อตีตาฯ ภวิสฺสเรติ เย จ อนาคเต ภวิสฺสนฺติ , ปจฺจุปฺปเนฺน จ นิพฺพตฺตาฯ ยมสาธนนฺติ ยมรโญฺญ อาณาปวตฺติฎฺฐานํฯ สฺวาหํ สเก อภิสฺสสินฺติ โส อหํ อตฺตโน นครวาสิโนเยว ปีเฬสิํฯ กิํ กโรโนฺต? ยชมาโน สเก ปุเรติฯ ปาฬิยํ ปน ‘‘โส อห’’นฺติ ลิขิตํฯ นิรชฺชหนฺติ นิกฺขโนฺต อหํฯ อฆํ ตนฺติ ยํ อรเญฺญ วสเนฺตน ปฎิเสวิตพฺพํ ทุกฺขํ, ตํ ปฎิเสวิสฺสามิฯ ปงฺกมฺหีติ ตุเมฺห ปน กามปงฺกมฺหิ สีทถาติ วทติฯ
Tattha dhamminaṃ varanti dhammikarājūnaṃ antare uttamaṃ. Avaruddhasīti raṭṭhā nīharasi. Bhūtāti atītā. Bhavissareti ye ca anāgate bhavissanti , paccuppanne ca nibbattā. Yamasādhananti yamarañño āṇāpavattiṭṭhānaṃ. Svāhaṃ sake abhissasinti so ahaṃ attano nagaravāsinoyeva pīḷesiṃ. Kiṃ karonto? Yajamāno sake pureti. Pāḷiyaṃ pana ‘‘so aha’’nti likhitaṃ. Nirajjahanti nikkhanto ahaṃ. Aghaṃ tanti yaṃ araññe vasantena paṭisevitabbaṃ dukkhaṃ, taṃ paṭisevissāmi. Paṅkamhīti tumhe pana kāmapaṅkamhi sīdathāti vadati.
อิติ มหาสโตฺต อิมาหิ จตูหิ คาถาหิ ปิตรา สทฺธิํ กเถตฺวา มาตุ สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ปพฺพชฺชํ อนุชานาเปโนฺต เอวมาห –
Iti mahāsatto imāhi catūhi gāthāhi pitarā saddhiṃ kathetvā mātu santikaṃ gantvā vanditvā pabbajjaṃ anujānāpento evamāha –
๑๘๑๕.
1815.
‘‘อนุชานาหิ มํ อมฺม, ปพฺพชฺชา มม รุจฺจติ;
‘‘Anujānāhi maṃ amma, pabbajjā mama ruccati;
สฺวาหํ สเก อภิสฺสสิํ, ยชมาโน สเก ปุเร;
Svāhaṃ sake abhissasiṃ, yajamāno sake pure;
สิวีนํ วจนเตฺถน, สมฺหา รฎฺฐา นิรชฺชหํฯ
Sivīnaṃ vacanatthena, samhā raṭṭhā nirajjahaṃ.
๑๘๑๖.
1816.
‘‘อฆํ ตํ ปฎิเสวิสฺสํ, วเน วาฬมิคากิเณฺณ;
‘‘Aghaṃ taṃ paṭisevissaṃ, vane vāḷamigākiṇṇe;
ขคฺคทีปินิเสวิเต, อหํ ปุญฺญานิ กโรมิ;
Khaggadīpinisevite, ahaṃ puññāni karomi;
ตุเมฺห ปงฺกมฺหิ สีทถา’’ติฯ
Tumhe paṅkamhi sīdathā’’ti.
ตํ สุตฺวา ผุสฺสตี อาห –
Taṃ sutvā phussatī āha –
๑๘๑๗.
1817.
‘‘อนุชานามิ ตํ ปุตฺต, ปพฺพชฺชา เต สมิชฺฌตุ;
‘‘Anujānāmi taṃ putta, pabbajjā te samijjhatu;
อยญฺจ มทฺที กลฺยาณี, สุสญฺญา ตนุมชฺฌิมา;
Ayañca maddī kalyāṇī, susaññā tanumajjhimā;
อจฺฉตํ สห ปุเตฺตหิ, กิํ อรเญฺญ กริสฺสตี’’ติฯ
Acchataṃ saha puttehi, kiṃ araññe karissatī’’ti.
ตตฺถ สมิชฺฌตูติ ฌาเนน สมิทฺธา โหตุฯ อจฺฉตนฺติ อจฺฉตุ, อิเธว โหตูติ วทติฯ
Tattha samijjhatūti jhānena samiddhā hotu. Acchatanti acchatu, idheva hotūti vadati.
เวสฺสนฺตโร อาห –
Vessantaro āha –
๑๘๑๘.
1818.
‘‘นาหํ อกามา ทาสิมฺปิ, อรญฺญํ เนตุมุสฺสเห;
‘‘Nāhaṃ akāmā dāsimpi, araññaṃ netumussahe;
สเจ อิจฺฉติ อเนฺวตุ, สเจ นิจฺฉติ อจฺฉตู’’ติฯ
Sace icchati anvetu, sace nicchati acchatū’’ti.
ตตฺถ อกามาติ อมฺม, กิํ นาเมตํ กเถถ, อหํ อนิจฺฉาย ทาสิมฺปิ เนตุํ น อุสฺสหามีติฯ
Tattha akāmāti amma, kiṃ nāmetaṃ kathetha, ahaṃ anicchāya dāsimpi netuṃ na ussahāmīti.
ตโต ปุตฺตสฺส กถํ สุตฺวา ราชา สุณฺหํ ยาจิตุํ ปฎิปชฺชิฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Tato puttassa kathaṃ sutvā rājā suṇhaṃ yācituṃ paṭipajji. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๑๘๑๙.
1819.
‘‘ตโต สุณฺหํ มหาราชา, ยาจิตุํ ปฎิปชฺชถ;
‘‘Tato suṇhaṃ mahārājā, yācituṃ paṭipajjatha;
มา จนฺทนสมาจาเร, รโชชลฺลํ อธารยิฯ
Mā candanasamācāre, rajojallaṃ adhārayi.
๑๘๒๐.
1820.
‘‘มา กาสิยานิ ธาเรตฺวา, กุสจีรํ อธารยิ;
‘‘Mā kāsiyāni dhāretvā, kusacīraṃ adhārayi;
ทุโกฺข วาโส อรญฺญสฺมิํ, มา หิ ตฺวํ ลกฺขเณ คมี’’ติฯ
Dukkho vāso araññasmiṃ, mā hi tvaṃ lakkhaṇe gamī’’ti.
ตตฺถ ปฎิปชฺชถาติ ภิกฺขเว, ปุตฺตสฺส กถํ สุตฺวา ราชา สุณฺหํ ยาจิตุํ ปฎิปชฺชิฯ จนฺทนสมาจาเรติ โลหิตจนฺทเนน ปริกิณฺณสรีเรฯ มา หิ ตฺวํ ลกฺขเณ คมีติ สุภลกฺขเณน สมนฺนาคเต มา ตฺวํ อรญฺญํ คมีติฯ
Tattha paṭipajjathāti bhikkhave, puttassa kathaṃ sutvā rājā suṇhaṃ yācituṃ paṭipajji. Candanasamācāreti lohitacandanena parikiṇṇasarīre. Mā hi tvaṃ lakkhaṇe gamīti subhalakkhaṇena samannāgate mā tvaṃ araññaṃ gamīti.
๑๘๒๑.
1821.
‘‘ตมพฺรวิ ราชปุตฺตี, มทฺที สพฺพงฺคโสภนา;
‘‘Tamabravi rājaputtī, maddī sabbaṅgasobhanā;
นาหํ ตํ สุขมิเจฺฉยฺยํ, ยํ เม เวสฺสนฺตรํ วินา’’ติฯ
Nāhaṃ taṃ sukhamiccheyyaṃ, yaṃ me vessantaraṃ vinā’’ti.
ตตฺถ ตมพฺรวีติ ตํ สสุรํ อพฺรวิฯ
Tattha tamabravīti taṃ sasuraṃ abravi.
๑๘๒๒.
1822.
‘‘ตมพฺรวิ มหาราชา, สิวีนํ รฎฺฐวฑฺฒโน;
‘‘Tamabravi mahārājā, sivīnaṃ raṭṭhavaḍḍhano;
อิงฺฆ มทฺทิ นิสาเมหิ, วเน เย โหนฺติ ทุสฺสหาฯ
Iṅgha maddi nisāmehi, vane ye honti dussahā.
๑๘๒๓.
1823.
‘‘พหู กีฎา ปฎงฺคา จ, มกสา มธุมกฺขิกา;
‘‘Bahū kīṭā paṭaṅgā ca, makasā madhumakkhikā;
เตปิ ตํ ตตฺถ หิํ เสยฺยุํ, ตํ เต ทุกฺขตรํ สิยาฯ
Tepi taṃ tattha hiṃ seyyuṃ, taṃ te dukkhataraṃ siyā.
๑๘๒๔.
1824.
‘‘อปเร ปสฺส สนฺตาเป, นทีนุปนิเสวิเต;
‘‘Apare passa santāpe, nadīnupanisevite;
สปฺปา อชครา นาม, อวิสา เต มหพฺพลาฯ
Sappā ajagarā nāma, avisā te mahabbalā.
๑๘๒๕.
1825.
‘‘เต มนุสฺสํ มิคํ วาปิ, อปิ มาสนฺนมาคตํ;
‘‘Te manussaṃ migaṃ vāpi, api māsannamāgataṃ;
ปริกฺขิปิตฺวา โภเคหิ, วสมาเนนฺติ อตฺตโนฯ
Parikkhipitvā bhogehi, vasamānenti attano.
๑๘๒๖.
1826.
‘‘อเญฺญปิ กณฺหชฎิโน, อจฺฉา นาม อฆมฺมิคา;
‘‘Aññepi kaṇhajaṭino, acchā nāma aghammigā;
น เตหิ ปุริโส ทิโฎฺฐ, รุกฺขมารุยฺห มุจฺจติฯ
Na tehi puriso diṭṭho, rukkhamāruyha muccati.
๑๘๒๗.
1827.
‘‘สงฺฆฎฺฎยนฺตา สิงฺคานิ, ติกฺขคฺคาติปฺปหาริโน;
‘‘Saṅghaṭṭayantā siṅgāni, tikkhaggātippahārino;
มหิํสา วิจรเนฺตตฺถ, นทิํ โสตุมฺพรํ ปติฯ
Mahiṃsā vicarantettha, nadiṃ sotumbaraṃ pati.
๑๘๒๘.
1828.
‘‘ทิสฺวา มิคานํ ยูถานํ, ควํ สญฺจรตํ วเน;
‘‘Disvā migānaṃ yūthānaṃ, gavaṃ sañcarataṃ vane;
เธนุว วจฺฉคิทฺธาว, กถํ มทฺทิ กริสฺสสิฯ
Dhenuva vacchagiddhāva, kathaṃ maddi karissasi.
๑๘๒๙.
1829.
‘‘ทิสฺวา สมฺปติเต โฆเร, ทุมเคฺคสุ ปฺลวงฺคเม;
‘‘Disvā sampatite ghore, dumaggesu plavaṅgame;
อเขตฺตญฺญาย เต มทฺทิ, ภวิสฺสเต มหพฺภยํฯ
Akhettaññāya te maddi, bhavissate mahabbhayaṃ.
๑๘๓๐.
1830.
‘‘ยา ตฺวํ สิวาย สุตฺวาน, มุหุํ อุตฺตสยี ปุเร;
‘‘Yā tvaṃ sivāya sutvāna, muhuṃ uttasayī pure;
สา ตฺวํ วงฺกมนุปฺปตฺตา, กถํ มทฺทิ กริสฺสสิฯ
Sā tvaṃ vaṅkamanuppattā, kathaṃ maddi karissasi.
๑๘๓๑.
1831.
‘‘ฐิเต มชฺฌนฺหิเก กาเล, สนฺนิสิเนฺนสุ ปกฺขิสุ;
‘‘Ṭhite majjhanhike kāle, sannisinnesu pakkhisu;
สณเตว พฺรหารญฺญํ, ตตฺถ กิํ คนฺตุมิจฺฉสี’’ติฯ
Saṇateva brahāraññaṃ, tattha kiṃ gantumicchasī’’ti.
ตตฺถ ตมพฺรวีติ ตํ สุณฺหํ อพฺรวิฯ อปเร ปสฺส สนฺตาเปติ อเญฺญปิ สนฺตาเป ภยชนเก เปกฺขฯ นทีนุปนิเสวิเตติ นทีนํ อุปนิเสวิเต อาสนฺนฎฺฐาเน, นทีกูเล วสเนฺตติ อโตฺถฯ อวิสาติ นิพฺพิสาฯ อปิ มาสนฺนนฺติ อาสนฺนํ อตฺตโน สรีรสมฺผสฺสํ อาคตนฺติ อโตฺถฯ อฆมฺมิคาติ อฆกรา มิคา, ทุกฺขาวหา มิคาติ อโตฺถฯ นทิํ โสตุมฺพรํ ปตีติ โสตุมฺพราย นาม นทิยา ตีเรฯ ยูถานนฺติ ยูถานิ, อยเมว วา ปาโฐฯ เธนุว วจฺฉคิทฺธาวาติ ตว ทารเก อปสฺสนฺตี วจฺฉคิทฺธา เธนุ วิย กถํ กริสฺสสิฯ ว-กาโร ปเนตฺถ นิปาตมโตฺตวฯ สมฺปติเตติ สมฺปตเนฺตฯ โฆเรติ ภีสนเก วิรูเปฯ ปฺลวงฺคเมติ มกฺกเฎฯ อเขตฺตญฺญายาติ อรญฺญภูมิอกุสลตายฯ ภวิสฺสเตติ ภวิสฺสติฯ สิวาย สุตฺวานาติ สิงฺคาลิยา สทฺทํ สุตฺวาฯ มุหุนฺติ ปุนปฺปุนํฯ อุตฺตสยีติ อุตฺตสสิฯ สณเตวาติ นทติ วิย สณนฺตํ วิย ภวิสฺสติฯ
Tattha tamabravīti taṃ suṇhaṃ abravi. Apare passa santāpeti aññepi santāpe bhayajanake pekkha. Nadīnupaniseviteti nadīnaṃ upanisevite āsannaṭṭhāne, nadīkūle vasanteti attho. Avisāti nibbisā. Api māsannanti āsannaṃ attano sarīrasamphassaṃ āgatanti attho. Aghammigāti aghakarā migā, dukkhāvahā migāti attho. Nadiṃ sotumbaraṃ patīti sotumbarāya nāma nadiyā tīre. Yūthānanti yūthāni, ayameva vā pāṭho. Dhenuva vacchagiddhāvāti tava dārake apassantī vacchagiddhā dhenu viya kathaṃ karissasi. Va-kāro panettha nipātamattova. Sampatiteti sampatante. Ghoreti bhīsanake virūpe. Plavaṅgameti makkaṭe. Akhettaññāyāti araññabhūmiakusalatāya. Bhavissateti bhavissati. Sivāya sutvānāti siṅgāliyā saddaṃ sutvā. Muhunti punappunaṃ. Uttasayīti uttasasi. Saṇatevāti nadati viya saṇantaṃ viya bhavissati.
๑๘๓๒.
1832.
‘‘ตมพฺรวิ ราชปุตฺตี, มทฺที สพฺพงฺคโสภนา;
‘‘Tamabravi rājaputtī, maddī sabbaṅgasobhanā;
ยานิ เอตานิ อกฺขาสิ, วเน ปฎิภยานิ เม;
Yāni etāni akkhāsi, vane paṭibhayāni me;
สพฺพานิ อภิสโมฺภสฺสํ, คจฺฉเญฺญว รเถสภฯ
Sabbāni abhisambhossaṃ, gacchaññeva rathesabha.
๑๘๓๓.
1833.
‘‘กาสํ กุสํ โปฎกิลํ, อุสิรํ มุญฺจปพฺพชํ;
‘‘Kāsaṃ kusaṃ poṭakilaṃ, usiraṃ muñcapabbajaṃ;
อุรสา ปนุทหิสฺสามิ, นสฺส เหสฺสามิ ทุนฺนยาฯ
Urasā panudahissāmi, nassa hessāmi dunnayā.
๑๘๓๔.
1834.
‘‘พหูหิ วต จริยาหิ, กุมารี วินฺทเต ปติํ;
‘‘Bahūhi vata cariyāhi, kumārī vindate patiṃ;
อุทรสฺสุปโรเธน, โคหนุเวฐเนน จฯ
Udarassuparodhena, gohanuveṭhanena ca.
๑๘๓๕.
1835.
‘‘อคฺคิสฺส ปาริจริยาย, อุทกุมฺมุชฺชเนน จ;
‘‘Aggissa pāricariyāya, udakummujjanena ca;
เวธพฺยํ กฎุกํ โลเก, คจฺฉเญฺญว รเถสภฯ
Vedhabyaṃ kaṭukaṃ loke, gacchaññeva rathesabha.
๑๘๓๖.
1836.
‘‘อปิสฺสา โหติ อปฺปโตฺต, อุจฺฉิฎฺฐมปิ ภุญฺชิตุํ;
‘‘Apissā hoti appatto, ucchiṭṭhamapi bhuñjituṃ;
โย นํ หเตฺถ คเหตฺวาน, อกามํ ปริกฑฺฒติ;
Yo naṃ hatthe gahetvāna, akāmaṃ parikaḍḍhati;
เวธพฺยํ กฎุกํ โลเก, คจฺฉเญฺญว รเถสภฯ
Vedhabyaṃ kaṭukaṃ loke, gacchaññeva rathesabha.
๑๘๓๗.
1837.
‘‘เกสคฺคหณมุเกฺขปา, ภูมฺยา จ ปริสุมฺภนา;
‘‘Kesaggahaṇamukkhepā, bhūmyā ca parisumbhanā;
ทตฺวา จ โน ปกฺกมติ, พหุํ ทุกฺขํ อนปฺปกํ;
Datvā ca no pakkamati, bahuṃ dukkhaṃ anappakaṃ;
เวธพฺยํ กฎุกํ โลเก, คจฺฉเญฺญว รเถสภฯ
Vedhabyaṃ kaṭukaṃ loke, gacchaññeva rathesabha.
๑๘๓๘.
1838.
‘‘สุกฺกจฺฉวี เวธเวรา, ทตฺวา สุภคมานิโน;
‘‘Sukkacchavī vedhaverā, datvā subhagamānino;
อกามํ ปริกฑฺฒนฺติ, อุลูกเญฺญว วายสา;
Akāmaṃ parikaḍḍhanti, ulūkaññeva vāyasā;
เวธพฺยํ กฎุกํ โลเก, คจฺฉเญฺญว รเถสภฯ
Vedhabyaṃ kaṭukaṃ loke, gacchaññeva rathesabha.
๑๘๓๙.
1839.
‘‘อปิ ญาติกุเล ผีเต, กํสปโชฺชตเน วสํ;
‘‘Api ñātikule phīte, kaṃsapajjotane vasaṃ;
เนวาติวากฺยํ น ลเภ, ภาตูหิ สขินีหิปิ;
Nevātivākyaṃ na labhe, bhātūhi sakhinīhipi;
เวธพฺยํ กฎุกํ โลเก, คจฺฉเญฺญว รเถสภฯ
Vedhabyaṃ kaṭukaṃ loke, gacchaññeva rathesabha.
๑๘๔๐.
1840.
‘‘นคฺคา นที อนุทกา, นคฺคํ รฎฺฐํ อราชกํ;
‘‘Naggā nadī anudakā, naggaṃ raṭṭhaṃ arājakaṃ;
อิตฺถีปิ วิธวา นคฺคา, ยสฺสาปิ ทส ภาตโร;
Itthīpi vidhavā naggā, yassāpi dasa bhātaro;
เวธพฺยํ กฎุกํ โลเก, คจฺฉเญฺญว รเถสภฯ
Vedhabyaṃ kaṭukaṃ loke, gacchaññeva rathesabha.
๑๘๔๑.
1841.
‘‘ธโช รถสฺส ปญฺญาณํ, ธูโม ปญฺญาณมคฺคิโน;
‘‘Dhajo rathassa paññāṇaṃ, dhūmo paññāṇamaggino;
ราชา รฎฺฐสฺส ปญฺญาณํ, ภตฺตา ปญฺญาณมิตฺถิยา;
Rājā raṭṭhassa paññāṇaṃ, bhattā paññāṇamitthiyā;
เวธพฺยํ กฎุกํ โลเก, คจฺฉเญฺญว รเถสภฯ
Vedhabyaṃ kaṭukaṃ loke, gacchaññeva rathesabha.
๑๘๔๒.
1842.
‘‘ยา ทลิทฺที ทลิทฺทสฺส, อฑฺฒา อฑฺฒสฺส กิตฺติมา;
‘‘Yā daliddī daliddassa, aḍḍhā aḍḍhassa kittimā;
ตํ เว เทวา ปสํสนฺติ, ทุกฺกรญฺหิ กโรติ สาฯ
Taṃ ve devā pasaṃsanti, dukkarañhi karoti sā.
๑๘๔๓.
1843.
‘‘สามิกํ อนุพนฺธิสฺสํ, สทา กาสายวาสินี;
‘‘Sāmikaṃ anubandhissaṃ, sadā kāsāyavāsinī;
ปถพฺยาปิ อภิชฺชนฺตฺยา, เวธพฺยํ กฎุกิตฺถิยาฯ
Pathabyāpi abhijjantyā, vedhabyaṃ kaṭukitthiyā.
๑๘๔๔.
1844.
‘‘อปิ สาครปริยนฺตํ, พหุวิตฺตธรํ มหิํ;
‘‘Api sāgarapariyantaṃ, bahuvittadharaṃ mahiṃ;
นานารตนปริปูรํ, นิเจฺฉ เวสฺสนฺตรํ วินาฯ
Nānāratanaparipūraṃ, nicche vessantaraṃ vinā.
๑๘๔๕.
1845.
‘‘กถํ นุ ตาสํ หทยํ, สุขรา วต อิตฺถิโย;
‘‘Kathaṃ nu tāsaṃ hadayaṃ, sukharā vata itthiyo;
ยา สามิเก ทุกฺขิตมฺหิ, สุขมิจฺฉนฺติ อตฺตโนฯ
Yā sāmike dukkhitamhi, sukhamicchanti attano.
๑๘๔๖.
1846.
‘‘นิกฺขมเนฺต มหาราเช, สิวีนํ รฎฺฐวฑฺฒเน;
‘‘Nikkhamante mahārāje, sivīnaṃ raṭṭhavaḍḍhane;
ตมหํ อนุพนฺธิสฺสํ, สพฺพกามทโท หิ เม’’ติฯ
Tamahaṃ anubandhissaṃ, sabbakāmadado hi me’’ti.
ตตฺถ ตมพฺรวีติ ภิกฺขเว, มทฺที รโญฺญ วจนํ สุตฺวา ตํ ราชานํ อพฺรวิฯ อภิสโมฺภสฺสนฺติ สหิสฺสามิ อธิวาเสสฺสามิฯ โปฎกิลนฺติ โปฎกิลติณํฯ ปนุทหิสฺสามีติ เทฺวธา กตฺวา เวสฺสนฺตรสฺส ปุรโต คมิสฺสามิฯ อุทรสฺสุปโรเธนาติ อุปวาเสน ขุทาธิวาเสนฯ โคหนุเวฐเนน จาติ วิสาลกฎิโย โอนตปสฺสา จ อิตฺถิโย สามิกํ ลภนฺตีติ กตฺวา โคหนุนา กฎิผลกํ โกฎฺฎาเปตฺวา เวฐเนน จ ปสฺสานิ โอนาเมตฺวา กุมาริกา ปติํ ลภติฯ กฎุกนฺติ อสาตํฯ คจฺฉเญฺญวาติ คมิสฺสามิเยวฯ
Tattha tamabravīti bhikkhave, maddī rañño vacanaṃ sutvā taṃ rājānaṃ abravi. Abhisambhossanti sahissāmi adhivāsessāmi. Poṭakilanti poṭakilatiṇaṃ. Panudahissāmīti dvedhā katvā vessantarassa purato gamissāmi. Udarassuparodhenāti upavāsena khudādhivāsena. Gohanuveṭhanena cāti visālakaṭiyo onatapassā ca itthiyo sāmikaṃ labhantīti katvā gohanunā kaṭiphalakaṃ koṭṭāpetvā veṭhanena ca passāni onāmetvā kumārikā patiṃ labhati. Kaṭukanti asātaṃ. Gacchaññevāti gamissāmiyeva.
อปิสฺสา โหติ อปฺปโตฺตติ ตสฺสา วิธวาย อุจฺฉิฎฺฐกมฺปิ ภุญฺชิตุํ อนนุจฺฉวิโกวฯ โย นนฺติ โย นีจชโจฺจ ตํ วิธวํ อนิจฺฉมานเญฺญว หเตฺถ คเหตฺวา กฑฺฒติฯ เกสคฺคหณมุเกฺขปา, ภูมฺยา จ ปริสุมฺภนาติ อสามิกํ อิตฺถิํ หตฺถปาเทหิ เกสคฺคหณํ, อุเกฺขปา, ภูมิยํ ปาตนนฺติ เอตานิ อวมญฺญนานิ กตฺวา อติกฺกมนฺติฯ ทตฺวา จาติ อสามิกาย อิตฺถิยา เอวรูปํ พหุํ อนปฺปกํ ทุกฺขํ ปรปุริโส ทตฺวา จ โน ปกฺกมติ นิราสโงฺก โอโลเกโนฺตว ติฎฺฐติฯ
Apissā hoti appattoti tassā vidhavāya ucchiṭṭhakampi bhuñjituṃ ananucchavikova. Yo nanti yo nīcajacco taṃ vidhavaṃ anicchamānaññeva hatthe gahetvā kaḍḍhati. Kesaggahaṇamukkhepā, bhūmyā ca parisumbhanāti asāmikaṃ itthiṃ hatthapādehi kesaggahaṇaṃ, ukkhepā, bhūmiyaṃ pātananti etāni avamaññanāni katvā atikkamanti. Datvā cāti asāmikāya itthiyā evarūpaṃ bahuṃ anappakaṃ dukkhaṃ parapuriso datvā ca no pakkamati nirāsaṅko olokentova tiṭṭhati.
สุกฺกจฺฉวีติ นฺหานียจุเณฺณน อุฎฺฐาปิตจฺฉวิวณฺณาฯ เวธเวราติ วิธวิตฺถิกามา ปุริสาฯ ทตฺวาติ กิญฺจิเทว อปฺปมตฺตกํ ธนํ ทตฺวาฯ สุภคมานิโนติ มยํ สุภคาติ มญฺญมานาฯ อกามนฺติ ตํ วิธวํ อสามิกํ อกามํฯ อุลูกเญฺญว วายสาติ กากา วิยอุลูกํ ปริกฑฺฒนฺติฯ กํสปโชฺชตเนติ สุวณฺณภาชนาภาย ปโชฺชตเนฺตฯ วสนฺติ เอวรูเปปิ ญาติกุเล วสมานาฯ เนวาติวากฺยํ น ลเภติ ‘‘อยํ อิตฺถี นิสฺสามิกา, ยาวชีวํ อมฺหากเญฺญว ภาโร ชาโต’’ติอาทีนิ วจนานิ วทเนฺตหิ ภาตูหิปิ สขินีหิปิ อติวากฺยํ ครหวจนํ เนว น ลภติฯ ปญฺญาณนฺติ ปากฎภาวการณํฯ
Sukkacchavīti nhānīyacuṇṇena uṭṭhāpitacchavivaṇṇā. Vedhaverāti vidhavitthikāmā purisā. Datvāti kiñcideva appamattakaṃ dhanaṃ datvā. Subhagamāninoti mayaṃ subhagāti maññamānā. Akāmanti taṃ vidhavaṃ asāmikaṃ akāmaṃ. Ulūkaññeva vāyasāti kākā viyaulūkaṃ parikaḍḍhanti. Kaṃsapajjotaneti suvaṇṇabhājanābhāya pajjotante. Vasanti evarūpepi ñātikule vasamānā. Nevātivākyaṃ na labheti ‘‘ayaṃ itthī nissāmikā, yāvajīvaṃ amhākaññeva bhāro jāto’’tiādīni vacanāni vadantehi bhātūhipi sakhinīhipi ativākyaṃ garahavacanaṃ neva na labhati. Paññāṇanti pākaṭabhāvakāraṇaṃ.
ยา ทลิทฺที ทลิทฺทสฺสาติ เทว, กิตฺติสมฺปนฺนา ยา อิตฺถี อตฺตโน สามิกสฺส ทลิทฺทสฺส ทุกฺขปฺปตฺตกาเล สยมฺปิ ทลิทฺที สมานา ทุกฺขาว โหติ, ตสฺส อฑฺฒกาเล เตเนว สทฺธิํ อฑฺฒา สุขปฺปตฺตา โหติ, ตํ เว เทวา ปสํสนฺติฯ อภิชฺชนฺตฺยาติ อภิชฺชนฺติยาฯ สเจปิ หิ อิตฺถิยา สกลปถวี น ภิชฺชติ, ตาย สกลาย ปถวิยา สาว อิสฺสรา โหติ, ตถาปิ เวธพฺยํ กฎุกเมวาติ อโตฺถฯ สุขรา วต อิตฺถิโยติ สุฎฺฐุ ขรา วต อิตฺถิโยฯ
Yādaliddī daliddassāti deva, kittisampannā yā itthī attano sāmikassa daliddassa dukkhappattakāle sayampi daliddī samānā dukkhāva hoti, tassa aḍḍhakāle teneva saddhiṃ aḍḍhā sukhappattā hoti, taṃ ve devā pasaṃsanti. Abhijjantyāti abhijjantiyā. Sacepi hi itthiyā sakalapathavī na bhijjati, tāya sakalāya pathaviyā sāva issarā hoti, tathāpi vedhabyaṃ kaṭukamevāti attho. Sukharā vata itthiyoti suṭṭhu kharā vata itthiyo.
๑๘๔๗.
1847.
‘‘ตมพฺรวิ มหาราชา, มทฺทิํ สพฺพงฺคโสภนํ;
‘‘Tamabravi mahārājā, maddiṃ sabbaṅgasobhanaṃ;
อิเม เต ทหรา ปุตฺตา, ชาลี กณฺหาชินา จุโภ;
Ime te daharā puttā, jālī kaṇhājinā cubho;
นิกฺขิปฺป ลกฺขเณ คจฺฉ, มยํ เต โปสยามเส’’ติฯ
Nikkhippa lakkhaṇe gaccha, mayaṃ te posayāmase’’ti.
ตตฺถ ชาลี กณฺหาชินา จุโภติ ชาลี จ กณฺหาชินา จาติ อุโภฯ นิกฺขิปฺปาติ อิเม นิกฺขิปิตฺวา คจฺฉาหีติฯ
Tattha jālī kaṇhājinā cubhoti jālī ca kaṇhājinā cāti ubho. Nikkhippāti ime nikkhipitvā gacchāhīti.
๑๘๔๘.
1848.
‘‘ตมพฺรวิ ราชปุตฺตี, มทฺที สพฺพงฺคโสภนา;
‘‘Tamabravi rājaputtī, maddī sabbaṅgasobhanā;
ปิยา เม ปุตฺตกา เทว, ชาลี กณฺหาชินา จุโภ;
Piyā me puttakā deva, jālī kaṇhājinā cubho;
ตฺยมฺหํ ตตฺถ รเมสฺสนฺติ, อรเญฺญ ชีวโสกิน’’นฺติฯ
Tyamhaṃ tattha ramessanti, araññe jīvasokina’’nti.
ตตฺถ ตฺยมฺหนฺติ เต ทารกา อมฺหากํ ตตฺถ อรเญฺญฯ ชีวโสกินนฺติ อวิคตโสกานํ หทยํ รมยิสฺสนฺตีติ อโตฺถฯ
Tattha tyamhanti te dārakā amhākaṃ tattha araññe. Jīvasokinanti avigatasokānaṃ hadayaṃ ramayissantīti attho.
๑๘๔๙.
1849.
‘‘ตมพฺรวิ มหาราชา, สิวีนํ รฎฺฐวฑฺฒโน;
‘‘Tamabravi mahārājā, sivīnaṃ raṭṭhavaḍḍhano;
สาลีนํ โอทนํ ภุตฺวา, สุจิํ มํสูปเสจนํ;
Sālīnaṃ odanaṃ bhutvā, suciṃ maṃsūpasecanaṃ;
รุกฺขผลานิ ภุญฺชนฺตา, กถํ กาหนฺติ ทารกาฯ
Rukkhaphalāni bhuñjantā, kathaṃ kāhanti dārakā.
๑๘๕๐.
1850.
‘‘ภุตฺวา สตปเล กํเส, โสวเณฺณ สตราชิเก;
‘‘Bhutvā satapale kaṃse, sovaṇṇe satarājike;
รุกฺขปเตฺตสุ ภุญฺชนฺตา, กถํ กาหนฺติ ทารกาฯ
Rukkhapattesu bhuñjantā, kathaṃ kāhanti dārakā.
๑๘๕๑.
1851.
‘‘กาสิยานิ จ ธาเรตฺวา, โขมโกฎุมฺพรานิ จ;
‘‘Kāsiyāni ca dhāretvā, khomakoṭumbarāni ca;
กุสจีรานิ ธาเรนฺตา, กถํ กาหนฺติ ทารกาฯ
Kusacīrāni dhārentā, kathaṃ kāhanti dārakā.
๑๘๕๒.
1852.
‘‘วยฺหาหิ ปริยายิตฺวา, สิวิกาย รเถน จ;
‘‘Vayhāhi pariyāyitvā, sivikāya rathena ca;
ปตฺติกา ปริธาวนฺตา, กถํ กาหนฺติ ทารกาฯ
Pattikā paridhāvantā, kathaṃ kāhanti dārakā.
๑๘๕๓.
1853.
‘‘กูฎาคาเร สยิตฺวาน, นิวาเต ผุสิตคฺคเฬ;
‘‘Kūṭāgāre sayitvāna, nivāte phusitaggaḷe;
สยนฺตา รุกฺขมูลสฺมิํ, กถํ กาหนฺติ ทารกาฯ
Sayantā rukkhamūlasmiṃ, kathaṃ kāhanti dārakā.
๑๘๕๔.
1854.
‘‘ปลฺลเงฺกสุ สยิตฺวาน, โคนเก จิตฺตสนฺถเต;
‘‘Pallaṅkesu sayitvāna, gonake cittasanthate;
สยนฺตา ติณสนฺถาเร, กถํ กาหนฺติ ทารกาฯ
Sayantā tiṇasanthāre, kathaṃ kāhanti dārakā.
๑๘๕๕.
1855.
‘‘คนฺธเกน วิลิมฺปิตฺวา, อครุจนฺทเนน จ;
‘‘Gandhakena vilimpitvā, agarucandanena ca;
รโชชลฺลานิ ธาเรนฺตา, กถํ กาหนฺติ ทารกาฯ
Rajojallāni dhārentā, kathaṃ kāhanti dārakā.
๑๘๕๖.
1856.
‘‘จามรโมรหเตฺถหิ, พีชิตงฺคา สุเขธิตา;
‘‘Cāmaramorahatthehi, bījitaṅgā sukhedhitā;
ผุฎฺฐา ฑํเสหิ มกเสหิ, กถํ กาหนฺติ ทารกา’’ติฯ
Phuṭṭhā ḍaṃsehi makasehi, kathaṃ kāhanti dārakā’’ti.
ตตฺถ ปลสเต กํเสติ ปลสเตน กตาย กญฺจนปาติยาฯ โคนเก จิตฺตสนฺถเตติ มหาปิฎฺฐิยํ กาฬโกชเว เจว วิจิตฺตเก สนฺถเร จฯ จามรโมรหเตฺถหีติ จามเรหิ เจว โมรหเตฺถหิ จ พีชิตงฺคาฯ
Tattha palasate kaṃseti palasatena katāya kañcanapātiyā. Gonake cittasanthateti mahāpiṭṭhiyaṃ kāḷakojave ceva vicittake santhare ca. Cāmaramorahatthehīti cāmarehi ceva morahatthehi ca bījitaṅgā.
เอวํ เตสํ สลฺลปนฺตานเญฺญว รตฺติ วิภายิ, สูริโย อุคฺคญฺฉิฯ มหาสตฺตสฺส จตุสินฺธวยุตฺตํ อลงฺกตรถํ อาเนตฺวา ราชทฺวาเร ฐปยิํสุฯ มทฺทีปิ สสฺสุสสุเร วนฺทิตฺวา เสสิตฺถิโย อปโลเกตฺวา เทฺว ปุเตฺต อาทาย เวสฺสนฺตรโต ปฐมตรํ คนฺตฺวา รเถ อฎฺฐาสิฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Evaṃ tesaṃ sallapantānaññeva ratti vibhāyi, sūriyo uggañchi. Mahāsattassa catusindhavayuttaṃ alaṅkatarathaṃ ānetvā rājadvāre ṭhapayiṃsu. Maddīpi sassusasure vanditvā sesitthiyo apaloketvā dve putte ādāya vessantarato paṭhamataraṃ gantvā rathe aṭṭhāsi. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๑๘๕๗.
1857.
‘‘ตมพฺรวิ ราชปุตฺตี, มทฺที สพฺพงฺคโสภนา;
‘‘Tamabravi rājaputtī, maddī sabbaṅgasobhanā;
มา เทว ปริเทเวสิ, มา จ ตฺวํ วิมโน อหุ;
Mā deva paridevesi, mā ca tvaṃ vimano ahu;
ยถา มยํ ภวิสฺสาม, ตถา เหสฺสนฺติ ทารกาฯ
Yathā mayaṃ bhavissāma, tathā hessanti dārakā.
๑๘๕๘.
1858.
‘‘อิทํ วตฺวาน ปกฺกามิ, มทฺที สพฺพงฺคโสภนา;
‘‘Idaṃ vatvāna pakkāmi, maddī sabbaṅgasobhanā;
สิวิมเคฺคน อเนฺวสิ, ปุเตฺต อาทาย ลกฺขณา’’ติฯ
Sivimaggena anvesi, putte ādāya lakkhaṇā’’ti.
ตตฺถ สิวิมเคฺคนาติ สิวิรโญฺญ คนฺตพฺพมเคฺคนฯ อเนฺวสีติ ตํ อคมาสิ, ปาสาทา โอตริตฺวา รถํ อภิรุหีติ อโตฺถฯ
Tattha sivimaggenāti sivirañño gantabbamaggena. Anvesīti taṃ agamāsi, pāsādā otaritvā rathaṃ abhiruhīti attho.
๑๘๕๙.
1859.
‘‘ตโต เวสฺสนฺตโร ราชา, ทานํ ทตฺวาน ขตฺติโย;
‘‘Tato vessantaro rājā, dānaṃ datvāna khattiyo;
ปิตุ มาตุ จ วนฺทิตฺวา, กตฺวา จ นํ ปทกฺขิณํฯ
Pitu mātu ca vanditvā, katvā ca naṃ padakkhiṇaṃ.
๑๘๖๐.
1860.
‘‘จตุวาหิํ รถํ ยุตฺตํ, สีฆมารุยฺห สนฺทนํ;
‘‘Catuvāhiṃ rathaṃ yuttaṃ, sīghamāruyha sandanaṃ;
อาทาย ปุตฺตทารญฺจ, วงฺกํ ปายาสิ ปพฺพต’’นฺติฯ
Ādāya puttadārañca, vaṅkaṃ pāyāsi pabbata’’nti.
ตตฺถ ตโตติ ภิกฺขเว, ตสฺสา มทฺทิยา รถํ อภิรุหิตฺวา ฐิตกาเลฯ ทตฺวาติ หิโยฺย ทานํ ทตฺวาฯ กตฺวา จ นํ ปทกฺขิณนฺติ ปทกฺขิณญฺจ กตฺวาฯ นนฺติ นิปาตมตฺตํฯ
Tattha tatoti bhikkhave, tassā maddiyā rathaṃ abhiruhitvā ṭhitakāle. Datvāti hiyyo dānaṃ datvā. Katvā ca naṃ padakkhiṇanti padakkhiṇañca katvā. Nanti nipātamattaṃ.
๑๘๖๑.
1861.
‘‘ตโต เวสฺสนฺตโร ราชา, เยนาสิ พหุโก ชโน;
‘‘Tato vessantaro rājā, yenāsi bahuko jano;
อามนฺต โข ตํ คจฺฉาม, อโรคา โหนฺตุ ญาตโย’’ติฯ
Āmanta kho taṃ gacchāma, arogā hontu ñātayo’’ti.
ตสฺสโตฺถ – ภิกฺขเว, ตโต เวสฺสนฺตโร ราชา ยตฺถ ‘‘เวสฺสนฺตรํ ราชานํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ พหุโก ชโน ฐิโต อาสิ, ตตฺถ รถํ เปเสตฺวา มหาชนํ อาปุจฺฉโนฺต ‘‘อามนฺต โข ตํ คจฺฉาม, อโรคา โหนฺตุ ญาตโย’’ติ อาหฯ ตตฺถ ตนฺติ นิปาตมตฺตํฯ ภิกฺขเว, ตโต เวสฺสนฺตโร ราชา ญาตเก อาห – ‘‘ตุเมฺห อามเนฺตตฺวา มยํ คจฺฉาม, ตุเมฺห สุขิตา โหถ นิทุกฺขา’’ติฯ
Tassattho – bhikkhave, tato vessantaro rājā yattha ‘‘vessantaraṃ rājānaṃ passissāmā’’ti bahuko jano ṭhito āsi, tattha rathaṃ pesetvā mahājanaṃ āpucchanto ‘‘āmanta kho taṃ gacchāma, arogā hontu ñātayo’’ti āha. Tattha tanti nipātamattaṃ. Bhikkhave, tato vessantaro rājā ñātake āha – ‘‘tumhe āmantetvā mayaṃ gacchāma, tumhe sukhitā hotha nidukkhā’’ti.
เอวํ มหาสโตฺต มหาชนํ อามเนฺตตฺวา ‘‘อปฺปมตฺตา โหถ, ทานาทีนิ ปุญฺญานิ กโรถา’’ติ เตสํ โอวทิตฺวา ปกฺกามิฯ คจฺฉเนฺต ปน โพธิสเตฺต มาตา ‘‘ปุโตฺต เม ทานวิตฺตโก ทานํ เทตู’’ติ อาภรเณหิ สทฺธิํ สตฺตรตนปูรานิ สกฎานิ อุโภสุ ปเสฺสสุ เปเสสิฯ โสปิ อตฺตโน กายารุฬฺหเมว อาภรณภณฺฑํ โอมุญฺจิตฺวา สมฺปตฺตยาจกานํ อฎฺฐารส วาเร ทตฺวา อวเสสํ สพฺพํ อทาสิฯ โส นครา นิกฺขมิตฺวา จ นิวตฺติตฺวา โอโลเกตุกาโม อโหสิฯ อถสฺส มนํ ปฎิจฺจ รถปฺปมาณฎฺฐาเน มหาปถวี ภิชฺชิตฺวา กุลาลจกฺกํ วิย ปริวตฺติตฺวา รถํ นคราภิมุขํ อกาสิฯ โส มาตาปิตูนํ วสนฎฺฐานํ โอโลเกสิฯ เตน การเณน ปถวีกโมฺป อโหสิฯ เตน วุตฺตํ –
Evaṃ mahāsatto mahājanaṃ āmantetvā ‘‘appamattā hotha, dānādīni puññāni karothā’’ti tesaṃ ovaditvā pakkāmi. Gacchante pana bodhisatte mātā ‘‘putto me dānavittako dānaṃ detū’’ti ābharaṇehi saddhiṃ sattaratanapūrāni sakaṭāni ubhosu passesu pesesi. Sopi attano kāyāruḷhameva ābharaṇabhaṇḍaṃ omuñcitvā sampattayācakānaṃ aṭṭhārasa vāre datvā avasesaṃ sabbaṃ adāsi. So nagarā nikkhamitvā ca nivattitvā oloketukāmo ahosi. Athassa manaṃ paṭicca rathappamāṇaṭṭhāne mahāpathavī bhijjitvā kulālacakkaṃ viya parivattitvā rathaṃ nagarābhimukhaṃ akāsi. So mātāpitūnaṃ vasanaṭṭhānaṃ olokesi. Tena kāraṇena pathavīkampo ahosi. Tena vuttaṃ –
‘‘นิกฺขมิตฺวาน นครา, นิวตฺติตฺวา วิโลกิเต;
‘‘Nikkhamitvāna nagarā, nivattitvā vilokite;
ตทาปิ ปถวี กมฺปิ, สิเนรุวนวฎํสกา’’ติฯ (จริยา. ๑.๙๓);
Tadāpi pathavī kampi, sineruvanavaṭaṃsakā’’ti. (cariyā. 1.93);
สยํ ปน โอโลเกตฺวา มทฺทิมฺปิ โอโลกาเปตุํ คาถมาห –
Sayaṃ pana oloketvā maddimpi olokāpetuṃ gāthamāha –
๑๘๖๒.
1862.
‘‘อิงฺฆ มทฺทิ นิสาเมหิ, รมฺมรูปํว ทิสฺสติ;
‘‘Iṅgha maddi nisāmehi, rammarūpaṃva dissati;
อาวาสํ สิวิเสฎฺฐสฺส, เปตฺติกํ ภวนํ มมา’’ติฯ
Āvāsaṃ siviseṭṭhassa, pettikaṃ bhavanaṃ mamā’’ti.
ตตฺถ นิสาเมหีติ โอโลเกหิฯ
Tattha nisāmehīti olokehi.
อถ มหาสโตฺต สหชาเต สฎฺฐิสหสฺสอมเจฺจ จ เสสชนญฺจ นิวตฺตาเปตฺวา รถํ ปาเชโนฺต มทฺทิํ อาห – ‘‘ภเทฺท, สเจ ปจฺฉโต ยาจกา อาคจฺฉนฺติ, อุปธาเรยฺยาสี’’ติฯ สาปิ โอโลเกนฺตี นิสีทิฯ อถสฺส สตฺตสตกํ มหาทานํ สมฺปาปุณิตุํ อสโกฺกนฺตา จตฺตาโร พฺราหฺมณา นครํ อาคนฺตฺวา ‘‘กุหิํ เวสฺสนฺตโร ราชา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ทานํ ทตฺวา คโต’’ติ วุเตฺต ‘‘กิญฺจิ คเหตฺวา คโต’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘รเถน คโต’’ติ สุตฺวา ‘‘อเสฺส นํ ยาจิสฺสามา’’ติ อนุพนฺธิํสุฯ อถ มทฺที เต อาคจฺฉเนฺต ทิสฺวา ‘‘ยาจกา อาคจฺฉนฺติ, เทวา’’ติ อาโรเจสิฯ มหาสโตฺต รถํ ฐเปสิฯ เต อาคนฺตฺวา อเสฺส ยาจิํสุฯ มหาสโตฺต อเสฺส อทาสิฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Atha mahāsatto sahajāte saṭṭhisahassaamacce ca sesajanañca nivattāpetvā rathaṃ pājento maddiṃ āha – ‘‘bhadde, sace pacchato yācakā āgacchanti, upadhāreyyāsī’’ti. Sāpi olokentī nisīdi. Athassa sattasatakaṃ mahādānaṃ sampāpuṇituṃ asakkontā cattāro brāhmaṇā nagaraṃ āgantvā ‘‘kuhiṃ vessantaro rājā’’ti pucchitvā ‘‘dānaṃ datvā gato’’ti vutte ‘‘kiñci gahetvā gato’’ti pucchitvā ‘‘rathena gato’’ti sutvā ‘‘asse naṃ yācissāmā’’ti anubandhiṃsu. Atha maddī te āgacchante disvā ‘‘yācakā āgacchanti, devā’’ti ārocesi. Mahāsatto rathaṃ ṭhapesi. Te āgantvā asse yāciṃsu. Mahāsatto asse adāsi. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๑๘๖๓.
1863.
‘‘ตํ พฺราหฺมณา อนฺวคมุํ, เต นํ อเสฺส อยาจิสุํ;
‘‘Taṃ brāhmaṇā anvagamuṃ, te naṃ asse ayācisuṃ;
ยาจิโต ปฎิปาเทสิ, จตุนฺนํ จตุโร หเย’’ติฯ
Yācito paṭipādesi, catunnaṃ caturo haye’’ti.
อเสฺสสุ ปน ทิเนฺนสุ รถธุรํ อากาเสเยว อฎฺฐาสิฯ อถ พฺราหฺมเณสุ คตมเตฺตสุเยว จตฺตาโร เทวปุตฺตา โรหิจฺจมิควเณฺณน อาคนฺตฺวา รถธุรํ สมฺปฎิจฺฉิตฺวา อคมํสุฯ มหาสโตฺต เตสํ เทวปุตฺตภาวํ ญตฺวา อิมํ คาถมาห –
Assesu pana dinnesu rathadhuraṃ ākāseyeva aṭṭhāsi. Atha brāhmaṇesu gatamattesuyeva cattāro devaputtā rohiccamigavaṇṇena āgantvā rathadhuraṃ sampaṭicchitvā agamaṃsu. Mahāsatto tesaṃ devaputtabhāvaṃ ñatvā imaṃ gāthamāha –
๑๘๖๔.
1864.
‘‘อิงฺฆ มทฺทิ นิสาเมหิ, จิตฺตรูปํว ทิสฺสติ;
‘‘Iṅgha maddi nisāmehi, cittarūpaṃva dissati;
มิคโรหิจฺจวเณฺณน, ทกฺขิณสฺสา วหนฺติ ม’’นฺติฯ
Migarohiccavaṇṇena, dakkhiṇassā vahanti ma’’nti.
ตตฺถ ทกฺขิณสฺสาติ สุสิกฺขิตา อสฺสา วิย มํ วหนฺติฯ
Tattha dakkhiṇassāti susikkhitā assā viya maṃ vahanti.
อถ นํ เอวํ คจฺฉนฺตํ อปโร พฺราหฺมโณ อาคนฺตฺวา รถํ ยาจิฯ มหาสโตฺต ปุตฺตทารํ โอตาเรตฺวา ตสฺส รถํ อทาสิฯ รเถ ปน ทิเนฺน เทวปุตฺตา อนฺตรธายิํสุฯ รถสฺส ทินฺนภาวํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Atha naṃ evaṃ gacchantaṃ aparo brāhmaṇo āgantvā rathaṃ yāci. Mahāsatto puttadāraṃ otāretvā tassa rathaṃ adāsi. Rathe pana dinne devaputtā antaradhāyiṃsu. Rathassa dinnabhāvaṃ pakāsento satthā āha –
๑๘๖๕.
1865.
‘‘อเถตฺถ ปญฺจโม อาคา, โส ตํ รถมยาจถ;
‘‘Athettha pañcamo āgā, so taṃ rathamayācatha;
ตสฺส ตํ ยาจิโตทาสิ, น จสฺสุปหโต มโนฯ
Tassa taṃ yācitodāsi, na cassupahato mano.
๑๘๖๖.
1866.
‘‘ตโต เวสฺสนฺตโร ราชา, โอโรเปตฺวา สกํ ชนํ;
‘‘Tato vessantaro rājā, oropetvā sakaṃ janaṃ;
อสฺสาสยิ อสฺสรถํ, พฺราหฺมณสฺส ธเนสิโน’’ติฯ
Assāsayi assarathaṃ, brāhmaṇassa dhanesino’’ti.
ตตฺถ อเถตฺถาติ อถ ตสฺมิํ วเนฯ น จสฺสุปหโต มโนติ น จสฺส มโน โอลีโนฯ อสฺสาสยีติ ปริโตเสโนฺต นิยฺยาเทสิฯ
Tattha athetthāti atha tasmiṃ vane. Na cassupahato manoti na cassa mano olīno. Assāsayīti paritosento niyyādesi.
ตโต ปฎฺฐาย ปน เต สเพฺพปิ ปตฺติกาว อเหสุํฯ อถ มหาสโตฺต มทฺทิํ อโวจ –
Tato paṭṭhāya pana te sabbepi pattikāva ahesuṃ. Atha mahāsatto maddiṃ avoca –
๑๘๖๗.
1867.
‘‘ตฺวํ มทฺทิ กณฺหํ คณฺหาหิ, ลหุ เอสา กนิฎฺฐิกา;
‘‘Tvaṃ maddi kaṇhaṃ gaṇhāhi, lahu esā kaniṭṭhikā;
อหํ ชาลิํ คเหสฺสามิ, ครุโก ภาติโก หิ โส’’ติฯ
Ahaṃ jāliṃ gahessāmi, garuko bhātiko hi so’’ti.
เอวญฺจ ปน วตฺวา อุโภปิ ขตฺติยา เทฺว ทารเก อเงฺกนาทาย ปกฺกมิํสุฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Evañca pana vatvā ubhopi khattiyā dve dārake aṅkenādāya pakkamiṃsu. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๑๘๖๘.
1868.
‘‘ราชา กุมารมาทาย, ราชปุตฺตี จ ทาริกํ;
‘‘Rājā kumāramādāya, rājaputtī ca dārikaṃ;
สโมฺมทมานา ปกฺกามุํ, อญฺญมญฺญํ ปิยํวทา’’ติฯ
Sammodamānā pakkāmuṃ, aññamaññaṃ piyaṃvadā’’ti.
ทานกณฺฑวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Dānakaṇḍavaṇṇanā niṭṭhitā.
วนปเวสนกณฺฑวณฺณนา
Vanapavesanakaṇḍavaṇṇanā
เต ปฎิปถํ อาคจฺฉเนฺต มนุเสฺส ทิสฺวา ‘‘กุหิํ วงฺกปพฺพโต’’ติ ปุจฺฉนฺติฯ มนุสฺสา ‘‘ทูเร’’ติ วทนฺติฯ เตน วุตฺตํ –
Te paṭipathaṃ āgacchante manusse disvā ‘‘kuhiṃ vaṅkapabbato’’ti pucchanti. Manussā ‘‘dūre’’ti vadanti. Tena vuttaṃ –
๑๘๖๙.
1869.
‘‘ยทิ เกจิ มนุชา เอนฺติ, อนุมเคฺค ปฎิปเถ;
‘‘Yadi keci manujā enti, anumagge paṭipathe;
มคฺคํ เต ปฎิปุจฺฉาม, ‘กุหิํ วงฺกตปพฺพโต’ฯ
Maggaṃ te paṭipucchāma, ‘kuhiṃ vaṅkatapabbato’.
๑๘๗๐.
1870.
‘‘เต ตตฺถ อเมฺห ปสฺสิตฺวา, กลุนํ ปริเทวยุํ;
‘‘Te tattha amhe passitvā, kalunaṃ paridevayuṃ;
ทุกฺขํ เต ปฎิเวเทนฺติ, ทูเร วงฺกตปพฺพโต’’ติฯ
Dukkhaṃ te paṭivedenti, dūre vaṅkatapabbato’’ti.
มคฺคสฺส อุโภสุ ปเสฺสสุ วิวิธผลธาริโน รุเกฺข ทิสฺวา ทารกา กนฺทนฺติฯ มหาสตฺตสฺสานุภาเวน ผลธาริโน รุกฺขา โอนมิตฺวา หตฺถสมฺผสฺสํ อาคจฺฉนฺติฯ ตโต สุปกฺกผลาผลานิ อุจฺจินิตฺวา เตสํ เทติฯ ตํ ทิสฺวา มทฺที อจฺฉริยํ ปเวเทสิฯ เตน วุตฺตํ –
Maggassa ubhosu passesu vividhaphaladhārino rukkhe disvā dārakā kandanti. Mahāsattassānubhāvena phaladhārino rukkhā onamitvā hatthasamphassaṃ āgacchanti. Tato supakkaphalāphalāni uccinitvā tesaṃ deti. Taṃ disvā maddī acchariyaṃ pavedesi. Tena vuttaṃ –
๑๘๗๑.
1871.
‘‘ยทิ ปสฺสนฺติ ปวเน, ทารกา ผลิเน ทุเม;
‘‘Yadi passanti pavane, dārakā phaline dume;
เตสํ ผลานํ เหตุมฺหิ, อุปโรทนฺติ ทารกาฯ
Tesaṃ phalānaṃ hetumhi, uparodanti dārakā.
๑๘๗๒.
1872.
‘‘โรทเนฺต ทารเก ทิสฺวา, อุพฺพิทฺธา วิปุลา ทุมา;
‘‘Rodante dārake disvā, ubbiddhā vipulā dumā;
สยเมโวนมิตฺวาน, อุปคจฺฉนฺติ ทารเกฯ
Sayamevonamitvāna, upagacchanti dārake.
๑๘๗๓.
1873.
‘‘อิทํ อเจฺฉรกํ ทิสฺวา, อพฺภุตํ โลมหํสนํ;
‘‘Idaṃ accherakaṃ disvā, abbhutaṃ lomahaṃsanaṃ;
สาธุการํ ปวเตฺตสิ, มทฺที สพฺพงฺคโสภนาฯ
Sādhukāraṃ pavattesi, maddī sabbaṅgasobhanā.
๑๘๗๔.
1874.
‘‘อเจฺฉรํ วต โลกสฺมิํ, อพฺภุตํ โลมหํสนํ;
‘‘Accheraṃ vata lokasmiṃ, abbhutaṃ lomahaṃsanaṃ;
เวสฺสนฺตรสฺส เตเชน, สยเมโวนตา ทุมา’’ติฯ
Vessantarassa tejena, sayamevonatā dumā’’ti.
เชตุตฺตรนครโต สุวณฺณคิริตาโล นาม ปพฺพโต ปญฺจ โยชนานิ, ตโต โกนฺติมารา นาม นที ปญฺจ โยชนานิ, ตโต อญฺจรคิริ นาม ปพฺพโต ปญฺจ โยชนานิ, ตโต ทุนฺนิวิฎฺฐพฺราหฺมณคาโม นาม ปญฺจ โยชนานิ, ตโต มาตุลนครํ ทส โยชนานิฯ อิติ ตํ มคฺคํ เชตุตฺตรนครโต ติํสโยชนํ โหติฯ เทวตา ตํ มคฺคํ สํขิปิํสุฯ เต เอกทิวเสเนว มาตุลนครํ ปาปุณิํสุฯ เตน วุตฺตํ –
Jetuttaranagarato suvaṇṇagiritālo nāma pabbato pañca yojanāni, tato kontimārā nāma nadī pañca yojanāni, tato añcaragiri nāma pabbato pañca yojanāni, tato dunniviṭṭhabrāhmaṇagāmo nāma pañca yojanāni, tato mātulanagaraṃ dasa yojanāni. Iti taṃ maggaṃ jetuttaranagarato tiṃsayojanaṃ hoti. Devatā taṃ maggaṃ saṃkhipiṃsu. Te ekadivaseneva mātulanagaraṃ pāpuṇiṃsu. Tena vuttaṃ –
๑๘๗๕.
1875.
‘‘สงฺขิปิํสุ ปถํ ยกฺขา, อนุกมฺปาย ทารเก;
‘‘Saṅkhipiṃsu pathaṃ yakkhā, anukampāya dārake;
นิกฺขนฺตทิวเสเนว, เจตรฎฺฐํ อุปาคมุ’’นฺติฯ
Nikkhantadivaseneva, cetaraṭṭhaṃ upāgamu’’nti.
อุปคจฺฉนฺตา จ ปน เชตุตฺตรนครโต ปาตราสสมเย นิกฺขมิตฺวา สายนฺหสมเย เจตรเฎฺฐ มาตุลนครํ ปตฺตาฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Upagacchantā ca pana jetuttaranagarato pātarāsasamaye nikkhamitvā sāyanhasamaye cetaraṭṭhe mātulanagaraṃ pattā. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๑๘๗๖.
1876.
‘‘เต คนฺตฺวา ทีฆมทฺธานํ, เจตรฎฺฐํ อุปาคมุํ;
‘‘Te gantvā dīghamaddhānaṃ, cetaraṭṭhaṃ upāgamuṃ;
อิทฺธํ ผีตํ ชนปทํ, พหุมํสสุโรทน’’นฺติฯ
Iddhaṃ phītaṃ janapadaṃ, bahumaṃsasurodana’’nti.
ตทา มาตุลนคเร สฎฺฐิ ขตฺติยสหสฺสานิ วสนฺติฯ มหาสโตฺต อโนฺตนครํ อปวิสิตฺวา นครทฺวาเรเยว สาลายํ นิสีทิฯ อถสฺส มทฺที โพธิสตฺตสฺส ปาเทสุ รชํ ปุญฺฉิตฺวา ปาเท สมฺพาหิตฺวา ‘‘เวสฺสนฺตรสฺส อาคตภาวํ ชานาเปสฺสามี’’ติ สาลาโต นิกฺขมิตฺวา ตสฺส จกฺขุปเถ สาลาทฺวาเร อฎฺฐาสิฯ นครํ ปวิสนฺติโย จ นิกฺขมนฺติโย จ อิตฺถิโย ตํ ทิสฺวา ปริวาเรสุํฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Tadā mātulanagare saṭṭhi khattiyasahassāni vasanti. Mahāsatto antonagaraṃ apavisitvā nagaradvāreyeva sālāyaṃ nisīdi. Athassa maddī bodhisattassa pādesu rajaṃ puñchitvā pāde sambāhitvā ‘‘vessantarassa āgatabhāvaṃ jānāpessāmī’’ti sālāto nikkhamitvā tassa cakkhupathe sālādvāre aṭṭhāsi. Nagaraṃ pavisantiyo ca nikkhamantiyo ca itthiyo taṃ disvā parivāresuṃ. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๑๘๗๗.
1877.
‘‘เจติโย ปริวาริํสุ, ทิสฺวา ลกฺขณมาคตํ;
‘‘Cetiyo parivāriṃsu, disvā lakkhaṇamāgataṃ;
สุขุมาลี วต อยฺยา, ปตฺติกา ปริธาวติฯ
Sukhumālī vata ayyā, pattikā paridhāvati.
๑๘๗๘.
1878.
‘‘วยฺหาหิ ปริยายิตฺวา, สิวิกาย รเถน จ;
‘‘Vayhāhi pariyāyitvā, sivikāya rathena ca;
สาชฺช มทฺที อรญฺญสฺมิํ, ปตฺติกา ปริธาวตี’’ติฯ
Sājja maddī araññasmiṃ, pattikā paridhāvatī’’ti.
ตตฺถ ลกฺขณมาคตนฺติ ลกฺขณสมฺปนฺนํ มทฺทิํ อาคตํฯ ปริธาวตีติ เอวํ สุขุมาลี หุตฺวา ปตฺติกาว วิจรติฯ ปริยายิตฺวาติ เชตุตฺตรนคเร วิจริตฺวาฯ สิวิกายาติ สุวณฺณสิวิกายฯ
Tattha lakkhaṇamāgatanti lakkhaṇasampannaṃ maddiṃ āgataṃ. Paridhāvatīti evaṃ sukhumālī hutvā pattikāva vicarati. Pariyāyitvāti jetuttaranagare vicaritvā. Sivikāyāti suvaṇṇasivikāya.
มหาชโน มทฺทิญฺจ เวสฺสนฺตรญฺจ เทฺว ปุเตฺต จสฺส อนาถาคมเนน อาคเต ทิสฺวา คนฺตฺวา ราชูนํ อาจิกฺขิฯ สฎฺฐิสหสฺสา ราชาโน โรทนฺตา ปริเทวนฺตา ตสฺส สนฺติกํ อาคมํสุฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Mahājano maddiñca vessantarañca dve putte cassa anāthāgamanena āgate disvā gantvā rājūnaṃ ācikkhi. Saṭṭhisahassā rājāno rodantā paridevantā tassa santikaṃ āgamaṃsu. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๑๘๗๙.
1879.
‘‘ตํ ทิสฺวา เจตปาโมกฺขา, โรทมานา อุปาคมุํ;
‘‘Taṃ disvā cetapāmokkhā, rodamānā upāgamuṃ;
กจฺจิ นุ เทว กุสลํ, กจฺจิ เทว อนามยํ;
Kacci nu deva kusalaṃ, kacci deva anāmayaṃ;
กจฺจิ ปิตา อโรโค เต, สิวีนญฺจ อนามยํฯ
Kacci pitā arogo te, sivīnañca anāmayaṃ.
๑๘๘๐.
1880.
‘‘โก เต พลํ มหาราช, โก นุ เต รถมณฺฑลํ;
‘‘Ko te balaṃ mahārāja, ko nu te rathamaṇḍalaṃ;
อนสฺสโก อรถโก, ทีฆมทฺธานมาคโต;
Anassako arathako, dīghamaddhānamāgato;
กจฺจามิเตฺตหิ ปกโต, อนุปฺปโตฺตสิมํ ทิส’’นฺติฯ
Kaccāmittehi pakato, anuppattosimaṃ disa’’nti.
ตตฺถ ทิสฺวาติ ทูรโตว ปสฺสิตฺวาฯ เจตปาโมกฺขาติ เจตราชาโนฯ อุปาคมุนฺติ อุปสงฺกมิํสุฯ กุสลนฺติ อาโรคฺยํฯ อนามยนฺติ นิทฺทุกฺขภาวํฯ โก เต พลนฺติ กุหิํ ตว พลกาโยฯ รถมณฺฑลนฺติ เยนาสิ รเถน อาคโต, โส กุหินฺติ ปุจฺฉนฺติฯ อนสฺสโกติ อสฺสวิรหิโตฯ อรถโกติ อยานโกฯ ทีฆมทฺธานมาคโตติ ทีฆมคฺคํ อาคโตฯ ปกโตติ อภิภูโตฯ
Tattha disvāti dūratova passitvā. Cetapāmokkhāti cetarājāno. Upāgamunti upasaṅkamiṃsu. Kusalanti ārogyaṃ. Anāmayanti niddukkhabhāvaṃ. Ko te balanti kuhiṃ tava balakāyo. Rathamaṇḍalanti yenāsi rathena āgato, so kuhinti pucchanti. Anassakoti assavirahito. Arathakoti ayānako. Dīghamaddhānamāgatoti dīghamaggaṃ āgato. Pakatoti abhibhūto.
อถ เนสํ มหาสโตฺต อตฺตโน อาคตการณํ กเถโนฺต อาห –
Atha nesaṃ mahāsatto attano āgatakāraṇaṃ kathento āha –
๑๘๘๑.
1881.
‘‘กุสลเญฺจว เม สมฺมา, อโถ สมฺมา อนามยํ;
‘‘Kusalañceva me sammā, atho sammā anāmayaṃ;
อโถ ปิตา อโรโค เม, สิวีนญฺจ อนามยํฯ
Atho pitā arogo me, sivīnañca anāmayaṃ.
๑๘๘๒.
1882.
‘‘อหญฺหิ กุญฺชรํ ทชฺชํ, อีสาทนฺตํ อุรูฬฺหวํ;
‘‘Ahañhi kuñjaraṃ dajjaṃ, īsādantaṃ urūḷhavaṃ;
เขตฺตญฺญุํ สพฺพยุทฺธานํ, สพฺพเสตํ คชุตฺตมํฯ
Khettaññuṃ sabbayuddhānaṃ, sabbasetaṃ gajuttamaṃ.
๑๘๘๓.
1883.
‘‘ปณฺฑุกมฺพลสญฺฉนฺนํ, ปภินฺนํ สตฺตุมทฺทนํ;
‘‘Paṇḍukambalasañchannaṃ, pabhinnaṃ sattumaddanaṃ;
ทนฺติํ สวาลพีชนิํ, เสตํ เกลาสสาทิสํฯ
Dantiṃ savālabījaniṃ, setaṃ kelāsasādisaṃ.
๑๘๘๔.
1884.
‘‘สเสตจฺฉตฺตํ สอุปาเธยฺยํ, สาถพฺพนํ สหตฺถิปํ;
‘‘Sasetacchattaṃ saupādheyyaṃ, sāthabbanaṃ sahatthipaṃ;
อคฺคยานํ ราชวาหิํ, พฺราหฺมณานํ อทาสหํฯ
Aggayānaṃ rājavāhiṃ, brāhmaṇānaṃ adāsahaṃ.
๑๘๘๕.
1885.
‘‘ตสฺมิํ เม สิวโย กุทฺธา, ปิตา จุปหโตมโน;
‘‘Tasmiṃ me sivayo kuddhā, pitā cupahatomano;
อวรุทฺธสิ มํ ราชา, วงฺกํ คจฺฉามิ ปพฺพตํ;
Avaruddhasi maṃ rājā, vaṅkaṃ gacchāmi pabbataṃ;
โอกาสํ สมฺมา ชานาถ, วเน ยตฺถ วสามเส’’ติฯ
Okāsaṃ sammā jānātha, vane yattha vasāmase’’ti.
ตตฺถ ตสฺมิํ เมติ ตสฺมิํ การเณ มยฺหํ สิวโย กุทฺธาฯ อุปหโตมโนติ อุปหตจิโตฺต กุโทฺธว มํ รฎฺฐา ปพฺพาเชสิฯ ยตฺถาติ ยสฺมิํ วเน มยํ วเสยฺยาม, ตตฺถ วสโนกาสํ ชานาถาติฯ
Tattha tasmiṃ meti tasmiṃ kāraṇe mayhaṃ sivayo kuddhā. Upahatomanoti upahatacitto kuddhova maṃ raṭṭhā pabbājesi. Yatthāti yasmiṃ vane mayaṃ vaseyyāma, tattha vasanokāsaṃ jānāthāti.
เต ราชาโน อาหํสุ –
Te rājāno āhaṃsu –
๑๘๘๖.
1886.
‘‘สฺวาคตํ เต มหาราช, อโถ เต อทุราคตํ;
‘‘Svāgataṃ te mahārāja, atho te adurāgataṃ;
อิสฺสโรสิ อนุปฺปโตฺต, ยํ อิธตฺถิ ปเวทยฯ
Issarosi anuppatto, yaṃ idhatthi pavedaya.
๑๘๘๗.
1887.
‘‘สากํ ภิสํ มธุํ มํสํ, สุทฺธํ สาลีนโมทนํ;
‘‘Sākaṃ bhisaṃ madhuṃ maṃsaṃ, suddhaṃ sālīnamodanaṃ;
ปริภุญฺช มหาราช, ปาหุโน โนสิ อาคโต’’ติฯ
Paribhuñja mahārāja, pāhuno nosi āgato’’ti.
ตตฺถ ปเวทยาติ กเถหิ, สพฺพํ ปฎิยาเทตฺวา ทสฺสามฯ ภิสนฺติ ภิสมูลํ, ยํกิญฺจิ กนฺทชาตํ วาฯ
Tattha pavedayāti kathehi, sabbaṃ paṭiyādetvā dassāma. Bhisanti bhisamūlaṃ, yaṃkiñci kandajātaṃ vā.
เวสฺสนฺตโร อาห –
Vessantaro āha –
๑๘๘๘.
1888.
‘‘ปฎิคฺคหิตํ ยํ ทินฺนํ, สพฺพสฺส อคฺฆิยํ กตํ;
‘‘Paṭiggahitaṃ yaṃ dinnaṃ, sabbassa agghiyaṃ kataṃ;
อวรุทฺธสิ มํ ราชา, วงฺกํ คจฺฉามิ ปพฺพตํ;
Avaruddhasi maṃ rājā, vaṅkaṃ gacchāmi pabbataṃ;
โอกาสํ สมฺมา ชานาถ, วเน ยตฺถ วสามเส’’ติฯ
Okāsaṃ sammā jānātha, vane yattha vasāmase’’ti.
ตตฺถ ปฎิคฺคหิตนฺติ สพฺพเมตํ ตุเมฺหหิ ทินฺนํ มยา จ ปฎิคฺคหิตเมว โหตุ, สพฺพสฺส ตุเมฺหหิ มยฺหํ อคฺฆิยํ นิเวทนํ กตํฯ ราชา ปน มํ อวรุทฺธสิ รฎฺฐา ปพฺพาเชสิ, ตสฺมา วงฺกเมว คมิสฺสามิ, ตสฺมิํ เม อรเญฺญ วสนฎฺฐานํ ชานาถาติฯ
Tattha paṭiggahitanti sabbametaṃ tumhehi dinnaṃ mayā ca paṭiggahitameva hotu, sabbassa tumhehi mayhaṃ agghiyaṃ nivedanaṃ kataṃ. Rājā pana maṃ avaruddhasi raṭṭhā pabbājesi, tasmā vaṅkameva gamissāmi, tasmiṃ me araññe vasanaṭṭhānaṃ jānāthāti.
เต ราชาโน อาหํสุ –
Te rājāno āhaṃsu –
๑๘๘๙.
1889.
‘‘อิเธว ตาว อจฺฉสฺสุ, เจตรเฎฺฐ รเถสภ;
‘‘Idheva tāva acchassu, cetaraṭṭhe rathesabha;
ยาว เจตา คมิสฺสนฺติ, รโญฺญ สนฺติก ยาจิตุํฯ
Yāva cetā gamissanti, rañño santika yācituṃ.
๑๘๙๐.
1890.
‘‘นิชฺฌาเปตุํ มหาราชํ, สิวีนํ รฎฺฐวฑฺฒนํ;
‘‘Nijjhāpetuṃ mahārājaṃ, sivīnaṃ raṭṭhavaḍḍhanaṃ;
ตํ ตํ เจตา ปุรกฺขตฺวา, ปตีตา ลทฺธปจฺจยา;
Taṃ taṃ cetā purakkhatvā, patītā laddhapaccayā;
ปริวาเรตฺวาน คจฺฉนฺติ, เอวํ ชานาหิ ขตฺติยา’’ติฯ
Parivāretvāna gacchanti, evaṃ jānāhi khattiyā’’ti.
ตตฺถ รโญฺญ สนฺติก ยาจิตุนฺติ รโญฺญ สนฺติกํ ยาจนตฺถาย คมิสฺสนฺติฯ นิชฺฌาเปตุนฺติ ตุมฺหากํ นิโทฺทสภาวํ ชานาเปตุํฯ ลทฺธปจฺจยาติ ลทฺธปติฎฺฐาฯ คจฺฉนฺตีติ คมิสฺสนฺติฯ
Tattha rañño santika yācitunti rañño santikaṃ yācanatthāya gamissanti. Nijjhāpetunti tumhākaṃ niddosabhāvaṃ jānāpetuṃ. Laddhapaccayāti laddhapatiṭṭhā. Gacchantīti gamissanti.
มหาสโตฺต อาห –
Mahāsatto āha –
๑๘๙๑.
1891.
‘‘มา โว รุจฺจิตฺถ คมนํ, รโญฺญ สนฺติก ยาจิตุํ;
‘‘Mā vo ruccittha gamanaṃ, rañño santika yācituṃ;
นิชฺฌาเปตุํ มหาราชํ, ราชาปิ ตตฺถ นิสฺสโรฯ
Nijjhāpetuṃ mahārājaṃ, rājāpi tattha nissaro.
๑๘๙๒.
1892.
‘‘อจฺจุคฺคตา หิ สิวโย, พลคฺคา เนคมา จ เย;
‘‘Accuggatā hi sivayo, balaggā negamā ca ye;
เต วิธํเสตุมิจฺฉนฺติ, ราชานํ มม การณา’’ติฯ
Te vidhaṃsetumicchanti, rājānaṃ mama kāraṇā’’ti.
ตตฺถ ตตฺถาติ ตสฺมิํ มม นิโทฺทสภาวํ นิชฺฌาปเน ราชาปิ อนิสฺสโรฯ อจฺจุคฺคตาติ อติกุทฺธาฯ พลคฺคาติ พลกายาฯ วิธํเสตุนฺติ รชฺชโต นีหริตุํฯ ราชานนฺติ ราชานมฺปิฯ
Tattha tatthāti tasmiṃ mama niddosabhāvaṃ nijjhāpane rājāpi anissaro. Accuggatāti atikuddhā. Balaggāti balakāyā. Vidhaṃsetunti rajjato nīharituṃ. Rājānanti rājānampi.
เต ราชาโน อาหํสุ –
Te rājāno āhaṃsu –
๑๘๙๓.
1893.
‘‘สเจ เอสา ปวเตฺตตฺถ, รฎฺฐสฺมิํ รฎฺฐวฑฺฒน;
‘‘Sace esā pavattettha, raṭṭhasmiṃ raṭṭhavaḍḍhana;
อิเธว รชฺชํ กาเรหิ, เจเตหิ ปริวาริโตฯ
Idheva rajjaṃ kārehi, cetehi parivārito.
๑๘๙๔.
1894.
‘‘อิทฺธํ ผีตญฺจิทํ รฎฺฐํ, อิโทฺธ ชนปโท มหา;
‘‘Iddhaṃ phītañcidaṃ raṭṭhaṃ, iddho janapado mahā;
มติํ กโรหิ ตฺวํ เทว, รชฺชสฺส มนุสาสิตุ’’นฺติฯ
Matiṃ karohi tvaṃ deva, rajjassa manusāsitu’’nti.
ตตฺถ สเจ เอสา ปวเตฺตตฺถาติ สเจ เอตสฺมิํ รเฎฺฐ เอสา ปวตฺติฯ รชฺชสฺส มนุสาสิตุนฺติ รชฺชํ สมนุสาสิตุํ, อยเมว วา ปาโฐฯ
Tattha sace esā pavattetthāti sace etasmiṃ raṭṭhe esā pavatti. Rajjassa manusāsitunti rajjaṃ samanusāsituṃ, ayameva vā pāṭho.
เวสฺสนฺตโร อาห –
Vessantaro āha –
๑๘๙๕.
1895.
‘‘น เม ฉโนฺท มติ อตฺถิ, รชฺชสฺส อนุสาสิตุํ;
‘‘Na me chando mati atthi, rajjassa anusāsituṃ;
ปพฺพาชิตสฺส รฎฺฐสฺมา, เจตปุตฺตา สุณาถ เมฯ
Pabbājitassa raṭṭhasmā, cetaputtā suṇātha me.
๑๘๙๖.
1896.
‘‘อตุฎฺฐา สิวโย อาสุํ, พลคฺคา เนคมา จ เย;
‘‘Atuṭṭhā sivayo āsuṃ, balaggā negamā ca ye;
ปพฺพาชิตสฺส รฎฺฐสฺมา, เจตา รเชฺชภิเสจยุํฯ
Pabbājitassa raṭṭhasmā, cetā rajjebhisecayuṃ.
๑๘๙๗.
1897.
‘‘อสโมฺมทิยมฺปิ โว อสฺส, อจฺจนฺตํ มม การณา;
‘‘Asammodiyampi vo assa, accantaṃ mama kāraṇā;
สิวีหิ ภณฺฑนํ จาปิ, วิคฺคโห เม น รุจฺจติฯ
Sivīhi bhaṇḍanaṃ cāpi, viggaho me na ruccati.
๑๘๙๘.
1898.
‘‘อถสฺส ภณฺฑนํ โฆรํ, สมฺปหาโร อนปฺปโก;
‘‘Athassa bhaṇḍanaṃ ghoraṃ, sampahāro anappako;
เอกสฺส การณา มยฺหํ, หิํเสยฺย พหุโก ชโนฯ
Ekassa kāraṇā mayhaṃ, hiṃseyya bahuko jano.
๑๘๙๙.
1899.
‘‘ปฎิคฺคหิตํ ยํ ทินฺนํ, สพฺพสฺส อคฺฆิยํ กตํ;
‘‘Paṭiggahitaṃ yaṃ dinnaṃ, sabbassa agghiyaṃ kataṃ;
อวรุทฺธสิ มํ ราชา, วงฺกํ คจฺฉามิ ปพฺพตํ;
Avaruddhasi maṃ rājā, vaṅkaṃ gacchāmi pabbataṃ;
โอกาสํ สมฺมา ชานาถ, วเน ยตฺถ วสามเส’’ติฯ
Okāsaṃ sammā jānātha, vane yattha vasāmase’’ti.
ตตฺถ เจตา รเชฺชภิเสจยุนฺติ เจตรฎฺฐวาสิโน กิร เวสฺสนฺตรํ รเชฺช อภิสิญฺจิํสูติ ตุมฺหากมฺปิ เต อตุฎฺฐา อาสุํฯ อสโมฺมทิยนฺติ อสามคฺคิยํฯ อสฺสาติ ภเวยฺยฯ อถสฺสาติ อถ มยฺหํ เอกสฺส การณา ตุมฺหากํ ภณฺฑนํ ภวิสฺสตีติฯ
Tattha cetā rajjebhisecayunti cetaraṭṭhavāsino kira vessantaraṃ rajje abhisiñciṃsūti tumhākampi te atuṭṭhā āsuṃ. Asammodiyanti asāmaggiyaṃ. Assāti bhaveyya. Athassāti atha mayhaṃ ekassa kāraṇā tumhākaṃ bhaṇḍanaṃ bhavissatīti.
เอวํ มหาสโตฺต อเนกปริยาเยน ยาจิโตปิ รชฺชํ น อิจฺฉิฯ อถสฺส เต เจตราชาโน มหนฺตํ สกฺการํ กริํสุฯ โส นครํ ปวิสิตุํ น อิจฺฉิฯ อถ นํ สาลเมว อลงฺกริตฺวา สาณิยา ปริเกฺขปํ กตฺวา มหาสยนํ ปญฺญาเปตฺวา สเพฺพ อารกฺขํ กริํสุฯ โส เอกรตฺติํ เตหิ สงฺคหิตารโกฺข สาลายํ สยิตฺวา ปุนทิวเส ปาโตว นฺหตฺวา นานคฺครสโภชนํ ภุญฺชิตฺวา เตหิ ปริวุโต นิกฺขมิฯ สฎฺฐิสหสฺสา ขตฺติยา เตน สทฺธิํ ปนฺนรสโยชนมคฺคํ คนฺตฺวา วนทฺวาเร ฐตฺวา ปุรโต ปนฺนรสโยชนมคฺคํ อาจิกฺขนฺตา อาหํสุ –
Evaṃ mahāsatto anekapariyāyena yācitopi rajjaṃ na icchi. Athassa te cetarājāno mahantaṃ sakkāraṃ kariṃsu. So nagaraṃ pavisituṃ na icchi. Atha naṃ sālameva alaṅkaritvā sāṇiyā parikkhepaṃ katvā mahāsayanaṃ paññāpetvā sabbe ārakkhaṃ kariṃsu. So ekarattiṃ tehi saṅgahitārakkho sālāyaṃ sayitvā punadivase pātova nhatvā nānaggarasabhojanaṃ bhuñjitvā tehi parivuto nikkhami. Saṭṭhisahassā khattiyā tena saddhiṃ pannarasayojanamaggaṃ gantvā vanadvāre ṭhatvā purato pannarasayojanamaggaṃ ācikkhantā āhaṃsu –
๑๙๐๐.
1900.
‘‘ตคฺฆ เต มยมกฺขาม, ยถาปิ กุสลา ตถา;
‘‘Taggha te mayamakkhāma, yathāpi kusalā tathā;
ราชิสี ยตฺถ สมฺมนฺติ, อาหุตคฺคี สมาหิตาฯ
Rājisī yattha sammanti, āhutaggī samāhitā.
๑๙๐๑.
1901.
‘‘เอส เสโล มหาราช, ปพฺพโต คนฺธมาทโน;
‘‘Esa selo mahārāja, pabbato gandhamādano;
ยตฺถ ตฺวํ สห ปุเตฺตหิ, สห ภริยาย จจฺฉสิฯ
Yattha tvaṃ saha puttehi, saha bhariyāya cacchasi.
๑๙๐๒.
1902.
‘‘ตํ เจตา อนุสาสิํสุ, อสฺสุเนตฺตา รุทํมุขา;
‘‘Taṃ cetā anusāsiṃsu, assunettā rudaṃmukhā;
อิโต คจฺฉ มหาราช, อุชุํ เยนุตฺตรามุโขฯ
Ito gaccha mahārāja, ujuṃ yenuttarāmukho.
๑๙๐๓.
1903.
‘‘อถ ทกฺขิสิ ภทฺทเนฺต, เวปุลฺลํ นาม ปพฺพตํ;
‘‘Atha dakkhisi bhaddante, vepullaṃ nāma pabbataṃ;
นานาทุมคณากิณฺณํ, สีตจฺฉายํ มโนรมํฯ
Nānādumagaṇākiṇṇaṃ, sītacchāyaṃ manoramaṃ.
๑๙๐๔.
1904.
‘‘ตมติกฺกมฺม ภทฺทเนฺต, อถ ทกฺขิสิ อาปคํ;
‘‘Tamatikkamma bhaddante, atha dakkhisi āpagaṃ;
นทิํ เกตุมติํ นาม, คมฺภีรํ คิริคพฺภรํฯ
Nadiṃ ketumatiṃ nāma, gambhīraṃ girigabbharaṃ.
๑๙๐๕.
1905.
‘‘ปุถุโลมมจฺฉากิณฺณํ, สุปติตฺถํ มโหทกํ;
‘‘Puthulomamacchākiṇṇaṃ, supatitthaṃ mahodakaṃ;
ตตฺถ นฺหตฺวา ปิวิตฺวา จ, อสฺสาเสตฺวา สปุตฺตเกฯ
Tattha nhatvā pivitvā ca, assāsetvā saputtake.
๑๙๐๖.
1906.
‘‘อถ ทกฺขิสิ ภทฺทเนฺต, นิโคฺรธํ มธุปิปฺผลํ;
‘‘Atha dakkhisi bhaddante, nigrodhaṃ madhupipphalaṃ;
รมฺมเก สิขเร ชาตํ, สีตจฺฉายํ มโนรมํฯ
Rammake sikhare jātaṃ, sītacchāyaṃ manoramaṃ.
๑๙๐๗.
1907.
‘‘อถ ทกฺขิสิ ภทฺทเนฺต, นาฬิกํ นาม ปพฺพตํ;
‘‘Atha dakkhisi bhaddante, nāḷikaṃ nāma pabbataṃ;
นานาทิชคณากิณฺณํ, เสลํ กิมฺปุริสายุตํฯ
Nānādijagaṇākiṇṇaṃ, selaṃ kimpurisāyutaṃ.
๑๙๐๘.
1908.
‘‘ตสฺส อุตฺตรปุเพฺพน, มุจลิโนฺท นาม โส สโร;
‘‘Tassa uttarapubbena, mucalindo nāma so saro;
ปุณฺฑรีเกหิ สญฺฉโนฺน, เสตโสคนฺธิเกหิ จฯ
Puṇḍarīkehi sañchanno, setasogandhikehi ca.
๑๙๐๙.
1909.
‘‘โส วนํ เมฆสงฺกาสํ, ธุวํ หริตสทฺทลํ;
‘‘So vanaṃ meghasaṅkāsaṃ, dhuvaṃ haritasaddalaṃ;
สีโหวามิสเปกฺขีว, วนสณฺฑํ วิคาหย;
Sīhovāmisapekkhīva, vanasaṇḍaṃ vigāhaya;
ปุปฺผรุเกฺขหิ สญฺฉนฺนํ, ผลรุเกฺขหิ จูภยํฯ
Puppharukkhehi sañchannaṃ, phalarukkhehi cūbhayaṃ.
๑๙๑๐.
1910.
‘‘ตตฺถ พินฺทุสฺสรา วคฺคู, นานาวณฺณา พหู ทิชา;
‘‘Tattha bindussarā vaggū, nānāvaṇṇā bahū dijā;
กูชนฺตมุปกูชนฺติ, อุตุสํปุปฺผิเต ทุเมฯ
Kūjantamupakūjanti, utusaṃpupphite dume.
๑๙๑๑.
1911.
‘‘คนฺตฺวา คิริวิทุคฺคานํ, นทีนํ ปภวานิ จ;
‘‘Gantvā girividuggānaṃ, nadīnaṃ pabhavāni ca;
โส ทกฺขิสิ โปกฺขรณิํ, กรญฺชกกุธายุตํฯ
So dakkhisi pokkharaṇiṃ, karañjakakudhāyutaṃ.
๑๙๑๒.
1912.
‘‘ปุถุโลมมจฺฉากิณฺณํ , สุปติตฺถํ มโหทกํ;
‘‘Puthulomamacchākiṇṇaṃ , supatitthaṃ mahodakaṃ;
สมญฺจ จตุรํสญฺจ, สาทุํ อปฺปฎิคนฺธิยํฯ
Samañca caturaṃsañca, sāduṃ appaṭigandhiyaṃ.
๑๙๑๓.
1913.
‘‘ตสฺสา อุตฺตรปุเพฺพน, ปณฺณสาลํ อมาปย;
‘‘Tassā uttarapubbena, paṇṇasālaṃ amāpaya;
ปณฺณสาลํ อมาเปตฺวา, อุญฺฉาจริยาย อีหถา’’ติฯ
Paṇṇasālaṃ amāpetvā, uñchācariyāya īhathā’’ti.
ตตฺถ ราชิสีติ ราชาโน หุตฺวา ปพฺพชิตาฯ สมาหิตาติ เอกคฺคจิตฺตาฯ เอสาติ ทกฺขิณหตฺถํ อุกฺขิปิตฺวา อิมินา ปพฺพตปาเทน คจฺฉถาติ อาจิกฺขนฺตา วทนฺติฯ อจฺฉสีติ วสิสฺสสิฯ อาปคนฺติ อุทกวาหนทิอาวฎฺฎํฯ คิริคพฺภรนฺติ คิรีนํ กุจฺฉิโต ปวตฺตํฯ มธุปิปฺผลนฺติ มธุรผลํฯ รมฺมเกติ รมณีเยฯ กิมฺปุริสายุตนฺติ กิมฺปุริเสหิ อายุตํ ปริกิณฺณํฯ เสตโสคนฺธีเกหิ จาติ นานปฺปกาเรหิ เสตุปฺปเลหิ เจว โสคนฺธิเกหิ จ สญฺฉโนฺนฯ สีโหวามิสเปกฺขีวาติ อามิสํ เปกฺขโนฺต สีโห วิยฯ
Tattha rājisīti rājāno hutvā pabbajitā. Samāhitāti ekaggacittā. Esāti dakkhiṇahatthaṃ ukkhipitvā iminā pabbatapādena gacchathāti ācikkhantā vadanti. Acchasīti vasissasi. Āpaganti udakavāhanadiāvaṭṭaṃ. Girigabbharanti girīnaṃ kucchito pavattaṃ. Madhupipphalanti madhuraphalaṃ. Rammaketi ramaṇīye. Kimpurisāyutanti kimpurisehi āyutaṃ parikiṇṇaṃ. Setasogandhīkehi cāti nānappakārehi setuppalehi ceva sogandhikehi ca sañchanno. Sīhovāmisapekkhīvāti āmisaṃ pekkhanto sīho viya.
พินฺทุสฺสราติ สมฺปิณฺฑิตสฺสราฯ วคฺคูติ มธุรสฺสราฯ กูชนฺตมุปกูชนฺตีติ ปฐมํ กูชมานํ ปกฺขิํ ปจฺฉา อุปกูชนฺติฯ อุตุสํปุปฺผิเต ทุเมติ อุตุสมเย ปุปฺผิเต ทุเม นิลียิตฺวา กูชนฺตํ อุปกูชนฺติฯ โส ทกฺขิสีติ โส ตฺวํ ปสฺสิสฺสสีติ อโตฺถฯ กรญฺชกกุธายุตนฺติ กรญฺชรุเกฺขหิ จ กกุธรุเกฺขหิ จ สมฺปริกิณฺณํฯ อปฺปฎิคนฺธิยนฺติ ปฎิกูลคนฺธวิรหิตํ มธุโรทกปริกิณฺณํนานปฺปการปทุมุปฺปลาทีหิ สญฺฉนฺนํฯ ปณฺณสาลํ อมาปยาติ ปณฺณสาลํ มาเปยฺยาสิฯ อมาเปตฺวาติ มาเปตฺวาฯ อุญฺฉาจริยาย อีหถาติ อถ ตุเมฺห, เทว, อุญฺฉาจริยาย ยาเปนฺตา อปฺปมตฺตา อีหถ, อารทฺธวีริยา หุตฺวา วิหเรยฺยาถาติ อโตฺถฯ
Bindussarāti sampiṇḍitassarā. Vaggūti madhurassarā. Kūjantamupakūjantīti paṭhamaṃ kūjamānaṃ pakkhiṃ pacchā upakūjanti. Utusaṃpupphite dumeti utusamaye pupphite dume nilīyitvā kūjantaṃ upakūjanti. So dakkhisīti so tvaṃ passissasīti attho. Karañjakakudhāyutanti karañjarukkhehi ca kakudharukkhehi ca samparikiṇṇaṃ. Appaṭigandhiyanti paṭikūlagandhavirahitaṃ madhurodakaparikiṇṇaṃnānappakārapadumuppalādīhi sañchannaṃ. Paṇṇasālaṃ amāpayāti paṇṇasālaṃ māpeyyāsi. Amāpetvāti māpetvā. Uñchācariyāya īhathāti atha tumhe, deva, uñchācariyāya yāpentā appamattā īhatha, āraddhavīriyā hutvā vihareyyāthāti attho.
เอวํ เต ราชาโน ตสฺส ปนฺนรสโยชนมคฺคํ อาจิกฺขิตฺวา ตํ อุโยฺยเชตฺวา เวสฺสนฺตรสฺส อนฺตรายภยสฺส วิโนทนตฺถํ ‘‘มา โกจิเทว ปจฺจามิโตฺต โอกาสํ ลเภยฺยา’’ติ จิเนฺตตฺวา เอกํ พฺยตฺตํ สุสิกฺขิตํ เจตปุตฺตํ อามเนฺตตฺวา ‘‘ตฺวํ คจฺฉเนฺต จ อาคจฺฉเนฺต จ ปริคฺคณฺหาหี’’ติ วนทฺวาเร อารกฺขณตฺถาย ฐเปตฺวา สกนครํ คมิํสุฯ เวสฺสนฺตโรปิ สปุตฺตทาโร คนฺธมาทนปพฺพตํ ปตฺวา, ตํ ทิวสํ ตตฺถ วสิตฺวา ตโต อุตฺตราภิมุโข เวปุลฺลปพฺพตปาเทน คนฺตฺวา, เกตุมติยา นาม นทิยา ตีเร นิสีทิตฺวา วนจรเกน ทินฺนํ มธุมํสํ ขาทิตฺวา ตสฺส สุวณฺณสูจิํ ทตฺวา ตตฺถ นฺหตฺวา ปิวิตฺวา ปฎิปฺปสฺสทฺธทรโถ นทิโต อุตฺตริตฺวา สานุปพฺพตสิขเร ฐิตสฺส นิโคฺรธสฺส มูเล โถกํ นิสีทิตฺวา นิโคฺรธผลานิ ขาทิตฺวา อุฎฺฐาย คจฺฉโนฺต นาฬิกํ นาม ปพฺพตํ ปตฺวา ตํ ปริหรโนฺต มุจลินฺทสรํ คนฺตฺวา สรสฺส ตีเรน ปุพฺพุตฺตรกณฺณํ ปตฺวา, เอกปทิกมเคฺคน วนฆฎํ ปวิสิตฺวา ตํ อติกฺกมฺม คิริวิทุคฺคานํ นทิปฺปภวานํ ปุรโต จตุรํสโปกฺขรณิํ ปาปุณิฯ
Evaṃ te rājāno tassa pannarasayojanamaggaṃ ācikkhitvā taṃ uyyojetvā vessantarassa antarāyabhayassa vinodanatthaṃ ‘‘mā kocideva paccāmitto okāsaṃ labheyyā’’ti cintetvā ekaṃ byattaṃ susikkhitaṃ cetaputtaṃ āmantetvā ‘‘tvaṃ gacchante ca āgacchante ca pariggaṇhāhī’’ti vanadvāre ārakkhaṇatthāya ṭhapetvā sakanagaraṃ gamiṃsu. Vessantaropi saputtadāro gandhamādanapabbataṃ patvā, taṃ divasaṃ tattha vasitvā tato uttarābhimukho vepullapabbatapādena gantvā, ketumatiyā nāma nadiyā tīre nisīditvā vanacarakena dinnaṃ madhumaṃsaṃ khāditvā tassa suvaṇṇasūciṃ datvā tattha nhatvā pivitvā paṭippassaddhadaratho nadito uttaritvā sānupabbatasikhare ṭhitassa nigrodhassa mūle thokaṃ nisīditvā nigrodhaphalāni khāditvā uṭṭhāya gacchanto nāḷikaṃ nāma pabbataṃ patvā taṃ pariharanto mucalindasaraṃ gantvā sarassa tīrena pubbuttarakaṇṇaṃ patvā, ekapadikamaggena vanaghaṭaṃ pavisitvā taṃ atikkamma girividuggānaṃ nadippabhavānaṃ purato caturaṃsapokkharaṇiṃ pāpuṇi.
ตสฺมิํ ขเณ สโกฺก อาวเชฺชโนฺต ‘‘มหาสโตฺต หิมวนฺตํ ปวิโฎฺฐ’’ติ ญตฺวา ‘‘ตสฺส วสนฎฺฐานํ ลทฺธุํ วฎฺฎตี’’ติ จิเนฺตตฺวา วิสฺสกมฺมํ ปโกฺกสาเปตฺวา ‘‘คจฺฉ, ตาต, ตฺวํ วงฺกปพฺพตกุฌจฺฉิมฺหิ รมณีเย ฐาเน อสฺสมปทํ มาเปตฺวา เอหี’’ติ เปเสสิฯ โส ‘‘สาธุ, เทวา’’ติ เทวโลกโต โอตริตฺวา ตตฺถ เทฺว ปณฺณสาลาโย เทฺว จงฺกเม รตฺติฎฺฐานทิวาฎฺฐานานิ จ มาเปตฺวา จงฺกมโกฎิยํ เตสุ เตสุ ฐาเนสุ นานาผลธเร รุเกฺข จ กทลิวนานิ จ ทเสฺสตฺวา สเพฺพ ปพฺพชิตปริกฺขาเร ปฎิยาเทตฺวา ‘‘เย เกจิ ปพฺพชิตุกามา, เต อิเม คณฺหนฺตู’’ติ อกฺขรานิ ลิขิตฺวา อมนุเสฺส จ เภรวสเทฺท มิคปกฺขิโน จ ปฎิกฺกมาเปตฺวา สกฎฺฐานเมว คโตฯ
Tasmiṃ khaṇe sakko āvajjento ‘‘mahāsatto himavantaṃ paviṭṭho’’ti ñatvā ‘‘tassa vasanaṭṭhānaṃ laddhuṃ vaṭṭatī’’ti cintetvā vissakammaṃ pakkosāpetvā ‘‘gaccha, tāta, tvaṃ vaṅkapabbatakujhacchimhi ramaṇīye ṭhāne assamapadaṃ māpetvā ehī’’ti pesesi. So ‘‘sādhu, devā’’ti devalokato otaritvā tattha dve paṇṇasālāyo dve caṅkame rattiṭṭhānadivāṭṭhānāni ca māpetvā caṅkamakoṭiyaṃ tesu tesu ṭhānesu nānāphaladhare rukkhe ca kadalivanāni ca dassetvā sabbe pabbajitaparikkhāre paṭiyādetvā ‘‘ye keci pabbajitukāmā, te ime gaṇhantū’’ti akkharāni likhitvā amanusse ca bheravasadde migapakkhino ca paṭikkamāpetvā sakaṭṭhānameva gato.
มหาสโตฺต เอกปทิกมคฺคํ ทิสฺวา ‘‘ปพฺพชิตานํ วสนฎฺฐานํ ภวิสฺสตี’’ติ มทฺทิญฺจ ปุเตฺต จ อสฺสมปททฺวาเร ฐเปตฺวา อสฺสมปทํ ปวิสิตฺวา อกฺขรานิ โอโลเกตฺวา ‘‘สเกฺกนมฺหิ ทิโฎฺฐ’’ติ ญตฺวา ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา ขคฺคญฺจ ธนุญฺจ อปเนตฺวา สาฎเก โอมุญฺจิตฺวา รตฺตวากจีรํ นิวาเสตฺวา อชินจมฺมํ อํเส กตฺวา ชฎามณฺฑลํ พนฺธิตฺวา อิสิเวสํ คเหตฺวา กตฺตรทณฺฑํ อาทาย ปณฺณสาลโต นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิตสิริํ สมุพฺพหโนฺต ‘‘อโห สุขํ, อโห สุขํ, ปพฺพชฺชา เม อธิคตา’’ติ อุทานํ อุทาเนตฺวา จงฺกมํ อารุยฺห อปราปรํ จงฺกมิตฺวา ปเจฺจกพุทฺธสทิเสน อุปสเมน ปุตฺตทารานํ สนฺติกํ อคมาสิฯ มทฺทีปิ มหาสตฺตสฺส ปาเทสุ ปติตฺวา โรทิตฺวา เตเนว สทฺธิํ อสฺสมปทํ ปวิสิตฺวา อตฺตโน ปณฺณสาลํ คนฺตฺวา อิสิเวสํ คณฺหิฯ ปจฺฉา ปุเตฺตปิ ตาปสกุมารเก กริํสุฯ จตฺตาโร ขตฺติยา วงฺกปพฺพตกุจฺฉิมฺหิ วสิํสุฯ อถ มทฺที มหาสตฺตํ วรํ ยาจิ ‘‘เทว, ตุเมฺห ผลาผลตฺถาย วนํ อคนฺตฺวา ปุเตฺต คเหตฺวา อิเธว โหถ, อหํ ผลาผลํ อาหริสฺสามี’’ติฯ ตโต ปฎฺฐาย สา อรญฺญโต ผลาผลานิ อาหริตฺวา ตโย ชเน ปฎิชคฺคติฯ
Mahāsatto ekapadikamaggaṃ disvā ‘‘pabbajitānaṃ vasanaṭṭhānaṃ bhavissatī’’ti maddiñca putte ca assamapadadvāre ṭhapetvā assamapadaṃ pavisitvā akkharāni oloketvā ‘‘sakkenamhi diṭṭho’’ti ñatvā paṇṇasālaṃ pavisitvā khaggañca dhanuñca apanetvā sāṭake omuñcitvā rattavākacīraṃ nivāsetvā ajinacammaṃ aṃse katvā jaṭāmaṇḍalaṃ bandhitvā isivesaṃ gahetvā kattaradaṇḍaṃ ādāya paṇṇasālato nikkhamitvā pabbajitasiriṃ samubbahanto ‘‘aho sukhaṃ, aho sukhaṃ, pabbajjā me adhigatā’’ti udānaṃ udānetvā caṅkamaṃ āruyha aparāparaṃ caṅkamitvā paccekabuddhasadisena upasamena puttadārānaṃ santikaṃ agamāsi. Maddīpi mahāsattassa pādesu patitvā roditvā teneva saddhiṃ assamapadaṃ pavisitvā attano paṇṇasālaṃ gantvā isivesaṃ gaṇhi. Pacchā puttepi tāpasakumārake kariṃsu. Cattāro khattiyā vaṅkapabbatakucchimhi vasiṃsu. Atha maddī mahāsattaṃ varaṃ yāci ‘‘deva, tumhe phalāphalatthāya vanaṃ agantvā putte gahetvā idheva hotha, ahaṃ phalāphalaṃ āharissāmī’’ti. Tato paṭṭhāya sā araññato phalāphalāni āharitvā tayo jane paṭijaggati.
โพธิสโตฺตปิ ตํ วรํ ยาจิ ‘‘ภเทฺท, มทฺทิ มยํ อิโต ปฎฺฐาย ปพฺพชิตา นาม, อิตฺถี จ นาม พฺรหฺมจริยสฺส มลํ, อิโต ปฎฺฐาย อกาเล มม สนฺติกํ มา อาคจฺฉาหี’’ติฯ สา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฎิจฺฉิฯ มหาสตฺตสฺส เมตฺตานุภาเวน สมนฺตา ติโยชเน สเพฺพ ติรจฺฉานาปิ อญฺญมญฺญํ เมตฺตจิตฺตํ ปฎิลภิํสุฯ มทฺทีเทวีปิ ปาโตว อุฎฺฐาย ปานียปริโภชนียํ อุปฎฺฐาเปตฺวา มุโขทกํ อาหริตฺวา ทนฺตกฎฺฐํ ทตฺวา อสฺสมปทํ สมฺมชฺชิตฺวา เทฺว ปุเตฺต ปิตุ สนฺติเก ฐเปตฺวา ปจฺฉิขณิตฺติองฺกุสหตฺถา อรญฺญํ ปวิสิตฺวา วนมูลผลาผลานิ อาทาย ปจฺฉิํ ปูเรตฺวา สายนฺหสมเย อรญฺญโต อาคนฺตฺวา ปณฺณสาลาย ผลาผลํ ฐเปตฺวา นฺหตฺวา ปุเตฺต นฺหาเปสิฯ อถ จตฺตาโรปิ ชนา ปณฺณสาลาทฺวาเร นิสีทิตฺวา ผลาผลํ ปริภุญฺชนฺติฯ ตโต มทฺที ปุเตฺต คเหตฺวา อตฺตโน ปณฺณสาลํ ปาวิสิฯ อิมินา นิยาเมน เต ปพฺพตกุจฺฉิมฺหิ สตฺต มาเส วสิํสูติฯ
Bodhisattopi taṃ varaṃ yāci ‘‘bhadde, maddi mayaṃ ito paṭṭhāya pabbajitā nāma, itthī ca nāma brahmacariyassa malaṃ, ito paṭṭhāya akāle mama santikaṃ mā āgacchāhī’’ti. Sā ‘‘sādhū’’ti sampaṭicchi. Mahāsattassa mettānubhāvena samantā tiyojane sabbe tiracchānāpi aññamaññaṃ mettacittaṃ paṭilabhiṃsu. Maddīdevīpi pātova uṭṭhāya pānīyaparibhojanīyaṃ upaṭṭhāpetvā mukhodakaṃ āharitvā dantakaṭṭhaṃ datvā assamapadaṃ sammajjitvā dve putte pitu santike ṭhapetvā pacchikhaṇittiaṅkusahatthā araññaṃ pavisitvā vanamūlaphalāphalāni ādāya pacchiṃ pūretvā sāyanhasamaye araññato āgantvā paṇṇasālāya phalāphalaṃ ṭhapetvā nhatvā putte nhāpesi. Atha cattāropi janā paṇṇasālādvāre nisīditvā phalāphalaṃ paribhuñjanti. Tato maddī putte gahetvā attano paṇṇasālaṃ pāvisi. Iminā niyāmena te pabbatakucchimhi satta māse vasiṃsūti.
วนปเวสนกณฺฑวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Vanapavesanakaṇḍavaṇṇanā niṭṭhitā.
ชูชกปพฺพวณฺณนา
Jūjakapabbavaṇṇanā
ตทา กาลิงฺครเฎฺฐ ทุนฺนิวิฎฺฐพฺราหฺมณคามวาสี ชูชโก นาม พฺราหฺมโณ ภิกฺขาจริยาย กหาปณสตํ ลภิตฺวา เอกสฺมิํ พฺราหฺมณกุเล ฐเปตฺวา ปุน ธนปริเยสนตฺถาย คโตฯ ตสฺมิํ จิรายเนฺต พฺราหฺมณกุลา กหาปณสตํ วลเญฺชตฺวา ปจฺฉา อิตเรน อาคนฺตฺวา โจทิยมานา กหาปเณ ทาตุํ อสโกฺกนฺตา อมิตฺตตาปนํ นาม ธีตรํ ตสฺส อทํสุฯ โส ตํ อาทาย กาลิงฺครเฎฺฐ ทุนฺนิวิฎฺฐพฺราหฺมณคามํ คนฺตฺวา วสิฯ อมิตฺตตาปนา สมฺมา พฺราหฺมณํ ปริจรติฯ อถ อเญฺญ ตรุณพฺราหฺมณา ตสฺสา อาจารสมฺปตฺติํ ทิสฺวา ‘‘อยํ มหลฺลกพฺราหฺมณํ สมฺมา ปฎิชคฺคติ, ตุเมฺห ปน อเมฺหสุ กิํ ปมชฺชถา’’ติ อตฺตโน อตฺตโน ภริยาโย ตเชฺชนฺติฯ ตา ‘‘อิมํ อมิตฺตตาปนํ อิมมฺหา คามา ปลาเปสฺสามา’’ติ นทีติตฺถาทีสุ สนฺนิปติตฺวา ตํ ปริภาสิํสุฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Tadā kāliṅgaraṭṭhe dunniviṭṭhabrāhmaṇagāmavāsī jūjako nāma brāhmaṇo bhikkhācariyāya kahāpaṇasataṃ labhitvā ekasmiṃ brāhmaṇakule ṭhapetvā puna dhanapariyesanatthāya gato. Tasmiṃ cirāyante brāhmaṇakulā kahāpaṇasataṃ valañjetvā pacchā itarena āgantvā codiyamānā kahāpaṇe dātuṃ asakkontā amittatāpanaṃ nāma dhītaraṃ tassa adaṃsu. So taṃ ādāya kāliṅgaraṭṭhe dunniviṭṭhabrāhmaṇagāmaṃ gantvā vasi. Amittatāpanā sammā brāhmaṇaṃ paricarati. Atha aññe taruṇabrāhmaṇā tassā ācārasampattiṃ disvā ‘‘ayaṃ mahallakabrāhmaṇaṃ sammā paṭijaggati, tumhe pana amhesu kiṃ pamajjathā’’ti attano attano bhariyāyo tajjenti. Tā ‘‘imaṃ amittatāpanaṃ imamhā gāmā palāpessāmā’’ti nadītitthādīsu sannipatitvā taṃ paribhāsiṃsu. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๑๙๑๔.
1914.
‘‘อหุ วาสี กลิเงฺคสุ, ชูชโก นาม พฺราหฺมโณ;
‘‘Ahu vāsī kaliṅgesu, jūjako nāma brāhmaṇo;
ตสฺสาสิ ทหรา ภริยา, นาเมนามิตฺตตาปนาฯ
Tassāsi daharā bhariyā, nāmenāmittatāpanā.
๑๙๑๕.
1915.
‘‘ตา นํ ตตฺถ คตาโวจุํ, นทิํ อุทกหาริยา;
‘‘Tā naṃ tattha gatāvocuṃ, nadiṃ udakahāriyā;
ถิโย นํ ปริภาสิํสุ, สมาคนฺตฺวา กุตูหลาฯ
Thiyo naṃ paribhāsiṃsu, samāgantvā kutūhalā.
๑๙๑๖.
1916.
‘‘อมิตฺตา นูน เต มาตา, อมิโตฺต นูน เต ปิตา;
‘‘Amittā nūna te mātā, amitto nūna te pitā;
เย ตํ ชิณฺณสฺส ปาทํสุ, เอวํ ทหริยํ สติํฯ
Ye taṃ jiṇṇassa pādaṃsu, evaṃ dahariyaṃ satiṃ.
๑๙๑๗.
1917.
‘‘อหิตํ วต เต ญาตี, มนฺตยิํสุ รโหคตา;
‘‘Ahitaṃ vata te ñātī, mantayiṃsu rahogatā;
เย ตํ ชิณฺณสฺส ปาทํสุ, เอวํ ทหริยํ สติํฯ
Ye taṃ jiṇṇassa pādaṃsu, evaṃ dahariyaṃ satiṃ.
๑๙๑๘.
1918.
‘‘อมิตฺตา วต เต ญาตี, มนฺตยิํสุ รโหคตา;
‘‘Amittā vata te ñātī, mantayiṃsu rahogatā;
เย ตํ ชิณฺณสฺส ปาทํสุ, เอวํ ทหริยํ สติํฯ
Ye taṃ jiṇṇassa pādaṃsu, evaṃ dahariyaṃ satiṃ.
๑๙๑๙.
1919.
‘‘ทุกฺกฎํ วต เต ญาตี, มนฺตยิํสุ รโหคตา;
‘‘Dukkaṭaṃ vata te ñātī, mantayiṃsu rahogatā;
เย ตํ ชิณฺณสฺส ปาทํสุ, เอวํ ทหริยํ สติํฯ
Ye taṃ jiṇṇassa pādaṃsu, evaṃ dahariyaṃ satiṃ.
๑๙๒๐.
1920.
‘‘ปาปกํ วต เต ญาตี, มนฺตยิํสุ รโหคตา;
‘‘Pāpakaṃ vata te ñātī, mantayiṃsu rahogatā;
เย ตํ ชิณฺณสฺส ปาทํสุ, เอวํ ทหริยํ สติํฯ
Ye taṃ jiṇṇassa pādaṃsu, evaṃ dahariyaṃ satiṃ.
๑๙๒๑.
1921.
‘‘อมนาปํ วต เต ญาตี, มนฺตยิํสุ รโหคตา;
‘‘Amanāpaṃ vata te ñātī, mantayiṃsu rahogatā;
เย ตํ ชิณฺณสฺส ปาทํสุ, เอวํ ทหริยํ สติํฯ
Ye taṃ jiṇṇassa pādaṃsu, evaṃ dahariyaṃ satiṃ.
๑๙๒๒.
1922.
‘‘อมนาปวาสํ วสิ, ชิเณฺณน ปตินา สห;
‘‘Amanāpavāsaṃ vasi, jiṇṇena patinā saha;
ยา ตฺวํ วสสิ ชิณฺณสฺส, มตํ เต ชีวิตา วรํฯ
Yā tvaṃ vasasi jiṇṇassa, mataṃ te jīvitā varaṃ.
๑๙๒๓.
1923.
‘‘น หิ นูน ตุยฺหํ กลฺยาณิ, ปิตา มาตา จ โสภเน;
‘‘Na hi nūna tuyhaṃ kalyāṇi, pitā mātā ca sobhane;
อญฺญํ ภตฺตารํ วินฺทิํสุ, เย ตํ ชิณฺณสฺส ปาทํสุ;
Aññaṃ bhattāraṃ vindiṃsu, ye taṃ jiṇṇassa pādaṃsu;
เอวํ ทหริยํ สติํฯ
Evaṃ dahariyaṃ satiṃ.
๑๙๒๔.
1924.
‘‘ทุยิฎฺฐํ เต นวมิยํ, อกตํ อคฺคิหุตฺตกํ;
‘‘Duyiṭṭhaṃ te navamiyaṃ, akataṃ aggihuttakaṃ;
เย ตํ ชิณฺณสฺส ปาทํสุ, เอวํ ทหริยํ สติํฯ
Ye taṃ jiṇṇassa pādaṃsu, evaṃ dahariyaṃ satiṃ.
๑๙๒๕.
1925.
‘‘สมเณ พฺราหฺมเณ นูน, พฺรหฺมจริยปรายเณ;
‘‘Samaṇe brāhmaṇe nūna, brahmacariyaparāyaṇe;
สา ตฺวํ โลเก อภิสปิ, สีลวเนฺต พหุสฺสุเต;
Sā tvaṃ loke abhisapi, sīlavante bahussute;
ยา ตฺวํ วสสิ ชิณฺณสฺส, เอวํ ทหริยา สตีฯ
Yā tvaṃ vasasi jiṇṇassa, evaṃ dahariyā satī.
๑๙๒๖.
1926.
‘‘น ทุกฺขํ อหินา ทฎฺฐํ, น ทุกฺขํ สตฺติยา หตํ;
‘‘Na dukkhaṃ ahinā daṭṭhaṃ, na dukkhaṃ sattiyā hataṃ;
ตญฺจ ทุกฺขญฺจ ติพฺพญฺจ, ยํ ปเสฺส ชิณฺณกํ ปติํฯ
Tañca dukkhañca tibbañca, yaṃ passe jiṇṇakaṃ patiṃ.
๑๙๒๗.
1927.
‘‘นตฺถิ ขิฑฺฑา นตฺถิ รติ, ชิเณฺณน ปตินา สห;
‘‘Natthi khiḍḍā natthi rati, jiṇṇena patinā saha;
นตฺถิ อาลาปสลฺลาโป, ชคฺฆิตมฺปิ น โสภติฯ
Natthi ālāpasallāpo, jagghitampi na sobhati.
๑๙๒๘.
1928.
‘‘ยทา จ ทหโร ทหรา, มนฺตยนฺติ รโหคตา;
‘‘Yadā ca daharo daharā, mantayanti rahogatā;
สเพฺพสํ โสกา นสฺสนฺติ, เย เกจิ หทยสฺสิตาฯ
Sabbesaṃ sokā nassanti, ye keci hadayassitā.
๑๙๒๙.
1929.
‘‘ทหรา ตฺวํ รูปวตี, ปุริสานํภิปตฺถิตา;
‘‘Daharā tvaṃ rūpavatī, purisānaṃbhipatthitā;
คจฺฉ ญาติกุเล อจฺฉ, กิํ ชิโณฺณ รมยิสฺสตี’’ติฯ
Gaccha ñātikule accha, kiṃ jiṇṇo ramayissatī’’ti.
ตตฺถ อหูติ อโหสิฯ วาสี กลิเงฺคสูติ กาลิงฺครเฎฺฐสุ ทุนฺนิวิฎฺฐพฺราหฺมณคามวาสีฯ ตา นํ ตตฺถ คตาโวจุนฺติ ตตฺถ คาเม ตา อิตฺถิโย นทีติเตฺถ อุทกหาริกา หุตฺวา คตา นํ อโวจุํฯ ถิโย นํ ปริภาสิํสูติ อิตฺถิโย น อญฺญํ กิญฺจิ อโวจุํ, อถ โข นํ ปริภาสิํสุฯ กุตูหลาติ โกตูหลชาตา วิย หุตฺวาฯ สมาคนฺตฺวาติ สมนฺตา ปริกฺขิปิตฺวาฯ ทหริยํ สตินฺติ ทหริํ ตรุณิํ โสภคฺคปฺปตฺตํ สมานํฯ ชิณฺณสฺสาติ ชราชิณฺณสฺส เคเหฯ ทุยิฎฺฐํ เต นวมิยนฺติ ตว นวมิยํ ยาคํ ทุยิฎฺฐํ ภวิสฺสติ, โส เต ยาคปิโณฺฑ ปฐมํ มหลฺลกกาเกน คหิโต ภวิสฺสติฯ ‘‘ทุยิฎฺฐา เต นวมิยา’’ติปิ ปาโฐ, นวมิยา ตยา ทุยิฎฺฐา ภวิสฺสตีติ อโตฺถฯ อกตํ อคฺคิหุตฺตกนฺติ อคฺคิชุหนมฺปิ ตยา อกตํ ภวิสฺสติฯ อภิสปีติ สมณพฺราหฺมเณ สมิตปาเป วา พาหิตปาเป วา อโกฺกสิฯ ตสฺส เต ปาปสฺส อิทํ ผลนฺติ อธิปฺปาเยเนว อาหํสุฯ ชคฺฆิตมฺปิ น โสภตีติ ขณฺฑทเนฺต วิวริตฺวา หสนฺตสฺส มหลฺลกสฺส หสิตมฺปิ น โสภติฯ สเพฺพสํ โสกา นสฺสนฺตีติ สเพฺพ เอเตสํ โสกา วินสฺสนฺติฯ กิํ ชิโณฺณติ อยํ ชิโณฺณ ตํ ปญฺจหิ กามคุเณหิ กถํ รมยิสฺสตีติฯ
Tattha ahūti ahosi. Vāsī kaliṅgesūti kāliṅgaraṭṭhesu dunniviṭṭhabrāhmaṇagāmavāsī. Tā naṃ tattha gatāvocunti tattha gāme tā itthiyo nadītitthe udakahārikā hutvā gatā naṃ avocuṃ. Thiyo naṃ paribhāsiṃsūti itthiyo na aññaṃ kiñci avocuṃ, atha kho naṃ paribhāsiṃsu. Kutūhalāti kotūhalajātā viya hutvā. Samāgantvāti samantā parikkhipitvā. Dahariyaṃ satinti dahariṃ taruṇiṃ sobhaggappattaṃ samānaṃ. Jiṇṇassāti jarājiṇṇassa gehe. Duyiṭṭhaṃ te navamiyanti tava navamiyaṃ yāgaṃ duyiṭṭhaṃ bhavissati, so te yāgapiṇḍo paṭhamaṃ mahallakakākena gahito bhavissati. ‘‘Duyiṭṭhā te navamiyā’’tipi pāṭho, navamiyā tayā duyiṭṭhā bhavissatīti attho. Akataṃ aggihuttakanti aggijuhanampi tayā akataṃ bhavissati. Abhisapīti samaṇabrāhmaṇe samitapāpe vā bāhitapāpe vā akkosi. Tassa te pāpassa idaṃ phalanti adhippāyeneva āhaṃsu. Jagghitampi na sobhatīti khaṇḍadante vivaritvā hasantassa mahallakassa hasitampi na sobhati. Sabbesaṃ sokā nassantīti sabbe etesaṃ sokā vinassanti. Kiṃ jiṇṇoti ayaṃ jiṇṇo taṃ pañcahi kāmaguṇehi kathaṃ ramayissatīti.
สา ตาสํ สนฺติกา ปริภาสํ ลภิตฺวา อุทกฆฎํ อาทาย โรทมานา ฆรํ คนฺตฺวา ‘‘กิํ โภติ โรทสี’’ติ พฺราหฺมเณน ปุฎฺฐา ตสฺส อาโรเจนฺตี อิมํ คาถมาห –
Sā tāsaṃ santikā paribhāsaṃ labhitvā udakaghaṭaṃ ādāya rodamānā gharaṃ gantvā ‘‘kiṃ bhoti rodasī’’ti brāhmaṇena puṭṭhā tassa ārocentī imaṃ gāthamāha –
๑๙๓๐.
1930.
‘‘น เต พฺราหฺมณ คจฺฉามิ, นทิํ อุทกหาริยา;
‘‘Na te brāhmaṇa gacchāmi, nadiṃ udakahāriyā;
ถิโย มํ ปริภาสนฺติ, ตยา ชิเณฺณน พฺราหฺมณา’’ติฯ
Thiyo maṃ paribhāsanti, tayā jiṇṇena brāhmaṇā’’ti.
ตสฺสโตฺถ – พฺราหฺมณ, ตยา ชิเณฺณน มํ อิตฺถิโย ปริภาสนฺติ, ตสฺมา อิโต ปฎฺฐาย ตว อุทกหาริกา หุตฺวา นทิํ น คจฺฉามีติฯ
Tassattho – brāhmaṇa, tayā jiṇṇena maṃ itthiyo paribhāsanti, tasmā ito paṭṭhāya tava udakahārikā hutvā nadiṃ na gacchāmīti.
ชูชโก อาห –
Jūjako āha –
๑๙๓๑.
1931.
‘‘มา เม ตฺวํ อกรา กมฺมํ, มา เม อุทกมาหริ;
‘‘Mā me tvaṃ akarā kammaṃ, mā me udakamāhari;
อหํ อุทกมาหิสฺสํ, มา โภติ กุปิตา อหู’’ติฯ
Ahaṃ udakamāhissaṃ, mā bhoti kupitā ahū’’ti.
ตตฺถ อุทกมาหิสฺสนฺติ โภติ อหํ อุทกํ อาหริสฺสามิฯ
Tattha udakamāhissanti bhoti ahaṃ udakaṃ āharissāmi.
พฺราหฺมณี อาห –
Brāhmaṇī āha –
๑๙๓๒.
1932.
‘‘นาหํ ตมฺหิ กุเล ชาตา, ยํ ตฺวํ อุทกมาหเร;
‘‘Nāhaṃ tamhi kule jātā, yaṃ tvaṃ udakamāhare;
เอวํ พฺราหฺมณ ชานาหิ, น เต วจฺฉามหํ ฆเรฯ
Evaṃ brāhmaṇa jānāhi, na te vacchāmahaṃ ghare.
๑๙๓๓.
1933.
‘‘สเจ เม ทาสํ ทาสิํ วา, นานยิสฺสสิ พฺราหฺมณ;
‘‘Sace me dāsaṃ dāsiṃ vā, nānayissasi brāhmaṇa;
เอวํ พฺราหฺมณ ชานาหิ, น เต วจฺฉามิ สนฺติเก’’ติฯ
Evaṃ brāhmaṇa jānāhi, na te vacchāmi santike’’ti.
ตตฺถ นาหนฺติ พฺราหฺมณ, ยมฺหิ กุเล สามิโก กมฺมํ กโรติ, นาหํ ตตฺถ ชาตาฯ ยํ ตฺวนฺติ ตสฺมา ยํ อุทกํ ตฺวํ อาหริสฺสสิ, น มยฺหํ เตน อโตฺถฯ
Tattha nāhanti brāhmaṇa, yamhi kule sāmiko kammaṃ karoti, nāhaṃ tattha jātā. Yaṃ tvanti tasmā yaṃ udakaṃ tvaṃ āharissasi, na mayhaṃ tena attho.
ชูชโก อาห –
Jūjako āha –
๑๙๓๔.
1934.
‘‘นตฺถิ เม สิปฺปฐานํ วา, ธนํ ธญฺญญฺจ พฺราหฺมณิ;
‘‘Natthi me sippaṭhānaṃ vā, dhanaṃ dhaññañca brāhmaṇi;
กุโตหํ ทาสํ ทาสิํ วา, อานยิสฺสามิ โภติยา;
Kutohaṃ dāsaṃ dāsiṃ vā, ānayissāmi bhotiyā;
อหํ โภติํ อุปฎฺฐิสฺสํ, มา โภติ กุปิตา อหู’’ติฯ
Ahaṃ bhotiṃ upaṭṭhissaṃ, mā bhoti kupitā ahū’’ti.
พฺราหฺมณี อาห –
Brāhmaṇī āha –
๑๙๓๕.
1935.
‘‘เอหิ เต อหมกฺขิสฺสํ, ยถา เม วจนํ สุตํ;
‘‘Ehi te ahamakkhissaṃ, yathā me vacanaṃ sutaṃ;
เอส เวสฺสนฺตโร ราชา, วเงฺก วสติ ปพฺพเตฯ
Esa vessantaro rājā, vaṅke vasati pabbate.
๑๙๓๖.
1936.
‘‘ตํ ตฺวํ คนฺตฺวาน ยาจสฺสุ, ทาสํ ทาสิญฺจ พฺราหฺมณ;
‘‘Taṃ tvaṃ gantvāna yācassu, dāsaṃ dāsiñca brāhmaṇa;
โส เต ทสฺสติ ยาจิโต, ทาสํ ทาสิญฺจ ขตฺติโย’’ติฯ
So te dassati yācito, dāsaṃ dāsiñca khattiyo’’ti.
ตตฺถ เอหิ เต อหมกฺขิสฺสนฺติ อหํ เต อาจิกฺขิสฺสามิฯ อิทํ สา เทวตาธิคฺคหิตา หุตฺวา อาหฯ
Tattha ehi te ahamakkhissanti ahaṃ te ācikkhissāmi. Idaṃ sā devatādhiggahitā hutvā āha.
ชูชโก อาห –
Jūjako āha –
๑๙๓๗.
1937.
‘‘ชิโณฺณหมสฺมิ ทุพฺพโล, ทีโฆ จทฺธา สุทุคฺคโม;
‘‘Jiṇṇohamasmi dubbalo, dīgho caddhā suduggamo;
มา โภติ ปริเทเวสิ, มา จ ตฺวํ วิมนา อหุ;
Mā bhoti paridevesi, mā ca tvaṃ vimanā ahu;
อหํ โภติํ อุปฎฺฐิสฺสํ, มา โภติ กุปิตา อหู’’ติฯ
Ahaṃ bhotiṃ upaṭṭhissaṃ, mā bhoti kupitā ahū’’ti.
ตตฺถ ชิโณฺณหมสฺมีติ ภเทฺท, อหํ ชิโณฺณ อมฺหิ, กถํ คมิสฺสามีติฯ
Tattha jiṇṇohamasmīti bhadde, ahaṃ jiṇṇo amhi, kathaṃ gamissāmīti.
พฺราหฺมณี อาห –
Brāhmaṇī āha –
๑๙๓๘.
1938.
‘‘ยถา อคนฺตฺวา สงฺคามํ, อยุโทฺธว ปราชิโต;
‘‘Yathā agantvā saṅgāmaṃ, ayuddhova parājito;
เอวเมว ตุวํ พฺรเหฺม, อคนฺตฺวาว ปราชิโตฯ
Evameva tuvaṃ brahme, agantvāva parājito.
๑๙๓๙.
1939.
‘‘สเจ เม ทาสํ ทาสิํ วา, นานยิสฺสสิ พฺราหฺมณ;
‘‘Sace me dāsaṃ dāsiṃ vā, nānayissasi brāhmaṇa;
เอวํ พฺราหฺมณ ชานาหิ, น เต วจฺฉามหํ ฆเร;
Evaṃ brāhmaṇa jānāhi, na te vacchāmahaṃ ghare;
อมนาปํ เต กริสฺสามิ, ตํ เต ทุกฺขํ ภวิสฺสติฯ
Amanāpaṃ te karissāmi, taṃ te dukkhaṃ bhavissati.
๑๙๔๐.
1940.
‘‘นกฺขเตฺต อุตุปุเพฺพสุ, ยทา มํ ทกฺขิสิลงฺกตํ;
‘‘Nakkhatte utupubbesu, yadā maṃ dakkhisilaṅkataṃ;
อเญฺญหิ สทฺธิํ รมมานํ, ตํ เต ทุกฺขํ ภวิสฺสติฯ
Aññehi saddhiṃ ramamānaṃ, taṃ te dukkhaṃ bhavissati.
๑๙๔๑.
1941.
‘‘อทสฺสเนน มยฺหํ เต, ชิณฺณสฺส ปริเทวโต;
‘‘Adassanena mayhaṃ te, jiṇṇassa paridevato;
ภิโยฺย วงฺกา จ ปลิตา, พหู เหสฺสนฺติ พฺราหฺมณา’’ติฯ
Bhiyyo vaṅkā ca palitā, bahū hessanti brāhmaṇā’’ti.
ตตฺถ อมนาปํ เตติ เวสฺสนฺตรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ทาสํ วา ทาสิํ วา อนาหรนฺตสฺส ตว อรุจฺจนกํ กมฺมํ กริสฺสามิฯ นกฺขเตฺต อุตุปุเพฺพสูติ นกฺขตฺตโยควเสน วา ฉนฺนํ อุตูนํ ตสฺส ตสฺส ปุพฺพวเสน วา ปวเตฺตสุ ฉเณสุฯ
Tattha amanāpaṃ teti vessantarassa santikaṃ gantvā dāsaṃ vā dāsiṃ vā anāharantassa tava aruccanakaṃ kammaṃ karissāmi. Nakkhatte utupubbesūti nakkhattayogavasena vā channaṃ utūnaṃ tassa tassa pubbavasena vā pavattesu chaṇesu.
ตํ สุตฺวา พฺราหฺมโณ ภีโต อโหสิฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Taṃ sutvā brāhmaṇo bhīto ahosi. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๑๙๔๒.
1942.
‘‘ตโต โส พฺราหฺมโณ ภีโต, พฺราหฺมณิยา วสานุโค;
‘‘Tato so brāhmaṇo bhīto, brāhmaṇiyā vasānugo;
อฎฺฎิโต กามราเคน, พฺราหฺมณิํ เอตทพฺรวิฯ
Aṭṭito kāmarāgena, brāhmaṇiṃ etadabravi.
๑๙๔๓.
1943.
‘‘ปาเถยฺยํ เม กโรหิ ตฺวํ, สํกุลฺยา สคุฬานิ จ;
‘‘Pātheyyaṃ me karohi tvaṃ, saṃkulyā saguḷāni ca;
มธุปิณฺฑิกา จ สุกตาโย, สตฺตุภตฺตญฺจ พฺราหฺมณิฯ
Madhupiṇḍikā ca sukatāyo, sattubhattañca brāhmaṇi.
๑๙๔๔.
1944.
‘‘อานยิสฺสํ เมถุนเก, อุโภ ทาสกุมารเก;
‘‘Ānayissaṃ methunake, ubho dāsakumārake;
เต ตํ ปริจริสฺสนฺติ, รตฺตินฺทิวมตนฺทิตา’’ติฯ
Te taṃ paricarissanti, rattindivamatanditā’’ti.
ตตฺถ อฎฺฎิโตติ อุปทฺทุโต ปีฬิโตฯ สคุฬานิ จาติ สคุฬปูเว จฯ สตฺตุภตฺตนฺติ พทฺธสตฺตุอพทฺธสตฺตุเญฺจว ปุฎภตฺตญฺจฯ เมถุนเกติ ชาติโคตฺตกุลปเทเสหิ สทิเสฯ ทาสกุมารเกติ ตว ทาสตฺถาย กุมารเกฯ
Tattha aṭṭitoti upadduto pīḷito. Saguḷāni cāti saguḷapūve ca. Sattubhattanti baddhasattuabaddhasattuñceva puṭabhattañca. Methunaketi jātigottakulapadesehi sadise. Dāsakumāraketi tava dāsatthāya kumārake.
สา ขิปฺปํ ปาเถยฺยํ ปฎิยาเทตฺวา พฺราหฺมณสฺส อาโรเจสิฯ โส เคเห ทุพฺพลฎฺฐานํ ถิรํ กตฺวา ทฺวารํ สงฺขริตฺวา อรญฺญา ทารูนิ อาหริตฺวา ฆเฎน อุทกํ อาหริตฺวา เคเห สพฺพภาชนานิ ปูเรตฺวา ตเตฺถว ตาปสเวสํ คเหตฺวา ‘‘ภเทฺท, อิโต ปฎฺฐาย วิกาเล มา นิกฺขมิ, ยาว มมาคมนา อปฺปมตฺตา โหหี’’ติ โอวทิตฺวา อุปาหนํ อารุยฺห ปาเถยฺยปสิพฺพกํ อํเส ลเคฺคตฺวา อมิตฺตตาปนํ ปทกฺขิณํ กตฺวา อสฺสุปุเณฺณหิ เนเตฺตหิ โรทิตฺวา ปกฺกามิฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Sā khippaṃ pātheyyaṃ paṭiyādetvā brāhmaṇassa ārocesi. So gehe dubbalaṭṭhānaṃ thiraṃ katvā dvāraṃ saṅkharitvā araññā dārūni āharitvā ghaṭena udakaṃ āharitvā gehe sabbabhājanāni pūretvā tattheva tāpasavesaṃ gahetvā ‘‘bhadde, ito paṭṭhāya vikāle mā nikkhami, yāva mamāgamanā appamattā hohī’’ti ovaditvā upāhanaṃ āruyha pātheyyapasibbakaṃ aṃse laggetvā amittatāpanaṃ padakkhiṇaṃ katvā assupuṇṇehi nettehi roditvā pakkāmi. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๑๙๔๕.
1945.
‘‘อิทํ วตฺวา พฺรหฺมพนฺธุ, ปฎิมุญฺจิ อุปาหนา;
‘‘Idaṃ vatvā brahmabandhu, paṭimuñci upāhanā;
ตโต โส มนฺตยิตฺวาน, ภริยํ กตฺวา ปทกฺขิณํฯ
Tato so mantayitvāna, bhariyaṃ katvā padakkhiṇaṃ.
๑๙๔๖.
1946.
‘‘ปกฺกามิ โส รุณฺณมุโข, พฺราหฺมโณ สหิตพฺพโต;
‘‘Pakkāmi so ruṇṇamukho, brāhmaṇo sahitabbato;
สิวีนํ นครํ ผีตํ, ทาสปริเยสนํ จร’’นฺติฯ
Sivīnaṃ nagaraṃ phītaṃ, dāsapariyesanaṃ cara’’nti.
ตตฺถ รุณฺณมุโขติ รุทํมุโขฯ สหิตพฺพโตติ สมาทินฺนวโต, คหิตตาปสเวโสติ อโตฺถฯ จรนฺติ ทาสปริเยสนํ จรโนฺต สิวีนํ นครํ อารพฺภ ปกฺกามิฯ
Tattha ruṇṇamukhoti rudaṃmukho. Sahitabbatoti samādinnavato, gahitatāpasavesoti attho. Caranti dāsapariyesanaṃ caranto sivīnaṃ nagaraṃ ārabbha pakkāmi.
โส ตํ นครํ คนฺตฺวา สนฺนิปติตํ ชนํ ‘‘เวสฺสนฺตโร กุหิ’’นฺติ ปุจฺฉติฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
So taṃ nagaraṃ gantvā sannipatitaṃ janaṃ ‘‘vessantaro kuhi’’nti pucchati. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๑๙๔๗.
1947.
‘‘โส ตตฺถ คนฺตฺวา อวจ, เย ตตฺถาสุํ สมาคตา;
‘‘So tattha gantvā avaca, ye tatthāsuṃ samāgatā;
กุหิํ เวสฺสนฺตโร ราชา, กตฺถ ปเสฺสมุ ขตฺติยํฯ
Kuhiṃ vessantaro rājā, kattha passemu khattiyaṃ.
๑๙๔๘.
1948.
‘‘เต ชนา ตํ อวจิํสุ, เย ตตฺถาสุํ สมาคตา;
‘‘Te janā taṃ avaciṃsu, ye tatthāsuṃ samāgatā;
ตุเมฺหหิ พฺรเหฺม ปกโต, อติทาเนน ขตฺติโย;
Tumhehi brahme pakato, atidānena khattiyo;
ปพฺพาชิโต สกา รฎฺฐา, วเงฺก วสติ ปพฺพเตฯ
Pabbājito sakā raṭṭhā, vaṅke vasati pabbate.
๑๙๔๙.
1949.
‘‘ตุเมฺหหิ พฺรเหฺม ปกโต, อติทาเนน ขตฺติโย;
‘‘Tumhehi brahme pakato, atidānena khattiyo;
อาทาย ปุตฺตทารญฺจ, วเงฺก วสติ ปพฺพเต’’ติฯ
Ādāya puttadārañca, vaṅke vasati pabbate’’ti.
ตตฺถ ปกโตติ อุปทฺทุโต ปีฬิโต อตฺตโน นคเร วสิตุํ อลภิตฺวา อิทานิ วงฺกปพฺพเต วสติฯ
Tattha pakatoti upadduto pīḷito attano nagare vasituṃ alabhitvā idāni vaṅkapabbate vasati.
เอวํ ‘‘ตุเมฺห อมฺหากํ ราชานํ นาเสตฺวา ปุนปิ อาคตา อิธ ติฎฺฐถา’’ติ เต เลฑฺฑุทณฺฑาทิหตฺถา พฺราหฺมณํ อนุพนฺธิํสุฯ โส เทวตาธิคฺคหิโต หุตฺวา วงฺกปพฺพตมคฺคเมว คณฺหิฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Evaṃ ‘‘tumhe amhākaṃ rājānaṃ nāsetvā punapi āgatā idha tiṭṭhathā’’ti te leḍḍudaṇḍādihatthā brāhmaṇaṃ anubandhiṃsu. So devatādhiggahito hutvā vaṅkapabbatamaggameva gaṇhi. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๑๙๕๐.
1950.
‘‘โส โจทิโต พฺราหฺมณิยา, พฺราหฺมโณ กามคิทฺธิมา;
‘‘So codito brāhmaṇiyā, brāhmaṇo kāmagiddhimā;
อฆํ ตํ ปฎิเสวิตฺถ, วเน วาฬมิคากิเณฺณ;
Aghaṃ taṃ paṭisevittha, vane vāḷamigākiṇṇe;
ขคฺคทีปินิเสวิเตฯ
Khaggadīpinisevite.
๑๙๕๑.
1951.
‘‘อาทาย เพฬุวํ ทณฺฑํ, อคฺคิหุตฺตํ กมณฺฑลุํ;
‘‘Ādāya beḷuvaṃ daṇḍaṃ, aggihuttaṃ kamaṇḍaluṃ;
โส ปาวิสิ พฺรหารญฺญํ, ยตฺถ อโสฺสสิ กามทํฯ
So pāvisi brahāraññaṃ, yattha assosi kāmadaṃ.
๑๙๕๒.
1952.
‘‘ตํ ปวิฎฺฐํ พฺรหารญฺญํ, โกกา นํ ปริวารยุํ;
‘‘Taṃ paviṭṭhaṃ brahāraññaṃ, kokā naṃ parivārayuṃ;
วิกฺกนฺทิ โส วิปฺปนโฎฺฐ, ทูเร ปนฺถา อปกฺกมิฯ
Vikkandi so vippanaṭṭho, dūre panthā apakkami.
๑๙๕๓.
1953.
‘‘ตโต โส พฺราหฺมโณ คนฺตฺวา, โภคลุโทฺธ อสญฺญโต;
‘‘Tato so brāhmaṇo gantvā, bhogaluddho asaññato;
วงฺกโสฺสโรหเณ นเฎฺฐ, อิมา คาถา อภาสถา’’ติฯ
Vaṅkassorohaṇe naṭṭhe, imā gāthā abhāsathā’’ti.
ตตฺถ อฆํ ตนฺติ ตํ มหาชเนน อนุพนฺธนทุกฺขเญฺจว วนปริโยคาหนทุกฺขญฺจฯ อคฺคิหุตฺตนฺติ อคฺคิชุหนกฎจฺฉุํฯ โกกา นํ ปริวารยุนฺติ โส หิ อรญฺญํ ปวิสิตฺวา วงฺกปพฺพตคามิมคฺคํ อชานโนฺต มคฺคมูโฬฺห หุตฺวา อรเญฺญ วิจริฯ อถ นํ อารกฺขณตฺถาย นิสินฺนสฺส เจตปุตฺตสฺส สุนขา ปริวารยิํสูติ อโตฺถฯ วิกฺกนฺทิ โสติ โส เอกรุกฺขํ อารุยฺห มหเนฺตน รเวน กนฺทิฯ วิปฺปนโฎฺฐติ วินฎฺฐมโคฺคฯ ทูเร ปนฺถาติ วงฺกปพฺพตคามิปนฺถโต ทูเร ปกฺกามิฯ โภคลุโทฺธติ โภครโตฺตฯ อสญฺญโตติ ทุสฺสีโลฯ วงฺกโสฺสโรหเณ นเฎฺฐติ วงฺกปพฺพตสฺส คมนมเคฺค วินเฎฺฐฯ
Tattha aghaṃ tanti taṃ mahājanena anubandhanadukkhañceva vanapariyogāhanadukkhañca. Aggihuttanti aggijuhanakaṭacchuṃ. Kokā naṃ parivārayunti so hi araññaṃ pavisitvā vaṅkapabbatagāmimaggaṃ ajānanto maggamūḷho hutvā araññe vicari. Atha naṃ ārakkhaṇatthāya nisinnassa cetaputtassa sunakhā parivārayiṃsūti attho. Vikkandi soti so ekarukkhaṃ āruyha mahantena ravena kandi. Vippanaṭṭhoti vinaṭṭhamaggo. Dūre panthāti vaṅkapabbatagāmipanthato dūre pakkāmi. Bhogaluddhoti bhogaratto. Asaññatoti dussīlo. Vaṅkassorohaṇe naṭṭheti vaṅkapabbatassa gamanamagge vinaṭṭhe.
โส สุนเขหิ ปริวาริโต รุเกฺข นิสิโนฺนว อิมา คาถา อภาสถ –
So sunakhehi parivārito rukkhe nisinnova imā gāthā abhāsatha –
๑๙๕๔.
1954.
‘‘โก ราชปุตฺตํ นิสภํ, ชยนฺตมปราชิตํ;
‘‘Ko rājaputtaṃ nisabhaṃ, jayantamaparājitaṃ;
ภเย เขมสฺส ทาตารํ, โก เม เวสฺสนฺตรํ วิทูฯ
Bhaye khemassa dātāraṃ, ko me vessantaraṃ vidū.
๑๙๕๕.
1955.
‘‘โย ยาจตํ ปติฎฺฐาสิ, ภูตานํ ธรณีริว;
‘‘Yo yācataṃ patiṭṭhāsi, bhūtānaṃ dharaṇīriva;
ธรณูปมํ มหาราชํ, โก เม เวสฺสนฺตรํ วิทูฯ
Dharaṇūpamaṃ mahārājaṃ, ko me vessantaraṃ vidū.
๑๙๕๖.
1956.
‘‘โย ยาจตํ คตี อาสิ, สวนฺตีนํว สาคโร;
‘‘Yo yācataṃ gatī āsi, savantīnaṃva sāgaro;
สาครูปมํ มหาราชํ, โก เม เวสฺสนฺตรํ วิทูฯ
Sāgarūpamaṃ mahārājaṃ, ko me vessantaraṃ vidū.
๑๙๕๗.
1957.
‘‘กลฺยาณติตฺถํ สุจิมํ, สีตูทกํ มโนรมํ;
‘‘Kalyāṇatitthaṃ sucimaṃ, sītūdakaṃ manoramaṃ;
ปุณฺฑรีเกหิ สญฺฉนฺนํ, ยุตฺตํ กิญฺชกฺขเรณุนา;
Puṇḍarīkehi sañchannaṃ, yuttaṃ kiñjakkhareṇunā;
รหทูปมํ มหาราชํ, โก เม เวสฺสนฺตรํ วิทูฯ
Rahadūpamaṃ mahārājaṃ, ko me vessantaraṃ vidū.
๑๙๕๘.
1958.
‘‘อสฺสตฺถํว ปเถ ชาตํ, สีตจฺฉายํ มโนรมํ;
‘‘Assatthaṃva pathe jātaṃ, sītacchāyaṃ manoramaṃ;
สนฺตานํ วิสเมตารํ, กิลนฺตานํ ปฎิคฺคหํ;
Santānaṃ visametāraṃ, kilantānaṃ paṭiggahaṃ;
ตถูปมํ มหาราชํ, โก เม เวสฺสนฺตรํ วิทูฯ
Tathūpamaṃ mahārājaṃ, ko me vessantaraṃ vidū.
๑๙๕๙.
1959.
‘‘นิโคฺรธํว ปเถ ชาตํ, สีตจฺฉายํ มโนรมํ;
‘‘Nigrodhaṃva pathe jātaṃ, sītacchāyaṃ manoramaṃ;
สนฺตานํ วิสเมตารํ, กิลนฺตานํ ปฎิคฺคหํ;
Santānaṃ visametāraṃ, kilantānaṃ paṭiggahaṃ;
ตถูปมํ มหาราชํ, โก เม เวสฺสนฺตรํ วิทูฯ
Tathūpamaṃ mahārājaṃ, ko me vessantaraṃ vidū.
๑๙๖๐.
1960.
‘‘อมฺพํ อิว ปเถ ชาตํ, สีตจฺฉายํ มโนรมํ;
‘‘Ambaṃ iva pathe jātaṃ, sītacchāyaṃ manoramaṃ;
สนฺตานํ วิสเมตารํ, กิลนฺตานํ ปฎิคฺคหํ;
Santānaṃ visametāraṃ, kilantānaṃ paṭiggahaṃ;
ตถูปมํ มหาราชํ, โก เม เวสฺสนฺตรํ วิทูฯ
Tathūpamaṃ mahārājaṃ, ko me vessantaraṃ vidū.
๑๙๖๑.
1961.
‘‘สาลํ อิว ปเถ ชาตํ, สีตจฺฉายํ มโนรมํ;
‘‘Sālaṃ iva pathe jātaṃ, sītacchāyaṃ manoramaṃ;
สนฺตานํ วิสเมตารํ, กิลนฺตานํ ปฎิคฺคหํ;
Santānaṃ visametāraṃ, kilantānaṃ paṭiggahaṃ;
ตถูปมํ มหาราชํ, โก เม เวสฺสนฺตรํ วิทูฯ
Tathūpamaṃ mahārājaṃ, ko me vessantaraṃ vidū.
๑๙๖๒.
1962.
‘‘ทุมํ อิว ปเถ ชาตํ, สีตจฺฉายํ มโนรมํ;
‘‘Dumaṃ iva pathe jātaṃ, sītacchāyaṃ manoramaṃ;
สนฺตานํ วิสเมตารํ, กิลนฺตานํ ปฎิคฺคหํ;
Santānaṃ visametāraṃ, kilantānaṃ paṭiggahaṃ;
ตถูปมํ มหาราชํ, โก เม เวสฺสนฺตรํ วิทูฯ
Tathūpamaṃ mahārājaṃ, ko me vessantaraṃ vidū.
๑๙๖๓.
1963.
‘‘เอวญฺจ เม วิลปโต, ปวิฎฺฐสฺส พฺรหาวเน;
‘‘Evañca me vilapato, paviṭṭhassa brahāvane;
อหํ ชานนฺติ โย วชฺชา, นนฺทิํ โส ชนเย มมฯ
Ahaṃ jānanti yo vajjā, nandiṃ so janaye mama.
๑๙๖๔.
1964.
‘‘เอวญฺจ เม วิลปโต, ปวิฎฺฐสฺส พฺรหาวเน;
‘‘Evañca me vilapato, paviṭṭhassa brahāvane;
อหํ ชานนฺติ โย วชฺชา, ตาย โส เอกวาจาย;
Ahaṃ jānanti yo vajjā, tāya so ekavācāya;
ปสเว ปุญฺญํ อนปฺปก’’นฺติฯ
Pasave puññaṃ anappaka’’nti.
ตตฺถ ชยนฺตนฺติ มเจฺฉรจิตฺตํ วิชยนฺตํฯ โก เม เวสฺสนฺตรํ วิทูติ โก มยฺหํ เวสฺสนฺตรํ อาจิเกฺขยฺยาติ วทติฯ ปติฎฺฐาสีติ ปติฎฺฐา อาสิฯ สนฺตานนฺติ ปริสฺสนฺตานํฯ กิลนฺตานนฺติ มคฺคกิลนฺตานํฯ ปฎิคฺคหนฺติ ปฎิคฺคาหกํ ปติฎฺฐาภูตํฯ อหํ ชานนฺติ โย วชฺชาติ อหํ เวสฺสนฺตรสฺส วสนฎฺฐานํ ชานามีติ โย วเทยฺยาติ อโตฺถฯ
Tattha jayantanti maccheracittaṃ vijayantaṃ. Ko me vessantaraṃ vidūti ko mayhaṃ vessantaraṃ ācikkheyyāti vadati. Patiṭṭhāsīti patiṭṭhā āsi. Santānanti parissantānaṃ. Kilantānanti maggakilantānaṃ. Paṭiggahanti paṭiggāhakaṃ patiṭṭhābhūtaṃ. Ahaṃ jānanti yo vajjāti ahaṃ vessantarassa vasanaṭṭhānaṃ jānāmīti yo vadeyyāti attho.
ตสฺส ตํ ปริเทวสทฺทํ สุตฺวา อารกฺขณตฺถาย ฐปิโต เจตปุโตฺต มิคลุทฺทโก หุตฺวา อรเญฺญ วิจรโนฺต ‘‘อยํ พฺราหฺมโณ เวสฺสนฺตรสฺส วสนฎฺฐานตฺถาย ปริเทวติ, น โข ปเนส ธมฺมตาย อาคโต, มทฺทิํ วา ทารเก วา ยาจิสฺสติ, อิเธว นํ มาเรสฺสามี’’ติ ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘พฺราหฺมณ, น เต ชีวิตํ ทสฺสามี’’ติ ธนุํ อาโรเปตฺวา อากฑฺฒิตฺวา ตเชฺชสิฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Tassa taṃ paridevasaddaṃ sutvā ārakkhaṇatthāya ṭhapito cetaputto migaluddako hutvā araññe vicaranto ‘‘ayaṃ brāhmaṇo vessantarassa vasanaṭṭhānatthāya paridevati, na kho panesa dhammatāya āgato, maddiṃ vā dārake vā yācissati, idheva naṃ māressāmī’’ti tassa santikaṃ gantvā ‘‘brāhmaṇa, na te jīvitaṃ dassāmī’’ti dhanuṃ āropetvā ākaḍḍhitvā tajjesi. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๑๙๖๕.
1965.
‘‘ตสฺส เจโต ปฎิโสฺสสิ, อรเญฺญ ลุทฺทโก จรํ;
‘‘Tassa ceto paṭissosi, araññe luddako caraṃ;
ตุเมฺหหิ พฺรเหฺม ปกโต, อติทาเนน ขตฺติโย;
Tumhehi brahme pakato, atidānena khattiyo;
ปพฺพาชิโต สกา รฎฺฐา, วเงฺก วสติ ปพฺพเตฯ
Pabbājito sakā raṭṭhā, vaṅke vasati pabbate.
๑๙๖๖.
1966.
‘‘ตุเมฺหหิ พฺรเหฺม ปกโต, อติทาเนน ขตฺติโย;
‘‘Tumhehi brahme pakato, atidānena khattiyo;
อาทาย ปุตฺตทารญฺจ, วเงฺก วสติ ปพฺพเตฯ
Ādāya puttadārañca, vaṅke vasati pabbate.
๑๙๖๗.
1967.
‘‘อกิจฺจการี ทุเมฺมโธ, รฎฺฐา ปวนมาคโต;
‘‘Akiccakārī dummedho, raṭṭhā pavanamāgato;
ราชปุตฺตํ คเวสโนฺต, พโก มจฺฉมิโวทเกฯ
Rājaputtaṃ gavesanto, bako macchamivodake.
๑๙๖๘.
1968.
‘‘ตสฺส ตฺยาหํ น ทสฺสามิ, ชีวิตํ อิธ พฺราหฺมณ;
‘‘Tassa tyāhaṃ na dassāmi, jīvitaṃ idha brāhmaṇa;
อยญฺหิ เต มยา นุโนฺน, สโร ปิสฺสติ โลหิตํฯ
Ayañhi te mayā nunno, saro pissati lohitaṃ.
๑๙๖๙.
1969.
‘‘สิโร เต วชฺฌยิตฺวาน, หทยํ เฉตฺวา สพนฺธนํ;
‘‘Siro te vajjhayitvāna, hadayaṃ chetvā sabandhanaṃ;
ปนฺถสกุณํ ยชิสฺสามิ, ตุยฺหํ มํเสน พฺราหฺมณฯ
Panthasakuṇaṃ yajissāmi, tuyhaṃ maṃsena brāhmaṇa.
๑๙๗๐.
1970.
‘‘ตุยฺหํ มํเสน เมเทน, มตฺถเกน จ พฺราหฺมณ;
‘‘Tuyhaṃ maṃsena medena, matthakena ca brāhmaṇa;
อาหุติํ ปคฺคเหสฺสามิ, เฉตฺวาน หทยํ ตวฯ
Āhutiṃ paggahessāmi, chetvāna hadayaṃ tava.
๑๙๗๑.
1971.
‘‘ตํ เม สุยิฎฺฐํ สุหุตํ, ตุยฺหํ มํเสน พฺราหฺมณ;
‘‘Taṃ me suyiṭṭhaṃ suhutaṃ, tuyhaṃ maṃsena brāhmaṇa;
น จ ตฺวํ ราชปุตฺตสฺส, ภริยํ ปุเตฺต จ เนสฺสสี’’ติฯ
Na ca tvaṃ rājaputtassa, bhariyaṃ putte ca nessasī’’ti.
ตตฺถ อกิจฺจการีติ ตฺวํ อกิจฺจการโกฯ ทุเมฺมโธติ นิปฺปโญฺญฯ รฎฺฐา ปวนมาคโตติ รฎฺฐโต มหารญฺญํ อาคโตฯ สโร ปิสฺสตีติ อยํ สโร ตว โลหิตํ ปิวิสฺสติฯ วชฺฌยิตฺวานาติ ตํ มาเรตฺวา รุกฺขา ปติตสฺส เต สีสํ ตาลผลํ วิย ลุญฺจิตฺวา สพนฺธนํ หทยมํสํ ฉินฺทิตฺวา ปนฺถเทวตาย ปนฺถสกุณํ นาม ยชิสฺสามิฯ น จ ตฺวนฺติ เอวํ สเนฺต น ตฺวํ ราชปุตฺตสฺส ภริยํ วา ปุเตฺต วา เนสฺสสีติฯ
Tattha akiccakārīti tvaṃ akiccakārako. Dummedhoti nippañño. Raṭṭhā pavanamāgatoti raṭṭhato mahāraññaṃ āgato. Saro pissatīti ayaṃ saro tava lohitaṃ pivissati. Vajjhayitvānāti taṃ māretvā rukkhā patitassa te sīsaṃ tālaphalaṃ viya luñcitvā sabandhanaṃ hadayamaṃsaṃ chinditvā panthadevatāya panthasakuṇaṃ nāma yajissāmi. Na ca tvanti evaṃ sante na tvaṃ rājaputtassa bhariyaṃ vā putte vā nessasīti.
โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา มรณภยตชฺชิโต มุสาวาทํ กเถโนฺต อาห –
So tassa vacanaṃ sutvā maraṇabhayatajjito musāvādaṃ kathento āha –
๑๙๗๒.
1972.
‘‘อวโชฺฌ พฺราหฺมโณ ทูโต, เจตปุตฺต สุโณหิ เม;
‘‘Avajjho brāhmaṇo dūto, cetaputta suṇohi me;
ตสฺมา หิ ทูตํ น หนฺติ, เอส ธโมฺม สนนฺตโนฯ
Tasmā hi dūtaṃ na hanti, esa dhammo sanantano.
๑๙๗๓.
1973.
‘‘นิชฺฌตฺตา สิวโย สเพฺพ, ปิตา นํ ทฎฺฐุมิจฺฉติ;
‘‘Nijjhattā sivayo sabbe, pitā naṃ daṭṭhumicchati;
มาตา จ ทุพฺพลา ตสฺส, อจิรา จกฺขูนิ ชียเรฯ
Mātā ca dubbalā tassa, acirā cakkhūni jīyare.
๑๙๗๔.
1974.
‘‘เตสาหํ ปหิโต ทูโต, เจตปุตฺต สุโณหิ เม;
‘‘Tesāhaṃ pahito dūto, cetaputta suṇohi me;
ราชปุตฺตํ นยิสฺสามิ, ยทิ ชานาสิ สํส เม’’ติฯ
Rājaputtaṃ nayissāmi, yadi jānāsi saṃsa me’’ti.
ตตฺถ นิชฺฌตฺตาติ สญฺญตฺตาฯ อจิรา จกฺขูนิ ชียเรติ นิจฺจโรทเนน น จิรเสฺสว จกฺขูนิ ชียิสฺสนฺติฯ
Tattha nijjhattāti saññattā. Acirā cakkhūni jīyareti niccarodanena na cirasseva cakkhūni jīyissanti.
ตทา เจตปุโตฺต ‘‘เวสฺสนฺตรํ กิร อาเนตุํ อาคโต’’ติ โสมนสฺสปฺปโตฺต หุตฺวา สุนเข พนฺธิตฺวา ฐเปตฺวา พฺราหฺมณํ โอตาเรตฺวา สาขาสนฺถเร นิสีทาเปตฺวา โภชนํ ทตฺวา อิมํ คาถมาห –
Tadā cetaputto ‘‘vessantaraṃ kira ānetuṃ āgato’’ti somanassappatto hutvā sunakhe bandhitvā ṭhapetvā brāhmaṇaṃ otāretvā sākhāsanthare nisīdāpetvā bhojanaṃ datvā imaṃ gāthamāha –
๑๙๗๕.
1975.
‘‘ปิยสฺส เม ปิโย ทูโต, ปุณฺณปตฺตํ ททามิ เต;
‘‘Piyassa me piyo dūto, puṇṇapattaṃ dadāmi te;
อิมญฺจ มธุโน ตุมฺพํ, มิคสตฺถิญฺจ พฺราหฺมณ;
Imañca madhuno tumbaṃ, migasatthiñca brāhmaṇa;
ตญฺจ เต เทสมกฺขิสฺสํ, ยตฺถ สมฺมติ กามโท’’ติฯ
Tañca te desamakkhissaṃ, yattha sammati kāmado’’ti.
ตตฺถ ปิยสฺส เมติ มม ปิยสฺส เวสฺสนฺตรสฺส ตฺวํ ปิโย ทูโตฯ ปุณฺณปตฺตนฺติ ตว อชฺฌาสยปูรณํ ปุณฺณปตฺตํ ททามีติฯ
Tattha piyassa meti mama piyassa vessantarassa tvaṃ piyo dūto. Puṇṇapattanti tava ajjhāsayapūraṇaṃ puṇṇapattaṃ dadāmīti.
ชูชกปพฺพวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Jūjakapabbavaṇṇanā niṭṭhitā.
จูฬวนวณฺณนา
Cūḷavanavaṇṇanā
เอวํ เจตปุโตฺต พฺราหฺมณํ โภเชตฺวา ปาเถยฺยตฺถาย ตสฺส มธุโน ตุมฺพเญฺจว ปกฺกมิคสตฺถิญฺจ ทตฺวา มเคฺค ฐตฺวา ทกฺขิณหตฺถํ อุกฺขิปิตฺวา มหาสตฺตสฺส วสโนกาสํ อาจิกฺขโนฺต อาห –
Evaṃ cetaputto brāhmaṇaṃ bhojetvā pātheyyatthāya tassa madhuno tumbañceva pakkamigasatthiñca datvā magge ṭhatvā dakkhiṇahatthaṃ ukkhipitvā mahāsattassa vasanokāsaṃ ācikkhanto āha –
๑๙๗๖.
1976.
‘‘เอส เสโล มหาพฺรเหฺม, ปพฺพโต คนฺธมาทโน;
‘‘Esa selo mahābrahme, pabbato gandhamādano;
ยตฺถ เวสฺสนฺตโร ราชา, สห ปุเตฺตหิ สมฺมติฯ
Yattha vessantaro rājā, saha puttehi sammati.
๑๙๗๗.
1977.
‘‘ธาเรโนฺต พฺราหฺมณวณฺณํ, อาสทญฺจ มสํ ชฎํ;
‘‘Dhārento brāhmaṇavaṇṇaṃ, āsadañca masaṃ jaṭaṃ;
จมฺมวาสี ฉมา เสติ, ชาตเวทํ นมสฺสติฯ
Cammavāsī chamā seti, jātavedaṃ namassati.
๑๙๗๘.
1978.
‘‘เอเต นีลา ปทิสฺสนฺติ, นานาผลธรา ทุมา;
‘‘Ete nīlā padissanti, nānāphaladharā dumā;
อุคฺคตา อพฺภกูฎาว, นีลา อญฺชนปพฺพตาฯ
Uggatā abbhakūṭāva, nīlā añjanapabbatā.
๑๙๗๙.
1979.
‘‘ธวสฺสกณฺณา ขทิรา, สาลา ผนฺทนมาลุวา;
‘‘Dhavassakaṇṇā khadirā, sālā phandanamāluvā;
สมฺปเวธนฺติ วาเตน, สกิํ ปีตาว มาณวาฯ
Sampavedhanti vātena, sakiṃ pītāva māṇavā.
๑๙๘๐.
1980.
‘‘อุปริ ทุมปริยาเยสุ, สงฺคีติโยว สุยฺยเร;
‘‘Upari dumapariyāyesu, saṅgītiyova suyyare;
นชฺชุหา โกกิลสงฺฆา, สมฺปตนฺติ ทุมา ทุมํฯ
Najjuhā kokilasaṅghā, sampatanti dumā dumaṃ.
๑๙๘๑.
1981.
‘‘อวฺหยเนฺตว คจฺฉนฺตํ, สาขาปตฺตสมีริตา;
‘‘Avhayanteva gacchantaṃ, sākhāpattasamīritā;
รมยเนฺตว อาคนฺตํ, โมทยนฺติ นิวาสินํ;
Ramayanteva āgantaṃ, modayanti nivāsinaṃ;
ยตฺถ เวสฺสนฺตโร ราชา, สห ปุเตฺตหิ สมฺมติฯ
Yattha vessantaro rājā, saha puttehi sammati.
๑๙๘๒.
1982.
‘‘ธาเรโนฺต พฺราหฺมณวณฺณํ, อาสทญฺจ มสํ ชฎํ;
‘‘Dhārento brāhmaṇavaṇṇaṃ, āsadañca masaṃ jaṭaṃ;
จมฺมวาสี ฉมา เสติ, ชาตเวทํ นมสฺสตี’’ติฯ
Cammavāsī chamā seti, jātavedaṃ namassatī’’ti.
ตตฺถ คนฺธมาทโนติ เอส คนฺธมาทนปพฺพโต, เอตสฺส ปาเทน อุตฺตราภิมุโข คจฺฉโนฺต ยตฺถ สกฺกทตฺติเย อสฺสมปเท เวสฺสนฺตโร ราชา สห ปุตฺตทาเรหิ วสติ, ตํ ปสฺสิสฺสสีติ อโตฺถฯ พฺราหฺมณวณฺณนฺติ เสฎฺฐปพฺพชิตเวสํฯ อาสทญฺจ มสํ ชฎนฺติ อากฑฺฒิตฺวา ผลานํ คหณตฺถํ องฺกุสญฺจ อคฺคิชุหนกฎจฺฉุญฺจ ชฎามณฺฑลญฺจ ธาเรโนฺตฯ จมฺมวาสีติ อชินจมฺมธโรฯ ฉมา เสตีติ ปถวิยํ ปณฺณสนฺถเร สยติฯ ธวสฺสกณฺณา ขทิราติ ธวา จ อสฺสกณฺณา จ ขทิรา จฯ สกิํ ปีตาว มาณวาติ เอกวารเมว ปีตา สุราโสณฺฑา วิยฯ อุปริ ทุมปริยาเยสูติ รุกฺขสาขาสุฯ สงฺคีติโยว สุยฺยเรติ นานาสกุณานํ วสฺสนฺตานํ สทฺทา ทิพฺพสงฺคีติโย วิย สุยฺยเรฯ นชฺชุหาติ นชฺชุหสกุณาฯ สมฺปตนฺตีติ วิกูชนฺตา วิจรนฺติฯ สาขาปตฺตสมีริตาติ สาขานํ ปเตฺตหิ สงฺฆฎฺฎิตา หุตฺวา วิกูชนฺตา สกุณา, วาเตน สมีริตา ปตฺตสาขาเยว วาฯ อาคนฺตนฺติ อาคจฺฉนฺตํ ชนํฯ ยตฺถาติ ยสฺมิํ อสฺสเม เวสฺสนฺตโร วสติ, ตตฺถ คนฺตฺวา อิมํ อสฺสมปทสมฺปตฺติํ ปสฺสิสฺสสีติฯ
Tattha gandhamādanoti esa gandhamādanapabbato, etassa pādena uttarābhimukho gacchanto yattha sakkadattiye assamapade vessantaro rājā saha puttadārehi vasati, taṃ passissasīti attho. Brāhmaṇavaṇṇanti seṭṭhapabbajitavesaṃ. Āsadañca masaṃ jaṭanti ākaḍḍhitvā phalānaṃ gahaṇatthaṃ aṅkusañca aggijuhanakaṭacchuñca jaṭāmaṇḍalañca dhārento. Cammavāsīti ajinacammadharo. Chamā setīti pathaviyaṃ paṇṇasanthare sayati. Dhavassakaṇṇā khadirāti dhavā ca assakaṇṇā ca khadirā ca. Sakiṃ pītāva māṇavāti ekavārameva pītā surāsoṇḍā viya. Upari dumapariyāyesūti rukkhasākhāsu. Saṅgītiyova suyyareti nānāsakuṇānaṃ vassantānaṃ saddā dibbasaṅgītiyo viya suyyare. Najjuhāti najjuhasakuṇā. Sampatantīti vikūjantā vicaranti. Sākhāpattasamīritāti sākhānaṃ pattehi saṅghaṭṭitā hutvā vikūjantā sakuṇā, vātena samīritā pattasākhāyeva vā. Āgantanti āgacchantaṃ janaṃ. Yatthāti yasmiṃ assame vessantaro vasati, tattha gantvā imaṃ assamapadasampattiṃ passissasīti.
ตโต อุตฺตริปิ อสฺสมปทํ วเณฺณโนฺต อาห –
Tato uttaripi assamapadaṃ vaṇṇento āha –
๑๙๘๓.
1983.
‘‘อมฺพา กปิตฺถา ปนสา, สาลา ชมฺพู วิภีตกา;
‘‘Ambā kapitthā panasā, sālā jambū vibhītakā;
หรีตกี อามลกา, อสฺสตฺถา พทรานิ จฯ
Harītakī āmalakā, assatthā badarāni ca.
๑๙๘๔.
1984.
‘‘จารุติมฺพรุกฺขา เจตฺถ, นิโคฺรธา จ กปิตฺถนา;
‘‘Cārutimbarukkhā cettha, nigrodhā ca kapitthanā;
มธุมธุกา เถวนฺติ, นีเจ ปกฺกา จุทุมฺพราฯ
Madhumadhukā thevanti, nīce pakkā cudumbarā.
๑๙๘๕.
1985.
‘‘ปาเรวตา ภเวยฺยา จ, มุทฺทิกา จ มธุตฺถิกา;
‘‘Pārevatā bhaveyyā ca, muddikā ca madhutthikā;
มธุํ อเนลกํ ตตฺถ, สกมาทาย ภุญฺชเรฯ
Madhuṃ anelakaṃ tattha, sakamādāya bhuñjare.
๑๙๘๖.
1986.
‘‘อเญฺญตฺถ ปุปฺผิตา อมฺพา, อเญฺญ ติฎฺฐนฺติ โทวิลา;
‘‘Aññettha pupphitā ambā, aññe tiṭṭhanti dovilā;
อเญฺญ อามา จ ปกฺกา จ, เภกวณฺณา ตทูภยํฯ
Aññe āmā ca pakkā ca, bhekavaṇṇā tadūbhayaṃ.
๑๙๘๗.
1987.
‘‘อเถตฺถ เหฎฺฐา ปุริโส, อมฺพปกฺกานิ คณฺหติ;
‘‘Athettha heṭṭhā puriso, ambapakkāni gaṇhati;
อามานิ เจว ปกฺกานิ, วณฺณคนฺธรสุตฺตเมฯ
Āmāni ceva pakkāni, vaṇṇagandharasuttame.
๑๙๘๘.
1988.
‘‘อเตว เม อจฺฉริยํ, หีงฺกาโร ปฎิภาติ มํ;
‘‘Ateva me acchariyaṃ, hīṅkāro paṭibhāti maṃ;
เทวานมิว อาวาโส, โสภติ นนฺทนูปโมฯ
Devānamiva āvāso, sobhati nandanūpamo.
๑๙๘๙.
1989.
‘‘วิเภทิกา นาฬิเกรา, ขชฺชุรีนํ พฺรหาวเน;
‘‘Vibhedikā nāḷikerā, khajjurīnaṃ brahāvane;
มาลาว คนฺถิตา ฐนฺติ, ธชคฺคาเนว ทิสฺสเร;
Mālāva ganthitā ṭhanti, dhajaggāneva dissare;
นานาวเณฺณหิ ปุเปฺผหิ, นภํ ตาราจิตามิวฯ
Nānāvaṇṇehi pupphehi, nabhaṃ tārācitāmiva.
๑๙๙๐.
1990.
‘‘กุฎชี กุฎฺฐตครา, ปาฎลิโย จ ปุปฺผิตา;
‘‘Kuṭajī kuṭṭhatagarā, pāṭaliyo ca pupphitā;
ปุนฺนาคา คิริปุนฺนาคา, โกวิฬารา จ ปุปฺผิตาฯ
Punnāgā giripunnāgā, koviḷārā ca pupphitā.
๑๙๙๑.
1991.
‘‘อุทฺทาลกา โสมรุกฺขา, อครุผลฺลิยา พหู;
‘‘Uddālakā somarukkhā, agaruphalliyā bahū;
ปุตฺตชีวา จ กกุธา, อสนา เจตฺถ ปุปฺผิตาฯ
Puttajīvā ca kakudhā, asanā cettha pupphitā.
๑๙๙๒.
1992.
‘‘กุฎชา สลฬา นีปา, โกสมฺพา ลพุชา ธวา;
‘‘Kuṭajā salaḷā nīpā, kosambā labujā dhavā;
สาลา จ ปุปฺผิตา ตตฺถ, ปลาลขลสนฺนิภาฯ
Sālā ca pupphitā tattha, palālakhalasannibhā.
๑๙๙๓.
1993.
‘‘ตสฺสาวิทูเร โปกฺขรณี, ภูมิภาเค มโนรเม;
‘‘Tassāvidūre pokkharaṇī, bhūmibhāge manorame;
ปทุมุปฺปลสญฺฉนฺนา, เทวานมิว นนฺทเนฯ
Padumuppalasañchannā, devānamiva nandane.
๑๙๙๔.
1994.
‘‘อเถตฺถ ปุปฺผรสมตฺตา, โกกิลา มญฺชุภาณิกา;
‘‘Athettha puppharasamattā, kokilā mañjubhāṇikā;
อภินาเทนฺติ ปวนํ, อุตุสมฺปุปฺผิเต ทุเมฯ
Abhinādenti pavanaṃ, utusampupphite dume.
๑๙๙๕.
1995.
‘‘ภสฺสนฺติ มกรเนฺทหิ, โปกฺขเร โปกฺขเร มธู;
‘‘Bhassanti makarandehi, pokkhare pokkhare madhū;
อเถตฺถ วาตา วายนฺติ, ทกฺขิณา อถ ปจฺฉิมา;
Athettha vātā vāyanti, dakkhiṇā atha pacchimā;
ปทุมกิญฺชกฺขเรณูหิ, โอกิโณฺณ โหติ อสฺสโมฯ
Padumakiñjakkhareṇūhi, okiṇṇo hoti assamo.
๑๙๙๖.
1996.
‘‘ถูลา สิงฺฆาฎกา เจตฺถ, สํสาทิยา ปสาทิยา;
‘‘Thūlā siṅghāṭakā cettha, saṃsādiyā pasādiyā;
มจฺฉกจฺฉปพฺยาวิทฺธา, พหู เจตฺถ มุปยานกา;
Macchakacchapabyāviddhā, bahū cettha mupayānakā;
มธุํ ภิเสหิ สวติ, ขีรสปฺปิ มุฬาลิภิฯ
Madhuṃ bhisehi savati, khīrasappi muḷālibhi.
๑๙๙๗.
1997.
‘‘สุรภี ตํ วนํ วาติ, นานาคนฺธสโมทิตํ;
‘‘Surabhī taṃ vanaṃ vāti, nānāgandhasamoditaṃ;
สมฺมทฺทเตว คเนฺธน, ปุปฺผสาขาหิ ตํ วนํ;
Sammaddateva gandhena, pupphasākhāhi taṃ vanaṃ;
ภมรา ปุปฺผคเนฺธน, สมนฺตา มภินาทิตาฯ
Bhamarā pupphagandhena, samantā mabhināditā.
๑๙๙๘.
1998.
‘‘อเถตฺถ สกุณา สนฺติ, นานาวณฺณา พหู ทิชา;
‘‘Athettha sakuṇā santi, nānāvaṇṇā bahū dijā;
โมทนฺติ สห ภริยาหิ, อญฺญมญฺญํ ปกูชิโนฯ
Modanti saha bhariyāhi, aññamaññaṃ pakūjino.
๑๙๙๙.
1999.
‘‘นนฺทิกา ชีวปุตฺตา จ, ชีวปุตฺตา ปิยา จ โน;
‘‘Nandikā jīvaputtā ca, jīvaputtā piyā ca no;
ปิยา ปุตฺตา ปิยา นนฺทา, ทิชา โปกฺขรณีฆราฯ
Piyā puttā piyā nandā, dijā pokkharaṇīgharā.
๒๐๐๐.
2000.
‘‘มาลาว คนฺถิตา ฐนฺติ, ธชคฺคาเนว ทิสฺสเร;
‘‘Mālāva ganthitā ṭhanti, dhajaggāneva dissare;
นานาวเณฺณหิ ปุเปฺผหิ, กุสเลเหว สุคนฺถิตา;
Nānāvaṇṇehi pupphehi, kusaleheva suganthitā;
ยตฺถ เวสฺสนฺตโร ราชา, สห ปุเตฺตหิ สมฺมติฯ
Yattha vessantaro rājā, saha puttehi sammati.
๒๐๐๑.
2001.
‘‘ธาเรโนฺต พฺราหฺมณวณฺณํ, อาสทญฺจ มสํ ชฎํ;
‘‘Dhārento brāhmaṇavaṇṇaṃ, āsadañca masaṃ jaṭaṃ;
จมฺมวาสี ฉมา เสติ, ชาตเวทํ นมสฺสตี’’ติฯ
Cammavāsī chamā seti, jātavedaṃ namassatī’’ti.
ตตฺถ จารุติมฺพรุกฺขาติ สุวณฺณติมฺพรุกฺขาฯ มธุมธุกาติ มธุรสา มธุกาฯ เถวนฺตีติ วิโรจนฺติฯ ปาเรวตาติ ปาเรวตปาทสทิสา รุกฺขาฯ ภเวยฺยาติ ทีฆผลา กทลิโยฯ มธุตฺถิกาติ มธุเตฺถเว ปคฺฆรนฺติโย, มธุรตาย วา มธุเตฺถวสทิสาฯ สกมาทายาติ ตํ สยเมว คเหตฺวา ปริภุญฺชนฺติฯ โทวิลาติ ปติตปุปฺผปตฺตา สญฺชายมานผลาฯ เภกวณฺณา ตทูภยนฺติ เต อุโภปิ อามา จ ปกฺกา จ มณฺฑูกปิฎฺฐิวณฺณาเยวฯ อเถตฺถ เหฎฺฐา ปุริโสติ อถ เอตฺถ อสฺสเม เตสํ อมฺพานํ เหฎฺฐา ฐิตโกว ปุริโส อมฺพผลานิ คณฺหาติ, อาโรหณกิจฺจํ นตฺถิฯ วณฺณคนฺธรสุตฺตเมติ เอเตหิ วณฺณาทีหิ อุตฺตมานิฯ
Tattha cārutimbarukkhāti suvaṇṇatimbarukkhā. Madhumadhukāti madhurasā madhukā. Thevantīti virocanti. Pārevatāti pārevatapādasadisā rukkhā. Bhaveyyāti dīghaphalā kadaliyo. Madhutthikāti madhuttheve paggharantiyo, madhuratāya vā madhutthevasadisā. Sakamādāyāti taṃ sayameva gahetvā paribhuñjanti. Dovilāti patitapupphapattā sañjāyamānaphalā. Bhekavaṇṇā tadūbhayanti te ubhopi āmā ca pakkā ca maṇḍūkapiṭṭhivaṇṇāyeva. Athettha heṭṭhā purisoti atha ettha assame tesaṃ ambānaṃ heṭṭhā ṭhitakova puriso ambaphalāni gaṇhāti, ārohaṇakiccaṃ natthi. Vaṇṇagandharasuttameti etehi vaṇṇādīhi uttamāni.
อเตว เม อจฺฉริยนฺติ อติวิย เม อจฺฉริยํฯ หิงฺกาโรติ หินฺติ กรณํฯ วิเภทิกาติ ตาลาฯ มาลาว คนฺถิตาติ สุปุปฺผิตรุกฺขานํ อุปริ คนฺถิตา มาลา วิย ปุปฺผานิ ติฎฺฐนฺติฯ ธชคฺคาเนว ทิสฺสเรติ ตานิ รุกฺขานิ อลงฺกตธชคฺคานิ วิย ทิสฺสนฺติฯ กุฎชี กุฎฺฐตคราติ กุฎชิ นาเมกา รุกฺขชาติ กุฎฺฐคจฺฉา จ ตครคจฺฉา จฯ คิริปุนฺนาคาติ มหาปุนฺนาคาฯ โกวิฬาราติ โกวิฬารรุกฺขา นามฯ อุทฺทาลกาติ อุทฺทาลรุกฺขาฯ โสมรุกฺขาติ ปีตปุปฺผวณฺณา ราชรุกฺขาฯ ผลฺลิยาติ ผลฺลิยรุกฺขา นามฯ ปุตฺตชีวาติ มหานิโคฺรธาฯ ลพุชาติ ลพุชรุกฺขา นามฯ ปลาลขลสนฺนิภาติ เตสํ เหฎฺฐา ปคฺฆริตปุปฺผปุญฺชา ปลาลขลสนฺนิภาติ วทติฯ
Ateva me acchariyanti ativiya me acchariyaṃ. Hiṅkāroti hinti karaṇaṃ. Vibhedikāti tālā. Mālāva ganthitāti supupphitarukkhānaṃ upari ganthitā mālā viya pupphāni tiṭṭhanti. Dhajaggāneva dissareti tāni rukkhāni alaṅkatadhajaggāni viya dissanti. Kuṭajī kuṭṭhatagarāti kuṭaji nāmekā rukkhajāti kuṭṭhagacchā ca tagaragacchā ca. Giripunnāgāti mahāpunnāgā. Koviḷārāti koviḷārarukkhā nāma. Uddālakāti uddālarukkhā. Somarukkhāti pītapupphavaṇṇā rājarukkhā. Phalliyāti phalliyarukkhā nāma. Puttajīvāti mahānigrodhā. Labujāti labujarukkhā nāma. Palālakhalasannibhāti tesaṃ heṭṭhā paggharitapupphapuñjā palālakhalasannibhāti vadati.
โปกฺขรณีติ จตุรสฺสโปกฺขรณีฯ นนฺทเนติ นนฺทนวเน นนฺทาโปกฺขรณี วิยฯ ปุปฺผรสมตฺตาติ ปุปฺผรเสน มตฺตา จลิตาฯ มกรเนฺทหีติ กิญฺชเกฺขหิฯ โปกฺขเร โปกฺขเรติ ปทุมินิปเณฺณ ปทุมินิปเณฺณฯ เตสุ หิ กิญฺชกฺขโต เรณุ ภสฺสิตฺวา โปกฺขรมธุ นาม โหติฯ ทกฺขิณา อถ ปจฺฉิมาติ เอตฺตาวตา สพฺพา ทิสา วิทิสาปิ วาตา ทสฺสิตา โหนฺติฯ ถูลา สิงฺฆาฎกาติ มหนฺตา สิงฺฆาฎกา จฯ สํสาทิยาติ สยํ ชาตสาลี, สุกสาลีติปิ วุจฺจนฺติฯ ปสาทิยาติ เตเยว ภูมิยํ ปติตาฯ พฺยาวิทฺธาติ ปสเนฺน อุทเก พฺยาวิทฺธา ปฎิปาฎิยา คจฺฉนฺตา ทิสฺสนฺติฯ มุปยานกาติ กกฺกฎกาฯ มธอุนฺติ ภิสโกฎิยา ภินฺนาย ปคฺฆรณรโส มธุสทิโส โหติฯ ขีรสปฺปิ มุฬาลิภีติ มุฬาเลหิ ปคฺฆรณรโส ขีรมิสฺสกนวนีตสปฺปิ วิย โหติฯ
Pokkharaṇīti caturassapokkharaṇī. Nandaneti nandanavane nandāpokkharaṇī viya. Puppharasamattāti puppharasena mattā calitā. Makarandehīti kiñjakkhehi. Pokkharepokkhareti paduminipaṇṇe paduminipaṇṇe. Tesu hi kiñjakkhato reṇu bhassitvā pokkharamadhu nāma hoti. Dakkhiṇā atha pacchimāti ettāvatā sabbā disā vidisāpi vātā dassitā honti. Thūlāsiṅghāṭakāti mahantā siṅghāṭakā ca. Saṃsādiyāti sayaṃ jātasālī, sukasālītipi vuccanti. Pasādiyāti teyeva bhūmiyaṃ patitā. Byāviddhāti pasanne udake byāviddhā paṭipāṭiyā gacchantā dissanti. Mupayānakāti kakkaṭakā. Madhaunti bhisakoṭiyā bhinnāya paggharaṇaraso madhusadiso hoti. Khīrasappi muḷālibhīti muḷālehi paggharaṇaraso khīramissakanavanītasappi viya hoti.
สมฺมทฺทเตวาติ สมฺปตฺตชนํ มทยติ วิยฯ สมนฺตา มภินาทิตาติ สมนฺตา อภินทนฺตา วิจรนฺติฯ ‘‘นนฺทิกา’’ติอาทีนิ เตสํ นามานิฯ เตสุ หิ ปฐมา ‘‘สามิ เวสฺสนฺตร, อิมสฺมิํ วเน วสโนฺต นนฺทา’’ติ วทนฺติฯ ทุติยา ‘‘ตฺวญฺจ สุเขน ชีว, ปุตฺตา จ เต’’ติ วทนฺติฯ ตติยา ‘‘ตฺวญฺจ ชีว, ปิยา ปุตฺตา จ เต’’ติ วทนฺติฯ จตุตฺถา ‘‘ตฺวญฺจ นนฺท, ปิยา ปุตฺตา จ เต’’ติ วทนฺติฯ เตน เตสํ เอตาเนว นามานิ อเหสุํฯ โปกฺขรณีฆราติ โปกฺขรณิวาสิโนฯ
Sammaddatevāti sampattajanaṃ madayati viya. Samantā mabhināditāti samantā abhinadantā vicaranti. ‘‘Nandikā’’tiādīni tesaṃ nāmāni. Tesu hi paṭhamā ‘‘sāmi vessantara, imasmiṃ vane vasanto nandā’’ti vadanti. Dutiyā ‘‘tvañca sukhena jīva, puttā ca te’’ti vadanti. Tatiyā ‘‘tvañca jīva, piyā puttā ca te’’ti vadanti. Catutthā ‘‘tvañca nanda, piyā puttā ca te’’ti vadanti. Tena tesaṃ etāneva nāmāni ahesuṃ. Pokkharaṇīgharāti pokkharaṇivāsino.
เอวํ เจตปุเตฺตน เวสฺสนฺตรสฺส วสนฎฺฐาเน อกฺขาเต ชูชโก ตุสฺสิตฺวา ปฎิสนฺถารํ กโรโนฺต อิมํ คาถมาห –
Evaṃ cetaputtena vessantarassa vasanaṭṭhāne akkhāte jūjako tussitvā paṭisanthāraṃ karonto imaṃ gāthamāha –
๒๐๐๒.
2002.
‘‘อิทญฺจ เม สตฺตุภตฺตํ, มธุนา ปฎิสํยุตํ;
‘‘Idañca me sattubhattaṃ, madhunā paṭisaṃyutaṃ;
มธุปิณฺฑิกา จ สุกตาโย, สตฺตุภตฺตํ ททามิ เต’’ติฯ
Madhupiṇḍikā ca sukatāyo, sattubhattaṃ dadāmi te’’ti.
ตตฺถ สตฺตุภตฺตนฺติ ปกฺกมธุสนฺนิภํ สตฺตุสงฺขาตํ ภตฺตํฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – อิทํ มม อตฺถิ, ตํ เต ทมฺมิ, คณฺหาหิ นนฺติฯ
Tattha sattubhattanti pakkamadhusannibhaṃ sattusaṅkhātaṃ bhattaṃ. Idaṃ vuttaṃ hoti – idaṃ mama atthi, taṃ te dammi, gaṇhāhi nanti.
ตํ สุตฺวา เจตปุโตฺต อาห –
Taṃ sutvā cetaputto āha –
๒๐๐๓.
2003.
‘‘ตุเยฺหว สมฺพลํ โหตุ, นาหํ อิจฺฉามิ สมฺพลํ;
‘‘Tuyheva sambalaṃ hotu, nāhaṃ icchāmi sambalaṃ;
อิโตปิ พฺรเหฺม คณฺหาหิ, คจฺฉ พฺรเหฺม ยถาสุขํฯ
Itopi brahme gaṇhāhi, gaccha brahme yathāsukhaṃ.
๒๐๐๔.
2004.
‘‘อยํ เอกปที เอติ, อุชุํ คจฺฉติ อสฺสมํ;
‘‘Ayaṃ ekapadī eti, ujuṃ gacchati assamaṃ;
อิสีปิ อจฺจุโต ตตฺถ, ปงฺกทโนฺต รชสฺสิโร;
Isīpi accuto tattha, paṅkadanto rajassiro;
ธาเรโนฺต พฺราหฺมณวณฺณํ, อาสทญฺจ มสํ ชฎํฯ
Dhārento brāhmaṇavaṇṇaṃ, āsadañca masaṃ jaṭaṃ.
๒๐๐๕.
2005.
‘‘จมฺมวาสี ฉมา เสติ, ชาตเวทํ นมสฺสติ;
‘‘Cammavāsī chamā seti, jātavedaṃ namassati;
ตํ ตฺวํ คนฺตฺวาน ปุจฺฉสฺสุ, โส เต มคฺคํ ปวกฺขตี’’ติฯ
Taṃ tvaṃ gantvāna pucchassu, so te maggaṃ pavakkhatī’’ti.
ตตฺถ สมฺพลนฺติ ปาเถยฺยํฯ เอตีติ โย เอกปทิกมโคฺค อมฺหากํ อภิมุโข เอติ, เอส อสฺสมํ อุชุํ คจฺฉติฯ อจฺจุโตติ เอวํนามโก อิสิ ตตฺถ วสติฯ
Tattha sambalanti pātheyyaṃ. Etīti yo ekapadikamaggo amhākaṃ abhimukho eti, esa assamaṃ ujuṃ gacchati. Accutoti evaṃnāmako isi tattha vasati.
๒๐๐๖.
2006.
‘‘อิทํ สุตฺวา พฺรหฺมพนฺธุ, เจตํ กตฺวา ปทกฺขิณํ;
‘‘Idaṃ sutvā brahmabandhu, cetaṃ katvā padakkhiṇaṃ;
อุทคฺคจิโตฺต ปกฺกามิ, เยนาสิ อจฺจุโต อิสี’’ติฯ
Udaggacitto pakkāmi, yenāsi accuto isī’’ti.
ตตฺถ เยนาสีติ ยสฺมิํ ฐาเน อจฺจุโต อิสิ อโหสิ, ตตฺถ คโตติฯ
Tattha yenāsīti yasmiṃ ṭhāne accuto isi ahosi, tattha gatoti.
จูฬวนวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Cūḷavanavaṇṇanā niṭṭhitā.
มหาวนวณฺณนา
Mahāvanavaṇṇanā
๒๐๐๗.
2007.
‘‘คจฺฉโนฺต โส ภารทฺวาโช, อทฺทสฺส อจฺจุตํ อิสิํ;
‘‘Gacchanto so bhāradvājo, addassa accutaṃ isiṃ;
ทิสฺวาน ตํ ภารทฺวาโช, สโมฺมทิ อิสินา สหฯ
Disvāna taṃ bhāradvājo, sammodi isinā saha.
๒๐๐๘.
2008.
‘‘กจฺจิ นุ โภโต กุสลํ, กจฺจิ โภโต อนามยํ;
‘‘Kacci nu bhoto kusalaṃ, kacci bhoto anāmayaṃ;
กจฺจิ อุเญฺฉน ยาเปสิ, กจฺจิ มูลผลา พหูฯ
Kacci uñchena yāpesi, kacci mūlaphalā bahū.
๒๐๐๙.
2009.
‘‘กจฺจิ ฑํสา มกสา จ, อปฺปเมว สรีสปา;
‘‘Kacci ḍaṃsā makasā ca, appameva sarīsapā;
วเน วาฬมิคากิเณฺณ, กจฺจิ หิํสา น วิชฺชตี’’ติฯ
Vane vāḷamigākiṇṇe, kacci hiṃsā na vijjatī’’ti.
ตตฺถ ภารทฺวาโชติ ชูชโกฯ อปฺปเมวาติ อปฺปาเยวฯ หิํสาติ เตสํ วเสน ตุมฺหากํ วิหิํสาฯ
Tattha bhāradvājoti jūjako. Appamevāti appāyeva. Hiṃsāti tesaṃ vasena tumhākaṃ vihiṃsā.
ตาปโส อาห –
Tāpaso āha –
๒๐๑๐.
2010.
‘‘กุสลเญฺจว เม พฺรเหฺม, อโถ พฺรเหฺม อนามยํ;
‘‘Kusalañceva me brahme, atho brahme anāmayaṃ;
อโถ อุเญฺฉน ยาเปมิ, อโถ มูลผลา พหูฯ
Atho uñchena yāpemi, atho mūlaphalā bahū.
๒๐๑๑.
2011.
‘‘อโถ ฑํสา มกสา จ, อปฺปเมว สรีสปา;
‘‘Atho ḍaṃsā makasā ca, appameva sarīsapā;
วเน วาฬมิคากิเณฺณ, หิํสา มยฺหํ น วิชฺชติฯ
Vane vāḷamigākiṇṇe, hiṃsā mayhaṃ na vijjati.
๒๐๑๒.
2012.
‘‘พหูนิ วสฺสปูคานิ, อสฺสเม วสโต มม;
‘‘Bahūni vassapūgāni, assame vasato mama;
นาภิชานามิ อุปฺปนฺนํ, อาพาธํ อมโนรมํฯ
Nābhijānāmi uppannaṃ, ābādhaṃ amanoramaṃ.
๒๐๑๓.
2013.
‘‘สฺวาคตํ เต มหาพฺรเหฺม, อโถ เต อทุราคตํ;
‘‘Svāgataṃ te mahābrahme, atho te adurāgataṃ;
อโนฺต ปวิส ภทฺทเนฺต, ปาเท ปกฺขาลยสฺสุ เตฯ
Anto pavisa bhaddante, pāde pakkhālayassu te.
๒๐๑๔.
2014.
‘‘ตินฺทุกานิ ปิยาลานิ, มธุเก กาสุมาริโย;
‘‘Tindukāni piyālāni, madhuke kāsumāriyo;
ผลานิ ขุทฺทกปฺปานิ, ภุญฺช พฺรเหฺม วรํ วรํฯ
Phalāni khuddakappāni, bhuñja brahme varaṃ varaṃ.
๒๐๑๕.
2015.
‘‘อิทมฺปิ ปานียํ สีตํ, อาภตํ คิริคพฺภรา;
‘‘Idampi pānīyaṃ sītaṃ, ābhataṃ girigabbharā;
ตโต ปิว มหาพฺรเหฺม, สเจ ตฺวํ อภิกงฺขสี’’ติฯ
Tato piva mahābrahme, sace tvaṃ abhikaṅkhasī’’ti.
ชูชโก อาห –
Jūjako āha –
๒๐๑๖.
2016.
‘‘ปฎิคฺคหิตํ ยํ ทินฺนํ, สพฺพสฺส อคฺฆิยํ กตํ;
‘‘Paṭiggahitaṃ yaṃ dinnaṃ, sabbassa agghiyaṃ kataṃ;
สญฺชยสฺส สกํ ปุตฺตํ, สิวีหิ วิปฺปวาสิตํ;
Sañjayassa sakaṃ puttaṃ, sivīhi vippavāsitaṃ;
ตมหํ ทสฺสนมาคโต, ยทิ ชานาสิ สํส เม’’ติฯ
Tamahaṃ dassanamāgato, yadi jānāsi saṃsa me’’ti.
ตตฺถ ตมหํ ทสฺสนมาคโตติ ตํ อหํ ทสฺสนาย อาคโตฯ ตาปโส อาห –
Tattha tamahaṃ dassanamāgatoti taṃ ahaṃ dassanāya āgato. Tāpaso āha –
๒๐๑๗.
2017.
‘‘น ภวํ เอติ ปุญฺญตฺถํ, สิวิราชสฺส ทสฺสนํ;
‘‘Na bhavaṃ eti puññatthaṃ, sivirājassa dassanaṃ;
มเญฺญ ภวํ ปตฺถยติ, รโญฺญ ภริยํ ปติพฺพตํ;
Maññe bhavaṃ patthayati, rañño bhariyaṃ patibbataṃ;
มเญฺญ กณฺหาชินํ ทาสิํ, ชาลิํ ทาสญฺจ อิจฺฉสิฯ
Maññe kaṇhājinaṃ dāsiṃ, jāliṃ dāsañca icchasi.
๒๐๑๘.
2018.
‘‘อถ วา ตโย มาตาปุเตฺต, อรญฺญา เนตุมาคโต;
‘‘Atha vā tayo mātāputte, araññā netumāgato;
น ตสฺส โภคา วิชฺชนฺติ, ธนํ ธญฺญญฺจ พฺราหฺมณา’’ติฯ
Na tassa bhogā vijjanti, dhanaṃ dhaññañca brāhmaṇā’’ti.
ตตฺถ น ตสฺส โภคาติ โภ พฺราหฺมณ, ตสฺส เวสฺสนฺตรสฺส อรเญฺญ วิหรนฺตสฺส เนว โภคา วิชฺชนฺติ, ธนธญฺญญฺจ น วิชฺชติ, ทุคฺคโต หุตฺวา วสติ, ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา กิํ กริสฺสสีติ?
Tattha na tassa bhogāti bho brāhmaṇa, tassa vessantarassa araññe viharantassa neva bhogā vijjanti, dhanadhaññañca na vijjati, duggato hutvā vasati, tassa santikaṃ gantvā kiṃ karissasīti?
ตํ สุตฺวา ชูชโก อาห –
Taṃ sutvā jūjako āha –
๒๐๑๙.
2019.
‘‘อกุทฺธรูโปหํ โภโต, นาหํ ยาจิตุมาคโต;
‘‘Akuddharūpohaṃ bhoto, nāhaṃ yācitumāgato;
สาธุ ทสฺสนมริยานํ, สนฺนิวาโส สทา สุโขฯ
Sādhu dassanamariyānaṃ, sannivāso sadā sukho.
๒๐๒๐.
2020.
‘‘อทิฎฺฐปุโพฺพ สิวิราชา, สิวีหิ วิปฺปวาสิโต;
‘‘Adiṭṭhapubbo sivirājā, sivīhi vippavāsito;
ตมหํ ทสฺสนมาคโต, ยทิ ชานาสิ สํส เม’’ติฯ
Tamahaṃ dassanamāgato, yadi jānāsi saṃsa me’’ti.
ตสฺสโตฺถ – อหํ, โภ ตาปส, อกุทฺธรูโป, อลํ เอตฺตาวตา, อหํ ปน น กิญฺจิ เวสฺสนฺตรํ ยาจิตุมาคโต, อริยานํ ปน ทสฺสนํ สาธุ, สนฺนิวาโส จ เตหิ สทฺธิํ สุโขฯ อหํ ตสฺส อาจริยพฺราหฺมโณ, มยา จ โส ยโต สิวีหิ วิปฺปวาสิโต, ตโต ปฎฺฐาย อทิฎฺฐปุโพฺพ, เตนาหํ ตํ ทสฺสนตฺถาย อาคโตฯ ยทิ ตสฺส วสนฎฺฐานํ ชานาสิ, สํส เมติฯ
Tassattho – ahaṃ, bho tāpasa, akuddharūpo, alaṃ ettāvatā, ahaṃ pana na kiñci vessantaraṃ yācitumāgato, ariyānaṃ pana dassanaṃ sādhu, sannivāso ca tehi saddhiṃ sukho. Ahaṃ tassa ācariyabrāhmaṇo, mayā ca so yato sivīhi vippavāsito, tato paṭṭhāya adiṭṭhapubbo, tenāhaṃ taṃ dassanatthāya āgato. Yadi tassa vasanaṭṭhānaṃ jānāsi, saṃsa meti.
โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา สทฺทหิตฺวา ‘‘โหตุ เสฺว สํสิสฺสามิ เต, อชฺช ตาว อิเธว วสาหี’’ติ ตํ ผลาผเลหิ สนฺตเปฺปตฺวา ปุนทิวเส มคฺคํ ทเสฺสโนฺต ทกฺขิณหตฺถํ ปสาเรตฺวา อาห –
So tassa vacanaṃ sutvā saddahitvā ‘‘hotu sve saṃsissāmi te, ajja tāva idheva vasāhī’’ti taṃ phalāphalehi santappetvā punadivase maggaṃ dassento dakkhiṇahatthaṃ pasāretvā āha –
๒๐๒๑.
2021.
‘‘เอส เสโล มหาพฺรเหฺม, ปพฺพโต คนฺธมาทโน;
‘‘Esa selo mahābrahme, pabbato gandhamādano;
ยตฺถ เวสฺสนฺตโร ราชา, สห ปุเตฺตหิ สมฺมติฯ
Yattha vessantaro rājā, saha puttehi sammati.
๒๐๒๒.
2022.
‘‘ธาเรโนฺต พฺราหฺมณวณฺณํ, อาสทญฺจ มสํ ชฎํ;
‘‘Dhārento brāhmaṇavaṇṇaṃ, āsadañca masaṃ jaṭaṃ;
จมฺมวาสี ฉมา เสติ, ชาตเวทํ นมสฺสติฯ
Cammavāsī chamā seti, jātavedaṃ namassati.
๒๐๒๓.
2023.
‘‘เอเต นีลา ปทิสฺสนฺติ, นานาผลธรา ทุมา;
‘‘Ete nīlā padissanti, nānāphaladharā dumā;
อุคฺคตา อพฺภกูฎาว, นีลา อญฺชนปพฺพตาฯ
Uggatā abbhakūṭāva, nīlā añjanapabbatā.
๒๐๒๔.
2024.
‘‘ธวสฺสกณฺณา ขทิรา, สาลา ผนฺทนมาลุวา;
‘‘Dhavassakaṇṇā khadirā, sālā phandanamāluvā;
สมฺปเวธนฺติ วาเตน, สกิํ ปีตาว มาณวาฯ
Sampavedhanti vātena, sakiṃ pītāva māṇavā.
๒๐๒๕.
2025.
‘‘อุปริ ทุมปริยาเยสุ, สํคีติโยว สุยฺยเร;
‘‘Upari dumapariyāyesu, saṃgītiyova suyyare;
นชฺชุหา โกกิลสงฺฆา, สมฺปตนฺติ ทุมา ทุมํฯ
Najjuhā kokilasaṅghā, sampatanti dumā dumaṃ.
๒๐๒๖.
2026.
‘‘อวฺหยเนฺตว คจฺฉนฺตํ, สาขาปตฺตสมีริตา;
‘‘Avhayanteva gacchantaṃ, sākhāpattasamīritā;
รมยเนฺตว อาคนฺตํ, โมทยนฺติ นิวาสินํ;
Ramayanteva āgantaṃ, modayanti nivāsinaṃ;
ยตฺถ เวสฺสนฺตโร ราชา, สห ปุเตฺตหิ สมฺมติฯ
Yattha vessantaro rājā, saha puttehi sammati.
๒๐๒๗.
2027.
‘‘ธาเรโนฺต พฺราหฺมณวณฺณํ, อาสทญฺจ มสํ ชฎํ;
‘‘Dhārento brāhmaṇavaṇṇaṃ, āsadañca masaṃ jaṭaṃ;
จมฺมวาสี ฉมา เสติ, ชาตเวทํ นมสฺสติฯ
Cammavāsī chamā seti, jātavedaṃ namassati.
๒๐๒๘.
2028.
‘‘กเรริมาลา วิตตา, ภูมิภาเค มโนรเม;
‘‘Karerimālā vitatā, bhūmibhāge manorame;
สทฺทลาหริตา ภูมิ, น ตตฺถุทฺธํสเต รโชฯ
Saddalāharitā bhūmi, na tatthuddhaṃsate rajo.
๒๐๒๙.
2029.
‘‘มยูรคีวสงฺกาสา, ตูลผสฺสสมูปมา;
‘‘Mayūragīvasaṅkāsā, tūlaphassasamūpamā;
ติณานิ นาติวตฺตนฺติ, สมนฺตา จตุรงฺคุลาฯ
Tiṇāni nātivattanti, samantā caturaṅgulā.
๒๐๓๐.
2030.
‘‘อมฺพา ชมฺพู กปิตฺถา จ, นีเจ ปกฺกา จุทุมฺพรา;
‘‘Ambā jambū kapitthā ca, nīce pakkā cudumbarā;
ปริโภเคหิ รุเกฺขหิ, วนํ ตํ รติวฑฺฒนํฯ
Paribhogehi rukkhehi, vanaṃ taṃ rativaḍḍhanaṃ.
๒๐๓๑.
2031.
‘‘เวฬุริยวณฺณสนฺนิภํ, มจฺฉคุมฺพนิเสวิตํ;
‘‘Veḷuriyavaṇṇasannibhaṃ, macchagumbanisevitaṃ;
สุจิํ สุคนฺธํ สลิลํ, อาโป ตตฺถปิ สนฺทติฯ
Suciṃ sugandhaṃ salilaṃ, āpo tatthapi sandati.
๒๐๓๒.
2032.
‘‘ตสฺสาวิทูเร โปกฺขรณี, ภูมิภาเค มโนรเม;
‘‘Tassāvidūre pokkharaṇī, bhūmibhāge manorame;
ปทุมุปฺปลสญฺฉนฺนา, เทวานมิว นนฺทเนฯ
Padumuppalasañchannā, devānamiva nandane.
๒๐๓๓.
2033.
‘‘ตีณิ อุปฺปลชาตานิ, ตสฺมิํ สรสิ พฺราหฺมณ;
‘‘Tīṇi uppalajātāni, tasmiṃ sarasi brāhmaṇa;
วิจิตฺตํ นีลาเนกานิ, เสตา โลหิตกานิ จา’’ติฯ
Vicittaṃ nīlānekāni, setā lohitakāni cā’’ti.
ตสฺสโตฺถ เหฎฺฐา วุตฺตสทิโสเยวฯ กเรริมาลา วิตตาติ กเรริปุเปฺผหิ วิตตาฯ สทฺทลาหริตาติ ธุวสทฺทเลน หริตาฯ น ตตฺถุทฺธํสเต รโชติ ตสฺมิํ วเน อปฺปมตฺตโกปิ รโช น อุทฺธํสเตฯ ตูลผสฺสสมูปมาติ มุทุสมฺผสฺสตาย ตูลผสฺสสทิสาฯ ติณานิ นาติวตฺตนฺตีติ ตานิ ตสฺสา ภูมิยา มยูรคีววณฺณานิ ติณานิ สมนฺตโต จตุรงฺคุลปฺปมาณาเนว วตฺตนฺติ, ตโต ปน อุตฺตริ น วฑฺฒนฺติฯ อมฺพา ชมฺพู กปิตฺถา จาติ อมฺพา จ ชมฺพู จ กปิตฺถา จฯ ปริโภเคหีติ นานาวิเธหิ ปุปฺผูปคผลูปเคหิ ปริโภครุเกฺขหิฯ สนฺทตีติ ตสฺมิํ วนสเณฺฑ วงฺกปพฺพเต กุนฺนทีหิ โอตรนฺตํ อุทกํ สนฺทติ, ปวตฺตตีติ อโตฺถฯ วิจิตฺตํ นีลาเนกานิ, เสตา โลหิตกานิ จาติ เอกานิ นีลานิ, เอกานิ เสตานิ, เอกานิ โลหิตกานีติ อิเมหิ ตีหิ อุปฺปลชาเตหิ ตํ สรํ วิจิตฺตํฯ สุสชฺชิตปุปฺผจโงฺกฎกํ วิย โสภตีติ ทเสฺสติฯ
Tassattho heṭṭhā vuttasadisoyeva. Karerimālā vitatāti kareripupphehi vitatā. Saddalāharitāti dhuvasaddalena haritā. Na tatthuddhaṃsate rajoti tasmiṃ vane appamattakopi rajo na uddhaṃsate. Tūlaphassasamūpamāti mudusamphassatāya tūlaphassasadisā. Tiṇāni nātivattantīti tāni tassā bhūmiyā mayūragīvavaṇṇāni tiṇāni samantato caturaṅgulappamāṇāneva vattanti, tato pana uttari na vaḍḍhanti. Ambā jambū kapitthā cāti ambā ca jambū ca kapitthā ca. Paribhogehīti nānāvidhehi pupphūpagaphalūpagehi paribhogarukkhehi. Sandatīti tasmiṃ vanasaṇḍe vaṅkapabbate kunnadīhi otarantaṃ udakaṃ sandati, pavattatīti attho. Vicittaṃ nīlānekāni, setā lohitakāni cāti ekāni nīlāni, ekāni setāni, ekāni lohitakānīti imehi tīhi uppalajātehi taṃ saraṃ vicittaṃ. Susajjitapupphacaṅkoṭakaṃ viya sobhatīti dasseti.
เอวํ จตุรสฺสโปกฺขรณิํ วเณฺณตฺวา ปุน มุจลินฺทสรํ วเณฺณโนฺต อาห –
Evaṃ caturassapokkharaṇiṃ vaṇṇetvā puna mucalindasaraṃ vaṇṇento āha –
๒๐๓๔.
2034.
‘‘โขมาว ตตฺถ ปทุมา, เสตโสคนฺธิเกหิ จ;
‘‘Khomāva tattha padumā, setasogandhikehi ca;
กลมฺพเกหิ สญฺฉโนฺน, มุจลิโนฺท นาม โส สโรฯ
Kalambakehi sañchanno, mucalindo nāma so saro.
๒๐๓๕.
2035.
‘‘อเถตฺถ ปทุมา ผุลฺลา, อปริยนฺตาว ทิสฺสเร;
‘‘Athettha padumā phullā, apariyantāva dissare;
คิมฺหา เหมนฺติกา ผุลฺลา, ชณฺณุตคฺฆา อุปตฺถราฯ
Gimhā hemantikā phullā, jaṇṇutagghā upattharā.
๒๐๓๖.
2036.
‘‘สุรภี สมฺปวายนฺติ, วิจิตฺตปุปฺผสนฺถตา;
‘‘Surabhī sampavāyanti, vicittapupphasanthatā;
ภมรา ปุปฺผคเนฺธน, สมนฺตา มภินาทิตา’’ติฯ
Bhamarā pupphagandhena, samantā mabhināditā’’ti.
ตตฺถ โขมาวาติ โขมมยา วิย ปณฺฑราฯ เสตโสคนฺธิเกหิ จาติ เสตุปฺปเลหิ จ โสคนฺธิเกหิ จ กลมฺพเกหิ จ โส สโร สญฺฉโนฺนฯ อปริยนฺตาว ทิสฺสเรติ อปริมาณา วิย ทิสฺสนฺติฯ คิมฺหา เหมนฺติกาติ คิเมฺห จ เหมนฺติเก จ ปุปฺผิตปทุมาฯ ชณฺณุตคฺฆา อุปตฺถราติ ชณฺณุปมาเณ อุทเก อุปตฺถรา ผุลฺลา โหนฺติ, สนฺถตา วิย ขายนฺติฯ วิจิตฺตปุปฺผสนฺถตาติ วิจิตฺตา หุตฺวา ปุเปฺผหิ สนฺถตา สทา สุรภี สมฺปวายนฺติฯ
Tattha khomāvāti khomamayā viya paṇḍarā. Setasogandhikehi cāti setuppalehi ca sogandhikehi ca kalambakehi ca so saro sañchanno. Apariyantāva dissareti aparimāṇā viya dissanti. Gimhā hemantikāti gimhe ca hemantike ca pupphitapadumā. Jaṇṇutagghā upattharāti jaṇṇupamāṇe udake upattharā phullā honti, santhatā viya khāyanti. Vicittapupphasanthatāti vicittā hutvā pupphehi santhatā sadā surabhī sampavāyanti.
๒๐๓๗.
2037.
‘‘อเถตฺถ อุทกนฺตสฺมิํ, รุกฺขา ติฎฺฐนฺติ พฺราหฺมณ;
‘‘Athettha udakantasmiṃ, rukkhā tiṭṭhanti brāhmaṇa;
กทมฺพา ปาฎลี ผุลฺลา, โกวิฬารา จ ปุปฺผิตาฯ
Kadambā pāṭalī phullā, koviḷārā ca pupphitā.
๒๐๓๘.
2038.
‘‘อโงฺกลา กจฺฉิการา จ, ปาริชญฺญา จ ปุปฺผิตา;
‘‘Aṅkolā kacchikārā ca, pārijaññā ca pupphitā;
วารณา วยนา รุกฺขา, มุจลินฺทมุภโต สรํฯ
Vāraṇā vayanā rukkhā, mucalindamubhato saraṃ.
๒๐๓๙.
2039.
‘‘สิรีสา เสตปาริสา, สาธุ วายนฺติ ปทฺธกา;
‘‘Sirīsā setapārisā, sādhu vāyanti paddhakā;
นิคฺคุณฺฑี สิรีนิคฺคุณฺฑี, อสนา เจตฺถ ปุปฺผิตาฯ
Nigguṇḍī sirīnigguṇḍī, asanā cettha pupphitā.
๒๐๔๐.
2040.
‘‘ปงฺคุรา พหุลา เสลา, โสภญฺชนา จ ปุปฺผิตา;
‘‘Paṅgurā bahulā selā, sobhañjanā ca pupphitā;
เกตกา กณิการา จ, กณเวรา จ ปุปฺผิตาฯ
Ketakā kaṇikārā ca, kaṇaverā ca pupphitā.
๒๐๔๑.
2041.
‘‘อชฺชุนา อชฺชุกณฺณา จ, มหานามา จ ปุปฺผิตา;
‘‘Ajjunā ajjukaṇṇā ca, mahānāmā ca pupphitā;
สุปุปฺผิตคฺคา ติฎฺฐนฺติ, ปชฺชลเนฺตว กิํสุกาฯ
Supupphitaggā tiṭṭhanti, pajjalanteva kiṃsukā.
๒๐๔๒.
2042.
‘‘เสตปณฺณี สตฺตปณฺณา, กทลิโย กุสุมฺภรา;
‘‘Setapaṇṇī sattapaṇṇā, kadaliyo kusumbharā;
ธนุตกฺการี ปุเปฺผหิ, สีสปาวรณานิ จฯ
Dhanutakkārī pupphehi, sīsapāvaraṇāni ca.
๒๐๔๓.
2043.
‘‘อจฺฉิวา สลฺลวา รุกฺขา, สลฺลกิโย จ ปุปฺผิตา;
‘‘Acchivā sallavā rukkhā, sallakiyo ca pupphitā;
เสตเครุ จ ตครา, มํสิกุฎฺฐา กุลาวราฯ
Setageru ca tagarā, maṃsikuṭṭhā kulāvarā.
๒๐๔๔.
2044.
‘‘ทหรา รุกฺขา จ วุทฺธา จ, อกุฎิลา เจตฺถ ปุปฺผิตา;
‘‘Daharā rukkhā ca vuddhā ca, akuṭilā cettha pupphitā;
อสฺสมํ อุภโต ฐนฺติ, อคฺยาคารํ สมนฺตโต’’ติฯ
Assamaṃ ubhato ṭhanti, agyāgāraṃ samantato’’ti.
ตตฺถ ติฎฺฐนฺตีติ สรํ ปริกฺขิปิตฺวา ติฎฺฐนฺติฯ กทมฺพาติ กทมฺพรุกฺขาฯ กจฺฉิการา จาติ เอวํนามกา รุกฺขาฯ ปาริชญฺญาติ รตฺตมาลาฯ วารณา วยนาติ วารณรุกฺขา จ วยนรุกฺขา จฯ มุจลินฺทมุภโต สรนฺติ มุจลินฺทสฺส สรสฺส อุภยปเสฺสสุฯ เสตปาริสาติ เสตคจฺฉรุกฺขา ฯ เต กิร เสตกฺขนฺธา มหาปณฺณา กณิการสทิสปุปฺผา โหนฺติฯ นิคฺคุณฺฑี สิรีนิคฺคุณฺฑีติ ปกตินิคฺคุณฺฑี เจว กาฬนิคฺคุณฺฑี จฯ ปงฺคุราติ ปงฺคุรรุกฺขาฯ กุสุมฺภราติ เอกคจฺฉาฯ ธนุตกฺการี ปุเปฺผหีติ ธนูนญฺจ ตกฺการีนญฺจ ปุเปฺผหิ โสภิตาฯ สีสปาวรณานิ จาติ สีสเปหิ จ วรเณหิ จ โสภิตาฯ อจฺฉิวาติอาทโยปิ รุกฺขาเยวฯ เสตเครุ จ ตคราติ เสตเครุ จ ตครา จฯ มํสิกุฎฺฐา กุลาวราติ มํสิคจฺฉา จ กุฎฺฐคจฺฉา จ กุลาวรา จฯ อกุฎิลาติ อุชุกาฯ อคฺยาคารํ สมนฺตโตติ อคฺยาคารํ ปริกฺขิปิตฺวา ฐิตาติ อโตฺถฯ
Tattha tiṭṭhantīti saraṃ parikkhipitvā tiṭṭhanti. Kadambāti kadambarukkhā. Kacchikārā cāti evaṃnāmakā rukkhā. Pārijaññāti rattamālā. Vāraṇā vayanāti vāraṇarukkhā ca vayanarukkhā ca. Mucalindamubhato saranti mucalindassa sarassa ubhayapassesu. Setapārisāti setagaccharukkhā . Te kira setakkhandhā mahāpaṇṇā kaṇikārasadisapupphā honti. Nigguṇḍī sirīnigguṇḍīti pakatinigguṇḍī ceva kāḷanigguṇḍī ca. Paṅgurāti paṅgurarukkhā. Kusumbharāti ekagacchā. Dhanutakkārī pupphehīti dhanūnañca takkārīnañca pupphehi sobhitā. Sīsapāvaraṇāni cāti sīsapehi ca varaṇehi ca sobhitā. Acchivātiādayopi rukkhāyeva. Setageru ca tagarāti setageru ca tagarā ca. Maṃsikuṭṭhā kulāvarāti maṃsigacchā ca kuṭṭhagacchā ca kulāvarā ca. Akuṭilāti ujukā. Agyāgāraṃ samantatoti agyāgāraṃ parikkhipitvā ṭhitāti attho.
๒๐๔๕.
2045.
‘‘อเถตฺถ อุทกนฺตสฺมิํ, พหุชาโต ผณิชฺชโก;
‘‘Athettha udakantasmiṃ, bahujāto phaṇijjako;
มุคฺคติโย กรติโย, เสวาลสีสกา พหูฯ
Muggatiyo karatiyo, sevālasīsakā bahū.
๒๐๔๖.
2046.
‘‘อุทฺทาปวตฺตํ อุลฺลุฬิตํ, มกฺขิกา หิงฺคุชาลิกา;
‘‘Uddāpavattaṃ ulluḷitaṃ, makkhikā hiṅgujālikā;
ทาสิมกญฺชโก เจตฺถ, พหู นีเจกลมฺพกาฯ
Dāsimakañjako cettha, bahū nīcekalambakā.
๒๐๔๗.
2047.
‘‘เอลมฺผุรกสญฺฉนฺนา, รุกฺขา ติฎฺฐนฺติ พฺราหฺมณ;
‘‘Elamphurakasañchannā, rukkhā tiṭṭhanti brāhmaṇa;
สตฺตาหํ ธาริยมานานํ, คโนฺธ เตสํ น ฉิชฺชติฯ
Sattāhaṃ dhāriyamānānaṃ, gandho tesaṃ na chijjati.
๒๐๔๘.
2048.
‘‘อุภโต สรํ มุจลินฺทํ, ปุปฺผา ติฎฺฐนฺติ โสภนา;
‘‘Ubhato saraṃ mucalindaṃ, pupphā tiṭṭhanti sobhanā;
อินฺทีวเรหิ สญฺฉนฺนํ, วนํ ตํ อุปโสภติฯ
Indīvarehi sañchannaṃ, vanaṃ taṃ upasobhati.
๒๐๔๙.
2049.
‘‘อฑฺฒมาสํ ธาริยมานานํ, คโนฺธ เตสํ น ฉิชฺชติ;
‘‘Aḍḍhamāsaṃ dhāriyamānānaṃ, gandho tesaṃ na chijjati;
นีลปุปฺผี เสตวารี, ปุปฺผิตา คิริกณฺณิกา;
Nīlapupphī setavārī, pupphitā girikaṇṇikā;
กเลรุเกฺขหิ สญฺฉนฺนํ, วนํ ตํ ตุลสีหิ จฯ
Kalerukkhehi sañchannaṃ, vanaṃ taṃ tulasīhi ca.
๒๐๕๐.
2050.
‘‘สมฺมทฺทเตว คเนฺธน, ปุปฺผสาขาหิ ตํ วนํ;
‘‘Sammaddateva gandhena, pupphasākhāhi taṃ vanaṃ;
ภมรา ปุปฺผคเนฺธน, สมนฺตา มภินาทิตาฯ
Bhamarā pupphagandhena, samantā mabhināditā.
๒๐๕๑.
2051.
‘‘ตีณิ กกฺการุชาตานิ, ตสฺมิํ สรสิ พฺราหฺมณ;
‘‘Tīṇi kakkārujātāni, tasmiṃ sarasi brāhmaṇa;
กุมฺภมตฺตานิ เจกานิ, มุรชมตฺตานิ ตา อุโภ’’ติฯ
Kumbhamattāni cekāni, murajamattāni tā ubho’’ti.
ตตฺถ ผณิชฺชโกติ ภูตนโกฯ มุคฺคติโยติ เอกา มุคฺคชาติฯ กรติโยติ ราชมาโสฯ เสวาลสีสกาติ อิเมปิ คจฺฉาเยว, อปิ จ สีสกาติ รตฺตจนฺทนํ วุตฺตํฯ อุทฺทาปวตฺตํ อุลฺลุฬิตนฺติ ตํ อุทกํ ตีรมริยาทพนฺธํ วาตาปหตํ อุลฺลุฬิตํ หุตฺวา ติฎฺฐติฯ มกฺขิกา หิงฺคุชาลิกาติ หิงฺคุชาลสงฺขาเต วิกสิตปุปฺผคเจฺฉ ปญฺจวณฺณา มธุมกฺขิกา มธุรสฺสเรน วิรวนฺติโย ตตฺถ วิจรนฺตีติ อโตฺถฯ ทาสิมกญฺชโก เจตฺถาติ อิมานิ เทฺว รุกฺขชาติโย จ เอตฺถฯ นีเจกลมฺพกาติ นีจกลมฺพกาฯ เอลมฺผุรกสญฺฉนฺนาติ เอวํนามิกาย วลฺลิยา สญฺฉนฺนาฯ เตสนฺติ เตสํ ตสฺสา วลฺลิยา ปุปฺผานํ สเพฺพสมฺปิ วา เอเตสํ ทาสิมกญฺชกาทีนํ ปุปฺผานํ สตฺตาหํ คโนฺธ น ฉิชฺชติฯ เอวํ คนฺธสมฺปนฺนานิ ปุปฺผานิ, รชตปฎฺฎสทิสวาลุกปุณฺณา ภูมิภาคาฯ คโนฺธ เตสนฺติ เตสํ อินฺทีวรปุปฺผาทีนํ คโนฺธ อฑฺฒมาสํ น ฉิชฺชติฯ นีลปุปฺผีติอาทิกา ปุปฺผวลฺลิโยฯ ตุลสีหิ จาติ ตุลสิคเจฺฉหิ จฯ กกฺการุชาตานีติ วลฺลิผลานิฯ ตตฺถ เอกิสฺสา วลฺลิยา ผลานิ มหาฆฎมตฺตานิ, ทฺวินฺนํ มุทิงฺคมตฺตานิฯ เตน วุตฺตํ ‘‘มุรชมตฺตานิ ตา อุโภ’’ติฯ
Tattha phaṇijjakoti bhūtanako. Muggatiyoti ekā muggajāti. Karatiyoti rājamāso. Sevālasīsakāti imepi gacchāyeva, api ca sīsakāti rattacandanaṃ vuttaṃ. Uddāpavattaṃ ulluḷitanti taṃ udakaṃ tīramariyādabandhaṃ vātāpahataṃ ulluḷitaṃ hutvā tiṭṭhati. Makkhikā hiṅgujālikāti hiṅgujālasaṅkhāte vikasitapupphagacche pañcavaṇṇā madhumakkhikā madhurassarena viravantiyo tattha vicarantīti attho. Dāsimakañjako cetthāti imāni dve rukkhajātiyo ca ettha. Nīcekalambakāti nīcakalambakā. Elamphurakasañchannāti evaṃnāmikāya valliyā sañchannā. Tesanti tesaṃ tassā valliyā pupphānaṃ sabbesampi vā etesaṃ dāsimakañjakādīnaṃ pupphānaṃ sattāhaṃ gandho na chijjati. Evaṃ gandhasampannāni pupphāni, rajatapaṭṭasadisavālukapuṇṇā bhūmibhāgā. Gandho tesanti tesaṃ indīvarapupphādīnaṃ gandho aḍḍhamāsaṃ na chijjati. Nīlapupphītiādikā pupphavalliyo. Tulasīhi cāti tulasigacchehi ca. Kakkārujātānīti valliphalāni. Tattha ekissā valliyā phalāni mahāghaṭamattāni, dvinnaṃ mudiṅgamattāni. Tena vuttaṃ ‘‘murajamattāni tā ubho’’ti.
๒๐๕๒.
2052.
‘‘อเถตฺถ สาสโป พหุโก, นาทิโย หริตายุโต;
‘‘Athettha sāsapo bahuko, nādiyo haritāyuto;
อสี ตาลาว ติฎฺฐนฺติ, เฉชฺชา อินฺทีวรา พหูฯ
Asī tālāva tiṭṭhanti, chejjā indīvarā bahū.
๒๐๕๓.
2053.
‘‘อโปฺผฎา สูริยวลฺลี จ, กาฬียา มธุคนฺธิยา;
‘‘Apphoṭā sūriyavallī ca, kāḷīyā madhugandhiyā;
อโสกา มุทยนฺตี จ, วลฺลิโภ ขุทฺทปุปฺผิโยฯ
Asokā mudayantī ca, vallibho khuddapupphiyo.
๒๐๕๔.
2054.
‘‘โกรณฺฑกา อโนชา จ, ปุปฺผิตา นาคมลฺลิกา;
‘‘Koraṇḍakā anojā ca, pupphitā nāgamallikā;
รุกฺขมารุยฺห ติฎฺฐนฺติ, ผุลฺลา กิํสุกวลฺลิโยฯ
Rukkhamāruyha tiṭṭhanti, phullā kiṃsukavalliyo.
๒๐๕๕.
2055.
‘‘กเฎรุหา จ วาสนฺตี, ยูถิกา มธุคนฺธิยา;
‘‘Kaṭeruhā ca vāsantī, yūthikā madhugandhiyā;
นิลิยา สุมนา ภณฺฑี, โสภติ ปทุมุตฺตโรฯ
Niliyā sumanā bhaṇḍī, sobhati padumuttaro.
๒๐๕๖.
2056.
‘‘ปาฎลี สมุทฺทกปฺปาสี, กณิการา จ ปุปฺผิตา;
‘‘Pāṭalī samuddakappāsī, kaṇikārā ca pupphitā;
เหมชาลาว ทิสฺสนฺติ, รุจิรคฺคิ สิขูปมาฯ
Hemajālāva dissanti, ruciraggi sikhūpamā.
๒๐๕๗.
2057.
‘‘ยานิ ตานิ จ ปุปฺผานิ, ถลชานุทกานิ จ;
‘‘Yāni tāni ca pupphāni, thalajānudakāni ca;
สพฺพานิ ตตฺถ ทิสฺสนฺติ, เอวํ รโมฺม มโหทธี’’ติฯ
Sabbāni tattha dissanti, evaṃ rammo mahodadhī’’ti.
ตตฺถ สาสโปติ สิทฺธตฺถโกฯ พหุโกติ พหุฯ นาทิโย หริตายุโตติ หริเตน อายุโต นาทิโยฯ อิมา เทฺวปิ ลสุณชาติโย, โสปิ ลสุโณ ตตฺถ พหุโกติ อโตฺถฯ อสี ตาลาว ติฎฺฐนฺตีติ อสีติ เอวํนามกา รุกฺขา สินิทฺธาย ภูมิยา ฐิตา ตาลา วิย ติฎฺฐนฺติฯ เฉชฺชา อินฺทีวรา พหูติ อุทกปริยเนฺต พหู สุวณฺณอินฺทีวรา มุฎฺฐินา ฉินฺทิตพฺพา หุตฺวา ฐิตาฯ อโปฺผฎาติ อโปฺผฎวลฺลิโยฯ วลฺลิโภ ขุทฺทปุปฺผิโยติ วลฺลิโภ จ ขุทฺทปุปฺผิโย จฯ นาคมลฺลิกาติ วลฺลินาคา จ มลฺลิกา จฯ กิํสุกวลฺลิโยติ สุคนฺธปตฺตา วลฺลิชาตีฯ กเฎรุหา จ วาสนฺตีติ อิเม จ เทฺว ปุปฺผคจฺฉาฯ มธุคนฺธิยาติ มธุสมานคนฺธาฯ นิลิยา สุมนา ภณฺฑีติ นีลวลฺลิสุมนา จ ปกติสุมนา จ ภณฺฑี จฯ ปทุมุตฺตโรติ เอวํนามโก รุโกฺขฯ กณิการาติ วลฺลิกณิการา รุกฺขกณิการาฯ เหมชาลาวาติ ปสาริตเหมชาลา วิย ทิสฺสนฺติฯ มโหทธีติ มหโต อุทกกฺขนฺธสฺส อาธารภูโต มุจลินฺทสโรติฯ
Tattha sāsapoti siddhatthako. Bahukoti bahu. Nādiyo haritāyutoti haritena āyuto nādiyo. Imā dvepi lasuṇajātiyo, sopi lasuṇo tattha bahukoti attho. Asī tālāva tiṭṭhantīti asīti evaṃnāmakā rukkhā siniddhāya bhūmiyā ṭhitā tālā viya tiṭṭhanti. Chejjā indīvarā bahūti udakapariyante bahū suvaṇṇaindīvarā muṭṭhinā chinditabbā hutvā ṭhitā. Apphoṭāti apphoṭavalliyo. Vallibho khuddapupphiyoti vallibho ca khuddapupphiyo ca. Nāgamallikāti vallināgā ca mallikā ca. Kiṃsukavalliyoti sugandhapattā vallijātī. Kaṭeruhā ca vāsantīti ime ca dve pupphagacchā. Madhugandhiyāti madhusamānagandhā. Niliyā sumanā bhaṇḍīti nīlavallisumanā ca pakatisumanā ca bhaṇḍī ca. Padumuttaroti evaṃnāmako rukkho. Kaṇikārāti vallikaṇikārā rukkhakaṇikārā. Hemajālāvāti pasāritahemajālā viya dissanti. Mahodadhīti mahato udakakkhandhassa ādhārabhūto mucalindasaroti.
๒๐๕๘.
2058.
‘‘อถสฺสา โปกฺขรณิยา, พหุกา วาริโคจรา;
‘‘Athassā pokkharaṇiyā, bahukā vārigocarā;
โรหิตา นฬปี สิงฺคู, กุมฺภิลา มกรา สุสูฯ
Rohitā naḷapī siṅgū, kumbhilā makarā susū.
๒๐๕๙.
2059.
‘‘มธุ จ มธุลฎฺฐิ จ, ตาลิสา จ ปิยงฺคุกา;
‘‘Madhu ca madhulaṭṭhi ca, tālisā ca piyaṅgukā;
กุฎนฺทชา ภทฺทมุตฺตา, เสตปุปฺผา จ โลลุปาฯ
Kuṭandajā bhaddamuttā, setapupphā ca lolupā.
๒๐๖๐.
2060.
‘‘สุรภี จ รุกฺขา ตครา, พหุกา ตุงฺควณฺฎกา;
‘‘Surabhī ca rukkhā tagarā, bahukā tuṅgavaṇṭakā;
ปทฺธกา นรทา กุฎฺฐา, ฌามกา จ หเรณุกาฯ
Paddhakā naradā kuṭṭhā, jhāmakā ca hareṇukā.
๒๐๖๑.
2061.
‘‘หลิทฺทกา คนฺธสิลา, หิริเวรา จ คุคฺคุลา;
‘‘Haliddakā gandhasilā, hiriverā ca guggulā;
วิเภทิกา โจรกา กุฎฺฐา, กปฺปูรา จ กลิงฺคุกา’’ติฯ
Vibhedikā corakā kuṭṭhā, kappūrā ca kaliṅgukā’’ti.
ตตฺถ อถสฺสา โปกฺขรณิยาติ อิธ โปกฺขรณิสทิสตาย สรเมว โปกฺขรณีติ วทติฯ โรหิตาติอาทีนิ เตสํ วาริโคจรานํ นามานิฯ มธุ จาติ นิมฺมกฺขิกมธุ จฯ มธุลฎฺฐิ จาติ ลฎฺฐิมธุกญฺจฯ ตาลิสา จาติอาทิกา สพฺพา คนฺธชาติโยฯ
Tattha athassā pokkharaṇiyāti idha pokkharaṇisadisatāya sarameva pokkharaṇīti vadati. Rohitātiādīni tesaṃ vārigocarānaṃ nāmāni. Madhu cāti nimmakkhikamadhu ca. Madhulaṭṭhi cāti laṭṭhimadhukañca. Tālisā cātiādikā sabbā gandhajātiyo.
๒๐๖๒.
2062.
‘‘อเถตฺถ สีหพฺยคฺฆา จ, ปุริสาลู จ หตฺถิโย;
‘‘Athettha sīhabyagghā ca, purisālū ca hatthiyo;
เอเณยฺยา ปสทา เจว, โรหิจฺจา สรภา มิคาฯ
Eṇeyyā pasadā ceva, rohiccā sarabhā migā.
๒๐๖๓.
2063.
‘‘โกฎฺฐสุณา สุโณปิ จ, ตุลิยา นฬสนฺนิภา;
‘‘Koṭṭhasuṇā suṇopi ca, tuliyā naḷasannibhā;
จามรี จลนี ลงฺฆี, ฌาปิตา มกฺกฎา ปิจุฯ
Cāmarī calanī laṅghī, jhāpitā makkaṭā picu.
๒๐๖๔.
2064.
‘‘กกฺกฎา กฎมายา จ, อิกฺกา โคณสิรา พหู;
‘‘Kakkaṭā kaṭamāyā ca, ikkā goṇasirā bahū;
ขคฺคา วราหา นกุลา, กาฬเกตฺถ พหูตโสฯ
Khaggā varāhā nakulā, kāḷakettha bahūtaso.
๒๐๖๕.
2065.
‘‘มหิํสา โสณสิงฺคาลา, ปมฺปกา จ สมนฺตโต;
‘‘Mahiṃsā soṇasiṅgālā, pampakā ca samantato;
อากุจฺฉา ปจลากา จ, จิตฺรกา จาปิ ทีปิโยฯ
Ākucchā pacalākā ca, citrakā cāpi dīpiyo.
๒๐๖๖.
2066.
‘‘เปลกา จ วิฆาสาทา, สีหา โคคณิสาทกา;
‘‘Pelakā ca vighāsādā, sīhā gogaṇisādakā;
อฎฺฐปาทา จ โมรา จ, ภสฺสรา จ กุกุตฺถกาฯ
Aṭṭhapādā ca morā ca, bhassarā ca kukutthakā.
๒๐๖๗.
2067.
‘‘จโงฺกรา กุกฺกุฎา นาคา, อญฺญมญฺญํ ปกูชิโน;
‘‘Caṅkorā kukkuṭā nāgā, aññamaññaṃ pakūjino;
พกา พลากา นชฺชุหา, ทินฺทิภา กุญฺชวาชิตาฯ
Bakā balākā najjuhā, dindibhā kuñjavājitā.
๒๐๖๘.
2068.
‘‘พฺยคฺฆินสา โลหปิฎฺฐา, ปมฺปกา ชีวชีวกา;
‘‘Byagghinasā lohapiṭṭhā, pampakā jīvajīvakā;
กปิญฺชรา ติตฺติราโย, กุลา จ ปฎิกุตฺถกาฯ
Kapiñjarā tittirāyo, kulā ca paṭikutthakā.
๒๐๖๙.
2069.
‘‘มนฺทาลกา เจลเกฎุ, ภณฺฑุติตฺติรนามกา;
‘‘Mandālakā celakeṭu, bhaṇḍutittiranāmakā;
เจลาวกา ปิงฺคลาโย, โคฎกา องฺคเหตุกาฯ
Celāvakā piṅgalāyo, goṭakā aṅgahetukā.
๒๐๗๐.
2070.
‘‘กรวิยา จ สคฺคา จ, อุหุงฺการา จ กุกฺกุหา;
‘‘Karaviyā ca saggā ca, uhuṅkārā ca kukkuhā;
นานาทิชคณากิณฺณํ, นานาสรนิกูชิต’’นฺติฯ
Nānādijagaṇākiṇṇaṃ, nānāsaranikūjita’’nti.
ตตฺถ ปุริสาลูติ วฬวามุขยกฺขินิโยฯ โรหิจฺจา สรภา มิคาติ โรหิตา เจว สรภา มิคา จฯ โกฎฺฐสุกาติ สิงฺคาลสุนขาฯ ‘‘โกตฺถุสุณา’’ติปิ ปาโฐฯ สุโณปิ จาติ เอสาเปกา ขุทฺทกมิคชาติฯ ตุลิยาติ ปกฺขิพิฬาราฯ นฬสนฺนิภาติ นฬปุปฺผวณฺณา รุกฺขสุนขาฯ จามรี จลนี ลงฺฆีติ จามรีมิคา จ จลนีมิคา จ ลงฺฆีมิคา จฯ ฌาปิตา มกฺกฎาติ เทฺว มกฺกฎชาติโยวฯ ปิจูติ สรปริยเนฺต โคจรคฺคาหี เอโก มกฺกโฎฯ กกฺกฎา กฎมายา จาติ เทฺว มหามิคาฯ อิกฺกาติ อจฺฉาฯ โคณสิราติ อรญฺญโคณาฯ กาฬเกตฺถ พหูตโสติ กาฬมิคา นาเมตฺถ พหูตโสฯ โสณสิงฺคาลาติ รุกฺขสุนขา จ สิงฺคาลา จฯ ปมฺปกาติ อสฺสมปทํ ปริกฺขิปิตฺวา ฐิตา มหาเวฬุปมฺปกาฯ อากุจฺฉาติ โคธาฯ ปจลากา จาติ คชกุมฺภมิคาฯ จิตฺรกา จาปิ ทีปิโยติ จิตฺรกมิคา จ ทีปิมิคา จฯ
Tattha purisālūti vaḷavāmukhayakkhiniyo. Rohiccā sarabhā migāti rohitā ceva sarabhā migā ca. Koṭṭhasukāti siṅgālasunakhā. ‘‘Kotthusuṇā’’tipi pāṭho. Suṇopi cāti esāpekā khuddakamigajāti. Tuliyāti pakkhibiḷārā. Naḷasannibhāti naḷapupphavaṇṇā rukkhasunakhā. Cāmarī calanī laṅghīti cāmarīmigā ca calanīmigā ca laṅghīmigā ca. Jhāpitā makkaṭāti dve makkaṭajātiyova. Picūti sarapariyante gocaraggāhī eko makkaṭo. Kakkaṭā kaṭamāyā cāti dve mahāmigā. Ikkāti acchā. Goṇasirāti araññagoṇā. Kāḷakettha bahūtasoti kāḷamigā nāmettha bahūtaso. Soṇasiṅgālāti rukkhasunakhā ca siṅgālā ca. Pampakāti assamapadaṃ parikkhipitvā ṭhitā mahāveḷupampakā. Ākucchāti godhā. Pacalākā cāti gajakumbhamigā. Citrakā cāpi dīpiyoti citrakamigā ca dīpimigā ca.
เปลกา จาติ สสาฯ วิฆาสาทาติ เอเต คิชฺฌา สกุณาฯ สีหาติ เกสรสีหาฯ โคคณิสาทกาติ โคคเณ คเหตฺวา ขาทนสีลา ทุฎฺฐมิคาฯ อฎฺฐปาทาติ สรภา มิคาฯ ภสฺสราติ เสตหํสาฯ กุกุตฺถกาติ กุกุตฺถกสกุณาฯ จโงฺกราติ จโงฺกรสกุณาฯ กุกฺกุฎาติ วนกุกฺกุฎาฯ ทินฺทิภา กุญฺชวาชิตาติ อิเม ตโยปิ สกุณาเยวฯ พฺยคฺฆินสาติ เสนาฯ โลหปิฎฺฐาติ โลหิตวณฺณสกุณาฯ ปมฺปกาติ ปมฺปฎกาฯ กปิญฺชรา ติตฺติราโยติ กปิญฺชรา จ ติตฺติรา จฯ กุลา จ ปฎิกุตฺถกาติ อิเมปิ เทฺว สกุณาฯ มนฺทาลกา เจลเกฎูติ มนฺทาลกา เจว เจลเกฎุ จฯ ภณฺฑุติตฺติรนามกาติ ภณฺฑู จ ติตฺติรา จ นามกา จฯ เจลาวกา ปิงฺคลาโยติ เทฺว สกุณชาติโย จ, ตถา โคฎกา องฺคเหตุกาฯ สคฺคาติ จาตกสกุณาฯ อุหุงฺการาติ อุลูกาฯ
Pelakā cāti sasā. Vighāsādāti ete gijjhā sakuṇā. Sīhāti kesarasīhā. Gogaṇisādakāti gogaṇe gahetvā khādanasīlā duṭṭhamigā. Aṭṭhapādāti sarabhā migā. Bhassarāti setahaṃsā. Kukutthakāti kukutthakasakuṇā. Caṅkorāti caṅkorasakuṇā. Kukkuṭāti vanakukkuṭā. Dindibhā kuñjavājitāti ime tayopi sakuṇāyeva. Byagghinasāti senā. Lohapiṭṭhāti lohitavaṇṇasakuṇā. Pampakāti pampaṭakā. Kapiñjarā tittirāyoti kapiñjarā ca tittirā ca. Kulā ca paṭikutthakāti imepi dve sakuṇā. Mandālakā celakeṭūti mandālakā ceva celakeṭu ca. Bhaṇḍutittiranāmakāti bhaṇḍū ca tittirā ca nāmakā ca. Celāvakāpiṅgalāyoti dve sakuṇajātiyo ca, tathā goṭakā aṅgahetukā. Saggāti cātakasakuṇā. Uhuṅkārāti ulūkā.
๒๐๗๑.
2071.
‘‘อเถตฺถ สกุณา สนฺติ, นีลกา มญฺชุภาณกา;
‘‘Athettha sakuṇā santi, nīlakā mañjubhāṇakā;
โมทนฺติ สห ภริยาหิ, อญฺญมญฺญํ ปกูชิโนฯ
Modanti saha bhariyāhi, aññamaññaṃ pakūjino.
๒๐๗๒.
2072.
‘‘อเถตฺถ สกุณา สนฺติ, ทิชา มญฺชุสฺสรา สิตา;
‘‘Athettha sakuṇā santi, dijā mañjussarā sitā;
เสตจฺฉิกูฎา ภทฺรกฺขา, อณฺฑชา จิตฺรเปขุณาฯ
Setacchikūṭā bhadrakkhā, aṇḍajā citrapekhuṇā.
๒๐๗๓.
2073.
‘‘อเถตฺถ สกุณา สนฺติ, ทิชา มญฺชุสฺสรา สิตา;
‘‘Athettha sakuṇā santi, dijā mañjussarā sitā;
สิขณฺฑี นีลคีวาหิ, อญฺญมญฺญํ ปกูชิโนฯ
Sikhaṇḍī nīlagīvāhi, aññamaññaṃ pakūjino.
๒๐๗๔.
2074.
‘‘กุกุตฺถกา กุฬีรกา, โกฎฺฐา โปกฺขรสาตกา;
‘‘Kukutthakā kuḷīrakā, koṭṭhā pokkharasātakā;
กาลาเมยฺยา พลียกฺขา, กทมฺพา สุวสาฬิกาฯ
Kālāmeyyā balīyakkhā, kadambā suvasāḷikā.
๒๐๗๕.
2075.
‘‘หลิทฺทา โลหิตา เสตา, อเถตฺถ นลกา พหู;
‘‘Haliddā lohitā setā, athettha nalakā bahū;
วารณา ภิงฺคราชา จ, กทมฺพา สุวโกกิลาฯ
Vāraṇā bhiṅgarājā ca, kadambā suvakokilā.
๒๐๗๖.
2076.
‘‘อุกฺกุสา กุรรา หํสา, อาฎา ปริวเทนฺติกา;
‘‘Ukkusā kurarā haṃsā, āṭā parivadentikā;
ปากหํสา อติพลา, นชฺชุหา ชีวชีวกาฯ
Pākahaṃsā atibalā, najjuhā jīvajīvakā.
๒๐๗๗.
2077.
‘‘ปาเรวตา รวิหํสา, จกฺกวากา นทีจรา;
‘‘Pārevatā ravihaṃsā, cakkavākā nadīcarā;
วารณาภิรุทา รมฺมา, อุโภ กาลูปกูชิโนฯ
Vāraṇābhirudā rammā, ubho kālūpakūjino.
๒๐๗๘.
2078.
‘‘อเถตฺถ สกุณา สนฺติ, นานาวณฺณา พหู ทิชา;
‘‘Athettha sakuṇā santi, nānāvaṇṇā bahū dijā;
โมทนฺติ สห ภริยาหิ, อญฺญมญฺญํ ปกูชิโนฯ
Modanti saha bhariyāhi, aññamaññaṃ pakūjino.
๒๐๗๙.
2079.
‘‘อเถตฺถ สกุณา สนฺติ, นานาวณฺณา พหู ทิชา;
‘‘Athettha sakuṇā santi, nānāvaṇṇā bahū dijā;
สเพฺพ มญฺชู นิกูชนฺติ, มุจลินฺทมุภโต สรํฯ
Sabbe mañjū nikūjanti, mucalindamubhato saraṃ.
๒๐๘๐.
2080.
‘‘อเถตฺถ สกุณา สนฺติ, กรวิยา นาม เต ทิชา;
‘‘Athettha sakuṇā santi, karaviyā nāma te dijā;
โมทนฺติ สห ภริยาหิ, อญฺญมญฺญํ ปกูชิโนฯ
Modanti saha bhariyāhi, aññamaññaṃ pakūjino.
๒๐๘๑.
2081.
‘‘อเถตฺถ สกุณา สนฺติ, กรวิยา นาม เต ทิชา;
‘‘Athettha sakuṇā santi, karaviyā nāma te dijā;
สเพฺพ มญฺชู นิกูชนฺติ, มุจลินฺทมุภโต สรํฯ
Sabbe mañjū nikūjanti, mucalindamubhato saraṃ.
๒๐๘๒.
2082.
‘‘เอเณยฺยปสทากิณฺณํ, นาคสํเสวิตํ วนํ;
‘‘Eṇeyyapasadākiṇṇaṃ, nāgasaṃsevitaṃ vanaṃ;
นานาลตาหิ สญฺฉนฺนํ, กทลีมิคเสวิตํฯ
Nānālatāhi sañchannaṃ, kadalīmigasevitaṃ.
๒๐๘๓.
2083.
‘‘อเถตฺถ สาสโป พหุโก, นีวาโร วรโก พหุ;
‘‘Athettha sāsapo bahuko, nīvāro varako bahu;
สาลิ อกฎฺฐปาโก จ, อุจฺฉุ ตตฺถ อนปฺปโกฯ
Sāli akaṭṭhapāko ca, ucchu tattha anappako.
๒๐๘๔.
2084.
‘‘อยํ เอกปที เอติ, อุชุํ คจฺฉติ อสฺสมํ;
‘‘Ayaṃ ekapadī eti, ujuṃ gacchati assamaṃ;
ขุทํ ปิปาสํ อรติํ, ตตฺถ ปโตฺต น วินฺทติ;
Khudaṃ pipāsaṃ aratiṃ, tattha patto na vindati;
ยตฺถ เวสฺสนฺตโร ราชา, สห ปุเตฺตหิ สมฺมติฯ
Yattha vessantaro rājā, saha puttehi sammati.
๒๐๘๕.
2085.
‘‘ธาเรโนฺต พฺราหฺมณวณฺณํ, อาสทญฺจ มสํ ชฎํ;
‘‘Dhārento brāhmaṇavaṇṇaṃ, āsadañca masaṃ jaṭaṃ;
จมฺมวาสี ฉมา เสติ, ชาตเวทํ นมสฺสตี’’ติฯ
Cammavāsī chamā seti, jātavedaṃ namassatī’’ti.
ตตฺถ นีลกาติ จิตฺรราชิปตฺตาฯ มญฺชูสฺสรา สิตาติ นิพทฺธมธุรสฺสราฯ เสตจฺฉิกูฎา ภทฺรกฺขาติ อุภยปเสฺสสุ เสเตหิ อกฺขิกูเฎหิ สมนฺนาคตา สุนฺทรกฺขาฯ จิตฺรเปขุณาติ วิจิตฺรปตฺตาฯ กุฬีรกาติ กกฺกฎกาฯ โกฎฺฐาติอาทโย สกุณาวฯ วารณาติ หตฺถิลิงฺคสกุณาฯ กทมฺพาติ มหากทมฺพา คหิตาฯ สุวโกกิลาติ โกกิเลหิ สทฺธิํ วิจรณสุวกา เจว โกกิลา จฯ อุกฺกุสาติ กาฬกุรราฯ กุรราติ เสตกุรราฯ หํสาติ สกุณหํสาฯ อาฎาติ ทพฺพิสณฺฐานมุขสกุณาฯ ปริวเทนฺติกาติ เอกา สกุณชาติฯ วารณาภิรุทา รมฺมาติ รมฺมาภิรุทา วารณาฯ อุโภ กาลูปกูชิโนติ สายํ ปาโต ปพฺพตปาทํ เอกนินฺนาทํ กโรนฺตา นิกูชนฺติฯ เอเณยฺยปสทากิณฺณนฺติ เอเณยฺยมิเคหิ จ ปสทมิเคหิ จ อากิณฺณํฯ ตตฺถ ปโตฺต น วินฺทตีติ พฺราหฺมณ, เวสฺสนฺตรสฺส อสฺสมปทํ ปโตฺต ปุริโส ตตฺถ อสฺสเม ฉาตกํ วา ปานียปิปาสํ วา อุกฺกณฺฐิตํ วา น ปฎิลภติฯ
Tattha nīlakāti citrarājipattā. Mañjūssarā sitāti nibaddhamadhurassarā. Setacchikūṭā bhadrakkhāti ubhayapassesu setehi akkhikūṭehi samannāgatā sundarakkhā. Citrapekhuṇāti vicitrapattā. Kuḷīrakāti kakkaṭakā. Koṭṭhātiādayo sakuṇāva. Vāraṇāti hatthiliṅgasakuṇā. Kadambāti mahākadambā gahitā. Suvakokilāti kokilehi saddhiṃ vicaraṇasuvakā ceva kokilā ca. Ukkusāti kāḷakurarā. Kurarāti setakurarā. Haṃsāti sakuṇahaṃsā. Āṭāti dabbisaṇṭhānamukhasakuṇā. Parivadentikāti ekā sakuṇajāti. Vāraṇābhirudā rammāti rammābhirudā vāraṇā. Ubho kālūpakūjinoti sāyaṃ pāto pabbatapādaṃ ekaninnādaṃ karontā nikūjanti. Eṇeyyapasadākiṇṇanti eṇeyyamigehi ca pasadamigehi ca ākiṇṇaṃ. Tattha patto na vindatīti brāhmaṇa, vessantarassa assamapadaṃ patto puriso tattha assame chātakaṃ vā pānīyapipāsaṃ vā ukkaṇṭhitaṃ vā na paṭilabhati.
๒๐๘๖.
2086.
‘‘อิทํ สุตฺวา พฺรหฺมพนฺธุ, อิสิํ กตฺวา ปทกฺขิณํ;
‘‘Idaṃ sutvā brahmabandhu, isiṃ katvā padakkhiṇaṃ;
อุทคฺคจิโตฺต ปกฺกามิ, ยตฺถ เวสฺสนฺตโร อหู’’ติฯ
Udaggacitto pakkāmi, yattha vessantaro ahū’’ti.
ตตฺถ ยตฺถ เวสฺสนฺตโร อหูติ ยสฺมิํ ฐาเน เวสฺสนฺตโร อโหสิ, ตํ ฐานํ คโตติฯ
Tattha yattha vessantaro ahūti yasmiṃ ṭhāne vessantaro ahosi, taṃ ṭhānaṃ gatoti.
มหาวนวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Mahāvanavaṇṇanā niṭṭhitā.
ทารกปพฺพวณฺณนา
Dārakapabbavaṇṇanā
ชูชโกปิ อจฺจุตตาปเสน กถิตมเคฺคน คจฺฉโนฺต จตุรสฺสโปกฺขรณิํ ปตฺวา จิเนฺตสิ ‘‘อชฺช อติสายโนฺห, อิทานิ มทฺที อรญฺญโต อาคมิสฺสติฯ มาตุคาโม หิ นาม ทานสฺส อนฺตรายกโร โหติ, เสฺว ตสฺสา อรญฺญํ คตกาเล อสฺสมํ คนฺตฺวา เวสฺสนฺตรํ อุปสงฺกมิตฺวา ทารเก ยาจิตฺวา ตาย อนาคตาย เต คเหตฺวา ปกฺกมิสฺสามี’’ติฯ อถสฺส อวิทูเร เอกํ สานุปพฺพตํ อารุยฺห เอกสฺมิํ ผาสุกฎฺฐาเน นิปชฺชิฯ ตํ ปน รตฺติํ ปจฺจูสกาเล มทฺที สุปินํ อทฺทสฯ เอวรูโป สุปิโน อโหสิ – เอโก ปุริโส กโณฺห เทฺว กาสายานิ ปริทหิตฺวา ทฺวีสุ กเณฺณสุ รตฺตมาลํ ปิฬนฺธิตฺวา อาวุธหโตฺถ ตเชฺชโนฺต อาคนฺตฺวา ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา มทฺทิํ ชฎาสุ คเหตฺวา อากฑฺฒิตฺวา ภูมิยํ อุตฺตานกํ ปาเตตฺวา วิรวนฺติยา ตสฺสา เทฺว อกฺขีนิ อุปฺปาเฎตฺวา พาหานิ ฉินฺทิตฺวา อุรํ ภินฺทิตฺวา ปคฺฆรนฺตโลหิตพินฺทุํ หทยมํสํ อาทาย ปกฺกามีติฯ สา ปพุชฺฌิตฺวา ภีตตสิตา ‘‘ปาปโก สุปิโน เม ทิโฎฺฐ, สุปินปาฐโก ปน เวสฺสนฺตเรน สทิโส นาม นตฺถิ, ปุจฺฉิสฺสามิ น’’นฺติ จิเนฺตตฺวา ปณฺณสาลํ คนฺตฺวา มหาสตฺตสฺส ปณฺณสาลทฺวารํ อาโกเฎสิฯ มหาสโตฺต ‘‘โก เอโส’’ติ อาหฯ ‘‘อหํ เทว, มทฺที’’ติฯ ‘‘ภเทฺท, อมฺหากํ กติกวตฺตํ ภินฺทิตฺวา กสฺมา อกาเล อาคตาสี’’ติฯ ‘‘เทว, นาหํ กิเลสวเสน อาคจฺฉามิ, อปิจ โข ปน เม ปาปโก สุปิโน ทิโฎฺฐ’’ติฯ ‘‘เตน หิ กเถหิ, มทฺที’’ติฯ สา อตฺตนา ทิฎฺฐนิยาเมเนว กเถสิฯ
Jūjakopi accutatāpasena kathitamaggena gacchanto caturassapokkharaṇiṃ patvā cintesi ‘‘ajja atisāyanho, idāni maddī araññato āgamissati. Mātugāmo hi nāma dānassa antarāyakaro hoti, sve tassā araññaṃ gatakāle assamaṃ gantvā vessantaraṃ upasaṅkamitvā dārake yācitvā tāya anāgatāya te gahetvā pakkamissāmī’’ti. Athassa avidūre ekaṃ sānupabbataṃ āruyha ekasmiṃ phāsukaṭṭhāne nipajji. Taṃ pana rattiṃ paccūsakāle maddī supinaṃ addasa. Evarūpo supino ahosi – eko puriso kaṇho dve kāsāyāni paridahitvā dvīsu kaṇṇesu rattamālaṃ piḷandhitvā āvudhahattho tajjento āgantvā paṇṇasālaṃ pavisitvā maddiṃ jaṭāsu gahetvā ākaḍḍhitvā bhūmiyaṃ uttānakaṃ pātetvā viravantiyā tassā dve akkhīni uppāṭetvā bāhāni chinditvā uraṃ bhinditvā paggharantalohitabinduṃ hadayamaṃsaṃ ādāya pakkāmīti. Sā pabujjhitvā bhītatasitā ‘‘pāpako supino me diṭṭho, supinapāṭhako pana vessantarena sadiso nāma natthi, pucchissāmi na’’nti cintetvā paṇṇasālaṃ gantvā mahāsattassa paṇṇasāladvāraṃ ākoṭesi. Mahāsatto ‘‘ko eso’’ti āha. ‘‘Ahaṃ deva, maddī’’ti. ‘‘Bhadde, amhākaṃ katikavattaṃ bhinditvā kasmā akāle āgatāsī’’ti. ‘‘Deva, nāhaṃ kilesavasena āgacchāmi, apica kho pana me pāpako supino diṭṭho’’ti. ‘‘Tena hi kathehi, maddī’’ti. Sā attanā diṭṭhaniyāmeneva kathesi.
มหาสโตฺตปิ สุปินํ ปริคฺคณฺหิตฺวา ‘‘มยฺหํ ทานปารมี ปูริสฺสติ, เสฺว มํ ยาจโก อาคนฺตฺวา ปุเตฺต ยาจิสฺสติ, มทฺทิํ อสฺสาเสตฺวา อุโยฺยเชสฺสามี’’ติ จิเนฺตตฺวา ‘‘มทฺทิ, ตว ทุสฺสยนทุโพฺภชเนหิ จิตฺตํ อาลุฬิตํ ภวิสฺสติ, มา ภายี’’ติ สํโมเหตฺวา อสฺสาเสตฺวา อุโยฺยเชสิฯ สา วิภาตาย รตฺติยา สพฺพํ กตฺตพฺพกิจฺจํ กตฺวา เทฺว ปุเตฺต อาลิงฺคิตฺวา สีเส จุมฺพิตฺวา ‘‘ตาตา, อชฺช เม ทุสฺสุปิโน ทิโฎฺฐ, อปฺปมตฺตา ภเวยฺยาถา’’ติ โอวทิตฺวา ‘‘เทว, ตุเมฺห ทฺวีสุ กุมาเรสุ อปฺปมตฺตา โหถา’’ติ มหาสตฺตํ ปุเตฺต ปฎิจฺฉาเปตฺวา ปจฺฉิขณิตฺติอาทีนิ อาทาย อสฺสูนิ ปุญฺฉนฺตี มูลผลาผลตฺถาย วนํ ปาวิสิฯ ตทา ชูชโกปิ ‘‘อิทานิ มทฺที อรญฺญํ คตา ภวิสฺสตี’’ติ สานุปพฺพตา โอรุยฺห เอกปทิกมเคฺคน อสฺสมาภิมุโข ปายาสิฯ มหาสโตฺตปิ ปณฺณสาลโต นิกฺขมิตฺวา ปณฺณสาลทฺวาเร ปาสาณผลเก สุวณฺณปฎิมา วิย นิสิโนฺน ‘‘อิทานิ ยาจโก อาคมิสฺสตี’’ติ ปิปาสิโต วิย สุราโสโณฺฑ ตสฺสาคมนมคฺคํ โอโลเกโนฺตว นิสีทิฯ ปุตฺตาปิสฺส ปาทมูเล กีฬนฺติฯ โส มคฺคํ โอโลเกโนฺต พฺราหฺมณํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา สตฺต มาเส นิกฺขิตฺตํ ทานธุรํ อุกฺขิปโนฺต วิย ‘เอหิ, ตฺวํ โภ พฺราหฺมณา’’ติ โสมนสฺสชาโต ชาลิกุมารํ อามเนฺตโนฺต อิมํ คาถมาห –
Mahāsattopi supinaṃ pariggaṇhitvā ‘‘mayhaṃ dānapāramī pūrissati, sve maṃ yācako āgantvā putte yācissati, maddiṃ assāsetvā uyyojessāmī’’ti cintetvā ‘‘maddi, tava dussayanadubbhojanehi cittaṃ āluḷitaṃ bhavissati, mā bhāyī’’ti saṃmohetvā assāsetvā uyyojesi. Sā vibhātāya rattiyā sabbaṃ kattabbakiccaṃ katvā dve putte āliṅgitvā sīse cumbitvā ‘‘tātā, ajja me dussupino diṭṭho, appamattā bhaveyyāthā’’ti ovaditvā ‘‘deva, tumhe dvīsu kumāresu appamattā hothā’’ti mahāsattaṃ putte paṭicchāpetvā pacchikhaṇittiādīni ādāya assūni puñchantī mūlaphalāphalatthāya vanaṃ pāvisi. Tadā jūjakopi ‘‘idāni maddī araññaṃ gatā bhavissatī’’ti sānupabbatā oruyha ekapadikamaggena assamābhimukho pāyāsi. Mahāsattopi paṇṇasālato nikkhamitvā paṇṇasāladvāre pāsāṇaphalake suvaṇṇapaṭimā viya nisinno ‘‘idāni yācako āgamissatī’’ti pipāsito viya surāsoṇḍo tassāgamanamaggaṃ olokentova nisīdi. Puttāpissa pādamūle kīḷanti. So maggaṃ olokento brāhmaṇaṃ āgacchantaṃ disvā satta māse nikkhittaṃ dānadhuraṃ ukkhipanto viya ‘ehi, tvaṃ bho brāhmaṇā’’ti somanassajāto jālikumāraṃ āmantento imaṃ gāthamāha –
๒๐๘๗.
2087.
‘‘อุเฎฺฐหิ ชาลิ ปติฎฺฐ, โปราณํ วิย ทิสฺสติ;
‘‘Uṭṭhehi jāli patiṭṭha, porāṇaṃ viya dissati;
พฺราหฺมณํ วิย ปสฺสามิ, นนฺทิโย มาภิกีรเร’’ติฯ
Brāhmaṇaṃ viya passāmi, nandiyo mābhikīrare’’ti.
ตตฺถ โปราณํ วิย ทิสฺสตีติ ปุเพฺพ เชตุตฺตรนคเร นานาทิสาหิ ยาจกานํ อาคมนํ วิย อชฺช ยาจกานํ อาคมนํ ทิสฺสติฯ นนฺทิโย มาภิกีรเรติ เอตสฺส พฺราหฺมณสฺส ทิฎฺฐกาลโต ปฎฺฐาย มํ โสมนสฺสานิ อภิกีรนฺติ, ฆมฺมาภิตตฺตสฺส ปุริสสฺส สีเส สีตูทกฆฎสหเสฺสหิ อภิเสจนกาโล วิย ชาโตติฯ
Tattha porāṇaṃ viya dissatīti pubbe jetuttaranagare nānādisāhi yācakānaṃ āgamanaṃ viya ajja yācakānaṃ āgamanaṃ dissati. Nandiyo mābhikīrareti etassa brāhmaṇassa diṭṭhakālato paṭṭhāya maṃ somanassāni abhikīranti, ghammābhitattassa purisassa sīse sītūdakaghaṭasahassehi abhisecanakālo viya jātoti.
ตํ สุตฺวา กุมาโร อาห –
Taṃ sutvā kumāro āha –
๒๐๘๘.
2088.
‘‘อหมฺปิ ตาต ปสฺสามิ, โย โส พฺรหฺมาว ทิสฺสติ;
‘‘Ahampi tāta passāmi, yo so brahmāva dissati;
อทฺธิโก วิย อายาติ, อติถี โน ภวิสฺสตี’’ติฯ
Addhiko viya āyāti, atithī no bhavissatī’’ti.
วตฺวา จ ปน กุมาโร มหาสตฺตสฺส อปจิติํ กโรโนฺต อุฎฺฐายาสนา พฺราหฺมณํ ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ปริกฺขารคฺคหณํ อาปุจฺฉิฯ พฺราหฺมโณ ตํ โอโลเกโนฺต ‘‘อยํ เวสฺสนฺตรสฺส ปุโตฺต ชาลิกุมาโร นาม ภวิสฺสติ, อาทิโต ปฎฺฐาเยว ผรุสวจนํ กเถสฺสามี’’ติ จิเนฺตตฺวา ‘‘อเปหิ อเปหี’’ติ อจฺฉรํ ปหริฯ กุมาโร อปคนฺตฺวา ‘‘อยํ พฺราหฺมโณ อติผรุโส, กิํ นุ โข’’ติ ตสฺส สรีรํ โอโลเกโนฺต อฎฺฐารส ปุริสโทเส ปสฺสิฯ พฺราหฺมโณปิ โพธิสตฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ปฎิสนฺถารํ กโรโนฺต อาห –
Vatvā ca pana kumāro mahāsattassa apacitiṃ karonto uṭṭhāyāsanā brāhmaṇaṃ paccuggantvā parikkhāraggahaṇaṃ āpucchi. Brāhmaṇo taṃ olokento ‘‘ayaṃ vessantarassa putto jālikumāro nāma bhavissati, ādito paṭṭhāyeva pharusavacanaṃ kathessāmī’’ti cintetvā ‘‘apehi apehī’’ti accharaṃ pahari. Kumāro apagantvā ‘‘ayaṃ brāhmaṇo atipharuso, kiṃ nu kho’’ti tassa sarīraṃ olokento aṭṭhārasa purisadose passi. Brāhmaṇopi bodhisattaṃ upasaṅkamitvā paṭisanthāraṃ karonto āha –
๒๐๘๙.
2089.
‘‘กจฺจิ นุ โภโต กุสลํ, กจฺจิ โภโต อนามยํ;
‘‘Kacci nu bhoto kusalaṃ, kacci bhoto anāmayaṃ;
กจฺจิ อุเญฺฉน ยาเปถ, กจฺจิ มูลผลา พหูฯ
Kacci uñchena yāpetha, kacci mūlaphalā bahū.
๒๐๙๐.
2090.
‘‘กจฺจิ ฑํสา มกสา จ, อปฺปเมว สรีสปา;
‘‘Kacci ḍaṃsā makasā ca, appameva sarīsapā;
วเน วาฬมิคากิเณฺณ, กจฺจิ หิํสา น วิชฺชตี’’ติฯ
Vane vāḷamigākiṇṇe, kacci hiṃsā na vijjatī’’ti.
โพธิสโตฺตปิ เตน สทฺธิํ ปฎิสนฺถารํ กโรโนฺต อาห –
Bodhisattopi tena saddhiṃ paṭisanthāraṃ karonto āha –
๒๐๙๑.
2091.
‘‘กุสลเญฺจว โน พฺรเหฺม, อโถ พฺรเหฺม อนามยํ;
‘‘Kusalañceva no brahme, atho brahme anāmayaṃ;
อโถ อุเญฺฉน ยาเปม, อโถ มูลผลา พหูฯ
Atho uñchena yāpema, atho mūlaphalā bahū.
๒๐๙๒.
2092.
‘‘อโถ ฑํสา มกสา จ, อปฺปเมว สรีสวา;
‘‘Atho ḍaṃsā makasā ca, appameva sarīsavā;
วเน วาฬมิคากิเณฺณ, หิํสา อมฺหํ น วิชฺชติฯ
Vane vāḷamigākiṇṇe, hiṃsā amhaṃ na vijjati.
๒๐๙๓.
2093.
‘‘สตฺต โน มาเส วสตํ, อรเญฺญ ชีวโสกินํ;
‘‘Satta no māse vasataṃ, araññe jīvasokinaṃ;
อิมมฺปิ ปฐมํ ปสฺสาม, พฺราหฺมณํ เทววณฺณินํ;
Imampi paṭhamaṃ passāma, brāhmaṇaṃ devavaṇṇinaṃ;
อาทาย เวฬุวํ ทณฺฑํ, อคฺคิหุตฺตํ กมณฺฑลุํฯ
Ādāya veḷuvaṃ daṇḍaṃ, aggihuttaṃ kamaṇḍaluṃ.
๒๐๙๔.
2094.
‘‘สฺวาคตํ เต มหาพฺรเหฺม, อโถ เต อทุราคตํ;
‘‘Svāgataṃ te mahābrahme, atho te adurāgataṃ;
อโนฺต ปวิส ภทฺทเนฺต, ปาเท ปกฺขาลยสฺสุ เตฯ
Anto pavisa bhaddante, pāde pakkhālayassu te.
๒๐๙๕.
2095.
‘‘ติณฺฑุกานิ ปิยาลานิ, มธุเก กาสุมาริโย;
‘‘Tiṇḍukāni piyālāni, madhuke kāsumāriyo;
ผลานิ ขุทฺทกปฺปานิ, ภุญฺช พฺรเหฺม วรํ วรํฯ
Phalāni khuddakappāni, bhuñja brahme varaṃ varaṃ.
๒๐๙๖.
2096.
‘‘อิทมฺปิ ปานียํ สีตํ, อาภตํ คิริคพฺภรา;
‘‘Idampi pānīyaṃ sītaṃ, ābhataṃ girigabbharā;
ตโต ปิว มหาพฺรเหฺม, สเจ ตฺวํ อภิกงฺขสี’’ติฯ
Tato piva mahābrahme, sace tvaṃ abhikaṅkhasī’’ti.
เอวญฺจ ปน วตฺวา มหาสโตฺต ‘‘อยํ พฺราหฺมโณ น อการเณน อิมํ พฺรหารญฺญํ อาคโต, อาคมนการณํ ปปญฺจํ อกตฺวา ปุจฺฉิสฺสามิ น’’นฺติ จิเนฺตตฺวา อิมํ คาถมาห –
Evañca pana vatvā mahāsatto ‘‘ayaṃ brāhmaṇo na akāraṇena imaṃ brahāraññaṃ āgato, āgamanakāraṇaṃ papañcaṃ akatvā pucchissāmi na’’nti cintetvā imaṃ gāthamāha –
๒๐๙๗.
2097.
‘‘อถ ตฺวํ เกน วเณฺณน, เกน วา ปน เหตุนา;
‘‘Atha tvaṃ kena vaṇṇena, kena vā pana hetunā;
อนุปฺปโตฺต พฺรหารญฺญํ, ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิโต’’ติฯ
Anuppatto brahāraññaṃ, taṃ me akkhāhi pucchito’’ti.
ตตฺถ วเณฺณนาติ การเณนฯ เหตุนาติ ปจฺจเยนฯ
Tattha vaṇṇenāti kāraṇena. Hetunāti paccayena.
ชูชโก อาห –
Jūjako āha –
๒๐๙๘.
2098.
‘‘ยถา วาริวโห ปูโร, สพฺพกาลํ น ขียติ;
‘‘Yathā vārivaho pūro, sabbakālaṃ na khīyati;
เอวํ ตํ ยาจิตาคจฺฉิํ, ปุเตฺต เม เทหิ ยาจิโต’’ติฯ
Evaṃ taṃ yācitāgacchiṃ, putte me dehi yācito’’ti.
ตตฺถ วาริวโหติ ปญฺจสุ มหานทีสุ อุทกวาโหฯ น ขียตีติ ปิปาสิเตหิ อาคนฺตฺวา หเตฺถหิปิ ภาชเนหิปิ อุสฺสิญฺจิตฺวา ปิวิยมาโน น ขียติฯ เอวํ ตํ ยาจิตาคจฺฉินฺติ ตฺวมฺปิ สทฺธาย ปูริตตฺตา เอวรูโปเยวาติ มญฺญมาโน อหํ ตํ ยาจิตุํ อาคจฺฉิํฯ ปุเตฺต เม เทหิ ยาจิโตติ มยา ยาจิโต ตว ปุเตฺต มยฺหํ ทาสตฺถาย เทหีติฯ
Tattha vārivahoti pañcasu mahānadīsu udakavāho. Na khīyatīti pipāsitehi āgantvā hatthehipi bhājanehipi ussiñcitvā piviyamāno na khīyati. Evaṃ taṃ yācitāgacchinti tvampi saddhāya pūritattā evarūpoyevāti maññamāno ahaṃ taṃ yācituṃ āgacchiṃ. Putte me dehi yācitoti mayā yācito tava putte mayhaṃ dāsatthāya dehīti.
ตํ สุตฺวา มหาสโตฺต โสมนสฺสชาโต ปสาริตหเตฺถ สหสฺสตฺถวิกํ ฐเปโนฺต วิย ปพฺพตปาทํ อุนฺนาเทโนฺต อิมา คาถา อาห –
Taṃ sutvā mahāsatto somanassajāto pasāritahatthe sahassatthavikaṃ ṭhapento viya pabbatapādaṃ unnādento imā gāthā āha –
๒๐๙๙.
2099.
‘‘ททามิ น วิกมฺปามิ, อิสฺสโร นย พฺราหฺมณ;
‘‘Dadāmi na vikampāmi, issaro naya brāhmaṇa;
ปาโต คตา ราชปุตฺตี, สายํ อุญฺฉาโต เอหิติฯ
Pāto gatā rājaputtī, sāyaṃ uñchāto ehiti.
๒๑๐๐.
2100.
‘‘เอกรตฺติํ วสิตฺวาน, ปาโต คจฺฉสิ พฺราหฺมณ;
‘‘Ekarattiṃ vasitvāna, pāto gacchasi brāhmaṇa;
ตสฺสา นฺหาเต อุปฆาเต, อถ เน มาลธาริเนฯ
Tassā nhāte upaghāte, atha ne māladhārine.
๒๑๐๑.
2101.
‘‘เอกรตฺติํ วสิตฺวาน, ปาโต คจฺฉสิ พฺราหฺมณ;
‘‘Ekarattiṃ vasitvāna, pāto gacchasi brāhmaṇa;
นานาปุเปฺผหิ สญฺฉเนฺน, นานาคเนฺธหิ ภูสิเต;
Nānāpupphehi sañchanne, nānāgandhehi bhūsite;
นานามูลผลากิเณฺณ, คจฺฉ สฺวาทาย พฺราหฺมณา’’ติฯ
Nānāmūlaphalākiṇṇe, gaccha svādāya brāhmaṇā’’ti.
ตตฺถ อิสฺสโรติ ตฺวํ มม ปุตฺตานํ อิสฺสโร สามิโก หุตฺวา เอเต นย, อปิจ โข ปเนกํ การณํ อตฺถิฯ เอเตสํ มาตา ราชปุตฺตี ผลาผลตฺถาย ปาโต คตา สายํ อรญฺญโต อาคมิสฺสติ, ตาย อานีตานิ มธุรผลาผลานิ ภุญฺชิตฺวา อิเธว ฐาเน อเชฺชกรตฺติํ วสิตฺวา ปาโตว ทารเก คเหตฺวา คมิสฺสสิฯ ตสฺสา นฺหาเตติ ตาย นฺหาปิเตฯ อุปฆาเตติ สีสมฺหิ อุปสิงฺฆิเตฯ อถ เน มาลธาริเนติ อถ เน วิจิตฺราย มาลาย อลงฺกเต ตํ มาลํ วหมาเนฯ ปาฬิโปตฺถเกสุ ปน ‘‘อถ เน มาลธาริโน’’ติ ลิขิตํ, ตสฺสโตฺถ น วิจาริโตฯ นานามูลผลากิเณฺณติ มเคฺค ปาเถยฺยตฺถาย ทิเนฺนหิ นานามูลผลาผเลหิ อากิเณฺณฯ
Tattha issaroti tvaṃ mama puttānaṃ issaro sāmiko hutvā ete naya, apica kho panekaṃ kāraṇaṃ atthi. Etesaṃ mātā rājaputtī phalāphalatthāya pāto gatā sāyaṃ araññato āgamissati, tāya ānītāni madhuraphalāphalāni bhuñjitvā idheva ṭhāne ajjekarattiṃ vasitvā pātova dārake gahetvā gamissasi. Tassā nhāteti tāya nhāpite. Upaghāteti sīsamhi upasiṅghite. Atha ne māladhārineti atha ne vicitrāya mālāya alaṅkate taṃ mālaṃ vahamāne. Pāḷipotthakesu pana ‘‘atha ne māladhārino’’ti likhitaṃ, tassattho na vicārito. Nānāmūlaphalākiṇṇeti magge pātheyyatthāya dinnehi nānāmūlaphalāphalehi ākiṇṇe.
ชูชโก อาห –
Jūjako āha –
๒๑๐๒.
2102.
‘‘น วาสมภิโรจามิ, คมนํ มยฺห รุจฺจติ;
‘‘Na vāsamabhirocāmi, gamanaṃ mayha ruccati;
อนฺตราโยปิ เม อสฺส, คจฺฉเญฺญว รเถสภฯ
Antarāyopi me assa, gacchaññeva rathesabha.
๒๑๐๓.
2103.
‘‘น เหตา ยาจโยคี นํ, อนฺตรายสฺส การิยา;
‘‘Na hetā yācayogī naṃ, antarāyassa kāriyā;
อิตฺถิโย มนฺตํ ชานนฺติ, สพฺพํ คณฺหนฺติ วามโตฯ
Itthiyo mantaṃ jānanti, sabbaṃ gaṇhanti vāmato.
๒๑๐๔.
2104.
‘‘สทฺธาย ทานํ ททโต, มาสํ อทกฺขิ มาตรํ;
‘‘Saddhāya dānaṃ dadato, māsaṃ adakkhi mātaraṃ;
อนฺตรายมฺปิ สา กยิรา, คจฺฉเญฺญว รเถสภฯ
Antarāyampi sā kayirā, gacchaññeva rathesabha.
๒๑๐๕.
2105.
‘‘อามนฺตยสฺสุ เต ปุเตฺต, มา เต มาตรมทฺทสุํ;
‘‘Āmantayassu te putte, mā te mātaramaddasuṃ;
สทฺธาย ทานํ ททโต, เอวํ ปุญฺญํ ปวฑฺฒติฯ
Saddhāya dānaṃ dadato, evaṃ puññaṃ pavaḍḍhati.
๒๑๐๖.
2106.
‘‘อามนฺตยสฺสุ เต ปุเตฺต, มา เต มาตรมทฺทสุํ;
‘‘Āmantayassu te putte, mā te mātaramaddasuṃ;
มาทิสสฺส ธนํ ทตฺวา, ราช สคฺคํ คมิสฺสสี’’ติฯ
Mādisassa dhanaṃ datvā, rāja saggaṃ gamissasī’’ti.
ตตฺถ น เหตา ยาจโยคี นนฺติ เอตฺถ นนฺติ นิปาตมตฺตํฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – มหาราช, เอตา อิตฺถิโย จ นาม น หิ ยาจโยคี, น ยาจนาย อนุจฺฉวิกา โหนฺติ, เกวลํ อนฺตรายสฺส การิยา ทายกานํ ปุญฺญนฺตรายํ, ยาจกานญฺจ ลาภนฺตรายํ กโรนฺตีติฯ อิตฺถิโย มนฺตนฺติ อิตฺถี มายํ นาม ชานนฺติฯ วามโตติ สพฺพํ วามโต คณฺหนฺติ, น ทกฺขิณโตฯ สทฺธาย ทานํ ททโตติ กมฺมญฺจ ผลญฺจ สทฺทหิตฺวา ทานํ ททโตฯ มาสนฺติ มา เอเตสํ มาตรํ อทกฺขิฯ กยิราติ กเรยฺยฯ อามนฺตยสฺสูติ ชานาเปหิ, มยา สทฺธิํ เปเสหีติ วทติฯ ททโตติ ททนฺตสฺสฯ
Tattha na hetā yācayogī nanti ettha nanti nipātamattaṃ. Idaṃ vuttaṃ hoti – mahārāja, etā itthiyo ca nāma na hi yācayogī, na yācanāya anucchavikā honti, kevalaṃ antarāyassa kāriyā dāyakānaṃ puññantarāyaṃ, yācakānañca lābhantarāyaṃ karontīti. Itthiyo mantanti itthī māyaṃ nāma jānanti. Vāmatoti sabbaṃ vāmato gaṇhanti, na dakkhiṇato. Saddhāya dānaṃ dadatoti kammañca phalañca saddahitvā dānaṃ dadato. Māsanti mā etesaṃ mātaraṃ adakkhi. Kayirāti kareyya. Āmantayassūti jānāpehi, mayā saddhiṃ pesehīti vadati. Dadatoti dadantassa.
เวสฺสนฺตโร อาห –
Vessantaro āha –
๒๑๐๗.
2107.
‘‘สเจ ตฺวํ นิจฺฉเส ทฎฺฐุํ, มม ภริยํ ปติพฺพตํ;
‘‘Sace tvaṃ nicchase daṭṭhuṃ, mama bhariyaṃ patibbataṃ;
อยฺยกสฺสปิ ทเสฺสหิ, ชาลิํ กณฺหาชินํ จุโภฯ
Ayyakassapi dassehi, jāliṃ kaṇhājinaṃ cubho.
๒๑๐๘.
2108.
‘‘อิเม กุมาเร ทิสฺวาน, มญฺชุเก ปิยภาณิเน;
‘‘Ime kumāre disvāna, mañjuke piyabhāṇine;
ปตีโต สุมโน วิโตฺต, พหุํ ทสฺสติ เต ธน’’นฺติฯ
Patīto sumano vitto, bahuṃ dassati te dhana’’nti.
ตตฺถ อยฺยกสฺสาติ มยฺหํ ปิตุโน สญฺชยมหาราชสฺส ทฺวินฺนํ กุมารานํ อยฺยกสฺสฯ ทสฺสติ เต ธนนฺติ โส ราชา ตุยฺหํ พหุํ ธนํ ทสฺสติฯ
Tattha ayyakassāti mayhaṃ pituno sañjayamahārājassa dvinnaṃ kumārānaṃ ayyakassa. Dassati te dhananti so rājā tuyhaṃ bahuṃ dhanaṃ dassati.
ชูชโก อาห –
Jūjako āha –
๒๑๐๙.
2109.
‘‘อเจฺฉทนสฺส ภายามิ, ราชปุตฺต สุโณหิ เม;
‘‘Acchedanassa bhāyāmi, rājaputta suṇohi me;
ราชทณฺฑาย มํ ทชฺชา, วิกฺกิเณยฺย หเนยฺย วา;
Rājadaṇḍāya maṃ dajjā, vikkiṇeyya haneyya vā;
ชิโน ธนญฺจ ทาเส จ, คารยฺหสฺส พฺรหฺมพนฺธุยา’’ติฯ
Jino dhanañca dāse ca, gārayhassa brahmabandhuyā’’ti.
ตตฺถ อเจฺฉทนสฺสาติ อจฺฉินฺทิตฺวา คหณสฺส ภายามิฯ ราชทณฺฑาย มํ ทชฺชาติ ‘‘อยํ พฺราหฺมโณ ทารกโจโร, ทณฺฑมสฺส เทถา’’ติ เอวํ ทณฺฑตฺถาย มํ อมจฺจานํ ทเทยฺยฯ คารยฺหสฺส พฺรหฺมพนฺธุยาติ เกวลํ พฺราหฺมณิยาว ครหิตโพฺพ ภวิสฺสามีติฯ
Tattha acchedanassāti acchinditvā gahaṇassa bhāyāmi. Rājadaṇḍāya maṃ dajjāti ‘‘ayaṃ brāhmaṇo dārakacoro, daṇḍamassa dethā’’ti evaṃ daṇḍatthāya maṃ amaccānaṃ dadeyya. Gārayhassa brahmabandhuyāti kevalaṃ brāhmaṇiyāva garahitabbo bhavissāmīti.
เวสฺสนฺตโร อาห –
Vessantaro āha –
๒๑๑๐.
2110.
‘‘อิเม กุมาเร ทิสฺวาน, มญฺชุเก ปิยภาณิเน;
‘‘Ime kumāre disvāna, mañjuke piyabhāṇine;
ธเมฺม ฐิโต มหาราชา, สิวีนํ รฎฺฐวฑฺฒโน;
Dhamme ṭhito mahārājā, sivīnaṃ raṭṭhavaḍḍhano;
ลทฺธา ปีติโสมนสฺสํ, พหุํ ทสฺสติ เต ธน’’นฺติฯ
Laddhā pītisomanassaṃ, bahuṃ dassati te dhana’’nti.
ชูชโก อาห –
Jūjako āha –
๒๑๑๑.
2111.
‘‘นาหํ ตมฺปิ กริสฺสามิ, ยํ มํ ตฺวํ อนุสาสสิ;
‘‘Nāhaṃ tampi karissāmi, yaṃ maṃ tvaṃ anusāsasi;
ทารเกว อหํ เนสฺสํ, พฺราหฺมณฺยา ปริจารเก’’ติฯ
Dārakeva ahaṃ nessaṃ, brāhmaṇyā paricārake’’ti.
ตตฺถ ทารเกวาติ อลํ มยฺหํ อเญฺญน ธเนน, อหํ อิเม ทารเกว อตฺตโน พฺราหฺมณิยา ปริจารเก เนสฺสามีติฯ
Tattha dārakevāti alaṃ mayhaṃ aññena dhanena, ahaṃ ime dārakeva attano brāhmaṇiyā paricārake nessāmīti.
ตํ ตสฺส ผรุสวจนํ สุตฺวา ทารกา ภีตา ปลายิตฺวา ปิฎฺฐิปณฺณสาลํ คนฺตฺวา ตโตปิ ปลายิตฺวา คุมฺพคหเน นิลียิตฺวา ตตฺราปิ ชูชเกนาคนฺตฺวา คหิตา วิย อตฺตานํ สมฺปสฺสมานา กมฺปนฺตา กตฺถจิ ฐาตุํ อสมตฺถา อิโต จิโต จ ธาวิตฺวา จตุรสฺสโปกฺขรณิตีรํ คนฺตฺวา ทฬฺหํ วากจีรํ นิวาเสตฺวา อุทกํ โอรุยฺห โปกฺขรปตฺตํ สีเส ฐเปตฺวา อุทเกน ปฎิจฺฉนฺนา หุตฺวา อฎฺฐํสุฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Taṃ tassa pharusavacanaṃ sutvā dārakā bhītā palāyitvā piṭṭhipaṇṇasālaṃ gantvā tatopi palāyitvā gumbagahane nilīyitvā tatrāpi jūjakenāgantvā gahitā viya attānaṃ sampassamānā kampantā katthaci ṭhātuṃ asamatthā ito cito ca dhāvitvā caturassapokkharaṇitīraṃ gantvā daḷhaṃ vākacīraṃ nivāsetvā udakaṃ oruyha pokkharapattaṃ sīse ṭhapetvā udakena paṭicchannā hutvā aṭṭhaṃsu. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๒๑๑๒.
2112.
‘‘ตโต กุมารา พฺยถิตา, สุตฺวา ลุทฺทสฺส ภาสิตํ;
‘‘Tato kumārā byathitā, sutvā luddassa bhāsitaṃ;
เตน เตน ปธาวิํสุ, ชาลี กณฺหาชินา จุโภ’’ติฯ
Tena tena padhāviṃsu, jālī kaṇhājinā cubho’’ti.
ชูชโกปิ กุมาเร อทิสฺวา โพธิสตฺตํ อปสาเทสิ ‘‘โภ เวสฺสนฺตร, อิทาเนว ตฺวํ มยฺหํ ทารเก ทตฺวา มยา ‘นาหํ เชตุตฺตรนครํ คมิสฺสามิ, ทารเก มม พฺราหฺมณิยา ปริจารเก เนสฺสามี’ติ วุเตฺต อิงฺฆิตสญฺญํ ทตฺวา ปุเตฺต ปลาเปตฺวา อชานโนฺต วิย นิสิโนฺน, นตฺถิ มเญฺญ โลกสฺมิํ ตยา สทิโส มุสาวาที’’ติฯ ตํ สุตฺวา มหาสโตฺต ปกมฺปิตจิโตฺต หุตฺวา ‘‘ทารกา ปลาตา ภวิสฺสนฺตี’’ติ จิเนฺตตฺวา ‘‘โภ พฺราหฺมณ, มา จินฺตยิ, อาเนสฺสามิ เต กุมาเร’’ติ อุฎฺฐาย ปิฎฺฐิปณฺณสาลํ คนฺตฺวา เตสํ วนคหนํ ปวิฎฺฐภาวํ ญตฺวา ปทวลญฺชานุสาเรน โปกฺขรณิตีรํ คนฺตฺวา อุทเก โอติณฺณปทํ ทิสฺวา ‘‘กุมารา อุทกํ โอรุยฺห ฐิตา ภวิสฺสนฺตี’’ติ ญตฺวา ‘‘ตาต, ชาลี’’ติ ปโกฺกสโนฺต อิมํ คาถาทฺวยมาห –
Jūjakopi kumāre adisvā bodhisattaṃ apasādesi ‘‘bho vessantara, idāneva tvaṃ mayhaṃ dārake datvā mayā ‘nāhaṃ jetuttaranagaraṃ gamissāmi, dārake mama brāhmaṇiyā paricārake nessāmī’ti vutte iṅghitasaññaṃ datvā putte palāpetvā ajānanto viya nisinno, natthi maññe lokasmiṃ tayā sadiso musāvādī’’ti. Taṃ sutvā mahāsatto pakampitacitto hutvā ‘‘dārakā palātā bhavissantī’’ti cintetvā ‘‘bho brāhmaṇa, mā cintayi, ānessāmi te kumāre’’ti uṭṭhāya piṭṭhipaṇṇasālaṃ gantvā tesaṃ vanagahanaṃ paviṭṭhabhāvaṃ ñatvā padavalañjānusārena pokkharaṇitīraṃ gantvā udake otiṇṇapadaṃ disvā ‘‘kumārā udakaṃ oruyha ṭhitā bhavissantī’’ti ñatvā ‘‘tāta, jālī’’ti pakkosanto imaṃ gāthādvayamāha –
๒๑๑๓.
2113.
‘‘เอหิ ตาต ปิยปุตฺต, ปูเรถ มม ปารมิํ;
‘‘Ehi tāta piyaputta, pūretha mama pāramiṃ;
หทยํ เมภิสิเญฺจถ, กโรถ วจนํ มมฯ
Hadayaṃ mebhisiñcetha, karotha vacanaṃ mama.
๒๑๑๔.
2114.
‘‘ยานา นาวา จ เม โหถ, อจลา ภวสาคเร;
‘‘Yānā nāvā ca me hotha, acalā bhavasāgare;
ชาติปารํ ตริสฺสามิ, สนฺตาเรสฺสํ สเทวก’’นฺติฯ
Jātipāraṃ tarissāmi, santāressaṃ sadevaka’’nti.
กุมาโร ปิตุ วจนํ สุตฺวา ‘‘พฺราหฺมโณ มํ ยถารุจิ กโรตุ, ปิตรา สทฺธิํ เทฺว กถา น กเถสฺสามี’’ติ สีสํ นีหริตฺวา โปกฺขรปตฺตานิ วิยูหิตฺวา อุทกา อุตฺตริตฺวา มหาสตฺตสฺส ทกฺขิณปาเท นิปติตฺวา โคปฺผกสนฺธิํ ทฬฺหํ คเหตฺวา ปโรทิฯ อถ นํ มหาสโตฺต อาห ‘‘ตาต, ภคินี เต กุหิ’’นฺติฯ ‘‘ตาต, อิเม สตฺตา นาม ภเย อุปฺปเนฺน อตฺตานเมว รกฺขนฺตี’’ติฯ อถ มหาสโตฺต ‘‘ปุเตฺตหิ เม กติกา กตา ภวิสฺสตี’’ติ ญตฺวา ‘‘เอหิ อมฺม กเณฺห’’ติ ปโกฺกสโนฺต คาถาทฺวยมาห –
Kumāro pitu vacanaṃ sutvā ‘‘brāhmaṇo maṃ yathāruci karotu, pitarā saddhiṃ dve kathā na kathessāmī’’ti sīsaṃ nīharitvā pokkharapattāni viyūhitvā udakā uttaritvā mahāsattassa dakkhiṇapāde nipatitvā gopphakasandhiṃ daḷhaṃ gahetvā parodi. Atha naṃ mahāsatto āha ‘‘tāta, bhaginī te kuhi’’nti. ‘‘Tāta, ime sattā nāma bhaye uppanne attānameva rakkhantī’’ti. Atha mahāsatto ‘‘puttehi me katikā katā bhavissatī’’ti ñatvā ‘‘ehi amma kaṇhe’’ti pakkosanto gāthādvayamāha –
๒๑๑๕.
2115.
‘‘เอหิ อมฺม ปิยธีติ, ปูเรถ มม ปารมิํ;
‘‘Ehi amma piyadhīti, pūretha mama pāramiṃ;
หทยํ เมภิสิเญฺจถ, กโรถ วจนํ มมฯ
Hadayaṃ mebhisiñcetha, karotha vacanaṃ mama.
๒๑๑๖.
2116.
‘‘ยานา นาวา จ เม โหถ, อจลา ภวสาคเร;
‘‘Yānā nāvā ca me hotha, acalā bhavasāgare;
ชาติปารํ ตริสฺสามิ, อุทฺธริสฺสํ สเทวก’’นฺติฯ
Jātipāraṃ tarissāmi, uddharissaṃ sadevaka’’nti.
สาปิ ‘‘ปิตรา สทฺธิํ เทฺว กถา น กเถสฺสามี’’ติ ตเถว อุทกา อุตฺตริตฺวา มหาสตฺตสฺส วามปาเท นิปติตฺวา โคปฺผกสนฺธิํ ทฬฺหํ คเหตฺวา ปโรทิฯ เตสํ อสฺสูนิ มหาสตฺตสฺส ผุลฺลปทุมวเณฺณ ปาทปิเฎฺฐ ปตนฺติฯ ตสฺส อสฺสูนิ เตสํ สุวณฺณผลกสทิสาย ปิฎฺฐิยา ปตนฺติฯ อถ มหาสโตฺต กุมาเร อุฎฺฐาเปตฺวา อสฺสาเสตฺวา ‘‘ตาต, ชาลิ กิํ ตฺวํ มม ทานวิตฺตกภาวํ น ชานาสิ, อชฺฌาสยํ เม, ตาต, มตฺถกํ ปาเปหี’’ติ วตฺวา โคเณ อคฺฆาเปโนฺต วิย ตเตฺถว ฐิโต กุมาเร อคฺฆาเปสิฯ โส กิร ปุตฺตํ อามเนฺตตฺวา อาห ‘‘ตาต, ชาลิ ตฺวํ ภุชิโสฺส โหตุกาโม พฺราหฺมณสฺส นิกฺขสหสฺสํ ทตฺวา ภุชิโสฺส ภเวยฺยาสิ, ภคินี โข ปน เต อุตฺตมรูปธรา, โกจิ นีจชาติโก พฺราหฺมณสฺส กิญฺจิเทว ธนํ ทตฺวา ตว ภคินิํ ภุชิสฺสํ กตฺวา ชาติสเมฺภทํ กเรยฺย, อญฺญตฺรรญฺญา สพฺพสตทายโก นาม นตฺถิ, ตสฺมา ภคินี เต ภุชิสฺสา โหตุกามา พฺราหฺมณสฺส ทาสสตํ ทาสีสตํ หตฺถิสตํ อสฺสสตํ อุสภสตํ นิกฺขสตนฺติ เอวํ สพฺพสตานิ ทตฺวา ภุชิสฺสา โหตู’’ติ เอวํ กุมาเร อคฺฆาเปตฺวา สมสฺสาเสตฺวา อสฺสมปทํ คนฺตฺวา กมณฺฑลุนา อุทกํ คเหตฺวา ‘‘เอหิ วต, โภ พฺราหฺมณา’’ติ อามเนฺตตฺวา สพฺพญฺญุตญฺญาณสฺส ปจฺจโย โหตูติ ปตฺถนํ กตฺวา อุทกํ ปาเตตฺวา ‘‘อโมฺภ พฺราหฺมณ, ปุเตฺตหิ เม สตคุเณน สหสฺสคุเณน สตสหสฺสคุเณน สพฺพญฺญุตญฺญาณเมว ปิยตร’’นฺติ ปถวิํ อุนฺนาเทโนฺต พฺราหฺมณสฺส ปิยปุตฺตทานํ อทาสิฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Sāpi ‘‘pitarā saddhiṃ dve kathā na kathessāmī’’ti tatheva udakā uttaritvā mahāsattassa vāmapāde nipatitvā gopphakasandhiṃ daḷhaṃ gahetvā parodi. Tesaṃ assūni mahāsattassa phullapadumavaṇṇe pādapiṭṭhe patanti. Tassa assūni tesaṃ suvaṇṇaphalakasadisāya piṭṭhiyā patanti. Atha mahāsatto kumāre uṭṭhāpetvā assāsetvā ‘‘tāta, jāli kiṃ tvaṃ mama dānavittakabhāvaṃ na jānāsi, ajjhāsayaṃ me, tāta, matthakaṃ pāpehī’’ti vatvā goṇe agghāpento viya tattheva ṭhito kumāre agghāpesi. So kira puttaṃ āmantetvā āha ‘‘tāta, jāli tvaṃ bhujisso hotukāmo brāhmaṇassa nikkhasahassaṃ datvā bhujisso bhaveyyāsi, bhaginī kho pana te uttamarūpadharā, koci nīcajātiko brāhmaṇassa kiñcideva dhanaṃ datvā tava bhaginiṃ bhujissaṃ katvā jātisambhedaṃ kareyya, aññatraraññā sabbasatadāyako nāma natthi, tasmā bhaginī te bhujissā hotukāmā brāhmaṇassa dāsasataṃ dāsīsataṃ hatthisataṃ assasataṃ usabhasataṃ nikkhasatanti evaṃ sabbasatāni datvā bhujissā hotū’’ti evaṃ kumāre agghāpetvā samassāsetvā assamapadaṃ gantvā kamaṇḍalunā udakaṃ gahetvā ‘‘ehi vata, bho brāhmaṇā’’ti āmantetvā sabbaññutaññāṇassa paccayo hotūti patthanaṃ katvā udakaṃ pātetvā ‘‘ambho brāhmaṇa, puttehi me sataguṇena sahassaguṇena satasahassaguṇena sabbaññutaññāṇameva piyatara’’nti pathaviṃ unnādento brāhmaṇassa piyaputtadānaṃ adāsi. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๒๑๑๗.
2117.
‘‘ตโต กุมาเร อาทาย, ชาลิํ กณฺหาชินํ จุโภ;
‘‘Tato kumāre ādāya, jāliṃ kaṇhājinaṃ cubho;
พฺราหฺมณสฺส อทา ทานํ, สิวีนํ รฎฺฐวฑฺฒโนฯ
Brāhmaṇassa adā dānaṃ, sivīnaṃ raṭṭhavaḍḍhano.
๒๑๑๘.
2118.
‘‘ตโต กุมาเร อาทาย, ชาลิํ กณฺหาชินํ จุโภ;
‘‘Tato kumāre ādāya, jāliṃ kaṇhājinaṃ cubho;
พฺราหฺมณสฺส อทา วิโตฺต, ปุตฺตเก ทานมุตฺตมํฯ
Brāhmaṇassa adā vitto, puttake dānamuttamaṃ.
๒๑๑๙.
2119.
‘‘ตทาสิ ยํ ภิํสนกํ, ตทาสิ โลมหํสนํ;
‘‘Tadāsi yaṃ bhiṃsanakaṃ, tadāsi lomahaṃsanaṃ;
ยํ กุมาเร ปทินฺนมฺหิ, เมทนี สมฺปกมฺปถฯ
Yaṃ kumāre padinnamhi, medanī sampakampatha.
๒๑๒๐.
2120.
‘‘ตทาสิ ยํ ภิํสนกํ, ตทาสิ โลมหํสนํ;
‘‘Tadāsi yaṃ bhiṃsanakaṃ, tadāsi lomahaṃsanaṃ;
ยํ ปญฺชลิกโต ราชา, กุมาเร สุขวจฺฉิเต;
Yaṃ pañjalikato rājā, kumāre sukhavacchite;
พฺราหฺมณสฺส อทา ทานํ, สิวีนํ รฎฺฐวฑฺฒโน’’ติฯ
Brāhmaṇassa adā dānaṃ, sivīnaṃ raṭṭhavaḍḍhano’’ti.
ตตฺถ วิโตฺตติ ปีติโสมนสฺสชาโต หุตฺวาฯ ตทาสิ ยํ ภิํสนกนฺติ ตทา ทานเตเชน อุนฺนทนฺตี มหาปถวี จตุนหุตาธิกทฺวิโยชนสตสหสฺสพหลา มตฺตวารโณ วิย คชฺชมานา กมฺปิ, สาคโร สงฺขุภิฯ สิเนรุปพฺพตราชา สุเสทิตเวตฺตงฺกุโร วิย โอนมิตฺวา วงฺกปพฺพตาภิมุโข อฎฺฐาสิฯ สโกฺก เทวราชา อโปฺผเฎสิ, มหาพฺรหฺมา สาธุการมทาสิฯ ยาว พฺรหฺมโลกา เอกโกลาหลํ อโหสิฯ ปถวิสเทฺทน เทโว คชฺชโนฺต ขณิกวสฺสํ วสฺสิ, อกาลวิชฺชุลตา นิจฺฉริํสุฯ หิมวนฺตวาสิโน สีหาทโย สกลหิมวนฺตํ เอกนินฺนาทํ กริํสูติ เอวรูปํ ภิํสนกํ อโหสิฯ ปาฬิยํ ปน ‘‘เมทนี สมฺปกมฺปถา’’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ ฯ ยนฺติ ยทาฯ สุขวจฺฉิเตติ สุขวสิเต สุขสํวฑฺฒิเตฯ อทา ทานนฺติ อโมฺภ พฺราหฺมณ, ปุเตฺตหิ เม สตคุเณน สหสฺสคุเณน สตสหสฺสคุเณน สพฺพญฺญุตญฺญาณเมว ปิยตรนฺติ ตสฺสตฺถาย อทาสิฯ
Tattha vittoti pītisomanassajāto hutvā. Tadāsi yaṃ bhiṃsanakanti tadā dānatejena unnadantī mahāpathavī catunahutādhikadviyojanasatasahassabahalā mattavāraṇo viya gajjamānā kampi, sāgaro saṅkhubhi. Sinerupabbatarājā suseditavettaṅkuro viya onamitvā vaṅkapabbatābhimukho aṭṭhāsi. Sakko devarājā apphoṭesi, mahābrahmā sādhukāramadāsi. Yāva brahmalokā ekakolāhalaṃ ahosi. Pathavisaddena devo gajjanto khaṇikavassaṃ vassi, akālavijjulatā nicchariṃsu. Himavantavāsino sīhādayo sakalahimavantaṃ ekaninnādaṃ kariṃsūti evarūpaṃ bhiṃsanakaṃ ahosi. Pāḷiyaṃ pana ‘‘medanī sampakampathā’’ti ettakameva vuttaṃ . Yanti yadā. Sukhavacchiteti sukhavasite sukhasaṃvaḍḍhite. Adā dānanti ambho brāhmaṇa, puttehi me sataguṇena sahassaguṇena satasahassaguṇena sabbaññutaññāṇameva piyataranti tassatthāya adāsi.
มหาสโตฺต ทานํ ทตฺวา ‘‘สุทินฺนํ วต เม ทาน’’นฺติ ปีติํ อุปฺปาเทตฺวา กุมาเร โอโลเกโนฺตว อฎฺฐาสิฯ ชูชโกปิ วนคุมฺพํ ปวิสิตฺวา วลฺลิํ ทเนฺตหิ ฉินฺทิตฺวา อาทาย กุมารสฺส ทกฺขิณหตฺถํ กุมาริกาย วามหเตฺถน สทฺธิํ เอกโต พนฺธิตฺวา ตเมว วลฺลิโกฎิํ คเหตฺวา โปถยมาโน ปายาสิฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Mahāsatto dānaṃ datvā ‘‘sudinnaṃ vata me dāna’’nti pītiṃ uppādetvā kumāre olokentova aṭṭhāsi. Jūjakopi vanagumbaṃ pavisitvā valliṃ dantehi chinditvā ādāya kumārassa dakkhiṇahatthaṃ kumārikāya vāmahatthena saddhiṃ ekato bandhitvā tameva vallikoṭiṃ gahetvā pothayamāno pāyāsi. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๒๑๒๑.
2121.
‘‘ตโต โส พฺราหฺมโณ ลุโทฺท, ลตํ ทเนฺตหิ ฉินฺทิย;
‘‘Tato so brāhmaṇo luddo, lataṃ dantehi chindiya;
ลตาย หเตฺถ พนฺธิตฺวา, ลตาย อนุมชฺชถฯ
Latāya hatthe bandhitvā, latāya anumajjatha.
๒๑๒๒.
2122.
‘‘ตโต โส รชฺชุมาทาย, ทณฺฑญฺจาทาย พฺราหฺมโณ;
‘‘Tato so rajjumādāya, daṇḍañcādāya brāhmaṇo;
อาโกฎยโนฺต เต เนติ, สิวิราชสฺส เปกฺขโต’’ติฯ
Ākoṭayanto te neti, sivirājassa pekkhato’’ti.
ตตฺถ สิวิราชสฺสาติ เวสฺสนฺตรสฺสฯ
Tattha sivirājassāti vessantarassa.
เตสํ ปหฎปหฎฎฺฐาเน ฉวิ ฉิชฺชติ, โลหิตํ ปคฺฆรติฯ ปหรณกาเล อญฺญมญฺญสฺส ปิฎฺฐิํ ททนฺติฯ อเถกสฺมิํ วิสมฎฺฐาเน พฺราหฺมโณ ปกฺขลิตฺวา ปติฯ กุมารานํ มุทุหเตฺถหิ พทฺธวลฺลิ คฬิตฺวา คตาฯ เต โรทมานา ปลายิตฺวา มหาสตฺตสฺส สนฺติกํ อาคมํสุฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Tesaṃ pahaṭapahaṭaṭṭhāne chavi chijjati, lohitaṃ paggharati. Paharaṇakāle aññamaññassa piṭṭhiṃ dadanti. Athekasmiṃ visamaṭṭhāne brāhmaṇo pakkhalitvā pati. Kumārānaṃ muduhatthehi baddhavalli gaḷitvā gatā. Te rodamānā palāyitvā mahāsattassa santikaṃ āgamaṃsu. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๒๑๒๓.
2123.
‘‘ตโต กุมารา ปกฺกามุํ, พฺราหฺมณสฺส ปมุญฺจิย;
‘‘Tato kumārā pakkāmuṃ, brāhmaṇassa pamuñciya;
อสฺสุปุเณฺณหิ เนเตฺตหิ, ปิตรํ โส อุทิกฺขติฯ
Assupuṇṇehi nettehi, pitaraṃ so udikkhati.
๒๑๒๔.
2124.
‘‘เวธมสฺสตฺถปตฺตํว, ปิตุ ปาทานิ วนฺทติ;
‘‘Vedhamassatthapattaṃva, pitu pādāni vandati;
ปิตุ ปาทานิ วนฺทิตฺวา, อิทํ วจนมพฺรวิฯ
Pitu pādāni vanditvā, idaṃ vacanamabravi.
๒๑๒๕.
2125.
‘‘อมฺมา จ ตาต นิกฺขนฺตา, ตฺวญฺจ โน ตาต ทสฺสสิ;
‘‘Ammā ca tāta nikkhantā, tvañca no tāta dassasi;
ยาว อมฺมมฺปิ ปเสฺสมุ, อถ โน ตาต ทสฺสสิฯ
Yāva ammampi passemu, atha no tāta dassasi.
๒๑๒๖.
2126.
‘‘อมฺมา จ ตาต นิกฺขนฺตา, ตฺวญฺจ โน ตาต ทสฺสสิ;
‘‘Ammā ca tāta nikkhantā, tvañca no tāta dassasi;
มา โน ตฺวํ ตาต อททา, ยาว อมฺมาปิ เอตุ โน;
Mā no tvaṃ tāta adadā, yāva ammāpi etu no;
ตทายํ พฺราหฺมโณ กามํ, วิกฺกิณาตุ หนาตุ วาฯ
Tadāyaṃ brāhmaṇo kāmaṃ, vikkiṇātu hanātu vā.
๒๑๒๗.
2127.
‘‘พลงฺกปาโท อนฺธนโข, อโถ โอวทฺธปิณฺฑิโก;
‘‘Balaṅkapādo andhanakho, atho ovaddhapiṇḍiko;
ทีฆุตฺตโรโฎฺฐ จปโล, กฬาโร ภคฺคนาสโกฯ
Dīghuttaroṭṭho capalo, kaḷāro bhagganāsako.
๒๑๒๘.
2128.
‘‘กุโมฺภทโร ภคฺคปิฎฺฐิ, อโถ วิสมจกฺขุโก;
‘‘Kumbhodaro bhaggapiṭṭhi, atho visamacakkhuko;
โลหมสฺสุ หริตเกโส, วลีนํ ติลกาหโตฯ
Lohamassu haritakeso, valīnaṃ tilakāhato.
๒๑๒๙.
2129.
‘‘ปิงฺคโล จ วินโต จ, วิกโฎ จ พฺรหา ขโร;
‘‘Piṅgalo ca vinato ca, vikaṭo ca brahā kharo;
อชินานิ จ สนฺนโทฺธ, อมนุโสฺส ภยานโกฯ
Ajināni ca sannaddho, amanusso bhayānako.
๒๑๓๐.
2130.
‘‘มนุโสฺส อุทาหุ ยโกฺข, มํสโลหิตโภชโน;
‘‘Manusso udāhu yakkho, maṃsalohitabhojano;
คามา อรญฺญมาคมฺม, ธนํ ตํ ตาต ยาจติฯ
Gāmā araññamāgamma, dhanaṃ taṃ tāta yācati.
๒๑๓๑.
2131.
‘‘นียมาเน ปิสาเจน, กิํ นุ ตาต อุทิกฺขสิ;
‘‘Nīyamāne pisācena, kiṃ nu tāta udikkhasi;
อสฺมา นูน เต หทยํ, อายสํ ทฬฺหพนฺธนํฯ
Asmā nūna te hadayaṃ, āyasaṃ daḷhabandhanaṃ.
๒๑๓๒.
2132.
‘‘โย โน พเทฺธ น ชานาสิ, พฺราหฺมเณน ธเนสินา;
‘‘Yo no baddhe na jānāsi, brāhmaṇena dhanesinā;
อจฺจายิเกน ลุเทฺทน, โย โน คาโวว สุมฺภติฯ
Accāyikena luddena, yo no gāvova sumbhati.
๒๑๓๓.
2133.
‘‘อิเธว อจฺฉตํ กณฺหา, น สา ชานาติ กิสฺมิญฺจิ;
‘‘Idheva acchataṃ kaṇhā, na sā jānāti kismiñci;
มิคีว ขิรสมฺมตฺตา, ยูถา หีนา ปกนฺทตี’’ติฯ
Migīva khirasammattā, yūthā hīnā pakandatī’’ti.
ตตฺถ อุทิกฺขตีติ โส ปิตุ สนฺติกํ คนฺตฺวา กมฺปมาโน โอโลเกติฯ เวธนฺติ เวธมาโนฯ ตฺวญฺจ โน ตาต, ทสฺสสีติ ตฺวญฺจ อเมฺห ตาย อนาคตาย เอว พฺราหฺมณสฺส ททาสิ, เอวํ มา กริ, อธิวาเสหิ ตฺวํ ตาวฯ ยาว อมฺมํ ปเสฺสมุ, อถ โน ตาย ทิฎฺฐกาเล ตฺวํ ปุน ทสฺสสิฯ วิกฺกิณาตุ หนาตุ วาติ ตาต, อมฺมาย อาคตกาเล เอส อเมฺห วิกฺกิณาตุ วา หนตุ วาฯ ยํ อิจฺฉติ, ตํ กโรตุฯ อปิจ โข ปเนส กกฺขโฬ ผรุโส, อฎฺฐารสหิ ปุริสโทเสหิ สมนฺนาคโตติ อฎฺฐารส ปุริสโทเส กเถสิฯ
Tattha udikkhatīti so pitu santikaṃ gantvā kampamāno oloketi. Vedhanti vedhamāno. Tvañca no tāta, dassasīti tvañca amhe tāya anāgatāya eva brāhmaṇassa dadāsi, evaṃ mā kari, adhivāsehi tvaṃ tāva. Yāva ammaṃ passemu, atha no tāya diṭṭhakāle tvaṃ puna dassasi. Vikkiṇātu hanātu vāti tāta, ammāya āgatakāle esa amhe vikkiṇātu vā hanatu vā. Yaṃ icchati, taṃ karotu. Apica kho panesa kakkhaḷo pharuso, aṭṭhārasahi purisadosehi samannāgatoti aṭṭhārasa purisadose kathesi.
ตตฺถ พลงฺกปาโทติ ปตฺถฎปาโทฯ อนฺธนโขติ ปูตินโขฯ โอวทฺธปิณฺฑิโกติ เหฎฺฐาคลิตปิณฺฑิกมํโสฯ ทีฆุตฺตโรโฎฺฐติ มุขํ ปิทหิตฺวา ฐิเตน ทีเฆน อุตฺตโรเฎฺฐน สมนฺนาคโตฯ จปโลติ ปคฺฆริตลาโลฯ กฬาโรติ สูกรทาฐาหิ วิย นิกฺขนฺตทเนฺตหิ สมนฺนาคโต ฯ ภคฺคนาสโกติ ภคฺคาย วิสมาย นาสาย สมนฺนาคโตฯ โลหมสฺสูติ ตมฺพโลหวณฺณมสฺสุฯ หริตเกโสติ สุวณฺณวณฺณวิรูฬฺหเกโสฯ วลีนนฺติ สรีรจมฺมมสฺส วลิคฺคหิตํฯ ติลกาหโตติ กาฬติลเกหิ ปริกิโณฺณฯ ปิงฺคโลติ นิพฺพิทฺธปิงฺคโล พิฬารกฺขิสทิเสหิ อกฺขีหิ สมนฺนาคโตฯ วินโตติ กฎิยํ ปิฎฺฐิยํ ขเนฺธติ ตีสุ ฐาเนสุ วโงฺกฯ วิกโฎติ วิกฎปาโทฯ ‘‘อพทฺธสนฺธี’’ติปิ วุตฺตํ, ‘‘กฎกฎา’’ติ วิรวเนฺตหิ อฎฺฐิสนฺธีหิ สมนฺนาคโตฯ พฺรหาติ ทีโฆฯ อมนุโสฺสติ น มนุโสฺส, มนุสฺสเวเสน วิจรโนฺตปิ ยโกฺข เอสฯ ภยานโกติ อติวิย ภิํสนโกฯ
Tattha balaṅkapādoti patthaṭapādo. Andhanakhoti pūtinakho. Ovaddhapiṇḍikoti heṭṭhāgalitapiṇḍikamaṃso. Dīghuttaroṭṭhoti mukhaṃ pidahitvā ṭhitena dīghena uttaroṭṭhena samannāgato. Capaloti paggharitalālo. Kaḷāroti sūkaradāṭhāhi viya nikkhantadantehi samannāgato . Bhagganāsakoti bhaggāya visamāya nāsāya samannāgato. Lohamassūti tambalohavaṇṇamassu. Haritakesoti suvaṇṇavaṇṇavirūḷhakeso. Valīnanti sarīracammamassa valiggahitaṃ. Tilakāhatoti kāḷatilakehi parikiṇṇo. Piṅgaloti nibbiddhapiṅgalo biḷārakkhisadisehi akkhīhi samannāgato. Vinatoti kaṭiyaṃ piṭṭhiyaṃ khandheti tīsu ṭhānesu vaṅko. Vikaṭoti vikaṭapādo. ‘‘Abaddhasandhī’’tipi vuttaṃ, ‘‘kaṭakaṭā’’ti viravantehi aṭṭhisandhīhi samannāgato. Brahāti dīgho. Amanussoti na manusso, manussavesena vicarantopi yakkho esa. Bhayānakoti ativiya bhiṃsanako.
มนุโสฺส อุทาหุ ยโกฺขติ ตาต, สเจ โกจิ อิมํ พฺราหฺมณํ ทิสฺวา เอวํ ปุเจฺฉยฺย ‘‘มนุโสฺสยํ พฺราหฺมโณ, อุทาหุ ยโกฺข’’ติฯ ‘‘น มนุโสฺส, อถ โข มํสโลหิตโภชโน ยโกฺข’’ติ วตฺตุํ ยุตฺตํฯ ธนํ ตํ ตาต ยาจตีติ ตาต, เอส อมฺหากํ มํสํ ขาทิตุกาโม ตุเมฺห ปุตฺตธนํ ยาจติฯ อุทิกฺขสีติ อชฺฌุเปกฺขสิฯ อสฺมา นูน เต หทยนฺติ ตาต, มาตาปิตูนํ หทยํ นาม ปุเตฺตสุ มุทุกํ โหติ, ปุตฺตานํ ทุกฺขํ น สหติ, ตฺวํ อชานโนฺต วิย อจฺฉสิ, ตว ปน หทยํ ปาสาโณ วิย มเญฺญ, อถ วา อายสํ ทฬฺหพนฺธนํฯ เตน อมฺหากํ เอวรูเป ทุเกฺข อุปฺปเนฺน น รุชติฯ
Manusso udāhu yakkhoti tāta, sace koci imaṃ brāhmaṇaṃ disvā evaṃ puccheyya ‘‘manussoyaṃ brāhmaṇo, udāhu yakkho’’ti. ‘‘Na manusso, atha kho maṃsalohitabhojano yakkho’’ti vattuṃ yuttaṃ. Dhanaṃ taṃ tāta yācatīti tāta, esa amhākaṃ maṃsaṃ khāditukāmo tumhe puttadhanaṃ yācati. Udikkhasīti ajjhupekkhasi. Asmā nūna te hadayanti tāta, mātāpitūnaṃ hadayaṃ nāma puttesu mudukaṃ hoti, puttānaṃ dukkhaṃ na sahati, tvaṃ ajānanto viya acchasi, tava pana hadayaṃ pāsāṇo viya maññe, atha vā āyasaṃ daḷhabandhanaṃ. Tena amhākaṃ evarūpe dukkhe uppanne na rujati.
น ชานาสีติ อชานโนฺต วิย อจฺฉสิฯ อจฺจายิเกน ลุเทฺทนาติ อติวิย ลุเทฺทน ปมาณาติกฺกเนฺตนฯ โย โนติ พฺราหฺมเณน โน อเมฺห กนิฎฺฐภาติเก พเทฺธ พนฺธิเต โย ตฺวํ น ชานาสิฯ สุมฺภตีติ โปเถติฯ อิเธว อจฺฉตนฺติ ตาต, อยํ กณฺหาชินา กิญฺจิ ทุกฺขํ น ชานาติฯ ยถา นาม ขีรสมฺมตฺตา มิคโปติกา ยูถา ปริหีนา มาตรํ อปสฺสนฺตี ขีรตฺถาย กนฺทติ, เอวํ อมฺมํ อปสฺสนฺตี กนฺทิตฺวา สุสฺสิตฺวา มริสฺสติ, ตสฺมา มํเยว พฺราหฺมณสฺส เทหิ, อหํ คมิสฺสามิ, อยํ กณฺหาชินา อิเธว โหตูติฯ
Na jānāsīti ajānanto viya acchasi. Accāyikena luddenāti ativiya luddena pamāṇātikkantena. Yo noti brāhmaṇena no amhe kaniṭṭhabhātike baddhe bandhite yo tvaṃ na jānāsi. Sumbhatīti potheti. Idheva acchatanti tāta, ayaṃ kaṇhājinā kiñci dukkhaṃ na jānāti. Yathā nāma khīrasammattā migapotikā yūthā parihīnā mātaraṃ apassantī khīratthāya kandati, evaṃ ammaṃ apassantī kanditvā sussitvā marissati, tasmā maṃyeva brāhmaṇassa dehi, ahaṃ gamissāmi, ayaṃ kaṇhājinā idheva hotūti.
เอวํ วุเตฺตปิ มหาสโตฺต น กิญฺจิ กเถติฯ ตโต กุมาโร มาตาปิตโร อารพฺภ ปริเทวโนฺต อาห –
Evaṃ vuttepi mahāsatto na kiñci katheti. Tato kumāro mātāpitaro ārabbha paridevanto āha –
๒๑๓๔.
2134.
‘‘น เม อิทํ ตถา ทุกฺขํ, ลพฺภา หิ ปุมุนา อิทํ;
‘‘Na me idaṃ tathā dukkhaṃ, labbhā hi pumunā idaṃ;
ยญฺจ อมฺมํ น ปสฺสามิ, ตํ เม ทุกฺขตรํ อิโตฯ
Yañca ammaṃ na passāmi, taṃ me dukkhataraṃ ito.
๒๑๓๕.
2135.
‘‘น เม อิทํ ตถา ทุกฺขํ, ลพฺภา หิ ปุมุนา อิทํ;
‘‘Na me idaṃ tathā dukkhaṃ, labbhā hi pumunā idaṃ;
ยญฺจ ตาตํ น ปสฺสามิ, ตํ เม ทุกฺขตรํ อิโตฯ
Yañca tātaṃ na passāmi, taṃ me dukkhataraṃ ito.
๒๑๓๖.
2136.
‘‘สา นูน กปณา อมฺมา, จิรรตฺตาย รุจฺฉติ;
‘‘Sā nūna kapaṇā ammā, cirarattāya rucchati;
กณฺหาชินํ อปสฺสนฺตี, กุมาริํ จารุทสฺสนิํฯ
Kaṇhājinaṃ apassantī, kumāriṃ cārudassaniṃ.
๒๑๓๗.
2137.
‘‘โส นูน กปโณ ตาโต, จิรรตฺตาย รุจฺฉติ;
‘‘So nūna kapaṇo tāto, cirarattāya rucchati;
กณฺหาชินํ อปสฺสโนฺต, กุมาริํ จารุทสฺสนิํฯ
Kaṇhājinaṃ apassanto, kumāriṃ cārudassaniṃ.
๒๑๓๘.
2138.
‘‘สา นูน กปณา อมฺมา, จิรํ รุจฺฉติ อสฺสเม;
‘‘Sā nūna kapaṇā ammā, ciraṃ rucchati assame;
กณฺหาชินํ อปสฺสนฺตี, กุมาริํ จารุทสฺสนิํฯ
Kaṇhājinaṃ apassantī, kumāriṃ cārudassaniṃ.
๒๑๓๙.
2139.
‘‘โส นูน กปโณ ตาโต, จิรํ รุจฺฉติ อสฺสเม;
‘‘So nūna kapaṇo tāto, ciraṃ rucchati assame;
กณฺหาชินํ อปสฺสโนฺต, กุมาริํ จารุทสฺสนิํฯ
Kaṇhājinaṃ apassanto, kumāriṃ cārudassaniṃ.
๒๑๔๐.
2140.
‘‘สา นูน กปณา อมฺมา, จิรรตฺตาย รุจฺฉติ;
‘‘Sā nūna kapaṇā ammā, cirarattāya rucchati;
อฑฺฒรเตฺต ว รเตฺต วา, นทีว อวสุจฺฉติฯ
Aḍḍharatte va ratte vā, nadīva avasucchati.
๒๑๔๑.
2141.
‘‘โส นูน กปโณ ตาโต, จิรรตฺตาย รุจฺฉติ;
‘‘So nūna kapaṇo tāto, cirarattāya rucchati;
อฑฺฒรเตฺต ว รเตฺต วา, นทีว อวสุจฺฉติฯ
Aḍḍharatte va ratte vā, nadīva avasucchati.
๒๑๔๒.
2142.
‘‘อิเม เต ชมฺพุกา รุกฺขา, เวทิสา สินฺทุวารกา;
‘‘Ime te jambukā rukkhā, vedisā sinduvārakā;
วิวิธานิ รุกฺขชาตานิ, ตานิ อชฺช ชหามเสฯ
Vividhāni rukkhajātāni, tāni ajja jahāmase.
๒๑๔๓.
2143.
‘‘อสฺสตฺถา ปนสา เจเม, นิโคฺรธา จ กปิตฺถนา;
‘‘Assatthā panasā ceme, nigrodhā ca kapitthanā;
วิวิธานิ ผลชาตานิ, ตานิ อชฺช ชหามเสฯ
Vividhāni phalajātāni, tāni ajja jahāmase.
๒๑๔๔.
2144.
‘‘อิเม ติฎฺฐนฺติ อารามา, อยํ สีตูทกา นที;
‘‘Ime tiṭṭhanti ārāmā, ayaṃ sītūdakā nadī;
ยตฺถสฺสุ ปุเพฺพ กีฬาม, ตานิ อชฺช ชหามเสฯ
Yatthassu pubbe kīḷāma, tāni ajja jahāmase.
๒๑๔๕.
2145.
‘‘วิวิธานิ ปุปฺผชาตานิ, อสฺมิํ อุปริปพฺพเต;
‘‘Vividhāni pupphajātāni, asmiṃ uparipabbate;
ยานสฺสุ ปุเพฺพ ธาเรม, ตานิ อชฺช ชหามเสฯ
Yānassu pubbe dhārema, tāni ajja jahāmase.
๒๑๔๖.
2146.
‘‘วิวิธานิ ผลชาตานิ, อสฺมิํ อุปริปพฺพเต;
‘‘Vividhāni phalajātāni, asmiṃ uparipabbate;
ยานสฺสุ ปุเพฺพ ภุญฺชาม, ตานิ อชฺช ชหามเสฯ
Yānassu pubbe bhuñjāma, tāni ajja jahāmase.
๒๑๔๗.
2147.
‘‘อิเม โน หตฺถิกา อสฺสา, พลิพทฺทา จ โน อิเม;
‘‘Ime no hatthikā assā, balibaddā ca no ime;
เยหิสฺสุ ปุเพฺพ กีฬาม, ตานิ อชฺช ชหามเส’’ติฯ
Yehissu pubbe kīḷāma, tāni ajja jahāmase’’ti.
ตตฺถ ปุมุนาติ ภเว วิจรเนฺตน ปุริเสนฯ ลพฺภาติ ลภิตพฺพํฯ ตํ เม ทุกฺขตรํ อิโตติ ยํ เม อมฺมํ ปสฺสิตุํ อลภนฺตสฺส ทุกฺขํ, ตํ อิโต โปถนทุกฺขโต สตคุเณน สหสฺสคุเณน สตสหสฺสคุเณน ทุกฺขตรํฯ รุจฺฉตีติ โรทิสฺสติฯ อฑฺฒรเตฺต ว รเตฺต วาติ อฑฺฒรเตฺต วา สกลรเตฺต วา อเมฺห สริตฺวา จิรํ โรทิสฺสติฯ อวสุจฺฉตีติ อโปฺปทกา กุนฺนที อวสุสฺสติฯ ยถา สา ขิปฺปเมว สุสฺสติ, เอวํ อรุเณ อุคฺคจฺฉเนฺตเยว สุสฺสิตฺวา มริสฺสตีติ อธิปฺปาเยเนวมาหฯ เวทิสาติ โอลมฺพนสาขาฯ ตานีติ เยสํ โน มูลปุปฺผผลานิ คณฺหเนฺตหิ จิรํ กีฬิตํ, ตานิ อชฺช อุโภปิ มยํ ชหามฯ หตฺถิกาติ ตาเตน อมฺหากํ กีฬนตฺถาย กตา หตฺถิกาฯ
Tattha pumunāti bhave vicarantena purisena. Labbhāti labhitabbaṃ. Taṃ me dukkhataraṃ itoti yaṃ me ammaṃ passituṃ alabhantassa dukkhaṃ, taṃ ito pothanadukkhato sataguṇena sahassaguṇena satasahassaguṇena dukkhataraṃ. Rucchatīti rodissati. Aḍḍharatte va ratte vāti aḍḍharatte vā sakalaratte vā amhe saritvā ciraṃ rodissati. Avasucchatīti appodakā kunnadī avasussati. Yathā sā khippameva sussati, evaṃ aruṇe uggacchanteyeva sussitvā marissatīti adhippāyenevamāha. Vedisāti olambanasākhā. Tānīti yesaṃ no mūlapupphaphalāni gaṇhantehi ciraṃ kīḷitaṃ, tāni ajja ubhopi mayaṃ jahāma. Hatthikāti tātena amhākaṃ kīḷanatthāya katā hatthikā.
ตํ เอวํ ปริเทวมานเมว สทฺธิํ ภคินิยา ชูชโก อาคนฺตฺวา โปเถโนฺต คเหตฺวา ปกฺกามิฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Taṃ evaṃ paridevamānameva saddhiṃ bhaginiyā jūjako āgantvā pothento gahetvā pakkāmi. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๒๑๔๘.
2148.
‘‘นียมานา กุมารา เต, ปิตรํ เอตทพฺรวุํ;
‘‘Nīyamānā kumārā te, pitaraṃ etadabravuṃ;
อมฺมํ อาโรคฺยํ วชฺชาสิ, ตฺวญฺจ ตาต สุขี ภวฯ
Ammaṃ ārogyaṃ vajjāsi, tvañca tāta sukhī bhava.
๒๑๔๙.
2149.
‘‘อิเม โน หตฺถิกา อสฺสา, พลิพทฺทา จ โน อิเม;
‘‘Ime no hatthikā assā, balibaddā ca no ime;
ตานิ อมฺมาย ทเชฺชสิ, โสกํ เตหิ วิเนสฺสติฯ
Tāni ammāya dajjesi, sokaṃ tehi vinessati.
๒๑๕๐.
2150.
‘‘อิเม โน หตฺถิกา อสฺสา, พลิพทฺทา จ โน อิเม;
‘‘Ime no hatthikā assā, balibaddā ca no ime;
ตานิ อมฺมา อุทิกฺขนฺตี, โสกํ ปฎิวิเนสฺสตี’’ติฯ
Tāni ammā udikkhantī, sokaṃ paṭivinessatī’’ti.
ตทา โพธิสตฺตสฺส ปุเตฺต อารพฺภ พลวโสโก อุปฺปชฺชิ, หทยมํสํ อุณฺหํ อโหสิฯ โส เกสรสีเหน คหิตมตฺตวารโณ วิย ราหุมุขํ ปวิฎฺฐจโนฺท วิย จ กมฺปมาโน สกภาเวน สณฺฐาตุํ อสโกฺกโนฺต อสฺสุปุเณฺณหิ เนเตฺตหิ ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา กลุนํ ปริเทวิฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Tadā bodhisattassa putte ārabbha balavasoko uppajji, hadayamaṃsaṃ uṇhaṃ ahosi. So kesarasīhena gahitamattavāraṇo viya rāhumukhaṃ paviṭṭhacando viya ca kampamāno sakabhāvena saṇṭhātuṃ asakkonto assupuṇṇehi nettehi paṇṇasālaṃ pavisitvā kalunaṃ paridevi. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๒๑๕๑.
2151.
‘‘ตโต เวสฺสนฺตโร ราชา, ทานํ ทตฺวาน ขตฺติโย;
‘‘Tato vessantaro rājā, dānaṃ datvāna khattiyo;
ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา, กลุนํ ปริเทวยี’’ติฯ
Paṇṇasālaṃ pavisitvā, kalunaṃ paridevayī’’ti.
ตโต ปรา มหาสตฺตสฺส วิลาปคาถา โหนฺติ –
Tato parā mahāsattassa vilāpagāthā honti –
๒๑๕๒.
2152.
‘‘กํ นฺวชฺช ฉาตา ตสิตา, อุปรุจฺฉนฺติ ทารกา;
‘‘Kaṃ nvajja chātā tasitā, uparucchanti dārakā;
สายํ สํเวสนากาเล, โก เน ทสฺสติ โภชนํฯ
Sāyaṃ saṃvesanākāle, ko ne dassati bhojanaṃ.
๒๑๕๓.
2153.
‘‘กํ นฺวชฺช ฉาตา ตสิตา, อุปรุจฺฉนฺติ ทารกา;
‘‘Kaṃ nvajja chātā tasitā, uparucchanti dārakā;
สายํ สํเวสนากาเล, ‘อมฺมา ฉาตมฺห เทถ โน’ฯ
Sāyaṃ saṃvesanākāle, ‘ammā chātamha detha no’.
๒๑๕๔.
2154.
‘‘กถํ นุ ปถํ คจฺฉนฺติ, ปตฺติกา อนุปาหนา;
‘‘Kathaṃ nu pathaṃ gacchanti, pattikā anupāhanā;
สนฺตา สูเนหิ ปาเทหิ, โก เน หเตฺถ คเหสฺสติฯ
Santā sūnehi pādehi, ko ne hatthe gahessati.
๒๑๕๕.
2155.
‘‘กถํ นุ โส น ลเชฺชยฺย, สมฺมุขา ปหรํ มม;
‘‘Kathaṃ nu so na lajjeyya, sammukhā paharaṃ mama;
อทูสกานํ ปุตฺตานํ, อลชฺชี วต พฺราหฺมโณฯ
Adūsakānaṃ puttānaṃ, alajjī vata brāhmaṇo.
๒๑๕๖.
2156.
‘‘โยปิ เม ทาสิทาสสฺส, อโญฺญ วา ปน เปสิโย;
‘‘Yopi me dāsidāsassa, añño vā pana pesiyo;
ตสฺสาปิ สุวิหีนสฺส, โก ลชฺชี ปหริสฺสติฯ
Tassāpi suvihīnassa, ko lajjī paharissati.
๒๑๕๗.
2157.
‘‘วาริชเสฺสว เม สโต, พทฺธสฺส กุมินามุเข;
‘‘Vārijasseva me sato, baddhassa kumināmukhe;
อโกฺกสติ ปหรติ, ปิเย ปุเตฺต อปสฺสโต’’ติฯ
Akkosati paharati, piye putte apassato’’ti.
ตตฺถ กํ นฺวชฺชาติ กํ นุ อชฺชฯ อุปรุจฺฉนฺตีติ สฎฺฐิโยชนมคฺคํ คนฺตฺวา อุปโรทิสฺสนฺติฯ สํเวสนากาเลติ มหาชนสฺส ปริเวสนากาเลฯ โกเน ทสฺสตีติ โก เนสํ โภชนํ ทสฺสติฯ กถํ นุ ปถํ คจฺฉนฺตีติ กถํ นุ สฎฺฐิโยชนมคฺคํ คมิสฺสนฺติฯ ปตฺติกาติ หตฺถิยานาทีหิ วิรหิตาฯ อนุปาหนาติ อุปาหนมเตฺตนปิ วิยุตฺตา สุขุมาลปาทาฯ คเหสฺสตีติ กิลมถวิโนทนตฺถาย โก คณฺหิสฺสติฯ ทาสิทาสสฺสาติ ทาสิยา ทาโส อสฺสฯ อโญฺญ วา ปน เปสิโยติ ตสฺสปิ ทาโส, ตสฺสปิ ทาโสติ เอวํ ทาสปติทาสปรมฺปราย ‘‘โย มยฺหํ จตุโตฺถ เปสิโย เปสนการโก อสฺส, ตสฺส เอวํ สุวิหีนสฺสปิ อยํ เวสฺสนฺตรสฺส ทาสปติทาโส’’ติ ญตฺวาฯ โก ลชฺชีติ โก ลชฺชาสมฺปโนฺน ปหเรยฺย, ยุตฺตํ นุ โข ตสฺส นิลฺลชฺชสฺส มม ปุเตฺต ปหริตุนฺติฯ วาริชเสฺสวาติ กุมินามุเข พทฺธสฺส มจฺฉเสฺสว สโต มมฯ อปสฺสโตติ อ-กาโร นิปาตมโตฺต, ปสฺสนฺตเสฺสว ปิยปุเตฺต อโกฺกสติ เจว ปหรติ จ, อโห วต ทารุโณติฯ
Tattha kaṃ nvajjāti kaṃ nu ajja. Uparucchantīti saṭṭhiyojanamaggaṃ gantvā uparodissanti. Saṃvesanākāleti mahājanassa parivesanākāle. Kone dassatīti ko nesaṃ bhojanaṃ dassati. Kathaṃ nu pathaṃ gacchantīti kathaṃ nu saṭṭhiyojanamaggaṃ gamissanti. Pattikāti hatthiyānādīhi virahitā. Anupāhanāti upāhanamattenapi viyuttā sukhumālapādā. Gahessatīti kilamathavinodanatthāya ko gaṇhissati. Dāsidāsassāti dāsiyā dāso assa. Añño vā pana pesiyoti tassapi dāso, tassapi dāsoti evaṃ dāsapatidāsaparamparāya ‘‘yo mayhaṃ catuttho pesiyo pesanakārako assa, tassa evaṃ suvihīnassapi ayaṃ vessantarassa dāsapatidāso’’ti ñatvā. Ko lajjīti ko lajjāsampanno pahareyya, yuttaṃ nu kho tassa nillajjassa mama putte paharitunti. Vārijassevāti kumināmukhe baddhassa macchasseva sato mama. Apassatoti a-kāro nipātamatto, passantasseva piyaputte akkosati ceva paharati ca, aho vata dāruṇoti.
อถสฺส กุมาเรสุ สิเนเหน เอวํ ปริวิตโกฺก อุทปาทิ ‘‘อยํ พฺราหฺมโณ มม ปุเตฺต อติวิย วิเหเฐติ, โสกํ สนฺธาเรตุํ น สโกฺกมิ, พฺราหฺมณํ อนุพนฺธิตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปตฺวา อาเนสฺสามิ เต กุมาเร’’ติ ฯ ตโต ‘‘อฎฺฐานเมตํ กุมารานํ ปีฬนํ อติทุกฺขนฺติ ทานํ ทตฺวา ปจฺฉานุตปฺปํ นาม สตํ ธโมฺม น โหตี’’ติ จิเนฺตสิฯ ตทตฺถโชตนา อิมา เทฺว ปริวิตกฺกคาถา นาม โหนฺติ –
Athassa kumāresu sinehena evaṃ parivitakko udapādi ‘‘ayaṃ brāhmaṇo mama putte ativiya viheṭheti, sokaṃ sandhāretuṃ na sakkomi, brāhmaṇaṃ anubandhitvā jīvitakkhayaṃ pāpetvā ānessāmi te kumāre’’ti . Tato ‘‘aṭṭhānametaṃ kumārānaṃ pīḷanaṃ atidukkhanti dānaṃ datvā pacchānutappaṃ nāma sataṃ dhammo na hotī’’ti cintesi. Tadatthajotanā imā dve parivitakkagāthā nāma honti –
๒๑๕๘.
2158.
‘‘อทุ จาปํ คเหตฺวาน, ขคฺคํ พนฺธิย วามโต;
‘‘Adu cāpaṃ gahetvāna, khaggaṃ bandhiya vāmato;
อาเนสฺสามิ สเก ปุเตฺต, ปุตฺตานญฺหิ วโธ ทุโขฯ
Ānessāmi sake putte, puttānañhi vadho dukho.
๒๑๕๙.
2159.
‘‘อฎฺฐานเมตํ ทุกฺขรูปํ, ยํ กุมารา วิหญฺญเร;
‘‘Aṭṭhānametaṃ dukkharūpaṃ, yaṃ kumārā vihaññare;
สตญฺจ ธมฺมมญฺญาย, โก ทตฺวา อนุตปฺปตี’’ติฯ
Satañca dhammamaññāya, ko datvā anutappatī’’ti.
ตตฺถ สตนฺติ ปุพฺพโพธิสตฺตานํ ปเวณิธมฺมํฯ
Tattha satanti pubbabodhisattānaṃ paveṇidhammaṃ.
โส กิร ตสฺมิํ ขเณ โพธิสตฺตานํ ปเวณิํ อนุสฺสริฯ ตโต ‘‘สพฺพโพธิสตฺตานํ ธนปริจฺจาคํ , องฺคปริจฺจาคํ , ปุตฺตปริจฺจาคํ, ภริยปริจฺจาคํ, ชีวิตปริจฺจาคนฺติ อิเม ปญฺจ มหาปริจฺจาเค อปริจฺจชิตฺวา พุทฺธภูตปุโพฺพ นาม นตฺถิฯ อหมฺปิ เตสํ อพฺภนฺตโร โหมิ, มยาปิ ปิยปุตฺตธีตโร อทตฺวา น สกฺกา พุเทฺธน ภวิตุ’’นฺติ จิเนฺตตฺวา ‘‘กิํ ตฺวํ เวสฺสนฺตร ปเรสํ ทาสตฺถาย ทินฺนปุตฺตานํ ทุกฺขภาวํ น ชานาสิ, เยน พฺราหฺมณํ อนุพนฺธิตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปสฺสามีติ สญฺญํ อุปฺปาเทสิ, ทานํ ทตฺวา ปจฺฉานุตโปฺป นาม ตว นานุรูโป’’ติ เอวํ อตฺตานํ ปริภาสิตฺวา ‘‘สเจปิ เอโส กุมาเร มาเรสฺสติ, ทินฺนกาลโต ปฎฺฐาย มม น กิญฺจิ โหตี’’ติ ทฬฺหสมาทานํ อธิฎฺฐาย ปณฺณสาลโต นิกฺขมิตฺวา ปณฺณสาลทฺวาเร ปาสาณผลเก กญฺจนปฎิมา วิย นิสีทิฯ ชูชโกปิ โพธิสตฺตสฺส สมฺมุเข กุมาเร โปเถตฺวา เนติฯ ตโต กุมาโร วิลปโนฺต อาห –
So kira tasmiṃ khaṇe bodhisattānaṃ paveṇiṃ anussari. Tato ‘‘sabbabodhisattānaṃ dhanapariccāgaṃ , aṅgapariccāgaṃ , puttapariccāgaṃ, bhariyapariccāgaṃ, jīvitapariccāganti ime pañca mahāpariccāge apariccajitvā buddhabhūtapubbo nāma natthi. Ahampi tesaṃ abbhantaro homi, mayāpi piyaputtadhītaro adatvā na sakkā buddhena bhavitu’’nti cintetvā ‘‘kiṃ tvaṃ vessantara paresaṃ dāsatthāya dinnaputtānaṃ dukkhabhāvaṃ na jānāsi, yena brāhmaṇaṃ anubandhitvā jīvitakkhayaṃ pāpessāmīti saññaṃ uppādesi, dānaṃ datvā pacchānutappo nāma tava nānurūpo’’ti evaṃ attānaṃ paribhāsitvā ‘‘sacepi eso kumāre māressati, dinnakālato paṭṭhāya mama na kiñci hotī’’ti daḷhasamādānaṃ adhiṭṭhāya paṇṇasālato nikkhamitvā paṇṇasāladvāre pāsāṇaphalake kañcanapaṭimā viya nisīdi. Jūjakopi bodhisattassa sammukhe kumāre pothetvā neti. Tato kumāro vilapanto āha –
๒๑๖๐.
2160.
‘‘สจฺจํ กิเรวมาหํสุ, นรา เอกจฺจิยา อิธ;
‘‘Saccaṃ kirevamāhaṃsu, narā ekacciyā idha;
ยสฺส นตฺถิ สกา มาตา, ยถา นตฺถิ ตเถว โสฯ
Yassa natthi sakā mātā, yathā natthi tatheva so.
๒๑๖๑.
2161.
‘‘เอหิ กเณฺห มริสฺสาม, นตฺถโตฺถ ชีวิเตน โน;
‘‘Ehi kaṇhe marissāma, natthattho jīvitena no;
ทินฺนมฺหาติ ชนิเนฺทน, พฺราหฺมณสฺส ธเนสิโน;
Dinnamhāti janindena, brāhmaṇassa dhanesino;
อจฺจายิกสฺส ลุทฺทสฺส, โย โน คาโวว สุมฺภติฯ
Accāyikassa luddassa, yo no gāvova sumbhati.
๒๑๖๒.
2162.
‘‘อิเม เต ชมฺพุกา รุกฺขา, เวทิสา สินฺทุวารกา;
‘‘Ime te jambukā rukkhā, vedisā sinduvārakā;
วิวิธานิ รุกฺขชาตานิ, ตานิ กเณฺห ชหามเสฯ
Vividhāni rukkhajātāni, tāni kaṇhe jahāmase.
๒๑๖๓.
2163.
‘‘อสฺสตฺถา ปนสา เจเม, นิโคฺรธา จ กปิตฺถนา;
‘‘Assatthā panasā ceme, nigrodhā ca kapitthanā;
วิวิธานิ ผลชาตานิ, ตานิ กเณฺห ชหามเสฯ
Vividhāni phalajātāni, tāni kaṇhe jahāmase.
๒๑๖๔.
2164.
‘‘อิเม ติฎฺฐนฺติ อารามา, อยํ สีตูทกา นที;
‘‘Ime tiṭṭhanti ārāmā, ayaṃ sītūdakā nadī;
ยตฺถสฺสุ ปุเพฺพ กีฬาม, ตานิ กเณฺห ชหามเสฯ
Yatthassu pubbe kīḷāma, tāni kaṇhe jahāmase.
๒๑๖๕.
2165.
‘‘วิวิธานิ ปุปฺผชาตานิ, อสฺมิํ อุปริปพฺพเต;
‘‘Vividhāni pupphajātāni, asmiṃ uparipabbate;
ยานสฺสุ ปุเพฺพ ธาเรม, ตานิ กเณฺห ชหามเสฯ
Yānassu pubbe dhārema, tāni kaṇhe jahāmase.
๒๑๖๖.
2166.
‘‘วิวิธานิ ผลชาตานิ, อสฺมิํ อุปริปพฺพเต;
‘‘Vividhāni phalajātāni, asmiṃ uparipabbate;
ยานสฺสุ ปุเพฺพ ภุญฺชาม, ตานิ กเณฺห ชหามเสฯ
Yānassu pubbe bhuñjāma, tāni kaṇhe jahāmase.
๒๑๖๗.
2167.
‘‘อิเม โน หตฺถิกา อสฺสา, พลิพทฺทา จ โน อิเม;
‘‘Ime no hatthikā assā, balibaddā ca no ime;
เยหิสฺสุ ปุเพฺพ กีฬาม, ตานิ กเณฺห ชหามเส’’ติฯ
Yehissu pubbe kīḷāma, tāni kaṇhe jahāmase’’ti.
ตตฺถ ยสฺสาติ ยสฺส สนฺติเก สกา มาตา นตฺถิฯ ปิตา อตฺถิ, ยถา นตฺถิเยวฯ
Tattha yassāti yassa santike sakā mātā natthi. Pitā atthi, yathā natthiyeva.
ปุน พฺราหฺมโณ เอกสฺมิํ วิสมฎฺฐาเน ปกฺขลิตฺวา ปติฯ เตสํ หตฺถโต พนฺธนวลฺลิ มุจฺจิตฺวา คตาฯ เต ปหฎกุกฺกุฎา วิย กมฺปนฺตา ปลายิตฺวา เอกเวเคเนว ปิตุ สนฺติกํ อาคมิํสุฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Puna brāhmaṇo ekasmiṃ visamaṭṭhāne pakkhalitvā pati. Tesaṃ hatthato bandhanavalli muccitvā gatā. Te pahaṭakukkuṭā viya kampantā palāyitvā ekavegeneva pitu santikaṃ āgamiṃsu. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๒๑๖๘.
2168.
‘‘นียมานา กุมารา เต, พฺราหฺมณสฺส ปมุญฺจิย;
‘‘Nīyamānā kumārā te, brāhmaṇassa pamuñciya;
เตน เตน ปธาวิํสุ, ชาลี กณฺหาชินา จุโภ’’ติฯ
Tena tena padhāviṃsu, jālī kaṇhājinā cubho’’ti.
ตตฺถ เตน เตนาติ เตน มุตฺตขเณน เยน ทิสาภาเคน เตสํ ปิตา อตฺถิ, เตน ปธาวิํสุ, ปธาวิตฺวา ปิตุ สนฺติกเญฺญว อาคมิํสูติ อโตฺถฯ
Tattha tena tenāti tena muttakhaṇena yena disābhāgena tesaṃ pitā atthi, tena padhāviṃsu, padhāvitvā pitu santikaññeva āgamiṃsūti attho.
ชูชโก เวเคนุฎฺฐาย วลฺลิทณฺฑหโตฺถ กปฺปุฎฺฐานคฺคิ วิย อวตฺถรโนฺต อาคนฺตฺวา ‘‘อติวิย ปลายิตุํ เฉกา ตุเมฺห’’ติ หเตฺถ พนฺธิตฺวา ปุน เนสิฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Jūjako vegenuṭṭhāya vallidaṇḍahattho kappuṭṭhānaggi viya avattharanto āgantvā ‘‘ativiya palāyituṃ chekā tumhe’’ti hatthe bandhitvā puna nesi. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๒๑๖๙.
2169.
‘‘ตโต โส รชฺชุมาทาย, ทณฺฑญฺจาทาย พฺราหฺมโณ;
‘‘Tato so rajjumādāya, daṇḍañcādāya brāhmaṇo;
อาโกฎยโนฺต เต เนติ, สิวิราชสฺส เปกฺขโต’’ติฯ
Ākoṭayanto te neti, sivirājassa pekkhato’’ti.
เอวํ นียมาเนสุ กณฺหาชินา นิวตฺติตฺวา โอโลเกนฺตี ปิตรา สทฺธิํ สลฺลปิฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Evaṃ nīyamānesu kaṇhājinā nivattitvā olokentī pitarā saddhiṃ sallapi. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๒๑๗๐.
2170.
‘‘ตํ ตํ กณฺหาชินาโวจ, อยํ มํ ตาต พฺราหฺมโณ;
‘‘Taṃ taṃ kaṇhājināvoca, ayaṃ maṃ tāta brāhmaṇo;
ลฎฺฐิยา ปฎิโกเฎติ, ฆเร ชาตํว ทาสิยํฯ
Laṭṭhiyā paṭikoṭeti, ghare jātaṃva dāsiyaṃ.
๒๑๗๑.
2171.
‘‘น จายํ พฺราหฺมโณ ตาต, ธมฺมิกา โหนฺติ พฺราหฺมณา;
‘‘Na cāyaṃ brāhmaṇo tāta, dhammikā honti brāhmaṇā;
ยโกฺข พฺราหฺมณวเณฺณน, ขาทิตุํ ตาต เนติ โน;
Yakkho brāhmaṇavaṇṇena, khādituṃ tāta neti no;
นียมาเน ปิสาเจน, กิํ นุ ตาต อุทิกฺขสี’’ติฯ
Nīyamāne pisācena, kiṃ nu tāta udikkhasī’’ti.
ตตฺถ ตนฺติ ตํ ปสฺสมานํ นิสินฺนํ ปิตรํ สิวิราชานํฯ ทาสิยนฺติ ทาสิกํฯ ขาทิตุนฺติ ขาทนตฺถาย อยํ โน คิริทฺวารํ อสมฺปเตฺตเยว อุโภหิ จกฺขูหิ รตฺตโลหิตพินฺทุํ ปคฺฆรเนฺตหิ ขาทิสฺสามีติ เนติ, ตฺวญฺจ ขาทิตุํ วา ปจิตุํ วา นียมาเน กิํ อเมฺห อุทิกฺขสิ, สพฺพทา สุขิโต โหหีติ ปริเทวิฯ
Tattha tanti taṃ passamānaṃ nisinnaṃ pitaraṃ sivirājānaṃ. Dāsiyanti dāsikaṃ. Khāditunti khādanatthāya ayaṃ no giridvāraṃ asampatteyeva ubhohi cakkhūhi rattalohitabinduṃ paggharantehi khādissāmīti neti, tvañca khādituṃ vā pacituṃ vā nīyamāne kiṃ amhe udikkhasi, sabbadā sukhito hohīti paridevi.
ทหรกุมาริกาย วิลปนฺติยา กมฺปมานาย คจฺฉนฺติยา มหาสตฺตสฺส พลวโสโก อุปฺปชฺชิ, หทยวตฺถุ อุณฺหํ อโหสิฯ นาสิกาย อปฺปโหนฺติยา มุเขน อุเณฺห อสฺสาสปสฺสาเส วิสฺสเชฺชสิฯ อสฺสูนิ โลหิตพินฺทูนิ หุตฺวา เนเตฺตหิ นิกฺขมิํสุฯ โส ‘‘อิทํ เอวรูปํ ทุกฺขํ สิเนหโทเสน ชาตํ, น อเญฺญน การเณนฯ สิเนหํ อกตฺวา มชฺฌเตฺตเนว ภวิตพฺพ’’นฺติ ตถารูปํ โสกํ อตฺตโน ญาณพเลน วิโนเทตฺวา ปกตินิสินฺนากาเรเนว นิสีทิฯ คิริทฺวารํ อสมฺปตฺตาเยว กุมาริกา วิลปนฺตี อคมาสิฯ
Daharakumārikāya vilapantiyā kampamānāya gacchantiyā mahāsattassa balavasoko uppajji, hadayavatthu uṇhaṃ ahosi. Nāsikāya appahontiyā mukhena uṇhe assāsapassāse vissajjesi. Assūni lohitabindūni hutvā nettehi nikkhamiṃsu. So ‘‘idaṃ evarūpaṃ dukkhaṃ sinehadosena jātaṃ, na aññena kāraṇena. Sinehaṃ akatvā majjhatteneva bhavitabba’’nti tathārūpaṃ sokaṃ attano ñāṇabalena vinodetvā pakatinisinnākāreneva nisīdi. Giridvāraṃ asampattāyeva kumārikā vilapantī agamāsi.
๒๑๗๒.
2172.
‘‘อิเม โน ปาทกา ทุกฺขา, ทีโฆ จทฺธา สุทุคฺคโม;
‘‘Ime no pādakā dukkhā, dīgho caddhā suduggamo;
นีเจ โจลมฺพเต สูริโย, พฺราหฺมโณ จ ธาเรติ โนฯ
Nīce colambate sūriyo, brāhmaṇo ca dhāreti no.
๒๑๗๓.
2173.
‘‘โอกนฺทามเส ภูตานิ, ปพฺพตานิ วนานิ จ;
‘‘Okandāmase bhūtāni, pabbatāni vanāni ca;
สรสฺส สิรสา วนฺทาม, สุปติเตฺถ จ อาปเกฯ
Sarassa sirasā vandāma, supatitthe ca āpake.
๒๑๗๔.
2174.
‘‘ติณลตานิ โอสโธฺย, ปพฺพตานิ วนานิ จ;
‘‘Tiṇalatāni osadhyo, pabbatāni vanāni ca;
อมฺมํ อาโรคฺยํ วชฺชาถ, อยํ โน เนติ พฺราหฺมโณฯ
Ammaṃ ārogyaṃ vajjātha, ayaṃ no neti brāhmaṇo.
๒๑๗๕.
2175.
‘‘วชฺชนฺตุ โภโนฺต อมฺมญฺจ, มทฺทิํ อสฺมาก มาตรํ;
‘‘Vajjantu bhonto ammañca, maddiṃ asmāka mātaraṃ;
สเจ อนุปติตุกามาสิ, ขิปฺปํ อนุปติยาสิ โนฯ
Sace anupatitukāmāsi, khippaṃ anupatiyāsi no.
๒๑๗๖.
2176.
‘‘อยํ เอกปที เอติ, อุชุํ คจฺฉติ อสฺสมํ;
‘‘Ayaṃ ekapadī eti, ujuṃ gacchati assamaṃ;
ตเมวานุปเตยฺยาสิ, อปิ ปเสฺสสิ เน ลหุํฯ
Tamevānupateyyāsi, api passesi ne lahuṃ.
๒๑๗๗.
2177.
‘‘อโห วต เร ชฎินี, วนมูลผลหาริเก;
‘‘Aho vata re jaṭinī, vanamūlaphalahārike;
สุญฺญํ ทิสฺวาน อสฺสมํ, ตํ เต ทุกฺขํ ภวิสฺสติฯ
Suññaṃ disvāna assamaṃ, taṃ te dukkhaṃ bhavissati.
๒๑๗๘.
2178.
‘‘อติเวลํ นุ อมฺมาย, อุญฺฉา ลโทฺธ อนปฺปโก;
‘‘Ativelaṃ nu ammāya, uñchā laddho anappako;
ยา โน พเทฺธ น ชานาสิ, พฺราหฺมเณน ธเนสินาฯ
Yā no baddhe na jānāsi, brāhmaṇena dhanesinā.
๒๑๗๙.
2179.
‘‘อจฺจายิเกน ลุเทฺทน, โย โน คาโวว สุมฺภติ;
‘‘Accāyikena luddena, yo no gāvova sumbhati;
อปชฺช อมฺมํ ปเสฺสมุ, สายํ อุญฺฉาโต อาคตํฯ
Apajja ammaṃ passemu, sāyaṃ uñchāto āgataṃ.
๒๑๘๐.
2180.
‘‘ทชฺชา อมฺมา พฺราหฺมณสฺส, ผลํ ขุเทฺทน มิสฺสิตํ;
‘‘Dajjā ammā brāhmaṇassa, phalaṃ khuddena missitaṃ;
ตทายํ อสิโต ธาโต, น พาฬฺหํ ธารเยยฺย โนฯ
Tadāyaṃ asito dhāto, na bāḷhaṃ dhārayeyya no.
๒๑๘๑.
2181.
‘‘สูนา จ วต โน ปาทา, พาฬฺหํ ธาเรติ พฺราหฺมโณ;
‘‘Sūnā ca vata no pādā, bāḷhaṃ dhāreti brāhmaṇo;
อิติ ตตฺถ วิลปิํสุ, กุมารา มาตุคิทฺธิโน’’ติฯ
Iti tattha vilapiṃsu, kumārā mātugiddhino’’ti.
ตตฺถ ปาทกาติ ขุทฺทกปาทาฯ โอกนฺทามเสติ อวกนฺทาม, อปจิติํ นีจวุตฺติํ ทเสฺสนฺตา ชานาเปมฯ สรสฺสาติ อิมสฺส ปทุมสรสฺส ปริคฺคาหกาเนว นาคกุลานิ สิรสา วนฺทามฯ สุปติเตฺถ จ อาปเกติ สุปติตฺถาย นทิยา อธิวตฺถา เทวตาปิ วนฺทามฯ ติณลตานีติ ติณานิ จ โอลมฺพกลตาโย จฯ โอสโธฺยติ โอสธิโยฯ สพฺพตฺถ อธิวตฺถา เทวตา สนฺธาเยวมาหฯ อนุปติตุกามาสีติ สเจปิ สา อมฺหากํ ปทานุปทํ อาคนฺตุกามาสิฯ อปิ ปเสฺสสิ เน ลหุนฺติ อปิ นาม เอตาย เอกปทิยา อนุปตมานา ปุตฺตเก เต ลหุํ ปเสฺสยฺยาสีติ เอวํ ตํ วเทยฺยาถาติฯ ชฎินีติ พทฺธชฎํ อารพฺภ มาตรํ ปรมฺมุขาลปเนน อาลปนฺตี อาหฯ อติเวลนฺติ ปมาณาติกฺกนฺตํ กตฺวาฯ อุญฺฉาติ อุญฺฉาจริยาย ฯ ผลนฺติ วนมูลผลาผลํฯ ขุเทฺทน มิสฺสิตนฺติ ขุทฺทกมธุนา มิสฺสิตํฯ อสิโตติ อสิตาสโน ปริภุตฺตผโลฯ ธาโตติ สุหิโตฯ น พาฬฺหํ ธารเยยฺย โนติ น โน พาฬฺหํ เวเคน นเยยฺยฯ มาตุคิทฺธิโนติ มาตริ คิเทฺธน สมนฺนาคตา พลวสิเนหา เอวํ วิลวิํสูติฯ
Tattha pādakāti khuddakapādā. Okandāmaseti avakandāma, apacitiṃ nīcavuttiṃ dassentā jānāpema. Sarassāti imassa padumasarassa pariggāhakāneva nāgakulāni sirasā vandāma. Supatitthe ca āpaketi supatitthāya nadiyā adhivatthā devatāpi vandāma. Tiṇalatānīti tiṇāni ca olambakalatāyo ca. Osadhyoti osadhiyo. Sabbattha adhivatthā devatā sandhāyevamāha. Anupatitukāmāsīti sacepi sā amhākaṃ padānupadaṃ āgantukāmāsi. Api passesi ne lahunti api nāma etāya ekapadiyā anupatamānā puttake te lahuṃ passeyyāsīti evaṃ taṃ vadeyyāthāti. Jaṭinīti baddhajaṭaṃ ārabbha mātaraṃ parammukhālapanena ālapantī āha. Ativelanti pamāṇātikkantaṃ katvā. Uñchāti uñchācariyāya . Phalanti vanamūlaphalāphalaṃ. Khuddena missitanti khuddakamadhunā missitaṃ. Asitoti asitāsano paribhuttaphalo. Dhātoti suhito. Na bāḷhaṃ dhārayeyya noti na no bāḷhaṃ vegena nayeyya. Mātugiddhinoti mātari giddhena samannāgatā balavasinehā evaṃ vilaviṃsūti.
ทารกปพฺพวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Dārakapabbavaṇṇanā niṭṭhitā.
มทฺทีปพฺพวณฺณนา
Maddīpabbavaṇṇanā
ยํ ปน ตํ รญฺญา ปถวิํ อุนฺนาเทตฺวา พฺราหฺมณสฺส ปิยปุเตฺตสุ ทิเนฺนสุ ยาว พฺรหฺมโลกา เอกโกลาหลํ ชาตํ, เตนปิ ภิชฺชมานหทยา วิย หิมวนฺตวาสิโน เทวา เตสํ พฺราหฺมเณน นิยมานานํ ตํ วิลาปํ สุตฺวา มนฺตยิํสุ ‘‘สเจ มทฺที กาลเสฺสว อสฺสมํ อาคมิสฺสติ, ตตฺถ ปุตฺตเก อทิสฺวา เวสฺสนฺตรํ ปุจฺฉิตฺวา พฺราหฺมณสฺส ทินฺนภาวํ สุตฺวา พลวสิเนเหน ปทานุปทํ ธาวิตฺวา มหนฺตํ ทุกฺขํ อนุภเวยฺยา’’ติฯ อถ เต ตโย เทวปุเตฺต ‘‘ตุเมฺห สีหพฺยคฺฆทีปิเวเส นิมฺมินิตฺวา เทวิยา อาคมนมคฺคํ สนฺนิรุมฺภิตฺวา ยาจิยมานาปิ ยาว สูริยตฺถงฺคมนา มคฺคํ อทตฺวา ยถา จนฺทาโลเกน อสฺสมํ ปวิสิสฺสติ, เอวมสฺสา สีหาทีนมฺปิ อวิเหฐนตฺถาย อารกฺขํ สุสํวิหิตํ กเรยฺยาถา’’ติ อาณาเปสุํฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Yaṃ pana taṃ raññā pathaviṃ unnādetvā brāhmaṇassa piyaputtesu dinnesu yāva brahmalokā ekakolāhalaṃ jātaṃ, tenapi bhijjamānahadayā viya himavantavāsino devā tesaṃ brāhmaṇena niyamānānaṃ taṃ vilāpaṃ sutvā mantayiṃsu ‘‘sace maddī kālasseva assamaṃ āgamissati, tattha puttake adisvā vessantaraṃ pucchitvā brāhmaṇassa dinnabhāvaṃ sutvā balavasinehena padānupadaṃ dhāvitvā mahantaṃ dukkhaṃ anubhaveyyā’’ti. Atha te tayo devaputte ‘‘tumhe sīhabyagghadīpivese nimminitvā deviyā āgamanamaggaṃ sannirumbhitvā yāciyamānāpi yāva sūriyatthaṅgamanā maggaṃ adatvā yathā candālokena assamaṃ pavisissati, evamassā sīhādīnampi aviheṭhanatthāya ārakkhaṃ susaṃvihitaṃ kareyyāthā’’ti āṇāpesuṃ. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๒๑๘๒.
2182.
‘‘เตสํ ลาลปฺปิตํ สุตฺวา, ตโย วาฬา วเน มิคา;
‘‘Tesaṃ lālappitaṃ sutvā, tayo vāḷā vane migā;
สีโห พฺยโคฺฆ จ ทีปิ จ, อิทํ วจนมพฺรวุํฯ
Sīho byaggho ca dīpi ca, idaṃ vacanamabravuṃ.
๒๑๘๓.
2183.
‘‘มา เหว โน ราชปุตฺตี, สายํ อุญฺฉาโต อาคมา;
‘‘Mā heva no rājaputtī, sāyaṃ uñchāto āgamā;
มา เหวมฺหาก นิโพฺภเค, เหฐยิตฺถ วเน มิคาฯ
Mā hevamhāka nibbhoge, heṭhayittha vane migā.
๒๑๘๔.
2184.
‘‘สีโห เจ นํ วิเหเฐยฺย, พฺยโคฺฆ ทีปิ จ ลกฺขณํ;
‘‘Sīho ce naṃ viheṭheyya, byaggho dīpi ca lakkhaṇaṃ;
เนว ชาลีกุมารสฺส, กุโต กณฺหาชินา สิยา;
Neva jālīkumārassa, kuto kaṇhājinā siyā;
อุภเยเนว ชีเยถ, ปติํ ปุเตฺต จ ลกฺขณา’’ติฯ
Ubhayeneva jīyetha, patiṃ putte ca lakkhaṇā’’ti.
ตตฺถ อิทํ วจนมพฺรวุนฺติ ‘‘ตุเมฺห ตโย ชนา สีโห จ พฺยโคฺฆ จ ทีปิ จาติ เอวํ ตโย วาฬา วเน มิคา โหถา’’ติ อิทํ ตา เทวตา ตโย เทวปุเตฺต วจนมพฺรวุํฯ มา เหว โนติ มทฺที ราชปุตฺตี อุญฺฉาโต สายํ มา อาคมิ, จนฺทาโลเกน สายํ อาคจฺฉตูติ วทนฺติฯ มา เหวมฺหาก นิโพฺภเคติ อมฺหากํ นิโพฺภเค วิชิเต วนฆฎายํ มา นํ โกจิปิ วเน วาฬมิโค วิเหเฐสิฯ น ยถา วิเหเฐติ, เอวมสฺสา อารกฺขํ คณฺหถาติ วทนฺติฯ สีโห เจ นนฺติ สเจ หิ ตํ อนารกฺขํ สีหาทีสุ โกจิ วิเหเฐยฺย, อถสฺสา ชีวิตกฺขยํ ปตฺตาย เนว ชาลิกุมาโร อสฺส, กุโต กณฺหาชินา สิยาฯ เอวํ สา ลกฺขณสมฺปนฺนา อุภเยเนว ชีเยถ ปติํ ปุเตฺต จาติ ทฺวีหิ โกฎฺฐาเสหิ ชีเยเถว, ตสฺมา สุสํวิหิตมสฺสา อารกฺขํ กโรถาติฯ
Tattha idaṃ vacanamabravunti ‘‘tumhe tayo janā sīho ca byaggho ca dīpi cāti evaṃ tayo vāḷā vane migā hothā’’ti idaṃ tā devatā tayo devaputte vacanamabravuṃ. Mā heva noti maddī rājaputtī uñchāto sāyaṃ mā āgami, candālokena sāyaṃ āgacchatūti vadanti. Mā hevamhāka nibbhogeti amhākaṃ nibbhoge vijite vanaghaṭāyaṃ mā naṃ kocipi vane vāḷamigo viheṭhesi. Na yathā viheṭheti, evamassā ārakkhaṃ gaṇhathāti vadanti. Sīho ce nanti sace hi taṃ anārakkhaṃ sīhādīsu koci viheṭheyya, athassā jīvitakkhayaṃ pattāya neva jālikumāro assa, kuto kaṇhājinā siyā. Evaṃ sā lakkhaṇasampannā ubhayeneva jīyetha patiṃ putte cāti dvīhi koṭṭhāsehi jīyetheva, tasmā susaṃvihitamassā ārakkhaṃ karothāti.
อถ เต ตโย เทวปุตฺตา ‘‘สาธู’’ติ ตาสํ เทวตานํ ตํ วจนํ ปฎิสฺสุณิตฺวา สีหพฺยคฺฆทีปิโน หุตฺวา อาคนฺตฺวา ตสฺสา อาคมนมเคฺค ปฎิปาฎิยา นิปชฺชิํสุฯ มทฺทีปิ โข ‘‘อชฺช มยา ทุสฺสุปิโน ทิโฎฺฐ, กาลเสฺสว มูลผลาผลํ คเหตฺวา อสฺสมํ คมิสฺสามี’’ติ กมฺปมานา มูลผลาผลานิ อุปธาเรสิฯ อถสฺสา หตฺถโต ขณิตฺติ ปติ, ตถา อํสโต อุคฺคีวญฺจ ปติ, ทกฺขิณกฺขิจ ผนฺทติ, ผลิโน รุกฺขา อผลา วิย อผลา จ ผลิโน วิย ขายิํสุ, ทส ทิสา น ปญฺญายิํสุฯ สา ‘‘กิํ นุ โข อิทํ, ปุเพฺพ อภูตปุพฺพํ อชฺช เม โหติ, กิํ ภวิสฺสติ, มยฺหํ วา อนฺตราโย ภวิสฺสติ, มม ปุตฺตานํ วา, อุทาหุ เวสฺสนฺตรสฺสา’’ติ จิเนฺตตฺวา อาห –
Atha te tayo devaputtā ‘‘sādhū’’ti tāsaṃ devatānaṃ taṃ vacanaṃ paṭissuṇitvā sīhabyagghadīpino hutvā āgantvā tassā āgamanamagge paṭipāṭiyā nipajjiṃsu. Maddīpi kho ‘‘ajja mayā dussupino diṭṭho, kālasseva mūlaphalāphalaṃ gahetvā assamaṃ gamissāmī’’ti kampamānā mūlaphalāphalāni upadhāresi. Athassā hatthato khaṇitti pati, tathā aṃsato uggīvañca pati, dakkhiṇakkhica phandati, phalino rukkhā aphalā viya aphalā ca phalino viya khāyiṃsu, dasa disā na paññāyiṃsu. Sā ‘‘kiṃ nu kho idaṃ, pubbe abhūtapubbaṃ ajja me hoti, kiṃ bhavissati, mayhaṃ vā antarāyo bhavissati, mama puttānaṃ vā, udāhu vessantarassā’’ti cintetvā āha –
๒๑๘๕.
2185.
‘‘ขณิตฺติกํ เม ปติตํ, ทกฺขิณกฺขิ จ ผนฺทติ;
‘‘Khaṇittikaṃ me patitaṃ, dakkhiṇakkhi ca phandati;
อผลา ผลิโน รุกฺขา, สพฺพา มุยฺหนฺติ เม ทิสา’’ติฯ
Aphalā phalino rukkhā, sabbā muyhanti me disā’’ti.
เอวํ สา ปริเทวนฺตี ปกฺกามิฯ
Evaṃ sā paridevantī pakkāmi.
๒๑๘๖.
2186.
‘‘ตสฺสา สายนฺหกาลสฺมิํ, อสฺสมาคมนํ ปติ;
‘‘Tassā sāyanhakālasmiṃ, assamāgamanaṃ pati;
อตฺถงฺคตมฺหิ สูริเย, วาฬา ปเนฺถ อุปฎฺฐหุํฯ
Atthaṅgatamhi sūriye, vāḷā panthe upaṭṭhahuṃ.
๒๑๘๗.
2187.
‘‘นีเจ โจลมฺพเต สูริโย, ทูเร จ วต อสฺสโม;
‘‘Nīce colambate sūriyo, dūre ca vata assamo;
ยญฺจ เนสํ อิโต หสฺสํ, ตํ เต ภุเญฺชยฺยุ โภชนํฯ
Yañca nesaṃ ito hassaṃ, taṃ te bhuñjeyyu bhojanaṃ.
๒๑๘๘.
2188.
‘‘โส นูน ขตฺติโย เอโก, ปณฺณสาลาย อจฺฉติ;
‘‘So nūna khattiyo eko, paṇṇasālāya acchati;
โตเสโนฺต ทารเก ฉาเต, มมํ ทิสฺวา อนายติํฯ
Tosento dārake chāte, mamaṃ disvā anāyatiṃ.
๒๑๘๙.
2189.
‘‘เต นูน ปุตฺตกา มยฺหํ, กปณาย วรากิยา;
‘‘Te nūna puttakā mayhaṃ, kapaṇāya varākiyā;
สายํ สํเวสนากาเล, ขีรปีตาว อจฺฉเรฯ
Sāyaṃ saṃvesanākāle, khīrapītāva acchare.
๒๑๙๐.
2190.
‘‘เต นูน ปุตฺตกา มยฺหํ, กปณาย วรากิยา;
‘‘Te nūna puttakā mayhaṃ, kapaṇāya varākiyā;
สายํ สํเวสนากาเล, วาริปีตาว อจฺฉเรฯ
Sāyaṃ saṃvesanākāle, vāripītāva acchare.
๒๑๙๑.
2191.
‘‘เต นูน ปุตฺตกา มยฺหํ, กปณาย วรากิยา;
‘‘Te nūna puttakā mayhaṃ, kapaṇāya varākiyā;
ปจฺจุคฺคตา มํ ติฎฺฐนฺติ, วจฺฉา พาลาว มาตรํฯ
Paccuggatā maṃ tiṭṭhanti, vacchā bālāva mātaraṃ.
๒๑๙๒.
2192.
‘‘เต นูน ปุตฺตกา มยฺหํ, กปณาย วรากิยา;
‘‘Te nūna puttakā mayhaṃ, kapaṇāya varākiyā;
ปจฺจุคฺคตา มํ ติฎฺฐนฺติ, หํสาวุปริปลฺลเลฯ
Paccuggatā maṃ tiṭṭhanti, haṃsāvuparipallale.
๒๑๙๓.
2193.
‘‘เต นูน ปุตฺตกา มยฺหํ, กปณาย วรากิยา;
‘‘Te nūna puttakā mayhaṃ, kapaṇāya varākiyā;
ปจฺจุคฺคตา มํ ติฎฺฐนฺติ, อสฺสมสฺสาวิทูรโตฯ
Paccuggatā maṃ tiṭṭhanti, assamassāvidūrato.
๒๑๙๔.
2194.
‘‘เอกายโน เอกปโถ, สรา โสพฺภา จ ปสฺสโต;
‘‘Ekāyano ekapatho, sarā sobbhā ca passato;
อญฺญํ มคฺคํ น ปสฺสามิ, เยน คเจฺฉยฺย อสฺสมํฯ
Aññaṃ maggaṃ na passāmi, yena gaccheyya assamaṃ.
๒๑๙๕.
2195.
‘‘มิคา นมตฺถุ ราชาโน, กานนสฺมิํ มหพฺพลา;
‘‘Migā namatthu rājāno, kānanasmiṃ mahabbalā;
ธเมฺมน ภาตโร โหถ, มคฺคํ เม เทถ ยาจิตาฯ
Dhammena bhātaro hotha, maggaṃ me detha yācitā.
๒๑๙๖.
2196.
‘‘อวรุทฺธสฺสาหํ ภริยา, ราชปุตฺตสฺส สิรีมโต;
‘‘Avaruddhassāhaṃ bhariyā, rājaputtassa sirīmato;
ตํ จาหํ นาติมญฺญามิ, รามํ สีตาวนุพฺพตาฯ
Taṃ cāhaṃ nātimaññāmi, rāmaṃ sītāvanubbatā.
๒๑๙๗.
2197.
‘‘ตุเมฺห จ ปุเตฺต ปสฺสถ, สายํ สํเวสนํ ปติ;
‘‘Tumhe ca putte passatha, sāyaṃ saṃvesanaṃ pati;
อหญฺจ ปุเตฺต ปเสฺสยฺยํ, ชาลิํ กณฺหาชินํ จุโภฯ
Ahañca putte passeyyaṃ, jāliṃ kaṇhājinaṃ cubho.
๒๑๙๘.
2198.
‘‘พหุํ จิทํ มูลผลํ, ภโกฺข จายํ อนปฺปโก;
‘‘Bahuṃ cidaṃ mūlaphalaṃ, bhakkho cāyaṃ anappako;
ตโต อุปฑฺฒํ ทสฺสามิ, มคฺคํ เม เทถ ยาจิตาฯ
Tato upaḍḍhaṃ dassāmi, maggaṃ me detha yācitā.
๒๑๙๙.
2199.
‘‘ราชปุตฺตี จ โน มาตา, ราชปุโตฺต จ โน ปิตา;
‘‘Rājaputtī ca no mātā, rājaputto ca no pitā;
ธเมฺมน ภาตโร โหถ, มคฺคํ เม เทถ ยาจิตา’’ติฯ
Dhammena bhātaro hotha, maggaṃ me detha yācitā’’ti.
ตตฺถ ตสฺสาติ ตสฺสา มมฯ อสฺสมาคมนํ ปตีติ อสฺสมํ ปฎิจฺจ สนฺธาย อาคจฺฉนฺติยาฯ อุปฎฺฐหุนฺติ อุฎฺฐาย ฐิตาฯ เต กิร ปฐมํ ปฎิปาฎิยา นิปชฺชิตฺวา ตาย อาคมนกาเล อุฎฺฐาย วิชมฺภิตฺวา มคฺคํ รุมฺภนฺตา ปฎิปาฎิยา ติริยํ อฎฺฐํสุฯ ยญฺจ เตสนฺติ อหญฺจ ยํ อิโต มูลผลาผลํ เตสํ หริสฺสํ, ตเมว เวสฺสนฺตโร จ อุโภ ปุตฺตกา จาติ เต ตโยปิ ชนา ภุเญฺชยฺยุํ, อญฺญํ เตสํ โภชนํ นตฺถิฯ อนายตินฺติ อนาคจฺฉนฺติํ มํ ญตฺวา เอกโกว นูน ทารเก โตเสโนฺต นิสิโนฺนฯ สํเวสนากาเลติ อเญฺญสุ ทิวเสสุ อตฺตโน ขาทาปนปิวาปนกาเล ขีรปีตาวาติ ยถา ขีรปีตา มิคโปตกา ขีรตฺถาย กนฺทิตฺวา ตํ อลภิตฺวา กนฺทนฺตาว นิทฺทํ โอกฺกมนฺติ, เอวํ เม ปุตฺตกา ผลาผลตฺถาย กนฺทิตฺวา ตํ อลภิตฺวา กนฺทนฺตาว นิทฺทํ อุปคตา ภวิสฺสนฺตีติ วทติฯ
Tattha tassāti tassā mama. Assamāgamanaṃ patīti assamaṃ paṭicca sandhāya āgacchantiyā. Upaṭṭhahunti uṭṭhāya ṭhitā. Te kira paṭhamaṃ paṭipāṭiyā nipajjitvā tāya āgamanakāle uṭṭhāya vijambhitvā maggaṃ rumbhantā paṭipāṭiyā tiriyaṃ aṭṭhaṃsu. Yañca tesanti ahañca yaṃ ito mūlaphalāphalaṃ tesaṃ harissaṃ, tameva vessantaro ca ubho puttakā cāti te tayopi janā bhuñjeyyuṃ, aññaṃ tesaṃ bhojanaṃ natthi. Anāyatinti anāgacchantiṃ maṃ ñatvā ekakova nūna dārake tosento nisinno. Saṃvesanākāleti aññesu divasesu attano khādāpanapivāpanakāle khīrapītāvāti yathā khīrapītā migapotakā khīratthāya kanditvā taṃ alabhitvā kandantāva niddaṃ okkamanti, evaṃ me puttakā phalāphalatthāya kanditvā taṃ alabhitvā kandantāva niddaṃ upagatā bhavissantīti vadati.
วาริปีตาวาติ ยถา ปิปาสิตา มิคโปตกา ปานียตฺถาย กนฺทิตฺวา ตํ อลภิตฺวา กนฺทนฺตาว นิทฺทํ โอกฺกมนฺตีติ อิมินาว นเยน อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ อจฺฉเรติ อจฺฉนฺติฯ ปจฺจุคฺคตา มํ ติฎฺฐนฺตีติ มํ ปจฺจุคฺคตา หุตฺวา ติฎฺฐนฺติฯ ‘‘ปจฺจุคฺคนฺตุนา’’ติปิ ปาโฐ, ปจฺจุคฺคนฺตฺวาติ อโตฺถฯ เอกายโนติ เอกเสฺสว อยโน เอกปทิกมโคฺคฯ เอกปโถติ โส จ เอโกว, ทุติโย นตฺถิ, โอกฺกมิตฺวา คนฺตุํ น สกฺกาฯ กสฺมา? ยสฺมา สรา โสพฺภา จ ปสฺสโตฯ มิคา นมตฺถูติ สา อญฺญํ มคฺคํ อทิสฺวา ‘‘เอเต ยาจิตฺวา ปฎิกฺกมาเปสฺสามี’’ติ ผลปจฺฉิํ สีสโต โอตาเรตฺวา อญฺชลิํ ปคฺคยฺห นมสฺสมานา เอวมาหฯ ภาตโรติ อหมฺปิ มนุสฺสราชปุตฺตี, ตุมฺหีปิ มิคราชปุตฺตา, อิติ เม ธเมฺมน ภาตโร โหถฯ
Vāripītāvāti yathā pipāsitā migapotakā pānīyatthāya kanditvā taṃ alabhitvā kandantāva niddaṃ okkamantīti imināva nayena attho veditabbo. Acchareti acchanti. Paccuggatā maṃ tiṭṭhantīti maṃ paccuggatā hutvā tiṭṭhanti. ‘‘Paccuggantunā’’tipi pāṭho, paccuggantvāti attho. Ekāyanoti ekasseva ayano ekapadikamaggo. Ekapathoti so ca ekova, dutiyo natthi, okkamitvā gantuṃ na sakkā. Kasmā? Yasmā sarā sobbhā ca passato. Migā namatthūti sā aññaṃ maggaṃ adisvā ‘‘ete yācitvā paṭikkamāpessāmī’’ti phalapacchiṃ sīsato otāretvā añjaliṃ paggayha namassamānā evamāha. Bhātaroti ahampi manussarājaputtī, tumhīpi migarājaputtā, iti me dhammena bhātaro hotha.
อวรุทฺธสฺสาติ รฎฺฐโต ปพฺพาชิตสฺสฯ รามํ สีตาวนุพฺพตาติ ยถา ทสรถราชปุตฺตํ รามํ ตสฺส กนิฎฺฐภคินี สีตาเทวี ตเสฺสว อคฺคมเหสี หุตฺวา ตํ อนุพฺพตา ปติเทวตา หุตฺวา อปฺปมตฺตา อุปฎฺฐาสิ, ตถา อหมฺปิ เวสฺสนฺตรํ อุปฎฺฐหามิ, นาติมญฺญามีติ วทติฯ ตุเมฺห จาติ ตุเมฺห จ มยฺหํ มคฺคํ ทตฺวา สายํ โคจรคฺคหณกาเล ปุเตฺต ปสฺสถ, อหญฺจ อตฺตโน ปุเตฺต ปเสฺสยฺยํ, เทถ เม มคฺคนฺถิ ยาจติฯ
Avaruddhassāti raṭṭhato pabbājitassa. Rāmaṃ sītāvanubbatāti yathā dasaratharājaputtaṃ rāmaṃ tassa kaniṭṭhabhaginī sītādevī tasseva aggamahesī hutvā taṃ anubbatā patidevatā hutvā appamattā upaṭṭhāsi, tathā ahampi vessantaraṃ upaṭṭhahāmi, nātimaññāmīti vadati. Tumhe cāti tumhe ca mayhaṃ maggaṃ datvā sāyaṃ gocaraggahaṇakāle putte passatha, ahañca attano putte passeyyaṃ, detha me magganthi yācati.
อถ เต ตโย เทวปุตฺตา เวลํ โอโลเกตฺวา ‘‘อิทานิสฺสา มคฺคํ ทาตุํ เวลา’’ติ ญตฺวา อุฎฺฐาย อปคจฺฉิํสุฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Atha te tayo devaputtā velaṃ oloketvā ‘‘idānissā maggaṃ dātuṃ velā’’ti ñatvā uṭṭhāya apagacchiṃsu. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๒๒๐๐.
2200.
‘‘ตสฺสา ลาลปฺปมานาย, พหุํ การุญฺญสญฺหิตํ;
‘‘Tassā lālappamānāya, bahuṃ kāruññasañhitaṃ;
สุตฺวา เนลปติํ วาจํ, วาฬา ปนฺถา อปกฺกมุ’’นฺติฯ
Sutvā nelapatiṃ vācaṃ, vāḷā panthā apakkamu’’nti.
ตตฺถ เนลปตินฺติ น เอลปติํ เอลปาตวิรหิตํ วิสฎฺฐํ มธุรวาจํฯ
Tattha nelapatinti na elapatiṃ elapātavirahitaṃ visaṭṭhaṃ madhuravācaṃ.
สาปิ วาเฬสุ อปคเตสุ อสฺสมํ อคมาสิฯ ตทา จ ปุณฺณมุโปสโถ โหติฯ สา จงฺกมนโกฎิํ ปตฺวา เยสุ เยสุ ฐาเนสุ ปุเพฺพ ปุเตฺต ปสฺสติ, เตสุ เตสุ ฐาเนสุ อปสฺสนฺตี อาห –
Sāpi vāḷesu apagatesu assamaṃ agamāsi. Tadā ca puṇṇamuposatho hoti. Sā caṅkamanakoṭiṃ patvā yesu yesu ṭhānesu pubbe putte passati, tesu tesu ṭhānesu apassantī āha –
๒๒๐๑.
2201.
‘‘อิมมฺหิ นํ ปเทสมฺหิ, ปุตฺตกา ปํสุกุณฺฐิตา;
‘‘Imamhi naṃ padesamhi, puttakā paṃsukuṇṭhitā;
ปจฺจุคฺคตา มํ ติฎฺฐนฺติ, วจฺฉา พาลาว มาตรํฯ
Paccuggatā maṃ tiṭṭhanti, vacchā bālāva mātaraṃ.
๒๒๐๒.
2202.
‘‘อิมมฺหิ นํ ปเทสมฺหิ, ปุตฺตกา ปํสุกุณฺฐิตา;
‘‘Imamhi naṃ padesamhi, puttakā paṃsukuṇṭhitā;
ปจฺจุคฺคตา มํ ติฎฺฐนฺติ, หํสาวุปริปลฺลเลฯ
Paccuggatā maṃ tiṭṭhanti, haṃsāvuparipallale.
๒๒๐๓.
2203.
‘‘อิมมฺหิ นํ ปเทสมฺหิ, ปุตฺตกา ปํสุกุณฺฐิตา;
‘‘Imamhi naṃ padesamhi, puttakā paṃsukuṇṭhitā;
ปจฺจุคฺคตา มํ ติฎฺฐนฺติ, อสฺสมสฺสาวิทูรโตฯ
Paccuggatā maṃ tiṭṭhanti, assamassāvidūrato.
๒๒๐๔.
2204.
‘‘เทฺว มิคา วิย อุกฺกณฺณา, สมนฺตา มภิธาวิโน;
‘‘Dve migā viya ukkaṇṇā, samantā mabhidhāvino;
อานนฺทิโน ปมุทิตา, วคฺคมานาว กมฺปเร;
Ānandino pamuditā, vaggamānāva kampare;
ตฺยชฺช ปุเตฺต น ปสฺสามิ, ชาลิํ กณฺหาชินํ จุโภฯ
Tyajja putte na passāmi, jāliṃ kaṇhājinaṃ cubho.
๒๒๐๕.
2205.
‘‘ฉกลีว มิคี ฉาปํ, ปกฺขี มุตฺตาว ปญฺชรา;
‘‘Chakalīva migī chāpaṃ, pakkhī muttāva pañjarā;
โอหาย ปุเตฺต นิกฺขมิํ, สีหีวามิสคิทฺธินี;
Ohāya putte nikkhamiṃ, sīhīvāmisagiddhinī;
ตฺยชฺช ปุเตฺต น ปสฺสามิ, ชาลิํ กณฺหาชินํ จุโภฯ
Tyajja putte na passāmi, jāliṃ kaṇhājinaṃ cubho.
๒๒๐๖.
2206.
‘‘อิทํ เนสํ ปทกฺกนฺตํ, นาคานมิว ปพฺพเต;
‘‘Idaṃ nesaṃ padakkantaṃ, nāgānamiva pabbate;
จิตกา ปริกิณฺณาโย, อสฺสมสฺสาวิทูรโต;
Citakā parikiṇṇāyo, assamassāvidūrato;
ตฺยชฺช ปุเตฺต น ปสฺสามิ, ชาลิํ กณฺหาชินํ จุโภฯ
Tyajja putte na passāmi, jāliṃ kaṇhājinaṃ cubho.
๒๒๐๗.
2207.
‘‘วาลิกายปิ โอกิณฺณา, ปุตฺตกา ปํสุกุณฺฐิตา;
‘‘Vālikāyapi okiṇṇā, puttakā paṃsukuṇṭhitā;
สมนฺตา อภิธาวนฺติ, เต น ปสฺสามิ ทารเกฯ
Samantā abhidhāvanti, te na passāmi dārake.
๒๒๐๘.
2208.
‘‘เย มํ ปุเร ปจฺจุเฎฺฐนฺติ, อรญฺญา ทูรมายติํ;
‘‘Ye maṃ pure paccuṭṭhenti, araññā dūramāyatiṃ;
ตฺยชฺช ปุเตฺต น ปสฺสามิ, ชาลิํ กณฺหาชินํ จุโภฯ
Tyajja putte na passāmi, jāliṃ kaṇhājinaṃ cubho.
๒๒๐๙.
2209.
‘‘ฉกลิํว มิคิํ ฉาปา, ปจฺจุคฺคนฺตุน มาตรํ;
‘‘Chakaliṃva migiṃ chāpā, paccuggantuna mātaraṃ;
ทูเร มํ ปวิโลเกนฺติ, เต น ปสฺสามิ ทารเกฯ
Dūre maṃ pavilokenti, te na passāmi dārake.
๒๒๑๐.
2210.
‘‘อิทํ เนสํ กีฬนกํ, ปติตํ ปณฺฑุเพลุวํ;
‘‘Idaṃ nesaṃ kīḷanakaṃ, patitaṃ paṇḍubeluvaṃ;
ตฺยชฺช ปุเตฺต น ปสฺสามิ, ชาลิํ กณฺหาชินํ จุโภฯ
Tyajja putte na passāmi, jāliṃ kaṇhājinaṃ cubho.
๒๒๑๑.
2211.
‘‘ถนา จ มยฺหิเม ปูรา, อุโร จ สมฺปทาลติ;
‘‘Thanā ca mayhime pūrā, uro ca sampadālati;
ตฺยชฺช ปุเตฺต น ปสฺสามิ, ชาลิํ กณฺหาชินํ จุโภฯ
Tyajja putte na passāmi, jāliṃ kaṇhājinaṃ cubho.
๒๒๑๒.
2212.
‘‘อุจฺฉเงฺคโก วิจินาติ, ถนเมกาวลมฺพติ;
‘‘Ucchaṅgeko vicināti, thanamekāvalambati;
ตฺยชฺช ปุเตฺต น ปสฺสามิ, ชาลิํ กณฺหาชินํ จุโภฯ
Tyajja putte na passāmi, jāliṃ kaṇhājinaṃ cubho.
๒๒๑๓.
2213.
‘‘ยสฺสุ สายนฺหสมยํ, ปุตฺตกา ปํสุกุณฺฐิตา;
‘‘Yassu sāyanhasamayaṃ, puttakā paṃsukuṇṭhitā;
อุจฺฉเงฺค เม วิวตฺตนฺติ, เต น ปสฺสามิ ทารเกฯ
Ucchaṅge me vivattanti, te na passāmi dārake.
๒๒๑๔.
2214.
‘‘อยํ โส อสฺสโม ปุเพฺพ, สมโชฺช ปฎิภาติ มํ;
‘‘Ayaṃ so assamo pubbe, samajjo paṭibhāti maṃ;
ตฺยชฺช ปุเตฺต อปสฺสนฺตฺยา, ภมเต วิย อสฺสโมฯ
Tyajja putte apassantyā, bhamate viya assamo.
๒๒๑๕.
2215.
‘‘กิมิทํ อปฺปสโทฺทว, อสฺสโม ปฎิภาติ มํ;
‘‘Kimidaṃ appasaddova, assamo paṭibhāti maṃ;
กาโกลาปิ น วสฺสนฺติ, มตา เม นูน ทารกาฯ
Kākolāpi na vassanti, matā me nūna dārakā.
๒๒๑๖.
2216.
‘‘กิมิทํ อปฺปสโทฺทว, อสฺสโม ปฎิภาติ มํ;
‘‘Kimidaṃ appasaddova, assamo paṭibhāti maṃ;
สกุณาปิ น วสฺสนฺติ, มตา เม นูน ทารกา’’ติฯ
Sakuṇāpi na vassanti, matā me nūna dārakā’’ti.
ตตฺถ นนฺติ นิปาตมตฺตํฯ ปํสุกุณฺฐิตาติ ปํสุมกฺขิตาฯ ปจฺจุคฺคตา มนฺติ มํ ปจฺจุคฺคตา หุตฺวาฯ ‘‘ปจฺจุคฺคนฺตุนา’’ติปิ ปาโฐ, ปจฺจุคฺคนฺตฺวาอิเจฺจว อโตฺถฯ อุกฺกณฺณาติ ยถา มิคโปตกา มาตรํ ทิสฺวา กเณฺณ อุกฺขิปิตฺวา คีวํ ปสาเรตฺวา มาตรํ อุปคนฺตฺวา หฎฺฐตุฎฺฐา สมนฺตา อภิธาวิโนฯ วคฺคมานาว กมฺปเรติวชฺชมานาเยว มาตุ หทยมํสํ กเมฺปนฺติ วิย เอวํ ปุเพฺพ มม ปุตฺตาฯ ตฺยชฺชาติ เต อชฺช น ปสฺสามิฯ ฉกลีว มิคี ฉาปนฺติ ยถา ฉกลี จ มิคี จ ปญฺชรสงฺขาตา กุลาวกา มุตฺตา ปกฺขี จ อามิสคิทฺธินี สีหี จ อตฺตโน ฉาปํ โอหาย โคจราย ปกฺกมนฺติ, ตถาหมฺปิ โอหาย ปุเตฺต โคจราย นิกฺขมินฺติ วทติฯ อิทํ เนสํ ปทกฺกนฺตนฺติ วสฺสารเตฺต สานุปพฺพเต นาคานํ ปทวลญฺชํ วิย อิทํ เนสํ กีฬนฎฺฐาเน อาธาวนปริธาวนปทกฺกนฺตํ ปญฺญายติฯ จิตกาติ สญฺจิตนิจิตา กวาลุกปุญฺชาฯ ปริกิณฺณาโยติ วิปฺปกิณฺณาโยฯ สมนฺตา มภิธาวนฺตีติ อเญฺญสุ ทิวเสสุ สมนฺตา อภิธาวนฺติฯ
Tattha nanti nipātamattaṃ. Paṃsukuṇṭhitāti paṃsumakkhitā. Paccuggatā manti maṃ paccuggatā hutvā. ‘‘Paccuggantunā’’tipi pāṭho, paccuggantvāicceva attho. Ukkaṇṇāti yathā migapotakā mātaraṃ disvā kaṇṇe ukkhipitvā gīvaṃ pasāretvā mātaraṃ upagantvā haṭṭhatuṭṭhā samantā abhidhāvino. Vaggamānāvakamparetivajjamānāyeva mātu hadayamaṃsaṃ kampenti viya evaṃ pubbe mama puttā. Tyajjāti te ajja na passāmi. Chakalīva migī chāpanti yathā chakalī ca migī ca pañjarasaṅkhātā kulāvakā muttā pakkhī ca āmisagiddhinī sīhī ca attano chāpaṃ ohāya gocarāya pakkamanti, tathāhampi ohāya putte gocarāya nikkhaminti vadati. Idaṃ nesaṃ padakkantanti vassāratte sānupabbate nāgānaṃ padavalañjaṃ viya idaṃ nesaṃ kīḷanaṭṭhāne ādhāvanaparidhāvanapadakkantaṃ paññāyati. Citakāti sañcitanicitā kavālukapuñjā. Parikiṇṇāyoti vippakiṇṇāyo. Samantā mabhidhāvantīti aññesu divasesu samantā abhidhāvanti.
ปจฺจุเฎฺฐนฺตีติ ปจฺจุคฺคจฺฉนฺติฯ ทูรมายตินฺติ ทูรโต อาคจฺฉนฺติํฯ ฉกลิํว มิคิํ ฉาปาติ อตฺตโน มาตรํ ฉกลิํ วิย มิคิํ วิย จ ฉาปาฯ อิทํ เนสํ กีฬนกนฺติ หตฺถิรูปกาทีหิ กีฬนฺตานํ อิทญฺจ เตสํ หตฺถโต สุวณฺณวณฺณํ กีฬนเพลุวํ ปริคฬิตฺวา ปติตํฯ มยฺหิเมติ มยฺหํ อิเม ถนา จ ขีรสฺส ปูราฯ อุโร จ สมฺปทาลตีติ หทยญฺจ ผลติฯ อุจฺฉเงฺค เม วิวตฺตนฺตีติ มม อุจฺฉเงฺค อาวตฺตนฺติ วิวตฺตนฺติฯ สมโชฺช ปฎิภาติ มนฺติ สมชฺชฎฺฐานํ วิย มยฺหํ อุปฎฺฐาติฯ ตฺยชฺชาติ เต อชฺชฯ อปสฺสนฺตฺยาติ อปสฺสนฺติยา มมฯ ภมเต วิยาติ กุลาลจกฺกํ วิย ภมติฯ กาโกลาติ วนกากาฯ มตา นูนาติ อทฺธา มตา วา เกนจิ นีตา วา ภวิสฺสนฺติฯ สกุณาติ อวเสสสกุณาฯ
Paccuṭṭhentīti paccuggacchanti. Dūramāyatinti dūrato āgacchantiṃ. Chakaliṃva migiṃ chāpāti attano mātaraṃ chakaliṃ viya migiṃ viya ca chāpā. Idaṃ nesaṃ kīḷanakanti hatthirūpakādīhi kīḷantānaṃ idañca tesaṃ hatthato suvaṇṇavaṇṇaṃ kīḷanabeluvaṃ parigaḷitvā patitaṃ. Mayhimeti mayhaṃ ime thanā ca khīrassa pūrā. Uro ca sampadālatīti hadayañca phalati. Ucchaṅge me vivattantīti mama ucchaṅge āvattanti vivattanti. Samajjo paṭibhāti manti samajjaṭṭhānaṃ viya mayhaṃ upaṭṭhāti. Tyajjāti te ajja. Apassantyāti apassantiyā mama. Bhamate viyāti kulālacakkaṃ viya bhamati. Kākolāti vanakākā. Matā nūnāti addhā matā vā kenaci nītā vā bhavissanti. Sakuṇāti avasesasakuṇā.
อิติ สา วิลปนฺตี มหาสตฺตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ผลปจฺฉิํ โอตาเรตฺวา มหาสตฺตํ ตุณฺหิมาสีนํ ทิสฺวา ทารเก จสฺส สนฺติเก อปสฺสนฺตี อาห –
Iti sā vilapantī mahāsattassa santikaṃ gantvā phalapacchiṃ otāretvā mahāsattaṃ tuṇhimāsīnaṃ disvā dārake cassa santike apassantī āha –
๒๒๑๗.
2217.
‘‘กิมิทํ ตุณฺหิภูโตสิ, อปิ รเตฺตว เม มโน;
‘‘Kimidaṃ tuṇhibhūtosi, api ratteva me mano;
กาโกลาปิ น วสฺสนฺติ, มตา เม นูน ทารกาฯ
Kākolāpi na vassanti, matā me nūna dārakā.
๒๒๑๘.
2218.
‘‘กิมิทํ ตุณฺหิภูโตสิ, อปิ รเตฺตว เม มโน;
‘‘Kimidaṃ tuṇhibhūtosi, api ratteva me mano;
สกุณาปิ น วสฺสนฺติ, มตา เม นูน ทารกาฯ
Sakuṇāpi na vassanti, matā me nūna dārakā.
๒๒๑๙.
2219.
‘‘กจฺจิ นุ เม อยฺยปุตฺต, มิคา ขาทิํสุ ทารเก;
‘‘Kacci nu me ayyaputta, migā khādiṃsu dārake;
อรเญฺญ อิริเณ วิวเน, เกน นีตา เม ทารกาฯ
Araññe iriṇe vivane, kena nītā me dārakā.
๒๒๒๐.
2220.
‘‘อทุ เต ปหิตา ทูตา, อทุ สุตฺตา ปิยํวทา;
‘‘Adu te pahitā dūtā, adu suttā piyaṃvadā;
อทุ พหิ โน นิกฺขนฺตา, ขิฑฺฑาสุ ปสุตา นุ เตฯ
Adu bahi no nikkhantā, khiḍḍāsu pasutā nu te.
๒๒๒๑.
2221.
‘‘เนวาสํ เกสา ทิสฺสนฺติ, หตฺถปาทา จ ชาลิโน;
‘‘Nevāsaṃ kesā dissanti, hatthapādā ca jālino;
สกุณานญฺจ โอปาโต, เกน นีตา เม ทารกา’’ติฯ
Sakuṇānañca opāto, kena nītā me dārakā’’ti.
ตตฺถ อปิ รเตฺตว เม มโนติ อปิ พลวปจฺจูเส สุปินํ ปสฺสนฺติยา วิย เม มโนฯ มิคาติ สีหาทโย วาฬมิคาฯ อิริเณติ นิโรเชฯ วิวเนติ วิวิเตฺตฯ ทูตาติ อทุ เชตุตฺตรนคเร สิวิรโญฺญ สนฺติกํ ตยา ทูตา กตฺวา เปสิตาฯ สุตฺตาติ อโนฺตปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา สยิตาฯ อทุ พหิ โนติ อทุ เต ทารกา ขิฑฺฑาปสุตา หุตฺวา พหิ นิกฺขนฺตาติ ปุจฺฉติฯ เนวาสํ เกสา ทิสฺสนฺตีติ สามิ เวสฺสนฺตร, เนว เตสํ กาฬญฺชนวณฺณา เกสา ทิสฺสนฺติฯ ชาลิโนติ กญฺจนชาลวิจิตฺตา หตฺถปาทาฯ สกุณานญฺจ โอปาโตติ หิมวนฺตปเทเส หตฺถิลิงฺคสกุณา นาม อตฺถิ, เต โอปติตฺวา อาทาย อากาเสเนว คจฺฉนฺติฯ เตน ตํ ปุจฺฉามิ ‘‘กิํ เตหิ สกุเณหิ นีตา, อิโต อเญฺญสมฺปิ เกสญฺจิ เตสํ สกุณานํ วิย โอปาโต ชาโต, อกฺขาหิ, เกน นีตา เม ทารกา’’ติ?
Tattha api ratteva me manoti api balavapaccūse supinaṃ passantiyā viya me mano. Migāti sīhādayo vāḷamigā. Iriṇeti niroje. Vivaneti vivitte. Dūtāti adu jetuttaranagare sivirañño santikaṃ tayā dūtā katvā pesitā. Suttāti antopaṇṇasālaṃ pavisitvā sayitā. Adu bahi noti adu te dārakā khiḍḍāpasutā hutvā bahi nikkhantāti pucchati. Nevāsaṃ kesā dissantīti sāmi vessantara, neva tesaṃ kāḷañjanavaṇṇā kesā dissanti. Jālinoti kañcanajālavicittā hatthapādā. Sakuṇānañca opātoti himavantapadese hatthiliṅgasakuṇā nāma atthi, te opatitvā ādāya ākāseneva gacchanti. Tena taṃ pucchāmi ‘‘kiṃ tehi sakuṇehi nītā, ito aññesampi kesañci tesaṃ sakuṇānaṃ viya opāto jāto, akkhāhi, kena nītā me dārakā’’ti?
เอวํ วุเตฺตปิ มหาสโตฺต น กิญฺจิ อาหฯ อถ นํ สา ‘‘เทว, กสฺมา มยา สทฺธิํ น กเถสิ, โก มม โทโส’’ติ วตฺวา อาห –
Evaṃ vuttepi mahāsatto na kiñci āha. Atha naṃ sā ‘‘deva, kasmā mayā saddhiṃ na kathesi, ko mama doso’’ti vatvā āha –
๒๒๒๒.
2222.
‘‘อิทํ ตโต ทุกฺขตรํ, สลฺลวิโทฺธ ยถา วโณ;
‘‘Idaṃ tato dukkhataraṃ, sallaviddho yathā vaṇo;
ตฺยชฺช ปุเตฺต น ปสฺสามิ, ชาลิํ กณฺหาชินํ จุโภฯ
Tyajja putte na passāmi, jāliṃ kaṇhājinaṃ cubho.
๒๒๒๓.
2223.
‘‘อิทมฺปิ ทุติยํ สลฺลํ, กเมฺปติ หทยํ มม;
‘‘Idampi dutiyaṃ sallaṃ, kampeti hadayaṃ mama;
ยญฺจ ปุเตฺต น ปสฺสามิ, ตฺวญฺจ มํ นาภิภาสสิฯ
Yañca putte na passāmi, tvañca maṃ nābhibhāsasi.
๒๒๒๔.
2224.
‘‘อเชฺชว เม อิมํ รตฺติํ, ราชปุตฺต น สํสติ;
‘‘Ajjeva me imaṃ rattiṃ, rājaputta na saṃsati;
มเญฺญ โอกฺกนฺตสนฺตํ มํ, ปาโต ทกฺขิสิ โน มต’’นฺติฯ
Maññe okkantasantaṃ maṃ, pāto dakkhisi no mata’’nti.
ตตฺถ อิทํ ตโต ทุกฺขตรนฺติ สามิ เวสฺสนฺตร, ยํ มม รฎฺฐา ปพฺพาชิตาย อรเญฺญ วสนฺติยา ปุเตฺต จ อปสฺสนฺติยา ทุกฺขํ, อิทํ ตว มยา สทฺธิํ อกถนํ มยฺหํ ตโต ทุกฺขตรํฯ ตฺวญฺหิ มํ อคฺคิทฑฺฒํ ปฎิทหโนฺต วิย ปปาตา ปติตํ ทเณฺฑน โปเถโนฺต วิย สเลฺลน วณํ วิชฺฌโนฺต วิย ตุณฺหีภาเวน กิลเมสิฯ อิทญฺหิ เม หทยํ สลฺลวิโทฺธ ยถา วโณ ตเถว กมฺปติ เจว รุชติ จฯ ‘‘สมฺปวิโทฺธ’’ติปิ ปาโฐ, สมฺปติวิโทฺธติ อโตฺถฯ โอกฺกนฺตสนฺตํ มนฺติ อปคตชีวิตํ มํฯ ทกฺขิสิ โน มตนฺติ เอตฺถ โน-กาโร นิปาตมโตฺต, มตํ มํ กาลเสฺสว ตฺวํ ปสฺสิสฺสสีติ อโตฺถฯ
Tattha idaṃ tato dukkhataranti sāmi vessantara, yaṃ mama raṭṭhā pabbājitāya araññe vasantiyā putte ca apassantiyā dukkhaṃ, idaṃ tava mayā saddhiṃ akathanaṃ mayhaṃ tato dukkhataraṃ. Tvañhi maṃ aggidaḍḍhaṃ paṭidahanto viya papātā patitaṃ daṇḍena pothento viya sallena vaṇaṃ vijjhanto viya tuṇhībhāvena kilamesi. Idañhi me hadayaṃ sallaviddho yathā vaṇo tatheva kampati ceva rujati ca. ‘‘Sampaviddho’’tipi pāṭho, sampatividdhoti attho. Okkantasantaṃmanti apagatajīvitaṃ maṃ. Dakkhisi no matanti ettha no-kāro nipātamatto, mataṃ maṃ kālasseva tvaṃ passissasīti attho.
อถ มหาสโตฺต ‘‘กกฺขฬกถาย นํ ปุตฺตโสกํ ชหาเปสฺสามี’’ติ จิเนฺตตฺวา อิมํ คาถมาห –
Atha mahāsatto ‘‘kakkhaḷakathāya naṃ puttasokaṃ jahāpessāmī’’ti cintetvā imaṃ gāthamāha –
๒๒๒๕.
2225.
‘‘นูน มทฺที วราโรหา, ราชปุตฺตี ยสสฺสินี;
‘‘Nūna maddī varārohā, rājaputtī yasassinī;
ปาโต คตาสิ อุญฺฉาย, กิมิทํ สายมาคตา’’ติฯ
Pāto gatāsi uñchāya, kimidaṃ sāyamāgatā’’ti.
ตตฺถ กิมิทํ สายมาคตาติ ‘‘มทฺทิ, ตฺวํ อภิรูปา ปาสาทิกา, หิมวเนฺต จ นาม พหู วนจรกา ตาปสวิชฺชาธราทโย วิจรนฺติฯ โก ชานาติ, กิํ ภวิสฺสติ, กิญฺจิ ตยา กตํ, ตฺวํ ปาโตว คนฺตฺวา กิมิทํ สายมาคจฺฉสิ, ทหรกุมารเก โอหาย อรญฺญคติตฺถิโย นาม สสามิกิตฺถิโย เอวรูปา น โหนฺติ, ‘กา นุ โข เม ทารกานํ ปวตฺติ, กิํ วา เม สามิโก จิเนฺตสฺสตี’ติ เอตฺตกมฺปิ เต นาโหสิฯ ตฺวํ ปาโตว คนฺตฺวา จนฺทาโลเกน อาคจฺฉสิ, มม ทุคฺคตภาวเสฺสเวส โทโส’’ติ ตเชฺชตฺวา วเญฺจตฺวา กเถสิฯ
Tattha kimidaṃ sāyamāgatāti ‘‘maddi, tvaṃ abhirūpā pāsādikā, himavante ca nāma bahū vanacarakā tāpasavijjādharādayo vicaranti. Ko jānāti, kiṃ bhavissati, kiñci tayā kataṃ, tvaṃ pātova gantvā kimidaṃ sāyamāgacchasi, daharakumārake ohāya araññagatitthiyo nāma sasāmikitthiyo evarūpā na honti, ‘kā nu kho me dārakānaṃ pavatti, kiṃ vā me sāmiko cintessatī’ti ettakampi te nāhosi. Tvaṃ pātova gantvā candālokena āgacchasi, mama duggatabhāvassevesa doso’’ti tajjetvā vañcetvā kathesi.
สา ตสฺส กถํ สุตฺวา อาห –
Sā tassa kathaṃ sutvā āha –
๒๒๒๖.
2226.
‘‘นนุ ตฺวํ สทฺทมโสฺสสิ, เย สรํ ปาตุมาคตา;
‘‘Nanu tvaṃ saddamassosi, ye saraṃ pātumāgatā;
สีหสฺสปิ นทนฺตสฺส, พฺยคฺฆสฺส จ นิกุชฺชิตํฯ
Sīhassapi nadantassa, byagghassa ca nikujjitaṃ.
๒๒๒๗.
2227.
‘‘อหุ ปุพฺพนิมิตฺตํ เม, วิจรนฺตฺยา พฺรหาวเน;
‘‘Ahu pubbanimittaṃ me, vicarantyā brahāvane;
ขณิโตฺต เม หตฺถา ปติโต, อุคฺคีวญฺจาปิ อํสโตฯ
Khaṇitto me hatthā patito, uggīvañcāpi aṃsato.
๒๒๒๘.
2228.
‘‘ตทาหํ พฺยถิตา ภีตา, ปุถุ กตฺวาน อญฺชลิํ;
‘‘Tadāhaṃ byathitā bhītā, puthu katvāna añjaliṃ;
สพฺพทิสา นมสฺสิสฺสํ, อปิ โสตฺถิ อิโต สิยาฯ
Sabbadisā namassissaṃ, api sotthi ito siyā.
๒๒๒๙.
2229.
‘‘มา เหว โน ราชปุโตฺต, หโต สีเหน ทีปินา;
‘‘Mā heva no rājaputto, hato sīhena dīpinā;
ทารกา วา ปรามฎฺฐา, อจฺฉโกกตรจฺฉิหิฯ
Dārakā vā parāmaṭṭhā, acchakokataracchihi.
๒๒๓๐.
2230.
‘‘สีโห พฺยโคฺฆ จ ทีปิ จ, ตโย วาฬา วเน มิคา;
‘‘Sīho byaggho ca dīpi ca, tayo vāḷā vane migā;
เต มํ ปริยาวรุํ มคฺคํ, เตน สายมฺหิ อาคตา’’ติฯ
Te maṃ pariyāvaruṃ maggaṃ, tena sāyamhi āgatā’’ti.
ตตฺถ เย สรํ ปาตุมาคตาติ เย ปานียํ ปาตุํ อิมํ สรํ อาคตาฯ พฺยคฺฆสฺส จาติ พฺยคฺฆสฺส จ อเญฺญสํ หตฺถิอาทีนํ จตุปฺปทานเญฺจว สกุณสงฺฆสฺส จ นิกูชิตํ เอกนินฺนาทสทฺทํ กิํ ตฺวํ น อโสฺสสีติ ปุจฺฉติฯ โส ปน มหาสเตฺตน ปุตฺตานํ ทินฺนเวลาย สโทฺท อโหสิฯ อหุ ปุพฺพนิมิตฺตํ เมติ เทว, อิมสฺส เม ทุกฺขสฺส อนุภวนตฺถาย ปุพฺพนิมิตฺตํ อโหสิฯ อุคฺคีวนฺติ อํสกูเฎ ปจฺฉิลคฺคนกํฯ ปุถูติ วิสุํ วิสุํฯ สพฺพทิสา นมสฺสิสฺสนฺติ สพฺพา ทส ทิสา นมสฺสิํฯ มา เหว โนติ อมฺหากํ ราชปุโตฺต สีหาทีหิ หโต มา โหตุ, ทารกาปิ อจฺฉาทีหิ ปรามฎฺฐา มา โหนฺตูติ ปตฺถยนฺตี นมสฺสิสฺสํฯ เต มํ ปริยาวรุํ มคฺคนฺติ สามิ เวสฺสนฺตร, อหํ ‘‘อิมานิ จ ภีสนกานิ มหนฺตานิ, ทุสฺสุปิโน จ เม ทิโฎฺฐ, อชฺช สกาลเสฺสว คมิสฺสามี’’ติ กมฺปมานา มูลผลาผลานิ อุปธาเรสิํ, อถ เม ผลิตรุกฺขาปิ อผลา วิย อผลา จ ผลิโน วิย ทิสฺสนฺติ, กิเจฺฉน ผลาผลานิ คเหตฺวา คิริทฺวารํ สมฺปาปุณิํฯ อถ เต สีหาทโย มํ ทิสฺวา มคฺคํ ปฎิปาฎิยา รุมฺภิตฺวา อฎฺฐํสุฯ เตน สายํ อาคตามฺหิ, ขมาหิ เม, สามีติฯ
Tattha ye saraṃ pātumāgatāti ye pānīyaṃ pātuṃ imaṃ saraṃ āgatā. Byagghassa cāti byagghassa ca aññesaṃ hatthiādīnaṃ catuppadānañceva sakuṇasaṅghassa ca nikūjitaṃ ekaninnādasaddaṃ kiṃ tvaṃ na assosīti pucchati. So pana mahāsattena puttānaṃ dinnavelāya saddo ahosi. Ahu pubbanimittaṃ meti deva, imassa me dukkhassa anubhavanatthāya pubbanimittaṃ ahosi. Uggīvanti aṃsakūṭe pacchilagganakaṃ. Puthūti visuṃ visuṃ. Sabbadisā namassissanti sabbā dasa disā namassiṃ. Mā heva noti amhākaṃ rājaputto sīhādīhi hato mā hotu, dārakāpi acchādīhi parāmaṭṭhā mā hontūti patthayantī namassissaṃ. Te maṃ pariyāvaruṃ magganti sāmi vessantara, ahaṃ ‘‘imāni ca bhīsanakāni mahantāni, dussupino ca me diṭṭho, ajja sakālasseva gamissāmī’’ti kampamānā mūlaphalāphalāni upadhāresiṃ, atha me phalitarukkhāpi aphalā viya aphalā ca phalino viya dissanti, kicchena phalāphalāni gahetvā giridvāraṃ sampāpuṇiṃ. Atha te sīhādayo maṃ disvā maggaṃ paṭipāṭiyā rumbhitvā aṭṭhaṃsu. Tena sāyaṃ āgatāmhi, khamāhi me, sāmīti.
มหาสโตฺต ตาย สทฺธิํ เอตฺตกเมว กถํ วตฺวา ยาว อรุณุคฺคมนา น กิญฺจิ กเถสิฯ ตโต ปฎฺฐาย มทฺที นานปฺปการกํ วิลปนฺตี อาห –
Mahāsatto tāya saddhiṃ ettakameva kathaṃ vatvā yāva aruṇuggamanā na kiñci kathesi. Tato paṭṭhāya maddī nānappakārakaṃ vilapantī āha –
๒๒๓๑.
2231.
‘‘อหํ ปติญฺจ ปุเตฺต จ, อาเจรมิว มาณโว;
‘‘Ahaṃ patiñca putte ca, āceramiva māṇavo;
อนุฎฺฐิตา ทิวารตฺติํ, ชฎินี พฺรหฺมจารินีฯ
Anuṭṭhitā divārattiṃ, jaṭinī brahmacārinī.
๒๒๓๒.
2232.
‘‘อชินานิ ปริทหิตฺวา, วนมูลผลหาริยา;
‘‘Ajināni paridahitvā, vanamūlaphalahāriyā;
วิจรามิ ทิวารตฺติํ, ตุมฺหํ กามา หิ ปุตฺตกาฯ
Vicarāmi divārattiṃ, tumhaṃ kāmā hi puttakā.
๒๒๓๓.
2233.
‘‘อหํ สุวณฺณหลิทฺทิํ, อาภตํ ปณฺฑุเพลุวํ;
‘‘Ahaṃ suvaṇṇahaliddiṃ, ābhataṃ paṇḍubeluvaṃ;
รุกฺขปกฺกานิ จาหาสิํ, อิเม โว ปุตฺต กีฬนาฯ
Rukkhapakkāni cāhāsiṃ, ime vo putta kīḷanā.
๒๒๓๔.
2234.
‘‘อิมํ มูฬาลิวตฺตกํ, สาลุกํ จิญฺจเภทกํ;
‘‘Imaṃ mūḷālivattakaṃ, sālukaṃ ciñcabhedakaṃ;
ภุญฺช ขุเทฺทหิ สํยุตฺตํ, สห ปุเตฺตหิ ขตฺติยฯ
Bhuñja khuddehi saṃyuttaṃ, saha puttehi khattiya.
๒๒๓๕.
2235.
‘‘ปทุมํ ชาลิโน เทหิ, กุมุทญฺจ กุมาริยา;
‘‘Padumaṃ jālino dehi, kumudañca kumāriyā;
มาลิเน ปสฺส นจฺจเนฺต, สิวิ ปุตฺตานิ อวฺหยฯ
Māline passa naccante, sivi puttāni avhaya.
๒๒๓๖.
2236.
‘‘ตโต กณฺหาชินายปิ, นิสาเมหิ รเถสภ;
‘‘Tato kaṇhājināyapi, nisāmehi rathesabha;
มญฺชุสฺสราย วคฺคุยา, อสฺสมํ อุปยนฺติยาฯ
Mañjussarāya vagguyā, assamaṃ upayantiyā.
๒๒๓๗.
2237.
‘‘สมานสุขทุกฺขมฺหา, รฎฺฐา ปพฺพาชิตา อุโภ;
‘‘Samānasukhadukkhamhā, raṭṭhā pabbājitā ubho;
อปิ สิวิ ปุเตฺต ปเสฺสสิ, ชาลิํ กณฺหาชินํ จุโภฯ
Api sivi putte passesi, jāliṃ kaṇhājinaṃ cubho.
๒๒๓๘.
2238.
‘‘สมเณ พฺราหฺมเณ นูน, พฺรหฺมจริยปรายเณ;
‘‘Samaṇe brāhmaṇe nūna, brahmacariyaparāyaṇe;
อหํ โลเก อภิสฺสปิํ, สีลวเนฺต พหุสฺสุเต;
Ahaṃ loke abhissapiṃ, sīlavante bahussute;
ตฺยชฺช ปุเตฺต น ปสฺสามิ, ชาลิํ กณฺหาชินํ จุโภ’’ติฯ
Tyajja putte na passāmi, jāliṃ kaṇhājinaṃ cubho’’ti.
ตตฺถ อาเจรมิว มาณโวติ วตฺตสมฺปโนฺน อเนฺตวาสิโก อาจริยํ วิย ปฎิชคฺคติฯ อนุฎฺฐิตาติ ปาริจริยานุฎฺฐาเนน อนุฎฺฐิตา อปฺปมตฺตา หุตฺวา ปฎิชคฺคามิฯ ตุมฺหํ กามาติ ตุมฺหากํ กาเมน ตุเมฺห ปตฺถยนฺตีฯ ปุตฺตกาติ กุมาเร อาลปนฺตี ปริเทวติฯ สุวณฺณหลิทฺทินฺติ ปุตฺตกา อหํ ตุมฺหากํ นฺหาปนตฺถาย สุวณฺณวณฺณํ หลิทฺทิํ ฆํสิตฺวา อาทาย อาคตาฯ ปณฺฑุเพลุวนฺติ กีฬนตฺถาย จ โว อิทํ สุวณฺณวณฺณํ เพลุวปกฺกํ มยา อาภตํฯ รุกฺขปกฺกานีติ ตุมฺหากํ กีฬนตฺถาย อญฺญานิปิ มนาปานิ รุกฺขผลานิ อาหาสิํฯ อิเม โวติ ปุตฺตกา อิเม โว กีฬนาติ วทติฯ มูฬาลิวตฺตกนฺติ มูฬาลกุณฺฑลกํฯ สาลุกนฺติ อิทํ อุปฺปลาทิสาลุกมฺปิ เม พหุ อาภตํฯ จิญฺจเภทกนฺติ สิงฺฆาฎกํฯ ภุญฺชาติ อิทํ สพฺพํ ขุทฺทมธุนา สํยุตฺตํ ปุเตฺตหิ สทฺธิํ ภุญฺชาหีติ ปริเทวติฯ สิวิ ปุตฺตานิ อวฺหยาติ สามิ สิวิราช, ปณฺณสาลาย สยาปิตฎฺฐานโต สีฆํ ปุตฺตเก ปโกฺกสาหิฯ อปิ สิวิ ปุเตฺต ปเสฺสสีติ สามิ สิวิราช, อปิ ปุเตฺต ปสฺสสิ, สเจ ปสฺสสิ, มม ทเสฺสหิ, กิํ มํ อติวิย กิลเมสิฯ อภิสฺสปินฺติ ตุมฺหากํ ปุตฺตธีตโร มา ปสฺสิตฺถาติ เอวํ นูน อโกฺกสินฺติฯ
Tattha āceramiva māṇavoti vattasampanno antevāsiko ācariyaṃ viya paṭijaggati. Anuṭṭhitāti pāricariyānuṭṭhānena anuṭṭhitā appamattā hutvā paṭijaggāmi. Tumhaṃ kāmāti tumhākaṃ kāmena tumhe patthayantī. Puttakāti kumāre ālapantī paridevati. Suvaṇṇahaliddinti puttakā ahaṃ tumhākaṃ nhāpanatthāya suvaṇṇavaṇṇaṃ haliddiṃ ghaṃsitvā ādāya āgatā. Paṇḍubeluvanti kīḷanatthāya ca vo idaṃ suvaṇṇavaṇṇaṃ beluvapakkaṃ mayā ābhataṃ. Rukkhapakkānīti tumhākaṃ kīḷanatthāya aññānipi manāpāni rukkhaphalāni āhāsiṃ. Ime voti puttakā ime vo kīḷanāti vadati. Mūḷālivattakanti mūḷālakuṇḍalakaṃ. Sālukanti idaṃ uppalādisālukampi me bahu ābhataṃ. Ciñcabhedakanti siṅghāṭakaṃ. Bhuñjāti idaṃ sabbaṃ khuddamadhunā saṃyuttaṃ puttehi saddhiṃ bhuñjāhīti paridevati. Sivi puttāni avhayāti sāmi sivirāja, paṇṇasālāya sayāpitaṭṭhānato sīghaṃ puttake pakkosāhi. Api sivi putte passesīti sāmi sivirāja, api putte passasi, sace passasi, mama dassehi, kiṃ maṃ ativiya kilamesi. Abhissapinti tumhākaṃ puttadhītaro mā passitthāti evaṃ nūna akkosinti.
เอวํ วิลปมานายปิ ตาย สทฺธิํ มหาสโตฺต น กิญฺจิ กเถสิฯ สา ตสฺมิํ อกเถเนฺต กมฺปมานา จนฺทาโลเกน ปุเตฺต วิจินนฺตี เยสุ เยสุ ชมฺพุรุกฺขาทีสุ ปุเพฺพ กีฬิํสุ, ตานิ ตานิ ปตฺวา ปริเทวนฺตี อาห –
Evaṃ vilapamānāyapi tāya saddhiṃ mahāsatto na kiñci kathesi. Sā tasmiṃ akathente kampamānā candālokena putte vicinantī yesu yesu jamburukkhādīsu pubbe kīḷiṃsu, tāni tāni patvā paridevantī āha –
๒๒๓๙.
2239.
‘‘อิเม เต ชมฺพุกา รุกฺขา, เวทิสา สินฺทุวารกา;
‘‘Ime te jambukā rukkhā, vedisā sinduvārakā;
วิวิธานิ รุกฺขชาตานิ, เต กุมารา น ทิสฺสเรฯ
Vividhāni rukkhajātāni, te kumārā na dissare.
๒๒๔๐.
2240.
‘‘อสฺสตฺถา ปนสา เจเม, นิโคฺรธา จ กปิตฺถนา;
‘‘Assatthā panasā ceme, nigrodhā ca kapitthanā;
วิวิธานิ ผลชาตานิ, เต กุมารา น ทิสฺสเรฯ
Vividhāni phalajātāni, te kumārā na dissare.
๒๒๔๑.
2241.
‘‘อิเม ติฎฺฐนฺติ อารามา, อยํ สีตูทกา นที;
‘‘Ime tiṭṭhanti ārāmā, ayaṃ sītūdakā nadī;
ยตฺถสฺสุ ปุเพฺพ กีฬิํสุ, เต กุมารา น ทิสฺสเรฯ
Yatthassu pubbe kīḷiṃsu, te kumārā na dissare.
๒๒๔๒.
2242.
‘‘วิวิธานิ ปุปฺผชาตานิ, อสฺมิํ อุปริปพฺพเต;
‘‘Vividhāni pupphajātāni, asmiṃ uparipabbate;
ยานสฺสุ ปุเพฺพ ธาริํสุ, เต กุมารา น ทิสฺสเรฯ
Yānassu pubbe dhāriṃsu, te kumārā na dissare.
๒๒๔๓.
2243.
‘‘วิวิธานิ ผลชาตานิ, อสฺมิํ อุปริปพฺพเต;
‘‘Vividhāni phalajātāni, asmiṃ uparipabbate;
ยานสฺสุ ปุเพฺพ ภุญฺชิํสุ, เต กุมารา น ทิสฺสเรฯ
Yānassu pubbe bhuñjiṃsu, te kumārā na dissare.
๒๒๔๔.
2244.
‘‘อิเม เต หตฺถิกา อสฺสา, พลิพทฺทา จ เต อิเม;
‘‘Ime te hatthikā assā, balibaddā ca te ime;
เยหิสฺสุ ปุเพฺพ กีฬิํสุ, เต กุมารา น ทิสฺสเร’’ติฯ
Yehissu pubbe kīḷiṃsu, te kumārā na dissare’’ti.
ตตฺถ อิเม เต หตฺถิกาติ สา ปพฺพตูปริ ทารเก อทิสฺวา ปริเทวมานา ตโต โอรุยฺห ปุน อสฺสมปทํ อาคนฺตฺวา ตตฺถ เต อุปธาเรนฺตี เตสํ กีฬนภณฺฑกานิ ทิสฺวา เอวมาหฯ
Tattha ime te hatthikāti sā pabbatūpari dārake adisvā paridevamānā tato oruyha puna assamapadaṃ āgantvā tattha te upadhārentī tesaṃ kīḷanabhaṇḍakāni disvā evamāha.
อถสฺสา ปริเทวนสเทฺทน เจว ปทสเทฺทน จ มิคปกฺขิโน จลิํสุฯ สา เต ทิสฺวา อาห –
Athassā paridevanasaddena ceva padasaddena ca migapakkhino caliṃsu. Sā te disvā āha –
๒๒๔๕.
2245.
‘‘อิเม สามา สโสลูกา, พหุกา กทลีมิคา;
‘‘Ime sāmā sasolūkā, bahukā kadalīmigā;
เยหิสฺสุ ปุเพฺพ กีฬิํสุ, เต กุมารา น ทิสฺสเรฯ
Yehissu pubbe kīḷiṃsu, te kumārā na dissare.
๒๒๔๖.
2246.
‘‘อิเม หํสา จ โกญฺจา จ, มยูรา จิตฺรเปขุณา;
‘‘Ime haṃsā ca koñcā ca, mayūrā citrapekhuṇā;
เยหิสฺสุ ปุเพฺพ กีฬิํสุ, เต กุมารา น ทิสฺสเร’’ติฯ
Yehissu pubbe kīḷiṃsu, te kumārā na dissare’’ti.
ตตฺถ สามาติ ขุทฺทกา สามา สุวณฺณมิคาฯ สโสลูกาติ สสา จ อุลูกา จฯ
Tattha sāmāti khuddakā sāmā suvaṇṇamigā. Sasolūkāti sasā ca ulūkā ca.
สา อสฺสมปเท ปิยปุเตฺต อทิสฺวา นิกฺขมิตฺวา ปุปฺผิตวนฆฎํ ปวิสิตฺวา ตํ ตํ ฐานํ โอโลเกนฺตี อาห –
Sā assamapade piyaputte adisvā nikkhamitvā pupphitavanaghaṭaṃ pavisitvā taṃ taṃ ṭhānaṃ olokentī āha –
๒๒๔๗.
2247.
‘‘อิมา ตา วนคุมฺพาโย, ปุปฺผิตา สพฺพกาลิกา;
‘‘Imā tā vanagumbāyo, pupphitā sabbakālikā;
ยตฺถสฺสุ ปุเพฺพ กีฬิํสุ, เต กุมารา น ทิสฺสเรฯ
Yatthassu pubbe kīḷiṃsu, te kumārā na dissare.
๒๒๔๘.
2248.
‘‘อิมา ตา โปกฺขรณี รมฺมา, จกฺกวากูปกูชิตา;
‘‘Imā tā pokkharaṇī rammā, cakkavākūpakūjitā;
มนฺทาลเกหิ สญฺฉนฺนา, ปทุมุปฺปลเกหิ จ;
Mandālakehi sañchannā, padumuppalakehi ca;
ยตฺถสฺสุ ปุเพฺพ กีฬิํสุ, เต กุมารา น ทิสฺสเร’’ติฯ
Yatthassu pubbe kīḷiṃsu, te kumārā na dissare’’ti.
ตตฺถ วนคุมฺพาโยติ วนฆฎาโยฯ
Tattha vanagumbāyoti vanaghaṭāyo.
สา กตฺถจิ ปิยปุเตฺต อทิสฺวา ปุน มหาสตฺตสฺส สนฺติกํ อาคนฺตฺวา ตํ ทุมฺมุขํ นิสินฺนํ ทิสฺวา อาห –
Sā katthaci piyaputte adisvā puna mahāsattassa santikaṃ āgantvā taṃ dummukhaṃ nisinnaṃ disvā āha –
๒๒๔๙.
2249.
‘‘น เต กฎฺฐานิ ภินฺนานิ, น เต อุทกมาหฎํ;
‘‘Na te kaṭṭhāni bhinnāni, na te udakamāhaṭaṃ;
อคฺคิปิ เต น หาปิโต, กิํ นุ มโนฺทว ฌายสิฯ
Aggipi te na hāpito, kiṃ nu mandova jhāyasi.
๒๒๕๐.
2250.
‘‘ปิโย ปิเยน สงฺคมฺม, สโม เม พฺยปหญฺญติ;
‘‘Piyo piyena saṅgamma, samo me byapahaññati;
ตฺยชฺช ปุเตฺต น ปสฺสามิ, ชาลิํ กณฺหาชินํ จุโภ’’ติฯ
Tyajja putte na passāmi, jāliṃ kaṇhājinaṃ cubho’’ti.
ตตฺถ น หาปิโตติ น ชลิโตฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – สามิ, ตฺวํ ปุเพฺพ กฎฺฐานิ ภินฺทสิ, อุทกํ อาหริตฺวา ฐเปสิ, องฺคารกปเลฺล อคฺคิํ กโรสิ, อชฺช เตสุ เอกมฺปิ อกตฺวา กิํ นุ มโนฺทว ฌายสิ, ตว กิริยา มยฺหํ น รุจฺจตีติฯ ปิโย ปิเยนาติ เวสฺสนฺตโร มยฺหํ ปิโย, อิโต เม ปิยตโร นตฺถิ, อิมินา เม ปิเยน สงฺคมฺม สมาคนฺตฺวา ปุเพฺพ สโม เม พฺยปหญฺญติ ทุกฺขํ วิคจฺฉติ, อชฺช ปน เม อิมํ ปสฺสนฺติยาปิ โสโก น วิคจฺฉติ, กิํ นุ โข การณนฺติฯ ตฺยชฺชาติ โหตุ, ทิฎฺฐํ เม การณํ, เต อชฺช ปุเตฺต น ปสฺสามิ, เตน เม อิมํ ปสฺสนฺติยาปิ โสโก น วิคจฺฉตีติฯ
Tattha na hāpitoti na jalito. Idaṃ vuttaṃ hoti – sāmi, tvaṃ pubbe kaṭṭhāni bhindasi, udakaṃ āharitvā ṭhapesi, aṅgārakapalle aggiṃ karosi, ajja tesu ekampi akatvā kiṃ nu mandova jhāyasi, tava kiriyā mayhaṃ na ruccatīti. Piyo piyenāti vessantaro mayhaṃ piyo, ito me piyataro natthi, iminā me piyena saṅgamma samāgantvā pubbe samo me byapahaññati dukkhaṃ vigacchati, ajja pana me imaṃ passantiyāpi soko na vigacchati, kiṃ nu kho kāraṇanti. Tyajjāti hotu, diṭṭhaṃ me kāraṇaṃ, te ajja putte na passāmi, tena me imaṃ passantiyāpi soko na vigacchatīti.
ตาย เอวํ วุเตฺตปิ มหาสโตฺต ตุณฺหีภูโตว นิสีทิฯ สา ตสฺมิํ อกเถเนฺต โสกสมปฺปิตา ปหฎกุกฺกุฎี วิย กมฺปมานา ปุน ปฐมํ วิจริตฎฺฐานานิ วิจริตฺวา มหาสตฺตสฺส สนฺติกํ ปจฺจาคนฺตฺวา อาห –
Tāya evaṃ vuttepi mahāsatto tuṇhībhūtova nisīdi. Sā tasmiṃ akathente sokasamappitā pahaṭakukkuṭī viya kampamānā puna paṭhamaṃ vicaritaṭṭhānāni vicaritvā mahāsattassa santikaṃ paccāgantvā āha –
๒๒๕๑.
2251.
‘‘น โข โน เทว ปสฺสามิ, เยน เต นีหตา มตา;
‘‘Na kho no deva passāmi, yena te nīhatā matā;
กาโกลาปิ น วสฺสนฺติ, มตา เม นูน ทารกาฯ
Kākolāpi na vassanti, matā me nūna dārakā.
๒๒๕๒.
2252.
‘‘น โข โน เทว ปสฺสามิ, เยน เต นีหตา มตา;
‘‘Na kho no deva passāmi, yena te nīhatā matā;
สกุณาปิ น วสฺสนฺติ, มตา เม นูน ทารกา’’ติฯ
Sakuṇāpi na vassanti, matā me nūna dārakā’’ti.
ตตฺถ น โข โนติ เทว, น โข อมฺหากํ ปุเตฺต ปสฺสามิฯ เยน เต นีหตาติ เกนจิ เตสํ นีหตภาวมฺปิ น ชานามีติ อธิปฺปาเยเนวมาหฯ
Tattha na kho noti deva, na kho amhākaṃ putte passāmi. Yena te nīhatāti kenaci tesaṃ nīhatabhāvampi na jānāmīti adhippāyenevamāha.
เอวํ วุเตฺตปิ มหาสโตฺต น กิญฺจิ กเถสิเยวฯ สา ปุตฺตโสเกน ผุฎฺฐา ปุเตฺต อุปธาเรนฺตี ตติยมฺปิ ตานิ ตานิ ฐานานิ วาตเวเคน วิจริฯ ตาย เอกรตฺติํ วิจริตฎฺฐานํ ปริคฺคยฺหมานํ ปนฺนรสโยชนมตฺตํ อโหสิฯ อถ รตฺติ วิภาสิ, อรุโณทโย ชาโตฯ สา ปุน คนฺตฺวา มหาสตฺตสฺส สนฺติเก ฐิตา ปริเทวิฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Evaṃ vuttepi mahāsatto na kiñci kathesiyeva. Sā puttasokena phuṭṭhā putte upadhārentī tatiyampi tāni tāni ṭhānāni vātavegena vicari. Tāya ekarattiṃ vicaritaṭṭhānaṃ pariggayhamānaṃ pannarasayojanamattaṃ ahosi. Atha ratti vibhāsi, aruṇodayo jāto. Sā puna gantvā mahāsattassa santike ṭhitā paridevi. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๒๒๕๓.
2253.
‘‘สา ตตฺถ ปริเทวิตฺวา, ปพฺพตานิ วนานิ จ;
‘‘Sā tattha paridevitvā, pabbatāni vanāni ca;
ปุนเทวสฺสมํ คนฺตฺวา, โรทิ สามิกสนฺติเกฯ
Punadevassamaṃ gantvā, rodi sāmikasantike.
๒๒๕๔.
2254.
‘‘น โข โน เทว ปสฺสามิ, เยน เต นีหตา มตา;
‘‘Na kho no deva passāmi, yena te nīhatā matā;
กาโกลาปิ น วสฺสนฺติ, มตา เม นูน ทารกาฯ
Kākolāpi na vassanti, matā me nūna dārakā.
๒๒๕๕.
2255.
‘‘น โข โน เทว ปสฺสามิ, เยน เต นีหตา มตา;
‘‘Na kho no deva passāmi, yena te nīhatā matā;
สกุณาปิ น วสฺสนฺติ, มตา เม นูน ทารกาฯ
Sakuṇāpi na vassanti, matā me nūna dārakā.
๒๒๕๖.
2256.
‘‘นุ โข โน เทว ปสฺสามิ, เยน เต นีหตา มตา;
‘‘Nu kho no deva passāmi, yena te nīhatā matā;
วิจรนฺตี รุกฺขมูเลสุ, ปพฺพเตสุ คุหาสุ จฯ
Vicarantī rukkhamūlesu, pabbatesu guhāsu ca.
๒๒๕๗.
2257.
‘‘อิติ มทฺที วราโรหา, ราชปุตฺตี ยสสฺสินี;
‘‘Iti maddī varārohā, rājaputtī yasassinī;
พาหา ปคฺคยฺห กนฺทิตฺวา, ตเตฺถว ปติตา ฉมา’’ติฯ
Bāhā paggayha kanditvā, tattheva patitā chamā’’ti.
ตตฺถ สามิกสนฺติเกติ ภิกฺขเว, สา มทฺที ตตฺถ วงฺกปพฺพตกุจฺฉิยํ สานุปพฺพตานิ วนานิ จ วิจรนฺตี ปริเทวิตฺวา ปุน คนฺตฺวา สามิกํ นิสฺสาย ตสฺส สนฺติเก ฐิตา ปุตฺตานํ อตฺถาย โรทิ, ‘‘น โข โน’’ติอาทีนิ วทนฺตี ปริเทวีติ อโตฺถฯ อิติ มทฺที วราโรหาติ ภิกฺขเว, เอวํ สา อุตฺตมรูปธรา วราโรหา มทฺที รุกฺขมูลาทีสุ วิจรนฺตี ทารเก อทิสฺวา ‘‘นิสฺสํสยํ มตา ภวิสฺสนฺตี’’ติ พาหา ปคฺคยฺห กนฺทิตฺวา ตเตฺถว เวสฺสนฺตรสฺส ปาทมูเล ฉินฺนสุวณฺณกทลี วิย ฉมายํ ปติฯ
Tattha sāmikasantiketi bhikkhave, sā maddī tattha vaṅkapabbatakucchiyaṃ sānupabbatāni vanāni ca vicarantī paridevitvā puna gantvā sāmikaṃ nissāya tassa santike ṭhitā puttānaṃ atthāya rodi, ‘‘na kho no’’tiādīni vadantī paridevīti attho. Iti maddī varārohāti bhikkhave, evaṃ sā uttamarūpadharā varārohā maddī rukkhamūlādīsu vicarantī dārake adisvā ‘‘nissaṃsayaṃ matā bhavissantī’’ti bāhā paggayha kanditvā tattheva vessantarassa pādamūle chinnasuvaṇṇakadalī viya chamāyaṃ pati.
อถ มหาสโตฺต ‘‘มตา มทฺที’’ติ สญฺญาย กมฺปมาโน ‘‘อฎฺฐาเน ปเทเส มตา มทฺทีฯ สเจ หิสฺสา เชตุตฺตรนคเร กาลกิริยา อภวิสฺส, มหโนฺต ปริวาโร อภวิสฺส, เทฺว รฎฺฐานิ จเลยฺยุํฯ อหํ ปน อรเญฺญ เอกโกว, กิํ นุ โข กริสฺสามี’’ติ อุปฺปนฺนพลวโสโกปิ สติํ ปจฺจุปฎฺฐาเปตฺวา ‘‘ชานิสฺสามิ ตาวา’’ติ อุฎฺฐาย ตสฺสา หทเย หตฺถํ ฐเปตฺวา สนฺตาปปวตฺติํ ญตฺวา กมณฺฑลุนา อุทกํ อาหริตฺวา สตฺต มาเส กายสํสคฺคํ อนาปนฺนปุโพฺพปิ พลวโสเกน ปพฺพชิตภาวํ สลฺลเกฺขตุํ อสโกฺกโนฺต อสฺสุปุเณฺณหิ เนเตฺตหิ ตสฺสา สีสํ อุกฺขิปิตฺวา อูรูสุ ฐเปตฺวา อุทเกน ปริโปฺผสิตฺวา มุขญฺจ หทยญฺจ ปริมชฺชโนฺต นิสีทิฯ มทฺทีปิ โข โถกํ วีตินาเมตฺวา สติํ ปฎิลภิตฺวา หิโรตฺตปฺปํ ปจฺจุปฎฺฐาเปตฺวา อุฎฺฐาย มหาสตฺตํ วนฺทิตฺวา ‘‘สามิ เวสฺสนฺตร, ทารกา เต กุหิํ คตา’’ติ อาหฯ ‘‘เทวิ, เอกสฺส พฺราหฺมณสฺส ทาสตฺถาย ทินฺนา’’ติฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Atha mahāsatto ‘‘matā maddī’’ti saññāya kampamāno ‘‘aṭṭhāne padese matā maddī. Sace hissā jetuttaranagare kālakiriyā abhavissa, mahanto parivāro abhavissa, dve raṭṭhāni caleyyuṃ. Ahaṃ pana araññe ekakova, kiṃ nu kho karissāmī’’ti uppannabalavasokopi satiṃ paccupaṭṭhāpetvā ‘‘jānissāmi tāvā’’ti uṭṭhāya tassā hadaye hatthaṃ ṭhapetvā santāpapavattiṃ ñatvā kamaṇḍalunā udakaṃ āharitvā satta māse kāyasaṃsaggaṃ anāpannapubbopi balavasokena pabbajitabhāvaṃ sallakkhetuṃ asakkonto assupuṇṇehi nettehi tassā sīsaṃ ukkhipitvā ūrūsu ṭhapetvā udakena paripphositvā mukhañca hadayañca parimajjanto nisīdi. Maddīpi kho thokaṃ vītināmetvā satiṃ paṭilabhitvā hirottappaṃ paccupaṭṭhāpetvā uṭṭhāya mahāsattaṃ vanditvā ‘‘sāmi vessantara, dārakā te kuhiṃ gatā’’ti āha. ‘‘Devi, ekassa brāhmaṇassa dāsatthāya dinnā’’ti. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๒๒๕๘.
2258.
‘‘ตมชฺฌปตฺตํ ราชปุตฺติํ, อุทเกนาภิสิญฺจถ;
‘‘Tamajjhapattaṃ rājaputtiṃ, udakenābhisiñcatha;
อสฺสตฺถํ นํ วิทิตฺวาน, อถ นํ เอตทพฺรวี’’ติฯ
Assatthaṃ naṃ viditvāna, atha naṃ etadabravī’’ti.
ตตฺถ อชฺฌปตฺตนฺติ อตฺตโน สนฺติกํ ปตฺตํ, ปาทมูเล ปติตฺวา วิสญฺญิภูตนฺติ อโตฺถฯ เอตทพฺรวีติ เอตํ ‘‘เอกสฺส เม พฺราหฺมณสฺส ทาสตฺถาย ทินฺนา’’ติ วจนํ อพฺรวิฯ
Tattha ajjhapattanti attano santikaṃ pattaṃ, pādamūle patitvā visaññibhūtanti attho. Etadabravīti etaṃ ‘‘ekassa me brāhmaṇassa dāsatthāya dinnā’’ti vacanaṃ abravi.
ตโต ตาย ‘‘เทว, ปุเตฺต พฺราหฺมณสฺส ทตฺวา มม สพฺพรตฺติํ ปริเทวิตฺวา วิจรนฺติยา กิํ นาจิกฺขสี’’ติ วุเตฺต มหาสโตฺต อาห –
Tato tāya ‘‘deva, putte brāhmaṇassa datvā mama sabbarattiṃ paridevitvā vicarantiyā kiṃ nācikkhasī’’ti vutte mahāsatto āha –
๒๒๕๙.
2259.
‘‘อาทิเยเนว เต มทฺทิ, ทุกฺขํ นกฺขาตุมิจฺฉิสํ;
‘‘Ādiyeneva te maddi, dukkhaṃ nakkhātumicchisaṃ;
ทลิโทฺท ยาจโก วุโฑฺฒ, พฺราหฺมโณ ฆรมาคโตฯ
Daliddo yācako vuḍḍho, brāhmaṇo gharamāgato.
๒๒๖๐.
2260.
‘‘ตสฺส ทินฺนา มยา ปุตฺตา, มทฺทิ มา ภายิ อสฺสส;
‘‘Tassa dinnā mayā puttā, maddi mā bhāyi assasa;
มํ ปสฺส มทฺทิ มา ปุเตฺต, มา พาฬฺหํ ปริเทวสิ;
Maṃ passa maddi mā putte, mā bāḷhaṃ paridevasi;
ลจฺฉาม ปุเตฺต ชีวนฺตา, อโรคา จ ภวามเสฯ
Lacchāma putte jīvantā, arogā ca bhavāmase.
๒๒๖๑.
2261.
‘‘ปุเตฺต ปสุญฺจ ธญฺญญฺจ, ยญฺจ อญฺญํ ฆเร ธนํ;
‘‘Putte pasuñca dhaññañca, yañca aññaṃ ghare dhanaṃ;
ทชฺชา สปฺปุริโส ทานํ, ทิสฺวา ยาจกมาคตํ;
Dajjā sappuriso dānaṃ, disvā yācakamāgataṃ;
อนุโมทาหิ เม มทฺทิ, ปุตฺตเก ทานมุตฺตม’’นฺติฯ
Anumodāhi me maddi, puttake dānamuttama’’nti.
ตตฺถ อาทิเยเนวาติ อาทิเกเนวฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – สเจ เต อหํ อาทิโตว ตมตฺถํ อาจิกฺขิสฺสํ, ตโต ตว โสกํ สนฺธาเรตุํ อสโกฺกนฺติยา หทยํ ผเลยฺย, ตสฺมา อาทิเกเนว เต มทฺทิ ทุกฺขํ น อกฺขาตุํ อิจฺฉิสฺสนฺติฯ ฆรมาคโตติ อิมํ อมฺหากํ วสนฎฺฐานํ อาคโตฯ อโรคา จ ภวามเสติ ยถา ตถา มยํ อโรคา โหม, ชีวมานา อวสฺสํ ปุเตฺต พฺราหฺมเณน นีเตปิ ปสฺสิสฺสามฯ ยญฺจ อญฺญนฺติ ยญฺจ อญฺญํ ฆเร สวิญฺญาณกํ ธนํฯ ทชฺชา สปฺปุริโส ทานนฺติ สปฺปุริโส อุตฺตมตฺถํ ปเตฺถโนฺต อุรํ ภินฺทิตฺวา หทยมํสมฺปิ คเหตฺวา ทานํ ทเทยฺยาติฯ
Tattha ādiyenevāti ādikeneva. Idaṃ vuttaṃ hoti – sace te ahaṃ āditova tamatthaṃ ācikkhissaṃ, tato tava sokaṃ sandhāretuṃ asakkontiyā hadayaṃ phaleyya, tasmā ādikeneva te maddi dukkhaṃ na akkhātuṃ icchissanti. Gharamāgatoti imaṃ amhākaṃ vasanaṭṭhānaṃ āgato. Arogā ca bhavāmaseti yathā tathā mayaṃ arogā homa, jīvamānā avassaṃ putte brāhmaṇena nītepi passissāma. Yañca aññanti yañca aññaṃ ghare saviññāṇakaṃ dhanaṃ. Dajjā sappuriso dānanti sappuriso uttamatthaṃ patthento uraṃ bhinditvā hadayamaṃsampi gahetvā dānaṃ dadeyyāti.
มทฺที อาห –
Maddī āha –
๒๒๖๒.
2262.
‘‘อนุโมทามิ เต เทว, ปุตฺตเก ทานมุตฺตมํ;
‘‘Anumodāmi te deva, puttake dānamuttamaṃ;
ทตฺวา จิตฺตํ ปสาเทหิ, ภิโยฺย ทานํ ทโท ภวฯ
Datvā cittaṃ pasādehi, bhiyyo dānaṃ dado bhava.
๒๒๖๓.
2263.
‘‘โย ตฺวํ มเจฺฉรภูเตสุ, มนุเสฺสสุ ชนาธิป;
‘‘Yo tvaṃ maccherabhūtesu, manussesu janādhipa;
พฺราหฺมณสฺส อทา ทานํ, สิวีนํ รฎฺฐวฑฺฒโน’’ติฯ
Brāhmaṇassa adā dānaṃ, sivīnaṃ raṭṭhavaḍḍhano’’ti.
ตตฺถ อนุโมทามิ เตติ ทส มาเส กุจฺฉิยา ธาเรตฺวา ทิวสสฺส ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ นฺหาเปตฺวา ปาเยตฺวา โภเชตฺวา อุเร นิปชฺชาเปตฺวา ปฎิชคฺคิตปุตฺตเกสุ โพธิสเตฺตน ทิเนฺนสุ สยํ ปุตฺตทานํ อนุโมทนฺตี เอวมาหฯ อิมินา การเณน ชานิตพฺพํ ‘‘ปิตาว ปุตฺตานํ สามิโก’’ติฯ ภิโยฺย ทานํ ทโท ภวาติ มหาราช, อุตฺตริปิ ปุนปฺปุนํ ทานํ ทายโกว โหหิ, ‘‘สุทินฺนํ เม ทาน’’นฺติ จิตฺตํ ปสาเทหิ, โย ตฺวํ มเจฺฉรภูเตสุ สเตฺตสุ ปิยปุเตฺต อทาสีติฯ
Tattha anumodāmi teti dasa māse kucchiyā dhāretvā divasassa dvattikkhattuṃ nhāpetvā pāyetvā bhojetvā ure nipajjāpetvā paṭijaggitaputtakesu bodhisattena dinnesu sayaṃ puttadānaṃ anumodantī evamāha. Iminā kāraṇena jānitabbaṃ ‘‘pitāva puttānaṃ sāmiko’’ti. Bhiyyo dānaṃdado bhavāti mahārāja, uttaripi punappunaṃ dānaṃ dāyakova hohi, ‘‘sudinnaṃ me dāna’’nti cittaṃ pasādehi, yo tvaṃ maccherabhūtesu sattesu piyaputte adāsīti.
เอวํ วุเตฺต มหาสโตฺต ‘‘มทฺทิ, กินฺนาเมตํ กเถสิ, สเจ หิ มยา ปุเตฺต ทตฺวา จิตฺตํ ปสาเทตุํ นาภวิสฺส, อิมานิ ปน เม อจฺฉริยานิ น ปวเตฺตยฺยุ’’นฺติ วตฺวา สพฺพานิ ปถวินินฺนาทาทีนิ กเถสิฯ ตโต มทฺที ตานิ อจฺฉริยานิ กิเตฺตตฺวา ทานํ อนุโมทนฺตี อาห –
Evaṃ vutte mahāsatto ‘‘maddi, kinnāmetaṃ kathesi, sace hi mayā putte datvā cittaṃ pasādetuṃ nābhavissa, imāni pana me acchariyāni na pavatteyyu’’nti vatvā sabbāni pathavininnādādīni kathesi. Tato maddī tāni acchariyāni kittetvā dānaṃ anumodantī āha –
๒๒๖๔.
2264.
‘‘นินฺนาทิตา เต ปถวี, สโทฺท เต ติทิวงฺคโต;
‘‘Ninnāditā te pathavī, saddo te tidivaṅgato;
สมนฺตา วิชฺชุตา อาคุํ, คิรีนํว ปติสฺสุตา’’ติฯ
Samantā vijjutā āguṃ, girīnaṃva patissutā’’ti.
ตตฺถ วิชฺชุตา อาคุนฺติ อกาลวิชฺชุลตา หิมวนฺตปเทเส สมนฺตา นิจฺฉริํสุฯ คิรีนํว ปติสฺสุตาติ คิรีนํ ปติสฺสุตสทฺทา วิย วิรวา อุฎฺฐหิํสุฯ
Tattha vijjutā āgunti akālavijjulatā himavantapadese samantā nicchariṃsu. Girīnaṃva patissutāti girīnaṃ patissutasaddā viya viravā uṭṭhahiṃsu.
๒๒๖๕.
2265.
‘‘ตสฺส เต อนุโมทนฺติ, อุโภ นารทปพฺพตา;
‘‘Tassa te anumodanti, ubho nāradapabbatā;
อิโนฺท จ พฺรหฺมา ปชาปติ, โสโม ยโม เวสฺสวโณ;
Indo ca brahmā pajāpati, somo yamo vessavaṇo;
สเพฺพ เทวานุโมทนฺติ, ตาวติํสา สอินฺทกาฯ
Sabbe devānumodanti, tāvatiṃsā saindakā.
๒๒๖๖.
2266.
‘‘อิติ มทฺที วราโรหา, ราชปุตฺตี ยสสฺสินี;
‘‘Iti maddī varārohā, rājaputtī yasassinī;
เวสฺสนฺตรสฺส อนุโมทิ, ปุตฺตเก ทานมุตฺตม’’นฺติฯ
Vessantarassa anumodi, puttake dānamuttama’’nti.
ตตฺถ อุโภ นารทปพฺพตาติ อิเมปิ เทฺว เทวนิกายา อตฺตโน วิมานทฺวาเร ฐิตาว ‘‘สุทินฺนํ เต ทาน’’นฺติ อนุโมทนฺติฯ ตาวติํสา สอินฺทกาติ อินฺทเชฎฺฐกา ตาวติํสาปิ เทวา เต ทานํ อนุโมทนฺตีติฯ
Tattha ubho nāradapabbatāti imepi dve devanikāyā attano vimānadvāre ṭhitāva ‘‘sudinnaṃ te dāna’’nti anumodanti. Tāvatiṃsā saindakāti indajeṭṭhakā tāvatiṃsāpi devā te dānaṃ anumodantīti.
เอวํ มหาสเตฺตน อตฺตโน ทาเน วณฺณิเต ตเมวตฺถํ ปริวเตฺตตฺวา ‘‘มหาราช เวสฺสนฺตร, สุทินฺนํ นาม เต ทาน’’นฺติ มทฺทีปิ ตเถว ทานํ วณฺณยิตฺวา อนุโมทมานา นิสีทิฯ เตน สตฺถา ‘‘อิติ มทฺที วราโรหา’’ติ คาถมาหฯ
Evaṃ mahāsattena attano dāne vaṇṇite tamevatthaṃ parivattetvā ‘‘mahārāja vessantara, sudinnaṃ nāma te dāna’’nti maddīpi tatheva dānaṃ vaṇṇayitvā anumodamānā nisīdi. Tena satthā ‘‘iti maddī varārohā’’ti gāthamāha.
มทฺทีปพฺพวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Maddīpabbavaṇṇanā niṭṭhitā.
สกฺกปพฺพวณฺณนา
Sakkapabbavaṇṇanā
เอวํ เตสุ อญฺญมญฺญํ สโมฺมทนียํ กถํ กเถเนฺตสุ สโกฺก จิเนฺตสิ ‘‘อยํ เวสฺสนฺตโร ราชา หิโยฺย ชูชกสฺส ปถวิํ อุนฺนาเทตฺวา ทารเก อทาสิ, อิทานิ ตํ โกจิ หีนปุริโส อุปสงฺกมิตฺวา สพฺพลกฺขณสมฺปนฺนํ มทฺทิํ ยาจิตฺวา ราชานํ เอกกํ กตฺวา มทฺทิํ คเหตฺวา คเจฺฉยฺย, ตโต เอส อนาโถ นิปฺปจฺจโย ภเวยฺยฯ อหํ พฺราหฺมณวเณฺณน นํ อุปสงฺกมิตฺวา มทฺทิํ ยาจิตฺวา ปารมิกูฎํ คาหาเปตฺวา กสฺสจิ อวิสฺสชฺชิยํ กตฺวา ปุน นํ ตเสฺสว ทตฺวา อาคมิสฺสามี’’ติฯ โส สูริยุคฺคมนเวลาย ตสฺส สนฺติกํ อคมาสิฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Evaṃ tesu aññamaññaṃ sammodanīyaṃ kathaṃ kathentesu sakko cintesi ‘‘ayaṃ vessantaro rājā hiyyo jūjakassa pathaviṃ unnādetvā dārake adāsi, idāni taṃ koci hīnapuriso upasaṅkamitvā sabbalakkhaṇasampannaṃ maddiṃ yācitvā rājānaṃ ekakaṃ katvā maddiṃ gahetvā gaccheyya, tato esa anātho nippaccayo bhaveyya. Ahaṃ brāhmaṇavaṇṇena naṃ upasaṅkamitvā maddiṃ yācitvā pāramikūṭaṃ gāhāpetvā kassaci avissajjiyaṃ katvā puna naṃ tasseva datvā āgamissāmī’’ti. So sūriyuggamanavelāya tassa santikaṃ agamāsi. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๒๒๖๗.
2267.
‘‘ตโต รตฺยา วิวสาเน, สูริยสฺสุคฺคมนํ ปติ;
‘‘Tato ratyā vivasāne, sūriyassuggamanaṃ pati;
สโกฺก พฺราหฺมณวเณฺณน, ปาโต เตสํ อทิสฺสถา’’ติฯ
Sakko brāhmaṇavaṇṇena, pāto tesaṃ adissathā’’ti.
ตตฺถ ปาโต เตสํ อทิสฺสถาติ ปาโตว เนสํ ทฺวินฺนมฺปิ ชนานํ ปญฺญายมานรูโป ปุรโต อฎฺฐาสิ, ฐตฺวา จ ปน ปฎิสนฺถารํ กโรโนฺต อาห –
Tattha pāto tesaṃ adissathāti pātova nesaṃ dvinnampi janānaṃ paññāyamānarūpo purato aṭṭhāsi, ṭhatvā ca pana paṭisanthāraṃ karonto āha –
๒๒๖๘.
2268.
‘‘กจฺจิ นุ โภโต กุสลํ, กจฺจิ โภโต อนามยํ;
‘‘Kacci nu bhoto kusalaṃ, kacci bhoto anāmayaṃ;
กจฺจิ อุเญฺฉน ยาเปถ, กจฺจิ มูลผลา พหูฯ
Kacci uñchena yāpetha, kacci mūlaphalā bahū.
๒๒๖๙.
2269.
‘‘กจฺจิ ฑํสา มกสา จ, อปฺปเมว สรีสปา;
‘‘Kacci ḍaṃsā makasā ca, appameva sarīsapā;
วเน วาฬมิคากิเณฺณ, กจฺจิ หิํสา น วิชฺชตี’’ติฯ
Vane vāḷamigākiṇṇe, kacci hiṃsā na vijjatī’’ti.
มหาสโตฺต อาห –
Mahāsatto āha –
๒๒๗๐.
2270.
‘‘กุสลเญฺจว โน พฺรเหฺม, อโถ พฺรเหฺม อนามยํ;
‘‘Kusalañceva no brahme, atho brahme anāmayaṃ;
อโถ อุเญฺฉน ยาเปม, อโถ มูลผลา พหูฯ
Atho uñchena yāpema, atho mūlaphalā bahū.
๒๒๗๑.
2271.
‘‘อโถ ฑํสา มกสา จ, อปฺปเมว สรีสปา;
‘‘Atho ḍaṃsā makasā ca, appameva sarīsapā;
วเน วาฬมิคากิเณฺณ, หิํสา มยฺหํ น วิชฺชติฯ
Vane vāḷamigākiṇṇe, hiṃsā mayhaṃ na vijjati.
๒๒๗๒.
2272.
‘‘สตฺต โน มาเส วสตํ, อรเญฺญ ชีวโสกินํ;
‘‘Satta no māse vasataṃ, araññe jīvasokinaṃ;
อิทํ ทุติยํ ปสฺสาม, พฺราหฺมณํ เทววณฺณินํ;
Idaṃ dutiyaṃ passāma, brāhmaṇaṃ devavaṇṇinaṃ;
อาทาย เวฬุวํ ทณฺฑํ, ธาเรนฺตํ อชินกฺขิปํฯ
Ādāya veḷuvaṃ daṇḍaṃ, dhārentaṃ ajinakkhipaṃ.
๒๒๗๓.
2273.
‘‘สฺวาคตํ เต มหาพฺรเหฺม, อโถ เต อทุราคตํ;
‘‘Svāgataṃ te mahābrahme, atho te adurāgataṃ;
อโนฺต ปวิส ภทฺทเนฺต, ปาเท ปกฺขาลยสฺสุ เตฯ
Anto pavisa bhaddante, pāde pakkhālayassu te.
๒๒๗๔.
2274.
‘‘ตินฺทุกานิ ปิยาลานิ, มธุเก กาสุมาริโย;
‘‘Tindukāni piyālāni, madhuke kāsumāriyo;
ผลานิ ขุทฺทกปฺปานิ, ภุญฺช พฺรเหฺม วรํ วรํฯ
Phalāni khuddakappāni, bhuñja brahme varaṃ varaṃ.
๒๒๗๕.
2275.
‘‘อิทมฺปิ ปานียํ สีตํ, อาภตํ คิริคพฺภรา;
‘‘Idampi pānīyaṃ sītaṃ, ābhataṃ girigabbharā;
ตโต ปิว มหาพฺรเหฺม, สเจ ตฺวํ อภิกงฺขสี’’ติฯ
Tato piva mahābrahme, sace tvaṃ abhikaṅkhasī’’ti.
เอวํ เตน สทฺธิํ ปฎิสนฺถารํ กตฺวา มหาสโตฺต –
Evaṃ tena saddhiṃ paṭisanthāraṃ katvā mahāsatto –
๒๒๗๖.
2276.
‘‘อถ ตฺวํ เกน วเณฺณน, เกน วา ปน เหตุนา;
‘‘Atha tvaṃ kena vaṇṇena, kena vā pana hetunā;
อนุปฺปโตฺต พฺรหารญฺญํ, ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิโต’’ติฯ –
Anuppatto brahāraññaṃ, taṃ me akkhāhi pucchito’’ti. –
อาคมนการณํ ปุจฺฉิฯ อถ นํ สโกฺก ‘‘มหาราช, อหํ มหลฺลโก, อิธาคจฺฉโนฺต ตว ภริยํ มทฺทิํ ยาจิตุํ อาคโต, ตํ เม เทหี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
Āgamanakāraṇaṃ pucchi. Atha naṃ sakko ‘‘mahārāja, ahaṃ mahallako, idhāgacchanto tava bhariyaṃ maddiṃ yācituṃ āgato, taṃ me dehī’’ti vatvā imaṃ gāthamāha –
๒๒๗๗.
2277.
‘‘ยถา วาริวโห ปูโร, สพฺพกาลํ น ขียติ;
‘‘Yathā vārivaho pūro, sabbakālaṃ na khīyati;
เอวํ ตํ ยาจิตาคจฺฉิํ, ภริยํ เม เทหิ ยาจิโต’’ติฯ
Evaṃ taṃ yācitāgacchiṃ, bhariyaṃ me dehi yācito’’ti.
เอวํ วุเตฺต มหาสโตฺต ‘‘หิโยฺย เม พฺราหฺมณสฺส ทารกา ทินฺนา, อรเญฺญ เอกโก หุตฺวา กถํ เต มทฺทิํ ทสฺสามี’’ติ อวตฺวา ปสาริตหเตฺถ สหสฺสตฺถวิกํ ฐเปโนฺต วิย อสชฺชิตฺวา อพชฺฌิตฺวา อโนลีนมานโส หุตฺวา คิริํ อุนฺนาเทโนฺต อิมํ คาถมาห –
Evaṃ vutte mahāsatto ‘‘hiyyo me brāhmaṇassa dārakā dinnā, araññe ekako hutvā kathaṃ te maddiṃ dassāmī’’ti avatvā pasāritahatthe sahassatthavikaṃ ṭhapento viya asajjitvā abajjhitvā anolīnamānaso hutvā giriṃ unnādento imaṃ gāthamāha –
๒๒๗๘.
2278.
‘‘ททามิ น วิกมฺปามิ, ยํ มํ ยาจสิ พฺราหฺมณ;
‘‘Dadāmi na vikampāmi, yaṃ maṃ yācasi brāhmaṇa;
สนฺตํ นปฺปฎิคุยฺหามิ, ทาเน เม รมตี มโน’’ติฯ
Santaṃ nappaṭiguyhāmi, dāne me ramatī mano’’ti.
ตตฺถ สนฺตํ นปฺปฎิคุยฺหามีติ สํวิชฺชมานํ น คุยฺหามิฯ
Tattha santaṃ nappaṭiguyhāmīti saṃvijjamānaṃ na guyhāmi.
เอวญฺจ ปน วตฺวา สีฆเมว กมณฺฑลุนา อุทกํ อาหริตฺวา อุทกํ หเตฺถ ปาเตตฺวา ปิยภริยํ พฺราหฺมณสฺส อทาสิฯ ตงฺขเณเยว เหฎฺฐา วุตฺตปฺปการานิ สพฺพานิ อจฺฉริยานิ ปาตุรเหสุํฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Evañca pana vatvā sīghameva kamaṇḍalunā udakaṃ āharitvā udakaṃ hatthe pātetvā piyabhariyaṃ brāhmaṇassa adāsi. Taṅkhaṇeyeva heṭṭhā vuttappakārāni sabbāni acchariyāni pāturahesuṃ. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๒๒๗๙.
2279.
‘‘มทฺทิํ หเตฺถ คเหตฺวาน, อุทกสฺส กมณฺฑลุํ;
‘‘Maddiṃ hatthe gahetvāna, udakassa kamaṇḍaluṃ;
พฺราหฺมณสฺส อทา ทานํ, สิวีนํ รฎฺฐวฑฺฒโนฯ
Brāhmaṇassa adā dānaṃ, sivīnaṃ raṭṭhavaḍḍhano.
๒๒๘๐.
2280.
‘‘ตทาสิ ยํ ภิํสนกํ, ตทาสิ โลมหํสนํ;
‘‘Tadāsi yaṃ bhiṃsanakaṃ, tadāsi lomahaṃsanaṃ;
มทฺทิํ ปริจฺจชนฺตสฺส, เมทนี สมฺปกมฺปถฯ
Maddiṃ pariccajantassa, medanī sampakampatha.
๒๒๘๑.
2281.
‘‘เนวสฺส มทฺที ภากุฎิ, น สนฺธียติ น โรทติ;
‘‘Nevassa maddī bhākuṭi, na sandhīyati na rodati;
เปกฺขเตวสฺส ตุณฺหี สา, เอโส ชานาติ ยํ วร’’นฺติฯ
Pekkhatevassa tuṇhī sā, eso jānāti yaṃ vara’’nti.
ตตฺถ อทา ทานนฺติ ‘‘อโมฺภ พฺราหฺมณ, มทฺทิโต เม สตคุเณน สหสฺสคุเณน สตสหสฺสคุเณน สพฺพญฺญุตญฺญาณเมว ปิยตรํ, อิทํ เม ทานํ สพฺพญฺญุตญฺญาณปฺปฎิเวธสฺส ปจฺจโย โหตู’’ติ วตฺวา ทานํ อทาสิ วุตฺตมฺปิ เจตํ –
Tattha adā dānanti ‘‘ambho brāhmaṇa, maddito me sataguṇena sahassaguṇena satasahassaguṇena sabbaññutaññāṇameva piyataraṃ, idaṃ me dānaṃ sabbaññutaññāṇappaṭivedhassa paccayo hotū’’ti vatvā dānaṃ adāsi vuttampi cetaṃ –
‘‘ชาลิํ กณฺหาชินํ ธีตํ, มทฺทิํ เทวิํ ปติพฺพตํ;
‘‘Jāliṃ kaṇhājinaṃ dhītaṃ, maddiṃ deviṃ patibbataṃ;
จชมาโน น จิเนฺตสิํ, โพธิยาเยว การณาฯ
Cajamāno na cintesiṃ, bodhiyāyeva kāraṇā.
‘‘น เม เทสฺสา อุโภ ปุตฺตา, มทฺที เทวี น เทสฺสิยา;
‘‘Na me dessā ubho puttā, maddī devī na dessiyā;
สพฺพญฺญุตํ ปิยํ มยฺหํ, ตสฺมา ปิเย อทาสห’’นฺติฯ (จริยา. ๑.๑๑๘-๑๑๙);
Sabbaññutaṃ piyaṃ mayhaṃ, tasmā piye adāsaha’’nti. (cariyā. 1.118-119);
ตตฺถ สมฺปกมฺปถาติ ปถวี อุทกปริยนฺตํ กตฺวา กมฺปิตฺถฯ เนวสฺส มทฺที ภากุฎีติ ภิกฺขเว, ตสฺมิํ ขเณ มทฺที ‘‘มํ มหลฺลกสฺส พฺราหฺมณสฺส ราชา เทตี’’ติ โกธวเสน ภากุฎิปิ นาโหสิฯ น สนฺธียติ น โรทตีติ เนว มงฺกุ อโหสิ, น อกฺขีนิ ปูเรตฺวา โรทติ, อถ โข ตุณฺหี สา หุตฺวา ‘‘มาทิสํ อิตฺถิรตนํ ททมาโน น นิกฺการณา ทสฺสติ, เอโส ยํ วรํ, ตํ ชานาตี’’ติ ผุลฺลปทุมวณฺณํ อสฺส มุขํ เปกฺขเตว, โอโลกยมานาว ฐิตาติ อโตฺถฯ
Tattha sampakampathāti pathavī udakapariyantaṃ katvā kampittha. Nevassa maddī bhākuṭīti bhikkhave, tasmiṃ khaṇe maddī ‘‘maṃ mahallakassa brāhmaṇassa rājā detī’’ti kodhavasena bhākuṭipi nāhosi. Na sandhīyati na rodatīti neva maṅku ahosi, na akkhīni pūretvā rodati, atha kho tuṇhī sā hutvā ‘‘mādisaṃ itthiratanaṃ dadamāno na nikkāraṇā dassati, eso yaṃ varaṃ, taṃ jānātī’’ti phullapadumavaṇṇaṃ assa mukhaṃ pekkhateva, olokayamānāva ṭhitāti attho.
อถ มหาสโตฺต ‘‘กีทิสา มทฺที’’ติ ตสฺสา มุขํ โอโลเกสิฯ สาปิ ‘‘สามิ กิํ มํ โอโลเกสี’’ติ วตฺวา สีหนาทํ นทนฺตี อิมํ คาถมาห –
Atha mahāsatto ‘‘kīdisā maddī’’ti tassā mukhaṃ olokesi. Sāpi ‘‘sāmi kiṃ maṃ olokesī’’ti vatvā sīhanādaṃ nadantī imaṃ gāthamāha –
๒๒๘๒.
2282.
‘‘โกมารี ยสฺสาหํ ภริยา, สามิโก มม อิสฺสโร;
‘‘Komārī yassāhaṃ bhariyā, sāmiko mama issaro;
ยสฺสิเจฺฉ ตสฺส มํ ทชฺชา, วิกฺกิเณยฺย หเนยฺย วา’’ติฯ
Yassicche tassa maṃ dajjā, vikkiṇeyya haneyya vā’’ti.
ตตฺถ โกมารี ยสฺสาหํ ภริยาติ อหํ ยสฺส ตว ทหริกา ภริยา, โส ตฺวเญฺญว มม อิสฺสโร สามิโกฯ ยสฺสิเจฺฉ ตสฺสาติ อิสฺสโร จ นาม ทาสิํ มํ ยสฺส ทาตุํ อิเจฺฉยฺย, ตสฺส ทเทยฺยฯ วิกฺกิเณยฺย วาติ ธเนน วา อเตฺถ สติ วิกฺกิเณยฺย, มํเสน วา อเตฺถ สติ หเนยฺย, ตสฺมา ยํ โว รุจฺจติ, ตํ กโรถ, นาหํ กุชฺฌามีติฯ
Tattha komārī yassāhaṃ bhariyāti ahaṃ yassa tava daharikā bhariyā, so tvaññeva mama issaro sāmiko. Yassicche tassāti issaro ca nāma dāsiṃ maṃ yassa dātuṃ iccheyya, tassa dadeyya. Vikkiṇeyya vāti dhanena vā atthe sati vikkiṇeyya, maṃsena vā atthe sati haneyya, tasmā yaṃ vo ruccati, taṃ karotha, nāhaṃ kujjhāmīti.
สโกฺก เตสํ ปณีตชฺฌาสยตํ วิทิตฺวา ถุติํ อกาสิฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Sakko tesaṃ paṇītajjhāsayataṃ viditvā thutiṃ akāsi. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๒๒๘๓.
2283.
‘‘เตสํ สงฺกปฺปมญฺญาย, เทวิโนฺท เอตทพฺรวิ;
‘‘Tesaṃ saṅkappamaññāya, devindo etadabravi;
สเพฺพ ชิตา เต ปจฺจูหา, เย ทิพฺพา เย จ มานุสาฯ
Sabbe jitā te paccūhā, ye dibbā ye ca mānusā.
๒๒๘๔.
2284.
‘‘นินฺนาทิตา เต ปถวี, สโทฺท เต ติทิวงฺคโต;
‘‘Ninnāditā te pathavī, saddo te tidivaṅgato;
สมนฺตา วิชฺชุตา อาคุํ, คิรีนํว ปติสฺสุตาฯ
Samantā vijjutā āguṃ, girīnaṃva patissutā.
๒๒๘๕.
2285.
‘‘ตสฺส เต อนุโมทนฺติ, อุโภ นารทปพฺพตา;
‘‘Tassa te anumodanti, ubho nāradapabbatā;
อิโนฺท จ พฺรหฺมา ปชาปติ, โสโม ยโม เวสฺสวโณ;
Indo ca brahmā pajāpati, somo yamo vessavaṇo;
สเพฺพ เทวานุโมทนฺติ, ทุกฺกรญฺหิ กโรติ โสฯ
Sabbe devānumodanti, dukkarañhi karoti so.
๒๒๘๖.
2286.
‘‘ทุทฺททํ ททมานานํ, ทุกฺกรํ กมฺม กุพฺพตํ;
‘‘Duddadaṃ dadamānānaṃ, dukkaraṃ kamma kubbataṃ;
อสโนฺต นานุกุพฺพนฺติ, สตํ ธโมฺม ทุรนฺนโยฯ
Asanto nānukubbanti, sataṃ dhammo durannayo.
๒๒๘๗.
2287.
‘‘ตสฺมา สตญฺจ อสตํ, นานา โหติ อิโต คติ;
‘‘Tasmā satañca asataṃ, nānā hoti ito gati;
อสโนฺต นิรยํ ยนฺติ, สโนฺต สคฺคปรายณาฯ
Asanto nirayaṃ yanti, santo saggaparāyaṇā.
๒๒๘๘.
2288.
‘‘ยเมตํ กุมาเร อทา, ภริยํ อทา วเน วสํ;
‘‘Yametaṃ kumāre adā, bhariyaṃ adā vane vasaṃ;
พฺรหฺมยานมโนกฺกมฺม, สเคฺค เต ตํ วิปจฺจตู’’ติฯ
Brahmayānamanokkamma, sagge te taṃ vipaccatū’’ti.
ตตฺถ ปจฺจูหาติ ปจฺจตฺถิกาฯ ทิพฺพาติ ทิพฺพสมฺปตฺติปฎิพาหกาฯ มานุสาติ มนุสฺสสมฺปตฺติปฎิพาหกาฯ เก ปน เตติ? มจฺฉริยธมฺมาฯ เต สเพฺพ ปุตฺตทารํ เทเนฺตน มหาสเตฺตน ชิตาฯ เตนาห ‘‘สเพฺพ ชิตา เต ปจฺจูหา’’ติฯ ทุกฺกรญฺหิ กโรติ โสติ โส เวสฺสนฺตโร ราชา เอกโกว อรเญฺญ วสโนฺต ภริยํ พฺราหฺมณสฺส เทโนฺต ทุกฺกรํ กโรตีติ เอวํ สเพฺพ เทวา อนุโมทนฺตีติ วทติฯ ‘‘ยเมต’’นฺติ คาถํ อนุโมทนํ กโรโนฺต อาหฯ วเน วสนฺติ วเน วสโนฺตฯ พฺรหฺมยานนฺติ เสฎฺฐยานํฯ ติวิโธ หิ สุจริตธโมฺม เอวรูโป จ ทานธโมฺม อริยมคฺคสฺส ปจฺจโย โหตีติ ‘‘พฺรหฺมยาน’’นฺติ วุจฺจติฯ ตสฺมา ยํ ตํ อิทํ อชฺช ทานํ ททโตปิ นิปฺผนฺนํ พฺรหฺมยานํ อปายภูมิํ อโนกฺกมิตฺวา สเคฺค เต ตํ วิปจฺจตุ, วิปากปริโยสาเน จ สพฺพญฺญุตญฺญาณทายกํ โหตูติฯ
Tattha paccūhāti paccatthikā. Dibbāti dibbasampattipaṭibāhakā. Mānusāti manussasampattipaṭibāhakā. Ke pana teti? Macchariyadhammā. Te sabbe puttadāraṃ dentena mahāsattena jitā. Tenāha ‘‘sabbe jitā te paccūhā’’ti. Dukkarañhi karoti soti so vessantaro rājā ekakova araññe vasanto bhariyaṃ brāhmaṇassa dento dukkaraṃ karotīti evaṃ sabbe devā anumodantīti vadati. ‘‘Yameta’’nti gāthaṃ anumodanaṃ karonto āha. Vane vasanti vane vasanto. Brahmayānanti seṭṭhayānaṃ. Tividho hi sucaritadhammo evarūpo ca dānadhammo ariyamaggassa paccayo hotīti ‘‘brahmayāna’’nti vuccati. Tasmā yaṃ taṃ idaṃ ajja dānaṃ dadatopi nipphannaṃ brahmayānaṃ apāyabhūmiṃ anokkamitvā sagge te taṃ vipaccatu, vipākapariyosāne ca sabbaññutaññāṇadāyakaṃ hotūti.
เอวมสฺส สโกฺก อนุโมทนํ กตฺวา ‘‘อิทานิ มยา อิธ ปปญฺจํ อกตฺวา อิมํ อิมเสฺสว ทตฺวา คนฺตุํ วฎฺฎตี’’ติ จิเนฺตตฺวา อาห –
Evamassa sakko anumodanaṃ katvā ‘‘idāni mayā idha papañcaṃ akatvā imaṃ imasseva datvā gantuṃ vaṭṭatī’’ti cintetvā āha –
๒๒๘๙.
2289.
‘‘ททามิ โภโต ภริยํ, มทฺทิํ สพฺพงฺคโสภนํ;
‘‘Dadāmi bhoto bhariyaṃ, maddiṃ sabbaṅgasobhanaṃ;
ตฺวเญฺจว มทฺทิยา ฉโนฺน, มทฺที จ ปตินา สหฯ
Tvañceva maddiyā channo, maddī ca patinā saha.
๒๒๙๐.
2290.
‘‘ยถา ปโย จ สโงฺข จ, อุโภ สมานวณฺณิโน;
‘‘Yathā payo ca saṅkho ca, ubho samānavaṇṇino;
เอวํ ตุวญฺจ มทฺที จ, สมานมนเจตสาฯ
Evaṃ tuvañca maddī ca, samānamanacetasā.
๒๒๙๑.
2291.
‘‘อวรุเทฺธตฺถ อรญฺญสฺมิํ, อุโภ สมฺมถ อสฺสเม;
‘‘Avaruddhettha araññasmiṃ, ubho sammatha assame;
ขตฺติยา โคตฺตสมฺปนฺนา, สุชาตา มาตุเปตฺติโต;
Khattiyā gottasampannā, sujātā mātupettito;
ยถา ปุญฺญานิ กยิราถ, ททนฺตา อปราปร’’นฺติฯ
Yathā puññāni kayirātha, dadantā aparāpara’’nti.
ตตฺถ ฉโนฺนติ อนุรูโปฯ อุโภ สมานวณฺณิโนติ สมานวณฺณา อุโภปิ ปริสุทฺธาเยวฯ สมานมนเจตสาติ อาจาราทีหิ กเมฺมหิ สมาเนน มนสงฺขาเตน เจตสา สมนฺนาคตาฯ อวรุเทฺธตฺถาติ รฎฺฐโต ปพฺพาชิตา หุตฺวา เอตฺถ อรเญฺญ วสถฯ ยถา ปุญฺญานีติ ยถา เชตุตฺตรนคเร โว พหูนิ ปุญฺญานิ กตานิ, หิโยฺย ปุตฺตานํ อชฺช ภริยาย ทานวเสนปิ กตานีติ เอตฺตเกเนว ปริโตสํ อกตฺวา อิโต อุตฺตริปิ อปราปรํ ททนฺตา ยถานุรูปานิ ปุญฺญานิ กเรยฺยาถาติฯ
Tattha channoti anurūpo. Ubho samānavaṇṇinoti samānavaṇṇā ubhopi parisuddhāyeva. Samānamanacetasāti ācārādīhi kammehi samānena manasaṅkhātena cetasā samannāgatā. Avaruddhetthāti raṭṭhato pabbājitā hutvā ettha araññe vasatha. Yathā puññānīti yathā jetuttaranagare vo bahūni puññāni katāni, hiyyo puttānaṃ ajja bhariyāya dānavasenapi katānīti ettakeneva paritosaṃ akatvā ito uttaripi aparāparaṃ dadantā yathānurūpāni puññāni kareyyāthāti.
เอวญฺจ ปน วตฺวา สโกฺก มหาสตฺตสฺส มทฺทิํ ปฎิจฺฉาเปตฺวา วรํ ทาตุํ อตฺตานํ อาจิกฺขโนฺต อาห –
Evañca pana vatvā sakko mahāsattassa maddiṃ paṭicchāpetvā varaṃ dātuṃ attānaṃ ācikkhanto āha –
๒๒๙๒.
2292.
‘‘สโกฺกหมสฺมิ เทวิโนฺท, อาคโตสฺมิ ตวนฺติเก;
‘‘Sakkohamasmi devindo, āgatosmi tavantike;
วรํ วรสฺสุ ราชิสิ, วเร อฎฺฐ ททามิ เต’’ติฯ
Varaṃ varassu rājisi, vare aṭṭha dadāmi te’’ti.
กเถโนฺตเยว จ ทิพฺพตฺตภาเวน ชลโนฺต ตรุณสูริโย วิย อากาเส อฎฺฐาสิฯ ตโต โพธิสโตฺต วรํ คณฺหโนฺต อาห –
Kathentoyeva ca dibbattabhāvena jalanto taruṇasūriyo viya ākāse aṭṭhāsi. Tato bodhisatto varaṃ gaṇhanto āha –
๒๒๙๓.
2293.
‘‘วรํ เจ เม อโท สกฺก, สพฺพภูตานมิสฺสร;
‘‘Varaṃ ce me ado sakka, sabbabhūtānamissara;
ปิตา มํ อนุโมเทยฺย, อิโต ปตฺตํ สกํ ฆรํ;
Pitā maṃ anumodeyya, ito pattaṃ sakaṃ gharaṃ;
อาสเนน นิมเนฺตยฺย, ปฐเมตํ วรํ วเรฯ
Āsanena nimanteyya, paṭhametaṃ varaṃ vare.
๒๒๙๔.
2294.
‘‘ปุริสสฺส วธํ น โรเจยฺยํ, อปิ กิพฺพิสการกํ;
‘‘Purisassa vadhaṃ na roceyyaṃ, api kibbisakārakaṃ;
วชฺฌํ วธมฺหา โมเจยฺยํ, ทุติเยตํ วรํ วเรฯ
Vajjhaṃ vadhamhā moceyyaṃ, dutiyetaṃ varaṃ vare.
๒๒๙๕.
2295.
‘‘เย วุฑฺฒา เย จ ทหรา, เย จ มชฺฌิมโปริสา;
‘‘Ye vuḍḍhā ye ca daharā, ye ca majjhimaporisā;
มเมว อุปชีเวยฺยุํ, ตติเยตํ วรํ วเรฯ
Mameva upajīveyyuṃ, tatiyetaṃ varaṃ vare.
๒๒๙๖.
2296.
‘‘ปรทารํ น คเจฺฉยฺยํ, สทารปสุโต สิยํ;
‘‘Paradāraṃ na gaccheyyaṃ, sadārapasuto siyaṃ;
ถีนํ วสํ น คเจฺฉยฺยํ, จตุเตฺถตํ วรํ วเรฯ
Thīnaṃ vasaṃ na gaccheyyaṃ, catutthetaṃ varaṃ vare.
๒๒๙๗.
2297.
‘‘ปุโตฺต เม สกฺก ชาเยถ, โส จ ทีฆายุโก สิยา;
‘‘Putto me sakka jāyetha, so ca dīghāyuko siyā;
ธเมฺมน ชิเน ปถวิํ, ปญฺจเมตํ วรํ วเรฯ
Dhammena jine pathaviṃ, pañcametaṃ varaṃ vare.
๒๒๙๘.
2298.
‘‘ตโต รตฺยา วิวสาเน, สูริยสฺสุคฺคมนํ ปติ;
‘‘Tato ratyā vivasāne, sūriyassuggamanaṃ pati;
ทิพฺพา ภกฺขา ปาตุภเวยฺยุํ, ฉฎฺฐเมตํ วรํ วเรฯ
Dibbā bhakkhā pātubhaveyyuṃ, chaṭṭhametaṃ varaṃ vare.
๒๒๙๙.
2299.
‘‘ททโต เม น ขีเยถ, ทตฺวา นานุตเปยฺยหํ;
‘‘Dadato me na khīyetha, datvā nānutapeyyahaṃ;
ททํ จิตฺตํ ปสาเทยฺยํ, สตฺตเมตํ วรํ วเรฯ
Dadaṃ cittaṃ pasādeyyaṃ, sattametaṃ varaṃ vare.
๒๓๐๐.
2300.
‘‘อิโต วิมุจฺจมานาหํ, สคฺคคามี วิเสสคู;
‘‘Ito vimuccamānāhaṃ, saggagāmī visesagū;
อนิวตฺติ ตโต อสฺสํ, อฎฺฐเมตํ วรํ วเร’’ติฯ
Anivatti tato assaṃ, aṭṭhametaṃ varaṃ vare’’ti.
ตตฺถ อนุโมเทยฺยาติ สมฺปฎิเจฺฉยฺย น กุเชฺฌยฺยฯ อิโต ปตฺตนฺติ อิมมฺหา อรญฺญา สกํ ฆรํ อนุปฺปตฺตํฯ อาสเนนาติ ราชาสเนนฯ รชฺชํ เม เทตูติ วทติฯ อปิ กิพฺพิสการกนฺติ ราชา หุตฺวา ราชาปราธิกมฺปิ วชฺฌํ วธมฺหา โมเจยฺยํ, เอวรูปสฺสปิ เม วโธ นาม น รุจฺจตุฯ มเมว อุปชีเวยฺยุนฺติ สเพฺพเต มเญฺญว นิสฺสาย อุปชีเวยฺยุํฯ ธเมฺมน ชิเนติ ธเมฺมน ชินาตุ, ธเมฺมน รชฺชํ กาเรตูติ อโตฺถฯ วิเสสคูติ วิเสสคมโน หุตฺวา ตุสิตปุเร นิพฺพโตฺต โหมีติ วทติฯ อนิวตฺติ ตโต อสฺสนฺติ ตุสิตภวนโต จวิตฺวา มนุสฺสตฺตํ อาคโต ปุนภเว อนิวตฺติ อสฺสํ, สพฺพญฺญุตํ สมฺปาปุเณยฺยนฺติ วทติฯ
Tattha anumodeyyāti sampaṭiccheyya na kujjheyya. Ito pattanti imamhā araññā sakaṃ gharaṃ anuppattaṃ. Āsanenāti rājāsanena. Rajjaṃ me detūti vadati. Api kibbisakārakanti rājā hutvā rājāparādhikampi vajjhaṃ vadhamhā moceyyaṃ, evarūpassapi me vadho nāma na ruccatu. Mameva upajīveyyunti sabbete maññeva nissāya upajīveyyuṃ. Dhammena jineti dhammena jinātu, dhammena rajjaṃ kāretūti attho. Visesagūti visesagamano hutvā tusitapure nibbatto homīti vadati. Anivattitato assanti tusitabhavanato cavitvā manussattaṃ āgato punabhave anivatti assaṃ, sabbaññutaṃ sampāpuṇeyyanti vadati.
๒๓๐๑.
2301.
‘‘ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา, เทวิโนฺท เอตทพฺรวิ;
‘‘Tassa taṃ vacanaṃ sutvā, devindo etadabravi;
‘อจิรํ วต เต ตโต, ปิตา ตํ ทฎฺฐุเมสฺสตี’’’ติฯ
‘Aciraṃ vata te tato, pitā taṃ daṭṭhumessatī’’’ti.
ตตฺถ ทฎฺฐุเมสฺสตีติ มหาราช, ตว มาตา จ ปิตา จ อจิเรเนว ตํ ปสฺสิตุกาโม หุตฺวา อิธาคมิสฺสติ, อาคนฺตฺวา จ ปน เสตจฺฉตฺตํ ทตฺวา รชฺชํ นิยฺยาเทตฺวา เชตุตฺตรนครเมว เนสฺสติ, สเพฺพ เต มโนรถา มตฺถกํ ปาปุณิสฺสนฺติ, มา จินฺตยิ, อปฺปมโตฺต โหหิ, มหาราชาติฯ
Tattha daṭṭhumessatīti mahārāja, tava mātā ca pitā ca acireneva taṃ passitukāmo hutvā idhāgamissati, āgantvā ca pana setacchattaṃ datvā rajjaṃ niyyādetvā jetuttaranagarameva nessati, sabbe te manorathā matthakaṃ pāpuṇissanti, mā cintayi, appamatto hohi, mahārājāti.
เอวํ มหาสตฺตสฺส โอวาทํ ทตฺวา สโกฺก สกฎฺฐานเมว คโตฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Evaṃ mahāsattassa ovādaṃ datvā sakko sakaṭṭhānameva gato. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๒๓๐๒.
2302.
‘‘อิทํ วตฺวาน มฆวา, เทวราชา สุชมฺปติ;
‘‘Idaṃ vatvāna maghavā, devarājā sujampati;
เวสฺสนฺตเร วรํ ทตฺวา, สคฺคกายํ อปกฺกมี’’ติฯ
Vessantare varaṃ datvā, saggakāyaṃ apakkamī’’ti.
ตตฺถ เวสฺสนฺตเรติ เวสฺสนฺตรสฺสฯ อปกฺกมีติ คโต อนุปฺปโตฺตเยวาติฯ
Tattha vessantareti vessantarassa. Apakkamīti gato anuppattoyevāti.
สกฺกปพฺพวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Sakkapabbavaṇṇanā niṭṭhitā.
มหาราชปพฺพวณฺณนา
Mahārājapabbavaṇṇanā
โพธิสโตฺต จ มทฺที จ สโมฺมทมานา สกฺกทตฺติเย อสฺสเม วสิํสุฯ ชูชโกปิ กุมาเร คเหตฺวา สฎฺฐิโยชนมคฺคํ ปฎิปชฺชิฯ เทวตา กุมารานํ อารกฺขมกํสุฯ ชูชโกปิ สูริเย อตฺถงฺคเต กุมาเร คเจฺฉ พนฺธิตฺวา ภูมิยํ นิปชฺชาเปตฺวา สยํ จณฺฑวาฬมิคภเยน รุกฺขํ อารุยฺห วิฎปนฺตเร สยติฯ ตสฺมิํ ขเณ เอโก เทวปุโตฺต เวสฺสนฺตรวเณฺณน, เอกา เทวธีตา มทฺทิวเณฺณน อาคนฺตฺวา กุมาเร โมเจตฺวา หตฺถปาเท สมฺพาหิตฺวา นฺหาเปตฺวา มเณฺฑตฺวา ทิพฺพโภชนํ โภเชตฺวา ทิพฺพสยเน สยาเปตฺวา อรุณุคฺคมนกาเล พทฺธากาเรเนว นิปชฺชาเปตฺวา อนฺตรธายิฯ เอวํ เต เทวตาสงฺคเหน อโรคา หุตฺวา คจฺฉนฺติฯ ชูชโกปิ เทวตาธิคฺคหิโต หุตฺวา ‘‘กาลิงฺครฎฺฐํ คจฺฉามี’’ติ คจฺฉโนฺต อฑฺฒมาเสน เชตุตฺตรนครํ ปโตฺตฯ ตํ ทิวสํ ปจฺจูสกาเล สญฺชโย มหาราชา สุปินํ ปสฺสิฯ เอวรูโป สุปิโน อโหสิ – รโญฺญ มหาวินิจฺฉเย นิสินฺนสฺส เอโก ปุริโส กโณฺห เทฺว ปทุมานิ อาหริตฺวา รโญฺญ หเตฺถ ฐเปสิฯ ราชา ตานิ ทฺวีสุ กเณฺณสุ ปิฬนฺธิฯ เตสํ เรณุ ภสฺสิตฺวา รโญฺญ อุเร ปตติฯ โส ปพุชฺฌิตฺวา ปาโตว พฺราหฺมเณ ปุจฺฉิฯ เต ‘‘จิรปวุตฺถา โว, เทว, พนฺธวา อาคมิสฺสนฺตี’’ติ พฺยากริํสุฯ โส ปาโตว สีสํ นฺหายิตฺวา นานคฺครสโภชนํ ภุญฺชิตฺวา อลงฺกริตฺวา วินิจฺฉเย นิสีทิฯ เทวตา พฺราหฺมณํ ทฺวีหิ กุมาเรหิ สทฺธิํ อาเนตฺวา ราชงฺคเณ ฐปยิํสุฯ ตสฺมิํ ขเณ ราชา มคฺคํ โอโลเกโนฺต กุมาเร ทิสฺวา อาห –
Bodhisatto ca maddī ca sammodamānā sakkadattiye assame vasiṃsu. Jūjakopi kumāre gahetvā saṭṭhiyojanamaggaṃ paṭipajji. Devatā kumārānaṃ ārakkhamakaṃsu. Jūjakopi sūriye atthaṅgate kumāre gacche bandhitvā bhūmiyaṃ nipajjāpetvā sayaṃ caṇḍavāḷamigabhayena rukkhaṃ āruyha viṭapantare sayati. Tasmiṃ khaṇe eko devaputto vessantaravaṇṇena, ekā devadhītā maddivaṇṇena āgantvā kumāre mocetvā hatthapāde sambāhitvā nhāpetvā maṇḍetvā dibbabhojanaṃ bhojetvā dibbasayane sayāpetvā aruṇuggamanakāle baddhākāreneva nipajjāpetvā antaradhāyi. Evaṃ te devatāsaṅgahena arogā hutvā gacchanti. Jūjakopi devatādhiggahito hutvā ‘‘kāliṅgaraṭṭhaṃ gacchāmī’’ti gacchanto aḍḍhamāsena jetuttaranagaraṃ patto. Taṃ divasaṃ paccūsakāle sañjayo mahārājā supinaṃ passi. Evarūpo supino ahosi – rañño mahāvinicchaye nisinnassa eko puriso kaṇho dve padumāni āharitvā rañño hatthe ṭhapesi. Rājā tāni dvīsu kaṇṇesu piḷandhi. Tesaṃ reṇu bhassitvā rañño ure patati. So pabujjhitvā pātova brāhmaṇe pucchi. Te ‘‘cirapavutthā vo, deva, bandhavā āgamissantī’’ti byākariṃsu. So pātova sīsaṃ nhāyitvā nānaggarasabhojanaṃ bhuñjitvā alaṅkaritvā vinicchaye nisīdi. Devatā brāhmaṇaṃ dvīhi kumārehi saddhiṃ ānetvā rājaṅgaṇe ṭhapayiṃsu. Tasmiṃ khaṇe rājā maggaṃ olokento kumāre disvā āha –
๒๓๐๓.
2303.
‘‘กเสฺสตํ มุขมาภาติ, เหมํ-วุตฺตตฺตมคฺคินา;
‘‘Kassetaṃ mukhamābhāti, hemaṃ-vuttattamagginā;
นิกฺขํว ชาตรูปสฺส, อุกฺกามุขปหํสิตํฯ
Nikkhaṃva jātarūpassa, ukkāmukhapahaṃsitaṃ.
๒๓๐๔.
2304.
‘‘อุโภ สทิสปจฺจงฺคา, อุโภ สทิสลกฺขณา;
‘‘Ubho sadisapaccaṅgā, ubho sadisalakkhaṇā;
ชาลิสฺส สทิโส เอโก, เอกา กณฺหาชินา ยถาฯ
Jālissa sadiso eko, ekā kaṇhājinā yathā.
๒๓๐๕.
2305.
‘‘สีหา พิลาว นิกฺขนฺตา, อุโภ สมฺปติรูปกา;
‘‘Sīhā bilāva nikkhantā, ubho sampatirūpakā;
ชาตรูปมยาเยว, อิเม ทิสฺสนฺติ ทารกา’’ติฯ
Jātarūpamayāyeva, ime dissanti dārakā’’ti.
ตตฺถ เหมํวุตฺตตฺตมคฺคินาติ เหมํ อิว อุตฺตตฺตํ อคฺคินาฯ สีหา พิลาว นิกฺขนฺตาติ กญฺจนคุหโต นิกฺขนฺตา สีหา วิยฯ
Tattha hemaṃvuttattamaggināti hemaṃ iva uttattaṃ agginā. Sīhā bilāva nikkhantāti kañcanaguhato nikkhantā sīhā viya.
เอวํ ราชา ตีหิ คาถาหิ กุมาเร วเณฺณตฺวา เอกํ อมจฺจํ อาณาเปสิ ‘‘คเจฺฉตํ พฺราหฺมณํ ทารเกหิ สทฺธิํ อาเนหี’’ติฯ โส เวเคน คนฺตฺวา พฺราหฺมณํ อาเนสิฯ อถ ราชา พฺราหฺมณํ อาห –
Evaṃ rājā tīhi gāthāhi kumāre vaṇṇetvā ekaṃ amaccaṃ āṇāpesi ‘‘gacchetaṃ brāhmaṇaṃ dārakehi saddhiṃ ānehī’’ti. So vegena gantvā brāhmaṇaṃ ānesi. Atha rājā brāhmaṇaṃ āha –
๒๓๐๖.
2306.
‘‘กุโต นุ ภวํ ภารทฺวาช, อิเม อาเนสิ ทารเก;
‘‘Kuto nu bhavaṃ bhāradvāja, ime ānesi dārake;
อชฺช รฎฺฐํ อนุปฺปโตฺต, กุหิํ คจฺฉสิ พฺราหฺมณา’’ติฯ
Ajja raṭṭhaṃ anuppatto, kuhiṃ gacchasi brāhmaṇā’’ti.
ชูชโก อาห –
Jūjako āha –
๒๓๐๗.
2307.
‘‘มยฺหํ เต ทารกา เทว, ทินฺนา วิเตฺตน สญฺชย;
‘‘Mayhaṃ te dārakā deva, dinnā vittena sañjaya;
อชฺช ปนฺนรสา รตฺติ, ยโต ลทฺธา เม ทารกา’’ติฯ
Ajja pannarasā ratti, yato laddhā me dārakā’’ti.
ตตฺถ วิเตฺตนาติ ตุเฎฺฐน ปสเนฺนนฯ อชฺช ปนฺนรสา รตฺตีติ อิเมสํ ลทฺธทิวสโต ปฎฺฐาย อชฺช ปนฺนรสา รตฺตีติ วทติฯ
Tattha vittenāti tuṭṭhena pasannena. Ajja pannarasā rattīti imesaṃ laddhadivasato paṭṭhāya ajja pannarasā rattīti vadati.
ราชา อาห –
Rājā āha –
๒๓๐๘.
2308.
‘‘เกน วา วาจเปเยฺยน, สมฺมาญาเยน สทฺทเห;
‘‘Kena vā vācapeyyena, sammāñāyena saddahe;
โก เตตํ ทานมททา, ปุตฺตเก ทานมุตฺตม’’นฺติฯ
Ko tetaṃ dānamadadā, puttake dānamuttama’’nti.
ตตฺถ เกน วา วาจเปเยฺยนาติ พฺราหฺมณ, เกน ปิยวจเนน เต ตยา ลทฺธาฯ สมฺมาญาเยน สทฺทเหติ มุสาวาทํ อกตฺวา สมฺมาญาเยน การเณน อเมฺห สทฺทหาเปยฺยาสิฯ ปุตฺตเกติ อตฺตโน ปิยปุตฺตเก อุตฺตมํ ทานํ กตฺวา โก เต เอตํ ทานํ อททาติฯ
Tattha kena vā vācapeyyenāti brāhmaṇa, kena piyavacanena te tayā laddhā. Sammāñāyena saddaheti musāvādaṃ akatvā sammāñāyena kāraṇena amhe saddahāpeyyāsi. Puttaketi attano piyaputtake uttamaṃ dānaṃ katvā ko te etaṃ dānaṃ adadāti.
ชูชโก อาห –
Jūjako āha –
๒๓๐๙.
2309.
‘‘โย ยาจตํ ปติฎฺฐาสิ, ภูตานํ ธรณีริว;
‘‘Yo yācataṃ patiṭṭhāsi, bhūtānaṃ dharaṇīriva;
โส เม เวสฺสนฺตโร ราชา, ปุเตฺตทาสิ วเน วสํฯ
So me vessantaro rājā, puttedāsi vane vasaṃ.
๒๓๑๐.
2310.
‘‘โย ยาจตํ คตี อาสิ, สวนฺตีนํว สาคโร;
‘‘Yo yācataṃ gatī āsi, savantīnaṃva sāgaro;
โส เม เวสฺสนฺตโร ราชา, ปุเตฺตทาสิ วเน วส’’นฺติฯ
So me vessantaro rājā, puttedāsi vane vasa’’nti.
ตตฺถ ปติฎฺฐาสีติ ปติฎฺฐา อาสิฯ
Tattha patiṭṭhāsīti patiṭṭhā āsi.
ตํ สุตฺวา อมจฺจา เวสฺสนฺตรํ ครหมานา อาหํสุ –
Taṃ sutvā amaccā vessantaraṃ garahamānā āhaṃsu –
๒๓๑๑.
2311.
‘‘ทุกฺกฎํ วต โภ รญฺญา, สเทฺธน ฆรเมสินา;
‘‘Dukkaṭaṃ vata bho raññā, saddhena gharamesinā;
กถํ นุ ปุตฺตเก ทชฺชา, อรเญฺญ อวรุทฺธโกฯ
Kathaṃ nu puttake dajjā, araññe avaruddhako.
๒๓๑๒.
2312.
‘‘อิมํ โภโนฺต นิสาเมถ, ยาวเนฺตตฺถ สมาคตา;
‘‘Imaṃ bhonto nisāmetha, yāvantettha samāgatā;
กถํ เวสฺสนฺตโร ราชา, ปุเตฺตทาสิ วเน วสํฯ
Kathaṃ vessantaro rājā, puttedāsi vane vasaṃ.
๒๓๑๓.
2313.
‘‘ทาสิํ ทาสญฺจ โส ทชฺชา, อสฺสํ จสฺสตรีรถํ;
‘‘Dāsiṃ dāsañca so dajjā, assaṃ cassatarīrathaṃ;
หตฺถิญฺจ กุญฺชรํ ทชฺชา, กถํ โส ทชฺช ทารเก’’ติฯ
Hatthiñca kuñjaraṃ dajjā, kathaṃ so dajja dārake’’ti.
ตตฺถ สเทฺธนาติ สทฺธาย สมฺปเนฺนนปิ สตา ฆรํ อาวสเนฺตน รญฺญา อิทํ ทุกฺกฎํ วต, อยุตฺตํ วต กตํฯ อวรุทฺธโกติ รฎฺฐา ปพฺพาชิโต อรเญฺญ วสโนฺตฯ อิมํ โภโนฺตติ โภโนฺต นครวาสิโน ยาวโนฺต เอตฺถ สมาคตา, สเพฺพ อิมํ นิสาเมถ อุปธาเรถ, กถํ นาเมโส ปุตฺตเก ทาเส กตฺวา อทาสิ, เกน นาม เอวรูปํ กตปุพฺพนฺติ อธิปฺปาเยเนวมาหํสุฯ ทชฺชาติ ทาสาทีสุ ยํ กิญฺจิ ธนํ เทตุฯ กถํ โส ทชฺช ทารเกติ อิเม ปน ทารเก เกน การเณน อทาสีติฯ
Tattha saddhenāti saddhāya sampannenapi satā gharaṃ āvasantena raññā idaṃ dukkaṭaṃ vata, ayuttaṃ vata kataṃ. Avaruddhakoti raṭṭhā pabbājito araññe vasanto. Imaṃ bhontoti bhonto nagaravāsino yāvanto ettha samāgatā, sabbe imaṃ nisāmetha upadhāretha, kathaṃ nāmeso puttake dāse katvā adāsi, kena nāma evarūpaṃ katapubbanti adhippāyenevamāhaṃsu. Dajjāti dāsādīsu yaṃ kiñci dhanaṃ detu. Kathaṃ so dajja dāraketi ime pana dārake kena kāraṇena adāsīti.
ตํ สุตฺวา กุมาโร ปิตุ ครหํ อสหโนฺต วาตาภิหตสฺส สิเนรุโน พาหํ โอเฑฺฑโนฺต วิย อิมํ คาถมาห –
Taṃ sutvā kumāro pitu garahaṃ asahanto vātābhihatassa sineruno bāhaṃ oḍḍento viya imaṃ gāthamāha –
๒๓๑๔.
2314.
‘‘ยสฺส นสฺส ฆเร ทาโส, อโสฺส จสฺสตรีรโถ;
‘‘Yassa nassa ghare dāso, asso cassatarīratho;
หตฺถี จ กุญฺชโร นาโค, กิํ โส ทชฺชา ปิตามหา’’ติฯ
Hatthī ca kuñjaro nāgo, kiṃ so dajjā pitāmahā’’ti.
ราชา อาห –
Rājā āha –
๒๓๑๕.
2315.
‘‘ทานมสฺส ปสํสาม, น จ นินฺทาม ปุตฺตกา;
‘‘Dānamassa pasaṃsāma, na ca nindāma puttakā;
กถํ นุ หทยํ อาสิ, ตุเมฺห ทตฺวา วนิพฺพเก’’ติฯ
Kathaṃ nu hadayaṃ āsi, tumhe datvā vanibbake’’ti.
ตตฺถ ทานมสฺส ปสํสามาติ ปุตฺตกา มยํ ตว ปิตุ ทานํ ปสํสาม น นินฺทามฯ
Tattha dānamassa pasaṃsāmāti puttakā mayaṃ tava pitu dānaṃ pasaṃsāma na nindāma.
ตํ สุตฺวา กุมาโร อาห –
Taṃ sutvā kumāro āha –
๒๓๑๖.
2316.
‘‘ทุกฺขสฺส หทยํ อาสิ, อโถ อุณฺหมฺปิ ปสฺสสิ;
‘‘Dukkhassa hadayaṃ āsi, atho uṇhampi passasi;
โรหินีเหว ตมฺพกฺขี, ปิตา อสฺสูนิ วตฺตยี’’ติฯ
Rohinīheva tambakkhī, pitā assūni vattayī’’ti.
ตตฺถ ทุกฺขสฺส หทยํ อาสีติ ปิตามห กณฺหาชินาย วุตฺตํ เอตํ วจนํ สุตฺวา ตสฺส หทยํ ทุกฺขํ อาสิฯ โรหินีเหว ตมฺพกฺขีติ ตมฺพวเณฺณหิ วิย รตฺตอกฺขีหิ มม ปิตา ตสฺมิํ ขเณ อสฺสูนิ ปวตฺตยิฯ
Tattha dukkhassa hadayaṃ āsīti pitāmaha kaṇhājināya vuttaṃ etaṃ vacanaṃ sutvā tassa hadayaṃ dukkhaṃ āsi. Rohinīheva tambakkhīti tambavaṇṇehi viya rattaakkhīhi mama pitā tasmiṃ khaṇe assūni pavattayi.
อิทานิสฺสา ตํ วจนํ ทเสฺสโนฺต อาห –
Idānissā taṃ vacanaṃ dassento āha –
๒๓๑๗.
2317.
‘‘ยํ ตํ กณฺหาชินาโวจ, อยํ มํ ตาต พฺราหฺมโณ;
‘‘Yaṃ taṃ kaṇhājināvoca, ayaṃ maṃ tāta brāhmaṇo;
ลฎฺฐิยา ปฎิโกเฎติ, ฆเร ชาตํว ทาสิยํฯ
Laṭṭhiyā paṭikoṭeti, ghare jātaṃva dāsiyaṃ.
๒๓๑๘.
2318.
‘‘น จายํ พฺราหฺมโณ ตาต, ธมฺมิกา โหนฺติ พฺราหฺมณา;
‘‘Na cāyaṃ brāhmaṇo tāta, dhammikā honti brāhmaṇā;
ยโกฺข พฺราหฺมณวเณฺณน, ขาทิตุํ ตาต เนติ โน;
Yakkho brāhmaṇavaṇṇena, khādituṃ tāta neti no;
นียมาเน ปิสาเจน, กิํ นุ ตาต อุทิกฺขสี’’ติฯ
Nīyamāne pisācena, kiṃ nu tāta udikkhasī’’ti.
อถ เน กุมาเร พฺราหฺมณํ อมุญฺจเนฺต ทิสฺวา ราชา คาถมาห –
Atha ne kumāre brāhmaṇaṃ amuñcante disvā rājā gāthamāha –
๒๓๑๙.
2319.
‘‘ราชปุตฺตี จ โว มาตา, ราชปุโตฺต จ โว ปิตา;
‘‘Rājaputtī ca vo mātā, rājaputto ca vo pitā;
ปุเพฺพ เม องฺกมารุยฺห, กิํ นุ ติฎฺฐถ อารกา’’ติฯ
Pubbe me aṅkamāruyha, kiṃ nu tiṭṭhatha ārakā’’ti.
ตตฺถ ปุเพฺพ เมติ ตุเมฺห อิโต ปุเพฺพ มํ ทิสฺวา เวเคนาคนฺตฺวา มม องฺกมารุยฺห, อิทานิ กิํ นุ อารกา ติฎฺฐถาติ?
Tattha pubbe meti tumhe ito pubbe maṃ disvā vegenāgantvā mama aṅkamāruyha, idāni kiṃ nu ārakā tiṭṭhathāti?
กุมาโร อาห –
Kumāro āha –
๒๓๒๐.
2320.
‘‘ราชปุตฺตี จ โน มาตา, ราชปุโตฺต จ โน ปิตา;
‘‘Rājaputtī ca no mātā, rājaputto ca no pitā;
ทาสา มยํ พฺราหฺมณสฺส, ตสฺมา ติฎฺฐาม อารกา’’ติฯ
Dāsā mayaṃ brāhmaṇassa, tasmā tiṭṭhāma ārakā’’ti.
ตตฺถ ทาสา มยนฺติ อิทานิ ปน มยํ พฺราหฺมณสฺส ทาสา ภวามฯ
Tattha dāsā mayanti idāni pana mayaṃ brāhmaṇassa dāsā bhavāma.
ราชา อาห –
Rājā āha –
๒๓๒๑.
2321.
‘‘มา สเมฺมวํ อวจุตฺถ, ฑยฺหเต หทยํ มม;
‘‘Mā sammevaṃ avacuttha, ḍayhate hadayaṃ mama;
จิตกายํว เม กาโย, อาสเน น สุขํ ลเภฯ
Citakāyaṃva me kāyo, āsane na sukhaṃ labhe.
๒๓๒๒.
2322.
‘‘มา สเมฺมวํ อวจุตฺถ, ภิโยฺย โสกํ ชเนถ มํ;
‘‘Mā sammevaṃ avacuttha, bhiyyo sokaṃ janetha maṃ;
นิกฺกิณิสฺสามิ ทเพฺพน, น โว ทาสา ภวิสฺสถฯ
Nikkiṇissāmi dabbena, na vo dāsā bhavissatha.
๒๓๒๓.
2323.
‘‘กิมคฺฆิยญฺหิ โว ตาต, พฺราหฺมณสฺส ปิตา อทา;
‘‘Kimagghiyañhi vo tāta, brāhmaṇassa pitā adā;
ยถาภูตํ เม อกฺขาถ, ปฎิปาเทนฺตุ พฺราหฺมณ’’นฺติฯ
Yathābhūtaṃ me akkhātha, paṭipādentu brāhmaṇa’’nti.
ตตฺถ สมฺมาติ ปิยวจนํฯ จิตกายํว เม กาโยติ อิทานิ มม กาโย องฺคารจิตกายํ อาโรปิโต วิย ชาโตฯ ชเนถ มนฺติ ชเนถ เม, อยเมว วา ปาโฐฯ นิกฺกิณิสฺสามิ ทเพฺพนาติ ธนํ ทตฺวา โมเจสฺสามิฯ กิมคฺฆิยนฺติ กิํ อคฺฆํ กตฺวาฯ ปฎิปาเทนฺตูติ ธนํ ปฎิจฺฉาเปนฺตุฯ
Tattha sammāti piyavacanaṃ. Citakāyaṃva me kāyoti idāni mama kāyo aṅgāracitakāyaṃ āropito viya jāto. Janetha manti janetha me, ayameva vā pāṭho. Nikkiṇissāmi dabbenāti dhanaṃ datvā mocessāmi. Kimagghiyanti kiṃ agghaṃ katvā. Paṭipādentūti dhanaṃ paṭicchāpentu.
กุมาโร อาห –
Kumāro āha –
๒๓๒๔.
2324.
‘‘สหสฺสคฺฆญฺหิ มํ ตาต, พฺราหฺมณสฺส ปิตา อทา;
‘‘Sahassagghañhi maṃ tāta, brāhmaṇassa pitā adā;
อถ กณฺหาชินํ กญฺญํ, หตฺถินา จ สเตน จา’’ติฯ
Atha kaṇhājinaṃ kaññaṃ, hatthinā ca satena cā’’ti.
ตตฺถ สหสฺสคฺฆํ หีติ เทว, มํ ปิตา ตทา นิกฺขสหสฺสํ อคฺฆาเปตฺวา อทาสิฯ อถ กณฺหาชินนฺติ กนิฎฺฐํ ปน เม กณฺหาชินํฯ หตฺถินา จ สเตน จาติ หตฺถีนญฺจ อสฺสานญฺจ อุสภานญฺจ นิกฺขานญฺจาติ สเพฺพสํ เอเตสํ สเตน อนฺตมโส มญฺจปีฐปาทุเก อุปาทาย สพฺพสเตน อคฺฆาเปสีติฯ
Tattha sahassagghaṃ hīti deva, maṃ pitā tadā nikkhasahassaṃ agghāpetvā adāsi. Atha kaṇhājinanti kaniṭṭhaṃ pana me kaṇhājinaṃ. Hatthinā ca satena cāti hatthīnañca assānañca usabhānañca nikkhānañcāti sabbesaṃ etesaṃ satena antamaso mañcapīṭhapāduke upādāya sabbasatena agghāpesīti.
ราชา กุมารานํ นิกฺกยํ ทาเปโนฺต อาห –
Rājā kumārānaṃ nikkayaṃ dāpento āha –
๒๓๒๕.
2325.
‘‘อุเฎฺฐหิ กเตฺต ตรมาโน, พฺราหฺมณสฺส อวากร;
‘‘Uṭṭhehi katte taramāno, brāhmaṇassa avākara;
ทาสิสตํ ทาสสตํ, ควํ หตฺถุสภํ สตํ;
Dāsisataṃ dāsasataṃ, gavaṃ hatthusabhaṃ sataṃ;
ชาตรูปสหสฺสญฺจ, ปุตฺตานํ เทหิ นิกฺกย’’นฺติฯ
Jātarūpasahassañca, puttānaṃ dehi nikkaya’’nti.
ตตฺถ อวากราติ เทหิฯ
Tattha avākarāti dehi.
๒๓๒๖.
2326.
‘‘ตโต กตฺตา ตรมาโน, พฺราหฺมณสฺส อวากริ;
‘‘Tato kattā taramāno, brāhmaṇassa avākari;
ทาสิสตํ ทาสสตํ, ควํ หตฺถุสภํ สตํ;
Dāsisataṃ dāsasataṃ, gavaṃ hatthusabhaṃ sataṃ;
ชาตรูปสหสฺสญฺจ, ปุตฺตานํทาสิ นิกฺกย’’นฺติฯ
Jātarūpasahassañca, puttānaṃdāsi nikkaya’’nti.
ตตฺถ อวากรีติ อทาสิฯ นิกฺกยนฺติ อคฺฆสฺส มูลํฯ
Tattha avākarīti adāsi. Nikkayanti agghassa mūlaṃ.
เอวํ พฺราหฺมณสฺส สพฺพสตญฺจ นิกฺขสหสฺสญฺจ กุมารานํ นิกฺกยํ อทาสิ, สตฺตภูมิกญฺจ ปาสาทํ, พฺราหฺมณสฺส ปริวาโร มหา อโหสิฯ โส ธนํ ปฎิสาเมตฺวา ปาสาทํ อภิรุยฺห สาทุรสโภชนํ ภุญฺชิตฺวา มหาสยเน นิปชฺชิฯ กุมาเร สีสํ นหาเปตฺวา โภเชตฺวา อลงฺกริตฺวา เอกํ อยฺยโก, เอกํ อยฺยิกาติ เทฺวปิ อุจฺฉเงฺค อุปเวเสสุํฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Evaṃ brāhmaṇassa sabbasatañca nikkhasahassañca kumārānaṃ nikkayaṃ adāsi, sattabhūmikañca pāsādaṃ, brāhmaṇassa parivāro mahā ahosi. So dhanaṃ paṭisāmetvā pāsādaṃ abhiruyha sādurasabhojanaṃ bhuñjitvā mahāsayane nipajji. Kumāre sīsaṃ nahāpetvā bhojetvā alaṅkaritvā ekaṃ ayyako, ekaṃ ayyikāti dvepi ucchaṅge upavesesuṃ. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๒๓๒๗.
2327.
‘‘นิกฺกิณิตฺวา นหาเปตฺวา, โภชยิตฺวาน ทารเก;
‘‘Nikkiṇitvā nahāpetvā, bhojayitvāna dārake;
สมลงฺกริตฺวา ภเณฺฑน, อุจฺฉเงฺค อุปเวสยุํฯ
Samalaṅkaritvā bhaṇḍena, ucchaṅge upavesayuṃ.
๒๓๒๘.
2328.
‘‘สีสํ นฺหาเต สุจิวเตฺถ, สพฺพาภรณภูสิเต;
‘‘Sīsaṃ nhāte sucivatthe, sabbābharaṇabhūsite;
ราชา อเงฺก กริตฺวาน, อยฺยโก ปริปุจฺฉถฯ
Rājā aṅke karitvāna, ayyako paripucchatha.
๒๓๒๙.
2329.
‘‘กุณฺฑเล ฆุสิเต มาเล, สพฺพาภรณภูสิเต;
‘‘Kuṇḍale ghusite māle, sabbābharaṇabhūsite;
ราชา อเงฺก กริตฺวาน, อิทํ วจนมพฺรวิฯ
Rājā aṅke karitvāna, idaṃ vacanamabravi.
๒๓๓๐.
2330.
‘‘กจฺจิ อุโภ อโรคา เต, ชาลิ มาตาปิตา ตว;
‘‘Kacci ubho arogā te, jāli mātāpitā tava;
กจฺจิ อุเญฺฉน ยาเปนฺติ, กจฺจิ มูลผลา พหูฯ
Kacci uñchena yāpenti, kacci mūlaphalā bahū.
๒๓๓๑.
2331.
‘‘กจฺจิ ฑํสา มกสา จ, อปฺปเมว สรีสปา;
‘‘Kacci ḍaṃsā makasā ca, appameva sarīsapā;
วเน วาฬมิคากิเณฺณ, กจฺจิ หิํสา น วิชฺชตี’’ติฯ
Vane vāḷamigākiṇṇe, kacci hiṃsā na vijjatī’’ti.
ตตฺถ กุณฺฑเลติ กุณฺฑลานิ ปิลนฺธาเปตฺวาฯ ฆุสิเตติ อุโคฺฆสิเต มโนรมํ รวํ รวเนฺตฯ มาเลติ ปุปฺผานิ ปิลนฺธาเปตฺวาฯ อเงฺก กริตฺวานาติ ชาลิกุมารํ อเงฺก นิสีทาเปตฺวาฯ
Tattha kuṇḍaleti kuṇḍalāni pilandhāpetvā. Ghusiteti ugghosite manoramaṃ ravaṃ ravante. Māleti pupphāni pilandhāpetvā. Aṅke karitvānāti jālikumāraṃ aṅke nisīdāpetvā.
กุมาโร อาห –
Kumāro āha –
๒๓๓๒.
2332.
‘‘อโถ อุโภ อโรคา เม, เทว มาตาปิตา มม;
‘‘Atho ubho arogā me, deva mātāpitā mama;
อโถ อุเญฺฉน ยาเปนฺติ, อโถ มูลผลา พหูฯ
Atho uñchena yāpenti, atho mūlaphalā bahū.
๒๓๓๓.
2333.
‘‘อโถ ฑํสา มกสา จ, อปฺปเมว สรีสปา;
‘‘Atho ḍaṃsā makasā ca, appameva sarīsapā;
วเน วาฬมิคากิเณฺณ, หิํสา เนสํ น วิชฺชติฯ
Vane vāḷamigākiṇṇe, hiṃsā nesaṃ na vijjati.
๒๓๓๔.
2334.
‘‘ขณนฺตาลุกลมฺพานิ, พิลานิ ตกฺกลานิ จ;
‘‘Khaṇantālukalambāni, bilāni takkalāni ca;
โกลํ ภลฺลาตกํ เพลฺลํ, สา โน อาหตฺว โปสติฯ
Kolaṃ bhallātakaṃ bellaṃ, sā no āhatva posati.
๒๓๓๕.
2335.
‘‘ยเญฺจว สา อาหรติ, วนมูลผลหาริยา;
‘‘Yañceva sā āharati, vanamūlaphalahāriyā;
ตํ โน สเพฺพ สมาคนฺตฺวา, รตฺติํ ภุญฺชาม โน ทิวาฯ
Taṃ no sabbe samāgantvā, rattiṃ bhuñjāma no divā.
๒๓๓๖.
2336.
‘‘อมฺมาว โน กิสา ปณฺฑุ, อาหรนฺตี ทุมปฺผลํ;
‘‘Ammāva no kisā paṇḍu, āharantī dumapphalaṃ;
วาตาตเปน สุขุมาลี, ปทุมํ หตฺถคตามิวฯ
Vātātapena sukhumālī, padumaṃ hatthagatāmiva.
๒๓๓๗.
2337.
‘‘อมฺมาย ปตนู เกสา, วิจรนฺตฺยา พฺรหาวเน;
‘‘Ammāya patanū kesā, vicarantyā brahāvane;
วเน วาฬมิคากิเณฺณ, ขคฺคทีปินิเสวิเตฯ
Vane vāḷamigākiṇṇe, khaggadīpinisevite.
๒๓๓๘.
2338.
‘‘เกเสสุ ชฎํ พนฺธิตฺวา, กเจฺฉ ชลฺลมธารยิ;
‘‘Kesesu jaṭaṃ bandhitvā, kacche jallamadhārayi;
จมฺมวาสี ฉมา เสติ, ชาตเวทํ นมสฺสตี’’ติฯ
Cammavāsī chamā seti, jātavedaṃ namassatī’’ti.
ตตฺถ ขณนฺตาลุกลมฺพานีติ ขณนฺตี อาลูนิ จ กลมฺพานิ จฯ อิมินา มาตาปิตูนํ กิจฺฉชีวิกํ วเณฺณติฯ ตํ โนติ เอตฺถ โนติ นิปาตมตฺตํฯ ปทุมํ หตฺถคตามิวาติ หเตฺถน ปริมทฺทิตํ ปทุมํ วิย ชาตาฯ ปตนู เกสาติ เทว, อมฺมาย เม มหาวเน วิจรนฺติยา เต ภมรปตฺตวณฺณา กาฬเกสา รุกฺขสาขาทีหิ วิลุตฺตา ปตนู ชาตาฯ ชลฺลมธารยีติ อุโภหิ กเจฺฉหิ ชลฺลํ ธาเรติ, กิลิฎฺฐเวเสน วิจรตีติฯ
Tattha khaṇantālukalambānīti khaṇantī ālūni ca kalambāni ca. Iminā mātāpitūnaṃ kicchajīvikaṃ vaṇṇeti. Taṃ noti ettha noti nipātamattaṃ. Padumaṃ hatthagatāmivāti hatthena parimadditaṃ padumaṃ viya jātā. Patanū kesāti deva, ammāya me mahāvane vicarantiyā te bhamarapattavaṇṇā kāḷakesā rukkhasākhādīhi viluttā patanū jātā. Jallamadhārayīti ubhohi kacchehi jallaṃ dhāreti, kiliṭṭhavesena vicaratīti.
โส เอวํ มาตุ ทุกฺขิตภาวํ กเถตฺวา อยฺยกํ โจเทโนฺต อิมํ คาถมาห –
So evaṃ mātu dukkhitabhāvaṃ kathetvā ayyakaṃ codento imaṃ gāthamāha –
๒๓๓๙.
2339.
‘‘ปุตฺตา ปิยา มนุสฺสานํ, โลกสฺมิํ อุทปชฺชิสุํ;
‘‘Puttā piyā manussānaṃ, lokasmiṃ udapajjisuṃ;
น หิ นูนมฺหากํ อยฺยสฺส, ปุเตฺต เสฺนโห อชายถา’’ติฯ
Na hi nūnamhākaṃ ayyassa, putte sneho ajāyathā’’ti.
ตตฺถ อุทปชฺชิสุนฺติ อุปฺปชฺชิํสุฯ
Tattha udapajjisunti uppajjiṃsu.
ตโต ราชา อตฺตโน โทสํ อาวิกโรโนฺต อาห –
Tato rājā attano dosaṃ āvikaronto āha –
๒๓๔๐.
2340.
‘‘ทุกฺกฎญฺจ หิ โน ปุตฺต, ภูนหจฺจํ กตํ มยา;
‘‘Dukkaṭañca hi no putta, bhūnahaccaṃ kataṃ mayā;
โยหํ สิวีนํ วจนา, ปพฺพาเชสิมทูสกํฯ
Yohaṃ sivīnaṃ vacanā, pabbājesimadūsakaṃ.
๒๓๔๑.
2341.
‘‘ยํ เม กิญฺจิ อิธ อตฺถิ, ธนํ ธญฺญญฺจ วิชฺชติ;
‘‘Yaṃ me kiñci idha atthi, dhanaṃ dhaññañca vijjati;
เอตุ เวสฺสนฺตโร ราชา, สิวิรเฎฺฐ ปสาสตู’’ติฯ
Etu vessantaro rājā, siviraṭṭhe pasāsatū’’ti.
ตตฺถ ปุตฺตาติ ปุตฺต ชาลิ เอตํ อมฺหากํ ทุกฺกฎํฯ ภูนหจฺจนฺติ วุฑฺฒิฆาตกมฺมํฯ ยํ เม กิญฺจีติ ตาต, ยํ เม กิญฺจิ อิธ อตฺถิ, สพฺพํ เต ปิตุ เทมิฯ สิวิรเฎฺฐ ปสาสตูติ อิมสฺมิํ นคเร โส ราชา หุตฺวา ปสาสตูติฯ
Tattha puttāti putta jāli etaṃ amhākaṃ dukkaṭaṃ. Bhūnahaccanti vuḍḍhighātakammaṃ. Yaṃ me kiñcīti tāta, yaṃ me kiñci idha atthi, sabbaṃ te pitu demi. Siviraṭṭhe pasāsatūti imasmiṃ nagare so rājā hutvā pasāsatūti.
กุมาโร อาห –
Kumāro āha –
๒๓๔๒.
2342.
‘‘น เทว มยฺหํ วจนา, เอหิติ สิวิสุตฺตโม;
‘‘Na deva mayhaṃ vacanā, ehiti sivisuttamo;
สยเมว เทโว คนฺตฺวา, สิญฺจ โภเคหิ อตฺรช’’นฺติฯ
Sayameva devo gantvā, siñca bhogehi atraja’’nti.
ตตฺถ สิวิสุตฺตโมติ สิวิเสโฎฺฐ เวสฺสนฺตโรฯ สิญฺจาติ มหาเมโฆ วิย วุฎฺฐิยา โภเคหิ อภิสิญฺจฯ
Tattha sivisuttamoti siviseṭṭho vessantaro. Siñcāti mahāmegho viya vuṭṭhiyā bhogehi abhisiñca.
๒๓๔๓.
2343.
‘‘ตโต เสนาปติํ ราชา, สญฺชโย อชฺฌภาสถ;
‘‘Tato senāpatiṃ rājā, sañjayo ajjhabhāsatha;
หตฺถี อสฺสา รถา ปตฺตี, เสนา สนฺนาหยนฺตุ นํ;
Hatthī assā rathā pattī, senā sannāhayantu naṃ;
เนคมา จ มํ อเนฺวนฺตุ, พฺราหฺมณา จ ปุโรหิตาฯ
Negamā ca maṃ anventu, brāhmaṇā ca purohitā.
๒๓๔๔.
2344.
‘‘ตโต สฎฺฐิสหสฺสานิ, โยธิโน จารุทสฺสนา;
‘‘Tato saṭṭhisahassāni, yodhino cārudassanā;
ขิปฺปมายนฺตุ สนฺนทฺธา, นานาวเณฺณหิลงฺกตาฯ
Khippamāyantu sannaddhā, nānāvaṇṇehilaṅkatā.
๒๓๔๕.
2345.
‘‘นีลวตฺถธรา เนเก, ปีตาเนเก นิวาสิตา;
‘‘Nīlavatthadharā neke, pītāneke nivāsitā;
อเญฺญ โลหิตอุณฺหีสา, สุทฺธาเนเก นิวาสิตา;
Aññe lohitauṇhīsā, suddhāneke nivāsitā;
ขิปฺปมายนฺตุ สนฺนทฺธา, นานาวเณฺณหิลงฺกตาฯ
Khippamāyantu sannaddhā, nānāvaṇṇehilaṅkatā.
๒๓๔๖.
2346.
‘‘หิมวา ยถา คนฺธธโร, ปพฺพโต คนฺธมาทโน;
‘‘Himavā yathā gandhadharo, pabbato gandhamādano;
นานารุเกฺขหิ สญฺฉโนฺน, มหาภูตคณาลโยฯ
Nānārukkhehi sañchanno, mahābhūtagaṇālayo.
๒๓๔๗.
2347.
‘‘โอสเธหิ จ ทิเพฺพหิ, ทิสา ภาติ ปวาติ จ;
‘‘Osadhehi ca dibbehi, disā bhāti pavāti ca;
ขิปฺปมายนฺตุ สนฺนทฺธา, ทิสา ภนฺตุ ปวนฺตุ จฯ
Khippamāyantu sannaddhā, disā bhantu pavantu ca.
๒๓๔๘.
2348.
‘‘ตโต นาคสหสฺสานิ, โยชยนฺตุ จตุทฺทส;
‘‘Tato nāgasahassāni, yojayantu catuddasa;
สุวณฺณกจฺฉา มาตงฺคา, เหมกปฺปนวาสสาฯ
Suvaṇṇakacchā mātaṅgā, hemakappanavāsasā.
๒๓๔๙.
2349.
‘‘อารูฬฺหา คามณีเยหิ, โตมรงฺกุสปาณิภิ;
‘‘Ārūḷhā gāmaṇīyehi, tomaraṅkusapāṇibhi;
ขิปฺปมายนฺตุ สนฺนทฺธา, หตฺถิกฺขเนฺธหิ ทสฺสิตาฯ
Khippamāyantu sannaddhā, hatthikkhandhehi dassitā.
๒๓๕๐.
2350.
‘‘ตโต อสฺสสหสฺสานิ, โยชยนฺตุ จตุทฺทส;
‘‘Tato assasahassāni, yojayantu catuddasa;
อาชานียาว ชาติยา, สินฺธวา สีฆวาหนาฯ
Ājānīyāva jātiyā, sindhavā sīghavāhanā.
๒๓๕๑.
2351.
‘‘อารูฬฺหา คามณีเยหิ, อิลฺลิยาจาปธาริภิ;
‘‘Ārūḷhā gāmaṇīyehi, illiyācāpadhāribhi;
ขิปฺปมายนฺตุ สนฺนทฺธา, อสฺสปิเฎฺฐหีลงฺกตาฯ
Khippamāyantu sannaddhā, assapiṭṭhehīlaṅkatā.
๒๓๕๒.
2352.
‘‘ตโต รถสหสฺสานิ, โยชยนฺตุ จตุทฺทส;
‘‘Tato rathasahassāni, yojayantu catuddasa;
อโยสุกตเนมิโย, สุวณฺณจิตปกฺขเรฯ
Ayosukatanemiyo, suvaṇṇacitapakkhare.
๒๓๕๓.
2353.
‘‘อาโรเปนฺตุ ธเช ตตฺถ, จมฺมานิ กวจานิ จ;
‘‘Āropentu dhaje tattha, cammāni kavacāni ca;
วิปฺปาเลนฺตุ จ จาปานิ, ทฬฺหธมฺมา ปหาริโน;
Vippālentu ca cāpāni, daḷhadhammā pahārino;
ขิปฺปมายนฺตุ สนฺนทฺธา, รเถสุ รถชีวิโน’’ติฯ
Khippamāyantu sannaddhā, rathesu rathajīvino’’ti.
ตตฺถ สนฺนาหยนฺตุนนฺติ สนฺนยฺหนฺตุฯ สฎฺฐิสหสฺสานีติ มม ปุเตฺตน สหชาตา สฎฺฐิสหสฺสา อมจฺจาฯ นีลวตฺถธรา เนเกติ เอเก นีลวตฺถนิวาสิตา หุตฺวา อายนฺตุฯ มหาภูตคณาลโยติ พหุยกฺขคณานํ อาลโยฯ ทิสา ภนฺตุ ปวนฺตุ จาติ วุตฺตปฺปกาโร หิมวา วิย อาภรณวิเลปนาทีหิ โอภาเสนฺตุ เจว ปวายนฺตุ จฯ หตฺถิกฺขเนฺธหีติ เต หตฺถิคามณิโน หตฺถิกฺขเนฺธหิ ขิปฺปมายนฺตุฯ ทสฺสิตาติ ทสฺสิตวิภูสนาฯ อโยสุกตเนมิโยติ อเยน สุฎฺฐุ ปริกฺขิตฺตเนมิโยฯ สุวณฺณจิตปกฺขเรติ สุวเณฺณน ขจิตปกฺขเรฯ เอวรูเป จุทฺทส สหเสฺส รเถ โยชยนฺตูติ วทติฯ วิปฺปาเลนฺตูติ อาโรเปนฺตุฯ
Tattha sannāhayantunanti sannayhantu. Saṭṭhisahassānīti mama puttena sahajātā saṭṭhisahassā amaccā. Nīlavatthadharā neketi eke nīlavatthanivāsitā hutvā āyantu. Mahābhūtagaṇālayoti bahuyakkhagaṇānaṃ ālayo. Disā bhantu pavantu cāti vuttappakāro himavā viya ābharaṇavilepanādīhi obhāsentu ceva pavāyantu ca. Hatthikkhandhehīti te hatthigāmaṇino hatthikkhandhehi khippamāyantu. Dassitāti dassitavibhūsanā. Ayosukatanemiyoti ayena suṭṭhu parikkhittanemiyo. Suvaṇṇacitapakkhareti suvaṇṇena khacitapakkhare. Evarūpe cuddasa sahasse rathe yojayantūti vadati. Vippālentūti āropentu.
เอวํ ราชา เสนงฺคํ วิจาเรตฺวา ‘‘ปุตฺตสฺส เม เชตุตฺตรนครโต ยาว วงฺกปพฺพตา อฎฺฐุสภวิตฺถารํ อาคมนมคฺคํ สมตลํ กตฺวา มคฺคาลงฺการตฺถาย อิทญฺจิทญฺจ กโรถา’’ติ อาณาเปโนฺต อาห –
Evaṃ rājā senaṅgaṃ vicāretvā ‘‘puttassa me jetuttaranagarato yāva vaṅkapabbatā aṭṭhusabhavitthāraṃ āgamanamaggaṃ samatalaṃ katvā maggālaṅkāratthāya idañcidañca karothā’’ti āṇāpento āha –
๒๓๕๔.
2354.
‘‘ลาชา โอโลปิยา ปุปฺผา, มาลาคนฺธวิเลปนา;
‘‘Lājā olopiyā pupphā, mālāgandhavilepanā;
อคฺฆิยานิ จ ติฎฺฐนฺตุ, เยน มเคฺคน เอหิติฯ
Agghiyāni ca tiṭṭhantu, yena maggena ehiti.
๒๓๕๕.
2355.
‘‘คาเม คาเม สตํ กุมฺภา, เมรยสฺส สุราย จ;
‘‘Gāme gāme sataṃ kumbhā, merayassa surāya ca;
มคฺคมฺหิ ปติติฎฺฐนฺตุ, เยน มเคฺคน เอหิติฯ
Maggamhi patitiṭṭhantu, yena maggena ehiti.
๒๓๕๖.
2356.
‘‘มํสา ปูวา สงฺกุลิโย, กุมฺมาสา มจฺฉสํยุตา;
‘‘Maṃsā pūvā saṅkuliyo, kummāsā macchasaṃyutā;
มคฺคมฺหิ ปติติฎฺฐนฺตุ, เยน มเคฺคน เอหิติฯ
Maggamhi patitiṭṭhantu, yena maggena ehiti.
๒๓๕๗.
2357.
‘‘สปฺปิ เตลํ ทธิ ขีรํ, กงฺคุพีชา พหู สุรา;
‘‘Sappi telaṃ dadhi khīraṃ, kaṅgubījā bahū surā;
มคฺคมฺหิ ปติติฎฺฐนฺตุ, เยน มเคฺคน เอหิติฯ
Maggamhi patitiṭṭhantu, yena maggena ehiti.
๒๓๕๘.
2358.
‘‘อาฬาริกา จ สูทา จ, นฎนฎฺฎกคายิโน;
‘‘Āḷārikā ca sūdā ca, naṭanaṭṭakagāyino;
ปาณิสฺสรา กุมฺภถูณิโย, มนฺทกา โสกชฺฌายิกาฯ
Pāṇissarā kumbhathūṇiyo, mandakā sokajjhāyikā.
๒๓๕๙.
2359.
‘‘อาหญฺญนฺตุ สพฺพวีณา, เภริโย ทินฺทิมานิ จ;
‘‘Āhaññantu sabbavīṇā, bheriyo dindimāni ca;
ขรมุขานิ ธเมนฺตุ, นทนฺตุ เอกโปกฺขราฯ
Kharamukhāni dhamentu, nadantu ekapokkharā.
๒๓๖๐.
2360.
‘‘มุทิงฺคา ปณวา สงฺขา, โคธา ปริวเทนฺติกา;
‘‘Mudiṅgā paṇavā saṅkhā, godhā parivadentikā;
ทินฺทิมานิ จ หญฺญนฺตุ, กุตุมฺปทินฺทิมานิ จา’’ติฯ
Dindimāni ca haññantu, kutumpadindimāni cā’’ti.
ตตฺถ ลาชา โอโลปิยา ปุปฺผาติ ลาเชหิ สทฺธิํ ลาชปญฺจมกานิ ปุปฺผานิ โอกิรนฺตานํ โอกิรณปุปฺผานิ ปฎิยาเทถาติ อาณาเปติฯ มาลาคนฺธวิเลปนาติ มคฺควิตาเน โอลมฺพกมาลา เจว คนฺธวิเลปนานิ จฯ อคฺฆิยานิ จาติ ปุปฺผอคฺฆิยานิ เจว รตนอคฺฆิยานิ จ เยน มเคฺคน มม ปุโตฺต เอหิติ, ตตฺถ ติฎฺฐนฺตุฯ คาเม คาเมติ คามทฺวาเร คามทฺวาเรฯ ปติติฎฺฐนฺตูติ ปิปาสิตานํ ปิวนตฺถาย ปฎิยาทิตา หุตฺวา สุราเมรยมชฺชกุมฺภา ติฎฺฐนฺตุฯ มจฺฉสํยุตาติ มเจฺฉหิ สํยุตฺตาฯ กงฺคุพีชาติ กงฺคุปิฎฺฐมยาฯ มนฺทกาติ มนฺทกคายิโนฯ โสกชฺฌายิกาติ มายาการา, อเญฺญปิ วา เย เกจิ อุปฺปนฺนโสกหรณสมตฺถา โสกชฺฌายิกาติ วุจฺจนฺติ, โสจเนฺต ชเน อตฺตโน วํสโฆสปรมฺปรานํ นเจฺจ กเต นิโสฺสเก กตฺวา สยาปกาติ อโตฺถฯ ขรมุขานีติ สามุทฺทิกมหามุขสงฺขาฯ สงฺขาติ ทกฺขิณาวฎฺฎา มุฎฺฐิสงฺขา , นาฬิสงฺขาติ เทฺว สงฺขาฯ โคธา ปริวเทนฺติกา ทินฺทิมานิ กุตุมฺปทินฺทิมานีติ อิมานิปิ จตฺตาริ ตูริยาเนวฯ
Tattha lājā olopiyā pupphāti lājehi saddhiṃ lājapañcamakāni pupphāni okirantānaṃ okiraṇapupphāni paṭiyādethāti āṇāpeti. Mālāgandhavilepanāti maggavitāne olambakamālā ceva gandhavilepanāni ca. Agghiyāni cāti pupphaagghiyāni ceva ratanaagghiyāni ca yena maggena mama putto ehiti, tattha tiṭṭhantu. Gāme gāmeti gāmadvāre gāmadvāre. Patitiṭṭhantūti pipāsitānaṃ pivanatthāya paṭiyāditā hutvā surāmerayamajjakumbhā tiṭṭhantu. Macchasaṃyutāti macchehi saṃyuttā. Kaṅgubījāti kaṅgupiṭṭhamayā. Mandakāti mandakagāyino. Sokajjhāyikāti māyākārā, aññepi vā ye keci uppannasokaharaṇasamatthā sokajjhāyikāti vuccanti, socante jane attano vaṃsaghosaparamparānaṃ nacce kate nissoke katvā sayāpakāti attho. Kharamukhānīti sāmuddikamahāmukhasaṅkhā. Saṅkhāti dakkhiṇāvaṭṭā muṭṭhisaṅkhā , nāḷisaṅkhāti dve saṅkhā. Godhā parivadentikā dindimāni kutumpadindimānīti imānipi cattāri tūriyāneva.
เอวํ ราชา มคฺคาลงฺการานิ วิจาเรสิฯ ชูชโกปิ ปมาณาติกฺกนฺตํ ภุญฺชิตฺวา ชีราเปตุํ อสโกฺกโนฺต ตเตฺถว กาลมกาสิฯ ราชา ตสฺส สรีรกิจฺจํ การาเปตฺวา ‘‘นคเร โกจิ พฺราหฺมณสฺส ญาตโก อตฺถิ, อิทํ คณฺหาตู’’ติ เภริํ จราเปสิฯ น กญฺจิสฺส ญาตกํ ปสฺสิ, ธนํ ปุน รโญฺญเยว อโหสิฯ อถ สตฺตเม ทิวเส สพฺพา เสนา สนฺนิปติฯ อถ ราชา มหเนฺตน ปริวาเรน ชาลิํ มคฺคนายกํ กตฺวา นิกฺขมิฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Evaṃ rājā maggālaṅkārāni vicāresi. Jūjakopi pamāṇātikkantaṃ bhuñjitvā jīrāpetuṃ asakkonto tattheva kālamakāsi. Rājā tassa sarīrakiccaṃ kārāpetvā ‘‘nagare koci brāhmaṇassa ñātako atthi, idaṃ gaṇhātū’’ti bheriṃ carāpesi. Na kañcissa ñātakaṃ passi, dhanaṃ puna raññoyeva ahosi. Atha sattame divase sabbā senā sannipati. Atha rājā mahantena parivārena jāliṃ magganāyakaṃ katvā nikkhami. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๒๓๖๑.
2361.
‘‘สา เสนา มหตี อาสิ, อุยฺยุตฺตา สิวิวาหินี;
‘‘Sā senā mahatī āsi, uyyuttā sivivāhinī;
ชาลินา มคฺคนาเยน, วงฺกํ ปายาสิ ปพฺพตํฯ
Jālinā magganāyena, vaṅkaṃ pāyāsi pabbataṃ.
๒๓๖๒.
2362.
‘‘โกญฺจํ นทติ มาตโงฺค, กุญฺชโร สฎฺฐิหายโน;
‘‘Koñcaṃ nadati mātaṅgo, kuñjaro saṭṭhihāyano;
กจฺฉาย พทฺธมานาย, โกญฺจํ นทติ วารโณฯ
Kacchāya baddhamānāya, koñcaṃ nadati vāraṇo.
๒๓๖๓.
2363.
‘‘อาชานียา หสิยนฺติ, เนมิโฆโส อชายถ;
‘‘Ājānīyā hasiyanti, nemighoso ajāyatha;
อพฺภํ รโช อจฺฉาเทสิ, อุยฺยุตฺตา สิวิวาหินีฯ
Abbhaṃ rajo acchādesi, uyyuttā sivivāhinī.
๒๓๖๔.
2364.
‘‘สา เสนา มหตี อาสิ, อุยฺยุตฺตา หารหารินี;
‘‘Sā senā mahatī āsi, uyyuttā hārahārinī;
ชาลินา มคฺคนาเยน, วงฺกํ ปายาสิ ปพฺพตํฯ
Jālinā magganāyena, vaṅkaṃ pāyāsi pabbataṃ.
๒๓๖๕.
2365.
‘‘เต ปาวิํสุ พฺรหารญฺญํ, พหุสาขํ มโหทกํ;
‘‘Te pāviṃsu brahāraññaṃ, bahusākhaṃ mahodakaṃ;
ปุปฺผรุเกฺขหิ สญฺฉนฺนํ, ผลรุเกฺขหิ จูภยํฯ
Puppharukkhehi sañchannaṃ, phalarukkhehi cūbhayaṃ.
๒๓๖๖.
2366.
‘‘ตตฺถ พินฺทุสฺสรา วคฺคู, นานาวณฺณา พหู ทิชา;
‘‘Tattha bindussarā vaggū, nānāvaṇṇā bahū dijā;
กูชนฺตมุปกูชนฺติ, อุตุสมฺปุปฺผิเต ทุเมฯ
Kūjantamupakūjanti, utusampupphite dume.
๒๓๖๗.
2367.
‘‘เต คนฺตฺวา ทีฆมทฺธานํ, อโหรตฺตานมจฺจเย;
‘‘Te gantvā dīghamaddhānaṃ, ahorattānamaccaye;
ปเทสํ ตํ อุปาคจฺฉุํ, ยตฺถ เวสฺสนฺตโร อหู’’ติฯ
Padesaṃ taṃ upāgacchuṃ, yattha vessantaro ahū’’ti.
ตตฺถ มหตีติ ทฺวาทสอโกฺขภณิสงฺขาตา เสนาฯ อุยฺยุตฺตาติ ปยาตาฯ โกญฺจํ นทตีติ ตทา กาลิงฺครฎฺฐวาสิโน พฺราหฺมณา อตฺตโน รเฎฺฐ เทเว วุเฎฺฐ ตํ นาคํ อาหริตฺวา สญฺชยสฺส อทํสุฯ โส หตฺถี ‘‘สามิกํ วต ปสฺสิตุํ ลภิสฺสามี’’ติ ตุโฎฺฐ โกญฺจนาทมกาสิฯ ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํฯ กจฺฉายาติ สุวณฺณกจฺฉาย พทฺธมานายปิ ตุสฺสิตฺวา โกญฺจํ นทติฯ หสิยนฺตีติ หสสทฺทมกํสุ ฯ หารหารินีติ หริตพฺพหรณสมตฺถาฯ ปาวิํสูติ ปวิสิํสุฯ พหุสาขนฺติ พหุรุกฺขสาขํฯ ทีฆมทฺธานนฺติ สฎฺฐิโยชนมคฺคํฯ อุปาคจฺฉุนฺติ ยตฺถ เวสฺสนฺตโร อโหสิ, ตํ ปเทสํ อุปคตาติฯ
Tattha mahatīti dvādasaakkhobhaṇisaṅkhātā senā. Uyyuttāti payātā. Koñcaṃ nadatīti tadā kāliṅgaraṭṭhavāsino brāhmaṇā attano raṭṭhe deve vuṭṭhe taṃ nāgaṃ āharitvā sañjayassa adaṃsu. So hatthī ‘‘sāmikaṃ vata passituṃ labhissāmī’’ti tuṭṭho koñcanādamakāsi. Taṃ sandhāyetaṃ vuttaṃ. Kacchāyāti suvaṇṇakacchāya baddhamānāyapi tussitvā koñcaṃ nadati. Hasiyantīti hasasaddamakaṃsu . Hārahārinīti haritabbaharaṇasamatthā. Pāviṃsūti pavisiṃsu. Bahusākhanti bahurukkhasākhaṃ. Dīghamaddhānanti saṭṭhiyojanamaggaṃ. Upāgacchunti yattha vessantaro ahosi, taṃ padesaṃ upagatāti.
มหาราชปพฺพวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Mahārājapabbavaṇṇanā niṭṭhitā.
ฉขตฺติยกมฺมวณฺณนา
Chakhattiyakammavaṇṇanā
ชาลิกุมาโร มุจลินฺทสรตีเร ขนฺธาวารํ นิวาสาเปตฺวา จุทฺทส รถสหสฺสานิ อาคตมคฺคาภิมุขาเนว ฐปาเปตฺวา ตสฺมิํ ตสฺมิํ ปเทเส สีหพฺยคฺฆทีปิอาทีสุ อารกฺขํ สํวิทหิฯ หตฺถิอาทีนํ สโทฺท มหา อโหสิฯ อถ มหาสโตฺต ตํ สทฺทํ สุตฺวา ‘‘กิํ นุ โข เม ปจฺจามิตฺตา มม ปิตรํ ฆาเตตฺวา มมตฺถาย อาคตา’’ติ มรณภยภีโต มทฺทิํ อาทาย ปพฺพตํ อารุยฺห เสนํ โอโลเกสิฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Jālikumāro mucalindasaratīre khandhāvāraṃ nivāsāpetvā cuddasa rathasahassāni āgatamaggābhimukhāneva ṭhapāpetvā tasmiṃ tasmiṃ padese sīhabyagghadīpiādīsu ārakkhaṃ saṃvidahi. Hatthiādīnaṃ saddo mahā ahosi. Atha mahāsatto taṃ saddaṃ sutvā ‘‘kiṃ nu kho me paccāmittā mama pitaraṃ ghātetvā mamatthāya āgatā’’ti maraṇabhayabhīto maddiṃ ādāya pabbataṃ āruyha senaṃ olokesi. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๒๓๖๘.
2368.
‘‘เตสํ สุตฺวาน นิโคฺฆสํ, ภีโต เวสฺสนฺตโร อหุ;
‘‘Tesaṃ sutvāna nigghosaṃ, bhīto vessantaro ahu;
ปพฺพตํ อภิรุหิตฺวา, ภีโต เสนํ อุทิกฺขติฯ
Pabbataṃ abhiruhitvā, bhīto senaṃ udikkhati.
๒๓๖๙.
2369.
‘‘อิงฺฆ มทฺทิ นิสาเมหิ, นิโคฺฆโส ยาทิโส วเน;
‘‘Iṅgha maddi nisāmehi, nigghoso yādiso vane;
อาชานียา หสิยนฺติ, ธชคฺคานิ จ ทิสฺสเรฯ
Ājānīyā hasiyanti, dhajaggāni ca dissare.
๒๓๗๐.
2370.
‘‘อิเม นูน อรญฺญสฺมิํ, มิคสงฺฆานิ ลุทฺทกา;
‘‘Ime nūna araññasmiṃ, migasaṅghāni luddakā;
วาคุราหิ ปริกฺขิปฺป, โสพฺภํ ปาเตตฺวา ตาวเท;
Vāgurāhi parikkhippa, sobbhaṃ pātetvā tāvade;
วิโกฺกสมานา ติพฺพาหิ, หนฺติ เนสํ วรํ วรํฯ
Vikkosamānā tibbāhi, hanti nesaṃ varaṃ varaṃ.
๒๓๗๑.
2371.
‘‘ยถา มยํ อทูสกา, อรเญฺญ อวรุทฺธกา;
‘‘Yathā mayaṃ adūsakā, araññe avaruddhakā;
อมิตฺตหตฺถตฺตํ คตา, ปสฺส ทุพฺพลฆาตก’’นฺติฯ
Amittahatthattaṃ gatā, passa dubbalaghātaka’’nti.
ตตฺถ อิงฺฆาติ โจทนเตฺถ นิปาโตฯ นิสาเมหีติ สกเสนา วา ปรเสนา วาติ โอโลเกหิ อุปธาเรหิฯ ‘‘อิเม นูน อรญฺญสฺมิ’’นฺติอาทีนํ อฑฺฒเตยฺยคาถานํ เอวมตฺถสมฺพโนฺธ เวทิตโพฺพ ‘‘มทฺทิ ยถา อรญฺญมฺหิ มิคสงฺฆานิ ลุทฺทกา วาคุราหิ ปริกฺขิปฺป อถ วา ปน โสพฺภํ ปาเตตฺวา ตาวเทว ‘หนถ, อเร, ทุฎฺฐมิเค’ติ วิโกฺกสมานา ติพฺพาหิ มิคมารณสตฺตีหิ เนสํ มิคานํ วรํ วรํ ถูลํ ถูลํ หนนฺติ, อิเม จ นูน ตเถว อเมฺห อสพฺภาหิ วาจาหิ วิโกฺกสมานา ติพฺพาติ สตฺตีหิ หนิสฺสนฺติ, มยญฺจ อทูสกา อรเญฺญ อวรุทฺธกา รฎฺฐา ปพฺพาชิตา วเน วสาม, เอวํ สเนฺตปิ อมิตฺตานํ หตฺถตฺตํ คตา, ปสฺส ทุพฺพลฆาตก’’นฺติฯ เอวํ โส มรณภเยน ปริเทวิฯ
Tattha iṅghāti codanatthe nipāto. Nisāmehīti sakasenā vā parasenā vāti olokehi upadhārehi. ‘‘Ime nūna araññasmi’’ntiādīnaṃ aḍḍhateyyagāthānaṃ evamatthasambandho veditabbo ‘‘maddi yathā araññamhi migasaṅghāni luddakā vāgurāhi parikkhippa atha vā pana sobbhaṃ pātetvā tāvadeva ‘hanatha, are, duṭṭhamige’ti vikkosamānā tibbāhi migamāraṇasattīhi nesaṃ migānaṃ varaṃ varaṃ thūlaṃ thūlaṃ hananti, ime ca nūna tatheva amhe asabbhāhi vācāhi vikkosamānā tibbāti sattīhi hanissanti, mayañca adūsakā araññe avaruddhakā raṭṭhā pabbājitā vane vasāma, evaṃ santepi amittānaṃ hatthattaṃ gatā, passa dubbalaghātaka’’nti. Evaṃ so maraṇabhayena paridevi.
สา ตสฺส วจนํ สุตฺวา เสนํ โอโลเกตฺวา ‘‘สกเสนาย ภวิตพฺพ’’นฺติ มหาสตฺตํ อสฺสาเสนฺตี อิมํ คาถมาห –
Sā tassa vacanaṃ sutvā senaṃ oloketvā ‘‘sakasenāya bhavitabba’’nti mahāsattaṃ assāsentī imaṃ gāthamāha –
๒๓๗๒.
2372.
‘‘อมิตฺตา นปฺปสาเหยฺยุํ, อคฺคีว อุทกณฺณเว;
‘‘Amittā nappasāheyyuṃ, aggīva udakaṇṇave;
ตเทว ตฺวํ วิจิเนฺตหิ, อปิ โสตฺถิ อิโต สิยา’’ติฯ
Tadeva tvaṃ vicintehi, api sotthi ito siyā’’ti.
ตตฺถ อคฺคีว อุทกณฺณเวติ ยถา ติณุกฺกาทีนํ วเสน อุปนีโต อคฺคิ อณฺณวสงฺขาตานิ ปุถุลคมฺภีรานิ อุทกานิ นปฺปสหติ, ตาเปตุํ น สโกฺกติ , ตถา ตํ อมิตฺตา นปฺปสเหยฺยุํ นาภิภวิสฺสนฺติฯ ตเทวาติ ยํ สเกฺกน ตุยฺหํ วรํ ทตฺวา ‘‘มหาราช, น จิรเสฺสว เต ปิตา เอหิตี’’ติ วุตฺตํ, ตเทว ตฺวํ วิจิเนฺตหิ, อปิ นาม อิโต พลกายโต อมฺหากํ โสตฺถิ สิยาติ มหาสตฺตํ อสฺสาเสสิฯ
Tattha aggīva udakaṇṇaveti yathā tiṇukkādīnaṃ vasena upanīto aggi aṇṇavasaṅkhātāni puthulagambhīrāni udakāni nappasahati, tāpetuṃ na sakkoti , tathā taṃ amittā nappasaheyyuṃ nābhibhavissanti. Tadevāti yaṃ sakkena tuyhaṃ varaṃ datvā ‘‘mahārāja, na cirasseva te pitā ehitī’’ti vuttaṃ, tadeva tvaṃ vicintehi, api nāma ito balakāyato amhākaṃ sotthi siyāti mahāsattaṃ assāsesi.
อถ มหาสโตฺต โสกํ ตนุกํ กตฺวา ตาย สทฺธิํ ปพฺพตา โอรุยฺห ปณฺณสาลาทฺวาเร นิสีทิ, อิตราปิ อตฺตโน ปณฺณสาลาทฺวาเร นิสีทิฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Atha mahāsatto sokaṃ tanukaṃ katvā tāya saddhiṃ pabbatā oruyha paṇṇasālādvāre nisīdi, itarāpi attano paṇṇasālādvāre nisīdi. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๒๓๗๓.
2373.
‘‘ตโต เวสฺสนฺตโร ราชา, โอโรหิตฺวาน ปพฺพตา;
‘‘Tato vessantaro rājā, orohitvāna pabbatā;
นิสีทิ ปณฺณสาลายํ, ทฬฺหํ กตฺวาน มานส’’นฺติฯ
Nisīdi paṇṇasālāyaṃ, daḷhaṃ katvāna mānasa’’nti.
ตตฺถ ทฬฺหํ กตฺวาน มานสนฺติ มยํ ปพฺพชิตา นาม, อมฺหากํ โก กิํ กริสฺสตีติ ถิรํ หทยํ กตฺวา นิสีทิฯ
Tattha daḷhaṃ katvāna mānasanti mayaṃ pabbajitā nāma, amhākaṃ ko kiṃ karissatīti thiraṃ hadayaṃ katvā nisīdi.
ตสฺมิํ ขเณ สญฺชโย ราชา เทวิํ อามเนฺตตฺวา – ‘‘ภเทฺท, ผุสฺสติ อเมฺหสุ สเพฺพสุ เอกโต คเตสุ โสโก มหา ภวิสฺสติ, ปฐมํ ตาว อหํ คจฺฉามิ, ตโต ‘อิทานิ โสกํ วิโนเทตฺวา นิสินฺนา ภวิสฺสนฺตี’ติ สลฺลเกฺขตฺวา ตฺวํ มหเนฺตน ปริวาเรน อาคเจฺฉยฺยาสิฯ อถ โถกํ กาลํ วีตินาเมตฺวา ชาลิกณฺหาชินา ปจฺฉโต อาคจฺฉนฺตู’’ติ วตฺวา รถํ นิวตฺตาเปตฺวา อาคตมคฺคาภิมุขํ กตฺวา ตตฺถ ตตฺถ อารกฺขํ สํวิทหิตฺวา อลงฺกตหตฺถิกฺขนฺธโต โอรุยฺห ปุตฺตสฺส สนฺติกํ อคมาสิฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Tasmiṃ khaṇe sañjayo rājā deviṃ āmantetvā – ‘‘bhadde, phussati amhesu sabbesu ekato gatesu soko mahā bhavissati, paṭhamaṃ tāva ahaṃ gacchāmi, tato ‘idāni sokaṃ vinodetvā nisinnā bhavissantī’ti sallakkhetvā tvaṃ mahantena parivārena āgaccheyyāsi. Atha thokaṃ kālaṃ vītināmetvā jālikaṇhājinā pacchato āgacchantū’’ti vatvā rathaṃ nivattāpetvā āgatamaggābhimukhaṃ katvā tattha tattha ārakkhaṃ saṃvidahitvā alaṅkatahatthikkhandhato oruyha puttassa santikaṃ agamāsi. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๒๓๗๔.
2374.
‘‘นิวตฺตยิตฺวาน รถํ, วุฎฺฐเปตฺวาน เสนิโย;
‘‘Nivattayitvāna rathaṃ, vuṭṭhapetvāna seniyo;
เอกํ อรเญฺญ วิหรนฺตํ, ปิตา ปุตฺตํ อุปาคมิฯ
Ekaṃ araññe viharantaṃ, pitā puttaṃ upāgami.
๒๓๗๕.
2375.
‘‘หตฺถิกฺขนฺธโต โอรุยฺห, เอกํโส ปญฺชลีกโต;
‘‘Hatthikkhandhato oruyha, ekaṃso pañjalīkato;
ปริกิโณฺณ อมเจฺจหิ, ปุตฺตํ สิญฺจิตุมาคมิฯ
Parikiṇṇo amaccehi, puttaṃ siñcitumāgami.
๒๓๗๖.
2376.
‘‘ตตฺถทฺทส กุมารํ โส, รมฺมรูปํ สมาหิตํ;
‘‘Tatthaddasa kumāraṃ so, rammarūpaṃ samāhitaṃ;
นิสินฺนํ ปณฺณสาลายํ, ฌายนฺตํ อกุโตภย’’นฺติฯ
Nisinnaṃ paṇṇasālāyaṃ, jhāyantaṃ akutobhaya’’nti.
ตตฺถ วุฎฺฐเปตฺวาน เสนิโยติ อารกฺขตฺถาย พลกาเย ฐเปตฺวาฯ เอกํโสติ เอกํสกตอุตฺตราสโงฺคฯ สิญฺจิตุมาคมีติ รเชฺช อภิสิญฺจิตุํ อุปาคมิฯ รมฺมรูปนฺติ อนญฺชิตํ อมณฺฑิตํฯ
Tattha vuṭṭhapetvāna seniyoti ārakkhatthāya balakāye ṭhapetvā. Ekaṃsoti ekaṃsakatauttarāsaṅgo. Siñcitumāgamīti rajje abhisiñcituṃ upāgami. Rammarūpanti anañjitaṃ amaṇḍitaṃ.
๒๓๗๗.
2377.
‘‘ตญฺจ ทิสฺวาน อายนฺตํ, ปิตรํ ปุตฺตคิทฺธินํ;
‘‘Tañca disvāna āyantaṃ, pitaraṃ puttagiddhinaṃ;
เวสฺสนฺตโร จ มทฺที จ, ปจฺจุคฺคนฺตฺวา อวนฺทิสุํฯ
Vessantaro ca maddī ca, paccuggantvā avandisuṃ.
๒๓๗๘.
2378.
‘‘มทฺที จ สิรสา ปาเท, สสุรสฺสาภิวาทยิ;
‘‘Maddī ca sirasā pāde, sasurassābhivādayi;
มทฺที อหญฺหิ เต เทว, ปาเท วนฺทามิ เต สุณฺหา;
Maddī ahañhi te deva, pāde vandāmi te suṇhā;
เต สุ ตตฺถ ปลิสฺสชฺช, ปาณินา ปริมชฺชถา’’ติฯ
Te su tattha palissajja, pāṇinā parimajjathā’’ti.
ตตฺถ ปาเท วนฺทามิ เต สุณฺหาติ อหํ, เทว, ตว สุณฺหา ปาเท วนฺทามีติ เอวํ วตฺวา วนฺทิฯ เต สุ ตตฺถาติ เต อุโภปิ ชเน ตสฺมิํ สกฺกทตฺติเย อสฺสเม ปลิสฺสชิตฺวา หทเย นิปชฺชาเปตฺวา สีเส ปริจุมฺพิตฺวา มุทุเกน ปาณินา ปริมชฺชถ, ปิฎฺฐิโย เนสํ ปริมชฺชิฯ
Tattha pāde vandāmi te suṇhāti ahaṃ, deva, tava suṇhā pāde vandāmīti evaṃ vatvā vandi. Te su tatthāti te ubhopi jane tasmiṃ sakkadattiye assame palissajitvā hadaye nipajjāpetvā sīse paricumbitvā mudukena pāṇinā parimajjatha, piṭṭhiyo nesaṃ parimajji.
ตโต โรทิตฺวา ปริเทวิตฺวา ราชา โสเก ปรินิพฺพุเต เตหิ สทฺธิํ ปฎิสนฺถารํ กโรโนฺต อาห –
Tato roditvā paridevitvā rājā soke parinibbute tehi saddhiṃ paṭisanthāraṃ karonto āha –
๒๓๗๙.
2379.
‘‘กจฺจิ โว กุสลํ ปุตฺต, กจฺจิ ปุตฺต อนามยํ;
‘‘Kacci vo kusalaṃ putta, kacci putta anāmayaṃ;
กจฺจิ อุเญฺฉน ยาเปถ, กจฺจิ มูลผลา พหูฯ
Kacci uñchena yāpetha, kacci mūlaphalā bahū.
๒๓๘๐.
2380.
‘‘กจฺจิ ฑํสา มกสา จ, อปฺปเมว สรีสปา;
‘‘Kacci ḍaṃsā makasā ca, appameva sarīsapā;
วเน วาฬมิคากิเณฺณ, กจฺจิ หิํสา น วิชฺชตี’’ติฯ
Vane vāḷamigākiṇṇe, kacci hiṃsā na vijjatī’’ti.
ปิตุ วจนํ สุตฺวา มหาสโตฺต อาห –
Pitu vacanaṃ sutvā mahāsatto āha –
๒๓๘๑.
2381.
‘‘อตฺถิ โน ชีวิกา เทว, สา จ ยาทิสกีทิสา;
‘‘Atthi no jīvikā deva, sā ca yādisakīdisā;
กสิรา ชีวิกา โหม, อุญฺฉาจริยาย ชีวิตํฯ
Kasirā jīvikā homa, uñchācariyāya jīvitaṃ.
๒๓๘๒.
2382.
‘‘อนิทฺธินํ มหาราช, ทเมตสฺสํว สารถิ;
‘‘Aniddhinaṃ mahārāja, dametassaṃva sārathi;
ตฺยมฺหา อนิทฺธิกา ทนฺตา, อสมิทฺธิ ทเมติ โนฯ
Tyamhā aniddhikā dantā, asamiddhi dameti no.
๒๓๘๓.
2383.
‘‘อปิ โน กิสานิ มํสานิ, ปิตุ มาตุ อทสฺสนา;
‘‘Api no kisāni maṃsāni, pitu mātu adassanā;
อวรุทฺธานํ มหาราช, อรเญฺญ ชีวโสกิน’’นฺติฯ
Avaruddhānaṃ mahārāja, araññe jīvasokina’’nti.
ตตฺถ ยาทิสกีทิสาติ ยา วา สา วา, ลามกาติ อโตฺถฯ กสิรา ชีวิกา โหมาติ ตาต, อมฺหากํ อุญฺฉาจริยาย ชีวิตํ นาม กิจฺฉํ, ทุกฺขา โน ชีวิกา อโหสิฯ อนิทฺธินนฺติ มหาราช, อนิทฺธิํ อสมิทฺธิํ ทลิทฺทปุริสํ นาม สาว อนิทฺธิ เฉโก สารถิ อสฺสํ วิย ทเมติ, นิพฺพิเสวนํ กโรติ, เต มยํ อิธ วสนฺตา อนิทฺธิกา ทนฺตา นิพฺพิเสวนา กตา, อสมิทฺธิเยว โน ทเมตีติฯ ‘‘ทเมถ โน’’ติปิ ปาโฐ, ทมยิตฺถ โนติ อโตฺถฯ ชีวโสกินนฺติ อวิคตโสกานํ อรเญฺญ วสนฺตานํ กิํ นาม อมฺหากํ สุขนฺติ วทติฯ
Tattha yādisakīdisāti yā vā sā vā, lāmakāti attho. Kasirā jīvikā homāti tāta, amhākaṃ uñchācariyāya jīvitaṃ nāma kicchaṃ, dukkhā no jīvikā ahosi. Aniddhinanti mahārāja, aniddhiṃ asamiddhiṃ daliddapurisaṃ nāma sāva aniddhi cheko sārathi assaṃ viya dameti, nibbisevanaṃ karoti, te mayaṃ idha vasantā aniddhikā dantā nibbisevanā katā, asamiddhiyeva no dametīti. ‘‘Dametha no’’tipi pāṭho, damayittha noti attho. Jīvasokinanti avigatasokānaṃ araññe vasantānaṃ kiṃ nāma amhākaṃ sukhanti vadati.
เอวญฺจ ปน วตฺวา ปุน ปุตฺตานํ ปวตฺติํ ปุจฺฉโนฺต อาห –
Evañca pana vatvā puna puttānaṃ pavattiṃ pucchanto āha –
๒๓๘๔.
2384.
‘‘เยปิ เต สิวิเสฎฺฐสฺส, ทายาทาปตฺตมานสา;
‘‘Yepi te siviseṭṭhassa, dāyādāpattamānasā;
ชาลี กณฺหาชินา จุโภ, พฺราหฺมณสฺส วสานุคา;
Jālī kaṇhājinā cubho, brāhmaṇassa vasānugā;
อจฺจายิกสฺส ลุทฺทสฺส, โย เน คาโวว สุมฺภติฯ
Accāyikassa luddassa, yo ne gāvova sumbhati.
๒๓๘๕.
2385.
‘‘เต ราชปุตฺติยา ปุเตฺต, ยทิ ชานาถ สํสถ;
‘‘Te rājaputtiyā putte, yadi jānātha saṃsatha;
ปริยาปุณาถ โน ขิปฺปํ, สปฺปทฎฺฐํว มาณว’’นฺติฯ
Pariyāpuṇātha no khippaṃ, sappadaṭṭhaṃva māṇava’’nti.
ตตฺถ ทายาทาปตฺตมานสาติ มหาราช, เยปิ เต ตว สิวิเสฎฺฐสฺส ทายาทา อปตฺตมานสา อสมฺปุณฺณมโนรถา หุตฺวา พฺราหฺมณสฺส วสานุคา ชาตา, เต เทฺว กุมาเร โย พฺราหฺมโณ คาโวว สุมฺภติ ปหรติ, เต ราชปุตฺติยา ปุเตฺต ยทิ ทิฎฺฐวเสน วา สุตวเสน วา ชานาถ สํสถฯ สปฺปทฎฺฐํว มาณวนฺติ วิสนิมฺมทนตฺถาย สปฺปทฎฺฐํ มาณวํ ติกิจฺฉนฺตา วิย ขิปฺปํ โน ปริยาปุณาถ กเถถาติ วทติฯ
Tattha dāyādāpattamānasāti mahārāja, yepi te tava siviseṭṭhassa dāyādā apattamānasā asampuṇṇamanorathā hutvā brāhmaṇassa vasānugā jātā, te dve kumāre yo brāhmaṇo gāvova sumbhati paharati, te rājaputtiyā putte yadi diṭṭhavasena vā sutavasena vā jānātha saṃsatha. Sappadaṭṭhaṃva māṇavanti visanimmadanatthāya sappadaṭṭhaṃ māṇavaṃ tikicchantā viya khippaṃ no pariyāpuṇātha kathethāti vadati.
ราชา อาห –
Rājā āha –
๒๓๘๖.
2386.
‘‘อุโภ กุมารา นิกฺกีตา, ชาลี กณฺหาชินา จุโภ;
‘‘Ubho kumārā nikkītā, jālī kaṇhājinā cubho;
พฺราหฺมณสฺส ธนํ ทตฺวา, ปุตฺต มา ภายิ อสฺสสา’’ติฯ
Brāhmaṇassa dhanaṃ datvā, putta mā bhāyi assasā’’ti.
ตตฺถ นิกฺกีตาติ นิกฺกยํ ทตฺวา คหิตาฯ
Tattha nikkītāti nikkayaṃ datvā gahitā.
ตํ สุตฺวา มหาสโตฺต ปฎิลทฺธสฺสาโส ปิตรา สทฺธิํ ปฎิสนฺถารมกาสิ –
Taṃ sutvā mahāsatto paṭiladdhassāso pitarā saddhiṃ paṭisanthāramakāsi –
๒๓๘๗.
2387.
‘‘กจฺจิ นุ ตาต กุสลํ, กจฺจิ ตาต อนามยํ;
‘‘Kacci nu tāta kusalaṃ, kacci tāta anāmayaṃ;
กจฺจิ นุ ตาต เม มาตุ, จกฺขุ น ปริหายตี’’ติฯ
Kacci nu tāta me mātu, cakkhu na parihāyatī’’ti.
ตตฺถ จกฺขุ น ปริหายตีติ ปุตฺตโสเกน โรทนฺติยา จกฺขุ น ปริหายตีติฯ
Tattha cakkhu na parihāyatīti puttasokena rodantiyā cakkhu na parihāyatīti.
ราชา อาห –
Rājā āha –
๒๓๘๘.
2388.
‘‘กุสลเญฺจว เม ปุตฺต, อโถ ปุตฺต อนามยํ;
‘‘Kusalañceva me putta, atho putta anāmayaṃ;
อโถ จ ปุตฺต เต มาตุ, จกฺขุ น ปริหายตี’’ติฯ
Atho ca putta te mātu, cakkhu na parihāyatī’’ti.
โพธิสโตฺต อาห –
Bodhisatto āha –
๒๓๘๙.
2389.
‘‘กจฺจิ อโรคํ โยคฺคํ เต, กจฺจิ วหติ วาหนํ;
‘‘Kacci arogaṃ yoggaṃ te, kacci vahati vāhanaṃ;
กจฺจิ ผีโต ชนปโท, กจฺจิ วุฎฺฐิ น ฉิชฺชตี’’ติฯ
Kacci phīto janapado, kacci vuṭṭhi na chijjatī’’ti.
ตตฺถ วุฎฺฐีติ วุฎฺฐิธาราฯ
Tattha vuṭṭhīti vuṭṭhidhārā.
ราชา อาห –
Rājā āha –
๒๓๙๐.
2390.
‘‘อโถ อโรคํ โยคฺคํ เม, อโถ วหติ วาหนํ;
‘‘Atho arogaṃ yoggaṃ me, atho vahati vāhanaṃ;
อโถ ผีโต ชนปโท, อโถ วุฎฺฐิ น ฉิชฺชตี’’ติฯ
Atho phīto janapado, atho vuṭṭhi na chijjatī’’ti.
เอวํ เตสํ สลฺลปนฺตานเญฺญว ผุสฺสตี เทวี ‘‘อิทานิ โสกํ ตนุกํ กตฺวา นิสินฺนา ภวิสฺสนฺตี’’ติ สลฺลเกฺขตฺวา มหาปริวาเรน สทฺธิํ ปุตฺตสฺส สนฺติกํ อคมาสิฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Evaṃ tesaṃ sallapantānaññeva phussatī devī ‘‘idāni sokaṃ tanukaṃ katvā nisinnā bhavissantī’’ti sallakkhetvā mahāparivārena saddhiṃ puttassa santikaṃ agamāsi. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๒๓๙๑.
2391.
‘‘อิเจฺจวํ มนฺตยนฺตานํ, มาตา เนสํ อทิสฺสถ;
‘‘Iccevaṃ mantayantānaṃ, mātā nesaṃ adissatha;
ราชปุตฺตี คิริทฺวาเร, ปตฺติกา อนุปาหนาฯ
Rājaputtī giridvāre, pattikā anupāhanā.
๒๓๙๒.
2392.
‘‘ตญฺจ ทิสฺวาน อายนฺติํ, มาตรํ ปุตฺตคิทฺธินิํ;
‘‘Tañca disvāna āyantiṃ, mātaraṃ puttagiddhiniṃ;
เวสฺสนฺตโร จ มทฺที จ, ปจฺจุคฺคนฺตฺวา อวนฺทิสุํฯ
Vessantaro ca maddī ca, paccuggantvā avandisuṃ.
๒๓๙๓.
2393.
‘‘มทฺที จ สิรสา ปาเท, สสฺสุยา อภิวาทยิ;
‘‘Maddī ca sirasā pāde, sassuyā abhivādayi;
มทฺที อหญฺหิ เต อเยฺย, ปาเท วนฺทามิ เต สุณฺหา’’ติฯ
Maddī ahañhi te ayye, pāde vandāmi te suṇhā’’ti.
เตสํ ผุสฺสติเทวิํ วนฺทิตฺวา ฐิตกาเล ปุตฺตกา กุมารกุมาริกาหิ ปริวุตา อาคมิํสุฯ มทฺที จ เตสํ อาคมนมคฺคํ โอโลเกนฺตีเยว อฎฺฐาสิฯ สา เต โสตฺถินา อาคจฺฉเนฺต ทิสฺวา สกภาเวน สณฺฐาตุํ อสโกฺกนฺตี ตรุณวจฺฉา วิย คาวี ปริเทวมานา ตโต ปายาสิฯ เตปิ ตํ ทิสฺวา ปริเทวนฺตา มาตราภิมุขาว ปธาวิํสุฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Tesaṃ phussatideviṃ vanditvā ṭhitakāle puttakā kumārakumārikāhi parivutā āgamiṃsu. Maddī ca tesaṃ āgamanamaggaṃ olokentīyeva aṭṭhāsi. Sā te sotthinā āgacchante disvā sakabhāvena saṇṭhātuṃ asakkontī taruṇavacchā viya gāvī paridevamānā tato pāyāsi. Tepi taṃ disvā paridevantā mātarābhimukhāva padhāviṃsu. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๒๓๙๔.
2394.
‘‘มทฺทิญฺจ ปุตฺตกา ทิสฺวา, ทูรโต โสตฺถิมาคตา;
‘‘Maddiñca puttakā disvā, dūrato sotthimāgatā;
กนฺทนฺตา มภิธาวิํสุ, วจฺฉพาลาว มาตรํฯ
Kandantā mabhidhāviṃsu, vacchabālāva mātaraṃ.
๒๓๙๕.
2395.
‘‘มทฺที จ ปุตฺตเก ทิสฺวา, ทูรโต โสตฺถิมาคเต;
‘‘Maddī ca puttake disvā, dūrato sotthimāgate;
วารุณีว ปเวเธนฺตี, ถนธาราภิสิญฺจถา’’ติฯ
Vāruṇīva pavedhentī, thanadhārābhisiñcathā’’ti.
ตตฺถ กนฺทนฺตา มภิธาวิํสูติ กนฺทนฺตา อภิธาวิํสุฯ วารุณีวาติ ยกฺขาวิฎฺฐา อิกฺขณิกา วิย ปเวธมานา ถนธารา อภิสิญฺจถาติฯ
Tattha kandantā mabhidhāviṃsūti kandantā abhidhāviṃsu. Vāruṇīvāti yakkhāviṭṭhā ikkhaṇikā viya pavedhamānā thanadhārā abhisiñcathāti.
สา กิร มหาสเทฺทน ปริเทวิตฺวา กมฺปมานา วิสญฺญี หุตฺวา ทีฆโต ปถวิยํ ปติฯ กุมาราปิ เวเคนาคนฺตฺวา วิสญฺญิโน หุตฺวา มาตุ อุปริเยว ปติํสุฯ ตสฺมิํ ขเณ ตสฺสา ทฺวีหิ ถเนหิ เทฺว ขีรธารา นิกฺขมิตฺวา เตสํ มุเขเยว ปวิสิํสุฯ สเจ กิร เอตฺตโก อสฺสาโส นาภวิสฺส, เทฺว กุมารา สุกฺขหทยา หุตฺวา อทฺธา นสฺสิสฺสนฺติฯ เวสฺสนฺตโรปิ ปิยปุเตฺต ทิสฺวา โสกํ สนฺธาเรตุํ อสโกฺกโนฺต วิสญฺญี หุตฺวา ตเตฺถว ปติฯ มาตาปิตโรปิสฺส วิสญฺญิโน หุตฺวา ตเตฺถว ปติํสุ, ตถา สหชาตา สฎฺฐิสหสฺสา อมจฺจาฯ ตํ การุญฺญํ ปสฺสเนฺตสุ เอโกปิ สกภาเวน สณฺฐาตุํ นาสกฺขิฯ สกลํ อสฺสมปทํ ยุคนฺตวาเตน ปมทฺทิตํ วิย สาลวนํ อโหสิฯ ตสฺมิํ ขเณ ปพฺพตา นทิํสุ, มหาปถวี กมฺปิ, มหาสมุโทฺท สงฺขุภิ, สิเนรุ คิริราชา โอนมิฯ ฉ กามาวจรเทวโลกา เอกโกลาหลา อเหสุํฯ
Sā kira mahāsaddena paridevitvā kampamānā visaññī hutvā dīghato pathaviyaṃ pati. Kumārāpi vegenāgantvā visaññino hutvā mātu upariyeva patiṃsu. Tasmiṃ khaṇe tassā dvīhi thanehi dve khīradhārā nikkhamitvā tesaṃ mukheyeva pavisiṃsu. Sace kira ettako assāso nābhavissa, dve kumārā sukkhahadayā hutvā addhā nassissanti. Vessantaropi piyaputte disvā sokaṃ sandhāretuṃ asakkonto visaññī hutvā tattheva pati. Mātāpitaropissa visaññino hutvā tattheva patiṃsu, tathā sahajātā saṭṭhisahassā amaccā. Taṃ kāruññaṃ passantesu ekopi sakabhāvena saṇṭhātuṃ nāsakkhi. Sakalaṃ assamapadaṃ yugantavātena pamadditaṃ viya sālavanaṃ ahosi. Tasmiṃ khaṇe pabbatā nadiṃsu, mahāpathavī kampi, mahāsamuddo saṅkhubhi, sineru girirājā onami. Cha kāmāvacaradevalokā ekakolāhalā ahesuṃ.
สโกฺก เทวราชา ‘‘ฉ ขตฺติยา สปริสา วิสญฺญิโน ชาตา, เตสุ เอโกปิ อุฎฺฐาย กสฺสจิ สรีเร อุทกํ สิญฺจิตุํ สมโตฺถ นาม นตฺถิ, อหํ ทานิ อิเมสํ โปกฺขรวสฺสํ วสฺสาเปสฺสามี’’ติ จิเนฺตตฺวา ฉขตฺติยสมาคเม โปกฺขรวสฺสํ วสฺสาเปสิฯ ตตฺถ เย เตมิตุกามา, เต เตเมนฺติ, อเตมิตุกามานํ อุปริ เอกพินฺทุมตฺตมฺปิ น ปตติ, ปทุมปตฺตโต อุทกํ วิย นิวตฺติตฺวา คจฺฉติฯ อิติ โปกฺขรวเน ปติตํ วสฺสํ วิย ตํ วสฺสํ อโหสิฯ ฉ ขตฺติยา อสฺสาสํ ปฎิลภิํสุฯ มหาชโน ตมฺปิ ทิสฺวา ‘‘อโห อจฺฉริยํ, อโห อพฺภุตํ เอวรูเป ญาติสมาคเม โปกฺขรวสฺสํ วสฺสิ, มหาปถวี กมฺปี’’ติ อจฺฉริยํ ปเวเทสิฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Sakko devarājā ‘‘cha khattiyā saparisā visaññino jātā, tesu ekopi uṭṭhāya kassaci sarīre udakaṃ siñcituṃ samattho nāma natthi, ahaṃ dāni imesaṃ pokkharavassaṃ vassāpessāmī’’ti cintetvā chakhattiyasamāgame pokkharavassaṃ vassāpesi. Tattha ye temitukāmā, te tementi, atemitukāmānaṃ upari ekabindumattampi na patati, padumapattato udakaṃ viya nivattitvā gacchati. Iti pokkharavane patitaṃ vassaṃ viya taṃ vassaṃ ahosi. Cha khattiyā assāsaṃ paṭilabhiṃsu. Mahājano tampi disvā ‘‘aho acchariyaṃ, aho abbhutaṃ evarūpe ñātisamāgame pokkharavassaṃ vassi, mahāpathavī kampī’’ti acchariyaṃ pavedesi. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๒๓๙๖.
2396.
‘‘สมาคตานํ ญาตีนํ, มหาโฆโส อชายถ;
‘‘Samāgatānaṃ ñātīnaṃ, mahāghoso ajāyatha;
ปพฺพตา สมนาทิํสุ, มหี ปกมฺปิตา อหุฯ
Pabbatā samanādiṃsu, mahī pakampitā ahu.
๒๓๙๗.
2397.
‘‘วุฎฺฐิธารํ ปวเตฺตโนฺต, เทโว ปาวสฺสิ ตาวเท;
‘‘Vuṭṭhidhāraṃ pavattento, devo pāvassi tāvade;
อถ เวสฺสนฺตโร ราชา, ญาตีหิ สมคจฺฉถฯ
Atha vessantaro rājā, ñātīhi samagacchatha.
๒๓๙๘.
2398.
‘‘นตฺตาโร สุณิสา ปุโตฺต, ราชา เทวี จ เอกโต;
‘‘Nattāro suṇisā putto, rājā devī ca ekato;
ยทา สมาคตา อาสุํ, ตทาสิ โลมหํสนํฯ
Yadā samāgatā āsuṃ, tadāsi lomahaṃsanaṃ.
๒๓๙๙.
2399.
‘‘ปญฺชลิกา ตสฺส ยาจนฺติ, โรทนฺตา เภรเว วเน;
‘‘Pañjalikā tassa yācanti, rodantā bherave vane;
เวสฺสนฺตรญฺจ มทฺทิญฺจ, สเพฺพ รฎฺฐา สมาคตา;
Vessantarañca maddiñca, sabbe raṭṭhā samāgatā;
ตฺวํ โนสิ อิสฺสโร ราชา, รชฺชํ กาเรถ โน อุโภ’’ติฯ
Tvaṃ nosi issaro rājā, rajjaṃ kāretha no ubho’’ti.
ตตฺถ โฆโสติ การุญฺญโฆโสฯ ปญฺชลิกาติ สเพฺพ นาครา เจว เนคมา จ ชานปทา จ ปคฺคหิตญฺชลิกา หุตฺวาฯ ตสฺส ยาจนฺตีติ ตสฺส ปาเทสุ ปติตฺวา โรทิตฺวา กนฺทิตฺวา ‘‘เทว, ตฺวํ โน สามิ อิสฺสโร, ปิตา เต อิเธว อภิสิญฺจิตฺวา นครํ เนตุกาโม, กุลสนฺตกํ เสตจฺฉตฺตํ ปฎิจฺฉถา’’ติ ยาจิํสุฯ
Tattha ghosoti kāruññaghoso. Pañjalikāti sabbe nāgarā ceva negamā ca jānapadā ca paggahitañjalikā hutvā. Tassa yācantīti tassa pādesu patitvā roditvā kanditvā ‘‘deva, tvaṃ no sāmi issaro, pitā te idheva abhisiñcitvā nagaraṃ netukāmo, kulasantakaṃ setacchattaṃ paṭicchathā’’ti yāciṃsu.
ฉขตฺติยกมฺมวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Chakhattiyakammavaṇṇanā niṭṭhitā.
นครกณฺฑวณฺณนา
Nagarakaṇḍavaṇṇanā
ตํ สุตฺวา มหาสโตฺต ปิตรา สทฺธิํ สลฺลปโนฺต อิมํ คาถมาห –
Taṃ sutvā mahāsatto pitarā saddhiṃ sallapanto imaṃ gāthamāha –
๒๔๐๐.
2400.
‘‘ธเมฺมน รชฺชํ กาเรนฺตํ, รฎฺฐา ปพฺพาชยิตฺถ มํ;
‘‘Dhammena rajjaṃ kārentaṃ, raṭṭhā pabbājayittha maṃ;
ตฺวญฺจ ชานปทา เจว, เนคมา จ สมาคตา’’ติฯ
Tvañca jānapadā ceva, negamā ca samāgatā’’ti.
ตโต ราชา ปุตฺตํ อตฺตโน โทสํ ขมาเปโนฺต อาห –
Tato rājā puttaṃ attano dosaṃ khamāpento āha –
๒๔๐๑.
2401.
‘‘ทุกฺกฎญฺจ หิ โน ปุตฺต, ภูนหจฺจํ กตํ มยา;
‘‘Dukkaṭañca hi no putta, bhūnahaccaṃ kataṃ mayā;
โยหํ สิวีนํ วจนา, ปพฺพาเชสิมทูสก’’นฺติฯ
Yohaṃ sivīnaṃ vacanā, pabbājesimadūsaka’’nti.
อิมํ คาถํ วตฺวา อตฺตโน ทุกฺขหรณตฺถํ ปุตฺตํ ยาจโนฺต อิตรํ คาถมาห –
Imaṃ gāthaṃ vatvā attano dukkhaharaṇatthaṃ puttaṃ yācanto itaraṃ gāthamāha –
๒๔๐๒.
2402.
‘‘เยน เกนจิ วเณฺณน, ปิตุ ทุกฺขํ อุทพฺพเห;
‘‘Yena kenaci vaṇṇena, pitu dukkhaṃ udabbahe;
มาตุ ภคินิยา จาปิ, อปิ ปาเณหิ อตฺตโน’’ติฯ
Mātu bhaginiyā cāpi, api pāṇehi attano’’ti.
ตตฺถ อุทพฺพเหติ หเรยฺยฯ อปิ ปาเณหีติ ตาต ปุเตฺตน นาม ชีวิตํ ปริจฺจชิตฺวาปิ มาตาปิตูนํ โสกทุกฺขํ หริตพฺพํ, ตสฺมา มม โทสํ หทเย อกตฺวา มม วจนํ กโรหิ, อิมํ อิสิลิงฺคํ หาเรตฺวา ราชเวสํ คณฺห ตาตาติ อิมินา กิร นํ อธิปฺปาเยเนวมาหฯ
Tattha udabbaheti hareyya. Api pāṇehīti tāta puttena nāma jīvitaṃ pariccajitvāpi mātāpitūnaṃ sokadukkhaṃ haritabbaṃ, tasmā mama dosaṃ hadaye akatvā mama vacanaṃ karohi, imaṃ isiliṅgaṃ hāretvā rājavesaṃ gaṇha tātāti iminā kira naṃ adhippāyenevamāha.
โพธิสโตฺต รชฺชํ กาเรตุกาโมปิ ‘‘เอตฺตเก ปน อกถิเต ครุกํ นาม น โหตี’’ติ กเถสิฯ มหาสโตฺต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฎิจฺฉิฯ อถสฺส อธิวาสนํ วิทิตฺวา สหชาตา สฎฺฐิสหสฺสา อมจฺจา ‘‘นหานกาโล มหาราช, รโชชลฺลํ ปวาหยา’’ติ วทิํสุฯ อถ เน มหาสโตฺต ‘‘โถกํ อธิวาเสถา’’ติ วตฺวา ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา อิสิภณฺฑํ โอมุญฺจิตฺวา ปฎิสาเมตฺวา สงฺขวณฺณสาฎกํ นิวาเสตฺวา ปณฺณสาลโต นิกฺขมิตฺวา ‘‘อิทํ มยา นว มาเส อฑฺฒมาสญฺจ วสเนฺตน สมณธมฺมสฺส กตฎฺฐานํ, ปารมีกูฎํ คณฺหเนฺตน มยา ทานํ ทตฺวา มหาปถวิยา กมฺปาปิตฎฺฐาน’’นฺติ ปณฺณสาลํ ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ปญฺจปติฎฺฐิเตน วนฺทิตฺวา อฎฺฐาสิฯ อถสฺส กปฺปกาทโย เกสมสฺสุกมฺมาทีนิ กริํสุฯ ตเมนํ สพฺพาภรณภูสิตํ เทวราชานมิว วิโรจมานํ รเชฺช อภิสิญฺจิํสุฯ เตน วุตฺตํ –
Bodhisatto rajjaṃ kāretukāmopi ‘‘ettake pana akathite garukaṃ nāma na hotī’’ti kathesi. Mahāsatto ‘‘sādhū’’ti sampaṭicchi. Athassa adhivāsanaṃ viditvā sahajātā saṭṭhisahassā amaccā ‘‘nahānakālo mahārāja, rajojallaṃ pavāhayā’’ti vadiṃsu. Atha ne mahāsatto ‘‘thokaṃ adhivāsethā’’ti vatvā paṇṇasālaṃ pavisitvā isibhaṇḍaṃ omuñcitvā paṭisāmetvā saṅkhavaṇṇasāṭakaṃ nivāsetvā paṇṇasālato nikkhamitvā ‘‘idaṃ mayā nava māse aḍḍhamāsañca vasantena samaṇadhammassa kataṭṭhānaṃ, pāramīkūṭaṃ gaṇhantena mayā dānaṃ datvā mahāpathaviyā kampāpitaṭṭhāna’’nti paṇṇasālaṃ tikkhattuṃ padakkhiṇaṃ katvā pañcapatiṭṭhitena vanditvā aṭṭhāsi. Athassa kappakādayo kesamassukammādīni kariṃsu. Tamenaṃ sabbābharaṇabhūsitaṃ devarājānamiva virocamānaṃ rajje abhisiñciṃsu. Tena vuttaṃ –
๒๔๐๓.
2403.
‘‘ตโต เวสฺสนฺตโร ราชา, รโชชลฺลํ ปวาหยิ;
‘‘Tato vessantaro rājā, rajojallaṃ pavāhayi;
รโชชลฺลํ ปวาเหตฺวา, สงฺขวณฺณํ อธารยี’’ติฯ
Rajojallaṃ pavāhetvā, saṅkhavaṇṇaṃ adhārayī’’ti.
ตตฺถ ปวาหยีติ หาเรสิ, หาเรตฺวา จ ปน ราชเวสํ คณฺหีติ อโตฺถฯ
Tattha pavāhayīti hāresi, hāretvā ca pana rājavesaṃ gaṇhīti attho.
อถสฺส ยโส มหา อโหสิฯ โอโลกิตโอโลกิตฎฺฐานํ กมฺปติ, มุขมงฺคลิกา มุขมงฺคลานิ โฆสยิํสุ, สพฺพตูริยานิ ปคฺคณฺหิํสุ, มหาสมุทฺทกุจฺฉิยํ เมฆคชฺชิตโฆโส วิย ตูริยโฆโส อโหสิฯ หตฺถิรตนํ อลงฺกริตฺวา อุปานยิํสุฯ โส ขคฺครตนํ พนฺธิตฺวา หตฺถิรตนํ อภิรุหิฯ ตาวเทว นํ สหชาตา สฎฺฐิสหสฺสา อมจฺจา สพฺพาลงฺการปฺปฎิมณฺฑิตา ปริวารยิํสุ, สพฺพกญฺญาโย มทฺทิเทวิมฺปิ นหาเปตฺวา อลงฺกริตฺวา อภิสิญฺจิํสุฯ สีเส จ ปนสฺสา อภิเสกอุทกํ อภิสิญฺจมานา ‘‘เวสฺสนฺตโร ตํ ปาเลตู’’ติอาทีนิ มงฺคลานิ วทิํสุฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Athassa yaso mahā ahosi. Olokitaolokitaṭṭhānaṃ kampati, mukhamaṅgalikā mukhamaṅgalāni ghosayiṃsu, sabbatūriyāni paggaṇhiṃsu, mahāsamuddakucchiyaṃ meghagajjitaghoso viya tūriyaghoso ahosi. Hatthiratanaṃ alaṅkaritvā upānayiṃsu. So khaggaratanaṃ bandhitvā hatthiratanaṃ abhiruhi. Tāvadeva naṃ sahajātā saṭṭhisahassā amaccā sabbālaṅkārappaṭimaṇḍitā parivārayiṃsu, sabbakaññāyo maddidevimpi nahāpetvā alaṅkaritvā abhisiñciṃsu. Sīse ca panassā abhisekaudakaṃ abhisiñcamānā ‘‘vessantaro taṃ pāletū’’tiādīni maṅgalāni vadiṃsu. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๒๔๐๔.
2404.
‘‘สีสํ นฺหาโต สุจิวโตฺถ, สพฺพาภรณภูสิโต;
‘‘Sīsaṃ nhāto sucivattho, sabbābharaṇabhūsito;
ปจฺจยํ นาคมารุยฺห, ขคฺคํ พนฺธิ ปรนฺตปํฯ
Paccayaṃ nāgamāruyha, khaggaṃ bandhi parantapaṃ.
๒๔๐๕.
2405.
‘‘ตโต สฎฺฐิสหสฺสานิ, โยธิโน จารุทสฺสนา;
‘‘Tato saṭṭhisahassāni, yodhino cārudassanā;
สหชาตา ปกิริํสุ, นนฺทยนฺตา รเถสภํฯ
Sahajātā pakiriṃsu, nandayantā rathesabhaṃ.
๒๔๐๖.
2406.
‘‘ตโต มทฺทิมฺปิ นฺหาเปสุํ, สิวิกญฺญา สมาคตา;
‘‘Tato maddimpi nhāpesuṃ, sivikaññā samāgatā;
เวสฺสนฺตโร ตํ ปาเลตุ, ชาลี กณฺหาชินา จุโภ;
Vessantaro taṃ pāletu, jālī kaṇhājinā cubho;
อโถปิ ตํ มหาราชา, สญฺชโย อภิรกฺขตู’’ติฯ
Athopi taṃ mahārājā, sañjayo abhirakkhatū’’ti.
ตตฺถ ปจฺจยํ นาคมารุยฺหาติ ตํ อตฺตโน ชาตทิวเส อุปฺปนฺนํ หตฺถินาคํฯ ปรนฺตปนฺติ อมิตฺตตาปนํฯ ปกิริํสูติ ปริวารยิํสุฯ นนฺทยนฺตาติ โตเสนฺตาฯ สิวิกญฺญาติ สิวิรโญฺญ ปชาปติโย สนฺนิปติตฺวา คโนฺธทเกน นฺหาเปสุํฯ ชาลี กณฺหาชินา จุโภติ อิเม เต ปุตฺตาปิ มาตรํ รกฺขนฺตูติฯ
Tattha paccayaṃ nāgamāruyhāti taṃ attano jātadivase uppannaṃ hatthināgaṃ. Parantapanti amittatāpanaṃ. Pakiriṃsūti parivārayiṃsu. Nandayantāti tosentā. Sivikaññāti sivirañño pajāpatiyo sannipatitvā gandhodakena nhāpesuṃ. Jālī kaṇhājinā cubhoti ime te puttāpi mātaraṃ rakkhantūti.
๒๔๐๗.
2407.
‘‘อิทญฺจ ปจฺจยํ ลทฺธา, ปุเพฺพ สํเกฺลสมตฺตโน;
‘‘Idañca paccayaṃ laddhā, pubbe saṃklesamattano;
อานนฺทิยํ อาจริํสุ, รมณีเย คิริพฺพเชฯ
Ānandiyaṃ ācariṃsu, ramaṇīye giribbaje.
๒๔๐๘.
2408.
‘‘อิทญฺจ ปจฺจยํ ลทฺธา, ปุเพฺพ สํเกฺลสมตฺตโน;
‘‘Idañca paccayaṃ laddhā, pubbe saṃklesamattano;
อานนฺทิ วิตฺตา สุมนา, ปุเตฺต สงฺคมฺม ลกฺขณาฯ
Ānandi vittā sumanā, putte saṅgamma lakkhaṇā.
๒๔๐๙.
2409.
‘‘อิทญฺจ ปจฺจยํ ลทฺธา, ปุเพฺพ สํเกฺลสมตฺตโน;
‘‘Idañca paccayaṃ laddhā, pubbe saṃklesamattano;
อานนฺทิ วิตฺตา ปตีตา, สห ปุเตฺตหิ ลกฺขณา’’ติฯ
Ānandi vittā patītā, saha puttehi lakkhaṇā’’ti.
ตตฺถ อิทญฺจ ปจฺจยํ ลทฺธาติ ภิกฺขเว, เวสฺสนฺตโร มทฺที จ อิทญฺจ ปจฺจยํ ลทฺธา อิมํ ปติฎฺฐํ ลภิตฺวา, รเชฺช ปติฎฺฐหิตฺวาติ อโตฺถฯ ปุเพฺพติ อิโต ปุเพฺพ อตฺตโน วนวาสสํเกฺลสญฺจ อนุสฺสริตฺวาฯ อานนฺทิยํ อาจริํสุ, รมณีเย คิริพฺพเชติ รมณีเย วงฺกคิริกุจฺฉิมฺหิ ‘‘เวสฺสนฺตรสฺส รโญฺญ อาณา’’ติ กญฺจนลตาวินทฺธํ อานนฺทเภริํ จราเปตฺวา อานนฺทฉณํ อาจริํสุฯ อานนฺทิ วิตฺตา สุมนาติ ลกฺขณสมฺปนฺนา มทฺที ปุเตฺต สงฺคมฺม สมฺปาปุณิตฺวา วิตฺตา สุมนา หุตฺวา อติวิย นนฺทีติ อโตฺถฯ ปตีตาติ โสมนสฺสา หุตฺวาฯ
Tattha idañca paccayaṃ laddhāti bhikkhave, vessantaro maddī ca idañca paccayaṃ laddhā imaṃ patiṭṭhaṃ labhitvā, rajje patiṭṭhahitvāti attho. Pubbeti ito pubbe attano vanavāsasaṃklesañca anussaritvā. Ānandiyaṃ ācariṃsu, ramaṇīye giribbajeti ramaṇīye vaṅkagirikucchimhi ‘‘vessantarassa rañño āṇā’’ti kañcanalatāvinaddhaṃ ānandabheriṃ carāpetvā ānandachaṇaṃ ācariṃsu. Ānandi vittā sumanāti lakkhaṇasampannā maddī putte saṅgamma sampāpuṇitvā vittā sumanā hutvā ativiya nandīti attho. Patītāti somanassā hutvā.
เอวํ ปตีตา หุตฺวา จ ปน ปุเตฺต อาห –
Evaṃ patītā hutvā ca pana putte āha –
๒๔๑๐.
2410.
‘‘เอกภตฺตา ปุเร อาสิํ, นิจฺจํ ถณฺฑิลสายินี;
‘‘Ekabhattā pure āsiṃ, niccaṃ thaṇḍilasāyinī;
อิติ เมตํ วตํ อาสิ, ตุมฺหํ กามา หิ ปุตฺตกาฯ
Iti metaṃ vataṃ āsi, tumhaṃ kāmā hi puttakā.
๒๔๑๑.
2411.
‘‘ตํ เม วตํ สมิทฺธชฺช, ตุเมฺห สงฺคมฺม ปุตฺตกา;
‘‘Taṃ me vataṃ samiddhajja, tumhe saṅgamma puttakā;
มาตุชมฺปิ ตํ ปาเลตุ, ปิตุชมฺปิ จ ปุตฺตก;
Mātujampi taṃ pāletu, pitujampi ca puttaka;
อโถปิ ตํ มหาราชา, สญฺชโย อภิรกฺขตุฯ
Athopi taṃ mahārājā, sañjayo abhirakkhatu.
๒๔๑๒.
2412.
‘‘ยํ กิญฺจิตฺถิ กตํ ปุญฺญํ, มยฺหเญฺจว ปิตุจฺจ เต;
‘‘Yaṃ kiñcitthi kataṃ puññaṃ, mayhañceva pitucca te;
สเพฺพน เตน กุสเลน, อชโร อมโร ภวา’’ติฯ
Sabbena tena kusalena, ajaro amaro bhavā’’ti.
ตตฺถ ตุมฺหํ กามา หิ ปุตฺตกาติ ปุตฺตกา อหํ ตุมฺหากํ กามา ตุเมฺห ปตฺถยมานา ปุเร ตุเมฺหสุ พฺราหฺมเณน นีเตสุ เอกภตฺตํ ภุญฺชิตฺวา ภูมิยํ สยิํ, อิติ เม ตุมฺหากํ กามา เอตํ วตํ อาสีติ วทติฯ สมิทฺธชฺชาติ ตํ เม วตํ อชฺช สมิทฺธํฯ มาตุชมฺปิ ตํ ปาเลตุ, ปิตุชมฺปิ จ ปุตฺตกาติ ปุตฺตชาลิ ตํ มาตุชาตํ โสมนสฺสมฺปิ ปิตุชาตํ โสมนสฺสมฺปิ ปาเลตุ, มาตาปิตูนํ สนฺตกํ ปุญฺญํ ตํ ปาเลตูติ อโตฺถฯ เตเนวาห ‘‘ยํ กิญฺจิตฺถิ กตํ ปุญฺญ’’นฺติฯ
Tattha tumhaṃ kāmā hi puttakāti puttakā ahaṃ tumhākaṃ kāmā tumhe patthayamānā pure tumhesu brāhmaṇena nītesu ekabhattaṃ bhuñjitvā bhūmiyaṃ sayiṃ, iti me tumhākaṃ kāmā etaṃ vataṃ āsīti vadati. Samiddhajjāti taṃ me vataṃ ajja samiddhaṃ. Mātujampi taṃ pāletu, pitujampi ca puttakāti puttajāli taṃ mātujātaṃ somanassampi pitujātaṃ somanassampi pāletu, mātāpitūnaṃ santakaṃ puññaṃ taṃ pāletūti attho. Tenevāha ‘‘yaṃ kiñcitthi kataṃ puñña’’nti.
ผุสฺสตีปิ เทวี ‘‘อิโต ปฎฺฐาย มม สุณฺหา อิมาเนว วตฺถานิ นิวาเสตุ, อิมานิ อาภรณานิ ธาเรตู’’ติ สุวณฺณสมุเคฺค ปูเรตฺวา ปหิณิฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Phussatīpi devī ‘‘ito paṭṭhāya mama suṇhā imāneva vatthāni nivāsetu, imāni ābharaṇāni dhāretū’’ti suvaṇṇasamugge pūretvā pahiṇi. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๒๔๑๓.
2413.
‘‘กปฺปาสิกญฺจ โกเสยฺยํ, โขมโกฎุมฺพรานิ จ;
‘‘Kappāsikañca koseyyaṃ, khomakoṭumbarāni ca;
สสฺสุ สุณฺหาย ปาเหสิ, เยหิ มทฺที อโสภถฯ
Sassu suṇhāya pāhesi, yehi maddī asobhatha.
๒๔๑๔.
2414.
‘‘ตโต เหมญฺจ กายูรํ, คีเวยฺยํ รตนามยํ;
‘‘Tato hemañca kāyūraṃ, gīveyyaṃ ratanāmayaṃ;
สสฺสุ สุณฺหาย ปาเหสิ, เยหิ มทฺที อโสภถฯ
Sassu suṇhāya pāhesi, yehi maddī asobhatha.
๒๔๑๕.
2415.
‘‘ตโต เหมญฺจ กายูรํ, องฺคทํ มณิเมขลํ;
‘‘Tato hemañca kāyūraṃ, aṅgadaṃ maṇimekhalaṃ;
สสฺสุ สุณฺหาย ปาเหสิ, เยหิ มทฺที อโสภถฯ
Sassu suṇhāya pāhesi, yehi maddī asobhatha.
๒๔๑๖.
2416.
‘‘อุณฺณตํ มุขผุลฺลญฺจ, นานารเตฺต จ มาณิเก;
‘‘Uṇṇataṃ mukhaphullañca, nānāratte ca māṇike;
สสฺสุ สุณฺหาย ปาเหสิ, เยหิ มทฺที อโสภถฯ
Sassu suṇhāya pāhesi, yehi maddī asobhatha.
๒๔๑๗.
2417.
‘‘อุคฺคตฺถนํ คิงฺคมกํ, เมขลํ ปาฎิปาทกํ;
‘‘Uggatthanaṃ giṅgamakaṃ, mekhalaṃ pāṭipādakaṃ;
สสฺสุ สุณฺหาย ปาเหสิ, เยหิ มทฺที อโสภถฯ
Sassu suṇhāya pāhesi, yehi maddī asobhatha.
๒๔๑๘.
2418.
‘‘สุตฺตญฺจ สุตฺตวชฺชญฺจ, อุปนิชฺฌาย เสยฺยสิ;
‘‘Suttañca suttavajjañca, upanijjhāya seyyasi;
อโสภถ ราชปุตฺตี, เทวกญฺญาว นนฺทเนฯ
Asobhatha rājaputtī, devakaññāva nandane.
๒๔๑๙.
2419.
‘‘สีสํ นฺหาตา สุจิวตฺถา, สพฺพาลงฺการภูสิตา;
‘‘Sīsaṃ nhātā sucivatthā, sabbālaṅkārabhūsitā;
อโสภถ ราชปุตฺตี, ตาวติํเสว อจฺฉราฯ
Asobhatha rājaputtī, tāvatiṃseva accharā.
๒๔๒๐.
2420.
‘‘กทลีว วาตจฺฉุปิตา, ชาตา จิตฺตลตาวเน;
‘‘Kadalīva vātacchupitā, jātā cittalatāvane;
อนฺตาวรณสมฺปนฺนา, ราชปุตฺตี อโสภถฯ
Antāvaraṇasampannā, rājaputtī asobhatha.
๒๔๒๑.
2421.
‘‘สกุณี มานุสินีว, ชาตา จิตฺตปตฺตา ปตี;
‘‘Sakuṇī mānusinīva, jātā cittapattā patī;
นิโคฺรธปกฺกพิโมฺพฎฺฐี, ราชปุตฺตี อโสภถา’’ติฯ
Nigrodhapakkabimboṭṭhī, rājaputtī asobhathā’’ti.
ตตฺถ เหมญฺจ กายูรนฺติ สุวณฺณมยํ วนขชฺชูริผลสณฺฐานํ คีวาปสาธนเมวฯ รตนมยนฺติ อปรมฺปิ รตนมยํ คีเวยฺยํฯ องฺคทํ มณิเมขลนฺติ องฺคทาภรณญฺจ มณิมยเมขลญฺจฯ อุณฺณตนฺติ เอกํ นลาฎปสาธนํฯ มุขผุลฺลนฺติ นลาฎเนฺต ติลกมาลาภรณํฯ นานารเตฺตติ นานาวเณฺณฯ มาณิเกติ มณิมเยฯ อุคฺคตฺถนํ คิงฺคมกนฺติ เอตานิปิ เทฺว อาภรณานิฯ เมขลนฺติ สุวณฺณรชตมยํ เมขลํฯ ปาฎิปาทกนฺติ ปาทปสาธนํฯ สุตฺตญฺจ สุตฺตวชฺชํ จาติ สุตฺตารูฬฺหญฺจ อสุตฺตารูฬฺหญฺจ ปสาธนํฯ ปาฬิยํ ปน ‘‘สุปฺปญฺจ สุปฺปวชฺชญฺจา’’ติ ลิขิตํฯ อุปนิชฺฌาย เสยฺยสีติ เอตํ สุตฺตารูฬฺหญฺจ อสุตฺตารูฬฺหญฺจ อาภรณํ ตํ ตํ อูนฎฺฐานํ โอโลเกตฺวา อลงฺกริตฺวา ฐิตา เสยฺยสี อุตฺตมรูปธรา มทฺที เทวกญฺญาว นนฺทเน อโสภถฯ วาตจฺฉุปิตาติ จิตฺตลตาวเน ชาตา วาตสมฺผุฎฺฐา สุวณฺณกทลี วิย ตํ ทิวสํ สา วิชมฺภมานา อโสภถ ฯ ทนฺตาวรณสมฺปนฺนาติ พิมฺพผลสทิเสหิ รตฺตทนฺตาวรเณหิ สมนฺนาคตาฯ สกุณี มานุสินีว, ชาตา จิตฺตปตฺตา ปตีติ ยถา มานุสิยา สรีเรน ชาตา มานุสินี นาม สกุณี จิตฺตปตฺตา อากาเส อุปฺปตมานา ปเกฺข ปสาเรตฺวา คจฺฉนฺตี โสภติ, เอวํ สา รโตฺตฎฺฐตาย นิโคฺรธปกฺกพิมฺพผลสทิสโอเฎฺฐหิ อโสภถฯ
Tattha hemañca kāyūranti suvaṇṇamayaṃ vanakhajjūriphalasaṇṭhānaṃ gīvāpasādhanameva. Ratanamayanti aparampi ratanamayaṃ gīveyyaṃ. Aṅgadaṃ maṇimekhalanti aṅgadābharaṇañca maṇimayamekhalañca. Uṇṇatanti ekaṃ nalāṭapasādhanaṃ. Mukhaphullanti nalāṭante tilakamālābharaṇaṃ. Nānāratteti nānāvaṇṇe. Māṇiketi maṇimaye. Uggatthanaṃ giṅgamakanti etānipi dve ābharaṇāni. Mekhalanti suvaṇṇarajatamayaṃ mekhalaṃ. Pāṭipādakanti pādapasādhanaṃ. Suttañca suttavajjaṃ cāti suttārūḷhañca asuttārūḷhañca pasādhanaṃ. Pāḷiyaṃ pana ‘‘suppañca suppavajjañcā’’ti likhitaṃ. Upanijjhāya seyyasīti etaṃ suttārūḷhañca asuttārūḷhañca ābharaṇaṃ taṃ taṃ ūnaṭṭhānaṃ oloketvā alaṅkaritvā ṭhitā seyyasī uttamarūpadharā maddī devakaññāva nandane asobhatha. Vātacchupitāti cittalatāvane jātā vātasamphuṭṭhā suvaṇṇakadalī viya taṃ divasaṃ sā vijambhamānā asobhatha . Dantāvaraṇasampannāti bimbaphalasadisehi rattadantāvaraṇehi samannāgatā. Sakuṇī mānusinīva, jātā cittapattā patīti yathā mānusiyā sarīrena jātā mānusinī nāma sakuṇī cittapattā ākāse uppatamānā pakkhe pasāretvā gacchantī sobhati, evaṃ sā rattoṭṭhatāya nigrodhapakkabimbaphalasadisaoṭṭhehi asobhatha.
สฎฺฐิสหสฺสา อมจฺจา มทฺทิํ อภิรุหนตฺถาย สพฺพาลงฺการปฺปฎิมณฺฑิตํ นาติวทฺธํ สตฺติสรปหารกฺขมํ เอกํ ตรุณหตฺถิํ อุปนาเมสุํฯ เตน วุตฺตํ –
Saṭṭhisahassā amaccā maddiṃ abhiruhanatthāya sabbālaṅkārappaṭimaṇḍitaṃ nātivaddhaṃ sattisarapahārakkhamaṃ ekaṃ taruṇahatthiṃ upanāmesuṃ. Tena vuttaṃ –
๒๔๒๒.
2422.
‘‘ตสฺสา จ นาคมาเนสุํ, นาติวทฺธํว กุญฺชรํ;
‘‘Tassā ca nāgamānesuṃ, nātivaddhaṃva kuñjaraṃ;
สตฺติกฺขมํ สรกฺขมํ, อีสาทนฺตํ อุรูฬฺหวํฯ
Sattikkhamaṃ sarakkhamaṃ, īsādantaṃ urūḷhavaṃ.
๒๔๒๓.
2423.
‘‘สา มทฺที นาคมารุหิ, นาติวทฺธํว กุญฺชรํ;
‘‘Sā maddī nāgamāruhi, nātivaddhaṃva kuñjaraṃ;
สตฺติกฺขมํ สรกฺขมํ, อีสาทนฺตํ อุรูฬฺหว’’นฺติฯ
Sattikkhamaṃ sarakkhamaṃ, īsādantaṃ urūḷhava’’nti.
ตตฺถ ตสฺสา จาติ ภิกฺขเว, ตสฺสาปิ มทฺทิยา สพฺพาลงฺการปฺปฎิมณฺฑิตํ กตฺวา นาติวทฺธํ สตฺติสรปหารกฺขมํ เอกํ ตรุณหตฺถิํ อุปเนสุํฯ นาคมารุหีติ วรหตฺถิปิฎฺฐิํ อภิรุหิฯ
Tattha tassā cāti bhikkhave, tassāpi maddiyā sabbālaṅkārappaṭimaṇḍitaṃ katvā nātivaddhaṃ sattisarapahārakkhamaṃ ekaṃ taruṇahatthiṃ upanesuṃ. Nāgamāruhīti varahatthipiṭṭhiṃ abhiruhi.
อิติ เต อุโภปิ มหเนฺตน ยเสน ขนฺธาวารํ อคมํสุฯ สญฺชยราชา ทฺวาทสหิ อโกฺขภิณีหิ สทฺธิํ มาสมตฺตํ ปพฺพตกีฬํ วนกีฬํ กีฬิฯ มหาสตฺตสฺส เตเชน ตาวมหเนฺต อรเญฺญ โกจิ วาฬมิโค วา ปกฺขี วา กญฺจิ น วิเหเฐสิฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Iti te ubhopi mahantena yasena khandhāvāraṃ agamaṃsu. Sañjayarājā dvādasahi akkhobhiṇīhi saddhiṃ māsamattaṃ pabbatakīḷaṃ vanakīḷaṃ kīḷi. Mahāsattassa tejena tāvamahante araññe koci vāḷamigo vā pakkhī vā kañci na viheṭhesi. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๒๔๒๔.
2424.
‘‘สพฺพมฺหิ ตํ อรญฺญมฺหิ, ยาวเนฺตตฺถ มิคา อหุํ;
‘‘Sabbamhi taṃ araññamhi, yāvantettha migā ahuṃ;
เวสฺสนฺตรสฺส เตเชน, นญฺญมญฺญํ วิเหฐยุํฯ
Vessantarassa tejena, naññamaññaṃ viheṭhayuṃ.
๒๔๒๕.
2425.
‘‘สพฺพมฺหิ ตํ อรญฺญมฺหิ, ยาวเนฺตตฺถ ทิชา อหุํ;
‘‘Sabbamhi taṃ araññamhi, yāvantettha dijā ahuṃ;
เวสฺสนฺตรสฺส เตเชน, นญฺญมญฺญํ วิเหเฐยุํฯ
Vessantarassa tejena, naññamaññaṃ viheṭheyuṃ.
๒๔๒๖.
2426.
‘‘สพฺพมฺหิ ตํ อรญฺญมฺหิ, ยาวเนฺตตฺถ มิคา อหุํ;
‘‘Sabbamhi taṃ araññamhi, yāvantettha migā ahuṃ;
เอกชฺฌํ สนฺนิปาติํสุ, เวสฺสนฺตเร ปยาตมฺหิ;
Ekajjhaṃ sannipātiṃsu, vessantare payātamhi;
สิวีนํ รฎฺฐวฑฺฒเนฯ
Sivīnaṃ raṭṭhavaḍḍhane.
๒๔๒๗.
2427.
‘‘สพฺพมฺหิ ตํ อรญฺญมฺหิ, ยาวเนฺตตฺถ ทิชา อหุํ;
‘‘Sabbamhi taṃ araññamhi, yāvantettha dijā ahuṃ;
เอกชฺฌํ สนฺนิปาติํสุ, เวสฺสนฺตเร ปยาตมฺหิ;
Ekajjhaṃ sannipātiṃsu, vessantare payātamhi;
สิวีนํ รฎฺฐวฑฺฒเนฯ
Sivīnaṃ raṭṭhavaḍḍhane.
๒๔๒๘.
2428.
‘‘สพฺพมฺหิ ตํ อรญฺญมฺหิ, ยาวเนฺตตฺถ มิคา อหุํ;
‘‘Sabbamhi taṃ araññamhi, yāvantettha migā ahuṃ;
นาสฺสุ มญฺชู นิกูชิํสุ, เวสฺสนฺตเร ปยาตมฺหิ;
Nāssu mañjū nikūjiṃsu, vessantare payātamhi;
สิวีนํ รฎฺฐวฑฺฒเนฯ
Sivīnaṃ raṭṭhavaḍḍhane.
๒๔๒๙.
2429.
‘‘สพฺพมฺหิ ตํ อรญฺญมฺหิ, ยาวเนฺตตฺถ ทิชา อหุํ;
‘‘Sabbamhi taṃ araññamhi, yāvantettha dijā ahuṃ;
นาสฺสุ มญฺชู นิกูชิํสุ, เวสฺสนฺตเร ปยาตมฺหิ;
Nāssu mañjū nikūjiṃsu, vessantare payātamhi;
สิวีนํ รฎฺฐวฑฺฒเน’’ติฯ
Sivīnaṃ raṭṭhavaḍḍhane’’ti.
ตตฺถ ยาวเนฺตตฺถาติ ยาวโนฺต เอตฺถฯ เอกชฺฌํ สนฺนิปาติํสูติ เอกสฺมิํ ฐาเน สนฺนิปติํสุ, สนฺนิปติตฺวา จ ปน ‘‘อิโต ปฎฺฐาย อิทานิ อมฺหากํ อญฺญมญฺญํ ลชฺชา วา หิโรตฺตปฺปํ วา สํวโร วา น ภวิสฺสตี’’ติ โทมนสฺสปตฺตา อเหสุํฯ นาสฺสุ มญฺชู นิกูชิํสูติ มหาสตฺตสฺส วิโยคทุกฺขิตา มธุรํ รวํ ปุเพฺพ วิย น รวิํสุฯ
Tattha yāvantetthāti yāvanto ettha. Ekajjhaṃ sannipātiṃsūti ekasmiṃ ṭhāne sannipatiṃsu, sannipatitvā ca pana ‘‘ito paṭṭhāya idāni amhākaṃ aññamaññaṃ lajjā vā hirottappaṃ vā saṃvaro vā na bhavissatī’’ti domanassapattā ahesuṃ. Nāssu mañjū nikūjiṃsūti mahāsattassa viyogadukkhitā madhuraṃ ravaṃ pubbe viya na raviṃsu.
สญฺชยนริโนฺท มาสมตฺตํ ปพฺพตกีฬํ, วนกีฬํ กีฬิตฺวา เสนาปติํ ปโกฺกสาเปตฺวา ‘‘ตาต, จิรํ โน อรเญฺญ วุตฺตํ, กิํ เต มม ปุตฺตสฺส คมนมโคฺค อลงฺกโต’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาม, เทว, กาโล โว คมนายา’’ติ วุเตฺต เวสฺสนฺตรสฺส อาโรจาเปตฺวา เสนํ อาทาย นิกฺขมิฯ วงฺกคิริกุจฺฉิโต ยาว เชตุตฺตรนครา สฎฺฐิโยชนํ อลงฺกตมคฺคํ มหาสโตฺต มหเนฺตน ปริวาเรน สทฺธิํ ปฎิปชฺชิฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Sañjayanarindo māsamattaṃ pabbatakīḷaṃ, vanakīḷaṃ kīḷitvā senāpatiṃ pakkosāpetvā ‘‘tāta, ciraṃ no araññe vuttaṃ, kiṃ te mama puttassa gamanamaggo alaṅkato’’ti pucchitvā ‘‘āma, deva, kālo vo gamanāyā’’ti vutte vessantarassa ārocāpetvā senaṃ ādāya nikkhami. Vaṅkagirikucchito yāva jetuttaranagarā saṭṭhiyojanaṃ alaṅkatamaggaṃ mahāsatto mahantena parivārena saddhiṃ paṭipajji. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๒๔๓๐.
2430.
‘‘ปฎิยโตฺต ราชมโคฺค, วิจิโตฺต ปุปฺผสนฺถโต;
‘‘Paṭiyatto rājamaggo, vicitto pupphasanthato;
วสิ เวสฺสนฺตโร ยตฺถ, ยาวตาว เชตุตฺตราฯ
Vasi vessantaro yattha, yāvatāva jetuttarā.
๒๔๓๑.
2431.
‘‘ตโต สฎฺฐิสหสฺสานิ, โยธิโน จารุทสฺสนา;
‘‘Tato saṭṭhisahassāni, yodhino cārudassanā;
สมนฺตา ปริกิริํสุ, เวสฺสนฺตเร ปยาตมฺหิ;
Samantā parikiriṃsu, vessantare payātamhi;
สิวีนํ รฎฺฐวฑฺฒเนฯ
Sivīnaṃ raṭṭhavaḍḍhane.
๒๔๓๒.
2432.
‘‘โอโรธา จ กุมารา จ, เวสิยานา จ พฺราหฺมณา;
‘‘Orodhā ca kumārā ca, vesiyānā ca brāhmaṇā;
สมนฺตา ปริกิริํสุ, เวสฺสนฺตเร ปยาตมฺหิ;
Samantā parikiriṃsu, vessantare payātamhi;
สิวีนํ รฎฺฐวฑฺฒเนฯ
Sivīnaṃ raṭṭhavaḍḍhane.
๒๔๓๓.
2433.
‘‘หตฺถาโรหา อนีกฎฺฐา, รถิกา ปตฺติการกา;
‘‘Hatthārohā anīkaṭṭhā, rathikā pattikārakā;
สมนฺตา ปริกิริํสุ, เวสฺสนฺตเร ปยาตมฺหิ;
Samantā parikiriṃsu, vessantare payātamhi;
สิวีนํ รฎฺฐวฑฺฒเนฯ
Sivīnaṃ raṭṭhavaḍḍhane.
๒๔๓๔.
2434.
‘‘สมาคตา ชานปทา, เนคมา จ สมาคตา;
‘‘Samāgatā jānapadā, negamā ca samāgatā;
สมนฺตา ปริกิริํสุ, เวสฺสนฺตเร ปยาตมฺหิ;
Samantā parikiriṃsu, vessantare payātamhi;
สิวีนํ รฎฺฐวฑฺฒเนฯ
Sivīnaṃ raṭṭhavaḍḍhane.
๒๔๓๕.
2435.
‘‘กโรฎิยา จมฺมธรา, อิลฺลีหตฺถา สุวมฺมิโน;
‘‘Karoṭiyā cammadharā, illīhatthā suvammino;
ปุรโต ปฎิปชฺชิํสุ, เวสฺสนฺตเร ปยาตมฺหิ;
Purato paṭipajjiṃsu, vessantare payātamhi;
สิวีนํ รฎฺฐวฑฺฒเน’’ติฯ
Sivīnaṃ raṭṭhavaḍḍhane’’ti.
ตตฺถ ปฎิยโตฺตติ วิสาขาปุณฺณมปูชากาเล วิย อลงฺกโตฯ วิจิโตฺตติ กทลิปุณฺณฆฎธชปฎากาทีหิ วิจิโตฺตฯ ปุปฺผสนฺถโตติ ลาชาปญฺจมเกหิ ปุเปฺผหิ สนฺถโตฯ ยตฺถาติ ยสฺมิํ วงฺกปพฺพเต เวสฺสนฺตโร วสติ, ตโต ปฎฺฐาย ยาว เชตุตฺตรนครา นิรนฺตรํ อลงฺกตปฺปฎิยโตฺตวฯ กโรฎิยาติ สีสกโรฎีติ ลทฺธนามาย สีเส ปฎิมุกฺกกโรฎิกา โยธาฯ จมฺมธราติ กณฺฑวารณจมฺมธราฯ สุวมฺมิโนติ วิจิตฺราหิ ชาลิกาหิ สุฎฺฐุ วมฺมิกาฯ ปุรโต ปฎิปชฺชิํสูติ มตฺตหตฺถีสุปิ อาคจฺฉเนฺตสุ อนิวตฺติโน สูรโยธา รโญฺญ เวสฺสนฺตรสฺส ปุรโต ปฎิปชฺชิํสุฯ
Tattha paṭiyattoti visākhāpuṇṇamapūjākāle viya alaṅkato. Vicittoti kadalipuṇṇaghaṭadhajapaṭākādīhi vicitto. Pupphasanthatoti lājāpañcamakehi pupphehi santhato. Yatthāti yasmiṃ vaṅkapabbate vessantaro vasati, tato paṭṭhāya yāva jetuttaranagarā nirantaraṃ alaṅkatappaṭiyattova. Karoṭiyāti sīsakaroṭīti laddhanāmāya sīse paṭimukkakaroṭikā yodhā. Cammadharāti kaṇḍavāraṇacammadharā. Suvamminoti vicitrāhi jālikāhi suṭṭhu vammikā. Purato paṭipajjiṃsūti mattahatthīsupi āgacchantesu anivattino sūrayodhā rañño vessantarassa purato paṭipajjiṃsu.
ราชา สฎฺฐิโยชนมคฺคํ ทฺวีหิ มาเสหิ อติกฺกมฺม เชตุตฺตรนครํ ปโตฺต อลงฺกตปฺปฎิยตฺตนครํ ปวิสิตฺวา ปาสาทํ อภิรุหิฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
Rājā saṭṭhiyojanamaggaṃ dvīhi māsehi atikkamma jetuttaranagaraṃ patto alaṅkatappaṭiyattanagaraṃ pavisitvā pāsādaṃ abhiruhi. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๒๔๓๖.
2436.
‘‘เต ปาวิสุํ ปุรํ รมฺมํ, มหาปาการโตรณํ;
‘‘Te pāvisuṃ puraṃ rammaṃ, mahāpākāratoraṇaṃ;
อุเปตํ อนฺนปาเนหิ, นจฺจคีเตหิ จูภยํฯ
Upetaṃ annapānehi, naccagītehi cūbhayaṃ.
๒๔๓๗.
2437.
‘‘วิตฺตา ชานปทา อาสุํ, เนคมา จ สมาคตา;
‘‘Vittā jānapadā āsuṃ, negamā ca samāgatā;
อนุปฺปเตฺต กุมารมฺหิ, สิวีนํ รฎฺฐวฑฺฒเนฯ
Anuppatte kumāramhi, sivīnaṃ raṭṭhavaḍḍhane.
๒๔๓๘.
2438.
‘‘เจลุเกฺขโป อวตฺติตฺถ, อาคเต ธนทายเก;
‘‘Celukkhepo avattittha, āgate dhanadāyake;
นนฺทิํ ปเวสิ นคเร, พนฺธนา โมโกฺข อโฆสถา’’ติฯ
Nandiṃ pavesi nagare, bandhanā mokkho aghosathā’’ti.
ตตฺถ มหาปาการโตรณนฺติ มหเนฺตหิ ปากาเรหิ จ โตรเณหิ จ สมนฺนาคตํฯ นจฺจคีเตหิ จูภยนฺติ นเจฺจหิ จ คีเตหิ จ อุภเยหิ สมนฺนาคตํฯ วิตฺตาติ ตุฎฺฐา โสมนสฺสปฺปตฺตาฯ อาคเต ธนทายเกติ มหาชนสฺส ธนทายเก มหาสเตฺต อาคเตฯ นนฺทิํ ปเวสีติ ‘‘เวสฺสนฺตรสฺส มหาราชสฺส อาณา’’ติ นคเร นนฺทิเภรี จริฯ พนฺธนา โมโกฺข อโฆสถาติ สพฺพสตฺตานํ พนฺธนา โมโกฺข โฆสิโตฯ อนฺตมโส พิฬารํ อุปาทาย เวสฺสนฺตรมหาราชา สพฺพสเตฺต พนฺธนา วิสฺสชฺชาเปสิฯ
Tattha mahāpākāratoraṇanti mahantehi pākārehi ca toraṇehi ca samannāgataṃ. Naccagītehi cūbhayanti naccehi ca gītehi ca ubhayehi samannāgataṃ. Vittāti tuṭṭhā somanassappattā. Āgate dhanadāyaketi mahājanassa dhanadāyake mahāsatte āgate. Nandiṃ pavesīti ‘‘vessantarassa mahārājassa āṇā’’ti nagare nandibherī cari. Bandhanā mokkho aghosathāti sabbasattānaṃ bandhanā mokkho ghosito. Antamaso biḷāraṃ upādāya vessantaramahārājā sabbasatte bandhanā vissajjāpesi.
โส นครํ ปวิฎฺฐทิวเสเยว ปจฺจูสกาเล จิเนฺตสิ ‘‘เย วิภาตาย รตฺติยา มม อาคตภาวํ สุตฺวา ยาจกา อาคมิสฺสนฺติ, เตสาหํ กิํ ทสฺสามี’’ติ? ตสฺมิํ ขเณ สกฺกสฺส ภวนํ อุณฺหาการํ ทเสฺสสิฯ โส อาวเชฺชโนฺต ตํ การณํ ญตฺวา ตาวเทว ราชนิเวสนสฺส ปุริมวตฺถุญฺจ ปจฺฉิมวตฺถุญฺจ กฎิปฺปมาณํ ปูเรโนฺต ฆนเมโฆ วิย สตฺตรตนวสฺสํ วสฺสาเปสิ, สกลนคเร ชาณุปฺปมาณํ วสฺสาเปสิฯ ปุนทิวเส มหาสโตฺต ‘‘เตสํ เตสํ กุลานํ ปุริมปจฺฉิมวตฺถูสุ วุฎฺฐธนํ เตสํ เตสเญฺญว โหตู’’ติ ทาเปตฺวา อวเสสํ อาหราเปตฺวา อตฺตโน เคหวตฺถุสฺมิํ สทฺธิํ ธเนน โกฎฺฐาคาเรสุ โอกิราเปตฺวา ทานมุเข ฐเปสิฯ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต สตฺถา อาห –
So nagaraṃ paviṭṭhadivaseyeva paccūsakāle cintesi ‘‘ye vibhātāya rattiyā mama āgatabhāvaṃ sutvā yācakā āgamissanti, tesāhaṃ kiṃ dassāmī’’ti? Tasmiṃ khaṇe sakkassa bhavanaṃ uṇhākāraṃ dassesi. So āvajjento taṃ kāraṇaṃ ñatvā tāvadeva rājanivesanassa purimavatthuñca pacchimavatthuñca kaṭippamāṇaṃ pūrento ghanamegho viya sattaratanavassaṃ vassāpesi, sakalanagare jāṇuppamāṇaṃ vassāpesi. Punadivase mahāsatto ‘‘tesaṃ tesaṃ kulānaṃ purimapacchimavatthūsu vuṭṭhadhanaṃ tesaṃ tesaññeva hotū’’ti dāpetvā avasesaṃ āharāpetvā attano gehavatthusmiṃ saddhiṃ dhanena koṭṭhāgāresu okirāpetvā dānamukhe ṭhapesi. Tamatthaṃ pakāsento satthā āha –
๒๔๓๙.
2439.
‘‘ชาตรูปมยํ วสฺสํ, เทโว ปาวสฺสิ ตาวเท;
‘‘Jātarūpamayaṃ vassaṃ, devo pāvassi tāvade;
เวสฺสนฺตเร ปวิฎฺฐมฺหิ, สิวีนํ รฎฺฐวฑฺฒเนฯ
Vessantare paviṭṭhamhi, sivīnaṃ raṭṭhavaḍḍhane.
๒๔๔๐.
2440.
‘‘ตโต เวสฺสนฺตโร ราชา, ทานํ ทตฺวาน ขตฺติโย;
‘‘Tato vessantaro rājā, dānaṃ datvāna khattiyo;
กายสฺส เภทา สปฺปโญฺญ, สคฺคํ โส อุปปชฺชถา’’ติฯ
Kāyassa bhedā sappañño, saggaṃ so upapajjathā’’ti.
ตตฺถ สคฺคํ โส อุปปชฺชถาติ ตโต จุโต ทุติยจิเตฺตน ตุสิตปุเร อุปฺปชฺชีติฯ
Tattha saggaṃ so upapajjathāti tato cuto dutiyacittena tusitapure uppajjīti.
นครกณฺฑวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Nagarakaṇḍavaṇṇanā niṭṭhitā.
สตฺถา อิมํ คาถาสหสฺสปฺปฎิมณฺฑิตํ มหาเวสฺสนฺตรธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ชูชโก เทวทโตฺต อโหสิ, อมิตฺตตาปนา จิญฺจมาณวิกา, เจตปุโตฺต ฉโนฺน, อจฺจุตตาปโส สาริปุโตฺต, สโกฺก อนุรุโทฺธ, สญฺจยนริโนฺท สุโทฺธทนมหาราชา, ผุสฺสตี เทวี สิริมหามายา, มทฺที เทวี ราหุลมาตา, ชาลิกุมาโร ราหุโล, กณฺหาชินา อุปฺปลวณฺณา, เสสปริสา พุทฺธปริสา, มหาเวสฺสนฺตโร ราชา ปน อหเมว สมฺมาสมฺพุโทฺธ อโหสิ’’นฺติฯ
Satthā imaṃ gāthāsahassappaṭimaṇḍitaṃ mahāvessantaradhammadesanaṃ āharitvā jātakaṃ samodhānesi – ‘‘tadā jūjako devadatto ahosi, amittatāpanā ciñcamāṇavikā, cetaputto channo, accutatāpaso sāriputto, sakko anuruddho, sañcayanarindo suddhodanamahārājā, phussatī devī sirimahāmāyā, maddī devī rāhulamātā, jālikumāro rāhulo, kaṇhājinā uppalavaṇṇā, sesaparisā buddhaparisā, mahāvessantaro rājā pana ahameva sammāsambuddho ahosi’’nti.
เวสฺสนฺตรชาตกวณฺณนา ทสมาฯ
Vessantarajātakavaṇṇanā dasamā.
มหานิปาตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Mahānipātavaṇṇanā niṭṭhitā.
ชาตก-อฎฺฐกถา สมตฺตาฯ
Jātaka-aṭṭhakathā samattā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๕๔๗. เวสฺสนฺตรชาตกํ • 547. Vessantarajātakaṃ