Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เนตฺติปฺปกรณ-อฎฺฐกถา • Nettippakaraṇa-aṭṭhakathā

    ๑๐. เววจนหารวิภงฺควณฺณนา

    10. Vevacanahāravibhaṅgavaṇṇanā

    ๓๗. ตตฺถ กตโม เววจโน หาโรติ เววจนหารวิภโงฺคฯ ตตฺถ ยถา เววจนนิเทฺทโส โหติ, ตํ ทเสฺสตุํ ‘‘เอกํ ภควา ธมฺมํ อญฺญมเญฺญหิ เววจเนหิ นิทฺทิสตี’’ติ วุตฺตํฯ เววจเนหีติ ปริยายสเทฺทหีติ อโตฺถฯ ปทโตฺถ ปุเพฺพ วุโตฺต เอวฯ กสฺมา ปน ภควา เอกํ ธมฺมํ อเนกปริยาเยหิ นิทฺทิสตีติ? วุจฺจเต – เทสนากาเล อายติญฺจ กสฺสจิ กถญฺจิ ตทตฺถปฎิโพโธ สิยาติ ปริยายวจนํ, ตสฺมิํ ขเณ วิกฺขิตฺตจิตฺตานํ อญฺญวิหิตานํ อเญฺญน ปริยาเยน ตทตฺถาวโพธนตฺถํ ปริยายวจนํฯ เตเนว ปเทน ปุน วจเน ตทเญฺญสํ ตตฺถ อธิคตตา สิยาติ มนฺทพุทฺธีนํ ปุนปฺปุนํ ตทตฺถสลฺลกฺขเณ อสโมฺมสนตฺถํ ปริยายวจนํฯ อเนเกปิ อตฺถา สมานพฺยญฺชนา โหนฺตีติ ยา อตฺถนฺตรปริกปฺปนา สิยา, ตสฺสา ปริวชฺชนตฺถมฺปิ ปริยายวจนํ อนญฺญสฺส วจเน อเนกาหิ ตาหิ ตาหิ สญฺญาหิ เตสํ เตสํ อตฺถานํ ญาปนตฺถมฺปิ ปริยายวจนํ เสยฺยถาปิ นิฆณฺฎุสเตฺถฯ ธมฺมกถิกานํ ตนฺติอตฺถุปนิพนฺธนปราวโพธนานํ สุขสิทฺธิยาปิ ปริยายวจนํฯ อตฺตโน ธมฺมนิรุตฺติปฎิสมฺภิทาปฺปตฺติยา วิภาวนตฺถํ, เวเนยฺยานํ ตตฺถ พีชาวาปนตฺถํ วา ปริยายวจนํ ภควา นิทฺทิสติฯ

    37.Tatthakatamo vevacano hāroti vevacanahāravibhaṅgo. Tattha yathā vevacananiddeso hoti, taṃ dassetuṃ ‘‘ekaṃ bhagavā dhammaṃ aññamaññehi vevacanehi niddisatī’’ti vuttaṃ. Vevacanehīti pariyāyasaddehīti attho. Padattho pubbe vutto eva. Kasmā pana bhagavā ekaṃ dhammaṃ anekapariyāyehi niddisatīti? Vuccate – desanākāle āyatiñca kassaci kathañci tadatthapaṭibodho siyāti pariyāyavacanaṃ, tasmiṃ khaṇe vikkhittacittānaṃ aññavihitānaṃ aññena pariyāyena tadatthāvabodhanatthaṃ pariyāyavacanaṃ. Teneva padena puna vacane tadaññesaṃ tattha adhigatatā siyāti mandabuddhīnaṃ punappunaṃ tadatthasallakkhaṇe asammosanatthaṃ pariyāyavacanaṃ. Anekepi atthā samānabyañjanā hontīti yā atthantaraparikappanā siyā, tassā parivajjanatthampi pariyāyavacanaṃ anaññassa vacane anekāhi tāhi tāhi saññāhi tesaṃ tesaṃ atthānaṃ ñāpanatthampi pariyāyavacanaṃ seyyathāpi nighaṇṭusatthe. Dhammakathikānaṃ tantiatthupanibandhanaparāvabodhanānaṃ sukhasiddhiyāpi pariyāyavacanaṃ. Attano dhammaniruttipaṭisambhidāppattiyā vibhāvanatthaṃ, veneyyānaṃ tattha bījāvāpanatthaṃ vā pariyāyavacanaṃ bhagavā niddisati.

    กิํ พหุนา ยสฺสา ธมฺมธาตุยา สุปฺปฎิวิทฺธตฺตา สมฺมาสมฺพุทฺธา ยถา สพฺพสฺมิํ อเตฺถ อปฺปฎิหตญาณาจารา, ตถา สพฺพสฺมิํ สทฺทโวหาเรติ เอกมฺปิ อตฺถํ อเนเกหิ ปริยาเยหิ โพเธติ, น ตตฺถ ทนฺธายิตตฺตํ วิตฺถายิตตฺตํ อตฺถสฺสฯ นาปิ ธมฺมเทสนาหานิ, อาเวณิโกวายํ พุทฺธธโมฺมติ ปริยายเทสนํ ทเสฺสโนฺต ‘‘อาสา’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ อตฺถํ ทเสฺสโนฺต ‘‘อาสา นาม วุจฺจติ ยา ภวิสฺสสฺส อตฺถสฺสา’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ ภวิสฺสสฺส อตฺถสฺสาติ อนาคตสฺส อิจฺฉิตพฺพสฺส อตฺถสฺสฯ ‘‘อวสฺสํ อาคมิสฺสตี’’ติอาทินา ตสฺสา ปวตฺติยาการํ ทเสฺสติฯ อนาคตตฺถวิสยา ตณฺหา อาสาฯ อนาคตปจฺจุปฺปนฺนตฺถวิสยา ตณฺหา ปิหาติ อยเมตาสํ วิเสโสฯ

    Kiṃ bahunā yassā dhammadhātuyā suppaṭividdhattā sammāsambuddhā yathā sabbasmiṃ atthe appaṭihatañāṇācārā, tathā sabbasmiṃ saddavohāreti ekampi atthaṃ anekehi pariyāyehi bodheti, na tattha dandhāyitattaṃ vitthāyitattaṃ atthassa. Nāpi dhammadesanāhāni, āveṇikovāyaṃ buddhadhammoti pariyāyadesanaṃ dassento ‘‘āsā’’tiādimāha. Tattha atthaṃ dassento ‘‘āsā nāma vuccati yā bhavissassa atthassā’’tiādimāha. Tattha bhavissassa atthassāti anāgatassa icchitabbassa atthassa. ‘‘Avassaṃ āgamissatī’’tiādinā tassā pavattiyākāraṃ dasseti. Anāgatatthavisayā taṇhā āsā. Anāgatapaccuppannatthavisayā taṇhā pihāti ayametāsaṃ viseso.

    อตฺถนิปฺผตฺติปฎิปาลนาติ ยาย อิจฺฉิตสฺส อตฺถสฺส นิปฺผตฺติํ ปฎิปาเลติ อาคเมติ, ยาย วา นิปฺผนฺนํ อตฺถํ ปฎิปาเลติ รกฺขติฯ อยํ อภินนฺทนา นาม, ยถาลทฺธสฺส อตฺถสฺส เกลายนา นามาติ อโตฺถฯ ตํ อตฺถนิปฺผตฺติํ สตฺตสงฺขารวเสน วิภชิตฺวา ทเสฺสโนฺต ‘‘ปิยํ วา ญาติ’’นฺติอาทิมาห ฯ ตตฺถ ธมฺมนฺติ รูปาทิอารมฺมณธมฺมํ, อติอิฎฺฐารมฺมณํ อภินนฺทติ, อนิฎฺฐารมฺมเณหิปิ ตํ ทเสฺสตุํ ‘‘อปฺปฎิกฺกูลโต วา อภินนฺทตี’’ติ วุตฺตํฯ ปฎิกฺกูเลปิ หิ วิปลฺลาสวเสน สตฺตํ, สงฺขารํ วา อปฺปฎิกฺกูลโต อภินนฺทติฯ

    Atthanipphattipaṭipālanāti yāya icchitassa atthassa nipphattiṃ paṭipāleti āgameti, yāya vā nipphannaṃ atthaṃ paṭipāleti rakkhati. Ayaṃ abhinandanā nāma, yathāladdhassa atthassa kelāyanā nāmāti attho. Taṃ atthanipphattiṃ sattasaṅkhāravasena vibhajitvā dassento ‘‘piyaṃ vā ñāti’’ntiādimāha . Tattha dhammanti rūpādiārammaṇadhammaṃ, atiiṭṭhārammaṇaṃ abhinandati, aniṭṭhārammaṇehipi taṃ dassetuṃ ‘‘appaṭikkūlato vā abhinandatī’’ti vuttaṃ. Paṭikkūlepi hi vipallāsavasena sattaṃ, saṅkhāraṃ vā appaṭikkūlato abhinandati.

    ยาสุ อเนกธาตูสุ ปวตฺติยา ตณฺหา ‘‘อเนกธาตูสุ สรา’’ติ วุตฺตา, ตา ธาตุโย วิภาเคน ทเสฺสตุํ ‘‘จกฺขุธาตู’’ติอาทิ วุตฺตํฯ กิญฺจาปิ ธาตุวิภงฺคาทีสุ (วิภ. ๑๗๒ อาทโย) กามธาตุอาทโย อญฺญาปิ อเนกธาตุโย อาคตา, ตาสมฺปิ เอเตฺถว สมวโรโธติ ทสฺสนตฺถํ อฎฺฐารเสเวตฺถ ทสฺสิตาฯ เกจิ รูปาธิมุตฺตาติอาทิ ตาสุ ธาตูสุ ตณฺหาย ปวตฺติทสฺสนํฯ ตตฺถ ยสฺมา ปญฺจ อชฺฌตฺติกา ธาตุโย สตฺต จ วิญฺญาณธาตุโย ธมฺมธาตุ จ ธมฺมารมฺมเณเนว สงฺคหิตา, ตสฺมา อฎฺฐารส ธาตุโย อุทฺทิสิตฺวา ฉเฬว ตณฺหาย ปวตฺติฎฺฐานานิ วิภตฺตานีติ ทฎฺฐพฺพํฯ ตณฺหาปกฺขา เนกฺขมฺมสฺสิตาปิ โทมนสฺสุปวิจารา ตสฺส อนุตฺตเรสุ วิโมเกฺขสุ ปิหํ อุปฎฺฐาปยโต อุปฺปชฺชติ ‘‘ปิหปจฺจยา โทมนสฺส’’นฺติ วจนโต, โก ปน วาโท เคหสฺสิเตสุ โทมนสฺสุปวิจาเรสูติ อิมานิ จตุวีสติ ปทานิ ‘‘ตณฺหาปโกฺข’’ติ วุตฺตํฯ เคหสฺสิตา ปน อุเปกฺขา อญฺญาณุเปกฺขตาย ยถาภินิเวสสฺส ปจฺจโย โหตีติ ‘‘ยา ฉ อุเปกฺขา เคหสฺสิตา, อยํ ทิฎฺฐิปโกฺข’’ติ วุตฺตํฯ

    Yāsu anekadhātūsu pavattiyā taṇhā ‘‘anekadhātūsu sarā’’ti vuttā, tā dhātuyo vibhāgena dassetuṃ ‘‘cakkhudhātū’’tiādi vuttaṃ. Kiñcāpi dhātuvibhaṅgādīsu (vibha. 172 ādayo) kāmadhātuādayo aññāpi anekadhātuyo āgatā, tāsampi ettheva samavarodhoti dassanatthaṃ aṭṭhārasevettha dassitā. Keci rūpādhimuttātiādi tāsu dhātūsu taṇhāya pavattidassanaṃ. Tattha yasmā pañca ajjhattikā dhātuyo satta ca viññāṇadhātuyo dhammadhātu ca dhammārammaṇeneva saṅgahitā, tasmā aṭṭhārasa dhātuyo uddisitvā chaḷeva taṇhāya pavattiṭṭhānāni vibhattānīti daṭṭhabbaṃ. Taṇhāpakkhā nekkhammassitāpi domanassupavicārā tassa anuttaresu vimokkhesu pihaṃ upaṭṭhāpayato uppajjati ‘‘pihapaccayā domanassa’’nti vacanato, ko pana vādo gehassitesu domanassupavicāresūti imāni catuvīsati padāni ‘‘taṇhāpakkho’’ti vuttaṃ. Gehassitā pana upekkhā aññāṇupekkhatāya yathābhinivesassa paccayo hotīti ‘‘yā cha upekkhā gehassitā, ayaṃ diṭṭhipakkho’’ti vuttaṃ.

    ๓๘. อิทานิ เตสํ อุปวิจารานํ ตณฺหาปริยายํ ทเสฺสโนฺต ‘‘สาเยว ปตฺถนากาเรน ธมฺมนนฺที’’ติอาทิมาหฯ ปุน จิตฺตํ ปญฺญา ภควา ธโมฺม สโงฺฆ สีลํ จาโคติ อิเมสํ ปริยายวจนนิทฺธารเณน เววจนหารํ วิภชิตฺวา ทเสฺสตุํ ‘‘จิตฺตํ มโน วิญฺญาณ’’นฺติอาทิ อารทฺธํฯ ตตฺถ ‘‘อญฺญมฺปิ เอวํ ชาติย’’นฺติ อิมินา ปญฺญา ปชานนา วิจโย ปวิจโย ธมฺมวิจโย สลฺลกฺขณา อุปลกฺขณา ปจฺจุปลกฺขณา ปณฺฑิจฺจํ โกสลฺลํ เนปุญฺญํ เวภพฺยา จินฺตา อุปปริกฺขา ภูรี เมธา ปริณายิกา วิปสฺสนา สมฺปชญฺญํ ปโตโท ปญฺญา ปญฺญินฺทฺริยํ ปญฺญาพลํ ปญฺญาสตฺถํ ปญฺญาปาสาโท ปญฺญาอาโลโก ปญฺญาโอภาโส ปญฺญาปโชฺชโต ปญฺญารตนํ อโมโหติ (มหานิ. ๑๔๙) เอวมาทีนมฺปิ ปญฺญาย ปริยายสทฺทานํ สงฺคโห ทฎฺฐโพฺพฯ

    38. Idāni tesaṃ upavicārānaṃ taṇhāpariyāyaṃ dassento ‘‘sāyeva patthanākārena dhammanandī’’tiādimāha. Puna cittaṃ paññā bhagavā dhammo saṅgho sīlaṃ cāgoti imesaṃ pariyāyavacananiddhāraṇena vevacanahāraṃ vibhajitvā dassetuṃ ‘‘cittaṃ mano viññāṇa’’ntiādi āraddhaṃ. Tattha ‘‘aññampi evaṃ jātiya’’nti iminā paññā pajānanā vicayo pavicayo dhammavicayo sallakkhaṇā upalakkhaṇā paccupalakkhaṇā paṇḍiccaṃ kosallaṃ nepuññaṃ vebhabyā cintā upaparikkhā bhūrī medhā pariṇāyikā vipassanā sampajaññaṃ patodo paññā paññindriyaṃ paññābalaṃ paññāsatthaṃ paññāpāsādo paññāāloko paññāobhāso paññāpajjoto paññāratanaṃ amohoti (mahāni. 149) evamādīnampi paññāya pariyāyasaddānaṃ saṅgaho daṭṭhabbo.

    ปญฺจินฺทฺริยานิ โลกุตฺตรานีติ ขเย ญาณนฺติอาทีนิ ปญฺจินฺทฺริยานิ โลกุตฺตรานิ, โลกุตฺตรปญฺญาย เววจนานีติ อโตฺถฯ สพฺพา ปญฺญาติ อิตเรหิ เววจเนหิ วุตฺตา สพฺพา ปญฺญา โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสิกาติ อโตฺถฯ ‘‘อปิ จา’’ติอาทินา อิมินาปิ ปริยาเยน เววจนํ วตฺตพฺพนฺติ ทเสฺสติฯ อาธิปเตยฺยเฎฺฐนาติ อธิโมกฺขลกฺขเณ อาธิปเตยฺยเฎฺฐนฯ ยถา จ พุทฺธานุสฺสติยํ วุตฺตนฺติ ยถา พุทฺธานุสฺสตินิเทฺทเส (วิสุทฺธิ. ๑.๑๒๓) ‘‘อิติปิ โส ภควา’’ติอาทินา ปาฬิยา โส ภควา อิติปิ อรหํ…เป.… อิติปิ ภควาติ อเนเกหิ เววจเนหิ ภควา อนุสฺสริตโพฺพติ วุตฺตํฯ อิมินาว นเยน พลนิปฺผตฺติคโต เวสารชฺชปฺปโตฺต ยาว ธโมฺมภาสปโชฺชตกโรติ, เอเตหิ ปริยาเยหิ พุทฺธสฺส ภควโต เววจนํ พุทฺธานุสฺสติยํ วตฺตพฺพนฺติ ปทํ อาหริตฺวา สมฺพโนฺธ เวทิตโพฺพฯ เอตานิปิ กติปยานิ เอว ภควโต เววจนานิฯ อสเงฺขฺยยฺยา หิ พุทฺธคุณา คุณเนมิตฺตกานิ จ ภควโต นามานิฯ วุตฺตเญฺหตํ ธมฺมเสนาปตินา –

    Pañcindriyānilokuttarānīti khaye ñāṇantiādīni pañcindriyāni lokuttarāni, lokuttarapaññāya vevacanānīti attho. Sabbā paññāti itarehi vevacanehi vuttā sabbā paññā lokiyalokuttaramissikāti attho. ‘‘Api cā’’tiādinā imināpi pariyāyena vevacanaṃ vattabbanti dasseti. Ādhipateyyaṭṭhenāti adhimokkhalakkhaṇe ādhipateyyaṭṭhena. Yathā ca buddhānussatiyaṃvuttanti yathā buddhānussatiniddese (visuddhi. 1.123) ‘‘itipi so bhagavā’’tiādinā pāḷiyā so bhagavā itipi arahaṃ…pe… itipi bhagavāti anekehi vevacanehi bhagavā anussaritabboti vuttaṃ. Imināva nayena balanipphattigato vesārajjappatto yāva dhammobhāsapajjotakaroti, etehi pariyāyehi buddhassa bhagavato vevacanaṃ buddhānussatiyaṃ vattabbanti padaṃ āharitvā sambandho veditabbo. Etānipi katipayāni eva bhagavato vevacanāni. Asaṅkhyeyyā hi buddhaguṇā guṇanemittakāni ca bhagavato nāmāni. Vuttañhetaṃ dhammasenāpatinā –

    ‘‘อสเงฺขฺยยฺยานิ นามานิ, สคุเณน มเหสิโน;

    ‘‘Asaṅkhyeyyāni nāmāni, saguṇena mahesino;

    คุเณน นามมุเทฺธยฺยํ, อปิ นาม สหสฺสโต’’ติฯ (อุทา. อฎฺฐ. ๕๓);

    Guṇena nāmamuddheyyaṃ, api nāma sahassato’’ti. (udā. aṭṭha. 53);

    ธมฺมานุสฺสติยํ ‘‘อสงฺขต’’นฺติอาทีสุ น เกนจิ ปจฺจเยน สงฺขตนฺติ อสงฺขตํฯ นตฺถิ เอตสฺส อโนฺต วินาโสติ อนนฺตํฯ อาสวานํ อนารมฺมณโต อนาสวํฯ อวิปรีตสภาวตฺตา สจฺจํฯ สํสารสฺส ปรตีรภาวโต ปารํฯ นิปุณญาณวิสยตฺตา สุขุมสภาวตฺตา จ นิปุณฯ อนุปจิตญาณสมฺภาเรหิ ทฎฺฐุํ น สกฺกาติ สุทุทฺทสํฯ อุปฺปาทชราหิ อนพฺภาหตตฺตา อชชฺชรํฯ ถิรภาเวน ธุวํฯ ชรามรเณหิ อปลุชฺชนโต อปโลกิตํฯ มํสจกฺขุนา ทิพฺพจกฺขุนา จ อปสฺสิตพฺพตฺตา อนิทสฺสนํฯ ราคาทิปปญฺจาภาเวน นิปฺปปญฺจํฯ กิเลสาภิสงฺขารานํ วูปสมเหตุตาย สนฺตํ

    Dhammānussatiyaṃ ‘‘asaṅkhata’’ntiādīsu na kenaci paccayena saṅkhatanti asaṅkhataṃ. Natthi etassa anto vināsoti anantaṃ. Āsavānaṃ anārammaṇato anāsavaṃ. Aviparītasabhāvattā saccaṃ. Saṃsārassa paratīrabhāvato pāraṃ. Nipuṇañāṇavisayattā sukhumasabhāvattā ca nipuṇa. Anupacitañāṇasambhārehi daṭṭhuṃ na sakkāti sududdasaṃ. Uppādajarāhi anabbhāhatattā ajajjaraṃ. Thirabhāvena dhuvaṃ. Jarāmaraṇehi apalujjanato apalokitaṃ. Maṃsacakkhunā dibbacakkhunā ca apassitabbattā anidassanaṃ. Rāgādipapañcābhāvena nippapañcaṃ. Kilesābhisaṅkhārānaṃ vūpasamahetutāya santaṃ.

    อมตเหตุตาย ภงฺคาภาวโต จ อมตํฯ อุตฺตมเฎฺฐน อตปฺปกเฎฺฐน จ ปณีตํฯ อสิวานํ กมฺมกิเลสวิปากวฎฺฎานํ อภาเวน สิวํฯ จตูหิ โยเคหิ อนุปทฺทวภาเวน เขมํฯ ตณฺหา ขียติ เอตฺถาติ ตณฺหกฺขโยฯ กตปุเญฺญหิปิ กทาจิเทว ปสฺสิตพฺพตฺตา อจฺฉริยํฯ อภูตปุพฺพตฺตา อพฺภุตํ ฯ อนนฺตรายตฺตา อนีติกํฯ อนนฺตรายภาวเหตุโต อนีติกธมฺมํ (สํ. นิ. อฎฺฐ. ๓.๕.๓๗๗-๔๐๙)ฯ

    Amatahetutāya bhaṅgābhāvato ca amataṃ. Uttamaṭṭhena atappakaṭṭhena ca paṇītaṃ. Asivānaṃ kammakilesavipākavaṭṭānaṃ abhāvena sivaṃ. Catūhi yogehi anupaddavabhāvena khemaṃ. Taṇhā khīyati etthāti taṇhakkhayo. Katapuññehipi kadācideva passitabbattā acchariyaṃ. Abhūtapubbattā abbhutaṃ. Anantarāyattā anītikaṃ. Anantarāyabhāvahetuto anītikadhammaṃ (saṃ. ni. aṭṭha. 3.5.377-409).

    อนิพฺพตฺติสภาวตฺตา อชาตํฯ ตโต เอว อภูตํฯ อุภเยนาปิ อุปฺปาทรหิตนฺติ วุตฺตํ โหติฯ เกนจิ อนุปทฺทุตตฺตา อนุปทฺทวํฯ น เกนจิ ปจฺจเยน กตนฺติ อกตํฯ นตฺถิ เอตฺถ โสโกติ อโสกํฯ โสกเหตุวิคเมน วิโสกํฯ เกนจิ อนุปสชฺชิตพฺพตฺตา อนุปสคฺคํฯ อนุปสคฺคภาวเหตุโต อนุปสคฺคธมฺมํ

    Anibbattisabhāvattā ajātaṃ. Tato eva abhūtaṃ. Ubhayenāpi uppādarahitanti vuttaṃ hoti. Kenaci anupaddutattā anupaddavaṃ. Na kenaci paccayena katanti akataṃ. Natthi ettha sokoti asokaṃ. Sokahetuvigamena visokaṃ. Kenaci anupasajjitabbattā anupasaggaṃ. Anupasaggabhāvahetuto anupasaggadhammaṃ.

    คมฺภีรญาณโคจรโต คมฺภีรํฯ สมฺมาปฎิปตฺติํ วินา ปสฺสิตุํ ปตฺตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา ทุปฺปสฺสํฯ สพฺพโลกํ อุตฺตริตฺวา ฐิตนฺติ อุตฺตรํฯ นตฺถิ เอตสฺส อุตฺตรนฺติ อนุตฺตรํฯ สมสฺส สทิสสฺส อภาเวน อสมํฯ ปฎิภาคาภาเวน อปฺปฎิสมํฯ อุตฺตมเฎฺฐน เชฎฺฐํ, ปาสํสตมตฺตา วา เชฎฺฐํฯ สํสารทุกฺขฎฺฎิเตหิ เลตพฺพโต เลณํฯ ตโต รกฺขณโต ตาณํฯ รณาภาเวน อรณํฯ องฺคณาภาเวน อนงฺคณํฯ นิโทฺทสตาย อกาจํฯ ราคาทิมลาปคเมน วิมลํฯ จตูหิ โอเฆหิ อนโชฺฌตฺถรณียโต ทีโปฯ สํสารวูปสมสุขตาย สุขํฯ ปมาณกรธมฺมาภาวโต อปฺปมาณํ, คเณตุํ เอตสฺส น สกฺกาติ จ อปฺปมาณํฯ สํสารสมุเทฺท อโนสีทนฎฺฐานตาย ปติฎฺฐาฯ ราคาทิกิญฺจนาภาเวน ปริคฺคหาภาเวน จ อกิญฺจนนฺติ เอวมโตฺถ ทฎฺฐโพฺพฯ

    Gambhīrañāṇagocarato gambhīraṃ. Sammāpaṭipattiṃ vinā passituṃ pattuṃ asakkuṇeyyattā duppassaṃ. Sabbalokaṃ uttaritvā ṭhitanti uttaraṃ. Natthi etassa uttaranti anuttaraṃ. Samassa sadisassa abhāvena asamaṃ. Paṭibhāgābhāvena appaṭisamaṃ. Uttamaṭṭhena jeṭṭhaṃ, pāsaṃsatamattā vā jeṭṭhaṃ. Saṃsāradukkhaṭṭitehi letabbato leṇaṃ. Tato rakkhaṇato tāṇaṃ. Raṇābhāvena araṇaṃ. Aṅgaṇābhāvena anaṅgaṇaṃ. Niddosatāya akācaṃ. Rāgādimalāpagamena vimalaṃ. Catūhi oghehi anajjhottharaṇīyato dīpo. Saṃsāravūpasamasukhatāya sukhaṃ. Pamāṇakaradhammābhāvato appamāṇaṃ, gaṇetuṃ etassa na sakkāti ca appamāṇaṃ. Saṃsārasamudde anosīdanaṭṭhānatāya patiṭṭhā. Rāgādikiñcanābhāvena pariggahābhāvena ca akiñcananti evamattho daṭṭhabbo.

    สงฺฆานุสฺสติยํ สตฺตานํ สาโรติ สีลสาราทิสารคุณโยคโต สเตฺตสุ สารภูโตฯ สตฺตานํ มโณฺฑติ โครเสสุ สปฺปิมโณฺฑ วิย สเตฺตสุ มณฺฑภูโตฯ สารคุณวเสเนว สเตฺตสุ อุทฺธริตพฺพโต สตฺตานํ อุทฺธาโรฯ นิจฺจลคุณตาย สตฺตานํ เอสิกาฯ คุณโสภาสุรภิภาเวน สตฺตานํ ปสูนํ สุรภิ กุสุมนฺติ อโตฺถฯ

    Saṅghānussatiyaṃ sattānaṃ sāroti sīlasārādisāraguṇayogato sattesu sārabhūto. Sattānaṃ maṇḍoti gorasesu sappimaṇḍo viya sattesu maṇḍabhūto. Sāraguṇavaseneva sattesu uddharitabbato sattānaṃ uddhāro. Niccalaguṇatāya sattānaṃ esikā. Guṇasobhāsurabhibhāvena sattānaṃ pasūnaṃ surabhi kusumanti attho.

    คุเณสุ อุตฺตมงฺคํ ปญฺญา ตสฺสา อุปโสภาเหตุตาย สีลํ อุตฺตมโงฺคปโสภนํ วุตฺตํฯ สีเลสุ ปริปูรการิโน อนิชฺฌนฺตา นาม คุณา นตฺถีติ ‘‘นิธานญฺจ สีลํ สพฺพโทภคฺคสมติกฺกมนเฎฺฐนา’’ติ วุตฺตํฯ อยญฺจ อโตฺถ อากเงฺขยฺยสุเตฺตน (ม. นิ. ๑.๖๔ อาทโย) ทีเปตโพฺพฯ อปรมฺปิ วุตฺตํ – ‘‘อิชฺฌติ, ภิกฺขเว, สีลวโต เจโตปณิธิ วิสุทฺธตฺตา’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๓๗; สํ. นิ. ๔.๓๕๒; อ. นิ. ๘.๓๕)ฯ สิปฺปนฺติ ธนุสิปฺปํฯ ธญฺญนฺติ ธนายิตพฺพํฯ ธมฺมโวโลกนตายาติ สมถวิปสฺสนาทิธมฺมสฺส โวโลกนภาเวน ฯ โวโลกนเฎฺฐนาติ สตฺตภูมกาทิปาสาเท วิย สีเล ฐตฺวา อภิญฺญาจกฺขุนา โลกสฺส โวโลเกตุํ สกฺกาติ วุตฺตํฯ สพฺพภูมานุปริวตฺติ จ สีลํ จตุภูมกกุสลสฺสาปิ ตทนุวตฺตนโตฯ เสสํ อุตฺตานเมวาติฯ

    Guṇesu uttamaṅgaṃ paññā tassā upasobhāhetutāya sīlaṃ uttamaṅgopasobhanaṃ vuttaṃ. Sīlesu paripūrakārino anijjhantā nāma guṇā natthīti ‘‘nidhānañca sīlaṃ sabbadobhaggasamatikkamanaṭṭhenā’’ti vuttaṃ. Ayañca attho ākaṅkheyyasuttena (ma. ni. 1.64 ādayo) dīpetabbo. Aparampi vuttaṃ – ‘‘ijjhati, bhikkhave, sīlavato cetopaṇidhi visuddhattā’’ti (dī. ni. 3.337; saṃ. ni. 4.352; a. ni. 8.35). Sippanti dhanusippaṃ. Dhaññanti dhanāyitabbaṃ. Dhammavolokanatāyāti samathavipassanādidhammassa volokanabhāvena . Volokanaṭṭhenāti sattabhūmakādipāsāde viya sīle ṭhatvā abhiññācakkhunā lokassa voloketuṃ sakkāti vuttaṃ. Sabbabhūmānuparivatti ca sīlaṃ catubhūmakakusalassāpi tadanuvattanato. Sesaṃ uttānamevāti.

    เววจนหารวิภงฺควณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Vevacanahāravibhaṅgavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เนตฺติปฺปกรณปาฬิ • Nettippakaraṇapāḷi / ๑๐. เววจนหารวิภโงฺค • 10. Vevacanahāravibhaṅgo

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / ขุทฺทกนิกาย (ฎีกา) • Khuddakanikāya (ṭīkā) / เนตฺติปฺปกรณ-ฎีกา • Nettippakaraṇa-ṭīkā / ๑๐. เววจนหารวิภงฺควณฺณนา • 10. Vevacanahāravibhaṅgavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / ขุทฺทกนิกาย (ฎีกา) • Khuddakanikāya (ṭīkā) / เนตฺติวิภาวินี • Nettivibhāvinī / ๑๐. เววจนหารวิภงฺควิภาวนา • 10. Vevacanahāravibhaṅgavibhāvanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact