Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) |
๑๐. วิภงฺคสุตฺตวณฺณนา
10. Vibhaṅgasuttavaṇṇanā
๘๓๒. ฉนฺทํ อุปฺปาเทตฺวาติ ภาวนาฉนฺทํ อุปฺปาเทตฺวาฯ ลีนากาโรติ ภาวนาจิตฺตสฺส ลยาปตฺติฯ โกสเชฺชน โวกิณฺณาปชฺชนํ วุตฺตํฯ
832.Chandaṃ uppādetvāti bhāvanāchandaṃ uppādetvā. Līnākāroti bhāvanācittassa layāpatti. Kosajjena vokiṇṇāpajjanaṃ vuttaṃ.
เอวํ ปสาทาภาเวน จิตฺตสฺส วิเกฺขปาปตฺติ, ตตฺถ ปสาทุปฺปาทเนน ยํ สมฺปหํสนํ อิจฺฉิตพฺพํ, ตสฺส อุปฺปาทนาการํ ทเสฺสตุํ วุตฺตํ ‘‘โส พุทฺธธมฺมสงฺฆคุเณ อาวเชฺชตฺวา’’ติอาทิฯ วตฺถุกาเม อารพฺภ วิกฺขิโตฺต ปุนปฺปุนํ วิกฺขิโตฺต โหติเยวาติ วุตฺตํ ‘‘อนุวิกฺขิโตฺต’’ติฯ อุปฺปถํ ปฎิปนฺนสฺส จิตฺตสฺส ทณฺฑนเฎฺฐน นิคฺคณฺหนเฎฺฐน สุตฺตานิ เอว ทโณฺฑติ สุตฺตทโณฺฑ, เตน สุตฺตทเณฺฑน จิตฺตํ ตเชฺชตฺวาฯ ปญฺจกามคุเณ อารพฺภ ปวโตฺต จิตฺตวิเกฺขโป ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชเตวาติ วุตฺตํ ‘‘อนุวิกฺขิโตฺต อนุวิสโฎ’’ติฯ
Evaṃ pasādābhāvena cittassa vikkhepāpatti, tattha pasāduppādanena yaṃ sampahaṃsanaṃ icchitabbaṃ, tassa uppādanākāraṃ dassetuṃ vuttaṃ ‘‘so buddhadhammasaṅghaguṇe āvajjetvā’’tiādi. Vatthukāme ārabbha vikkhitto punappunaṃ vikkhitto hotiyevāti vuttaṃ ‘‘anuvikkhitto’’ti. Uppathaṃ paṭipannassa cittassa daṇḍanaṭṭhena niggaṇhanaṭṭhena suttāni eva daṇḍoti suttadaṇḍo, tena suttadaṇḍena cittaṃ tajjetvā. Pañcakāmaguṇe ārabbha pavatto cittavikkhepo punappunaṃ uppajjatevāti vuttaṃ ‘‘anuvikkhitto anuvisaṭo’’ti.
ปุเรปจฺฉาภาโว กมฺมฎฺฐานสฺส มนสิการวเสน อุคฺคหวเสน วาติ ตทุภยํ ทเสฺสตุํ ‘‘กถ’’นฺติอาทิ วุตฺตํฯ อติลีนาทีสุ จตูสุ ฐาเนสูติ อติลีนาติปคฺคหิตสํขิตฺตอนุวิกฺขิตฺตสญฺญิเตสุ จตูสุ ฐาเนสุฯ ตตฺถ ภาวนํ อนโชฺฌคาเหตฺวาว สโงฺกโจ อติลีนตา, อโชฺฌคาเหตฺวา อโนฺต สโงฺกโจ สํขิตฺตตา, อโนฺตสเงฺขโป อติปคฺคหิตตา, อจฺจารทฺธวีริยตา อนุวิกฺขิตฺตตาฯ พหิทฺธา วิสมวิตกฺกานุภาวนํ อาปชฺชโนฺต ทฺวตฺติํสาการวเสน อฎฺฐิกสญฺญาวเสน วา คเหตพฺพนฺติ อาห – ‘‘สรีรวเสน เวทิตพฺพ’’นฺติฯ เตนาห ‘‘อุทฺธํ ปาทตลา’’ติอาทิ (ที. นิ. ๒.๓๗๗; ม. นิ. ๑.๑๑๐)ฯ
Purepacchābhāvo kammaṭṭhānassa manasikāravasena uggahavasena vāti tadubhayaṃ dassetuṃ ‘‘katha’’ntiādi vuttaṃ. Atilīnādīsu catūsu ṭhānesūti atilīnātipaggahitasaṃkhittaanuvikkhittasaññitesu catūsu ṭhānesu. Tattha bhāvanaṃ anajjhogāhetvāva saṅkoco atilīnatā, ajjhogāhetvā anto saṅkoco saṃkhittatā, antosaṅkhepo atipaggahitatā, accāraddhavīriyatā anuvikkhittatā. Bahiddhā visamavitakkānubhāvanaṃ āpajjanto dvattiṃsākāravasena aṭṭhikasaññāvasena vā gahetabbanti āha – ‘‘sarīravasena veditabba’’nti. Tenāha ‘‘uddhaṃ pādatalā’’tiādi (dī. ni. 2.377; ma. ni. 1.110).
อญฺญมญฺญํ อสงฺกรโต อากิรียนฺติ ปการโต ฐปียนฺตีติ อาการา, ภาคาติ อาห – ‘‘เยหิ อากาเรหีติ เยหิ โกฎฺฐาเสหี’’ติฯ ลิงฺคียติ สลฺลกฺขียตีติ ลิงฺคํ, สณฺฐานํฯ นิมียติ นิทฺธาเรตฺวา ปริจฺฉินฺทียตีติ นิมิตฺตํ, อุปฎฺฐานํฯ โย ภิกฺขูติอาทิ อาโลกสญฺญํ โย อุคฺคณฺหาติ, ตํ ทสฺสนํฯ องฺคเณติ วิวฎงฺคเณฯ อาโลกสญฺญํ มนสิกโรติ รตฺติยํฯ วีริยาทีสุปีติ ยถา ‘‘อิธ ภิกฺขุ ฉนฺทํ อุปฺปาเทตฺวา’’ติ ฉเนฺท วิตฺถารนโย วุโตฺต, วีริยาทีสุปิ เอโส เอว วิตฺถารนโย โยเชตโพฺพฯ
Aññamaññaṃ asaṅkarato ākirīyanti pakārato ṭhapīyantīti ākārā, bhāgāti āha – ‘‘yehi ākārehīti yehi koṭṭhāsehī’’ti. Liṅgīyati sallakkhīyatīti liṅgaṃ, saṇṭhānaṃ. Nimīyati niddhāretvā paricchindīyatīti nimittaṃ, upaṭṭhānaṃ. Yo bhikkhūtiādi ālokasaññaṃ yo uggaṇhāti, taṃ dassanaṃ. Aṅgaṇeti vivaṭaṅgaṇe. Ālokasaññaṃ manasikaroti rattiyaṃ. Vīriyādīsupīti yathā ‘‘idha bhikkhu chandaṃ uppādetvā’’ti chande vitthāranayo vutto, vīriyādīsupi eso eva vitthāranayo yojetabbo.
ปาสาทกมฺปนวคฺควณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Pāsādakampanavaggavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๑๐. วิภงฺคสุตฺตํ • 10. Vibhaṅgasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๑๐. วิภงฺคสุตฺตวณฺณนา • 10. Vibhaṅgasuttavaṇṇanā