Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เนตฺติปฺปกรณ-อฎฺฐกถา • Nettippakaraṇa-aṭṭhakathā |
๘. วิภตฺติหารวิภงฺควณฺณนา
8. Vibhattihāravibhaṅgavaṇṇanā
๓๓. ตตฺถ กตโม วิภตฺติหาโรติ วิภตฺติหารวิภโงฺคฯ ตตฺถ ธมฺมวิภตฺติภูมิวิภตฺติปทฎฺฐานวิภตฺตีติ ติวิธา วิภตฺติฯ ตาสุ ยสฺมา ธเมฺมสุ วิภาคโต นิทฺทิเฎฺฐสุ ตตฺถ ลพฺภมาโน ภูมิวิภาโค ปทฎฺฐานวิภาโค จ นิทฺทิสิยมาโน สุวิเญฺญโยฺย โหติ, ตสฺมา ธมฺมวิภตฺติํ ตาว นิทฺทิสโนฺต โสฬสวิเธ ปฎฺฐาเน เยสํ สุตฺตานํ วเสน วิเสสโต วิภชิตพฺพา, ตานิ สุตฺตานิ ทเสฺสตุํ ‘‘เทฺว สุตฺตานิ วาสนาภาคิยญฺจ นิเพฺพธภาคิยญฺจา’’ติ วุตฺตํฯ ตตฺถ วาสนา ปุญฺญภาวนา, ตสฺสา ภาโค โกฎฺฐาโส วาสนาภาโค, ตสฺส หิตนฺติ วาสนาภาคิยํ, สุตฺตํฯ นิพฺพิชฺฌนํ โลภกฺขนฺธาทีนํ ปทาลนํ นิเพฺพโธ, ตสฺส ภาโคติ เสสํ ปุริมสทิสเมวฯ ยสฺมิํ สุเตฺต ตีณิ ปุญฺญกิริยวตฺถูนิ เทสิตานิ, ตํ สุตฺตํ วาสนาภาคิยํฯ ยสฺมิํ ปน เสกฺขาเสกฺขา เทสิตา, ตํ นิเพฺพธภาคิยํฯ อยญฺจ อโตฺถ ปาฬิยํเยว อาคมิสฺสติฯ
33.Tatthakatamo vibhattihāroti vibhattihāravibhaṅgo. Tattha dhammavibhattibhūmivibhattipadaṭṭhānavibhattīti tividhā vibhatti. Tāsu yasmā dhammesu vibhāgato niddiṭṭhesu tattha labbhamāno bhūmivibhāgo padaṭṭhānavibhāgo ca niddisiyamāno suviññeyyo hoti, tasmā dhammavibhattiṃ tāva niddisanto soḷasavidhe paṭṭhāne yesaṃ suttānaṃ vasena visesato vibhajitabbā, tāni suttāni dassetuṃ ‘‘dve suttāni vāsanābhāgiyañca nibbedhabhāgiyañcā’’ti vuttaṃ. Tattha vāsanā puññabhāvanā, tassā bhāgo koṭṭhāso vāsanābhāgo, tassa hitanti vāsanābhāgiyaṃ, suttaṃ. Nibbijjhanaṃ lobhakkhandhādīnaṃ padālanaṃ nibbedho, tassa bhāgoti sesaṃ purimasadisameva. Yasmiṃ sutte tīṇi puññakiriyavatthūni desitāni, taṃ suttaṃ vāsanābhāgiyaṃ. Yasmiṃ pana sekkhāsekkhā desitā, taṃ nibbedhabhāgiyaṃ. Ayañca attho pāḷiyaṃyeva āgamissati.
ปุญฺญภาคิยาติ ปุญฺญภาเค ภวาฯ ตถา ผลภาคิยา เวทิตพฺพาฯ ผลนฺติ ปน สามญฺญผลํฯ สํวรสีลนฺติ ปาติโมกฺขสํวโร, สติสํวโร, ญาณสํวโร, ขนฺติสํวโร, วีริยสํวโรติ ปญฺจ สํวรา สํวรสีลํฯ ปหานสีลนฺติ ตทงฺคปฺปหานํ, วิกฺขมฺภนปฺปหานํ, สมุเจฺฉทปฺปหานํ, ปฎิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานํ, นิสฺสรณปฺปหานนฺติ ปญฺจปฺปหานานิฯ เตสุ นิสฺสรณปฺปหานวชฺชานํ ปหานานํ วเสน ปหานสีลํ เวทิตพฺพํฯ โสติ โย วาสนาภาคิยสุตฺตสมฺปฎิคฺคาหโก, โสฯ เตน พฺรหฺมจริเยนาติ เตน สํวรสีลสงฺขาเตน เสฎฺฐจริเยน การณภูเตน พฺรหฺมจารี ภวติฯ เอตฺถ จ อฎฺฐสมาปตฺติพฺรหฺมจริยสฺส น ปฎิเกฺขโป, เกจิ ปน ‘‘เตเนว พฺรหฺมจริเยนา’’ติ ปฐนฺติ, เตสํ มเตน สิยา ตสฺส ปฎิเกฺขโปฯ
Puññabhāgiyāti puññabhāge bhavā. Tathā phalabhāgiyā veditabbā. Phalanti pana sāmaññaphalaṃ. Saṃvarasīlanti pātimokkhasaṃvaro, satisaṃvaro, ñāṇasaṃvaro, khantisaṃvaro, vīriyasaṃvaroti pañca saṃvarā saṃvarasīlaṃ. Pahānasīlanti tadaṅgappahānaṃ, vikkhambhanappahānaṃ, samucchedappahānaṃ, paṭippassaddhippahānaṃ, nissaraṇappahānanti pañcappahānāni. Tesu nissaraṇappahānavajjānaṃ pahānānaṃ vasena pahānasīlaṃ veditabbaṃ. Soti yo vāsanābhāgiyasuttasampaṭiggāhako, so. Tena brahmacariyenāti tena saṃvarasīlasaṅkhātena seṭṭhacariyena kāraṇabhūtena brahmacārī bhavati. Ettha ca aṭṭhasamāpattibrahmacariyassa na paṭikkhepo, keci pana ‘‘teneva brahmacariyenā’’ti paṭhanti, tesaṃ matena siyā tassa paṭikkhepo.
ปหานสีเล ฐิโตติ สมุเจฺฉทปฎิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานานํ วเสน ปหานสีเล ฐิโตฯ เตน พฺรหฺมจริเยนาติ เตน ปหานสีเลน วิเสสภูเตน มคฺคพฺรหฺมจริเยนฯ เย ปน ‘‘เตเนว พฺรหฺมจริเยนา’’ติ ปฐนฺติ, เตสํ อยํ ปาโฐ ‘‘วาสนาภาคิยํ นาม สุตฺตํ ทานกถา, สีลกถา, สคฺคกถา, ปุญฺญวิปากกถา’’ติฯ เย ปน ‘‘เตน พฺรหฺมจริเยนา’’ติ ปฐนฺติ, เตสํ อยํ ปาโฐ – ‘‘วาสนาภาคิยํ นาม สุตฺตํ ทานกถา, สีลกถา, สคฺคกถา กามานํ อาทีนโว เนกฺขเมฺม อานิสํโส’’ติฯ ตตฺถ กตโม ปาโฐ ยุตฺตตโรติ? ปจฺฉิโม ปาโฐติ นิฎฺฐํ คนฺตพฺพํฯ ยสฺมา ‘‘นิเพฺพธภาคิยํ นาม สุตฺตํ ยา จตุสจฺจปฺปกาสนา’’ติ วกฺขติ, น หิ มหาเถโร สาวเสสํ กตฺวา ธมฺมํ เทเสสีติฯ
Pahānasīle ṭhitoti samucchedapaṭippassaddhippahānānaṃ vasena pahānasīle ṭhito. Tena brahmacariyenāti tena pahānasīlena visesabhūtena maggabrahmacariyena. Ye pana ‘‘teneva brahmacariyenā’’ti paṭhanti, tesaṃ ayaṃ pāṭho ‘‘vāsanābhāgiyaṃ nāma suttaṃ dānakathā, sīlakathā, saggakathā, puññavipākakathā’’ti. Ye pana ‘‘tena brahmacariyenā’’ti paṭhanti, tesaṃ ayaṃ pāṭho – ‘‘vāsanābhāgiyaṃ nāma suttaṃ dānakathā, sīlakathā, saggakathā kāmānaṃ ādīnavo nekkhamme ānisaṃso’’ti. Tattha katamo pāṭho yuttataroti? Pacchimo pāṭhoti niṭṭhaṃ gantabbaṃ. Yasmā ‘‘nibbedhabhāgiyaṃ nāma suttaṃ yā catusaccappakāsanā’’ti vakkhati, na hi mahāthero sāvasesaṃ katvā dhammaṃ desesīti.
‘‘นตฺถิ ปชานนา’’ติอาทินา อุภินฺนํ สุตฺตานํ สาติสยํ อสงฺกรการณํ ทเสฺสติฯ ตตฺถ ปชานนาติ อริยมคฺคสฺส ปทฎฺฐานภูตา วุฎฺฐานคามินี วิปสฺสนาปญฺญาฯ อิมานิ จตฺตาริ สุตฺตานีติ อิเมสํ สุตฺตานํ วาสนาภาคิยนิเพฺพธภาคิยานํ วกฺขมานานญฺจ สํกิเลสภาคิยอเสกฺขภาคิยานํ วเสน จตฺตาริ สุตฺตานิฯ เทสนายาติ เทสนานเยนฯ สพฺพโต วิจเยน หาเรน วิจินิตฺวาติ สพฺพโตภาเคน เอกาทสสุ ฐาเนสุ ปกฺขิปิตฺวา วิจเยน หาเรน วิจินิตฺวาฯ ‘‘ยุตฺติหาเรน โยเชตพฺพานี’’ติ เอเตน วิจยหารยุตฺติหารา วิภตฺติหารสฺส ปริกมฺมฎฺฐานนฺติ ทเสฺสติฯ ‘‘ยาวติกา ญาณสฺส ภูมี’’ติ อิมินา วิภตฺติหารสฺส มหาวิสยตํ ทเสฺสติฯ
‘‘Natthi pajānanā’’tiādinā ubhinnaṃ suttānaṃ sātisayaṃ asaṅkarakāraṇaṃ dasseti. Tattha pajānanāti ariyamaggassa padaṭṭhānabhūtā vuṭṭhānagāminī vipassanāpaññā. Imāni cattāri suttānīti imesaṃ suttānaṃ vāsanābhāgiyanibbedhabhāgiyānaṃ vakkhamānānañca saṃkilesabhāgiyaasekkhabhāgiyānaṃ vasena cattāri suttāni. Desanāyāti desanānayena. Sabbato vicayena hārena vicinitvāti sabbatobhāgena ekādasasu ṭhānesu pakkhipitvā vicayena hārena vicinitvā. ‘‘Yuttihārena yojetabbānī’’ti etena vicayahārayuttihārā vibhattihārassa parikammaṭṭhānanti dasseti. ‘‘Yāvatikā ñāṇassa bhūmī’’ti iminā vibhattihārassa mahāvisayataṃ dasseti.
๓๔. เอวํ วาสนาภาคิยนิเพฺพธภาคิยภาเวหิ ธเมฺม เอกเทเสน วิภชิตฺวา อิทานิ เตสํ กิเลสภาคิยอเสกฺขภาคิยภาเวหิ สาธารณาสาธารณภาเวหิ วิภชิตุํ ‘‘ตตฺถ กตเม ธมฺมา สาธารณา’’ติอาทิ อารทฺธํฯ ตตฺถ กตเม ธมฺมาติ กตเม สภาวธมฺมาฯ สาธารณาติ อวิสิฎฺฐา, สมานาติ อโตฺถฯ เทฺว ธมฺมาติ ทุเว ปกติโยฯ ปกติอโตฺถ หิ อยํ ธมฺม-สโทฺท ‘‘ชาติธมฺมานํ สตฺตาน’’นฺติอาทีสุ (ปฎิ. ม. ๑.๓๓) วิยฯ นามสาธารณาติ นาเมน สาธารณา, กุสลากุสลาติ สมานนามาติ อโตฺถฯ วตฺถุสาธารณาติ วตฺถุนา นิสฺสเยน สาธารณา, เอกสนฺตติปติตตาย สมานวตฺถุกาติ อโตฺถฯ วิเสสโต สํกิเลสปเกฺข ปหาเนกฎฺฐา นามสาธารณา, สหเชกฎฺฐา วตฺถุสาธารณาฯ อญฺญมฺปิ เอวํ ชาติยนฺติ กิจฺจปจฺจยปฎิปกฺขาทีหิ สมานํ สงฺคณฺหาติฯ มิจฺฉตฺตนิยตานํ อนิยตานนฺติ อิทํ ปุถุชฺชนานํ อุปลกฺขณํฯ ตสฺมา สสฺสตวาทา อุเจฺฉทวาทาติ อาทิโก สโพฺพ ปุถุชฺชนเภโท อาหริตฺวา วตฺตโพฺพฯ ทสนปฺปหาตพฺพา กิเลสา สาธารณา มิจฺฉตฺตนิยตานํ อนิยตานํ เอว จ สมฺภวโต สมฺมตฺตนิยตานํ อสมฺภวโต จฯ อิมินา นเยน เสสปเทสุปิ อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ
34. Evaṃ vāsanābhāgiyanibbedhabhāgiyabhāvehi dhamme ekadesena vibhajitvā idāni tesaṃ kilesabhāgiyaasekkhabhāgiyabhāvehi sādhāraṇāsādhāraṇabhāvehi vibhajituṃ ‘‘tattha katame dhammā sādhāraṇā’’tiādi āraddhaṃ. Tattha katame dhammāti katame sabhāvadhammā. Sādhāraṇāti avisiṭṭhā, samānāti attho. Dve dhammāti duve pakatiyo. Pakatiattho hi ayaṃ dhamma-saddo ‘‘jātidhammānaṃ sattāna’’ntiādīsu (paṭi. ma. 1.33) viya. Nāmasādhāraṇāti nāmena sādhāraṇā, kusalākusalāti samānanāmāti attho. Vatthusādhāraṇāti vatthunā nissayena sādhāraṇā, ekasantatipatitatāya samānavatthukāti attho. Visesato saṃkilesapakkhe pahānekaṭṭhā nāmasādhāraṇā, sahajekaṭṭhā vatthusādhāraṇā. Aññampi evaṃ jātiyanti kiccapaccayapaṭipakkhādīhi samānaṃ saṅgaṇhāti. Micchattaniyatānaṃ aniyatānanti idaṃ puthujjanānaṃ upalakkhaṇaṃ. Tasmā sassatavādā ucchedavādāti ādiko sabbo puthujjanabhedo āharitvā vattabbo. Dasanappahātabbā kilesā sādhāraṇā micchattaniyatānaṃ aniyatānaṃ eva ca sambhavato sammattaniyatānaṃ asambhavato ca. Iminā nayena sesapadesupi attho veditabbo.
อริยสาวโกติ เสกฺขํ สนฺธาย วทติฯ สพฺพา สา อวีตราเคหิ สาธารณาติ โลกิยสมาปตฺติ รูปาวจรา อรูปาวจรา ทิพฺพวิหาโร พฺรหฺมวิหาโร ปฐมชฺฌานสมาปตฺตีติ เอวมาทีหิ ปริยาเยหิ สาธารณาฯ กุสลสมาปตฺติ ปน อิมินา ปริยาเยน สิยา อสาธารณา , อิมํ ปน โทสํ ปสฺสนฺตา เกจิ ‘‘ยํ กิญฺจิ…เป.… สพฺพา สา อวีตราเคหิ สาธารณา’’ติ ปฐนฺติฯ กถํ เต โอธิโส คหิตา, อถ โอธิโส คเหตพฺพา, กถํ สาธารณาติ? อนุโยคํ มนสิกตฺวา ตํ วิโสเธโนฺต อาห – ‘‘สาธารณา หิ ธมฺมา เอวํ อญฺญมญฺญ’’นฺติอาทิฯ ตสฺสโตฺถ – ยถา มิจฺฉตฺตนิยตานํ อนิยตานญฺจ สาธารณาติ วุตฺตํ, เอวํ สาธารณา ธมฺมา น สพฺพสตฺตานํ สาธารณตาย สาธารณา, กสฺมา? ยสฺมา อญฺญมญฺญํ ปรํ ปรํ สกํ สกํ วิสยํ นาติวตฺตนฺติฯ ปฎินิยตญฺหิ เตสํ ปวตฺติฎฺฐานํ, อิตรถา ตถา โวหาโร เอว น สิยาติ อธิปฺปาโยฯ ยสฺมา จ เอเต เอว ธมฺมา เอวํ นิยตา วิสยา, ตสฺมา ‘‘โยปิ อิเมหิ ธเมฺมหิ สมนฺนาคโต น โส ตํ ธมฺมํ อุปาติวตฺตตี’’ติ อาหฯ น หิ มิจฺฉตฺตนิยตานํ อนิยตานญฺจ ทสฺสเนน ปหาตพฺพา กิเลสา น สนฺติ, อเญฺญสํ วา สนฺตีติ เอวํ เสเสปิ วตฺตพฺพํฯ
Ariyasāvakoti sekkhaṃ sandhāya vadati. Sabbā sā avītarāgehi sādhāraṇāti lokiyasamāpatti rūpāvacarā arūpāvacarā dibbavihāro brahmavihāro paṭhamajjhānasamāpattīti evamādīhi pariyāyehi sādhāraṇā. Kusalasamāpatti pana iminā pariyāyena siyā asādhāraṇā , imaṃ pana dosaṃ passantā keci ‘‘yaṃ kiñci…pe… sabbā sā avītarāgehi sādhāraṇā’’ti paṭhanti. Kathaṃ te odhiso gahitā, atha odhiso gahetabbā, kathaṃ sādhāraṇāti? Anuyogaṃ manasikatvā taṃ visodhento āha – ‘‘sādhāraṇā hi dhammā evaṃ aññamañña’’ntiādi. Tassattho – yathā micchattaniyatānaṃ aniyatānañca sādhāraṇāti vuttaṃ, evaṃ sādhāraṇā dhammā na sabbasattānaṃ sādhāraṇatāya sādhāraṇā, kasmā? Yasmā aññamaññaṃ paraṃ paraṃ sakaṃ sakaṃ visayaṃ nātivattanti. Paṭiniyatañhi tesaṃ pavattiṭṭhānaṃ, itarathā tathā vohāro eva na siyāti adhippāyo. Yasmā ca ete eva dhammā evaṃ niyatā visayā, tasmā ‘‘yopi imehi dhammehi samannāgato na so taṃ dhammaṃ upātivattatī’’ti āha. Na hi micchattaniyatānaṃ aniyatānañca dassanena pahātabbā kilesā na santi, aññesaṃ vā santīti evaṃ sesepi vattabbaṃ.
อสาธารโณ นาม ธโมฺม ตสฺส ตสฺส ปุคฺคลสฺส ปจฺจตฺตนิยโต อริเยสุ เสกฺขาเสกฺขธมฺมวเสน อนริเยสุ สพฺพาภพฺพปหาตพฺพวเสน คเวสิตโพฺพ, อิตรสฺส ตถา นิทฺทิสิตพฺพภาวาภาวโตฯ โส จ โข สาธารณาวิธุรตาย ตํ ตํ อุปาทาย ตถาวุตฺตเทสนานุสาเรนาติ อิมมตฺถํ ทเสฺสติ ‘‘กตเม ธมฺมา อสาธารณา ยาว เทสนํ อุปาทาย คเวสิตพฺพา เสกฺขาเสกฺขา ภพฺพาภพฺพา’’ติ อิมินาฯ อฎฺฐมกสฺสาติ โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฎิปนฺนสฺสฯ ธมฺมตาติ ธมฺมสภาโว ปฐมสฺส มคฺคฎฺฐตา ทุติยสฺส ผลฎฺฐตาฯ ปฐมสฺส วา ปหียมานกิเลสตาฯ ทุติยสฺส ปหีนกิเลสตาฯ ปุน อฎฺฐมกสฺสาติ อนาคามิมคฺคฎฺฐสฺสฯ นามนฺติ เสกฺขาติ นามํฯ ธมฺมตาติ ตํตํมคฺคฎฺฐตา เหฎฺฐิมผลฎฺฐตา จฯ ปฎิปนฺนกานนฺติ มคฺคสมงฺคีนํฯ นามนฺติ ปฎิปนฺนกาติ นามํฯ เอวํ ‘‘อฎฺฐมกสฺสา’’ติอาทินา อริยปุคฺคเลสุ อสาธารณธมฺมํ ทเสฺสตฺวา อิตเรสุ นยทสฺสนตฺถํ ‘‘เอวํ วิเสสานุปสฺสินา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ โลกิยธเมฺมสุ เอว หิ หีนาทิภาโวฯ ตตฺถ วิเสสานุปสฺสินาติ อสาธารณธมฺมานุปสฺสินาฯ มิจฺฉตฺตนิยตานํ อนิยตา ธมฺมา สาธารณา มิจฺฉตฺตนิยตา ธมฺมา อสาธารณาฯ มิจฺฉตฺตนิยเตสุปิ นิยตมิจฺฉาทิฎฺฐิกานํ อนิยตา ธมฺมา สาธารณาฯ นิยตมิจฺฉาทิฎฺฐิ อสาธารณาติ อิมินา นเยน วิเสสานุปสฺสินา เวทิตพฺพาฯ
Asādhāraṇo nāma dhammo tassa tassa puggalassa paccattaniyato ariyesu sekkhāsekkhadhammavasena anariyesu sabbābhabbapahātabbavasena gavesitabbo, itarassa tathā niddisitabbabhāvābhāvato. So ca kho sādhāraṇāvidhuratāya taṃ taṃ upādāya tathāvuttadesanānusārenāti imamatthaṃ dasseti ‘‘katame dhammā asādhāraṇā yāva desanaṃ upādāya gavesitabbā sekkhāsekkhā bhabbābhabbā’’ti iminā. Aṭṭhamakassāti sotāpattiphalasacchikiriyāya paṭipannassa. Dhammatāti dhammasabhāvo paṭhamassa maggaṭṭhatā dutiyassa phalaṭṭhatā. Paṭhamassa vā pahīyamānakilesatā. Dutiyassa pahīnakilesatā. Puna aṭṭhamakassāti anāgāmimaggaṭṭhassa. Nāmanti sekkhāti nāmaṃ. Dhammatāti taṃtaṃmaggaṭṭhatā heṭṭhimaphalaṭṭhatā ca. Paṭipannakānanti maggasamaṅgīnaṃ. Nāmanti paṭipannakāti nāmaṃ. Evaṃ ‘‘aṭṭhamakassā’’tiādinā ariyapuggalesu asādhāraṇadhammaṃ dassetvā itaresu nayadassanatthaṃ ‘‘evaṃ visesānupassinā’’tiādi vuttaṃ. Lokiyadhammesu eva hi hīnādibhāvo. Tattha visesānupassināti asādhāraṇadhammānupassinā. Micchattaniyatānaṃ aniyatā dhammā sādhāraṇā micchattaniyatā dhammā asādhāraṇā. Micchattaniyatesupi niyatamicchādiṭṭhikānaṃ aniyatā dhammā sādhāraṇā. Niyatamicchādiṭṭhi asādhāraṇāti iminā nayena visesānupassinā veditabbā.
เอวํ นานานเยหิ ธมฺมวิภตฺติํ ทเสฺสตฺวา อิทานิ ภูมิวิภตฺติํ ปทฎฺฐานวิภตฺติญฺจ วิภชิตฺวา ทเสฺสตุํ ‘‘ทสฺสนภูมี’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ ทสฺสนภูมีติ ปฐมมโคฺคฯ ยสฺมา ปน ปฐมมคฺคกฺขเณ อริยสาวโก สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมโนฺต นาม โหติ, ตโต ปรํ โอกฺกโนฺต , ตสฺมา ‘‘ทสฺสนภูมิ นิยามาวกฺกนฺติยา ปทฎฺฐาน’’นฺติ วุตฺตํฯ กิญฺจาปิ เหฎฺฐิโม เหฎฺฐิโม มโคฺค อุปริอุปริมคฺคาธิคมสฺส การณํ โหติ, สกฺกายทิฎฺฐิอาทีนิ อปฺปหาย กามราคพฺยาปาทาทิปฺปหานสฺส อสกฺกุเณยฺยตฺตาฯ ตถาปิ อริยมโคฺค อตฺตโน ผลสฺส วิเสสการณํ อาสนฺนการณญฺจาติ ทเสฺสตุํ ‘‘ภาวนาภูมิ อุตฺตริกานํ ผลานํ ปตฺติยา ปทฎฺฐาน’’นฺติ วุตฺตํฯ สุขา ปฎิปทา ขิปฺปาภิญฺญา ญาณุตฺตรสฺส ตถาวิธปจฺจยสมาโยเค จ โหตีติ สา วิปสฺสนาย ปทฎฺฐานนฺติ วุตฺตาฯ อิตรา ปน ติโสฺสปิ ปฎิปทา สมถํ อาวหนฺติ เอวฯ ตาสุ สพฺพมุทุตาย ทสฺสิตาย เสสาปิ ทสฺสิตา เอวาติ อาห – ‘‘ทุกฺขา ปฎิปทา ทนฺธาภิญฺญา สมถสฺส ปทฎฺฐาน’’นฺติฯ
Evaṃ nānānayehi dhammavibhattiṃ dassetvā idāni bhūmivibhattiṃ padaṭṭhānavibhattiñca vibhajitvā dassetuṃ ‘‘dassanabhūmī’’tiādimāha. Tattha dassanabhūmīti paṭhamamaggo. Yasmā pana paṭhamamaggakkhaṇe ariyasāvako sammattaniyāmaṃ okkamanto nāma hoti, tato paraṃ okkanto , tasmā ‘‘dassanabhūmi niyāmāvakkantiyā padaṭṭhāna’’nti vuttaṃ. Kiñcāpi heṭṭhimo heṭṭhimo maggo upariuparimaggādhigamassa kāraṇaṃ hoti, sakkāyadiṭṭhiādīni appahāya kāmarāgabyāpādādippahānassa asakkuṇeyyattā. Tathāpi ariyamaggo attano phalassa visesakāraṇaṃ āsannakāraṇañcāti dassetuṃ ‘‘bhāvanābhūmiuttarikānaṃ phalānaṃ pattiyā padaṭṭhāna’’nti vuttaṃ. Sukhā paṭipadā khippābhiññā ñāṇuttarassa tathāvidhapaccayasamāyoge ca hotīti sā vipassanāya padaṭṭhānanti vuttā. Itarā pana tissopi paṭipadā samathaṃ āvahanti eva. Tāsu sabbamudutāya dassitāya sesāpi dassitā evāti āha – ‘‘dukkhā paṭipadā dandhābhiññā samathassa padaṭṭhāna’’nti.
ทานมยํ ปุญฺญกิริยวตฺถูติ ทานเมว ทานมยํ, ปุชฺชผลนิพฺพตฺตนเฎฺฐน ปุญฺญํ, ตเทว กตฺตพฺพโต กิริยา, ปโยคสมฺปตฺติยาทีนํ อธิฎฺฐานภาวโต วตฺถุ จาติ ทานมยปุญฺญกิริยวตฺถุฯ ปรโตโฆสสฺสาติ ธมฺมสฺสวนสฺสฯ สาธารณนฺติ น พีชํ วิย องฺกุรสฺส, ทสฺสนภูมิอาทโย วิย วา นิยามาวกฺกนฺติอาทีนํ อาเวณิกํ, อถ โข สาธารณํ, ตทญฺญการเณหิปิ ปรโตโฆสสฺส ปวตฺตนโตติ อธิปฺปาโยฯ ตตฺถ เกจิ ทายกสฺส ทานานุโมทนํ อาจิณฺณนฺติ ทานํ ปรโตโฆสสฺส การณนฺติ วทนฺติฯ ทายโก ปน ทกฺขิณาวิสุทฺธิํ อากงฺขโนฺต ทานสีลาทิคุณวิเสสานํ สวเน ยุตฺตปฺปยุโตฺต โหตีติ ทานํ ธมฺมสฺสวนสฺส การณํ วุตฺตํฯ
Dānamayaṃ puññakiriyavatthūti dānameva dānamayaṃ, pujjaphalanibbattanaṭṭhena puññaṃ, tadeva kattabbato kiriyā, payogasampattiyādīnaṃ adhiṭṭhānabhāvato vatthu cāti dānamayapuññakiriyavatthu. Paratoghosassāti dhammassavanassa. Sādhāraṇanti na bījaṃ viya aṅkurassa, dassanabhūmiādayo viya vā niyāmāvakkantiādīnaṃ āveṇikaṃ, atha kho sādhāraṇaṃ, tadaññakāraṇehipi paratoghosassa pavattanatoti adhippāyo. Tattha keci dāyakassa dānānumodanaṃ āciṇṇanti dānaṃ paratoghosassa kāraṇanti vadanti. Dāyako pana dakkhiṇāvisuddhiṃ ākaṅkhanto dānasīlādiguṇavisesānaṃ savane yuttappayutto hotīti dānaṃ dhammassavanassa kāraṇaṃ vuttaṃ.
สีลสมฺปโนฺน วิปฺปฎิสาราภาเวน สมาหิโต ธมฺมจินฺตาสมโตฺถ โหตีติ สีลํ จินฺตามยญาณสฺส การณนฺติ อาห ‘‘สีลมย’’นฺติอาทิฯ ภาวนามยนฺติ สมถสงฺขาตํ ภาวนามยํฯ ภาวนามยิยาติ อุปริฌานสงฺขาตาย วิปสฺสนาสงฺขาตาย จ ภาวนามยิยาฯ ปุริมํ ปุริมญฺหิ ปจฺฉิมสฺส ปจฺฉิมสฺส ปทฎฺฐานํฯ อิทานิ ยสฺมา ทานํ สีลํ โลกิยภาวนา จ น เกวลํ ยถาวุตฺตปรโตโฆสาทีนํเยว, อถ โข ยถากฺกมํ ปริยตฺติพาหุสจฺจกมฺมฎฺฐานานุโยคมคฺคสมฺมาทิฎฺฐีนมฺปิ ปจฺจยา โหนฺติ, ตสฺมา ตมฺปิ นยํ ทเสฺสตุํ ปุน ‘‘ทานมย’’นฺติอาทินา เทสนํ วเฑฺฒสิฯ ตถา ปติรูปเทสวาสาทโย กายวิเวกจิตฺตวิเวกาทีนํ การณํ โหตีติ อิมํ นยํ ทเสฺสตุํ ‘‘ปติรูปเทสวาโส’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ กุสลวีมํสายาติ ปฎิสงฺขานุปสฺสนายฯ อกุสลปริจฺจาโคติ อิมินา ปหานปริญฺญา วุตฺตาติฯ สมาธินฺทฺริยสฺสาติ มคฺคสมาธินฺทฺริยสฺสฯ เสสํ สุวิเญฺญยฺยเมวฯ
Sīlasampanno vippaṭisārābhāvena samāhito dhammacintāsamattho hotīti sīlaṃ cintāmayañāṇassa kāraṇanti āha ‘‘sīlamaya’’ntiādi. Bhāvanāmayanti samathasaṅkhātaṃ bhāvanāmayaṃ. Bhāvanāmayiyāti uparijhānasaṅkhātāya vipassanāsaṅkhātāya ca bhāvanāmayiyā. Purimaṃ purimañhi pacchimassa pacchimassa padaṭṭhānaṃ. Idāni yasmā dānaṃ sīlaṃ lokiyabhāvanā ca na kevalaṃ yathāvuttaparatoghosādīnaṃyeva, atha kho yathākkamaṃ pariyattibāhusaccakammaṭṭhānānuyogamaggasammādiṭṭhīnampi paccayā honti, tasmā tampi nayaṃ dassetuṃ puna ‘‘dānamaya’’ntiādinā desanaṃ vaḍḍhesi. Tathā patirūpadesavāsādayo kāyavivekacittavivekādīnaṃ kāraṇaṃ hotīti imaṃ nayaṃ dassetuṃ ‘‘patirūpadesavāso’’tiādimāha. Tattha kusalavīmaṃsāyāti paṭisaṅkhānupassanāya. Akusalapariccāgoti iminā pahānapariññā vuttāti. Samādhindriyassāti maggasamādhindriyassa. Sesaṃ suviññeyyameva.
วิภตฺติหารวิภงฺควณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Vibhattihāravibhaṅgavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เนตฺติปฺปกรณปาฬิ • Nettippakaraṇapāḷi / ๘. วิภตฺติหารวิภโงฺค • 8. Vibhattihāravibhaṅgo
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / ขุทฺทกนิกาย (ฎีกา) • Khuddakanikāya (ṭīkā) / เนตฺติปฺปกรณ-ฎีกา • Nettippakaraṇa-ṭīkā / ๘. วิภตฺติหารวิภงฺควณฺณนา • 8. Vibhattihāravibhaṅgavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / ขุทฺทกนิกาย (ฎีกา) • Khuddakanikāya (ṭīkā) / เนตฺติวิภาวินี • Nettivibhāvinī / ๘. วิภตฺติหารวิภงฺควิภาวนา • 8. Vibhattihāravibhaṅgavibhāvanā