Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เนตฺติปฺปกรณปาฬิ • Nettippakaraṇapāḷi

    ๒. วิจยหารสมฺปาโต

    2. Vicayahārasampāto

    ๕๓. ตตฺถ กตโม วิจโย หารสมฺปาโต? ตตฺถ ตณฺหา ทุวิธา กุสลาปิ อกุสลาปิฯ อกุสลา สํสารคามินี, กุสลา อปจยคามินี ปหานตณฺหาฯ มาโนปิ ทุวิโธ กุสโลปิ อกุสโลปิฯ ยํ มานํ นิสฺสาย มานํ ปชหติ, อยํ มาโน กุสโลฯ โย ปน มาโน ทุกฺขํ นิพฺพตฺตยติ, อยํ มาโน อกุสโลฯ ตตฺถ ยํ เนกฺขมฺมสิตํ โทมนสฺสํ กุทาสฺสุนามาหํ ตํ อายตนํ สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสํ ยํ อริยา สนฺตํ อายตนํ สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรนฺตีติ ตสฺส อุปฺปชฺชติ ปิหา, ปิหาปจฺจยา โทมนสฺสํ, อยํ ตณฺหา กุสลา ราควิราคา เจโตวิมุตฺติ, ตทารมฺมณา กุสลา อวิชฺชาวิราคา ปญฺญาวิมุตฺติฯ

    53. Tattha katamo vicayo hārasampāto? Tattha taṇhā duvidhā kusalāpi akusalāpi. Akusalā saṃsāragāminī, kusalā apacayagāminī pahānataṇhā. Mānopi duvidho kusalopi akusalopi. Yaṃ mānaṃ nissāya mānaṃ pajahati, ayaṃ māno kusalo. Yo pana māno dukkhaṃ nibbattayati, ayaṃ māno akusalo. Tattha yaṃ nekkhammasitaṃ domanassaṃ kudāssunāmāhaṃ taṃ āyatanaṃ sacchikatvā upasampajja viharissaṃ yaṃ ariyā santaṃ āyatanaṃ sacchikatvā upasampajja viharantīti tassa uppajjati pihā, pihāpaccayā domanassaṃ, ayaṃ taṇhā kusalā rāgavirāgā cetovimutti, tadārammaṇā kusalā avijjāvirāgā paññāvimutti.

    ตสฺสา โก ปวิจโย? อฎฺฐ มคฺคงฺคานิ สมฺมาทิฎฺฐิ สมฺมาสงฺกโปฺป สมฺมาวาจา สมฺมากมฺมโนฺต สมฺมาอาชีโว สมฺมาวายาโม สมฺมาสติ สมฺมาสมาธิฯ โส กตฺถ ทฎฺฐโพฺพ? จตุเตฺถ ฌาเน ปารมิตายฯ จตุเตฺถ หิ ฌาเน อฎฺฐงฺคสมนฺนาคตํ จิตฺตํ ภาวยติ ปริสุทฺธํ ปริโยทาตํ อนงฺคณํ วิคตูปกฺกิเลสํ มุทุ กมฺมนิยํ ฐิตํ อาเนญฺชปฺปตฺตํฯ โส ตตฺถ อฎฺฐวิธํ อธิคจฺฉติ ฉ อภิญฺญา เทฺว จ วิเสเส, ตํ จิตฺตํ ยโต ปริสุทฺธํ, ตโต ปริโยทาตํ, ยโต ปริโยทาตํ , ตโต อนงฺคณํ, ยโต อนงฺคณํ, ตโต วิคตูปกฺกิเลสํ, ยโต วิคตูปกฺกิเลสํ, ตโต มุทุ, ยโต มุทุ, ตโต กมฺมนิยํ, ยโต กมฺมนิยํ, ตโต ฐิตํ, ยโต ฐิตํ, ตโต อาเนญฺชปฺปตฺตํฯ ตตฺถ องฺคณา จ อุปกฺกิเลสา จ ตทุภยํ ตณฺหาปโกฺขฯ ยา จ อิญฺชนา ยา จ จิตฺตสฺส อฎฺฐิติ, อยํ ทิฎฺฐิปโกฺขฯ

    Tassā ko pavicayo? Aṭṭha maggaṅgāni sammādiṭṭhi sammāsaṅkappo sammāvācā sammākammanto sammāājīvo sammāvāyāmo sammāsati sammāsamādhi. So kattha daṭṭhabbo? Catutthe jhāne pāramitāya. Catutthe hi jhāne aṭṭhaṅgasamannāgataṃ cittaṃ bhāvayati parisuddhaṃ pariyodātaṃ anaṅgaṇaṃ vigatūpakkilesaṃ mudu kammaniyaṃ ṭhitaṃ āneñjappattaṃ. So tattha aṭṭhavidhaṃ adhigacchati cha abhiññā dve ca visese, taṃ cittaṃ yato parisuddhaṃ, tato pariyodātaṃ, yato pariyodātaṃ , tato anaṅgaṇaṃ, yato anaṅgaṇaṃ, tato vigatūpakkilesaṃ, yato vigatūpakkilesaṃ, tato mudu, yato mudu, tato kammaniyaṃ, yato kammaniyaṃ, tato ṭhitaṃ, yato ṭhitaṃ, tato āneñjappattaṃ. Tattha aṅgaṇā ca upakkilesā ca tadubhayaṃ taṇhāpakkho. Yā ca iñjanā yā ca cittassa aṭṭhiti, ayaṃ diṭṭhipakkho.

    จตฺตาริ อินฺทฺริยานิ ทุกฺขินฺทฺริยํ โทมนสฺสินฺทฺริยํ สุขินฺทฺริยํ โสมนสฺสินฺทฺริยญฺจ จตุตฺถชฺฌาเน นิรุชฺฌนฺติ, ตสฺส อุเปกฺขินฺทฺริยํ อวสิฎฺฐํ ภวติฯ โส อุปริมํ สมาปตฺติํ สนฺตโต มนสิกโรติ, ตสฺส อุปริมํ สมาปตฺติํ สนฺตโต มนสิกโรโต จตุตฺถชฺฌาเน โอฬาริกา สญฺญา สณฺฐหติ อุกฺกณฺฐา จ ปฎิฆสญฺญา, โส สพฺพโส รูปสญฺญานํ สมติกฺกมา ปฎิฆสญฺญานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสญฺญานํ อมนสิการา ‘‘อนนฺตํ อากาส’’นฺติ อากาสานญฺจายตนสมาปตฺติํ สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อภิญฺญาภินีหาโร รูปสญฺญา โวกาโร นานตฺตสญฺญา สมติกฺกมติ ปฎิฆสญฺญา จสฺส อพฺภตฺถํ คจฺฉติ, เอวํ สมาธิ ตสฺส สมาหิตสฺส โอภาโส อนฺตรธายติ ทสฺสนญฺจ รูปานํ, โส สมาธิ ฉฬงฺคสมนฺนาคโต ปจฺจเวกฺขิตโพฺพ ฯ อนภิชฺฌาสหคตํ เม มานสํ สพฺพโลเก, อพฺยาปนฺนํ เม จิตฺตํ สพฺพสเตฺตสุ, อารทฺธํ เม วีริยํ ปคฺคหิตํ, ปสฺสโทฺธ เม กาโย อสารโทฺธ, สมาหิตํ เม จิตฺตํ อวิกฺขิตฺตํ, อุปฎฺฐิตา เม สติ อสมฺมุฎฺฐา 1, ตตฺถ ยญฺจ อนภิชฺฌาสหคตํ มานสํ สพฺพโลเก ยญฺจ อพฺยาปนฺนํ จิตฺตํ สพฺพสเตฺตสุ ยญฺจ อารทฺธํ วีริยํ ปคฺคหิตํ ยญฺจ สมาหิตํ จิตฺตํ อวิกฺขิตฺตํ, อยํ สมโถฯ โย ปสฺสโทฺธ กาโย อสารโทฺธ, อยํ สมาธิปริกฺขาโรฯ ยา อุปฎฺฐิตา สติ อสมฺมุฎฺฐา อยํ วิปสฺสนาฯ

    Cattāri indriyāni dukkhindriyaṃ domanassindriyaṃ sukhindriyaṃ somanassindriyañca catutthajjhāne nirujjhanti, tassa upekkhindriyaṃ avasiṭṭhaṃ bhavati. So uparimaṃ samāpattiṃ santato manasikaroti, tassa uparimaṃ samāpattiṃ santato manasikaroto catutthajjhāne oḷārikā saññā saṇṭhahati ukkaṇṭhā ca paṭighasaññā, so sabbaso rūpasaññānaṃ samatikkamā paṭighasaññānaṃ atthaṅgamā nānattasaññānaṃ amanasikārā ‘‘anantaṃ ākāsa’’nti ākāsānañcāyatanasamāpattiṃ sacchikatvā upasampajja viharati. Abhiññābhinīhāro rūpasaññā vokāro nānattasaññā samatikkamati paṭighasaññā cassa abbhatthaṃ gacchati, evaṃ samādhi tassa samāhitassa obhāso antaradhāyati dassanañca rūpānaṃ, so samādhi chaḷaṅgasamannāgato paccavekkhitabbo . Anabhijjhāsahagataṃ me mānasaṃ sabbaloke, abyāpannaṃ me cittaṃ sabbasattesu, āraddhaṃ me vīriyaṃ paggahitaṃ, passaddho me kāyo asāraddho, samāhitaṃ me cittaṃ avikkhittaṃ, upaṭṭhitā me sati asammuṭṭhā 2, tattha yañca anabhijjhāsahagataṃ mānasaṃ sabbaloke yañca abyāpannaṃ cittaṃ sabbasattesu yañca āraddhaṃ vīriyaṃ paggahitaṃ yañca samāhitaṃ cittaṃ avikkhittaṃ, ayaṃ samatho. Yo passaddho kāyo asāraddho, ayaṃ samādhiparikkhāro. Yā upaṭṭhitā sati asammuṭṭhā ayaṃ vipassanā.

    ๕๔. โส สมาธิ ปญฺจวิเธน เวทิตโพฺพฯ อยํ สมาธิ ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนสุโข’’ติ อิติสฺส ปจฺจตฺตเมว ญาณทสฺสนํ ปจฺจุปฎฺฐิตํ ภวติ, อยํ สมาธิ ‘‘อายติํ สุขวิปาโก’’ติ อิติสฺส ปจฺจตฺตเมว ญาณทสฺสนํ ปจฺจุปฎฺฐิตํ ภวติ, อยํ สมาธิ ‘‘อริโย นิรามิโส’’ติ อิติสฺส ปจฺจตฺตเมว ญาณทสฺสนํ ปจฺจุปฎฺฐิตํ ภวติ, อยํ สมาธิ ‘‘อกาปุริสเสวิโต’’ติ อิติสฺส ปจฺจตฺตเมว ญาณทสฺสนํ ปจฺจุปฎฺฐิตํ ภวติ, อยํ สมาธิ ‘‘สโนฺต เจว ปณีโต จ ปฎิปฺปสฺสทฺธิลโทฺธ จ เอโกทิภาวาธิคโต จ น สสงฺขารนิคฺคยฺหวาริตคโต 3 จา’’ติ อิติสฺส ปจฺจตฺตเมว ญาณทสฺสนํ ปจฺจุปฎฺฐิตํ ภวติฯ ตํ โข ปนิมํ สมาธิํ ‘‘สโต สมาปชฺชามิ สโต วุฎฺฐหามี’’ติ อิติสฺส ปจฺจตฺตเมว ญาณทสฺสนํ ปจฺจุปฎฺฐิตํ ภวติฯ ตตฺถ โย จ สมาธิ ปจฺจุปฺปนฺนสุโข โย จ สมาธิ อายติํ สุขวิปาโก อยํ สมโถฯ โย จ สมาธิ อริโย นิรามิโส, โย จ สมาธิ อกาปุริสเสวิโต, โย จ สมาธิ สโนฺต เจว ปณีโต ปฎิปฺปสฺสทฺธิลโทฺธ จ เอโกทิภาวาธิคโต จ น สสงฺขารนิคฺคยฺหวาริตคโต จ ยญฺจาหํ ตํ โข ปนิมํ สมาธิํ สโต สมาปชฺชามิ สโต วุฎฺฐหามีติ, อยํ วิปสฺสนาฯ

    54. So samādhi pañcavidhena veditabbo. Ayaṃ samādhi ‘‘paccuppannasukho’’ti itissa paccattameva ñāṇadassanaṃ paccupaṭṭhitaṃ bhavati, ayaṃ samādhi ‘‘āyatiṃ sukhavipāko’’ti itissa paccattameva ñāṇadassanaṃ paccupaṭṭhitaṃ bhavati, ayaṃ samādhi ‘‘ariyo nirāmiso’’ti itissa paccattameva ñāṇadassanaṃ paccupaṭṭhitaṃ bhavati, ayaṃ samādhi ‘‘akāpurisasevito’’ti itissa paccattameva ñāṇadassanaṃ paccupaṭṭhitaṃ bhavati, ayaṃ samādhi ‘‘santo ceva paṇīto ca paṭippassaddhiladdho ca ekodibhāvādhigato ca na sasaṅkhāraniggayhavāritagato 4 cā’’ti itissa paccattameva ñāṇadassanaṃ paccupaṭṭhitaṃ bhavati. Taṃ kho panimaṃ samādhiṃ ‘‘sato samāpajjāmi sato vuṭṭhahāmī’’ti itissa paccattameva ñāṇadassanaṃ paccupaṭṭhitaṃ bhavati. Tattha yo ca samādhi paccuppannasukho yo ca samādhi āyatiṃ sukhavipāko ayaṃ samatho. Yo ca samādhi ariyo nirāmiso, yo ca samādhi akāpurisasevito, yo ca samādhi santo ceva paṇīto paṭippassaddhiladdho ca ekodibhāvādhigato ca na sasaṅkhāraniggayhavāritagato ca yañcāhaṃ taṃ kho panimaṃ samādhiṃ sato samāpajjāmi sato vuṭṭhahāmīti, ayaṃ vipassanā.

    โส สมาธิ ปญฺจวิเธน เวทิตโพฺพ ปีติผรณตา สุขผรณตา เจโตผรณตา อาโลกผรณตา ปจฺจเวกฺขณานิมิตฺตํฯ ตตฺถ โย จ ปีติผรโณ โย จ สุขผรโณ โย จ เจโตผรโณ, อยํ สมโถฯ โย จ อาโลกผรโณ ยญฺจ ปจฺจเวกฺขณานิมิตฺตํฯ อยํ วิปสฺสนาฯ

    So samādhi pañcavidhena veditabbo pītipharaṇatā sukhapharaṇatā cetopharaṇatā ālokapharaṇatā paccavekkhaṇānimittaṃ. Tattha yo ca pītipharaṇo yo ca sukhapharaṇo yo ca cetopharaṇo, ayaṃ samatho. Yo ca ālokapharaṇo yañca paccavekkhaṇānimittaṃ. Ayaṃ vipassanā.

    ๕๕. ทส กสิณายตนานิ ปถวีกสิณํ อาโปกสิณํ เตโชกสิณํ วาโยกสิณํ นีลกสิณํ ปีตกสิณํ โลหิตกสิณํ โอทาตกสิณํ อากาสกสิณํ วิญฺญาณกสิณํฯ ตตฺถ ยญฺจ ปถวีกสิณํ ยญฺจ อาโปกสิณํ เอวํ สพฺพํ, ยญฺจ โอทาตกสิณํฯ อิมานิ อฎฺฐ กสิณานิ สมโถฯ ยญฺจ อากาสกสิณํ ยญฺจ วิญฺญาณกสิณํ, อยํ วิปสฺสนาฯ เอวํ สโพฺพ อริโย มโคฺค เยน เยน อากาเรน วุโตฺต, เตน เตน สมถวิปสฺสเนน โยชยิตโพฺพฯ เต ตีหิ ธเมฺมหิ สงฺคหิตา อนิจฺจตาย ทุกฺขตาย อนตฺตตายฯ โส สมถวิปสฺสนํ ภาวยมาโน ตีณิ วิโมกฺขมุขานิ ภาวยติฯ ตีณิ วิโมกฺขมุขานิ ภาวยโนฺต ตโย ขเนฺธ ภาวยติฯ ตโย ขเนฺธ ภาวยโนฺต อริยํ อฎฺฐงฺคิกํ มคฺคํ ภาวยติฯ

    55. Dasa kasiṇāyatanāni pathavīkasiṇaṃ āpokasiṇaṃ tejokasiṇaṃ vāyokasiṇaṃ nīlakasiṇaṃ pītakasiṇaṃ lohitakasiṇaṃ odātakasiṇaṃ ākāsakasiṇaṃ viññāṇakasiṇaṃ. Tattha yañca pathavīkasiṇaṃ yañca āpokasiṇaṃ evaṃ sabbaṃ, yañca odātakasiṇaṃ. Imāni aṭṭha kasiṇāni samatho. Yañca ākāsakasiṇaṃ yañca viññāṇakasiṇaṃ, ayaṃ vipassanā. Evaṃ sabbo ariyo maggo yena yena ākārena vutto, tena tena samathavipassanena yojayitabbo. Te tīhi dhammehi saṅgahitā aniccatāya dukkhatāya anattatāya. So samathavipassanaṃ bhāvayamāno tīṇi vimokkhamukhāni bhāvayati. Tīṇi vimokkhamukhāni bhāvayanto tayo khandhe bhāvayati. Tayo khandhe bhāvayanto ariyaṃ aṭṭhaṅgikaṃ maggaṃ bhāvayati.

    ราคจริโต ปุคฺคโล อนิมิเตฺตน วิโมกฺขมุเขน นิยฺยาติ 5 อธิจิตฺตสิกฺขาย สิกฺขโนฺต โลภํ อกุสลมูลํ ปชหโนฺต สุขเวทนียํ ผสฺสํ อนุปคจฺฉโนฺต สุขํ เวทนํ ปริชานโนฺต ราคมลํ ปวาเหโนฺต ราครชํ นิทฺธุนโนฺต ราควิสํ วเมโนฺต ราคคฺคิํ นิพฺพาเปโนฺต ราคสลฺลํ อุปฺปาเฎโนฺต ราคชฎํ วิชเฎโนฺตฯ โทสจริโต ปุคฺคโล อปฺปณิหิเตน วิโมกฺขมุเขน นิยฺยาติ อธิสีลสิกฺขาย สิกฺขโนฺต โทสํ อกุสลมูลํ ปชหโนฺต ทุกฺขเวทนียํ ผสฺสํ อนุปคจฺฉโนฺต ทุกฺขเวทนํ ปริชานโนฺต โทสมลํ ปวาเหโนฺต โทสรชํ นิทฺธุนโนฺต โทสวิสํ วเมโนฺต โทสคฺคิํ นิพฺพาเปโนฺต โทสสลฺลํ อุปฺปาเฎโนฺต โทสชฎํ วิชเฎโนฺตฯ โมหจริโต ปุคฺคโล สุญฺญตวิโมกฺขมุเขน นิยฺยาติ อธิปญฺญาสิกฺขาย สิกฺขโนฺต โมหํ อกุสลมูลํ ปชหโนฺต อทุกฺขมสุขเวทนียํ ผสฺสํ อนุปคจฺฉโนฺต อทุกฺขมสุขํ เวทนํ ปริชานโนฺต โมหมลํ ปวาเหโนฺต โมหรชํ นิทฺธุนโนฺต โมหวิสํ วเมโนฺต โมหคฺคิํ นิพฺพาเปโนฺต โมหสลฺลํ อุปฺปาเฎโนฺต โมหชฎํ วิชเฎโนฺตฯ

    Rāgacarito puggalo animittena vimokkhamukhena niyyāti 6 adhicittasikkhāya sikkhanto lobhaṃ akusalamūlaṃ pajahanto sukhavedanīyaṃ phassaṃ anupagacchanto sukhaṃ vedanaṃ parijānanto rāgamalaṃ pavāhento rāgarajaṃ niddhunanto rāgavisaṃ vamento rāgaggiṃ nibbāpento rāgasallaṃ uppāṭento rāgajaṭaṃ vijaṭento. Dosacarito puggalo appaṇihitena vimokkhamukhena niyyāti adhisīlasikkhāya sikkhanto dosaṃ akusalamūlaṃ pajahanto dukkhavedanīyaṃ phassaṃ anupagacchanto dukkhavedanaṃ parijānanto dosamalaṃ pavāhento dosarajaṃ niddhunanto dosavisaṃ vamento dosaggiṃ nibbāpento dosasallaṃ uppāṭento dosajaṭaṃ vijaṭento. Mohacarito puggalo suññatavimokkhamukhena niyyāti adhipaññāsikkhāya sikkhanto mohaṃ akusalamūlaṃ pajahanto adukkhamasukhavedanīyaṃ phassaṃ anupagacchanto adukkhamasukhaṃ vedanaṃ parijānanto mohamalaṃ pavāhento moharajaṃ niddhunanto mohavisaṃ vamento mohaggiṃ nibbāpento mohasallaṃ uppāṭento mohajaṭaṃ vijaṭento.

    ตตฺถ สุญฺญตวิโมกฺขมุขํ ปญฺญากฺขโนฺธ, อนิมิตฺตวิโมกฺขมุขํ สมาธิกฺขโนฺธ, อปฺปณิหิตวิโมกฺขมุขํ สีลกฺขโนฺธฯ โส ตีณิ วิโมกฺขมุขานิ ภาวยโนฺต ตโย ขเนฺธ ภาวยติ, ตโย ขเนฺธ ภาวยโนฺต อริยํ อฎฺฐงฺคิกํ มคฺคํ ภาวยติฯ ตตฺถ ยา จ สมฺมาวาจา โย จ สมฺมากมฺมโนฺต โย จ สมฺมาอาชีโว, อยํ สีลกฺขโนฺธ, โย จ สมฺมาวายาโม ยา จ สมฺมาสติ โย จ สมฺมาสมาธิ, อยํ สมาธิกฺขโนฺธ, ยา จ สมฺมาทิฎฺฐิ โย จ สมฺมาสงฺกโปฺป, อยํ ปญฺญากฺขโนฺธฯ

    Tattha suññatavimokkhamukhaṃ paññākkhandho, animittavimokkhamukhaṃ samādhikkhandho, appaṇihitavimokkhamukhaṃ sīlakkhandho. So tīṇi vimokkhamukhāni bhāvayanto tayo khandhe bhāvayati, tayo khandhe bhāvayanto ariyaṃ aṭṭhaṅgikaṃ maggaṃ bhāvayati. Tattha yā ca sammāvācā yo ca sammākammanto yo ca sammāājīvo, ayaṃ sīlakkhandho, yo ca sammāvāyāmo yā ca sammāsati yo ca sammāsamādhi, ayaṃ samādhikkhandho, yā ca sammādiṭṭhi yo ca sammāsaṅkappo, ayaṃ paññākkhandho.

    ตตฺถ สีลกฺขโนฺธ จ สมาธิกฺขโนฺธ จ สมโถ, ปญฺญากฺขโนฺธ วิปสฺสนาฯ โย สมถวิปสฺสนํ ภาเวติ, ตสฺส เทฺว ภวงฺคานิ ภาวนํ คจฺฉนฺติ กาโย จิตฺตญฺจ, ภวนิโรธคามินี ปฎิปทา เทฺว ปทานิ สีลํ สมาธิ จฯ โส โหติ ภิกฺขุ ภาวิตกาโย ภาวิตสีโล ภาวิตจิโตฺต ภาวิตปโญฺญฯ กาเย ภาวิยมาเน เทฺว ธมฺมา ภาวนํ คจฺฉนฺติ สมฺมากมฺมโนฺต สมฺมาวายาโม จ, สีเล ภาวิยมาเน เทฺว ธมฺมา ภาวนํ คจฺฉนฺติ สมฺมาวาจา สมฺมาอาชีโว จ, จิเตฺต ภาวิยมาเน เทฺว ธมฺมา ภาวนํ คจฺฉนฺติ สมฺมาสติ สมฺมาสมาธิ จ, ปญฺญาย ภาวิยมานาย เทฺว ธมฺมา ภาวนํ คจฺฉนฺติ สมฺมาทิฎฺฐิ สมฺมาสงฺกโปฺป จฯ

    Tattha sīlakkhandho ca samādhikkhandho ca samatho, paññākkhandho vipassanā. Yo samathavipassanaṃ bhāveti, tassa dve bhavaṅgāni bhāvanaṃ gacchanti kāyo cittañca, bhavanirodhagāminī paṭipadā dve padāni sīlaṃ samādhi ca. So hoti bhikkhu bhāvitakāyo bhāvitasīlo bhāvitacitto bhāvitapañño. Kāye bhāviyamāne dve dhammā bhāvanaṃ gacchanti sammākammanto sammāvāyāmo ca, sīle bhāviyamāne dve dhammā bhāvanaṃ gacchanti sammāvācā sammāājīvo ca, citte bhāviyamāne dve dhammā bhāvanaṃ gacchanti sammāsati sammāsamādhi ca, paññāya bhāviyamānāya dve dhammā bhāvanaṃ gacchanti sammādiṭṭhi sammāsaṅkappo ca.

    ตตฺถ โย จ สมฺมากมฺมโนฺต โย จ สมฺมาวายาโม สิยา กายิโก สิยา เจตสิโก, ตตฺถ โย กายสงฺคโห, โส กาเย ภาวิเต ภาวนํ คจฺฉติ, โย จิตฺตสงฺคโห, โส จิเตฺต ภาวิเต ภาวนํ คจฺฉติฯ โส สมถวิปสฺสนํ ภาวยโนฺต ปญฺจวิธํ อธิคมํ คจฺฉติ 7 ขิปฺปาธิคโม จ โหติ, วิมุตฺตาธิคโม จ โหติ, มหาธิคโม จ โหติ, วิปุลาธิคโม จ โหติ, อนวเสสาธิคโม จ โหติฯ ตตฺถ สมเถน ขิปฺปาธิคโม จ มหาธิคโม จ วิปุลาธิคโม จ โหติ, วิปสฺสนาย วิมุตฺตาธิคโม จ อนวเสสาธิคโม จ โหติฯ

    Tattha yo ca sammākammanto yo ca sammāvāyāmo siyā kāyiko siyā cetasiko, tattha yo kāyasaṅgaho, so kāye bhāvite bhāvanaṃ gacchati, yo cittasaṅgaho, so citte bhāvite bhāvanaṃ gacchati. So samathavipassanaṃ bhāvayanto pañcavidhaṃ adhigamaṃ gacchati 8 khippādhigamo ca hoti, vimuttādhigamo ca hoti, mahādhigamo ca hoti, vipulādhigamo ca hoti, anavasesādhigamo ca hoti. Tattha samathena khippādhigamo ca mahādhigamo ca vipulādhigamo ca hoti, vipassanāya vimuttādhigamo ca anavasesādhigamo ca hoti.

    ๕๖. ตตฺถ โย เทสยติ, โส ทสพลสมนฺนาคโต สตฺถา โอวาเทน สาวเก น วิสํวาทยติฯ โส ติวิธํ อิทํ กโรถ อิมินา อุปาเยน กโรถ อิทํ โว กุรุมานานํ หิตาย สุขาย ภวิสฺสติ, โส ตถา โอวทิโต ตถานุสิโฎฺฐ ตถากโรโนฺต ตถาปฎิปชฺชโนฺต ตํ ภูมิํ น ปาปุณิสฺสตีติ เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ โส ตถา โอวทิโต ตถานุสิโฎฺฐ สีลกฺขนฺธํ อปริปูรยโนฺต ตํ ภูมิํ อนุปาปุณิสฺสตีติ เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ โส ตถา โอวทิโต ตถานุสิโฎฺฐ สีลกฺขนฺธํ ปริปูรยโนฺต ตํ ภูมิํ อนุปาปุณิสฺสตีติ ฐานเมตํ วิชฺชติฯ

    56. Tattha yo desayati, so dasabalasamannāgato satthā ovādena sāvake na visaṃvādayati. So tividhaṃ idaṃ karotha iminā upāyena karotha idaṃ vo kurumānānaṃ hitāya sukhāya bhavissati, so tathā ovadito tathānusiṭṭho tathākaronto tathāpaṭipajjanto taṃ bhūmiṃ na pāpuṇissatīti netaṃ ṭhānaṃ vijjati. So tathā ovadito tathānusiṭṭho sīlakkhandhaṃ aparipūrayanto taṃ bhūmiṃ anupāpuṇissatīti netaṃ ṭhānaṃ vijjati. So tathā ovadito tathānusiṭṭho sīlakkhandhaṃ paripūrayanto taṃ bhūmiṃ anupāpuṇissatīti ṭhānametaṃ vijjati.

    สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เต สโต อิเม ธมฺมา อนภิสมฺพุทฺธาติ เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ สพฺพาสวปริกฺขีณสฺส เต สโต อิเม อาสวา อปริกฺขีณาติ เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ ยสฺส เต อตฺถาย ธโมฺม เทสิโต, โส น นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยายาติ เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ สาวโก โข ปน เต ธมฺมานุธมฺมปฺปฎิปโนฺน สามีจิปฺปฎิปโนฺน อนุธมฺมจารี โส ปุเพฺพน อปรํ อุฬารํ วิเสสาธิคมํ น สจฺฉิกริสฺสตีติ เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ

    Sammāsambuddhassa te sato ime dhammā anabhisambuddhāti netaṃ ṭhānaṃ vijjati. Sabbāsavaparikkhīṇassa te sato ime āsavā aparikkhīṇāti netaṃ ṭhānaṃ vijjati. Yassa te atthāya dhammo desito, so na niyyāti takkarassa sammā dukkhakkhayāyāti netaṃ ṭhānaṃ vijjati. Sāvako kho pana te dhammānudhammappaṭipanno sāmīcippaṭipanno anudhammacārī so pubbena aparaṃ uḷāraṃ visesādhigamaṃ na sacchikarissatīti netaṃ ṭhānaṃ vijjati.

    เย โข ปน ธมฺมา อนฺตรายิกา, เต ปฎิเสวโต นาลํ อนฺตรายายาติ เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ เย โข ปน ธมฺมา อนิยฺยานิกา, เต นิยฺยนฺติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยายาติ เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ เย โข ปน ธมฺมา นิยฺยานิกา, เต นิยฺยนฺติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยายาติ ฐานเมตํ วิชฺชติฯ สาวโก โข ปน เต สอุปาทิเสโส อนุปาทิเสสํ นิพฺพานธาตุํ อนุปาปุณิสฺสตีติ เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ

    Ye kho pana dhammā antarāyikā, te paṭisevato nālaṃ antarāyāyāti netaṃ ṭhānaṃ vijjati. Ye kho pana dhammā aniyyānikā, te niyyanti takkarassa sammā dukkhakkhayāyāti netaṃ ṭhānaṃ vijjati. Ye kho pana dhammā niyyānikā, te niyyanti takkarassa sammā dukkhakkhayāyāti ṭhānametaṃ vijjati. Sāvako kho pana te saupādiseso anupādisesaṃ nibbānadhātuṃ anupāpuṇissatīti netaṃ ṭhānaṃ vijjati.

    ทิฎฺฐิสมฺปโนฺน มาตรํ ชีวิตา โวโรเปยฺย หเตฺถหิ วา ปาเทหิ วา สุหตํ กเรยฺยาติ เนตํ ฐานํ วิชฺชติ, ปุถุชฺชโน มาตรํ ชีวิตา โวโรเปยฺย หเตฺถหิ วา ปาเทหิ วา สุหตํ กเรยฺยาติ ฐานเมตํ วิชฺชติฯ เอวํ ปิตรํ, อรหนฺตํ, ภิกฺขุํฯ ทิฎฺฐิสมฺปโนฺน ปุคฺคโล สงฺฆํ ภิเนฺทยฺย สเงฺฆ วา สงฺฆราชิํ ชเนยฺยาติ เนตํ ฐานํ วิชฺชติ, ปุถุชฺชโน สงฺฆํ ภิเนฺทยฺย สเงฺฆ วา สงฺฆราชิํ ชเนยฺยาติ ฐานเมตํ วิชฺชติ, ทิฎฺฐิสมฺปโนฺน ตถาคตสฺส ทุฎฺฐจิโตฺต โลหิตํ อุปฺปาเทยฺย, ปรินิพฺพุตสฺส วา ตถาคตสฺส ทุฎฺฐจิโตฺต ถูปํ ภิเนฺทยฺยาติ เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส ทุฎฺฐจิโตฺต โลหิตํ อุปฺปาเทยฺย, ปรินิพฺพุตสฺส วา ตถาคตสฺส ทุฎฺฐจิโตฺต ถูปํ ภิเนฺทยฺยาติ ฐานเมตํ วิชฺชติฯ ทิฎฺฐิสมฺปโนฺน อญฺญํ สตฺถารํ อปทิเสยฺย อปิ ชีวิตเหตูติ เนตํ ฐานํ วิชฺชติ, ปุถุชฺชโน อญฺญํ สตฺถารํ อปทิเสยฺยาติ ฐานเมตํ วิชฺชติฯ ทิฎฺฐิสมฺปโนฺน อิโต พหิทฺธา อญฺญํ ทกฺขิเณยฺยํ ปริเยเสยฺยาติ เนตํ ฐานํ วิชฺชติ, ปุถุชฺชโน อิโต พหิทฺธา อญฺญํ ทกฺขิเณยฺยํ ปริเยเสยฺยาติ ฐานเมตํ วิชฺชติ, ทิฎฺฐิสมฺปโนฺน กุตูหลมงฺคเลน สุทฺธิํ ปเจฺจยฺยาติ เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ ปุถุชฺชโน กุตูหลมงฺคเลน สุทฺธิํ ปเจฺจยฺยาติ ฐานเมตํ วิชฺชติฯ

    Diṭṭhisampanno mātaraṃ jīvitā voropeyya hatthehi vā pādehi vā suhataṃ kareyyāti netaṃ ṭhānaṃ vijjati, puthujjano mātaraṃ jīvitā voropeyya hatthehi vā pādehi vā suhataṃ kareyyāti ṭhānametaṃ vijjati. Evaṃ pitaraṃ, arahantaṃ, bhikkhuṃ. Diṭṭhisampanno puggalo saṅghaṃ bhindeyya saṅghe vā saṅgharājiṃ janeyyāti netaṃ ṭhānaṃ vijjati, puthujjano saṅghaṃ bhindeyya saṅghe vā saṅgharājiṃ janeyyāti ṭhānametaṃ vijjati, diṭṭhisampanno tathāgatassa duṭṭhacitto lohitaṃ uppādeyya, parinibbutassa vā tathāgatassa duṭṭhacitto thūpaṃ bhindeyyāti netaṃ ṭhānaṃ vijjati. Puthujjano tathāgatassa duṭṭhacitto lohitaṃ uppādeyya, parinibbutassa vā tathāgatassa duṭṭhacitto thūpaṃ bhindeyyāti ṭhānametaṃ vijjati. Diṭṭhisampanno aññaṃ satthāraṃ apadiseyya api jīvitahetūti netaṃ ṭhānaṃ vijjati, puthujjano aññaṃ satthāraṃ apadiseyyāti ṭhānametaṃ vijjati. Diṭṭhisampanno ito bahiddhā aññaṃ dakkhiṇeyyaṃ pariyeseyyāti netaṃ ṭhānaṃ vijjati, puthujjano ito bahiddhā aññaṃ dakkhiṇeyyaṃ pariyeseyyāti ṭhānametaṃ vijjati, diṭṭhisampanno kutūhalamaṅgalena suddhiṃ pacceyyāti netaṃ ṭhānaṃ vijjati. Puthujjano kutūhalamaṅgalena suddhiṃ pacceyyāti ṭhānametaṃ vijjati.

    ๕๗. อิตฺถี ราชา จกฺกวตฺตี สิยาติ เนตํ ฐานํ วิชฺชติ, ปุริโส ราชา จกฺกวตฺตี สิยาติ ฐานเมตํ วิชฺชติ; อิตฺถี สโกฺก เทวานมิโนฺท สิยาติ เนตํ ฐานํ วิชฺชติ, ปุริโส สโกฺก เทวานมิโนฺท สิยาติ ฐานเมตํ วิชฺชติ; อิตฺถี มาโร ปาปิมา สิยาติ เนตํ ฐานํ วิชฺชติ, ปุริโส มาโร ปาปิมา สิยาติ ฐานเมตํ วิชฺชติ; อิตฺถี มหาพฺรหฺมา สิยาติ เนตํ ฐานํ วิชฺชติ, ปุริโส มหาพฺรหฺมา สิยาติ ฐานเมตํ วิชฺชติ; อิตฺถี ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ สิยาติ เนตํ ฐานํ วิชฺชติ, ปุริโส ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ สิยาติ ฐานเมตํ วิชฺชติฯ

    57. Itthī rājā cakkavattī siyāti netaṃ ṭhānaṃ vijjati, puriso rājā cakkavattī siyāti ṭhānametaṃ vijjati; itthī sakko devānamindo siyāti netaṃ ṭhānaṃ vijjati, puriso sakko devānamindo siyāti ṭhānametaṃ vijjati; itthī māro pāpimā siyāti netaṃ ṭhānaṃ vijjati, puriso māro pāpimā siyāti ṭhānametaṃ vijjati; itthī mahābrahmā siyāti netaṃ ṭhānaṃ vijjati, puriso mahābrahmā siyāti ṭhānametaṃ vijjati; itthī tathāgato arahaṃ sammāsambuddho siyāti netaṃ ṭhānaṃ vijjati, puriso tathāgato arahaṃ sammāsambuddho siyāti ṭhānametaṃ vijjati.

    เทฺว ตถาคตา อรหโนฺต สมฺมาสมฺพุทฺธา อปุพฺพํ อจริมํ เอกิสฺสา โลกธาตุยา อุปฺปเชฺชยฺยุํ วา ธมฺมํ วา เทเสยฺยุนฺติ เนตํ ฐานํ วิชฺชติ, เอโกว ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ เอกิสฺสา โลกธาตุยา อุปฺปชฺชิสฺสติ วา ธมฺมํ วา เทเสสฺสตีติ ฐานเมตํ วิชฺชติฯ

    Dve tathāgatā arahanto sammāsambuddhā apubbaṃ acarimaṃ ekissā lokadhātuyā uppajjeyyuṃ vā dhammaṃ vā deseyyunti netaṃ ṭhānaṃ vijjati, ekova tathāgato arahaṃ sammāsambuddho ekissā lokadhātuyā uppajjissati vā dhammaṃ vā desessatīti ṭhānametaṃ vijjati.

    ติณฺณํ ทุจฺจริตานํ อิโฎฺฐ กโนฺต ปิโย มนาโป วิปาโก ภวิสฺสตีติ เนตํ ฐานํ วิชฺชติ, ติณฺณํ ทุจฺจริตานํ อนิโฎฺฐ อกโนฺต อปฺปิโย อมนาโป วิปาโก ภวิสฺสตีติ ฐานเมตํ วิชฺชติ ฯ ติณฺณํ สุจริตานํ อนิโฎฺฐ อกโนฺต อปฺปิโย อมนาโป วิปาโก ภวิสฺสตีติ เนตํ ฐานํ วิชฺชติ, ติณฺณํ สุจริตานํ อิโฎฺฐ กโนฺต ปิโย มนาโป วิปาโก ภวิสฺสตีติ ฐานเมตํ วิชฺชติฯ

    Tiṇṇaṃ duccaritānaṃ iṭṭho kanto piyo manāpo vipāko bhavissatīti netaṃ ṭhānaṃ vijjati, tiṇṇaṃ duccaritānaṃ aniṭṭho akanto appiyo amanāpo vipāko bhavissatīti ṭhānametaṃ vijjati . Tiṇṇaṃ sucaritānaṃ aniṭṭho akanto appiyo amanāpo vipāko bhavissatīti netaṃ ṭhānaṃ vijjati, tiṇṇaṃ sucaritānaṃ iṭṭho kanto piyo manāpo vipāko bhavissatīti ṭhānametaṃ vijjati.

    อญฺญตโร สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา กุหโก ลปโก เนมิตฺตโก กุหนลปนเนมิตฺตกตฺตํ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา ปญฺจ นีวรเณ อปฺปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปญฺญาย ทุพฺพลีกรเณ จตูสุ สติปฎฺฐาเนสุ อนุปฎฺฐิตสฺสติ 9 วิหรโนฺต สตฺต โพชฺฌเงฺค อภาวยิตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสโมฺพธิํ อภิสมฺพุชฺฌิสฺสตีติ เนตํ ฐานํ วิชฺชติ, อญฺญตโร สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา สพฺพโทสาปคโต ปญฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปญฺญาย ทุพฺพลีกรเณ จตูสุ สติปฎฺฐาเนสุ อุปฎฺฐิตสฺสติ วิหรโนฺต สตฺต โพชฺฌเงฺค ภาวยิตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสโมฺพธิํ อภิสมฺพุชฺฌิสฺสตีติ ฐานเมตํ วิชฺชติฯ ยํ เอตฺถ ญาณํ เหตุโส ฐานโส อโนธิโส อิทํ วุจฺจติ ฐานาฎฺฐานญาณํ ปฐมํ ตถาคตพลํฯ

    Aññataro samaṇo vā brāhmaṇo vā kuhako lapako nemittako kuhanalapananemittakattaṃ pubbaṅgamaṃ katvā pañca nīvaraṇe appahāya cetaso upakkilese paññāya dubbalīkaraṇe catūsu satipaṭṭhānesu anupaṭṭhitassati 10 viharanto satta bojjhaṅge abhāvayitvā anuttaraṃ sammāsambodhiṃ abhisambujjhissatīti netaṃ ṭhānaṃ vijjati, aññataro samaṇo vā brāhmaṇo vā sabbadosāpagato pañca nīvaraṇe pahāya cetaso upakkilese paññāya dubbalīkaraṇe catūsu satipaṭṭhānesu upaṭṭhitassati viharanto satta bojjhaṅge bhāvayitvā anuttaraṃ sammāsambodhiṃ abhisambujjhissatīti ṭhānametaṃ vijjati. Yaṃ ettha ñāṇaṃ hetuso ṭhānaso anodhiso idaṃ vuccati ṭhānāṭṭhānañāṇaṃ paṭhamaṃ tathāgatabalaṃ.

    อิติ ฐานาฎฺฐานคตา สเพฺพ ขยธมฺมา วยธมฺมา วิราคธมฺมา นิโรธธมฺมา เกจิ สคฺคูปคา เกจิ อปายูปคา เกจิ นิพฺพานูปคา, เอวํ ภควา อาห –

    Iti ṭhānāṭṭhānagatā sabbe khayadhammā vayadhammā virāgadhammā nirodhadhammā keci saggūpagā keci apāyūpagā keci nibbānūpagā, evaṃ bhagavā āha –

    ๕๘.

    58.

    สเพฺพ สตฺตา 11 มริสฺสนฺติ, มรณนฺตํ หิ ชีวิตํฯ

    Sabbe sattā 12 marissanti, maraṇantaṃ hi jīvitaṃ.

    ยถากมฺมํ คมิสฺสนฺติ, ปุญฺญปาปผลูปคา;

    Yathākammaṃ gamissanti, puññapāpaphalūpagā;

    นิรยํ ปาปกมฺมนฺตา, ปุญฺญกมฺมา จ สุคฺคติํ;

    Nirayaṃ pāpakammantā, puññakammā ca suggatiṃ;

    อปเร จ มคฺคํ ภาเวตฺวา, ปรินิพฺพนฺตินาสวาติ 13

    Apare ca maggaṃ bhāvetvā, parinibbantināsavāti 14.

    สเพฺพ สตฺตาติ อริยา จ อนริยา จ สกฺกายปริยาปนฺนา จ สกฺกายวีติวตฺตา จฯ มริสฺสนฺตีติ ทฺวีหิ มรเณหิ ทนฺธมรเณน จ อทนฺธมรเณน จ, สกฺกายปริยาปนฺนานํ อทนฺธมรณํ สกฺกายวีติวตฺตานํ ทนฺธมรณํฯ มรณนฺตํ หิ ชีวิตนฺติ ขยา อายุสฺส อินฺทฺริยานํ อุปโรธา ชีวิตปริยโนฺต มรณปริยโนฺตฯ ยถากมฺมํ คมิสฺสนฺตีติ กมฺมสฺสกตาฯ ปุญฺญปาปผลูปคาติ กมฺมานํ ผลทสฺสาวิตา จ อวิปฺปวาโส จฯ

    Sabbesattāti ariyā ca anariyā ca sakkāyapariyāpannā ca sakkāyavītivattā ca. Marissantīti dvīhi maraṇehi dandhamaraṇena ca adandhamaraṇena ca, sakkāyapariyāpannānaṃ adandhamaraṇaṃ sakkāyavītivattānaṃ dandhamaraṇaṃ. Maraṇantaṃ hi jīvitanti khayā āyussa indriyānaṃ uparodhā jīvitapariyanto maraṇapariyanto. Yathākammaṃ gamissantīti kammassakatā. Puññapāpaphalūpagāti kammānaṃ phaladassāvitā ca avippavāso ca.

    นิรยํ ปาปกมฺมนฺตาติ อปุญฺญสงฺขาราฯ ปุญฺญกมฺมา จ สุคฺคตินฺติ ปุญฺญสงฺขารา สุคติํ คมิสฺสนฺติฯ อปเร จ มคฺคํ ภาเวตฺวา, ปรินิพฺพนฺตินาสวาติ สพฺพสงฺขารานํ สมติกฺกมนํฯ เตนาห ภควา – ‘‘สเพฺพ…เป.… นาสวา’’ติฯ

    Nirayaṃ pāpakammantāti apuññasaṅkhārā. Puññakammā ca suggatinti puññasaṅkhārā sugatiṃ gamissanti. Apare ca maggaṃ bhāvetvā, parinibbantināsavāti sabbasaṅkhārānaṃ samatikkamanaṃ. Tenāha bhagavā – ‘‘sabbe…pe… nāsavā’’ti.

    ‘‘สเพฺพ สตฺตา มริสฺสนฺติ, มรณนฺตํ หิ ชีวิตํฯ ยถากมฺมํ คมิสฺสนฺติ, ปุญฺญปาปผลูปคาฯ นิรยํ ปาปกมฺมนฺตา’’ติ อาคาฬฺหา จ นิชฺฌามา จ ปฎิปทาฯ ‘‘อปเร จ มคฺคํ ภาเวตฺวา, ปรินิพฺพนฺตินาสวา’’ติ มชฺฌิมา ปฎิปทาฯ ‘‘สเพฺพ สตฺตา มริสฺสนฺติ, มรณนฺตํ หิ ชีวิตํ, ยถากมฺมํ คมิสฺสนฺติ, ปุญฺญปาปผลูปคา, นิรยํ ปาปกมฺมนฺตา’’ติ อยํ สํกิเลโสฯ เอวํ สํสารํ นิพฺพตฺตยติฯ ‘‘สเพฺพ สตฺตา มริสฺสนฺติ…เป.… นิรยํ ปาปกมฺมนฺตา’’ติ อิเม ตโย วฎฺฎา ทุกฺขวโฎฺฎ กมฺมวโฎฺฎ กิเลสวโฎฺฎฯ ‘‘อปเร จ มคฺคํ ภาเวตฺวา, ปรินิพฺพนฺตินาสวา’’ติ ติณฺณํ วฎฺฎานํ วิวฎฺฎนาฯ ‘‘สเพฺพ สตฺตา มริสฺสนฺติ…เป.… นิรยํ ปาปกมฺมนฺตา’’ติ อาทีนโว, ‘‘ปุญฺญกมฺมา จ สุคฺคติ’’นฺติ อสฺสาโท, ‘‘อปเร จ มคฺคํ ภาเวตฺวา, ปรินิพฺพนฺตินาสวา’’ติ นิสฺสรณํฯ ‘‘สเพฺพ สตฺตา มริสฺสนฺติ…เป.… นิรยํ ปาปกมฺมนฺตา’’ติ เหตุ จ ผลญฺจ, ปญฺจกฺขนฺธา ผลํ, ตณฺหา เหตุ, ‘‘อปเร จ มคฺคํ ภาเวตฺวา, ปรินิพฺพนฺตินาสวา’’ติ มโคฺค จ ผลญฺจฯ ‘‘สเพฺพ สตฺตา มริสฺสนฺติ, มรณนฺตํ หิ ชีวิตํฯ ยถากมฺมํ คมิสฺสนฺติ, ปุญฺญปาปผลูปคา, นิรยํ ปาปกมฺมนฺตา’’ติ อยํ สํกิเลโส, โส สํกิเลโส ติวิโธ ตณฺหาสํกิเลโส ทิฎฺฐิสํกิเลโส ทุจฺจริตสํกิเลโสติฯ

    ‘‘Sabbe sattā marissanti, maraṇantaṃ hi jīvitaṃ. Yathākammaṃ gamissanti, puññapāpaphalūpagā. Nirayaṃ pāpakammantā’’ti āgāḷhā ca nijjhāmā ca paṭipadā. ‘‘Apare ca maggaṃ bhāvetvā, parinibbantināsavā’’ti majjhimā paṭipadā. ‘‘Sabbe sattā marissanti, maraṇantaṃ hi jīvitaṃ, yathākammaṃ gamissanti, puññapāpaphalūpagā, nirayaṃ pāpakammantā’’ti ayaṃ saṃkileso. Evaṃ saṃsāraṃ nibbattayati. ‘‘Sabbe sattā marissanti…pe… nirayaṃ pāpakammantā’’ti ime tayo vaṭṭā dukkhavaṭṭo kammavaṭṭo kilesavaṭṭo. ‘‘Apare ca maggaṃ bhāvetvā, parinibbantināsavā’’ti tiṇṇaṃ vaṭṭānaṃ vivaṭṭanā. ‘‘Sabbe sattā marissanti…pe… nirayaṃ pāpakammantā’’ti ādīnavo, ‘‘puññakammā ca suggati’’nti assādo, ‘‘apare ca maggaṃ bhāvetvā, parinibbantināsavā’’ti nissaraṇaṃ. ‘‘Sabbe sattā marissanti…pe… nirayaṃ pāpakammantā’’ti hetu ca phalañca, pañcakkhandhā phalaṃ, taṇhā hetu, ‘‘apare ca maggaṃ bhāvetvā, parinibbantināsavā’’ti maggo ca phalañca. ‘‘Sabbe sattā marissanti, maraṇantaṃ hi jīvitaṃ. Yathākammaṃ gamissanti, puññapāpaphalūpagā, nirayaṃ pāpakammantā’’ti ayaṃ saṃkileso, so saṃkileso tividho taṇhāsaṃkileso diṭṭhisaṃkileso duccaritasaṃkilesoti.

    ๕๙. ตตฺถ ตณฺหาสํกิเลโส ตีหิ ตณฺหาหิ นิทฺทิสิตโพฺพ – กามตณฺหาย ภวตณฺหาย วิภวตณฺหายฯ เยน เยน วา ปน วตฺถุนา อโชฺฌสิโต, เตน เตเนว นิทฺทิสิตโพฺพ, ตสฺสา วิตฺถาโร ฉตฺติํสาย ตณฺหาย ชาลินิยา วิจริตานิฯ ตตฺถ ทิฎฺฐิสํกิเลโส อุเจฺฉทสสฺสเตน นิทฺทิสิตโพฺพ, เยน เยน วา ปน วตฺถุนา ทิฎฺฐิวเสน อภินิวิสติ, ‘‘อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญ’’นฺติ เตน เตเนว นิทฺทิสิตโพฺพ, ตสฺสา วิตฺถาโร ทฺวาสฎฺฐิ ทิฎฺฐิคตานิฯ ตตฺถ ทุจฺจริตสํกิเลโส เจตนา เจตสิกกเมฺมน นิทฺทิสิตโพฺพ, ตีหิ ทุจฺจริเตหิ กายทุจฺจริเตน วจีทุจฺจริเตน มโนทุจฺจริเตน, ตสฺสา วิตฺถาโร ทส อกุสลกมฺมปถาฯ อปเร จ มคฺคํ ภาเวตฺวา, ปรินิพฺพนฺตินาสวาติ อิทํ โวทานํฯ

    59. Tattha taṇhāsaṃkileso tīhi taṇhāhi niddisitabbo – kāmataṇhāya bhavataṇhāya vibhavataṇhāya. Yena yena vā pana vatthunā ajjhosito, tena teneva niddisitabbo, tassā vitthāro chattiṃsāya taṇhāya jāliniyā vicaritāni. Tattha diṭṭhisaṃkileso ucchedasassatena niddisitabbo, yena yena vā pana vatthunā diṭṭhivasena abhinivisati, ‘‘idameva saccaṃ moghamañña’’nti tena teneva niddisitabbo, tassā vitthāro dvāsaṭṭhi diṭṭhigatāni. Tattha duccaritasaṃkileso cetanā cetasikakammena niddisitabbo, tīhi duccaritehi kāyaduccaritena vacīduccaritena manoduccaritena, tassā vitthāro dasa akusalakammapathā. Apare ca maggaṃ bhāvetvā, parinibbantināsavāti idaṃ vodānaṃ.

    ตยิทํ โวทานํ ติวิธํ; ตณฺหาสํกิเลโส สมเถน วิสุชฺฌติ, โส สมโถ สมาธิกฺขโนฺธ, ทิฎฺฐิสํกิเลโส วิปสฺสนาย วิสุชฺฌติ, สา วิปสฺสนา ปญฺญากฺขโนฺธ, ทุจฺจริตสํกิเลโส สุจริเตน วิสุชฺฌติ, ตํ สุจริตํ สีลกฺขโนฺธฯ

    Tayidaṃ vodānaṃ tividhaṃ; taṇhāsaṃkileso samathena visujjhati, so samatho samādhikkhandho, diṭṭhisaṃkileso vipassanāya visujjhati, sā vipassanā paññākkhandho, duccaritasaṃkileso sucaritena visujjhati, taṃ sucaritaṃ sīlakkhandho.

    ‘‘สเพฺพ สตฺตา มริสฺสนฺติ, มรณนฺตํ หิ ชีวิตํ, ยถากมฺมํ คมิสฺสนฺติ, ปุญฺญปาปผลูปคา, นิรยํ ปาปกมฺมนฺตา’’ติ อปุญฺญปฺปฎิปทา, ‘‘ปุญฺญกมฺมา จ สุคฺคติ’’นฺติ ปุญฺญปฺปฎิปทา, ‘‘อปเร จ มคฺคํ ภาเวตฺวา, ปรินิพฺพนฺตินาสวา’’ติ ปุญฺญปาปสมติกฺกมปฺปฎิปทา, ตตฺถ ยา จ ปุญฺญปฺปฎิปทา ยา จ อปุญฺญปฺปฎิปทา, อยํ เอกา ปฎิปทา สพฺพตฺถคามินี เอกา อปาเยสุ, เอกา เทเวสุ, ยา จ ปุญฺญปาปสมติกฺกมา ปฎิปทา อยํ ตตฺถ ตตฺถ คามินี ปฎิปทาฯ

    ‘‘Sabbe sattā marissanti, maraṇantaṃ hi jīvitaṃ, yathākammaṃ gamissanti, puññapāpaphalūpagā, nirayaṃ pāpakammantā’’ti apuññappaṭipadā, ‘‘puññakammā ca suggati’’nti puññappaṭipadā, ‘‘apare ca maggaṃ bhāvetvā, parinibbantināsavā’’ti puññapāpasamatikkamappaṭipadā, tattha yā ca puññappaṭipadā yā ca apuññappaṭipadā, ayaṃ ekā paṭipadā sabbatthagāminī ekā apāyesu, ekā devesu, yā ca puññapāpasamatikkamā paṭipadā ayaṃ tattha tattha gāminī paṭipadā.

    ตโย ราสี – มิจฺฉตฺตนิยโต ราสิ, สมฺมตฺตนิยโต ราสิ, อนิยโต ราสิ, ตตฺถ โย จ มิจฺฉตฺตนิยโต ราสิ โย จ สมฺมตฺตนิยโต ราสิ เอกา ปฎิปทา ตตฺถ ตตฺถ คามินี, ตตฺถ โย อนิยโต ราสิ, อยํ สพฺพตฺถคามินี ปฎิปทาฯ เกน การเณน? ปจฺจยํ ลภโนฺต นิรเย อุปปเชฺชยฺย, ปจฺจยํ ลภโนฺต ติรจฺฉานโยนีสุ อุปปเชฺชยฺย, ปจฺจยํ ลภโนฺต เปตฺติวิสเยสุ อุปปเชฺชยฺย, ปจฺจยํ ลภโนฺต อสุเรสุ อุปปเชฺชยฺย, ปจฺจยํ ลภโนฺต เทเวสุ อุปปเชฺชยฺย, ปจฺจยํ ลภโนฺต มนุเสฺสสุ อุปปเชฺชยฺย, ปจฺจยํ ลภโนฺต ปรินิพฺพาเยยฺย, ตสฺมายํ สพฺพตฺถคามินี ปฎิปทา, ยํ เอตฺถ ญาณํ เหตุโส ฐานโส อโนธิโส, อิทํ วุจฺจติ สพฺพตฺถคามินี ปฎิปทา ญาณํ ทุติยํ ตถาคตพลํฯ

    Tayo rāsī – micchattaniyato rāsi, sammattaniyato rāsi, aniyato rāsi, tattha yo ca micchattaniyato rāsi yo ca sammattaniyato rāsi ekā paṭipadā tattha tattha gāminī, tattha yo aniyato rāsi, ayaṃ sabbatthagāminī paṭipadā. Kena kāraṇena? Paccayaṃ labhanto niraye upapajjeyya, paccayaṃ labhanto tiracchānayonīsu upapajjeyya, paccayaṃ labhanto pettivisayesu upapajjeyya, paccayaṃ labhanto asuresu upapajjeyya, paccayaṃ labhanto devesu upapajjeyya, paccayaṃ labhanto manussesu upapajjeyya, paccayaṃ labhanto parinibbāyeyya, tasmāyaṃ sabbatthagāminī paṭipadā, yaṃ ettha ñāṇaṃ hetuso ṭhānaso anodhiso, idaṃ vuccati sabbatthagāminī paṭipadā ñāṇaṃ dutiyaṃ tathāgatabalaṃ.

    อิติ สพฺพตฺถคามินี ปฎิปทา อเนกธาตุโลโก, ตตฺถ ตตฺถ คามินี ปฎิปทา นานาธาตุโลโกฯ ตตฺถ กตโม อเนกธาตุโลโก? จกฺขุธาตุ รูปธาตุ จกฺขุวิญฺญาณธาตุ, โสตธาตุ สทฺทธาตุ โสตวิญฺญาณธาตุ, ฆานธาตุ คนฺธธาตุ ฆานวิญฺญาณธาตุ, ชิวฺหาธาตุ รสธาตุ ชิวฺหาวิญฺญาณธาตุ, กายธาตุ โผฎฺฐพฺพธาตุ กายวิญฺญาณธาตุ, มโนธาตุ ธมฺมธาตุ มโนวิญฺญาณธาตุ, ปถวีธาตุ, อาโปธาตุ, เตโชธาตุ, วาโยธาตุ, อากาสธาตุ, วิญฺญาณธาตุ, กามธาตุ, พฺยาปาทธาตุ, วิหิํสาธาตุ, เนกฺขมฺมธาตุ, อพฺยาปาทธาตุ, อวิหิํสาธาตุ, ทุกฺขธาตุ, โทมนสฺสธาตุ , อวิชฺชาธาตุ, สุขธาตุ, โสมนสฺสธาตุ, อุเปกฺขาธาตุ, รูปธาตุ, อรูปธาตุ, นิโรธธาตุ, สงฺขารธาตุ, นิพฺพานธาตุ, อยํ อเนกธาตุโลโกฯ

    Iti sabbatthagāminī paṭipadā anekadhātuloko, tattha tattha gāminī paṭipadā nānādhātuloko. Tattha katamo anekadhātuloko? Cakkhudhātu rūpadhātu cakkhuviññāṇadhātu, sotadhātu saddadhātu sotaviññāṇadhātu, ghānadhātu gandhadhātu ghānaviññāṇadhātu, jivhādhātu rasadhātu jivhāviññāṇadhātu, kāyadhātu phoṭṭhabbadhātu kāyaviññāṇadhātu, manodhātu dhammadhātu manoviññāṇadhātu, pathavīdhātu, āpodhātu, tejodhātu, vāyodhātu, ākāsadhātu, viññāṇadhātu, kāmadhātu, byāpādadhātu, vihiṃsādhātu, nekkhammadhātu, abyāpādadhātu, avihiṃsādhātu, dukkhadhātu, domanassadhātu , avijjādhātu, sukhadhātu, somanassadhātu, upekkhādhātu, rūpadhātu, arūpadhātu, nirodhadhātu, saṅkhāradhātu, nibbānadhātu, ayaṃ anekadhātuloko.

    ตตฺถ กตโม นานาธาตุโลโก? อญฺญา จกฺขุธาตุ, อญฺญา รูปธาตุ, อญฺญา จกฺขุวิญฺญาณธาตุฯ เอวํ สพฺพาฯ อญฺญา นิพฺพานธาตุฯ ยํ เอตฺถ ญาณํ เหตุโส ฐานโส อโนธิโส, อิทํ วุจฺจติ อเนกธาตุ นานาธาตุ ญาณํ ตติยํ ตถาคตพลํฯ

    Tattha katamo nānādhātuloko? Aññā cakkhudhātu, aññā rūpadhātu, aññā cakkhuviññāṇadhātu. Evaṃ sabbā. Aññā nibbānadhātu. Yaṃ ettha ñāṇaṃ hetuso ṭhānaso anodhiso, idaṃ vuccati anekadhātu nānādhātu ñāṇaṃ tatiyaṃ tathāgatabalaṃ.

    ๖๐. อิติ อเนกธาตุ นานาธาตุกสฺส โลกสฺส ยํ ยเทว ธาตุํ สตฺตา อธิมุจฺจนฺติ, ตํ ตเทว อธิฎฺฐหนฺติ อภินิวิสนฺติ, เกจิ รูปาธิมุตฺตา, เกจิ สทฺทาธิมุตฺตา, เกจิ คนฺธาธิมุตฺตา, เกจิ รสาธิมุตฺตา, เกจิ โผฎฺฐพฺพาธิมุตฺตา, เกจิ ธมฺมาธิมุตฺตา, เกจิ อิตฺถาธิมุตฺตา, เกจิ ปุริสาธิมุตฺตา, เกจิ จาคาธิมุตฺตา, เกจิ หีนาธิมุตฺตา , เกจิ ปณีตาธิมุตฺตา, เกจิ เทวาธิมุตฺตา, เกจิ มนุสฺสาธิมุตฺตา, เกจิ นิพฺพานาธิมุตฺตาฯ ยํ เอตฺถ ญาณํ เหตุโส ฐานโส อโนธิโส, อยํ เวเนโยฺย, อยํ น เวเนโยฺย, อยํ สคฺคคามี, อยํ ทุคฺคติคามีติ, อิทํ วุจฺจติ สตฺตานํ นานาธิมุตฺติกตา ญาณํ จตุตฺถํ ตถาคตพลํฯ

    60. Iti anekadhātu nānādhātukassa lokassa yaṃ yadeva dhātuṃ sattā adhimuccanti, taṃ tadeva adhiṭṭhahanti abhinivisanti, keci rūpādhimuttā, keci saddādhimuttā, keci gandhādhimuttā, keci rasādhimuttā, keci phoṭṭhabbādhimuttā, keci dhammādhimuttā, keci itthādhimuttā, keci purisādhimuttā, keci cāgādhimuttā, keci hīnādhimuttā , keci paṇītādhimuttā, keci devādhimuttā, keci manussādhimuttā, keci nibbānādhimuttā. Yaṃ ettha ñāṇaṃ hetuso ṭhānaso anodhiso, ayaṃ veneyyo, ayaṃ na veneyyo, ayaṃ saggagāmī, ayaṃ duggatigāmīti, idaṃ vuccati sattānaṃ nānādhimuttikatā ñāṇaṃ catutthaṃ tathāgatabalaṃ.

    อิติ เต ยถาธิมุตฺตา จ ภวนฺติ, ตํ ตํ กมฺมสมาทานํ สมาทิยนฺติฯ เต ฉพฺพิธํ กมฺมํ สมาทิยนฺติ – เกจิ โลภวเสน, เกจิ โทสวเสน, เกจิ โมหวเสน, เกจิ สทฺธาวเสน, เกจิ วีริยวเสน, เกจิ ปญฺญาวเสนฯ ตํ วิภชฺชมานํ ทุวิธํ – สํสารคามิ จ นิพฺพานคามิ จฯ

    Iti te yathādhimuttā ca bhavanti, taṃ taṃ kammasamādānaṃ samādiyanti. Te chabbidhaṃ kammaṃ samādiyanti – keci lobhavasena, keci dosavasena, keci mohavasena, keci saddhāvasena, keci vīriyavasena, keci paññāvasena. Taṃ vibhajjamānaṃ duvidhaṃ – saṃsāragāmi ca nibbānagāmi ca.

    ตตฺถ ยํ โลภวเสน โทสวเสน โมหวเสน จ กมฺมํ กโรติ, อิทํ กมฺมํ กณฺหํ กณฺหวิปากํฯ ตตฺถ ยํ สทฺธาวเสน กมฺมํ กโรติ, อิทํ กมฺมํ สุกฺกํ สุกฺกวิปากํฯ ตตฺถ ยํ โลภวเสน โทสวเสน โมหวเสน สทฺธาวเสน จ กมฺมํ กโรติ, อิทํ กมฺมํ กณฺหสุกฺกํ กณฺหสุกฺกวิปากํฯ ตตฺถ ยํ วีริยวเสน ปญฺญาวเสน จ กมฺมํ กโรติ, อิทํ กมฺมํ อกณฺหํ อสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมุตฺตมํ กมฺมเสฎฺฐํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตติฯ

    Tattha yaṃ lobhavasena dosavasena mohavasena ca kammaṃ karoti, idaṃ kammaṃ kaṇhaṃ kaṇhavipākaṃ. Tattha yaṃ saddhāvasena kammaṃ karoti, idaṃ kammaṃ sukkaṃ sukkavipākaṃ. Tattha yaṃ lobhavasena dosavasena mohavasena saddhāvasena ca kammaṃ karoti, idaṃ kammaṃ kaṇhasukkaṃ kaṇhasukkavipākaṃ. Tattha yaṃ vīriyavasena paññāvasena ca kammaṃ karoti, idaṃ kammaṃ akaṇhaṃ asukkaṃ akaṇhaasukkavipākaṃ kammuttamaṃ kammaseṭṭhaṃ kammakkhayāya saṃvattati.

    จตฺตาริ กมฺมสมาทานานิฯ อตฺถิ กมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนสุขํ อายติํ ทุกฺขวิปากํ, อตฺถิ กมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนทุกฺขํ อายติํ สุขวิปากํ, อตฺถิ กมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนทุกฺขเญฺจว อายติํ จ ทุกฺขวิปากํ, อตฺถิ กมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนสุขเญฺจว อายติํ จ สุขวิปากํฯ ยํ เอวํ ชาติยํ กมฺมสมาทานํ, อิมินา ปุคฺคเลน อกุสลกมฺมสมาทานํ อุปจิตํ อวิปกฺกํ วิปากาย ปจฺจุปฎฺฐิตํ น จ ภโพฺพ อภินิพฺพิธา คนฺตุนฺติ ตํ ภควา น โอวทติฯ ยถา เทวทตฺตํ โกกาลิกํ สุนกฺขตฺตํ ลิจฺฉวิปุตฺตํ, เย วา ปนเญฺญปิ สตฺตา มิจฺฉตฺตนิยตา อิเมสญฺจ ปุคฺคลานํ อุปจิตํ อกุสลํ น จ ตาว ปาริปูริํ คตํ, ปุรา ปาริปูริํ คจฺฉติฯ ปุรา ผลํ นิพฺพตฺตยติ, ปุรา มคฺคมาวารยติ, ปุรา เวเนยฺยตฺตํ สมติกฺกมตีติ เต ภควา อสมเตฺต โอวทติฯ ยถา ปุณฺณญฺจ โควติกํ อเจลญฺจ กุกฺกุรวติกํฯ

    Cattāri kammasamādānāni. Atthi kammasamādānaṃ paccuppannasukhaṃ āyatiṃ dukkhavipākaṃ, atthi kammasamādānaṃ paccuppannadukkhaṃ āyatiṃ sukhavipākaṃ, atthi kammasamādānaṃ paccuppannadukkhañceva āyatiṃ ca dukkhavipākaṃ, atthi kammasamādānaṃ paccuppannasukhañceva āyatiṃ ca sukhavipākaṃ. Yaṃ evaṃ jātiyaṃ kammasamādānaṃ, iminā puggalena akusalakammasamādānaṃ upacitaṃ avipakkaṃ vipākāya paccupaṭṭhitaṃ na ca bhabbo abhinibbidhā gantunti taṃ bhagavā na ovadati. Yathā devadattaṃ kokālikaṃ sunakkhattaṃ licchaviputtaṃ, ye vā panaññepi sattā micchattaniyatā imesañca puggalānaṃ upacitaṃ akusalaṃ na ca tāva pāripūriṃ gataṃ, purā pāripūriṃ gacchati. Purā phalaṃ nibbattayati, purā maggamāvārayati, purā veneyyattaṃ samatikkamatīti te bhagavā asamatte ovadati. Yathā puṇṇañca govatikaṃ acelañca kukkuravatikaṃ.

    ๖๑. อิมสฺส จ ปุคฺคลสฺส อกุสลกมฺมสมาทานํ ปริปูรมานํ มคฺคํ อาวารยิสฺสติ ปุรา ปาริปูริํ คจฺฉติ, ปุรา ผลํ นิพฺพตฺตยติ, ปุรา มคฺคมาวารยติ, ปุรา เวเนยฺยตฺตํ สมติกฺกมตีติ ตํ ภควา อสมตฺตํ โอวทติฯ ยถา อายสฺมนฺตํ องฺคุลิมาลํฯ

    61. Imassa ca puggalassa akusalakammasamādānaṃ paripūramānaṃ maggaṃ āvārayissati purā pāripūriṃ gacchati, purā phalaṃ nibbattayati, purā maggamāvārayati, purā veneyyattaṃ samatikkamatīti taṃ bhagavā asamattaṃ ovadati. Yathā āyasmantaṃ aṅgulimālaṃ.

    สเพฺพสํ มุทุมชฺฌาธิมตฺตตาฯ ตตฺถ มุทุ อาเนญฺชาภิสงฺขารา มชฺฌํ อวเสสกุสลสงฺขารา, อธิมตฺตํ อกุสลสงฺขารา, ยํ เอตฺถ ญาณํ เหตุโส ฐานโส อโนธิโส, อิทํ ทิฎฺฐธมฺมเวทนียํ, อิทํ อุปปชฺชเวทนียํ, อิทํ อปราปริยเวทนียํ, อิทํ นิรยเวทนียํ, อิทํ ติรจฺฉานเวทนียํ, อิทํ เปตฺติวิสยเวทนียํ, อิทํ อสุรเวทนียํ, อิทํ เทวเวทนียํ, อิทํ มนุสฺสเวทนียนฺติ, อิทํ วุจฺจติ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ กมฺมสมาทานานํ เหตุโส ฐานโส อโนธิโส วิปากเวมตฺตตา ญาณํ ปญฺจมํ ตถาคตพลํฯ

    Sabbesaṃ mudumajjhādhimattatā. Tattha mudu āneñjābhisaṅkhārā majjhaṃ avasesakusalasaṅkhārā, adhimattaṃ akusalasaṅkhārā, yaṃ ettha ñāṇaṃ hetuso ṭhānaso anodhiso, idaṃ diṭṭhadhammavedanīyaṃ, idaṃ upapajjavedanīyaṃ, idaṃ aparāpariyavedanīyaṃ, idaṃ nirayavedanīyaṃ, idaṃ tiracchānavedanīyaṃ, idaṃ pettivisayavedanīyaṃ, idaṃ asuravedanīyaṃ, idaṃ devavedanīyaṃ, idaṃ manussavedanīyanti, idaṃ vuccati atītānāgatapaccuppannānaṃ kammasamādānānaṃ hetuso ṭhānaso anodhiso vipākavemattatā ñāṇaṃ pañcamaṃ tathāgatabalaṃ.

    ๖๒. อิติ ตถา สมาทินฺนานํ กมฺมานํ สมาทินฺนานํ ฌานานํ วิโมกฺขานํ สมาธีนํ สมาปตฺตีนํ อยํ สํกิเลโส, อิทํ โวทานํ, อิทํ วุฎฺฐานํ, เอวํ สํกิลิสฺสติ, เอวํ โวทายติ, เอวํ วุฎฺฐหตีติ ญาณํ อนาวรณํฯ

    62. Iti tathā samādinnānaṃ kammānaṃ samādinnānaṃ jhānānaṃ vimokkhānaṃ samādhīnaṃ samāpattīnaṃ ayaṃ saṃkileso, idaṃ vodānaṃ, idaṃ vuṭṭhānaṃ, evaṃ saṃkilissati, evaṃ vodāyati, evaṃ vuṭṭhahatīti ñāṇaṃ anāvaraṇaṃ.

    ตตฺถ กติ ฌานานิ? จตฺตาริ ฌานานิฯ กติ วิโมกฺขา? เอกาทส จ อฎฺฐ จ สตฺต จ ตโย จ เทฺว จฯ กติ สมาธี? ตโย สมาธี – สวิตโกฺก สวิจาโร สมาธิ, อวิตโกฺก วิจารมโตฺต สมาธิ, อวิตโกฺก อวิจาโร สมาธิฯ กติ สมาปตฺติโย? ปญฺจ สมาปตฺติโย – สญฺญาสมาปตฺติ อสญฺญาสมาปตฺติ เนวสญฺญานาสญฺญาสมาปตฺติ วิภูตสญฺญาสมาปตฺติ 15 นิโรธสมาปตฺติฯ

    Tattha kati jhānāni? Cattāri jhānāni. Kati vimokkhā? Ekādasa ca aṭṭha ca satta ca tayo ca dve ca. Kati samādhī? Tayo samādhī – savitakko savicāro samādhi, avitakko vicāramatto samādhi, avitakko avicāro samādhi. Kati samāpattiyo? Pañca samāpattiyo – saññāsamāpatti asaññāsamāpatti nevasaññānāsaññāsamāpatti vibhūtasaññāsamāpatti 16 nirodhasamāpatti.

    ตตฺถ กตโม สํกิเลโส? ปฐมชฺฌานสฺส กามราคพฺยาปาทา สํกิเลโสฯ เย จ กุกฺกุฎฌายี เทฺว ปฐมกา โย วา ปน โกจิ หานภาคิโย สมาธิ, อยํ สํกิเลโสฯ ตตฺถ กตมํ โวทานํ, นีวรณปาริสุทฺธิ, ปฐมสฺส ฌานสฺส เย จ กุกฺกุฎฌายี เทฺว ปจฺฉิมกา โย วา ปน โกจิ วิเสสภาคิโย สมาธิ, อิทํ โวทานํฯ ตตฺถ กตมํ วุฎฺฐานํ? ยํ สมาปตฺติวุฎฺฐานโกสลฺลํ, อิทํ วุฎฺฐานํฯ ยํ เอตฺถ ญาณํ เหตุโส ฐานโส อโนธิโส, อิทํ วุจฺจติ สเพฺพสํ ฌานวิโมกฺขสมาธิสมาปตฺตีนํ สํกิเลสโวทานวุฎฺฐานญาณํ ฉฎฺฐํ ตถาคตพลํฯ

    Tattha katamo saṃkileso? Paṭhamajjhānassa kāmarāgabyāpādā saṃkileso. Ye ca kukkuṭajhāyī dve paṭhamakā yo vā pana koci hānabhāgiyo samādhi, ayaṃ saṃkileso. Tattha katamaṃ vodānaṃ, nīvaraṇapārisuddhi, paṭhamassa jhānassa ye ca kukkuṭajhāyī dve pacchimakā yo vā pana koci visesabhāgiyo samādhi, idaṃ vodānaṃ. Tattha katamaṃ vuṭṭhānaṃ? Yaṃ samāpattivuṭṭhānakosallaṃ, idaṃ vuṭṭhānaṃ. Yaṃ ettha ñāṇaṃ hetuso ṭhānaso anodhiso, idaṃ vuccati sabbesaṃ jhānavimokkhasamādhisamāpattīnaṃ saṃkilesavodānavuṭṭhānañāṇaṃ chaṭṭhaṃ tathāgatabalaṃ.

    ๖๓. อิติ ตเสฺสว สมาธิสฺส ตโย ธมฺมา ปริวารา อินฺทฺริยานิ พลานิ วีริยมิติ, ตานิเยว อินฺทฺริยานิ วีริยวเสน พลานิ ภวนฺติ, อาธิปเตยฺยเฎฺฐน อินฺทฺริยานิ, อกมฺปิยเฎฺฐน พลานิ, อิติ เตสํ มุทุมชฺฌาธิมตฺตตา อยํ มุทินฺทฺริโย อยํ มชฺฌินฺทฺริโย อยํ ติกฺขินฺทฺริโยติฯ ตตฺถ ภควา ติกฺขินฺทฺริยํ สํขิเตฺตน โอวาเทน โอวทติ, มชฺฌินฺทฺริยํ ภควา สํขิตฺตวิตฺถาเรน โอวทติ, มุทินฺทฺริยํ ภควา วิตฺถาเรน โอวทติฯ ตตฺถ ภควา ติกฺขินฺทฺริยสฺส มุทุกํ ธมฺมเทสนํ อุปทิสติ, มชฺฌินฺทฺริยสฺส ภควา มุทุติกฺขธมฺมเทสนํ อุปทิสติ, มุทินฺทฺริยสฺส ภควา ติกฺขํ ธมฺมเทสนํ อุปทิสติฯ ตตฺถ ภควา ติกฺขินฺทฺริยสฺส สมถํ อุปทิสติ, มชฺฌินฺทฺริยสฺส ภควา สมถวิปสฺสนํ อุปทิสติ, มุทินฺทฺริยสฺส ภควา วิปสฺสนํ อุปทิสติฯ ตตฺถ ภควา ติกฺขินฺทฺริยสฺส นิสฺสรณํ อุปทิสติ, มชฺฌินฺทฺริยสฺส ภควา อาทีนวญฺจ นิสฺสรณญฺจ อุปทิสติ, มุทินฺทฺริยสฺส ภควา อสฺสาทญฺจ อาทีนวญฺจ นิสฺสรณญฺจ อุปทิสติฯ ตตฺถ ภควา ติกฺขินฺทฺริยสฺส อธิปญฺญาสิกฺขาย ปญฺญาปยติ, มชฺฌินฺทฺริยสฺส ภควา อธิจิตฺตสิกฺขาย ปญฺญาปยติ, มุทินฺทฺริยสฺส ภควา อธิสีลสิกฺขาย ปญฺญาปยติฯ

    63. Iti tasseva samādhissa tayo dhammā parivārā indriyāni balāni vīriyamiti, tāniyeva indriyāni vīriyavasena balāni bhavanti, ādhipateyyaṭṭhena indriyāni, akampiyaṭṭhena balāni, iti tesaṃ mudumajjhādhimattatā ayaṃ mudindriyo ayaṃ majjhindriyo ayaṃ tikkhindriyoti. Tattha bhagavā tikkhindriyaṃ saṃkhittena ovādena ovadati, majjhindriyaṃ bhagavā saṃkhittavitthārena ovadati, mudindriyaṃ bhagavā vitthārena ovadati. Tattha bhagavā tikkhindriyassa mudukaṃ dhammadesanaṃ upadisati, majjhindriyassa bhagavā mudutikkhadhammadesanaṃ upadisati, mudindriyassa bhagavā tikkhaṃ dhammadesanaṃ upadisati. Tattha bhagavā tikkhindriyassa samathaṃ upadisati, majjhindriyassa bhagavā samathavipassanaṃ upadisati, mudindriyassa bhagavā vipassanaṃ upadisati. Tattha bhagavā tikkhindriyassa nissaraṇaṃ upadisati, majjhindriyassa bhagavā ādīnavañca nissaraṇañca upadisati, mudindriyassa bhagavā assādañca ādīnavañca nissaraṇañca upadisati. Tattha bhagavā tikkhindriyassa adhipaññāsikkhāya paññāpayati, majjhindriyassa bhagavā adhicittasikkhāya paññāpayati, mudindriyassa bhagavā adhisīlasikkhāya paññāpayati.

    ยํ เอตฺถ ญาณํ เหตุโส ฐานโส อโนธิโส อยํ อิมํ ภูมิํ ภาวนญฺจ คโต, อิมาย เวลาย อิมาย อนุสาสนิยา เอวํ ธาตุโก จายํ อยํ จสฺส อาสโย อยญฺจ อนุสโย อิติ, อิทํ วุจฺจติ ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตเวมตฺตตา ญาณํ สตฺตมํ ตถาคตพลํฯ

    Yaṃ ettha ñāṇaṃ hetuso ṭhānaso anodhiso ayaṃ imaṃ bhūmiṃ bhāvanañca gato, imāya velāya imāya anusāsaniyā evaṃ dhātuko cāyaṃ ayaṃ cassa āsayo ayañca anusayo iti, idaṃ vuccati parasattānaṃ parapuggalānaṃ indriyaparopariyattavemattatā ñāṇaṃ sattamaṃ tathāgatabalaṃ.

    อิติ ตตฺถ ยํ อเนกวิหิตํ ปุเพฺพนิวาสํ อนุสฺสรติฯ เสยฺยถิทํ, เอกมฺปิ ชาติํ เทฺวปิ ชาติโย ติโสฺสปิ ชาติโย จตโสฺสปิ ชาติโย ปญฺจปิ ชาติโย ทสปิ ชาติโย วีสมฺปิ ชาติโย ติํสมฺปิ ชาติโย จตฺตารีสมฺปิ ชาติโย ปญฺญาสมฺปิ ชาติโย ชาติสตมฺปิ ชาติสหสฺสมฺปิ ชาติสตสหสฺสมฺปิ อเนกานิปิ ชาติสตานิ อเนกานิปิ ชาติสหสฺสานิ อเนกานิปิ ชาติสตสหสฺสานิ อเนเกปิ สํวฎฺฎกเปฺป อเนเกปิ วิวฎฺฎกเปฺป อเนเกปิ สํวฎฺฎวิวฎฺฎกเปฺปฯ อมุตฺราสิํ เอวํนาโม เอวํโคโตฺต เอวํวโณฺณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฎิสํเวที เอวมายุปริยโนฺต, โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทิํฯ ตตฺราปาสิํ เอวํนาโม เอวํโคโตฺต เอวํวโณฺณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฎิสํเวที เอวมายุปริยโนฺต, โส ตโต จุโต อิธูปปโนฺนติ, อิติ สาการํ สอุเทฺทสํ อเนกวิหิตํ ปุเพฺพนิวาสํ อนุสฺสรติฯ

    Iti tattha yaṃ anekavihitaṃ pubbenivāsaṃ anussarati. Seyyathidaṃ, ekampi jātiṃ dvepi jātiyo tissopi jātiyo catassopi jātiyo pañcapi jātiyo dasapi jātiyo vīsampi jātiyo tiṃsampi jātiyo cattārīsampi jātiyo paññāsampi jātiyo jātisatampi jātisahassampi jātisatasahassampi anekānipi jātisatāni anekānipi jātisahassāni anekānipi jātisatasahassāni anekepi saṃvaṭṭakappe anekepi vivaṭṭakappe anekepi saṃvaṭṭavivaṭṭakappe. Amutrāsiṃ evaṃnāmo evaṃgotto evaṃvaṇṇo evamāhāro evaṃsukhadukkhappaṭisaṃvedī evamāyupariyanto, so tato cuto amutra udapādiṃ. Tatrāpāsiṃ evaṃnāmo evaṃgotto evaṃvaṇṇo evamāhāro evaṃsukhadukkhappaṭisaṃvedī evamāyupariyanto, so tato cuto idhūpapannoti, iti sākāraṃ sauddesaṃ anekavihitaṃ pubbenivāsaṃ anussarati.

    ๖๔. ตตฺถ สคฺคูปเคสุ จ สเตฺตสุ มนุสฺสูปเคสุ จ สเตฺตสุ อปายูปเคสุ จ สเตฺตสุ อิมสฺส ปุคฺคลสฺส โลภาทโย อุสฺสนฺนา อโลภาทโย มนฺทา, อิมสฺส ปุคฺคลสฺส อโลภาทโย อุสฺสนฺนา โลภาทโย มนฺทา, เย วา ปน อุสฺสนฺนา เย วา ปน มนฺทา อิมสฺส ปุคฺคลสฺส อิมานิ อินฺทฺริยานิ อุปจิตานิ อิมสฺส ปุคฺคลสฺส อิมานิ อินฺทฺริยานิ อนุปจิตานิ อมุกาย วา กปฺปโกฎิยํ กปฺปสตสหเสฺส วา กปฺปสหเสฺส วา กปฺปสเต วา กเปฺป วา อนฺตรกเปฺป วา อุปฑฺฒกเปฺป วา สํวจฺฉเร วา อุปฑฺฒสํวจฺฉเร วา มาเส วา ปเกฺข วา ทิวเส วา มุหุเตฺต วา อิมินา ปมาเทน วา ปสาเทน วาติฯ ตํ ตํ ภวํ ภควา อนุสฺสรโนฺต อเสสํ ชานาติ, ตตฺถ ยํ ทิเพฺพน จกฺขุนา วิสุเทฺธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สเตฺต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวเณฺณ ทุพฺพเณฺณ สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สเตฺต ปชานาติ อิเม วต โภโนฺต สตฺตา กายทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา วจีทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา มโนทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อุปวาทกา มิจฺฉาทิฎฺฐิกา มิจฺฉาทิฎฺฐิกมฺมสมาทานา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนาฯ

    64. Tattha saggūpagesu ca sattesu manussūpagesu ca sattesu apāyūpagesu ca sattesu imassa puggalassa lobhādayo ussannā alobhādayo mandā, imassa puggalassa alobhādayo ussannā lobhādayo mandā, ye vā pana ussannā ye vā pana mandā imassa puggalassa imāni indriyāni upacitāni imassa puggalassa imāni indriyāni anupacitāni amukāya vā kappakoṭiyaṃ kappasatasahasse vā kappasahasse vā kappasate vā kappe vā antarakappe vā upaḍḍhakappe vā saṃvacchare vā upaḍḍhasaṃvacchare vā māse vā pakkhe vā divase vā muhutte vā iminā pamādena vā pasādena vāti. Taṃ taṃ bhavaṃ bhagavā anussaranto asesaṃ jānāti, tattha yaṃ dibbena cakkhunā visuddhena atikkantamānusakena satte passati cavamāne upapajjamāne hīne paṇīte suvaṇṇe dubbaṇṇe sugate duggate yathākammūpage satte pajānāti ime vata bhonto sattā kāyaduccaritena samannāgatā vacīduccaritena samannāgatā manoduccaritena samannāgatā ariyānaṃ upavādakā micchādiṭṭhikā micchādiṭṭhikammasamādānā, te kāyassa bhedā paraṃ maraṇā apāyaṃ duggatiṃ vinipātaṃ nirayaṃ upapannā.

    อิเม วา ปน โภโนฺต สตฺตา กายสุจริเตน สมนฺนาคตา วจีสุจริเตน สมนฺนาคตา มโนสุจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อนุปวาทกา สมฺมาทิฎฺฐิกา สมฺมาทิฎฺฐิกมฺมสมาทานา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา, ตตฺถ สคฺคูปเคสุ จ สเตฺตสุ มนุสฺสูปเคสุ จ สเตฺตสุ อปายูปเคสุ จ สเตฺตสุ อิมินา ปุคฺคเลน เอวรูปํ กมฺมํ อมุกาย กปฺปโกฎิยํ อุปจิตํ กปฺปสตสหเสฺส วา กปฺปสหเสฺส วา กปฺปสเต วา กเปฺป วา อนฺตรกเปฺป วา อุปฑฺฒกเปฺป วา สํวจฺฉเร วา อุปฑฺฒสํวจฺฉเร วา มาเส วา ปเกฺข วา ทิวเส วา มุหุเตฺต วา อิมินา ปมาเทน วา ปสาเทน วาติฯ อิมานิ ภควโต เทฺว ญาณานิ – ปุเพฺพนิวาสานุสฺสติญาณญฺจ ทิพฺพจกฺขุ จ อฎฺฐมํ นวมํ ตถาคตพลํฯ

    Ime vā pana bhonto sattā kāyasucaritena samannāgatā vacīsucaritena samannāgatā manosucaritena samannāgatā ariyānaṃ anupavādakā sammādiṭṭhikā sammādiṭṭhikammasamādānā, te kāyassa bhedā paraṃ maraṇā sugatiṃ saggaṃ lokaṃ upapannā, tattha saggūpagesu ca sattesu manussūpagesu ca sattesu apāyūpagesu ca sattesu iminā puggalena evarūpaṃ kammaṃ amukāya kappakoṭiyaṃ upacitaṃ kappasatasahasse vā kappasahasse vā kappasate vā kappe vā antarakappe vā upaḍḍhakappe vā saṃvacchare vā upaḍḍhasaṃvacchare vā māse vā pakkhe vā divase vā muhutte vā iminā pamādena vā pasādena vāti. Imāni bhagavato dve ñāṇāni – pubbenivāsānussatiñāṇañca dibbacakkhu ca aṭṭhamaṃ navamaṃ tathāgatabalaṃ.

    อิติ ตตฺถ ยํ สพฺพญฺญุตา ปตฺตา วิทิตา สพฺพธมฺมา วิรชํ วีตมลํ อุปฺปนฺนํ สพฺพญฺญุตญาณํ นิหโต มาโร โพธิมูเล, อิทํ ภควโต ทสมํ พลํ สพฺพาสวปริกฺขยํ ญาณํฯ ทสพลสมนฺนาคตา หิ พุทฺธา ภควโนฺตติฯ

    Iti tattha yaṃ sabbaññutā pattā viditā sabbadhammā virajaṃ vītamalaṃ uppannaṃ sabbaññutañāṇaṃ nihato māro bodhimūle, idaṃ bhagavato dasamaṃ balaṃ sabbāsavaparikkhayaṃ ñāṇaṃ. Dasabalasamannāgatā hi buddhā bhagavantoti.

    นิยุโตฺต วิจโย หารสมฺปาโตฯ

    Niyutto vicayo hārasampāto.







    Footnotes:
    1. อปฺปมฺมุฎฺฐา (สี.)
    2. appammuṭṭhā (sī.)
    3. สสงฺขารนิคฺคยฺหวาริตวโต (สี.), สสงฺขารนิคฺคยฺหวาริวาวโฎ (ก.)
    4. sasaṅkhāraniggayhavāritavato (sī.), sasaṅkhāraniggayhavārivāvaṭo (ka.)
    5. นียาติ (สี.)
    6. nīyāti (sī.)
    7. อธิคจฺฉติ (สี.)
    8. adhigacchati (sī.)
    9. อนุปฎฺฐิตสติ (สี.)
    10. anupaṭṭhitasati (sī.)
    11. ปสฺส สํ. นิ. ๑.๑๓๓
    12. passa saṃ. ni. 1.133
    13. ปรินิพฺพนฺติ อนาสวาติ (สี. ก.)
    14. parinibbanti anāsavāti (sī. ka.)
    15. วิภูตสมาปตฺติ (สี. ก.)
    16. vibhūtasamāpatti (sī. ka.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / เนตฺติปฺปกรณ-อฎฺฐกถา • Nettippakaraṇa-aṭṭhakathā / ๒. วิจยหารสมฺปาตวณฺณนา • 2. Vicayahārasampātavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / ขุทฺทกนิกาย (ฎีกา) • Khuddakanikāya (ṭīkā) / เนตฺติปฺปกรณ-ฎีกา • Nettippakaraṇa-ṭīkā / ๒. วิจยหารสมฺปาตวณฺณนา • 2. Vicayahārasampātavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / ขุทฺทกนิกาย (ฎีกา) • Khuddakanikāya (ṭīkā) / เนตฺติวิภาวินี • Nettivibhāvinī / ๒. วิจยหารสมฺปาตวิภาวนา • 2. Vicayahārasampātavibhāvanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact