Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā |
[๓๙๓] ๘. วิฆาสาทชาตกวณฺณนา
[393] 8. Vighāsādajātakavaṇṇanā
สุสุขํ วต ชีวนฺตีติ อิทํ สตฺถา ปุพฺพาราเม วิหรโนฺต เกฬิสีลเก ภิกฺขู อารพฺภ กเถสิฯ เตสุ หิ มหาโมคฺคลฺลานเตฺถเรน ปาสาทํ กเมฺปตฺวา สํเวชิเตสุ ธมฺมสภายํ ภิกฺขู เตสํ อคุณํ กเถนฺตา นิสีทิํสุฯ สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุเตฺต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุเพฺพเปเต เกฬิสีลกาเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริฯ
Susukhaṃ vata jīvantīti idaṃ satthā pubbārāme viharanto keḷisīlake bhikkhū ārabbha kathesi. Tesu hi mahāmoggallānattherena pāsādaṃ kampetvā saṃvejitesu dhammasabhāyaṃ bhikkhū tesaṃ aguṇaṃ kathentā nisīdiṃsu. Satthā āgantvā ‘‘kāya nuttha, bhikkhave, etarahi kathāya sannisinnā’’ti pucchitvā ‘‘imāya nāmā’’ti vutte ‘‘na, bhikkhave, idāneva, pubbepete keḷisīlakāyevā’’ti vatvā atītaṃ āhari.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทเตฺต รชฺชํ กาเรเนฺต โพธิสโตฺต สโกฺก อโหสิฯ อถ อญฺญตรสฺมิํ กาสิกคาเม สตฺต ภาตโร กาเมสุ โทสํ ทิสฺวา นิกฺขมิตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา มชฺฌารเญฺญ วสนฺตา โยเค โยคํ อกตฺวา กายทฬฺหีพหุลา หุตฺวา นานปฺปการํ กีฬํ กีฬนฺตา จริํสุฯ สโกฺก เทวราชา ‘‘อิเม สํเวเชสฺสามี’’ติ สุโก หุตฺวา เตสํ วสนฎฺฐานํ อาคนฺตฺวา เอกสฺมิํ รุเกฺข นิลียิตฺวา เต สํเวเชโนฺต ปฐมํ คาถมาห –
Atīte bārāṇasiyaṃ brahmadatte rajjaṃ kārente bodhisatto sakko ahosi. Atha aññatarasmiṃ kāsikagāme satta bhātaro kāmesu dosaṃ disvā nikkhamitvā isipabbajjaṃ pabbajitvā majjhāraññe vasantā yoge yogaṃ akatvā kāyadaḷhībahulā hutvā nānappakāraṃ kīḷaṃ kīḷantā cariṃsu. Sakko devarājā ‘‘ime saṃvejessāmī’’ti suko hutvā tesaṃ vasanaṭṭhānaṃ āgantvā ekasmiṃ rukkhe nilīyitvā te saṃvejento paṭhamaṃ gāthamāha –
๑๒๒.
122.
‘‘สุสุขํ วต ชีวนฺติ, เย ชนา วิฆาสาทิโน;
‘‘Susukhaṃ vata jīvanti, ye janā vighāsādino;
ทิเฎฺฐว ธเมฺม ปาสํสา, สมฺปราเย จ สุคฺคตี’’ติฯ
Diṭṭheva dhamme pāsaṃsā, samparāye ca suggatī’’ti.
ตตฺถ วิฆาสาทิโนติ ภุตฺตาติเรกํ ภุญฺชเนฺต สนฺธายาหฯ ทิเฎฺฐว ธเมฺมติ เย เอวรูปา, เต ทิเฎฺฐว ธเมฺม ปาสํสา, สมฺปราเย จ เตสํ สุคติ โหติ, สเคฺค อุปฺปชฺชนฺตีติ อธิปฺปาเยน วทติฯ
Tattha vighāsādinoti bhuttātirekaṃ bhuñjante sandhāyāha. Diṭṭheva dhammeti ye evarūpā, te diṭṭheva dhamme pāsaṃsā, samparāye ca tesaṃ sugati hoti, sagge uppajjantīti adhippāyena vadati.
อถ เตสุ เอโก ตสฺส วจนํ สุตฺวา อวเสเส อามเนฺตตฺวา ทุติยํ คาถมาห –
Atha tesu eko tassa vacanaṃ sutvā avasese āmantetvā dutiyaṃ gāthamāha –
๑๒๓.
123.
‘‘สุกสฺส ภาสมานสฺส, น นิสาเมถ ปณฺฑิตา;
‘‘Sukassa bhāsamānassa, na nisāmetha paṇḍitā;
อิทํ สุณาถ โสทริยา, อเมฺหวายํ ปสํสตี’’ติฯ
Idaṃ suṇātha sodariyā, amhevāyaṃ pasaṃsatī’’ti.
ตตฺถ ภาสมานสฺสาติ มานุสิกาย วาจาย ภณนฺตสฺสฯ น นิสาเมถาติ น สุณาถฯ อิทํ สุณาถาติ อิทมสฺส วจนํ สุณาถฯ โสทริยาติ สมาเน อุทเร วุตฺถภาเวน เต อาลปโนฺต อาหฯ
Tattha bhāsamānassāti mānusikāya vācāya bhaṇantassa. Na nisāmethāti na suṇātha. Idaṃ suṇāthāti idamassa vacanaṃ suṇātha. Sodariyāti samāne udare vutthabhāvena te ālapanto āha.
อถ เน ปฎิกฺขิปโนฺต สุโก ตติยํ คาถมาห –
Atha ne paṭikkhipanto suko tatiyaṃ gāthamāha –
๑๒๔.
124.
‘‘นาหํ ตุเมฺห ปสํสามิ, กุณปาทา สุณาถ เม;
‘‘Nāhaṃ tumhe pasaṃsāmi, kuṇapādā suṇātha me;
อุจฺฉิฎฺฐโภชิโน ตุเมฺห, น ตุเมฺห วิฆาสาทิโน’’ติฯ
Ucchiṭṭhabhojino tumhe, na tumhe vighāsādino’’ti.
ตตฺถ กุณปาทาติ กุณปขาทกาติ เต อาลปติฯ
Tattha kuṇapādāti kuṇapakhādakāti te ālapati.
เต ตสฺส วจนํ สุตฺวา สเพฺพปิ จตุตฺถํ คาถมาหํสุ –
Te tassa vacanaṃ sutvā sabbepi catutthaṃ gāthamāhaṃsu –
๑๒๕.
125.
‘‘สตฺตวสฺสา ปพฺพชิตา, มชฺฌารเญฺญ สิขณฺฑิโน;
‘‘Sattavassā pabbajitā, majjhāraññe sikhaṇḍino;
วิฆาเสเนว ยาเปนฺตา, มยเญฺจ โภโต คารยฺหา;
Vighāseneva yāpentā, mayañce bhoto gārayhā;
เก นุ โภโต ปสํสิยา’’ติฯ
Ke nu bhoto pasaṃsiyā’’ti.
ตตฺถ สิขณฺฑิโนติ จูฬาย สมนฺนาคตาฯ วิฆาเสเนวาติ เอตฺตกํ กาลํ สตฺต วสฺสานิ สีหพฺยคฺฆวิฆาเสเนว ยาเปนฺตา ยทิ โภโต คารยฺหา, อถ เก นุ เต ปสํสิยาติฯ
Tattha sikhaṇḍinoti cūḷāya samannāgatā. Vighāsenevāti ettakaṃ kālaṃ satta vassāni sīhabyagghavighāseneva yāpentā yadi bhoto gārayhā, atha ke nu te pasaṃsiyāti.
เต ลชฺชาเปโนฺต มหาสโตฺต ปญฺจมํ คาถมาห –
Te lajjāpento mahāsatto pañcamaṃ gāthamāha –
๑๒๖.
126.
‘‘ตุเมฺห สีหานํ พฺยคฺฆานํ, วาฬานญฺจาวสิฎฺฐกํ;
‘‘Tumhe sīhānaṃ byagghānaṃ, vāḷānañcāvasiṭṭhakaṃ;
อุจฺฉิเฎฺฐเนว ยาเปนฺตา, มญฺญิโวฺห วิฆาสาทิโน’’ติฯ
Ucchiṭṭheneva yāpentā, maññivho vighāsādino’’ti.
ตตฺถ วาฬานญฺจาวสิฎฺฐกนฺติ เสสวาฬมิคานญฺจ อวสิฎฺฐกํ อุจฺฉิฎฺฐโภชนํฯ
Tattha vāḷānañcāvasiṭṭhakanti sesavāḷamigānañca avasiṭṭhakaṃ ucchiṭṭhabhojanaṃ.
ตํ สุตฺวา ตาปสา ‘‘สเจ มยํ น วิฆาสาทา, อถ เก จรหิ เต วิฆาสาทา’’ติ? อถ เตสํ โส ตมตฺถํ อาจิกฺขโนฺต ฉฎฺฐํ คาถมาห –
Taṃ sutvā tāpasā ‘‘sace mayaṃ na vighāsādā, atha ke carahi te vighāsādā’’ti? Atha tesaṃ so tamatthaṃ ācikkhanto chaṭṭhaṃ gāthamāha –
๑๒๗.
127.
‘‘เย พฺราหฺมณสฺส สมณสฺส, อญฺญสฺส วา วนิพฺพิโน;
‘‘Ye brāhmaṇassa samaṇassa, aññassa vā vanibbino;
ทตฺวาว เสสํ ภุญฺชนฺติ, เต ชนา วิฆาสาทิโน’’ติฯ
Datvāva sesaṃ bhuñjanti, te janā vighāsādino’’ti.
ตตฺถ วนิพฺพิโนติ ตํ ตํ ภณฺฑํ ยาจนกสฺสฯ เอวํ เต ลชฺชาเปตฺวา มหาสโตฺต สกฎฺฐานเมว คโตฯ
Tattha vanibbinoti taṃ taṃ bhaṇḍaṃ yācanakassa. Evaṃ te lajjāpetvā mahāsatto sakaṭṭhānameva gato.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา สตฺต ภาตโร อิเม เกฬิสีลกา ภิกฺขู อเหสุํ, สโกฺก ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ
Satthā imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā jātakaṃ samodhānesi – ‘‘tadā satta bhātaro ime keḷisīlakā bhikkhū ahesuṃ, sakko pana ahameva ahosi’’nti.
วิฆาสาทชาตกวณฺณนา อฎฺฐมาฯ
Vighāsādajātakavaṇṇanā aṭṭhamā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๓๙๓. วิฆาสาทชาตกํ • 393. Vighāsādajātakaṃ