Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / จูฬวคฺค-อฎฺฐกถา • Cūḷavagga-aṭṭhakathā

    ๖. เสนาสนกฺขนฺธกํ

    6. Senāsanakkhandhakaṃ

    วิหารานุชานนกถา

    Vihārānujānanakathā

    ๒๙๔. เสนาสนกฺขนฺธเก – อปญฺญตฺตํ โหตีติ อนนุญฺญาตํ โหติฯ วิหาโร นาม อฑฺฒโยคาทิมุตฺตโก อวเสสาวาโสฯ อฑฺฒโยโคติ สุปณฺณวงฺกเคหํฯ ปาสาโทติ ทีฆปาสาโทฯ หมฺมิยนฺติ อุปริอากาสตเล ปติฎฺฐิตกูฎาคาโร ปาสาโทเยวฯ คุหาติ อิฎฺฐกาคุหา สิลาคุหา ทารุคุหา ปํสุคุหาฯ อาคตานาคตสฺส จาตุทฺทิสสฺส สงฺฆสฺสาติ อาคตสฺส จ อนาคตสฺส จ จตูสุ ทิสาสุ อปฺปฎิหตจารสฺส จาตุทฺทิสสฺส สงฺฆสฺสฯ

    294. Senāsanakkhandhake – apaññattaṃ hotīti ananuññātaṃ hoti. Vihāro nāma aḍḍhayogādimuttako avasesāvāso. Aḍḍhayogoti supaṇṇavaṅkagehaṃ. Pāsādoti dīghapāsādo. Hammiyanti upariākāsatale patiṭṭhitakūṭāgāro pāsādoyeva. Guhāti iṭṭhakāguhā silāguhā dāruguhā paṃsuguhā. Āgatānāgatassa cātuddisassa saṅghassāti āgatassa ca anāgatassa ca catūsu disāsu appaṭihatacārassa cātuddisassa saṅghassa.

    ๒๙๕. อนุโมทนคาถาสุ – สีตํ อุณฺหนฺติ อุตุวิสภาควเสน วุตฺตํฯ สิสิเร จาปิ วุฎฺฐิโยติ เอตฺถ สิสิโรติ สมฺผุสิตกวาโต วุจฺจติฯ วุฎฺฐิโยติ อุชุกเมฆวุฎฺฐิโย เอวฯ เอตานิ สพฺพานิ ปฎิหนฺตีติ อิมินาว ปเทน โยเชตพฺพานิฯ

    295. Anumodanagāthāsu – sītaṃ uṇhanti utuvisabhāgavasena vuttaṃ. Sisire cāpi vuṭṭhiyoti ettha sisiroti samphusitakavāto vuccati. Vuṭṭhiyoti ujukameghavuṭṭhiyo eva. Etāni sabbāni paṭihantīti imināva padena yojetabbāni.

    ปฎิหญฺญตีติ วิหาเรน ปฎิหญฺญติฯ เลณตฺถนฺติ นิลียนตฺถํฯ สุขตฺถนฺติ สีตาทิปริสฺสยาภาเวน สุขวิหารตฺถํฯ ฌายิตุญฺจ วิปสฺสิตุนฺติ อิทมฺปิ ปททฺวยํ ‘‘สุขตฺถญฺจา’’ติ อิมินาว ปเทน โยเชตพฺพํฯ อิทญฺหิ วุตฺตํ โหติ – สุขตฺถญฺจ วิหารทานํ, กตมํ สุขตฺถํ? ฌายิตุํ วิปสฺสิตุญฺจ ยํ สุขํ, ตทตฺถํฯ อถ วา ปรปเทนปิ โยเชตพฺพํ – ฌายิตุญฺจ วิปสฺสิตุญฺจ วิหารทานํ; อิธ ฌายิสฺสนฺติ วิปสฺสิสฺสนฺตีติ ททโต วิหารทานํ สงฺฆสฺส อคฺคํ พุเทฺธน วณฺณิตํฯ วุตฺตเญฺหตํ – ‘‘โส จ สพฺพทโท โหติ, โย ททาติ อุปสฺสย’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๔๒)ฯ

    Paṭihaññatīti vihārena paṭihaññati. Leṇatthanti nilīyanatthaṃ. Sukhatthanti sītādiparissayābhāvena sukhavihāratthaṃ. Jhāyituñca vipassitunti idampi padadvayaṃ ‘‘sukhatthañcā’’ti imināva padena yojetabbaṃ. Idañhi vuttaṃ hoti – sukhatthañca vihāradānaṃ, katamaṃ sukhatthaṃ? Jhāyituṃ vipassituñca yaṃ sukhaṃ, tadatthaṃ. Atha vā parapadenapi yojetabbaṃ – jhāyituñca vipassituñca vihāradānaṃ; idha jhāyissanti vipassissantīti dadato vihāradānaṃ saṅghassa aggaṃ buddhena vaṇṇitaṃ. Vuttañhetaṃ – ‘‘so ca sabbadado hoti, yo dadāti upassaya’’nti (saṃ. ni. 1.42).

    ยสฺมา จ อคฺคํ วณฺณิตํ , ‘‘ตสฺมา หิ ปณฺฑิโต โปโส’’ติ คาถาฯ วาสเยตฺถ พหุสฺสุเตติ เอตฺถ วิหาเร ปริยตฺติพหุสฺสุเต จ ปฎิเวธพหุสฺสุเต จ วาเสยฺยฯ เตสํ อนฺนญฺจาติ ยํ เตสํ อนุจฺฉวิกํ อนฺนญฺจ ปานญฺจ วตฺถานิ จ มญฺจปีฐาทิเสนาสนานิ จ, ตํ สพฺพํ เตสุ อุชุภูเตสุ อกุฎิลจิเตฺตสุฯ ทเทยฺยาติ นิทเหยฺยฯ ตญฺจ โข วิปฺปสเนฺนน เจตสา น จิตฺตปฺปสาทํ วิราเธตฺวา, เอวํ วิปฺปสนฺนจิตฺตสฺส หิ เต ตสฺส ธมฺมํ เทเสนฺติ…เป.… ปรินิพฺพาติ อนาสโวติฯ

    Yasmā ca aggaṃ vaṇṇitaṃ , ‘‘tasmā hi paṇḍito poso’’ti gāthā. Vāsayettha bahussuteti ettha vihāre pariyattibahussute ca paṭivedhabahussute ca vāseyya. Tesaṃ annañcāti yaṃ tesaṃ anucchavikaṃ annañca pānañca vatthāni ca mañcapīṭhādisenāsanāni ca, taṃ sabbaṃ tesu ujubhūtesu akuṭilacittesu. Dadeyyāti nidaheyya. Tañca kho vippasannena cetasā na cittappasādaṃ virādhetvā, evaṃ vippasannacittassa hi te tassa dhammaṃ desenti…pe… parinibbāti anāsavoti.

    ๒๙๖. อาวิญฺฉนจฺฉิทฺทํ อาวิญฺฉนรชฺชุนฺติ เอตฺถ รชฺชุ นาม สเจปิ ทีปินงฺคุเฎฺฐน กตา โหติ, วฎฺฎติเยว; น กาจิ น วฎฺฎติฯ ตีณิ ตาฬานีติ ติโสฺส กุญฺจิกาโยฯ ยนฺตกํ สูจิกนฺติ เอตฺถ ยํ ยํ ชานาติ ตํ ตํ ยนฺตกํ, ตสฺส วิวรณสูจิกญฺจ กาตุํ วฎฺฎติฯ เวทิกาวาตปานํ นาม เจติเย เวทิกาสทิสํฯ ชาลวาตปานํ นาม ชาลกพทฺธํฯ สลากวาตปานํ นาม ถมฺภกวาตปานํฯ จกฺกลิกนฺติ เอตฺถ โจฬกปาทปุญฺฉนํ พนฺธิตุํ อนุชานามีติ อโตฺถฯ วาตปานภิสีติ วาตปานปฺปมาเณน ภิสิํ กตฺวา พนฺธิตุํ อนุชานามีติ อโตฺถฯ มิฑฺฒินฺติ มิฑฺฒกํฯ พิทลมญฺจกนฺติ เวตฺตมญฺจํ; เวฬุวิลีเวหิ วา วีตํฯ

    296.Āviñchanacchiddaṃ āviñchanarajjunti ettha rajju nāma sacepi dīpinaṅguṭṭhena katā hoti, vaṭṭatiyeva; na kāci na vaṭṭati. Tīṇi tāḷānīti tisso kuñcikāyo. Yantakaṃ sūcikanti ettha yaṃ yaṃ jānāti taṃ taṃ yantakaṃ, tassa vivaraṇasūcikañca kātuṃ vaṭṭati. Vedikāvātapānaṃ nāma cetiye vedikāsadisaṃ. Jālavātapānaṃ nāma jālakabaddhaṃ. Salākavātapānaṃ nāma thambhakavātapānaṃ. Cakkalikanti ettha coḷakapādapuñchanaṃ bandhituṃ anujānāmīti attho. Vātapānabhisīti vātapānappamāṇena bhisiṃ katvā bandhituṃ anujānāmīti attho. Miḍḍhinti miḍḍhakaṃ. Bidalamañcakanti vettamañcaṃ; veḷuvilīvehi vā vītaṃ.

    ๒๙๗. อาสนฺทิโกติ จตุรสฺสปีฐํ วุจฺจติฯ อุจฺจกมฺปิ อาสนฺทิกนฺติ วจนโต เอกโตภาเคน ทีฆปีฐเมว หิ อฎฺฐงฺคุลปาทกํ วฎฺฎติ, จตุรสฺสอาสนฺทิโก ปน ปมาณาติกฺกโนฺตปิ วฎฺฎตีติ เวทิตโพฺพฯ สตฺตโงฺค นาม ตีสุ ทิสาสุ อปสฺสยํ กตฺวา กตมโญฺจ, อยมฺปิ ปมาณาติกฺกโนฺต วฎฺฎติฯ ภทฺทปีฐนฺติ เวตฺตมยํ ปีฐํ วุจฺจติฯ ปีฐิกาติ ปิโลติกาพทฺธปีฐเมวฯ เอฬกปาทปีฐํ นาม ทารุปฎฺฎิกาย อุปริ ปาเท ฐเปตฺวา โภชนผลกํ วิย กตปีฐํ วุจฺจติฯ อามลกวฎฺฎิกปีฐํ นาม อามลกากาเรน โยชิตํ พหุปาทกปีฐํฯ อิมานิ ตาว ปาฬิยํ อาคตปีฐานิฯ ทารุมยํ ปน สพฺพํ ปีฐํ วฎฺฎตีติ อยเมตฺถ วินิจฺฉโยฯ โกจฺฉนฺติ อุสิรมยํ วา มุญฺชปพฺพชมยํ วาฯ

    297.Āsandikoti caturassapīṭhaṃ vuccati. Uccakampi āsandikanti vacanato ekatobhāgena dīghapīṭhameva hi aṭṭhaṅgulapādakaṃ vaṭṭati, caturassaāsandiko pana pamāṇātikkantopi vaṭṭatīti veditabbo. Sattaṅgo nāma tīsu disāsu apassayaṃ katvā katamañco, ayampi pamāṇātikkanto vaṭṭati. Bhaddapīṭhanti vettamayaṃ pīṭhaṃ vuccati. Pīṭhikāti pilotikābaddhapīṭhameva. Eḷakapādapīṭhaṃ nāma dārupaṭṭikāya upari pāde ṭhapetvā bhojanaphalakaṃ viya katapīṭhaṃ vuccati. Āmalakavaṭṭikapīṭhaṃ nāma āmalakākārena yojitaṃ bahupādakapīṭhaṃ. Imāni tāva pāḷiyaṃ āgatapīṭhāni. Dārumayaṃ pana sabbaṃ pīṭhaṃ vaṭṭatīti ayamettha vinicchayo. Kocchanti usiramayaṃ vā muñjapabbajamayaṃ vā.

    อฎฺฐงฺคุลปรมํ มญฺจปฎิปาทกนฺติ เอตฺถ มนุสฺสานํ ปมาณงฺคุลเมว อฎฺฐงฺคุลํฯ จิมิลิกา นาม ปริกมฺมกตาย ภูมิยา ฉวิสํรกฺขณตฺถาย อตฺถรณํ วุจฺจติฯ รุกฺขตูลนฺติ สิมฺพลิรุกฺขาทีนํ เยสํ เกสญฺจิ รุกฺขานํ ตูลํฯ ลตาตูลนฺติ ขีรวลฺลิอาทีนํ ยาสํ กาสญฺจิ วลฺลีนํ ตูลํฯ โปฎกิตูลนฺติ โปฎกิติณาทีนํ เยสํ เกสญฺจิ ติณชาติกานํ อนฺตมโส อุจฺฉุนฬาทีนมฺปิ ตูลํฯ เอเตหิ ตีหิ สพฺพภูตคามา สงฺคหิตา โหนฺติฯ รุกฺขวลฺลิติณชาติโย หิ มุญฺจิตฺวา อโญฺญ ภูตคาโม นาม นตฺถิ, ตสฺมา ยสฺส กสฺสจิ ภูตคามสฺส ตูลํ พิโมฺพหเน วฎฺฎติ, ภิสิํ ปน ปาปุณิตฺวา สพฺพเมฺปตํ อกปฺปิยตูลนฺติ วุจฺจติฯ น เกวลญฺจ พิโมฺพหเน เอตํ ตูลเมว, หํสโมราทีนํ สพฺพสกุณานํ สีหาทีนํ สพฺพจตุปฺปทานญฺจ โลมมฺปิ วฎฺฎติฯ ปิยงฺคุปุปฺผพกุฬปุปฺผาทิ ปน ยํกิญฺจิ ปุปฺผํ น วฎฺฎติฯ ตมาลปตฺตํ สุทฺธเมว น วฎฺฎติ, มิสฺสกํ ปน วฎฺฎติฯ ภิสีนํ อนุญฺญาตํ ปญฺจวิธํ อุณฺณาทิตูลมฺปิ วฎฺฎติฯ

    Aṭṭhaṅgulaparamaṃ mañcapaṭipādakanti ettha manussānaṃ pamāṇaṅgulameva aṭṭhaṅgulaṃ. Cimilikā nāma parikammakatāya bhūmiyā chavisaṃrakkhaṇatthāya attharaṇaṃ vuccati. Rukkhatūlanti simbalirukkhādīnaṃ yesaṃ kesañci rukkhānaṃ tūlaṃ. Latātūlanti khīravalliādīnaṃ yāsaṃ kāsañci vallīnaṃ tūlaṃ. Poṭakitūlanti poṭakitiṇādīnaṃ yesaṃ kesañci tiṇajātikānaṃ antamaso ucchunaḷādīnampi tūlaṃ. Etehi tīhi sabbabhūtagāmā saṅgahitā honti. Rukkhavallitiṇajātiyo hi muñcitvā añño bhūtagāmo nāma natthi, tasmā yassa kassaci bhūtagāmassa tūlaṃ bimbohane vaṭṭati, bhisiṃ pana pāpuṇitvā sabbampetaṃ akappiyatūlanti vuccati. Na kevalañca bimbohane etaṃ tūlameva, haṃsamorādīnaṃ sabbasakuṇānaṃ sīhādīnaṃ sabbacatuppadānañca lomampi vaṭṭati. Piyaṅgupupphabakuḷapupphādi pana yaṃkiñci pupphaṃ na vaṭṭati. Tamālapattaṃ suddhameva na vaṭṭati, missakaṃ pana vaṭṭati. Bhisīnaṃ anuññātaṃ pañcavidhaṃ uṇṇāditūlampi vaṭṭati.

    อทฺธกายิกานีติ อุปฑฺฒกายปฺปมาณานิ, เยสุ กฎิโต ปฎฺฐาย ยาว สีสํ อุปทหนฺติฯ สีสปฺปมาณํ นาม ยสฺส วิตฺถารโต ตีสุ กเณฺณสุ ทฺวินฺนํ กณฺณานํ อนฺตรํ มินียมานํ วิทตฺถิ เจว จตุรงฺคุลญฺจ โหติ, มชฺฌฎฺฐานํ มุฎฺฐิรตนํ โหติฯ ทีฆโต ปน ทิยฑฺฒรตนํ วา ทฺวิรตนํ วาติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํฯ อยํ สีสปฺปมาณสฺส อุกฺกฎฺฐปริเจฺฉโทฯ อิโต อุทฺธํ น วฎฺฎติ, เหฎฺฐา ปน วฎฺฎติฯ อคิลานสฺส สีสุปธานญฺจ ปาทุปธานญฺจาติ ทฺวยเมว วฎฺฎติ ฯ คิลานสฺส พิโมฺพหนานิ สนฺถริตฺวา อุปริ ปจฺจตฺถรณํ กตฺวา นิปชฺชิตุมฺปิ วฎฺฎติฯ ‘‘ยานิ ปน ภิสีนํ อนุญฺญาตานิ ปญฺจ กปฺปิยตูลานิ, เตหิ พิโมฺพหนํ มหนฺตมฺปิ วฎฺฎตี’’ติ ผุสฺสเทวเตฺถโร อาหฯ วินยธรอุปติสฺสเตฺถโร ปน ‘‘พิโมฺพหนํ กริสฺสามี’ติ กปฺปิยตูลํ วา อกปฺปิยตูลํ วา ปกฺขิปิตฺวา กโรนฺตสฺส ปมาณเมว วฎฺฎตี’’ติ อาหฯ

    Addhakāyikānīti upaḍḍhakāyappamāṇāni, yesu kaṭito paṭṭhāya yāva sīsaṃ upadahanti. Sīsappamāṇaṃ nāma yassa vitthārato tīsu kaṇṇesu dvinnaṃ kaṇṇānaṃ antaraṃ minīyamānaṃ vidatthi ceva caturaṅgulañca hoti, majjhaṭṭhānaṃ muṭṭhiratanaṃ hoti. Dīghato pana diyaḍḍharatanaṃ vā dviratanaṃ vāti kurundiyaṃ vuttaṃ. Ayaṃ sīsappamāṇassa ukkaṭṭhaparicchedo. Ito uddhaṃ na vaṭṭati, heṭṭhā pana vaṭṭati. Agilānassa sīsupadhānañca pādupadhānañcāti dvayameva vaṭṭati . Gilānassa bimbohanāni santharitvā upari paccattharaṇaṃ katvā nipajjitumpi vaṭṭati. ‘‘Yāni pana bhisīnaṃ anuññātāni pañca kappiyatūlāni, tehi bimbohanaṃ mahantampi vaṭṭatī’’ti phussadevatthero āha. Vinayadharaupatissatthero pana ‘‘bimbohanaṃ karissāmī’ti kappiyatūlaṃ vā akappiyatūlaṃ vā pakkhipitvā karontassa pamāṇameva vaṭṭatī’’ti āha.

    ปญฺจ ภิสิโยติ ปญฺจหิ อุณฺณาทีหิ ปูริตภิสิโยฯ ตูลคณนาย หิ เอตาสํ คณนา วุตฺตาฯ ตตฺถ อุณฺณคฺคหเณน น เกวลํ เอฬกโลมเมว คหิตํ, ฐเปตฺวา มนุสฺสโลมํ ยํกิญฺจิ กปฺปิยากปฺปิยมํสชาตีนํ ปกฺขิจตุปฺปทานํ โลมํ, สพฺพํ อิธ อุณฺณคฺคหเณเนว คหิตํฯ ตสฺมา ฉนฺนํ จีวรานํ ฉนฺนํ อนุโลมจีวรานญฺจ อญฺญตเรน ภิสิจฺฉวิํ กตฺวา ตํ สพฺพํ ปกฺขิปิตฺวา ภิสิํ กาตุํ วฎฺฎติฯ เอฬกโลมานิ ปน อปกฺขิปิตฺวา กมฺพลเมว จตุคฺคุณํ วา ปญฺจคุณํ วา ปกฺขิปิตฺวา กตาปิ อุณฺณภิสิสงฺขฺยเมว คจฺฉติฯ

    Pañca bhisiyoti pañcahi uṇṇādīhi pūritabhisiyo. Tūlagaṇanāya hi etāsaṃ gaṇanā vuttā. Tattha uṇṇaggahaṇena na kevalaṃ eḷakalomameva gahitaṃ, ṭhapetvā manussalomaṃ yaṃkiñci kappiyākappiyamaṃsajātīnaṃ pakkhicatuppadānaṃ lomaṃ, sabbaṃ idha uṇṇaggahaṇeneva gahitaṃ. Tasmā channaṃ cīvarānaṃ channaṃ anulomacīvarānañca aññatarena bhisicchaviṃ katvā taṃ sabbaṃ pakkhipitvā bhisiṃ kātuṃ vaṭṭati. Eḷakalomāni pana apakkhipitvā kambalameva catugguṇaṃ vā pañcaguṇaṃ vā pakkhipitvā katāpi uṇṇabhisisaṅkhyameva gacchati.

    โจฬภิสิอาทีสุ ยํกิญฺจิ นวโจฬํ วา ปุราณโจฬํ วา สํหริตฺวา วา อโนฺต ปกฺขิปิตฺวา วา กตา โจฬภิสิ, ยํกิญฺจิ วากํ ปกฺขิปิตฺวา กตา วากภิสิ, ยํกิญฺจิ ติณํ ปกฺขิปิตฺวา กตา ติณภิสิ, อญฺญตฺร สุทฺธตมาลปตฺตํ ยํกิญฺจิ ปณฺณํ ปกฺขิปิตฺวา กตา ปณฺณภิสีติ เวทิตพฺพาฯ ตมาลปตฺตํ ปน อเญฺญน มิสฺสเมว วฎฺฎติ, สุทฺธํ น วฎฺฎติฯ ภิสิยา ปมาณนิยโม นตฺถิ, มญฺจภิสิ ปีฐภิสิ ภูมตฺถรณภิสิ จงฺกมนภิสิ ปาทปุญฺฉนภิสีติ เอตาสํ อนุรูปโต สลฺลเกฺขตฺวา อตฺตโน รุจิวเสน ปมาณํ กาตพฺพํฯ ยํ ปเนตํ อุณฺณาทิปญฺจวิธตูลมฺปิ ภิสิยํ วฎฺฎติ, ตํ ‘‘มสูรเกปิ วฎฺฎตี’’ติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํฯ เอเตน มสูรกํ ปริภุญฺชิตุํ วฎฺฎตีติ สิทฺธํ โหติฯ

    Coḷabhisiādīsu yaṃkiñci navacoḷaṃ vā purāṇacoḷaṃ vā saṃharitvā vā anto pakkhipitvā vā katā coḷabhisi, yaṃkiñci vākaṃ pakkhipitvā katā vākabhisi, yaṃkiñci tiṇaṃ pakkhipitvā katā tiṇabhisi, aññatra suddhatamālapattaṃ yaṃkiñci paṇṇaṃ pakkhipitvā katā paṇṇabhisīti veditabbā. Tamālapattaṃ pana aññena missameva vaṭṭati, suddhaṃ na vaṭṭati. Bhisiyā pamāṇaniyamo natthi, mañcabhisi pīṭhabhisi bhūmattharaṇabhisi caṅkamanabhisi pādapuñchanabhisīti etāsaṃ anurūpato sallakkhetvā attano rucivasena pamāṇaṃ kātabbaṃ. Yaṃ panetaṃ uṇṇādipañcavidhatūlampi bhisiyaṃ vaṭṭati, taṃ ‘‘masūrakepi vaṭṭatī’’ti kurundiyaṃ vuttaṃ. Etena masūrakaṃ paribhuñjituṃ vaṭṭatīti siddhaṃ hoti.

    มญฺจภิสิํ ปีเฐ สนฺถรนฺตีติ มญฺจภิสิํ ปีเฐ อตฺถรนฺติ; อตฺถรณตฺถาย หรนฺตีติ ยุชฺชติฯ อุโลฺลกํ อกริตฺวาติ เหฎฺฐา จิมิลิกํ อทตฺวาฯ โผสิตุนฺติ รชเนน วา หลิทฺทิยา วา อุปริ ผุสิตานิ ทาตุํฯ ภตฺติกมฺมนฺติ ภิสิจฺฉวิยา อุปริ ภตฺติกมฺมํฯ หตฺถภตฺตินฺติ ปญฺจงฺคุลิภตฺติํฯ

    Mañcabhisiṃ pīṭhe santharantīti mañcabhisiṃ pīṭhe attharanti; attharaṇatthāya harantīti yujjati. Ullokaṃ akaritvāti heṭṭhā cimilikaṃ adatvā. Phositunti rajanena vā haliddiyā vā upari phusitāni dātuṃ. Bhattikammanti bhisicchaviyā upari bhattikammaṃ. Hatthabhattinti pañcaṅgulibhattiṃ.

    ๒๙๘. อิกฺกาสนฺติ รุกฺขนิยฺยาสํ วา สิเลสํ วาฯ ปิฎฺฐมทฺทนฺติ ปิฎฺฐขลิํฯ กุณฺฑกมตฺติกนฺติ กุณฺฑกมิสฺสกมตฺติกํฯ สาสปกุฎฺฎนฺติ สาสปปิฎฺฐํฯ สิตฺถเตลกนฺติ วิลีนมธุสิตฺถกํฯ อจฺจุสฺสนฺนํ โหตีติ พินฺทุ พินฺทุ หุตฺวา ติฎฺฐติฯ ปจฺจุทฺธริตุนฺติ ปุญฺฉิตุํฯ คณฺฑุมตฺติกนฺติ คณฺฑุปฺปาทคูถมตฺติกํฯ กสาวนฺติ อามลกหรีตกานํ กสาวํฯ

    298.Ikkāsanti rukkhaniyyāsaṃ vā silesaṃ vā. Piṭṭhamaddanti piṭṭhakhaliṃ. Kuṇḍakamattikanti kuṇḍakamissakamattikaṃ. Sāsapakuṭṭanti sāsapapiṭṭhaṃ. Sitthatelakanti vilīnamadhusitthakaṃ. Accussannaṃ hotīti bindu bindu hutvā tiṭṭhati. Paccuddharitunti puñchituṃ. Gaṇḍumattikanti gaṇḍuppādagūthamattikaṃ. Kasāvanti āmalakaharītakānaṃ kasāvaṃ.

    ๒๙๙. น ภิกฺขเว ปฎิภานจิตฺตนฺติ เอตฺถ น เกวลํ อิตฺถิปุริสรูปเมว, ติรจฺฉานรูปมฺปิ อนฺตมโส คณฺฑุปฺปาทรูปมฺปิ ภิกฺขุโน สยํ กาตุํ วา ‘‘กโรหี’’ติ วตฺตุํ วา น วฎฺฎติ, ‘‘อุปาสก ทฺวารปาลํ กโรหี’’ติ วตฺตุมฺปิ น ลพฺภติฯ ชาตกปกรณอสทิสทานาทีนิ ปน ปสาทนียานิ นิพฺพิทาปฎิสํยุตฺตานิ วา วตฺถูนิ ปเรหิ การาเปตุํ ลพฺภติฯ มาลากมฺมาทีนิ สยมฺปิ กาตุํ ลพฺภติฯ

    299.Na bhikkhave paṭibhānacittanti ettha na kevalaṃ itthipurisarūpameva, tiracchānarūpampi antamaso gaṇḍuppādarūpampi bhikkhuno sayaṃ kātuṃ vā ‘‘karohī’’ti vattuṃ vā na vaṭṭati, ‘‘upāsaka dvārapālaṃ karohī’’ti vattumpi na labbhati. Jātakapakaraṇaasadisadānādīni pana pasādanīyāni nibbidāpaṭisaṃyuttāni vā vatthūni parehi kārāpetuṃ labbhati. Mālākammādīni sayampi kātuṃ labbhati.

    ๓๐๐. อฬกมนฺทาติ เอกงฺคณา มนุสฺสาภิกิณฺณาฯ ตโย คเพฺภติ เอตฺถ สิวิกาคโพฺภติ จตุรสฺสคโพฺภฯ นาฬิกาคโพฺภติ วิตฺถารโต ทิคุณติคุณายาโม ทีฆคโพฺภฯ หมฺมิยคโพฺภติ อากาสตเล กูฎาคารคโพฺภ วา มุณฺฑจฺฉทนคโพฺภ วาฯ

    300.Aḷakamandāti ekaṅgaṇā manussābhikiṇṇā. Tayo gabbheti ettha sivikāgabbhoti caturassagabbho. Nāḷikāgabbhoti vitthārato diguṇatiguṇāyāmo dīghagabbho. Hammiyagabbhoti ākāsatale kūṭāgāragabbho vā muṇḍacchadanagabbho vā.

    กลงฺกปาทกนฺติ รุกฺขํ วิชฺฌิตฺวา ตตฺถ ขาณุเก อาโกเฎตฺวา กตํ, ตํ อาหริมํ ภิตฺติปาทํ ชิณฺณกุฎฺฎปาทสฺส อุปตฺถมฺภนตฺถํ ภูมิยํ ปติฎฺฐาเปตุํ อนุชานามีติ อโตฺถฯ ปริตฺตาณกิฎิกนฺติ วสฺสปริตฺตาณตฺถํ กิฎิกํฯ อุทฺทสุธนฺติ วจฺฉกโคมเยน เจว ฉาริกาย จ สทฺธิํ มทฺทิตมตฺติกํฯ

    Kalaṅkapādakanti rukkhaṃ vijjhitvā tattha khāṇuke ākoṭetvā kataṃ, taṃ āharimaṃ bhittipādaṃ jiṇṇakuṭṭapādassa upatthambhanatthaṃ bhūmiyaṃ patiṭṭhāpetuṃ anujānāmīti attho. Parittāṇakiṭikanti vassaparittāṇatthaṃ kiṭikaṃ. Uddasudhanti vacchakagomayena ceva chārikāya ca saddhiṃ madditamattikaṃ.

    อาฬิโนฺท นาม ปมุขํ วุจฺจติฯ ปฆนํ นาม ยํ นิกฺขมนฺตา จ ปวิสนฺตา จ ปาเทหิ หนนฺติ, ตสฺส วิหารทฺวาเร อุภโต กุฎฺฎํ นีหริตฺวา กตปเทสเสฺสตํ อธิวจนํ, ‘‘ปฆาน’’นฺติปิ วุจฺจติฯ ปกุฎฺฎนฺติ มเชฺฌ คพฺภสฺส สมนฺตา ปริยาคาโร วุจฺจติฯ ‘‘ปกุฎ’’นฺติปิ ปาโฐฯ โอสารกนฺติ อนาฬินฺทเก วิหาเร วํสํ ทตฺวา ตโต ทณฺฑเก โอสาเรตฺวา กตฉทนปมุขํฯ สํสารณกิฎิโก นาม จกฺกลยุโตฺต กิฎิโกฯ

    Āḷindo nāma pamukhaṃ vuccati. Paghanaṃ nāma yaṃ nikkhamantā ca pavisantā ca pādehi hananti, tassa vihāradvāre ubhato kuṭṭaṃ nīharitvā katapadesassetaṃ adhivacanaṃ, ‘‘paghāna’’ntipi vuccati. Pakuṭṭanti majjhe gabbhassa samantā pariyāgāro vuccati. ‘‘Pakuṭa’’ntipi pāṭho. Osārakanti anāḷindake vihāre vaṃsaṃ datvā tato daṇḍake osāretvā katachadanapamukhaṃ. Saṃsāraṇakiṭiko nāma cakkalayutto kiṭiko.

    ๓๐๑. ปานียภาชนนฺติ ปิวนฺตานํ ปานียทานภาชนํฯ อุฬุโงฺก จ ถาลกญฺจ ปานียสงฺขสฺส อนุโลมานิฯ

    301.Pānīyabhājananti pivantānaṃ pānīyadānabhājanaṃ. Uḷuṅko ca thālakañca pānīyasaṅkhassa anulomāni.

    ๓๐๓. อเปสีติ ทีฆทารุมฺหิ ขาณุเก ปเวเสตฺวา กณฺฎกสาขาหิ วินนฺธิตฺวา กตํ ทฺวารถกนกํฯ ปลิโฆติ คามทฺวาเรสุ วิย จกฺกยุตฺตํ ทฺวารถกนกํฯ

    303.Apesīti dīghadārumhi khāṇuke pavesetvā kaṇṭakasākhāhi vinandhitvā kataṃ dvārathakanakaṃ. Palighoti gāmadvāresu viya cakkayuttaṃ dvārathakanakaṃ.

    ๓๐๕. อสฺสตรีหิ ยุตฺตา รถา อสฺสตรีรถาอามุตฺตมณิกุณฺฑลาติ อามุตฺตมณิกุณฺฑลานิฯ

    305. Assatarīhi yuttā rathā assatarīrathā. Āmuttamaṇikuṇḍalāti āmuttamaṇikuṇḍalāni.

    ปรินิพฺพุโตติ กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพุโตฯ สีติภูโตติ กิเลสาตปาภาเวน สีติภูโตฯ นิรูปธีติ กิเลสุปธิอภาเวน นิรูปธีติ วุจฺจติฯ

    Parinibbutoti kilesaparinibbānena parinibbuto. Sītibhūtoti kilesātapābhāvena sītibhūto. Nirūpadhīti kilesupadhiabhāvena nirūpadhīti vuccati.

    สพฺพา อาสตฺติโย เฉตฺวาติ รูปาทีสุ วา วิสเยสุ สพฺพภเวสุ วา ปตฺถนาโย ฉินฺทิตฺวาฯ หทเย ทรนฺติ จิเตฺต กิเลสทรถํ วิเนตฺวาฯ เวยฺยายิกนฺติ วยกรณํ วุจฺจติฯ

    Sabbā āsattiyo chetvāti rūpādīsu vā visayesu sabbabhavesu vā patthanāyo chinditvā. Hadaye daranti citte kilesadarathaṃ vinetvā. Veyyāyikanti vayakaraṇaṃ vuccati.

    ๓๐๗. อาเทยฺยวาโจติ ตสฺส วจนํ พหู ชนา อาทิยิตพฺพํ โสตพฺพํ มญฺญนฺตีติ อโตฺถฯ อาราเม อกํสูติ เย สธนา, เต อตฺตโน ธเนน อกํสุฯ เย มนฺทธนา เจว อธนา จ, เตสํ ธนํ อทาสิฯ อิติ โส สตสหสฺสกหาปเณ สตสหสฺสคฺฆนกญฺจ ภณฺฑํ ทตฺวา ปญฺจจตฺตาลีสโยชนิเก อทฺธาเน โยชเน โยชเน วิหารปติฎฺฐานํ กตฺวา สาวตฺถิํ อคมาสิฯ

    307.Ādeyyavācoti tassa vacanaṃ bahū janā ādiyitabbaṃ sotabbaṃ maññantīti attho. Ārāme akaṃsūti ye sadhanā, te attano dhanena akaṃsu. Ye mandadhanā ceva adhanā ca, tesaṃ dhanaṃ adāsi. Iti so satasahassakahāpaṇe satasahassagghanakañca bhaṇḍaṃ datvā pañcacattālīsayojanike addhāne yojane yojane vihārapatiṭṭhānaṃ katvā sāvatthiṃ agamāsi.

    โกฎิสนฺถรํ สนฺถราเปสีติ กหาปณโกฎิยา กหาปณโกฎิํ ปฎิปาเทตฺวา สนฺถริฯ เย ตตฺถ รุกฺขา วา โปกฺขรณิโย วา เตสํ ปริเกฺขปปฺปมาณํ คเหตฺวา อญฺญสฺมิํ ฐาเน สนฺถริตฺวา อทาสิฯ เอวมสฺส อฎฺฐารสโกฎิกํ นิธานํ ปริกฺขยํ อคมาสิฯ

    Koṭisantharaṃsantharāpesīti kahāpaṇakoṭiyā kahāpaṇakoṭiṃ paṭipādetvā santhari. Ye tattha rukkhā vā pokkharaṇiyo vā tesaṃ parikkhepappamāṇaṃ gahetvā aññasmiṃ ṭhāne santharitvā adāsi. Evamassa aṭṭhārasakoṭikaṃ nidhānaṃ parikkhayaṃ agamāsi.

    กุมารสฺส เอตทโหสีติ คหปติโน เอวํ พหุธนํ จชนฺตสฺสาปิ มุขสฺส วิปฺปสนฺนาการํ ทิสฺวา เอตํ อโหสิฯ โกฎฺฐกํ มาเปสีติ สตฺตภูมิกํ ทฺวารโกฎฺฐกปาสาทํ มาเปสิฯ

    Kumārassaetadahosīti gahapatino evaṃ bahudhanaṃ cajantassāpi mukhassa vippasannākāraṃ disvā etaṃ ahosi. Koṭṭhakaṃ māpesīti sattabhūmikaṃ dvārakoṭṭhakapāsādaṃ māpesi.

    อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เชตวเน วิหาเร การาเปสิ…เป.… มณฺฑเป การาเปสีติ อปราหิปิ อฎฺฐารสหิ โกฎีหิ เอเต วิหาราทโย การาเปสิ อฎฺฐกรีสปฺปมาณาย ภูมิยาฯ วิปสฺสิสฺส หิ ภควโต ปุนพฺพสุมิโตฺต คหปติ โยชนปฺปมาณํ ภูมิํ สุวณฺณิฎฺฐกาสนฺถเรน กิณิตฺวา วิหารํ การาเปสิฯ สิขิสฺส ปน สิริวโฑฺฒ คหปติ ติคาวุตปฺปมาณํ สุวณฺณยฎฺฐิสนฺถเรน, เวสฺสภุสฺส โสตฺถิโช คหปติ อฑฺฒโยชนปฺปมาณํ สุวณฺณผาลสนฺถเรน, กกุสนฺธสฺส ปน อจฺจุโต คหปติ คาวุตปฺปมาณํ สุวณฺณหตฺถิปทสนฺถเรน, โกณาคมนสฺส อุโคฺค คหปติ อฑฺฒคาวุตปฺปมาณํ สุวณฺณิฎฺฐกาสนฺถเรน, กสฺสปสฺส สุมงฺคโล คหปติ วีสติอุสภปฺปมาณํ สุวณฺณกจฺฉปสนฺถเรน, อมฺหากํ ภควโต สุทโตฺต คหปติ อฎฺฐกรีสปฺปมาณํ ภูมิํ กหาปณสนฺถเรน กิณิตฺวา วิหารํ การาเปสีติ; เอวํ อนุปุเพฺพน ปริหายนฺติ สมฺปตฺติโยติ อลเมว สพฺพสมฺปตฺตีสุ วิรชฺชิตุํ อลํ วิมุจฺจิตุนฺติฯ

    Atha kho anāthapiṇḍiko gahapati jetavane vihāre kārāpesi…pe… maṇḍape kārāpesīti aparāhipi aṭṭhārasahi koṭīhi ete vihārādayo kārāpesi aṭṭhakarīsappamāṇāya bhūmiyā. Vipassissa hi bhagavato punabbasumitto gahapati yojanappamāṇaṃ bhūmiṃ suvaṇṇiṭṭhakāsantharena kiṇitvā vihāraṃ kārāpesi. Sikhissa pana sirivaḍḍho gahapati tigāvutappamāṇaṃ suvaṇṇayaṭṭhisantharena, vessabhussa sotthijo gahapati aḍḍhayojanappamāṇaṃ suvaṇṇaphālasantharena, kakusandhassa pana accuto gahapati gāvutappamāṇaṃ suvaṇṇahatthipadasantharena, koṇāgamanassa uggo gahapati aḍḍhagāvutappamāṇaṃ suvaṇṇiṭṭhakāsantharena, kassapassa sumaṅgalo gahapati vīsatiusabhappamāṇaṃ suvaṇṇakacchapasantharena, amhākaṃ bhagavato sudatto gahapati aṭṭhakarīsappamāṇaṃ bhūmiṃ kahāpaṇasantharena kiṇitvā vihāraṃ kārāpesīti; evaṃ anupubbena parihāyanti sampattiyoti alameva sabbasampattīsu virajjituṃ alaṃ vimuccitunti.

    ๓๐๘. ขณฺฑนฺติ ภิโนฺนกาโสฯ ผุลฺลนฺติ ผลิโตกาโสฯ ปฎิสงฺขริสฺสตีติ ปากติกํ กริสฺสติฯ ลทฺธนวกเมฺมน ปน ภิกฺขุนา วาสิผรสุนิขาทนาทีนิ คเหตฺวา สยํ น กาตพฺพํ, กตากตํ ชานิตพฺพํฯ

    308.Khaṇḍanti bhinnokāso. Phullanti phalitokāso. Paṭisaṅkharissatīti pākatikaṃ karissati. Laddhanavakammena pana bhikkhunā vāsipharasunikhādanādīni gahetvā sayaṃ na kātabbaṃ, katākataṃ jānitabbaṃ.

    ๓๑๐. ปิฎฺฐิโต ปิฎฺฐิโต คนฺตฺวาติ เถโร กิร คิลาเน ปฎิชคฺคโนฺต ชิเณฺณ วุเฑฺฒ สงฺคณฺหโนฺต สพฺพปจฺฉโต อาคจฺฉติฯ อิทมสฺส จาริตฺตํฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘ปิฎฺฐิโต ปิฎฺฐิโต คนฺตฺวา’’ติฯ อคฺคาสนนฺติ เถราสนํฯ อโคฺคทกนฺติ ทกฺขิโณทกํฯ อคฺคปิณฺฑนฺติ สงฺฆเตฺถรปิณฺฑํฯ อนฺตรา สตฺถีนํ กริตฺวาติ จตุนฺนํ ปาทานํ อนฺตเร กริตฺวาฯ

    310.Piṭṭhito piṭṭhito gantvāti thero kira gilāne paṭijagganto jiṇṇe vuḍḍhe saṅgaṇhanto sabbapacchato āgacchati. Idamassa cārittaṃ. Tena vuttaṃ – ‘‘piṭṭhito piṭṭhito gantvā’’ti. Aggāsananti therāsanaṃ. Aggodakanti dakkhiṇodakaṃ. Aggapiṇḍanti saṅghattherapiṇḍaṃ. Antarā satthīnaṃ karitvāti catunnaṃ pādānaṃ antare karitvā.

    ๓๑๕. ปติฎฺฐาเปสีติ อฎฺฐารสโกฎิปริจฺจาคํ กตฺวา ปติฎฺฐาเปสิฯ เอวํ สพฺพาปิ จตุปณฺณาสโกฎิโย ปริจฺจชิฯ

    315.Patiṭṭhāpesīti aṭṭhārasakoṭipariccāgaṃ katvā patiṭṭhāpesi. Evaṃ sabbāpi catupaṇṇāsakoṭiyo pariccaji.

    วิหารานุชานนกถา นิฎฺฐิตาฯ

    Vihārānujānanakathā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / วิหารานุชานนกถาวณฺณนา • Vihārānujānanakathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / วิหารานุชานนกถาวณฺณนา • Vihārānujānanakathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / วิหารานุชานนกถา • Vihārānujānanakathā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact