Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / จูฬวคฺคปาฬิ • Cūḷavaggapāḷi

    ๖. เสนาสนกฺขนฺธกํ

    6. Senāsanakkhandhakaṃ

    ๑. ปฐมภาณวาโร

    1. Paṭhamabhāṇavāro

    วิหารานุชานนํ

    Vihārānujānanaṃ

    ๒๙๔. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเปฯ เตน โข ปน สมเยน ภควตา ภิกฺขูนํ เสนาสนํ อปญฺญตฺตํ โหติฯ เต จ ภิกฺขู ตหํ ตหํ วิหรนฺติ – อรเญฺญ, รุกฺขมูเล, ปพฺพเต, กนฺทรายํ, คิริคุหายํ, สุสาเน, วนปเตฺถ, อโชฺฌกาเส, ปลาลปุเญฺชฯ เต กาลเสฺสว ตโต ตโต อุปนิกฺขมนฺติ – อรญฺญา รุกฺขมูลา ปพฺพตา กนฺทรา คิริคุหา สุสานา วนปตฺถา อโชฺฌกาสา ปลาลปุญฺชา, ปาสาทิเกน อภิกฺกเนฺตน ปฎิกฺกเนฺตน, อาโลกิเตน วิโลกิเตน, สมิญฺชิเตน ปสาริเตน, โอกฺขิตฺตจกฺขู, อิริยาปถสมฺปนฺนาฯ เตน โข ปน สมเยน ราชคหโก เสฎฺฐี 1 กาลเสฺสว อุยฺยานํ อคมาสิฯ อทฺทสา โข ราชคหโก เสฎฺฐี เต ภิกฺขู กาลเสฺสว ตโต ตโต อุปนิกฺขมเนฺต – อรญฺญา รุกฺขมูลา ปพฺพตา กนฺทรา คิริคุหา สุสานา วนปตฺถา อโชฺฌกาสา ปลาลปุญฺชา, ปาสาทิเกน อภิกฺกเนฺตน ปฎิกฺกเนฺตน, อาโลกิเตน วิโลกิเตน, สมิญฺชิเตน ปสาริเตน, โอกฺขิตฺตจกฺขู, อิริยาปถสมฺปเนฺนฯ ทิสฺวานสฺส จิตฺตํ ปสีทิฯ อถ โข ราชคหโก เสฎฺฐี เยน เต ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา เต ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘สจาหํ, ภเนฺต, วิหาเร การาเปยฺยํ, วเสยฺยาถ เม วิหาเรสู’’ติ? ‘‘น โข, คหปติ, ภควตา วิหารา อนุญฺญาตา’’ติฯ ‘‘เตน หิ, ภเนฺต, ภควนฺตํ ปฎิปุจฺฉิตฺวา มม อาโรเจยฺยาถา’’ติฯ ‘‘เอวํ คหปตี’’ติ โข เต ภิกฺขู ราชคหกสฺส เสฎฺฐิสฺส ปฎิสฺสุตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘ราชคหโก, ภเนฺต, เสฎฺฐี วิหาเร การาเปตุกาโมฯ กถํ นุ โข, ภเนฺต, อเมฺหหิ 2 ปฎิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ? อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปญฺจ เลณานิ 3 – วิหารํ, อฑฺฒโยคํ, ปาสาทํ, หมฺมิยํ, คุห’’นฺติฯ

    294. Tena samayena buddho bhagavā rājagahe viharati veḷuvane kalandakanivāpe. Tena kho pana samayena bhagavatā bhikkhūnaṃ senāsanaṃ apaññattaṃ hoti. Te ca bhikkhū tahaṃ tahaṃ viharanti – araññe, rukkhamūle, pabbate, kandarāyaṃ, giriguhāyaṃ, susāne, vanapatthe, ajjhokāse, palālapuñje. Te kālasseva tato tato upanikkhamanti – araññā rukkhamūlā pabbatā kandarā giriguhā susānā vanapatthā ajjhokāsā palālapuñjā, pāsādikena abhikkantena paṭikkantena, ālokitena vilokitena, samiñjitena pasāritena, okkhittacakkhū, iriyāpathasampannā. Tena kho pana samayena rājagahako seṭṭhī 4 kālasseva uyyānaṃ agamāsi. Addasā kho rājagahako seṭṭhī te bhikkhū kālasseva tato tato upanikkhamante – araññā rukkhamūlā pabbatā kandarā giriguhā susānā vanapatthā ajjhokāsā palālapuñjā, pāsādikena abhikkantena paṭikkantena, ālokitena vilokitena, samiñjitena pasāritena, okkhittacakkhū, iriyāpathasampanne. Disvānassa cittaṃ pasīdi. Atha kho rājagahako seṭṭhī yena te bhikkhū tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā te bhikkhū etadavoca – ‘‘sacāhaṃ, bhante, vihāre kārāpeyyaṃ, vaseyyātha me vihāresū’’ti? ‘‘Na kho, gahapati, bhagavatā vihārā anuññātā’’ti. ‘‘Tena hi, bhante, bhagavantaṃ paṭipucchitvā mama āroceyyāthā’’ti. ‘‘Evaṃ gahapatī’’ti kho te bhikkhū rājagahakassa seṭṭhissa paṭissutvā yena bhagavā tenupasaṅkamiṃsu, upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdiṃsu. Ekamantaṃ nisinnā kho te bhikkhū bhagavantaṃ etadavocuṃ – ‘‘rājagahako, bhante, seṭṭhī vihāre kārāpetukāmo. Kathaṃ nu kho, bhante, amhehi 5 paṭipajjitabba’’nti? Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘anujānāmi, bhikkhave, pañca leṇāni 6 – vihāraṃ, aḍḍhayogaṃ, pāsādaṃ, hammiyaṃ, guha’’nti.

    อถ โข เต ภิกฺขู เยน ราชคหโก เสฎฺฐี เตนุปสงฺกมิํสุ, อุปสงฺกมิตฺวา ราชคหกํ เสฎฺฐิํ เอตทโวจุํ – ‘‘อนุญฺญาตา โข, คหปติ, ภควตา วิหารา; ยสฺสทานิ กาลํ มญฺญสี’’ติฯ อถ โข ราชคหโก เสฎฺฐี เอกาเหเนว สฎฺฐิวิหาเร ปติฎฺฐาเปสิฯ อถ โข ราชคหโก เสฎฺฐี เต สฎฺฐิวิหาเร ปริโยสาเปตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข ราชคหโก เสฎฺฐี ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อธิวาเสตุ เม, ภเนฺต, ภควา สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธิํ ภิกฺขุสเงฺฆนา’’ติฯ อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวนฯ อถ โข ราชคหโก เสฎฺฐี ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฎฺฐายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิฯ

    Atha kho te bhikkhū yena rājagahako seṭṭhī tenupasaṅkamiṃsu, upasaṅkamitvā rājagahakaṃ seṭṭhiṃ etadavocuṃ – ‘‘anuññātā kho, gahapati, bhagavatā vihārā; yassadāni kālaṃ maññasī’’ti. Atha kho rājagahako seṭṭhī ekāheneva saṭṭhivihāre patiṭṭhāpesi. Atha kho rājagahako seṭṭhī te saṭṭhivihāre pariyosāpetvā yena bhagavā tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho rājagahako seṭṭhī bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘adhivāsetu me, bhante, bhagavā svātanāya bhattaṃ saddhiṃ bhikkhusaṅghenā’’ti. Adhivāsesi bhagavā tuṇhībhāvena. Atha kho rājagahako seṭṭhī bhagavato adhivāsanaṃ viditvā uṭṭhāyāsanā bhagavantaṃ abhivādetvā padakkhiṇaṃ katvā pakkāmi.

    อถ โข ราชคหโก เสฎฺฐี ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฎิยาทาเปตฺวา ภควโต กาลํ อาโรจาเปสิ – ‘‘กาโล, ภเนฺต, นิฎฺฐิตํ ภตฺต’’นฺติฯ อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน ราชคหกสฺส เสฎฺฐิสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญเตฺต อาสเน นิสีทิ สทฺธิํ ภิกฺขุสเงฺฆนฯ อถ โข ราชคหโก เสฎฺฐี พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตเปฺปตฺวา สมฺปวาเรตฺวา, ภควนฺตํ ภุตฺตาวิํ โอนีตปตฺตปาณิํ, เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข ราชคหโก เสฎฺฐี ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เอเต เม, ภเนฺต, สฎฺฐิวิหารา ปุญฺญตฺถิเกน สคฺคตฺถิเกน การาปิตาฯ กถาหํ, ภเนฺต, เตสุ วิหาเรสุ ปฎิปชฺชามี’’ติ? ‘‘เตน หิ ตฺวํ, คหปติ, เต สฎฺฐิวิหาเร อาคตานาคตสฺส จาตุทฺทิสสฺส สงฺฆสฺส ปติฎฺฐาเปหี’’ติฯ ‘‘เอวํ ภเนฺต’’ติ โข ราชคหโก เสฎฺฐี ภควโต ปฎิสฺสุตฺวา เต สฎฺฐิวิหาเร อาคตานาคตสฺส จาตุทฺทิสสฺส สงฺฆสฺส ปติฎฺฐาเปสิฯ

    Atha kho rājagahako seṭṭhī tassā rattiyā accayena paṇītaṃ khādanīyaṃ bhojanīyaṃ paṭiyādāpetvā bhagavato kālaṃ ārocāpesi – ‘‘kālo, bhante, niṭṭhitaṃ bhatta’’nti. Atha kho bhagavā pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya yena rājagahakassa seṭṭhissa nivesanaṃ tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā paññatte āsane nisīdi saddhiṃ bhikkhusaṅghena. Atha kho rājagahako seṭṭhī buddhappamukhaṃ bhikkhusaṅghaṃ paṇītena khādanīyena bhojanīyena sahatthā santappetvā sampavāretvā, bhagavantaṃ bhuttāviṃ onītapattapāṇiṃ, ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho rājagahako seṭṭhī bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘ete me, bhante, saṭṭhivihārā puññatthikena saggatthikena kārāpitā. Kathāhaṃ, bhante, tesu vihāresu paṭipajjāmī’’ti? ‘‘Tena hi tvaṃ, gahapati, te saṭṭhivihāre āgatānāgatassa cātuddisassa saṅghassa patiṭṭhāpehī’’ti. ‘‘Evaṃ bhante’’ti kho rājagahako seṭṭhī bhagavato paṭissutvā te saṭṭhivihāre āgatānāgatassa cātuddisassa saṅghassa patiṭṭhāpesi.

    ๒๙๕. อถ โข ภควา ราชคหกํ เสฎฺฐิํ อิมาหิ คาถาหิ อนุโมทิ –

    295. Atha kho bhagavā rājagahakaṃ seṭṭhiṃ imāhi gāthāhi anumodi –

    ‘‘สีตํ อุณฺหํ ปฎิหนฺติ 7, ตโต วาฬมิคานิ จ;

    ‘‘Sītaṃ uṇhaṃ paṭihanti 8, tato vāḷamigāni ca;

    สรีสเป จ มกเส, สิสิเร จาปิ วุฎฺฐิโยฯ

    Sarīsape ca makase, sisire cāpi vuṭṭhiyo.

    ‘‘ตโต วาตาตโป โฆเร, สญฺชาโต 9 ปฎิหญฺญติ;

    ‘‘Tato vātātapo ghore, sañjāto 10 paṭihaññati;

    เลณตฺถญฺจ สุขตฺถญฺจ, ฌายิตุญฺจ วิปสฺสิตุํฯ

    Leṇatthañca sukhatthañca, jhāyituñca vipassituṃ.

    ‘‘วิหารทานํ สงฺฆสฺส, อคฺคํ พุเทฺธน 11 วณฺณิตํ;

    ‘‘Vihāradānaṃ saṅghassa, aggaṃ buddhena 12 vaṇṇitaṃ;

    ตสฺมา หิ ปณฺฑิโต, โปโส สมฺปสฺสํ อตฺถมตฺตโนฯ

    Tasmā hi paṇḍito, poso sampassaṃ atthamattano.

    ‘‘วิหาเร การเย รเมฺม, วาสเยตฺถ พหุสฺสุเต;

    ‘‘Vihāre kāraye ramme, vāsayettha bahussute;

    เตสํ อนฺนญฺจ ปานญฺจ, วตฺถเสนาสนานิ จ;

    Tesaṃ annañca pānañca, vatthasenāsanāni ca;

    ทเทยฺย อุชุภูเตสุ, วิปฺปสเนฺนน เจตสาฯ

    Dadeyya ujubhūtesu, vippasannena cetasā.

    ‘‘เต ตสฺส ธมฺมํ เทเสนฺติ, สพฺพทุกฺขาปนูทนํ;

    ‘‘Te tassa dhammaṃ desenti, sabbadukkhāpanūdanaṃ;

    ยํ โส ธมฺมํ อิธญฺญาย, ปรินิพฺพาติ อนาสโว’’ติฯ

    Yaṃ so dhammaṃ idhaññāya, parinibbāti anāsavo’’ti.

    อถ โข ภควา ราชคหกํ เสฎฺฐิํ อิมาหิ คาถาหิ อนุโมทิตฺวา อุฎฺฐายาสนา ปกฺกามิฯ

    Atha kho bhagavā rājagahakaṃ seṭṭhiṃ imāhi gāthāhi anumoditvā uṭṭhāyāsanā pakkāmi.

    ๒๙๖. อโสฺสสุํ โข มนุสฺสา – ‘‘ภควตา กิร วิหารา อนุญฺญาตา’’ติ สกฺกจฺจํ 13 วิหาเร การาเปนฺติฯ เต วิหารา อกวาฎกา โหนฺติ; อหีปิ วิจฺฉิกาปิ สตปทิโยปิ ปวิสนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กวาฎ’’นฺติฯ ภิตฺติฉิทฺทํ กริตฺวา วลฺลิยาปิ รชฺชุยาปิ กวาฎํ พนฺธนฺติฯ อุนฺทูเรหิปิ อุปจิกาหิปิ ขชฺชนฺติฯ ขยิตพนฺธนานิ กวาฎานิ ปตนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปิฎฺฐสงฺฆาฎํ อุทุกฺขลิกํ อุตฺตรปาสก’’นฺติ ฯ กวาฎา น ผุสียนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาวิญฺฉนจฺฉิทฺทํ อาวิญฺฉนรชฺชุ’’นฺติฯ กวาฎา น ถกิยนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อคฺคฬวฎฺฎิํ กปิสีสกํ สูจิกํ ฆฎิก’’นฺติฯ

    296. Assosuṃ kho manussā – ‘‘bhagavatā kira vihārā anuññātā’’ti sakkaccaṃ 14 vihāre kārāpenti. Te vihārā akavāṭakā honti; ahīpi vicchikāpi satapadiyopi pavisanti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, kavāṭa’’nti. Bhittichiddaṃ karitvā valliyāpi rajjuyāpi kavāṭaṃ bandhanti. Undūrehipi upacikāhipi khajjanti. Khayitabandhanāni kavāṭāni patanti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, piṭṭhasaṅghāṭaṃ udukkhalikaṃ uttarapāsaka’’nti . Kavāṭā na phusīyanti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, āviñchanacchiddaṃ āviñchanarajju’’nti. Kavāṭā na thakiyanti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, aggaḷavaṭṭiṃ kapisīsakaṃ sūcikaṃ ghaṭika’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู น สโกฺกนฺติ กวาฎํ อปาปุริตุํฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตาฬจฺฉิทฺทํฯ ตีณิ ตาฬานิ – โลหตาฬํ, กฎฺฐตาฬํ, วิสาณตาฬ’’นฺติฯ เยหิ 15 เต อุคฺฆาเฎตฺวา ปวิสนฺติ 16, วิหารา อคุตฺตา โหนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยนฺตกํ สูจิก’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhū na sakkonti kavāṭaṃ apāpurituṃ. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, tāḷacchiddaṃ. Tīṇi tāḷāni – lohatāḷaṃ, kaṭṭhatāḷaṃ, visāṇatāḷa’’nti. Yehi 17 te ugghāṭetvā pavisanti 18, vihārā aguttā honti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, yantakaṃ sūcika’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน วิหารา ติณจฺฉทนา โหนฺติ; สีตกาเล สีตา, อุณฺหกาเล อุณฺหาฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โอคุเมฺผตฺวา อุลฺลิตฺตาวลิตฺตํ กาตุ’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena vihārā tiṇacchadanā honti; sītakāle sītā, uṇhakāle uṇhā. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, ogumphetvā ullittāvalittaṃ kātu’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน วิหารา อวาตปานกา โหนฺติ อจกฺขุสฺสา ทุคฺคนฺธาฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตีณิ วาตปานานิ – เวทิกาวาตปานํ, ชาลวาตปานํ, สลากวาตปาน’’นฺติฯ วาตปานนฺตริกาย กาฬกาปิ วคฺคุลิโยปิ ปวิสนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วาตปานจกฺกลิก’’นฺติฯ จกฺกลิกนฺตริกายปิ กาฬกาปิ วคฺคุลิโยปิ ปวิสนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วาตปานกวาฎกํ วาตปานภิสิก’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena vihārā avātapānakā honti acakkhussā duggandhā. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, tīṇi vātapānāni – vedikāvātapānaṃ, jālavātapānaṃ, salākavātapāna’’nti. Vātapānantarikāya kāḷakāpi vagguliyopi pavisanti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, vātapānacakkalika’’nti. Cakkalikantarikāyapi kāḷakāpi vagguliyopi pavisanti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, vātapānakavāṭakaṃ vātapānabhisika’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ฉมายํ สยนฺติฯ คตฺตานิปิ จีวรานิปิ ปํสุกิตานิ โหนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติณสนฺถารก’’นฺติฯ ติณสนฺถารโก อุนฺทูเรหิปิ อุปจิกาหิปิ ขชฺชติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มิฑฺฒิ’’นฺติ 19ฯ มิฑฺฒิยา คตฺตานิ ทุกฺขา โหนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, พิทลมญฺจก’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhū chamāyaṃ sayanti. Gattānipi cīvarānipi paṃsukitāni honti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, tiṇasanthāraka’’nti. Tiṇasanthārako undūrehipi upacikāhipi khajjati. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, miḍḍhi’’nti 20. Miḍḍhiyā gattāni dukkhā honti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, bidalamañcaka’’nti.







    Footnotes:
    1. เสฎฺฐิ (ก.)
    2. ภเนฺต (สี. ก.)
    3. ปญฺจ เสนาสนานิ (สฺยา.)
    4. seṭṭhi (ka.)
    5. bhante (sī. ka.)
    6. pañca senāsanāni (syā.)
    7. ปฎิหนติ (ก.)
    8. paṭihanati (ka.)
    9. วาตาตเป โฆเร, สญฺชาเต (ก. สทฺทนีติ)
    10. vātātape ghore, sañjāte (ka. saddanīti)
    11. พุเทฺธหิ (สฺยา.)
    12. buddhehi (syā.)
    13. เต สกฺกจฺจํ (สฺยา. กํ.)
    14. te sakkaccaṃ (syā. kaṃ.)
    15. เยปิ (สี. สฺยา.)
    16. วิสาณตาฬํ, เยหิ เต อุคฺฆาเฎตฺวา ปวิสนฺตีติ (ก.)
    17. yepi (sī. syā.)
    18. visāṇatāḷaṃ, yehi te ugghāṭetvā pavisantīti (ka.)
    19. มีฒนฺติ (สี.), มิฒินฺติ (สฺยา.)
    20. mīḍhanti (sī.), miḍhinti (syā.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / จูฬวคฺค-อฎฺฐกถา • Cūḷavagga-aṭṭhakathā / วิหารานุชานนกถา • Vihārānujānanakathā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / วิหารานุชานนกถาวณฺณนา • Vihārānujānanakathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / วิหารานุชานนกถาวณฺณนา • Vihārānujānanakathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / วิหารานุชานนกถาวณฺณนา • Vihārānujānanakathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / วิหารานุชานนกถา • Vihārānujānanakathā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact