Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรคาถา-อฎฺฐกถา • Theragāthā-aṭṭhakathā

    ๒. วิชยเตฺถรคาถาวณฺณนา

    2. Vijayattheragāthāvaṇṇanā

    ยสฺสาสวา ปริกฺขีณาติ อายสฺมโต วิชยเตฺถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุเทฺธสุ กตาธิกาโร ปิยทสฺสิสฺส ภควโต กาเล วิภวสมฺปเนฺน กุเล นิพฺพตฺติตฺวา วิญฺญุตํ ปโตฺต สตฺถริ ปรินิพฺพุเต ตสฺส ถูปสฺส รตนขจิตํ เวทิกํ กาเรตฺวา ตตฺถ อุฬารํ เวทิกามหํ กาเรสิฯ โส เตน ปุญฺญกเมฺมน อเนกสเต อตฺตภาเว มณิโอภาเสน วิจริฯ เอวํ เทวมนุเสฺสสุ สํสรโนฺต อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติ, วิชโยติสฺส นามํ อโหสิฯ โส วยปฺปโตฺต พฺราหฺมณวิชฺชาสุ นิปฺผตฺติํ คโต ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา อรญฺญายตเน ฌานลาภี หุตฺวา วิหรโนฺต พุทฺธุปฺปาทํ สุตฺวา อุปฺปนฺนปฺปสาโท สตฺถุ สนฺติกํ อุปสงฺกมิตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ ตสฺส สตฺถา ธมฺมํ เทเสสิฯ โส ธมฺมํ สุตฺวา ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนํ ปฎฺฐเปตฺวา นจิรเสฺสว อรหตฺตํ ปาปุณิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๑๕.๑๐-๑๔) –

    Yassāsavāparikkhīṇāti āyasmato vijayattherassa gāthā. Kā uppatti? Ayampi purimabuddhesu katādhikāro piyadassissa bhagavato kāle vibhavasampanne kule nibbattitvā viññutaṃ patto satthari parinibbute tassa thūpassa ratanakhacitaṃ vedikaṃ kāretvā tattha uḷāraṃ vedikāmahaṃ kāresi. So tena puññakammena anekasate attabhāve maṇiobhāsena vicari. Evaṃ devamanussesu saṃsaranto imasmiṃ buddhuppāde sāvatthiyaṃ brāhmaṇakule nibbatti, vijayotissa nāmaṃ ahosi. So vayappatto brāhmaṇavijjāsu nipphattiṃ gato tāpasapabbajjaṃ pabbajitvā araññāyatane jhānalābhī hutvā viharanto buddhuppādaṃ sutvā uppannappasādo satthu santikaṃ upasaṅkamitvā satthāraṃ vanditvā ekamantaṃ nisīdi. Tassa satthā dhammaṃ desesi. So dhammaṃ sutvā pabbajitvā vipassanaṃ paṭṭhapetvā nacirasseva arahattaṃ pāpuṇi. Tena vuttaṃ apadāne (apa. thera 1.15.10-14) –

    ‘‘นิพฺพุเต โลกนาถมฺหิ, ปิยทสฺสีนรุตฺตเม;

    ‘‘Nibbute lokanāthamhi, piyadassīnaruttame;

    ปสนฺนจิโตฺต สุมโน, มุตฺตาเวทิมกาสหํฯ

    Pasannacitto sumano, muttāvedimakāsahaṃ.

    ‘‘มณีหิ ปริวาเรตฺวา, อกาสิํ เวทิมุตฺตมํ;

    ‘‘Maṇīhi parivāretvā, akāsiṃ vedimuttamaṃ;

    เวทิกาย มหํ กตฺวา, ตตฺถ กาลงฺกโต อหํฯ

    Vedikāya mahaṃ katvā, tattha kālaṅkato ahaṃ.

    ‘‘ยํ ยํ โยนุปปชฺชามิ, เทวตฺตํ อถ มานุสํ;

    ‘‘Yaṃ yaṃ yonupapajjāmi, devattaṃ atha mānusaṃ;

    มณี ธาเรนฺติ อากาเส, ปุญฺญกมฺมสฺสิทํ ผลํฯ

    Maṇī dhārenti ākāse, puññakammassidaṃ phalaṃ.

    ‘‘โสฬสิโต กปฺปสเต, มณิปฺปภาสนามกา;

    ‘‘Soḷasito kappasate, maṇippabhāsanāmakā;

    ฉตฺติํสาสิํสุ ราชาโน, จกฺกวตฺตี มหพฺพลาฯ

    Chattiṃsāsiṃsu rājāno, cakkavattī mahabbalā.

    ‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ

    ‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ…pe… kataṃ buddhassa sāsana’’nti.

    อรหตฺตํ ปน ปตฺวา อญฺญํ พฺยากโรโนฺต ‘‘ยสฺสาสวา ปริกฺขีณา’’ติ คาถํ อภาสิฯ

    Arahattaṃ pana patvā aññaṃ byākaronto ‘‘yassāsavā parikkhīṇā’’ti gāthaṃ abhāsi.

    ๙๒. ตตฺถ ยสฺสาสวา ปริกฺขีณาติ ยสฺส อุตฺตมปุคฺคลสฺส กามาสวาทโย จตฺตาโร อาสวา สพฺพโส ขีณา อริยมเคฺคน เขปิตาฯ อาหาเร จ อนิสฺสิโตติ โย จ อาหาเร ตณฺหาทิฎฺฐินิสฺสเยหิ อนิสฺสิโต อคธิโต อนชฺฌาปโนฺน, นิทสฺสนมตฺตํ, อาหารสีเสเนตฺถ จตฺตาโรปิ ปจฺจยา คหิตาติ ทฎฺฐพฺพํฯ ปจฺจยปริยาโย วา อิธ อาหาร-สโทฺท เวทิตโพฺพฯ ‘‘สุญฺญโต อนิมิโตฺต จา’’ติ เอตฺถ อปฺปณิหิตวิโมโกฺขปิ คหิโตเยว, ตีณิปิ เจตานิ นิพฺพานเสฺสว นามานิฯ นิพฺพานญฺหิ ราคาทีนํ อภาเวน สุญฺญํ, เตหิ วิมุตฺตญฺจาติ สุญฺญตวิโมโกฺข, ตถา ราคาทินิมิตฺตาภาเวน สงฺขารนิมิตฺตาภาเวน จ อนิมิตฺตํ , เตหิ วิมุตฺตญฺจาติ อนิมิตฺตวิโมโกฺข, ราคาทิปณิธีนํ อภาเวน อปฺปณิหิตํ, เตหิ วิมุตฺตญฺจาติ อปฺปณิหิโต วิโมโกฺขติ วุจฺจติฯ ผลสมาปตฺติวเสน ตํ อารมฺมณํ กตฺวา วิหรนฺตสฺส อยมฺปิ ติวิโธ วิโมโกฺข ยสฺส โคจโร, อากาเสว สกุนฺตานํ, ปทํ ตสฺส ทุรนฺนยนฺติ ยถา อากาเส คจฺฉนฺตานํ สกุณานํ ‘‘อิมสฺมิํ ฐาเน ปาเทหิ อกฺกมิตฺวา คตา, อิทํ ฐานํ อุเรน ปหริตฺวา คตา, อิทํ สีเสน, อิทํ ปเกฺขหี’’ติ น สกฺกา ญาตุํ, เอวเมว เอวรูปสฺส ภิกฺขุโน ‘‘นิรยปทาทีสุ อิมินา นาม ปเทน คโต’’ติ ญาเปตุญฺจ น สกฺกาติฯ

    92. Tattha yassāsavā parikkhīṇāti yassa uttamapuggalassa kāmāsavādayo cattāro āsavā sabbaso khīṇā ariyamaggena khepitā. Āhāre ca anissitoti yo ca āhāre taṇhādiṭṭhinissayehi anissito agadhito anajjhāpanno, nidassanamattaṃ, āhārasīsenettha cattāropi paccayā gahitāti daṭṭhabbaṃ. Paccayapariyāyo vā idha āhāra-saddo veditabbo. ‘‘Suññato animitto cā’’ti ettha appaṇihitavimokkhopi gahitoyeva, tīṇipi cetāni nibbānasseva nāmāni. Nibbānañhi rāgādīnaṃ abhāvena suññaṃ, tehi vimuttañcāti suññatavimokkho, tathā rāgādinimittābhāvena saṅkhāranimittābhāvena ca animittaṃ , tehi vimuttañcāti animittavimokkho, rāgādipaṇidhīnaṃ abhāvena appaṇihitaṃ, tehi vimuttañcāti appaṇihito vimokkhoti vuccati. Phalasamāpattivasena taṃ ārammaṇaṃ katvā viharantassa ayampi tividho vimokkho yassa gocaro, ākāseva sakuntānaṃ, padaṃ tassa durannayanti yathā ākāse gacchantānaṃ sakuṇānaṃ ‘‘imasmiṃ ṭhāne pādehi akkamitvā gatā, idaṃ ṭhānaṃ urena paharitvā gatā, idaṃ sīsena, idaṃ pakkhehī’’ti na sakkā ñātuṃ, evameva evarūpassa bhikkhuno ‘‘nirayapadādīsu iminā nāma padena gato’’ti ñāpetuñca na sakkāti.

    วิชยเตฺถรคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Vijayattheragāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรคาถาปาฬิ • Theragāthāpāḷi / ๒. วิชยเตฺถรคาถา • 2. Vijayattheragāthā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact