Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ขุทฺทสิกฺขา-มูลสิกฺขา • Khuddasikkhā-mūlasikkhā

    ๓๑. วิกปฺปนานิเทฺทสวณฺณนา

    31. Vikappanāniddesavaṇṇanā

    ๒๒๑. สมฺมุขา ปรมฺมุขาติ สสฺส มุขํ, ปรสฺส มุขนฺติ วิคฺคโห, สมฺมุเขน ปรมฺมุเขนาติ อโตฺถฯ สมฺมุขาวิกปฺปนา ปรมฺมุขาวิกปฺปนาติ เภทา ทุเว วิกปฺปนา วุตฺตาติ โยชนา ฯ เภทาติ วิเสสโตฯ อถ วา สสฺส มุขํ มุขสมฺพนฺธิวจนํ อสฺสา วิกปฺปนายาติ สมาโสฯ ตถา ปรมฺมุขาฯ สมฺมุขา จ ปรมฺมุขา จ, ตสฺสา เภโท, ตโตฯ สมฺมุขาย สมฺมุขวิกปฺปนายฯ พฺยตฺตสฺสาติ วิกปฺปนวิธานํ ปจฺจุทฺธารวิธานญฺจ ชานนฺตสฺสฯ

    221.Sammukhā parammukhāti sassa mukhaṃ, parassa mukhanti viggaho, sammukhena parammukhenāti attho. Sammukhāvikappanā parammukhāvikappanāti bhedā duve vikappanā vuttāti yojanā . Bhedāti visesato. Atha vā sassa mukhaṃ mukhasambandhivacanaṃ assā vikappanāyāti samāso. Tathā parammukhā. Sammukhā ca parammukhā ca, tassā bhedo, tato. Sammukhāya sammukhavikappanāya. Byattassāti vikappanavidhānaṃ paccuddhāravidhānañca jānantassa.

    ๒๒๒. เตนาติ ยสฺส สนฺติเก วิกเปฺปติ, เตน ภิกฺขุนาฯ ปริโภคาทิกนฺติ ปริโภคํ วิสฺสชฺชนํ อธิฎฺฐานญฺจฯ

    222.Tenāti yassa santike vikappeti, tena bhikkhunā. Paribhogādikanti paribhogaṃ vissajjanaṃ adhiṭṭhānañca.

    ๒๒๔-๕. อปรา สมฺมุขาเวกาติ เอตฺถ วา-สโทฺท ปกฺขนฺตเร, อถ วาติ อโตฺถ, อปิ-สทฺทโตฺถ วา วา-สโทฺท, โส อปรา-สทฺทโต ปรํ ทฎฺฐโพฺพ, อปราปิ เอกา สมฺมุขาวิกปฺปนา อตฺถีติ อโตฺถฯ กถนฺติ อาห ‘‘ภิกฺขุสฺสา’’ติอาทิฯ ‘‘ปญฺจนฺนํ สหธมฺมีน’’นฺติ วุตฺตตฺตา ‘‘ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน’’ติอาทีสุ ติสฺสาย ภิกฺขุนิยา ติสฺสาย สิกฺขมานาย ติสฺสาย สามเณริยา ติสฺสสฺส สามเณรสฺสาติปิ วิญฺญาตพฺพํฯ

    224-5.Aparāsammukhāvekāti ettha -saddo pakkhantare, atha vāti attho, api-saddattho vā -saddo, so aparā-saddato paraṃ daṭṭhabbo, aparāpi ekā sammukhāvikappanā atthīti attho. Kathanti āha ‘‘bhikkhussā’’tiādi. ‘‘Pañcannaṃ sahadhammīna’’nti vuttattā ‘‘tissassa bhikkhuno’’tiādīsu tissāya bhikkhuniyā tissāya sikkhamānāya tissāya sāmaṇeriyā tissassa sāmaṇerassātipi viññātabbaṃ.

    ๒๒๖. ปรมฺมุขาวิกปฺปนาติ ปรมฺมุเขน วิกปฺปเนน, ปรมฺมุขาวิกปฺปนาติ วา คเหตพฺพํ, ปรมฺมุขาวิกปฺปนา กถนฺติ อโตฺถฯ

    226.Parammukhāvikappanāti parammukhena vikappanena, parammukhāvikappanāti vā gahetabbaṃ, parammukhāvikappanā kathanti attho.

    ๒๒๗. มิโตฺตติ ทฬฺหมิโตฺตฯ สนฺทิโฎฺฐติ ทิฎฺฐมตฺตมิโตฺตฯ เอตฺถ ปน ทฺวินฺนํ วิกปฺปนานํ กิํ นานากรณนฺติ? สมฺมุขาวิกปฺปนาย ตาว สยํ วิกเปฺปตฺวา ปเรน ปจฺจุทฺธราเปติ, เตเนว สา สมฺมุขาวิกปฺปนา นาม ชาตาฯ ปรมฺมุขาวิกปฺปนาย ปเรเนว วิกปฺปาเปตฺวา ปเรเนว ปจฺจุทฺธราเปติ, เตเนว สา ปรมฺมุขาวิกปฺปนา นาม ชาตาติ อิทเมตฺถ นานากรณนฺติฯ

    227.Mittoti daḷhamitto. Sandiṭṭhoti diṭṭhamattamitto. Ettha pana dvinnaṃ vikappanānaṃ kiṃ nānākaraṇanti? Sammukhāvikappanāya tāva sayaṃ vikappetvā parena paccuddharāpeti, teneva sā sammukhāvikappanā nāma jātā. Parammukhāvikappanāya pareneva vikappāpetvā pareneva paccuddharāpeti, teneva sā parammukhāvikappanā nāma jātāti idamettha nānākaraṇanti.

    ๒๒๘. ทูรสนฺติกเตฺตกตฺตนฺติ เอตฺถ อาสนฺนทูรภาโว อธิฎฺฐาเน วุตฺตนเยเนว เวทิตโพฺพฯ

    228.Dūrasantikattekattanti ettha āsannadūrabhāvo adhiṭṭhāne vuttanayeneva veditabbo.

    ๒๒๙. ทสาหํ…เป.… ปจฺจาสาย สติ มาสกํ นาธิฎฺฐิตวิกปฺปิตํ นิสฺสคฺคิํ นุปฺปาทยตีติ สมฺพโนฺธฯ ทส อหานิ สมาหฎานิ ทสาหํฯ สพฺพตฺถ อจฺจนฺตสํโยเค ทุติยาฯ ตตฺถ ยํ ทิวสํ จีวรํ อุปฺปนฺนํ, ตสฺส โย อรุโณ, โส อุปฺปนฺนทิวสนิสฺสิโต, ตสฺมา จีวรุปฺปาททิวเสน สทฺธิํ เอกาทเส อรุณุคฺคมเน นิสฺสคฺคิยํ โหตีติ อาห ‘‘ทสาห’’นฺติฯ มาสเมกํ วาติ ‘‘อนตฺถเต กถิเน เอกํ ปจฺฉิมกตฺติกมาส’’นฺติ (ปารา. ๖๔๙ อตฺถโต สมานํ) วุตฺตตฺตา กถินตฺถเต ปญฺจ มาเสติ ลพฺภติฯ กถินํ อตฺถตํ ยสฺมิํ วิหาเรติ สมาโสฯ ปาริปูรตฺถนฺติ ปาริปูริ อโตฺถ ยสฺสาติ วิคฺคโหฯ กิริยาวิเสสนํ, ปาริปูริปฺปโยชนํ กตฺวาติ อโตฺถฯ อูนสฺสาติ ยตฺตเกน กยิรมานํ อธิฎฺฐานํ จีวรํ ปโหติ, ตตฺตกตาภาวโต อูนสฺส เอกาทสมาสสตฺตมาสสงฺขาเต ปิฎฺฐิสมเย อุปฺปนฺนสฺส มูลจีวรสฺสฯ ปจฺจาสา สตีติ ‘‘สงฺฆาทิโต ยโต กุโตจิ ลจฺฉามี’’ติ เอวํ สติยา ปจฺจาสายาติ อโตฺถฯ อุภยมฺปิ ย-การโลเปน นิทฺทิฎฺฐํฯ สตีติ วา นิปาโต, ลิงฺควิปลฺลาเสน วาหฯ เอตฺถ ปน พฺยติเรกวเสน ทสาหาติกฺกมนาทีสุ นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ เวทิตพฺพนฺติฯ

    229. Dasāhaṃ…pe… paccāsāya sati māsakaṃ nādhiṭṭhitavikappitaṃ nissaggiṃ nuppādayatīti sambandho. Dasa ahāni samāhaṭāni dasāhaṃ. Sabbattha accantasaṃyoge dutiyā. Tattha yaṃ divasaṃ cīvaraṃ uppannaṃ, tassa yo aruṇo, so uppannadivasanissito, tasmā cīvaruppādadivasena saddhiṃ ekādase aruṇuggamane nissaggiyaṃ hotīti āha ‘‘dasāha’’nti. Māsamekaṃ vāti ‘‘anatthate kathine ekaṃ pacchimakattikamāsa’’nti (pārā. 649 atthato samānaṃ) vuttattā kathinatthate pañca māseti labbhati. Kathinaṃ atthataṃ yasmiṃ vihāreti samāso. Pāripūratthanti pāripūri attho yassāti viggaho. Kiriyāvisesanaṃ, pāripūrippayojanaṃ katvāti attho. Ūnassāti yattakena kayiramānaṃ adhiṭṭhānaṃ cīvaraṃ pahoti, tattakatābhāvato ūnassa ekādasamāsasattamāsasaṅkhāte piṭṭhisamaye uppannassa mūlacīvarassa. Paccāsā satīti ‘‘saṅghādito yato kutoci lacchāmī’’ti evaṃ satiyā paccāsāyāti attho. Ubhayampi ya-kāralopena niddiṭṭhaṃ. Satīti vā nipāto, liṅgavipallāsena vāha. Ettha pana byatirekavasena dasāhātikkamanādīsu nissaggiyaṃ pācittiyaṃ veditabbanti.

    วิกปฺปนานิเทฺทสวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Vikappanāniddesavaṇṇanā niṭṭhitā.





    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact