Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā |
[๒๓๒] ๒. วีณาถูณชาตกวณฺณนา
[232] 2. Vīṇāthūṇajātakavaṇṇanā
เอกจินฺติโตยมโตฺถติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรโนฺต อญฺญตรํ กุมาริกํ อารพฺภ กเถสิฯ สา กิเรกา สาวตฺถิยํ เสฎฺฐิธีตา อตฺตโน เคเห อุสภราชสฺส สกฺการํ กยิรมานํ ทิสฺวา ธาติํ ปุจฺฉิ – ‘‘อมฺม, โก นาเมส เอวํ สกฺการํ ลภตี’’ติฯ ‘‘อุสภราชา นาม, อมฺมา’’ติฯ ปุน สา เอกทิวสํ ปาสาเท ฐตฺวา อนฺตรวีถิํ โอโลเกนฺตี เอกํ ขุชฺชํ ทิสฺวา จิเนฺตสิ – ‘‘คุนฺนํ อนฺตเร เชฎฺฐกสฺส ปิฎฺฐิยํ กกุธํ โหติ, มนุสฺสเชฎฺฐกสฺสปิ เตน ภวิตพฺพํ, อยํ มนุเสฺสสุ ปุริสูสโภ ภวิสฺสติ, เอตสฺส มยา ปาทปริจาริกาย ภวิตุํ วฎฺฎตี’’ติฯ สา ทาสิํ เปเสตฺวา ‘‘เสฎฺฐิธีตา ตยา สทฺธิํ คนฺตุกามา, อสุกฎฺฐานํ กิร คนฺตฺวา ติฎฺฐา’’ติ ตสฺส อาโรเจตฺวา สารภณฺฑกํ อาทาย อญฺญาตกเวเสน ปาสาทา โอตริตฺวา เตน สทฺธิํ ปลายิฯ อปรภาเค ตํ กมฺมํ นคเร จ ภิกฺขุสเงฺฆ จ ปากฎํ ชาตํฯ ธมฺมสภายํ ภิกฺขู กถํ สมุฎฺฐาเปสุํ – ‘‘อาวุโส, อสุกา กิร เสฎฺฐิธีตา ขุเชฺชน สทฺธิํ ปลาตา’’ติฯ สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุเตฺต สตฺถา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนเวสา ขุชฺชํ กาเมติ, ปุเพฺพปิ กาเมสิเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริฯ
Ekacintitoyamatthoti idaṃ satthā jetavane viharanto aññataraṃ kumārikaṃ ārabbha kathesi. Sā kirekā sāvatthiyaṃ seṭṭhidhītā attano gehe usabharājassa sakkāraṃ kayiramānaṃ disvā dhātiṃ pucchi – ‘‘amma, ko nāmesa evaṃ sakkāraṃ labhatī’’ti. ‘‘Usabharājā nāma, ammā’’ti. Puna sā ekadivasaṃ pāsāde ṭhatvā antaravīthiṃ olokentī ekaṃ khujjaṃ disvā cintesi – ‘‘gunnaṃ antare jeṭṭhakassa piṭṭhiyaṃ kakudhaṃ hoti, manussajeṭṭhakassapi tena bhavitabbaṃ, ayaṃ manussesu purisūsabho bhavissati, etassa mayā pādaparicārikāya bhavituṃ vaṭṭatī’’ti. Sā dāsiṃ pesetvā ‘‘seṭṭhidhītā tayā saddhiṃ gantukāmā, asukaṭṭhānaṃ kira gantvā tiṭṭhā’’ti tassa ārocetvā sārabhaṇḍakaṃ ādāya aññātakavesena pāsādā otaritvā tena saddhiṃ palāyi. Aparabhāge taṃ kammaṃ nagare ca bhikkhusaṅghe ca pākaṭaṃ jātaṃ. Dhammasabhāyaṃ bhikkhū kathaṃ samuṭṭhāpesuṃ – ‘‘āvuso, asukā kira seṭṭhidhītā khujjena saddhiṃ palātā’’ti. Satthā āgantvā ‘‘kāya nuttha, bhikkhave, etarahi kathāya sannisinnā’’ti pucchitvā ‘‘imāya nāmā’’ti vutte satthā ‘‘na, bhikkhave, idānevesā khujjaṃ kāmeti, pubbepi kāmesiyevā’’ti vatvā atītaṃ āhari.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทเตฺต รชฺชํ กาเรเนฺต โพธิสโตฺต เอกสฺมิํ นิคมคาเม เสฎฺฐิกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปโตฺต ฆราวาสํ วสโนฺต ปุตฺตธีตาหิ วฑฺฒมาโน อตฺตโน ปุตฺตสฺส พาราณสีเสฎฺฐิสฺส ธีตรํ วาเรตฺวา ทิวสํ ฐเปสิฯ เสฎฺฐิธีตา อตฺตโน เคเห อุสภสฺส สกฺการสมฺมานํ ทิสฺวา ‘‘โก นาเมโส’’ติ ธาติํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อุสโภ’’ติ สุตฺวา อนฺตรวีถิยา คจฺฉนฺตํ เอกํ ขุชฺชํ ทิสฺวา ‘‘อยํ ปุริสูสโภ ภวิสฺสตี’’ติ สารภณฺฑกํ คเหตฺวา เตน สทฺธิํ ปลายิฯ โพธิสโตฺตปิ โข ‘‘เสฎฺฐิธีตรํ เคหํ อาเนสฺสามี’’ติ มหเนฺตน ปริวาเรน พาราณสิํ คจฺฉโนฺต ตเมว มคฺคํ ปฎิปชฺชิฯ เต อุโภปิ สพฺพรตฺติํ มคฺคํ อคมํสุฯ อถ ขุชฺชสฺส สพฺพรตฺติํ สีตาสิหตสฺส อรุโณทเย สรีเร วาโต กุปฺปิ, มหนฺตา เวทนา วตฺตนฺติฯ โส มคฺคา โอกฺกมฺม เวทนาปฺปโตฺต หุตฺวา วีณาทณฺฑโก วิย สํกุฎิโต นิปชฺชิ, เสฎฺฐิธีตาปิสฺส ปาทมูเล นิสีทิฯ โพธิสโตฺต เสฎฺฐิธีตรํ ขุชฺชสฺส ปาทมูเล นิสินฺนํ ทิสฺวา สญฺชานิตฺวา อุปสงฺกมิตฺวา เสฎฺฐิธีตาย สทฺธิํ สลฺลปโนฺต ปฐมํ คาถมาห –
Atīte bārāṇasiyaṃ brahmadatte rajjaṃ kārente bodhisatto ekasmiṃ nigamagāme seṭṭhikule nibbattitvā vayappatto gharāvāsaṃ vasanto puttadhītāhi vaḍḍhamāno attano puttassa bārāṇasīseṭṭhissa dhītaraṃ vāretvā divasaṃ ṭhapesi. Seṭṭhidhītā attano gehe usabhassa sakkārasammānaṃ disvā ‘‘ko nāmeso’’ti dhātiṃ pucchitvā ‘‘usabho’’ti sutvā antaravīthiyā gacchantaṃ ekaṃ khujjaṃ disvā ‘‘ayaṃ purisūsabho bhavissatī’’ti sārabhaṇḍakaṃ gahetvā tena saddhiṃ palāyi. Bodhisattopi kho ‘‘seṭṭhidhītaraṃ gehaṃ ānessāmī’’ti mahantena parivārena bārāṇasiṃ gacchanto tameva maggaṃ paṭipajji. Te ubhopi sabbarattiṃ maggaṃ agamaṃsu. Atha khujjassa sabbarattiṃ sītāsihatassa aruṇodaye sarīre vāto kuppi, mahantā vedanā vattanti. So maggā okkamma vedanāppatto hutvā vīṇādaṇḍako viya saṃkuṭito nipajji, seṭṭhidhītāpissa pādamūle nisīdi. Bodhisatto seṭṭhidhītaraṃ khujjassa pādamūle nisinnaṃ disvā sañjānitvā upasaṅkamitvā seṭṭhidhītāya saddhiṃ sallapanto paṭhamaṃ gāthamāha –
๑๖๓.
163.
‘‘เอกจินฺติโตยมโตฺถ , พาโล อปริณายโก;
‘‘Ekacintitoyamattho , bālo apariṇāyako;
น หิ ขุเชฺชน วาเมน, โภติ สงฺคนฺตุมรหสี’’ติฯ
Na hi khujjena vāmena, bhoti saṅgantumarahasī’’ti.
ตตฺถ เอกจินฺติโตยมโตฺถติ อมฺม, ยํ ตฺวํ อตฺถํ จิเนฺตตฺวา อิมินา ขุเชฺชน สทฺธิํ ปลาตา, อยํ ตยา เอกิกาย เอว จินฺติโต ภวิสฺสติฯ พาโล อปริณายโกติ อยํ ขุโชฺช พาโล, ทุปฺปญฺญภาเวน มหลฺลโกปิ พาโลว, อญฺญสฺมิํ คเหตฺวา คจฺฉเนฺต อสติ คนฺตุํ อสมตฺถตาย อปริณายโกฯ น หิ ขุเชฺชน วาเมน, โภติ สงฺคนฺตุมรหสีติ อิมินา หิ ขุเชฺชน วามนตฺตา วาเมน โภติ ตฺวํ มหากุเล ชาตา อภิรูปา ทสฺสนียา สงฺคนฺตุํ สห คนฺตุํ นารหสีติฯ
Tattha ekacintitoyamatthoti amma, yaṃ tvaṃ atthaṃ cintetvā iminā khujjena saddhiṃ palātā, ayaṃ tayā ekikāya eva cintito bhavissati. Bālo apariṇāyakoti ayaṃ khujjo bālo, duppaññabhāvena mahallakopi bālova, aññasmiṃ gahetvā gacchante asati gantuṃ asamatthatāya apariṇāyako. Na hi khujjena vāmena, bhoti saṅgantumarahasīti iminā hi khujjena vāmanattā vāmena bhoti tvaṃ mahākule jātā abhirūpā dassanīyā saṅgantuṃ saha gantuṃ nārahasīti.
อถสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา เสฎฺฐิธีตา ทุติยํ คาถมาห –
Athassa taṃ vacanaṃ sutvā seṭṭhidhītā dutiyaṃ gāthamāha –
๑๖๔.
164.
‘‘ปุริสูสภํ มญฺญมานา, อหํ ขุชฺชมกามยิํ;
‘‘Purisūsabhaṃ maññamānā, ahaṃ khujjamakāmayiṃ;
โสยํ สํกุฎิโต เสติ, ฉินฺนตนฺติ ยถา ถุณา’’ติฯ
Soyaṃ saṃkuṭito seti, chinnatanti yathā thuṇā’’ti.
ตสฺสโตฺถ – อหํ, อยฺย, เอกํ อุสภํ ทิสฺวา ‘‘คุนฺนํ เชฎฺฐกสฺส ปิฎฺฐิยํ กกุธํ โหติ, อิมสฺสปิ ตํ อตฺถิ, อิมินาปิ ปุริสูสเภน ภวิตพฺพ’’นฺติ เอวมหํ ขุชฺชํ ปุริสูสภํ มญฺญมานา อกามยิํฯ โสยํ ยถา นาม ฉินฺนตนฺติ สโทณิโก วีณาทณฺฑโก, เอวํ สํกุฎิโต เสตีติฯ
Tassattho – ahaṃ, ayya, ekaṃ usabhaṃ disvā ‘‘gunnaṃ jeṭṭhakassa piṭṭhiyaṃ kakudhaṃ hoti, imassapi taṃ atthi, imināpi purisūsabhena bhavitabba’’nti evamahaṃ khujjaṃ purisūsabhaṃ maññamānā akāmayiṃ. Soyaṃ yathā nāma chinnatanti sadoṇiko vīṇādaṇḍako, evaṃ saṃkuṭito setīti.
โพธิสโตฺต ตสฺสา อญฺญาตกเวเสน นิกฺขนฺตภาวเมว ญตฺวา ตํ นฺหาเปตฺวา อลงฺกริตฺวา รถํ อาโรเปตฺวา เคหเมว อคมาสิฯ
Bodhisatto tassā aññātakavesena nikkhantabhāvameva ñatvā taṃ nhāpetvā alaṅkaritvā rathaṃ āropetvā gehameva agamāsi.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา อยเมว เสฎฺฐิธีตา อโหสิ, พาราณสีเสฎฺฐิ ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ
Satthā imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā jātakaṃ samodhānesi – ‘‘tadā ayameva seṭṭhidhītā ahosi, bārāṇasīseṭṭhi pana ahameva ahosi’’nti.
วีณาถูณชาตกวณฺณนา ทุติยาฯ
Vīṇāthūṇajātakavaṇṇanā dutiyā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๒๓๒. วีณาคุณชาตกํ • 232. Vīṇāguṇajātakaṃ