Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā)

    ๙. วีโณปมสุตฺตวณฺณนา

    9. Vīṇopamasuttavaṇṇanā

    ๒๔๖. ภิกฺขุสฺส วา ภิกฺขุนิยา วาติ กามํ ปาฬิยํ ปริสาทฺวยเมว คหิตํ, เสสปริสานํ ปน ตทเญฺญสมฺปิ เทวมนุสฺสานนฺติ สพฺพสาธารโณวายํ ธมฺมสงฺคโหติ อิมมตฺถํ อุปมาปุพฺพกํ กตฺวา ทเสฺสตุํ ‘‘ยถา นามา’’ติอาทิ อารทฺธํฯ ยชโนฺตติ ททโนฺตฯ วินฺทิตโพฺพติ ลทฺธโพฺพ, อธิคนฺตโพฺพติ อโตฺถฯ

    246.Bhikkhussa vā bhikkhuniyā vāti kāmaṃ pāḷiyaṃ parisādvayameva gahitaṃ, sesaparisānaṃ pana tadaññesampi devamanussānanti sabbasādhāraṇovāyaṃ dhammasaṅgahoti imamatthaṃ upamāpubbakaṃ katvā dassetuṃ ‘‘yathā nāmā’’tiādi āraddhaṃ. Yajantoti dadanto. Vinditabboti laddhabbo, adhigantabboti attho.

    ฉโนฺทติ ตณฺหาฉโนฺทฯ เตนาห – ‘‘ทุพฺพลตณฺหา โส รเญฺชตุํ น สโกฺกตี’’ติฯ ปุพฺพุปฺปตฺติกา เอกสฺมิํ อารมฺมเณ ปฐมํ อุปฺปนฺนาฯ สา หิ อนาเสวนตฺตา มนฺทาฯ โสติ ฉโนฺทฯ รเญฺชตุํ น สโกฺกติ ลทฺธาเสวนตฺตาฯ โทโส นาม จิตฺตทูสนตฺตาฯ ตานีติ ทณฺฑาทานาทีนิฯ ตมฺมูลกาติ โลภมูลกา ตาว มายาสาเฐยฺยมานาติมานทิฎฺฐิจาปลาทโย, โทสมูลกา อุปนาหมกฺขปลาสอิสฺสามจฺฉริยถมฺภสารมฺภาทโย, โมหมูลกา อหิริก-อโนตฺตปฺป-ถินมิทฺธวิจิกิจฺฉุทฺธจฺจ-วิปรีตมนสิการาทโย, สํกิเลสธมฺมา คหิตาว โหนฺติ ตํมูลกตฺตาฯ ยสฺมา ปน สเพฺพปิ สํกิเลสธมฺมา ทฺวาทสากุสลจิตฺตุปฺปาทปริยาปนฺนา เอว, ตสฺมา เตสเมฺปตฺถ คหิตภาวํ ทเสฺสตุํ ‘‘ฉโนฺท ราโคติ วา’’ติ วุตฺตํฯ

    Chandoti taṇhāchando. Tenāha – ‘‘dubbalataṇhā so rañjetuṃ na sakkotī’’ti. Pubbuppattikā ekasmiṃ ārammaṇe paṭhamaṃ uppannā. Sā hi anāsevanattā mandā. Soti chando. Rañjetuṃ na sakkoti laddhāsevanattā. Doso nāma cittadūsanattā. Tānīti daṇḍādānādīni. Tammūlakāti lobhamūlakā tāva māyāsāṭheyyamānātimānadiṭṭhicāpalādayo, dosamūlakā upanāhamakkhapalāsaissāmacchariyathambhasārambhādayo, mohamūlakā ahirika-anottappa-thinamiddhavicikicchuddhacca-viparītamanasikārādayo, saṃkilesadhammā gahitāva honti taṃmūlakattā. Yasmā pana sabbepi saṃkilesadhammā dvādasākusalacittuppādapariyāpannā eva, tasmā tesampettha gahitabhāvaṃ dassetuṃ ‘‘chando rāgoti vā’’ti vuttaṃ.

    ภายิตพฺพเฎฺฐน สภโยฯ เภรวเฎฺฐน สปฺปฎิภโยฯ กุสลปกฺขสฺส วิกฺขมฺภนเฎฺฐน สกณฺฎโกฯ กุสลอนวชฺชธเมฺมหิ ทุรวคาหเฎฺฐน สคหโนฯ ภวสมฺปตฺติภวนิพฺพานานํ อปฺปทานภาวโต อุมฺมโคฺคฯ ทุคฺคติคามิมคฺคตฺตา กุมฺมโคฺคฯ อิริยนาติ วตฺตนา ปฎิปชฺชนาฯ ทุคฺคติคามิตาย กิเลโส เอว กิเลสมโคฺคฯ น สกฺกา สมฺปตฺติภวํ คนฺตุํ กุโต นิพฺพานคมนนฺติ อธิปฺปาโยฯ

    Bhāyitabbaṭṭhena sabhayo. Bheravaṭṭhena sappaṭibhayo. Kusalapakkhassa vikkhambhanaṭṭhena sakaṇṭako. Kusalaanavajjadhammehi duravagāhaṭṭhena sagahano. Bhavasampattibhavanibbānānaṃ appadānabhāvato ummaggo. Duggatigāmimaggattā kummaggo. Iriyanāti vattanā paṭipajjanā. Duggatigāmitāya kileso eva kilesamaggo. Na sakkā sampattibhavaṃ gantuṃ kuto nibbānagamananti adhippāyo.

    อสุภาวชฺชนาทีหีติ อาทิ-สเทฺทน อนิจฺจมนสิการาทีนมฺปิ สงฺคโห ทฎฺฐโพฺพฯ จิตฺตํ นิวตฺตติ สราคจิตฺตํ น อุปฺปชฺชติ ปฎิปกฺขมนสิกาเรน วิโนทิตตฺตาฯ มชฺฌตฺตารมฺมเณติ อญฺญาณุเปกฺขฎฺฐานิเย อารมฺมเณฯ อุเทฺทส…เป.… อาวชฺชนฺตสฺสาติ อุทฺทิสาปนวเสน อุเทฺทสํ, ปริปุจฺฉาปนวเสน ปริปุจฺฉํ, ครูนํ สนฺติเก วสนวเสน ครุวาสํ อาวชฺชนฺตสฺสฯ จิตฺตนฺติ คมฺภีรญาณจริย-ปจฺจเวกฺขณ-ปญฺญวนฺต-ปุคฺคลเสวนวเสน ตทธิมุตฺติสิทฺธิยา อญฺญาณจิตฺตํ นิวตฺตติฯ

    Asubhāvajjanādīhīti ādi-saddena aniccamanasikārādīnampi saṅgaho daṭṭhabbo. Cittaṃ nivattati sarāgacittaṃ na uppajjati paṭipakkhamanasikārena vinoditattā. Majjhattārammaṇeti aññāṇupekkhaṭṭhāniye ārammaṇe. Uddesa…pe… āvajjantassāti uddisāpanavasena uddesaṃ, paripucchāpanavasena paripucchaṃ, garūnaṃ santike vasanavasena garuvāsaṃ āvajjantassa. Cittanti gambhīrañāṇacariya-paccavekkhaṇa-paññavanta-puggalasevanavasena tadadhimuttisiddhiyā aññāṇacittaṃ nivattati.

    ยถา ‘‘ปุชฺชภวผลํ ปุญฺญ’’นฺติ วุตฺตํ ‘‘เอวมิทํ ปุญฺญํ ปวฑฺฒตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๘๐), เอวํ กิฎฺฐสมฺภวตฺตา ‘‘กิฎฺฐ’’นฺติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘กิฎฺฐนฺติ กิฎฺฐฎฺฐาเน อุปฺปนฺนสสฺส’’นฺติฯ

    Yathā ‘‘pujjabhavaphalaṃ puñña’’nti vuttaṃ ‘‘evamidaṃ puññaṃ pavaḍḍhatī’’ti (dī. ni. 3.80), evaṃ kiṭṭhasambhavattā ‘‘kiṭṭha’’nti vuttanti āha ‘‘kiṭṭhanti kiṭṭhaṭṭhāne uppannasassa’’nti.

    ฆฎาติ สิงฺคยุคํ อิธาธิเปฺปตนฺติ อาห ‘‘ทฺวินฺนํ สิงฺคานํ อนฺตเร’’ติฯ ฆฎาติ โคณาทีนํ สิงฺคนฺตรฎฺฐสฺส สมญฺญาติ วทนฺติฯ นาสารชฺชุเกติ นาสารชฺชุปาตฎฺฐาเนฯ

    Ghaṭāti siṅgayugaṃ idhādhippetanti āha ‘‘dvinnaṃ siṅgānaṃ antare’’ti. Ghaṭāti goṇādīnaṃ siṅgantaraṭṭhassa samaññāti vadanti. Nāsārajjuketi nāsārajjupātaṭṭhāne.

    ทเมติ ปุถุตฺตารมฺมณโต นิวาเรติฯ นฺติ จิตฺตํฯ ยํ สุตฺตํ สุภาสิตํ มยาฯ ตทสฺสาติ ตทา อสฺส ภิกฺขุโนฯ อารมฺมเณติ กมฺมฎฺฐานารมฺมเณฯ

    Dameti puthuttārammaṇato nivāreti. Nanti cittaṃ. Yaṃ suttaṃ subhāsitaṃ mayā. Tadassāti tadā assa bhikkhuno. Ārammaṇeti kammaṭṭhānārammaṇe.

    สุทุชิตนฺติ นิพฺพิเสวนภาวกรเณน ชิตํฯ สุตชฺชิตนฺติ สุฎฺฐุ ทูรกรเณน ชิตํ, ตถาภูตญฺจ ตชฺชิตํ นาม โหตีติ ตถา วุตฺตํฯ โคจรชฺฌตฺตนฺติ อชฺฌตฺตภูโต โคจโรฯ กมฺมฎฺฐานารมฺมณญฺหิ พหิทฺธารูปาทิอารมฺมณวิธุรตาย อชฺฌตฺตนฺติ วุจฺจติฯ สมโถ อนุรกฺขณํ เอตสฺสาติ สมถานุรกฺขณํฯ ยถา อินฺทฺริยสํวรสีลํ สมถานุรกฺขณํ โหติ, ตถา กถิตนฺติ อโตฺถฯ ยถา หิ อินฺทฺริยสํวรสีลํ สมถสฺส ปจฺจโย, เอวํ สมโถปิ ตสฺส ปจฺจโยติฯ

    Sudujitanti nibbisevanabhāvakaraṇena jitaṃ. Sutajjitanti suṭṭhu dūrakaraṇena jitaṃ, tathābhūtañca tajjitaṃ nāma hotīti tathā vuttaṃ. Gocarajjhattanti ajjhattabhūto gocaro. Kammaṭṭhānārammaṇañhi bahiddhārūpādiārammaṇavidhuratāya ajjhattanti vuccati. Samatho anurakkhaṇaṃ etassāti samathānurakkhaṇaṃ. Yathā indriyasaṃvarasīlaṃ samathānurakkhaṇaṃ hoti, tathā kathitanti attho. Yathā hi indriyasaṃvarasīlaṃ samathassa paccayo, evaṃ samathopi tassa paccayoti.

    วาทิยมานาย วีณายฯ จิตฺตํ รเญฺชตีติ รชฺชเนนฯ อวิสฺสชฺชนียตาย จิตฺตํ พนฺธตีติ พนฺธนีโยฯ เวฎฺฐเกติ ตนฺตีนํ อาสชฺชนเวฎฺฐเกฯ โกณนฺติ กวณโต วีณาย สทฺทกรณโต โกณนฺติ ลทฺธนามํ ทารุทณฺฑํ สิงฺคาทีสุ เยน เกนจิ กตํ ฆฎิกํฯ เตนาห ‘‘จตุรสฺสํ สารทณฺฑก’’นฺติฯ

    Vādiyamānāya vīṇāya. Cittaṃ rañjetīti rajjanena. Avissajjanīyatāya cittaṃ bandhatīti bandhanīyo. Veṭṭhaketi tantīnaṃ āsajjanaveṭṭhake. Koṇanti kavaṇato vīṇāya saddakaraṇato koṇanti laddhanāmaṃ dārudaṇḍaṃ siṅgādīsu yena kenaci kataṃ ghaṭikaṃ. Tenāha ‘‘caturassaṃ sāradaṇḍaka’’nti.

    ยสฺมา โส ราชา ราชมหามโตฺต วา สทฺทํ ยถาสภาวโต น อญฺญาสิ, ตสฺมิํ ตสฺส อชานนาการเมว ทเสฺสตุํ ‘‘สทฺทํ ปสฺสิสฺสามี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ

    Yasmā so rājā rājamahāmatto vā saddaṃ yathāsabhāvato na aññāsi, tasmiṃ tassa ajānanākārameva dassetuṃ ‘‘saddaṃ passissāmī’’tiādi vuttaṃ.

    อสตี กิรายนฺติ ปาฬิยํ ลิงฺควิปลฺลาเสน วุตฺตนฺติ ยถาลิงฺคเมว วทโนฺต ‘‘อสา’’ติ อาหฯ ‘‘อสตีติ ลามกาธิวจน’’นฺติ วตฺวา ตตฺถ ปโยคํ ทเสฺสตุํ ‘‘อสา โลกิตฺถิโย นามา’’ติ วุตฺตํ, โลเก อิตฺถิโย นาม อสติโยติ อโตฺถ, ตตฺถ การณมาห ‘‘เวลา ตาสํ น วิชฺชตี’’ติฯ ปกติยา โลเก เชฎฺฐภาตา กนิฎฺฐภาตา มาตุโลติอาทิกา เวลา มริยาทา ตาสํ น วิชฺชติฯ กสฺมา? สารตฺตา จ ปคพฺพา จ สเพฺพสมฺปิ สโมฺภควเสน วินิโยคํ คจฺฉนฺติฯ กถํ? สิขี สพฺพฆโส ยถาฯ เตเนวาห –

    Asatī kirāyanti pāḷiyaṃ liṅgavipallāsena vuttanti yathāliṅgameva vadanto ‘‘asā’’ti āha. ‘‘Asatīti lāmakādhivacana’’nti vatvā tattha payogaṃ dassetuṃ ‘‘asā lokitthiyo nāmā’’ti vuttaṃ, loke itthiyo nāma asatiyoti attho, tattha kāraṇamāha ‘‘velā tāsaṃ na vijjatī’’ti. Pakatiyā loke jeṭṭhabhātā kaniṭṭhabhātā mātulotiādikā velā mariyādā tāsaṃ na vijjati. Kasmā? Sārattā ca pagabbā ca sabbesampi sambhogavasena viniyogaṃ gacchanti. Kathaṃ? Sikhī sabbaghaso yathā. Tenevāha –

    ‘‘สพฺพา นที วงฺกคตี, สเพฺพ กฎฺฐมยา วนา;

    ‘‘Sabbā nadī vaṅkagatī, sabbe kaṭṭhamayā vanā;

    สพฺพิตฺถิโย กเร ปาปํ, ลภมาเน นิวาตเก’’ติฯ (ชา. ๒.๒๑.๓๐๘);

    Sabbitthiyo kare pāpaṃ, labhamāne nivātake’’ti. (jā. 2.21.308);

    อญฺญมฺปิ ตนฺติพทฺธํ จตุรสฺสอมฺพณวาทิตาทีนิฯ วีณา วิย ปญฺจกฺขนฺธา อเนกธมฺมสมูหภาวโตฯ ราชา วิย โยคาวจโร ตปฺปฎิพทฺธธมฺมคเวสกตฺตาฯ อสฺสาติ โยคาวจรสฺสฯ

    Aññampi tantibaddhaṃ caturassaambaṇavāditādīni. Vīṇā viya pañcakkhandhā anekadhammasamūhabhāvato. Rājā viya yogāvacaro tappaṭibaddhadhammagavesakattā. Assāti yogāvacarassa.

    นิรยาทิโต อญฺญสฺมิมฺปิ คติ-สโทฺท วตฺตติฯ ตโต วิเสสนตฺถํ ‘‘คติคตี’’ติ วุตฺตํ ‘‘ทุกฺขทุกฺขํ, รูปรูป’’นฺติ จ ยถา, คติสญฺญิตํ ปวตฺติฎฺฐานนฺติ อโตฺถฯ เตนาห – ‘‘เอตฺถนฺตเร สํสรติ วตฺตตี’’ติฯ สญฺชายนปเทโส เอว คตีติ สญฺชาติคติ

    Nirayādito aññasmimpi gati-saddo vattati. Tato visesanatthaṃ ‘‘gatigatī’’ti vuttaṃ ‘‘dukkhadukkhaṃ, rūparūpa’’nti ca yathā, gatisaññitaṃ pavattiṭṭhānanti attho. Tenāha – ‘‘etthantare saṃsarati vattatī’’ti. Sañjāyanapadeso eva gatīti sañjātigati.

    ตํ ปน คติํ สตฺตานํ สํเวควตฺถุภูตสฺส ปจฺจกฺขสฺส คพฺภาสยสฺส วเสน ทเสฺสตุํ ‘‘อยมสฺส กาโย’’ติอาทิ วุตฺตํฯ รูปธมฺมสฺส สลกฺขณํ คติ นิฎฺฐา, ตโต ปรํ อญฺญํ กิญฺจิ นตฺถีติ สลกฺขณคติฯ อภาโว อจฺจนฺตาภาโวฯ สนฺตานวิเจฺฉโท วิภวคติ ตํนิฎฺฐานภาวาฯ เภโทติ ขณนิโรโธ, อิธาปิ ตํนิฎฺฐานตาเยว ปริยาโยฯ ยาว ภวคฺคาติ ยาว สพฺพภวคฺคาฯ สลกฺขณวิภวคติเภทคติโย ‘‘เอเสว นโย’’ติ อิมินาว ปกาสิตาติ น คหิตาฯ ตสฺส ขีณาสวสฺส น โหติ อคฺคมเคฺคน สมุจฺฉินฺนตฺตาฯ

    Taṃ pana gatiṃ sattānaṃ saṃvegavatthubhūtassa paccakkhassa gabbhāsayassa vasena dassetuṃ ‘‘ayamassa kāyo’’tiādi vuttaṃ. Rūpadhammassa salakkhaṇaṃ gati niṭṭhā, tato paraṃ aññaṃ kiñci natthīti salakkhaṇagati. Abhāvo accantābhāvo. Santānavicchedo vibhavagati taṃniṭṭhānabhāvā. Bhedoti khaṇanirodho, idhāpi taṃniṭṭhānatāyeva pariyāyo. Yāva bhavaggāti yāva sabbabhavaggā. Salakkhaṇavibhavagatibhedagatiyo ‘‘eseva nayo’’ti imināva pakāsitāti na gahitā. Tassa khīṇāsavassa na hoti aggamaggena samucchinnattā.

    สีลํ กถิตํ รูปาทีสุ ฉนฺทาทินิวารณสฺส กถิตตฺตาฯ มเชฺฌ สมาธิภาวนา กถิตา ‘‘อชฺฌตฺตเมว สนฺติฎฺฐติ…เป.… สมาธิยตี’’ติ โชติตตฺตาฯ ปริโยสาเน จ นิพฺพานํ กถิตํ ‘‘ยมฺปิสฺส…เป.… น โหตี’’ติ วจนโตฯ

    Sīlaṃkathitaṃ rūpādīsu chandādinivāraṇassa kathitattā. Majjhe samādhibhāvanā kathitā ‘‘ajjhattameva santiṭṭhati…pe… samādhiyatī’’ti jotitattā. Pariyosāne ca nibbānaṃ kathitaṃ ‘‘yampissa…pe… na hotī’’ti vacanato.

    วีโณปมสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Vīṇopamasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๙. วีโณปมสุตฺตํ • 9. Vīṇopamasuttaṃ

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๙. วีโณปมสุตฺตวณฺณนา • 9. Vīṇopamasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact