Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรคาถา-อฎฺฐกถา • Theragāthā-aṭṭhakathā |
๘. วีรเตฺถรคาถาวณฺณนา
8. Vīrattheragāthāvaṇṇanā
โย ทุทฺทมิโยติ อายสฺมโต วีรเตฺถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? อยํ กิร อิโต เอกนวุเต กเปฺป วิปสฺสิสฺส ภควโต วสนอาวาสํ ปฎิชคฺคิฯ เอกทิวสญฺจ สินฺธุวารปุปฺผสทิสานิ นิคฺคุณฺฐิปุปฺผานิ คเหตฺวา ภควนฺตํ ปูเชสิฯ โส เตน ปุญฺญกเมฺมน เทวมนุเสฺสสุ สํสรโนฺต อิโต ปญฺจติํเส กเปฺป ขตฺติยกุเล นิพฺพตฺติตฺวา มหาปตาโป นาม ราชา อโหสิ จกฺกวตฺตีฯ โส ธเมฺมน สเมน รชฺชํ กาเรโนฺต สเตฺต สคฺคมเคฺค ปติฎฺฐาเปสิฯ ปุน อิมสฺมิํ กเปฺป กสฺสปสฺส ภควโต กาเล มหาวิภโว เสฎฺฐิ หุตฺวา กปณทฺธิกาทีนํ ทานํ เทโนฺต สงฺฆสฺส ขีรภตฺตํ อทาสิฯ เอวํ ตตฺถ ตตฺถ ทานมยํ ปุญฺญสมฺภารํ กโรโนฺต อิตรญฺจ นิพฺพานตฺถํ สมฺภรโนฺต เทวมนุเสฺสสุ สํสริตฺวา อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถินคเร รโญฺญ ปเสนทิสฺส อมจฺจกุเล นิพฺพตฺติ, ‘‘วีโร’’ติสฺส นามํ อกํสุฯ โส วยปฺปโตฺต นามานุคเตหิ ปตฺตพลชวาทิคุเณหิ สมนฺนาคโต สงฺคามสูโร หุตฺวา มาตาปิตูหิ นิพนฺธวเสน การิเต ทารปริคฺคเห เอกํเยว ปุตฺตํ ลภิตฺวา ปุพฺพเหตุนา โจทิยมาโน กาเมสุ สํสาเร จ อาทีนวํ ทิสฺวา สํเวคชาโต ปพฺพชิตฺวา ฆเฎโนฺต วายมโนฺต นจิรเสฺสว ฉฬภิโญฺญ อโหสิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๒๑.๒๑-๒๔) –
Yoduddamiyoti āyasmato vīrattherassa gāthā. Kā uppatti? Ayaṃ kira ito ekanavute kappe vipassissa bhagavato vasanaāvāsaṃ paṭijaggi. Ekadivasañca sindhuvārapupphasadisāni nigguṇṭhipupphāni gahetvā bhagavantaṃ pūjesi. So tena puññakammena devamanussesu saṃsaranto ito pañcatiṃse kappe khattiyakule nibbattitvā mahāpatāpo nāma rājā ahosi cakkavattī. So dhammena samena rajjaṃ kārento satte saggamagge patiṭṭhāpesi. Puna imasmiṃ kappe kassapassa bhagavato kāle mahāvibhavo seṭṭhi hutvā kapaṇaddhikādīnaṃ dānaṃ dento saṅghassa khīrabhattaṃ adāsi. Evaṃ tattha tattha dānamayaṃ puññasambhāraṃ karonto itarañca nibbānatthaṃ sambharanto devamanussesu saṃsaritvā imasmiṃ buddhuppāde sāvatthinagare rañño pasenadissa amaccakule nibbatti, ‘‘vīro’’tissa nāmaṃ akaṃsu. So vayappatto nāmānugatehi pattabalajavādiguṇehi samannāgato saṅgāmasūro hutvā mātāpitūhi nibandhavasena kārite dārapariggahe ekaṃyeva puttaṃ labhitvā pubbahetunā codiyamāno kāmesu saṃsāre ca ādīnavaṃ disvā saṃvegajāto pabbajitvā ghaṭento vāyamanto nacirasseva chaḷabhiñño ahosi. Tena vuttaṃ apadāne (apa. thera 1.21.21-24) –
‘‘วิปสฺสิสฺส ภควโต, อาสิมารามิโก อหํ;
‘‘Vipassissa bhagavato, āsimārāmiko ahaṃ;
นิคฺคุณฺฐิปุปฺผํ ปคฺคยฺห, พุทฺธสฺส อภิโรปยิํฯ
Nigguṇṭhipupphaṃ paggayha, buddhassa abhiropayiṃ.
‘‘เอกนวุติโต กเปฺป, ยํ ปุปฺผมภิปูชยิํ;
‘‘Ekanavutito kappe, yaṃ pupphamabhipūjayiṃ;
ทุคฺคติํ นาภิชานามิ, พุทฺธปูชายิทํ ผลํฯ
Duggatiṃ nābhijānāmi, buddhapūjāyidaṃ phalaṃ.
‘‘ปญฺจวีเส อิโต กเปฺป, เอโก อาสิํ ชนาธิโป;
‘‘Pañcavīse ito kappe, eko āsiṃ janādhipo;
มหาปตาปนาเมน, จกฺกวตฺตี มหพฺพโลฯ
Mahāpatāpanāmena, cakkavattī mahabbalo.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ
‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ…pe… kataṃ buddhassa sāsana’’nti.
เอวํ ปน อรหตฺตํ ปตฺวา ผลสมาปตฺติสุเขน วีตินาเมนฺตํ เถรํ ปุราณทุติยิกา อุปฺปพฺพาเชตุกามา อนฺตรนฺตรา นานานเยหิ ปโลเภตุํ ปรกฺกมนฺตี เอกทิวสํ ทิวาวิหารฎฺฐานํ คนฺตฺวา อิตฺถิกุตฺตาทีนิ ทเสฺสตุํ อารภิฯ อถายสฺมา วีโร ‘‘มํ ปโลเภตุกามา สิเนรุํ มกสปกฺขวาเตน จาเลตุกามา วิย ยาว พาลา วตายํ อิตฺถี’’ติ ตสฺสา กิริยาย นิรตฺถกภาวํ ทีเปโนฺต ‘‘โย ทุทฺทมิโย’’ติ คาถํ อภาสิฯ
Evaṃ pana arahattaṃ patvā phalasamāpattisukhena vītināmentaṃ theraṃ purāṇadutiyikā uppabbājetukāmā antarantarā nānānayehi palobhetuṃ parakkamantī ekadivasaṃ divāvihāraṭṭhānaṃ gantvā itthikuttādīni dassetuṃ ārabhi. Athāyasmā vīro ‘‘maṃ palobhetukāmā sineruṃ makasapakkhavātena cāletukāmā viya yāva bālā vatāyaṃ itthī’’ti tassā kiriyāya niratthakabhāvaṃ dīpento ‘‘yo duddamiyo’’ti gāthaṃ abhāsi.
๘. ตตฺถ โย ทุทฺทมิโยติอาทีนํ ปทานํ อโตฺถ เหฎฺฐา วุโตฺตเยวฯ อิทํ ปเนตฺถ โยชนามตฺตํ โย ปุเพฺพ อทนฺต กิเลสตาย ปจฺจตฺถิเกหิ วา สงฺคมสีเส ทเมตุํ เชตุํ อสกฺกุเณยฺยตายทุทฺทมิโย, อิทานิ ปน อุตฺตเมน ทเมน ทโนฺต จตุพฺพิธสมฺมปฺปมธานวีริยสมฺปตฺติยา วีโร, วุตฺตนเยเนว สนฺตุสิโต วิติณฺณกโงฺข วิชิตาวี อเปตโลมหํโส วีโร วีรนามโก อนวเสสโต กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพุโต, ตโต เอว ฐิตสภาโว, น ตาทิสานํ สเตนปิ สหเสฺสนปิ จาลนีโยติฯ ตํ สุตฺวา สา อิตฺถี – ‘‘มยฺหํ สามิเก เอวํ ปฎิปเนฺน โก มยฺหํ ฆราวาเสน อโตฺถ’’ติ สํเวคชาตา ภิกฺขุนีสุ ปพฺพชิตฺวา นจิรเสฺสว เตวิชฺชา อโหสีติฯ
8. Tattha yo duddamiyotiādīnaṃ padānaṃ attho heṭṭhā vuttoyeva. Idaṃ panettha yojanāmattaṃ yo pubbe adanta kilesatāya paccatthikehi vā saṅgamasīse dametuṃ jetuṃ asakkuṇeyyatāyaduddamiyo, idāni pana uttamena damena danto catubbidhasammappamadhānavīriyasampattiyā vīro, vuttanayeneva santusito vitiṇṇakaṅkho vijitāvī apetalomahaṃso vīro vīranāmako anavasesato kilesaparinibbānena parinibbuto, tato eva ṭhitasabhāvo, na tādisānaṃ satenapi sahassenapi cālanīyoti. Taṃ sutvā sā itthī – ‘‘mayhaṃ sāmike evaṃ paṭipanne ko mayhaṃ gharāvāsena attho’’ti saṃvegajātā bhikkhunīsu pabbajitvā nacirasseva tevijjā ahosīti.
วีรเตฺถรคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Vīrattheragāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรคาถาปาฬิ • Theragāthāpāḷi / ๘. วีรเตฺถรคาถา • 8. Vīrattheragāthā