Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อุทานปาฬิ • Udānapāḷi |
๘. วิสาขาสุตฺตํ
8. Visākhāsuttaṃ
๗๘. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเทฯ เตน โข ปน สมเยน วิสาขาย มิคารมาตุยา นตฺตา กาลงฺกตา โหติ ปิยา มนาปาฯ อถ โข วิสาขา มิคารมาตา อลฺลวตฺถา อลฺลเกสา ทิวา ทิวสฺส เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข วิสาขํ มิคารมาตรํ ภควา เอตทโวจ –
78. Evaṃ me sutaṃ – ekaṃ samayaṃ bhagavā sāvatthiyaṃ viharati pubbārāme migāramātupāsāde. Tena kho pana samayena visākhāya migāramātuyā nattā kālaṅkatā hoti piyā manāpā. Atha kho visākhā migāramātā allavatthā allakesā divā divassa yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinnaṃ kho visākhaṃ migāramātaraṃ bhagavā etadavoca –
‘‘หนฺท กุโต นุ ตฺวํ, วิสาเข, อาคจฺฉสิ อลฺลวตฺถา อลฺลเกสา อิธูปสงฺกนฺตา ทิวา ทิวสฺสา’’ติ? ‘‘นตฺตา เม, ภเนฺต, ปิยา มนาปา กาลงฺกตาฯ เตนาหํ อลฺลวตฺถา อลฺลเกสา อิธูปสงฺกนฺตา ทิวา ทิวสฺสา’’ติฯ ‘‘อิเจฺฉยฺยาสิ ตฺวํ, วิสาเข, ยาวติกา 1 สาวตฺถิยา มนุสฺสา ตาวติเก 2 ปุเตฺต จ นตฺตาโร จา’’ติ? ‘‘อิเจฺฉยฺยาหํ, ภควา 3 ยาวติกา สาวตฺถิยา มนุสฺสา ตาวติเก ปุเตฺต จ นตฺตาโร จา’’ติฯ
‘‘Handa kuto nu tvaṃ, visākhe, āgacchasi allavatthā allakesā idhūpasaṅkantā divā divassā’’ti? ‘‘Nattā me, bhante, piyā manāpā kālaṅkatā. Tenāhaṃ allavatthā allakesā idhūpasaṅkantā divā divassā’’ti. ‘‘Iccheyyāsi tvaṃ, visākhe, yāvatikā 4 sāvatthiyā manussā tāvatike 5 putte ca nattāro cā’’ti? ‘‘Iccheyyāhaṃ, bhagavā 6 yāvatikā sāvatthiyā manussā tāvatike putte ca nattāro cā’’ti.
‘‘กีวพหุกา ปน, วิสาเข, สาวตฺถิยา มนุสฺสา เทวสิกํ กาลํ กโรนฺตี’’ติ? ‘‘ทสปิ, ภเนฺต, สาวตฺถิยา มนุสฺสา เทวสิกํ กาลํ กโรนฺติ; นวปิ, ภเนฺต… อฎฺฐปิ, ภเนฺต… สตฺตปิ, ภเนฺต… ฉปิ, ภเนฺต… ปญฺจปิ, ภเนฺต… จตฺตาโรปิ, ภเนฺต… ตีณิปิ, ภเนฺต… เทฺวปิ, ภเนฺต, สาวตฺถิยา มนุสฺสา เทวสิกํ กาลํ กโรนฺติฯ เอโกปิ, ภเนฺต, สาวตฺถิยา มนุโสฺส เทวสิกํ กาลํ กโรติฯ อวิวิตฺตา, ภเนฺต, สาวตฺถิ มนุเสฺสหิ กาลํ กโรเนฺตหี’’ติฯ
‘‘Kīvabahukā pana, visākhe, sāvatthiyā manussā devasikaṃ kālaṃ karontī’’ti? ‘‘Dasapi, bhante, sāvatthiyā manussā devasikaṃ kālaṃ karonti; navapi, bhante… aṭṭhapi, bhante… sattapi, bhante… chapi, bhante… pañcapi, bhante… cattāropi, bhante… tīṇipi, bhante… dvepi, bhante, sāvatthiyā manussā devasikaṃ kālaṃ karonti. Ekopi, bhante, sāvatthiyā manusso devasikaṃ kālaṃ karoti. Avivittā, bhante, sāvatthi manussehi kālaṃ karontehī’’ti.
‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, วิสาเข, อปิ นุ ตฺวํ กทาจิ กรหจิ อนลฺลวตฺถา วา ภเวยฺยาสิ อนลฺลเกสา วา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภเนฺต ฯ อลํ เม, ภเนฺต, ตาว พหุเกหิ ปุเตฺตหิ จ นตฺตาเรหิ จา’’ติฯ
‘‘Taṃ kiṃ maññasi, visākhe, api nu tvaṃ kadāci karahaci anallavatthā vā bhaveyyāsi anallakesā vā’’ti? ‘‘No hetaṃ, bhante . Alaṃ me, bhante, tāva bahukehi puttehi ca nattārehi cā’’ti.
‘‘เยสํ โข, วิสาเข, สตํ ปิยานิ, สตํ เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ นวุติ ปิยานิ, นวุติ เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ อสีติ ปิยานิ, อสีติ เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ สตฺตติ ปิยานิ, สตฺตติ เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ สฎฺฐิ ปิยานิ, สฎฺฐิ เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ ปญฺญาสํ ปิยานิ, ปญฺญาสํ เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ จตฺตารีสํ ปิยานิ, จตฺตารีสํ เตสํ ทุกฺขานิ, เยสํ ติํสํ ปิยานิ, ติํสํ เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ วีสติ ปิยานิ, วีสติ เตสํ ทุกฺขานิ, เยสํ ทส ปิยานิ, ทส เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ นว ปิยานิ, นว เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ อฎฺฐ ปิยานิ, อฎฺฐ เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ สตฺต ปิยานิ, สตฺต เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ ฉ ปิยานิ, ฉ เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ ปญฺจ ปิยานิ, ปญฺจ เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ จตฺตาริ ปิยานิ, จตฺตาริ เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ ตีณิ ปิยานิ, ตีณิ เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ เทฺว ปิยานิ, เทฺว เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ เอกํ ปิยํ, เอกํ เตสํ ทุกฺขํ; เยสํ นตฺถิ ปิยํ, นตฺถิ เตสํ ทุกฺขํ, อโสกา เต วิรชา อนุปายาสาติ วทามี’’ติฯ
‘‘Yesaṃ kho, visākhe, sataṃ piyāni, sataṃ tesaṃ dukkhāni; yesaṃ navuti piyāni, navuti tesaṃ dukkhāni; yesaṃ asīti piyāni, asīti tesaṃ dukkhāni; yesaṃ sattati piyāni, sattati tesaṃ dukkhāni; yesaṃ saṭṭhi piyāni, saṭṭhi tesaṃ dukkhāni; yesaṃ paññāsaṃ piyāni, paññāsaṃ tesaṃ dukkhāni; yesaṃ cattārīsaṃ piyāni, cattārīsaṃ tesaṃ dukkhāni, yesaṃ tiṃsaṃ piyāni, tiṃsaṃ tesaṃ dukkhāni; yesaṃ vīsati piyāni, vīsati tesaṃ dukkhāni, yesaṃ dasa piyāni, dasa tesaṃ dukkhāni; yesaṃ nava piyāni, nava tesaṃ dukkhāni; yesaṃ aṭṭha piyāni, aṭṭha tesaṃ dukkhāni; yesaṃ satta piyāni, satta tesaṃ dukkhāni; yesaṃ cha piyāni, cha tesaṃ dukkhāni; yesaṃ pañca piyāni, pañca tesaṃ dukkhāni; yesaṃ cattāri piyāni, cattāri tesaṃ dukkhāni; yesaṃ tīṇi piyāni, tīṇi tesaṃ dukkhāni; yesaṃ dve piyāni, dve tesaṃ dukkhāni; yesaṃ ekaṃ piyaṃ, ekaṃ tesaṃ dukkhaṃ; yesaṃ natthi piyaṃ, natthi tesaṃ dukkhaṃ, asokā te virajā anupāyāsāti vadāmī’’ti.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
Atha kho bhagavā etamatthaṃ viditvā tāyaṃ velāyaṃ imaṃ udānaṃ udānesi –
‘‘เย เกจิ โสกา ปริเทวิตา วา,
‘‘Ye keci sokā paridevitā vā,
ปิยํ ปฎิจฺจปฺปภวนฺติ เอเต,
Piyaṃ paṭiccappabhavanti ete,
ปิเย อสเนฺต น ภวนฺติ เอเตฯ
Piye asante na bhavanti ete.
‘‘ตสฺมา หิ เต สุขิโน วีตโสกา,
‘‘Tasmā hi te sukhino vītasokā,
เยสํ ปิยํ นตฺถิ กุหิญฺจิ โลเก;
Yesaṃ piyaṃ natthi kuhiñci loke;
ตสฺมา อโสกํ วิรชํ ปตฺถยาโน,
Tasmā asokaṃ virajaṃ patthayāno,
ปิยํ น กยิราถ กุหิญฺจิ โลเก’’ติฯ อฎฺฐมํ;
Piyaṃ na kayirātha kuhiñci loke’’ti. aṭṭhamaṃ;
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / อุทาน-อฎฺฐกถา • Udāna-aṭṭhakathā / ๘. วิสาขาสุตฺตวณฺณนา • 8. Visākhāsuttavaṇṇanā