Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi

    ๒๑๙. วิสาขาวตฺถุ

    219. Visākhāvatthu

    ๓๔๙. อถ โข ภควา พาราณสิยํ ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน สาวตฺถิ เตน จาริกํ ปกฺกามิฯ อนุปุเพฺพน จาริกํ จรมาโน เยน สาวตฺถิ ตทวสริฯ ตตฺร สุทํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ อถ โข วิสาขา มิคารมาตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข วิสาขํ มิคารมาตรํ ภควา ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสสิ สมาทเปสิ สมุเตฺตเชสิ สมฺปหํเสสิฯ อถ โข วิสาขา มิคารมาตา, ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิตา สมาทปิตา สมุเตฺตชิตา สมฺปหํสิตา, ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อธิวาเสตุ เม, ภเนฺต, ภควา สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธิํ ภิกฺขุสเงฺฆนา’’ติฯ อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวนฯ อถ โข วิสาขา มิคารมาตา ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฎฺฐายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิฯ

    349. Atha kho bhagavā bārāṇasiyaṃ yathābhirantaṃ viharitvā yena sāvatthi tena cārikaṃ pakkāmi. Anupubbena cārikaṃ caramāno yena sāvatthi tadavasari. Tatra sudaṃ bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Atha kho visākhā migāramātā yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinnaṃ kho visākhaṃ migāramātaraṃ bhagavā dhammiyā kathāya sandassesi samādapesi samuttejesi sampahaṃsesi. Atha kho visākhā migāramātā, bhagavatā dhammiyā kathāya sandassitā samādapitā samuttejitā sampahaṃsitā, bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘adhivāsetu me, bhante, bhagavā svātanāya bhattaṃ saddhiṃ bhikkhusaṅghenā’’ti. Adhivāsesi bhagavā tuṇhībhāvena. Atha kho visākhā migāramātā bhagavato adhivāsanaṃ viditvā uṭṭhāyāsanā bhagavantaṃ abhivādetvā padakkhiṇaṃ katvā pakkāmi.

    เตน โข ปน สมเยน ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน จาตุทฺทีปิโก มหาเมโฆ ปาวสฺสิฯ อถ โข ภควา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘ยถา, ภิกฺขเว, เชตวเน วสฺสติ เอวํ จตูสุ ทีเปสุ วสฺสติฯ โอวสฺสาเปถ, ภิกฺขเว, กายํฯ อยํ ปจฺฉิมโก จาตุทฺทีปิโก มหาเมโฆ’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปฎิสฺสุณิตฺวา นิกฺขิตฺตจีวรา กายํ โอวสฺสาเปนฺติฯ อถ โข วิสาขา มิคารมาตา ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฎิยาทาเปตฺวา ทาสิํ อาณาเปสิ – ‘‘คจฺฉ, เชฯ อารามํ คนฺตฺวา กาลํ อาโรเจหิ – กาโล, ภเนฺต, นิฎฺฐิตํ ภตฺต’’นฺติฯ ‘‘เอวํ, อเยฺย’’ติ โข สา ทาสี วิสาขาย มิคารมาตุยา ปฎิสฺสุณิตฺวา อารามํ คนฺตฺวา อทฺทส ภิกฺขู นิกฺขิตฺตจีวเร กายํ โอวสฺสาเปเนฺต, ทิสฺวาน ‘นตฺถิ อาราเม ภิกฺขู, อาชีวกา กายํ โอวสฺสาเปนฺตี’ติ เยน วิสาขา มิคารมาตา เตนุปสงฺกมิ ; อุปสงฺกมิตฺวา วิสาขํ มิคารมาตรํ เอตทโวจ – ‘‘นตฺถเยฺย, อาราเม ภิกฺขู, อาชีวกา กายํ โอวสฺสาเปนฺตี’’ติฯ อถ โข วิสาขาย มิคารมาตุยา ปณฺฑิตาย วิยตฺตาย เมธาวินิยา เอตทโหสิ – ‘‘นิสฺสํสยํ โข อยฺยา นิกฺขิตฺตจีวรา กายํ โอวสฺสาเปนฺติฯ สายํ พาลา มญฺญิตฺถ – นตฺถิ อาราเม ภิกฺขู, อาชีวกา กายํ โอวสฺสาเปนฺตี’’ติ, ปุน ทาสิํ อาณาเปสิ – ‘‘คจฺฉ, เชฯ อารามํ คนฺตฺวา กาลํ อาโรเจหิ – กาโล, ภเนฺต, นิฎฺฐิตํ ภตฺต’’นฺติฯ อถ โข เต ภิกฺขู คตฺตานิ สีติํ กริตฺวา 1 กลฺลกายา จีวรานิ คเหตฺวา ยถาวิหารํ ปวิสิํสุฯ อถ โข สา ทาสี อารามํ คนฺตฺวา ภิกฺขู อปสฺสนฺตี ‘นตฺถิ อาราเม ภิกฺขู, สุโญฺญ อาราโม’ติ เยน วิสาขา มิคารมาตา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา วิสาขํ มิคารมาตรํ เอตทโวจ – ‘‘นตฺถเยฺย, อาราเม ภิกฺขู, สุโญฺญ อาราโม’’ติฯ อถ โข วิสาขาย มิคารมาตุยา ปณฺฑิตาย วิยตฺตาย เมธาวินิยา เอตทโหสิ – ‘‘นิสฺสํสยํ โข อยฺยา คตฺตานิ สีติํ กริตฺวา กลฺลกายา จีวรานิ คเหตฺวา ยถาวิหารํ ปวิฎฺฐาฯ สายํ พาลา มญฺญิตฺถ – นตฺถิ อาราเม ภิกฺขู, สุโญฺญ อาราโม’’ติ, ปุน ทาสิํ อาณาเปสิ – ‘‘คจฺฉ, เชฯ อารามํ คนฺตฺวา กาลํ อาโรเจหิ – กาโล, ภเนฺต, นิฎฺฐิตํ ภตฺต’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena tassā rattiyā accayena cātuddīpiko mahāmegho pāvassi. Atha kho bhagavā bhikkhū āmantesi – ‘‘yathā, bhikkhave, jetavane vassati evaṃ catūsu dīpesu vassati. Ovassāpetha, bhikkhave, kāyaṃ. Ayaṃ pacchimako cātuddīpiko mahāmegho’’ti. ‘‘Evaṃ, bhante’’ti kho te bhikkhū bhagavato paṭissuṇitvā nikkhittacīvarā kāyaṃ ovassāpenti. Atha kho visākhā migāramātā paṇītaṃ khādanīyaṃ bhojanīyaṃ paṭiyādāpetvā dāsiṃ āṇāpesi – ‘‘gaccha, je. Ārāmaṃ gantvā kālaṃ ārocehi – kālo, bhante, niṭṭhitaṃ bhatta’’nti. ‘‘Evaṃ, ayye’’ti kho sā dāsī visākhāya migāramātuyā paṭissuṇitvā ārāmaṃ gantvā addasa bhikkhū nikkhittacīvare kāyaṃ ovassāpente, disvāna ‘natthi ārāme bhikkhū, ājīvakā kāyaṃ ovassāpentī’ti yena visākhā migāramātā tenupasaṅkami ; upasaṅkamitvā visākhaṃ migāramātaraṃ etadavoca – ‘‘natthayye, ārāme bhikkhū, ājīvakā kāyaṃ ovassāpentī’’ti. Atha kho visākhāya migāramātuyā paṇḍitāya viyattāya medhāviniyā etadahosi – ‘‘nissaṃsayaṃ kho ayyā nikkhittacīvarā kāyaṃ ovassāpenti. Sāyaṃ bālā maññittha – natthi ārāme bhikkhū, ājīvakā kāyaṃ ovassāpentī’’ti, puna dāsiṃ āṇāpesi – ‘‘gaccha, je. Ārāmaṃ gantvā kālaṃ ārocehi – kālo, bhante, niṭṭhitaṃ bhatta’’nti. Atha kho te bhikkhū gattāni sītiṃ karitvā 2 kallakāyā cīvarāni gahetvā yathāvihāraṃ pavisiṃsu. Atha kho sā dāsī ārāmaṃ gantvā bhikkhū apassantī ‘natthi ārāme bhikkhū, suñño ārāmo’ti yena visākhā migāramātā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā visākhaṃ migāramātaraṃ etadavoca – ‘‘natthayye, ārāme bhikkhū, suñño ārāmo’’ti. Atha kho visākhāya migāramātuyā paṇḍitāya viyattāya medhāviniyā etadahosi – ‘‘nissaṃsayaṃ kho ayyā gattāni sītiṃ karitvā kallakāyā cīvarāni gahetvā yathāvihāraṃ paviṭṭhā. Sāyaṃ bālā maññittha – natthi ārāme bhikkhū, suñño ārāmo’’ti, puna dāsiṃ āṇāpesi – ‘‘gaccha, je. Ārāmaṃ gantvā kālaṃ ārocehi – kālo, bhante, niṭṭhitaṃ bhatta’’nti.

    ๓๕๐. อถ โข ภควา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘สนฺทหถ 3, ภิกฺขเว, ปตฺตจีวรํ; กาโล ภตฺตสฺสา’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจโสฺสสุํฯ อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมฺมิญฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิเญฺชยฺย, เอวเมว – เชตวเน อนฺตรหิโต วิสาขาย มิคารมาตุยา โกฎฺฐเก ปาตุรโหสิฯ นิสีทิ ภควา ปญฺญเตฺต อาสเน สทฺธิํ ภิกฺขุสเงฺฆนฯ อถ โข วิสาขา มิคารมาตา – ‘‘อจฺฉริยํ วต โภ! อพฺภุตํ วต โภ! ตถาคตสฺส มหิทฺธิกตา มหานุภาวตา, ยตฺร หิ นาม ชณฺณุกมเตฺตสุปิ โอเฆสุ ปวตฺตมาเนสุ, กฎิมเตฺตสุปิ โอเฆสุ ปวตฺตมาเนสุ, น หิ นาม เอกภิกฺขุสฺสปิ 4 ปาทา วา จีวรานิ วา อลฺลานิ ภวิสฺสนฺตี’’ติ – หฎฺฐา อุทคฺคา พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตเปฺปตฺวา สมฺปวาเรตฺวา ภควนฺตํ ภุตฺตาวิํ โอนีตปตฺตปาณิํ เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข วิสาขา มิคารมาตา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อฎฺฐาหํ, ภเนฺต, ภควนฺตํ วรานิ ยาจามี’’ติฯ ‘‘อติกฺกนฺตวรา โข, วิสาเข, ตถาคตา’’ติฯ ‘‘ยานิ จ, ภเนฺต, กปฺปิยานิ ยานิ จ อนวชฺชานี’’ติฯ ‘‘วเทหิ, วิสาเข’’ติฯ ‘‘อิจฺฉามหํ, ภเนฺต, สงฺฆสฺส ยาวชีวํ วสฺสิกสาฎิกํ ทาตุํ, อาคนฺตุกภตฺตํ ทาตุํ, คมิกภตฺตํ ทาตุํ, คิลานภตฺตํ ทาตุํ, คิลานุปฎฺฐากภตฺตํ ทาตุํ, คิลานเภสชฺชํ ทาตุํ, ธุวยาคุํ ทาตุํ, ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส อุทกสาฎิกํ ทาตุ’’นฺติฯ ‘‘กิํ ปน ตฺวํ, วิสาเข, อตฺถวสํ สมฺปสฺสมานา ตถาคตํ อฎฺฐ วรานิ ยาจสี’’ติ?

    350. Atha kho bhagavā bhikkhū āmantesi – ‘‘sandahatha 5, bhikkhave, pattacīvaraṃ; kālo bhattassā’’ti. ‘‘Evaṃ, bhante’’ti kho te bhikkhū bhagavato paccassosuṃ. Atha kho bhagavā pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya – seyyathāpi nāma balavā puriso sammiñjitaṃ vā bāhaṃ pasāreyya, pasāritaṃ vā bāhaṃ samiñjeyya, evameva – jetavane antarahito visākhāya migāramātuyā koṭṭhake pāturahosi. Nisīdi bhagavā paññatte āsane saddhiṃ bhikkhusaṅghena. Atha kho visākhā migāramātā – ‘‘acchariyaṃ vata bho! Abbhutaṃ vata bho! Tathāgatassa mahiddhikatā mahānubhāvatā, yatra hi nāma jaṇṇukamattesupi oghesu pavattamānesu, kaṭimattesupi oghesu pavattamānesu, na hi nāma ekabhikkhussapi 6 pādā vā cīvarāni vā allāni bhavissantī’’ti – haṭṭhā udaggā buddhappamukhaṃ bhikkhusaṅghaṃ paṇītena khādanīyena bhojanīyena sahatthā santappetvā sampavāretvā bhagavantaṃ bhuttāviṃ onītapattapāṇiṃ ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinnā kho visākhā migāramātā bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘aṭṭhāhaṃ, bhante, bhagavantaṃ varāni yācāmī’’ti. ‘‘Atikkantavarā kho, visākhe, tathāgatā’’ti. ‘‘Yāni ca, bhante, kappiyāni yāni ca anavajjānī’’ti. ‘‘Vadehi, visākhe’’ti. ‘‘Icchāmahaṃ, bhante, saṅghassa yāvajīvaṃ vassikasāṭikaṃ dātuṃ, āgantukabhattaṃ dātuṃ, gamikabhattaṃ dātuṃ, gilānabhattaṃ dātuṃ, gilānupaṭṭhākabhattaṃ dātuṃ, gilānabhesajjaṃ dātuṃ, dhuvayāguṃ dātuṃ, bhikkhunisaṅghassa udakasāṭikaṃ dātu’’nti. ‘‘Kiṃ pana tvaṃ, visākhe, atthavasaṃ sampassamānā tathāgataṃ aṭṭha varāni yācasī’’ti?

    ‘‘อิธาหํ, ภเนฺต, ทาสิํ อาณาเปสิํ – ‘คจฺฉ, เชฯ อารามํ คนฺตฺวา กาลํ อาโรเจหิ – กาโล, ภเนฺต, นิฎฺฐิตํ ภตฺต’’’นฺติฯ อถ โข สา, ภเนฺต, ทาสี อารามํ คนฺตฺวา อทฺทส ภิกฺขู นิกฺขิตฺตจีวเร กายํ โอวสฺสาเปเนฺต, ทิสฺวาน ‘‘นตฺถิ อาราเม ภิกฺขู, อาชีวกา กายํ โอวสฺสาเปนฺตี’’ติ เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ เอตทโวจ – ‘‘นตฺถเยฺย, อาราเม ภิกฺขู, อาชีวกา กายํ โอวสฺสาเปนฺตี’’ติฯ อสุจิ, ภเนฺต, นคฺคิยํ เชคุจฺฉํ ปฎิกูลํฯ อิมาหํ, ภเนฺต, อตฺถวสํ สมฺปสฺสมานา อิจฺฉามิ สงฺฆสฺส ยาวชีวํ วสฺสิกสาฎิกํ ทาตุํฯ

    ‘‘Idhāhaṃ, bhante, dāsiṃ āṇāpesiṃ – ‘gaccha, je. Ārāmaṃ gantvā kālaṃ ārocehi – kālo, bhante, niṭṭhitaṃ bhatta’’’nti. Atha kho sā, bhante, dāsī ārāmaṃ gantvā addasa bhikkhū nikkhittacīvare kāyaṃ ovassāpente, disvāna ‘‘natthi ārāme bhikkhū, ājīvakā kāyaṃ ovassāpentī’’ti yenāhaṃ tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā maṃ etadavoca – ‘‘natthayye, ārāme bhikkhū, ājīvakā kāyaṃ ovassāpentī’’ti. Asuci, bhante, naggiyaṃ jegucchaṃ paṭikūlaṃ. Imāhaṃ, bhante, atthavasaṃ sampassamānā icchāmi saṅghassa yāvajīvaṃ vassikasāṭikaṃ dātuṃ.

    ‘‘ปุน จปรํ, ภเนฺต, อาคนฺตุโก ภิกฺขุ น วีถิกุสโล น โคจรกุสโล กิลโนฺต ปิณฺฑาย จรติฯ โส เม อาคนฺตุกภตฺตํ ภุญฺชิตฺวา วีถิกุสโล โคจรกุสโล อกิลโนฺต ปิณฺฑาย จริสฺสติฯ อิมาหํ, ภเนฺต, อตฺถวสํ สมฺปสฺสมานา อิจฺฉามิ สงฺฆสฺส ยาวชีวํ อาคนฺตุกภตฺตํ ทาตุํฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, bhante, āgantuko bhikkhu na vīthikusalo na gocarakusalo kilanto piṇḍāya carati. So me āgantukabhattaṃ bhuñjitvā vīthikusalo gocarakusalo akilanto piṇḍāya carissati. Imāhaṃ, bhante, atthavasaṃ sampassamānā icchāmi saṅghassa yāvajīvaṃ āgantukabhattaṃ dātuṃ.

    ‘‘ปุน จปรํ, ภเนฺต, คมิโก ภิกฺขุ อตฺตโน ภตฺตํ ปริเยสมาโน สตฺถา วา วิหายิสฺสติ, ยตฺถ วา วาสํ คนฺตุกาโม ภวิสฺสติ ตตฺถ วิกาเล อุปคจฺฉิสฺสติ, กิลโนฺต อทฺธานํ คมิสฺสติฯ โส เม คมิกภตฺตํ ภุญฺชิตฺวา สตฺถา น วิหายิสฺสติ, ยตฺถ วาสํ คนฺตุกาโม ภวิสฺสติ ตตฺถ กาเล อุปคจฺฉิสฺสติ, อกิลโนฺต อทฺธานํ คมิสฺสติฯ อิมาหํ, ภเนฺต, อตฺถวสํ สมฺปสฺสมานา อิจฺฉามิ สงฺฆสฺส ยาวชีวํ คมิกภตฺตํ ทาตุํฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, bhante, gamiko bhikkhu attano bhattaṃ pariyesamāno satthā vā vihāyissati, yattha vā vāsaṃ gantukāmo bhavissati tattha vikāle upagacchissati, kilanto addhānaṃ gamissati. So me gamikabhattaṃ bhuñjitvā satthā na vihāyissati, yattha vāsaṃ gantukāmo bhavissati tattha kāle upagacchissati, akilanto addhānaṃ gamissati. Imāhaṃ, bhante, atthavasaṃ sampassamānā icchāmi saṅghassa yāvajīvaṃ gamikabhattaṃ dātuṃ.

    ‘‘ปุน จปรํ, ภเนฺต, คิลานสฺส ภิกฺขุโน สปฺปายานิ โภชนานิ อลภนฺตสฺส อาพาโธ วา อภิวฑฺฒิสฺสติ, กาลํกิริยา วา ภวิสฺสติฯ ตสฺส เม คิลานภตฺตํ ภุตฺตสฺส อาพาโธ น อภิวฑฺฒิสฺสติ, กาลํกิริยา น ภวิสฺสติฯ อิมาหํ, ภเนฺต, อตฺถวสํ สมฺปสฺสมานา อิจฺฉามิ สงฺฆสฺส ยาวชีวํ คิลานภตฺตํ ทาตุํ ฯ ‘‘ปุน จปรํ, ภเนฺต, คิลานุปฎฺฐาโก ภิกฺขุ อตฺตโน ภตฺตํ ปริเยสมาโน คิลานสฺส อุสฺสูเร ภตฺตํ นีหริสฺสติ, ภตฺตเจฺฉทํ กริสฺสติฯ โส เม คิลานุปฎฺฐากภตฺตํ ภุญฺชิตฺวา คิลานสฺส กาเลน ภตฺตํ นีหริสฺสติ, ภตฺตเจฺฉทํ น กริสฺสติฯ อิมาหํ, ภเนฺต, อตฺถวสํ สมฺปสฺสมานา อิจฺฉามิ สงฺฆสฺส ยาวชีวํ คิลานุปฎฺฐากภตฺตํ ทาตุํฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, bhante, gilānassa bhikkhuno sappāyāni bhojanāni alabhantassa ābādho vā abhivaḍḍhissati, kālaṃkiriyā vā bhavissati. Tassa me gilānabhattaṃ bhuttassa ābādho na abhivaḍḍhissati, kālaṃkiriyā na bhavissati. Imāhaṃ, bhante, atthavasaṃ sampassamānā icchāmi saṅghassa yāvajīvaṃ gilānabhattaṃ dātuṃ . ‘‘Puna caparaṃ, bhante, gilānupaṭṭhāko bhikkhu attano bhattaṃ pariyesamāno gilānassa ussūre bhattaṃ nīharissati, bhattacchedaṃ karissati. So me gilānupaṭṭhākabhattaṃ bhuñjitvā gilānassa kālena bhattaṃ nīharissati, bhattacchedaṃ na karissati. Imāhaṃ, bhante, atthavasaṃ sampassamānā icchāmi saṅghassa yāvajīvaṃ gilānupaṭṭhākabhattaṃ dātuṃ.

    ‘‘ปุน จปรํ, ภเนฺต, คิลานสฺส ภิกฺขุโน สปฺปายานิ เภสชฺชานิ อลภนฺตสฺส อาพาโธ วา อภิวฑฺฒิสฺสติ, กาลํกิริยา วา ภวิสฺสติฯ ตสฺส เม คิลานเภสชฺชํ ปริภุตฺตสฺส อาพาโธ น อภิวฑฺฒิสฺสติ, กาลํกิริยา น ภวิสฺสติฯ อิมาหํ, ภเนฺต, อตฺถวสํ สมฺปสฺสมานา อิจฺฉามิ สงฺฆสฺส ยาวชีวํ คิลานเภสชฺชํ ทาตุํฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, bhante, gilānassa bhikkhuno sappāyāni bhesajjāni alabhantassa ābādho vā abhivaḍḍhissati, kālaṃkiriyā vā bhavissati. Tassa me gilānabhesajjaṃ paribhuttassa ābādho na abhivaḍḍhissati, kālaṃkiriyā na bhavissati. Imāhaṃ, bhante, atthavasaṃ sampassamānā icchāmi saṅghassa yāvajīvaṃ gilānabhesajjaṃ dātuṃ.

    ‘‘ปุน จปรํ, ภเนฺต, ภควตา อนฺธกวิเนฺท ทสานิสํเส สมฺปสฺสมาเนน ยาคุ อนุญฺญาตาฯ ตฺยาหํ, ภเนฺต, อานิสํเส สมฺปสฺสมานา อิจฺฉามิ สงฺฆสฺส ยาวชีวํ ธุวยาคุํ ทาตุํฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, bhante, bhagavatā andhakavinde dasānisaṃse sampassamānena yāgu anuññātā. Tyāhaṃ, bhante, ānisaṃse sampassamānā icchāmi saṅghassa yāvajīvaṃ dhuvayāguṃ dātuṃ.

    ‘‘อิธ, ภเนฺต, ภิกฺขุนิโย อจิรวติยา นทิยา เวสิยาหิ สทฺธิํ นคฺคา เอกติเตฺถ นหายนฺติฯ ตา, ภเนฺต, เวสิยา ภิกฺขุนิโย อุปฺปเณฺฑสุํ – ‘กิํ นุ โข นาม ตุมฺหากํ, อเยฺย, ทหรานํ 7 พฺรหฺมจริยํ จิเณฺณน, นนุ นาม กามา ปริภุญฺชิตพฺพา; ยทา ชิณฺณา ภวิสฺสถ ตทา พฺรหฺมจริยํ จริสฺสถฯ เอวํ ตุมฺหากํ อุโภ อตฺถา ปริคฺคหิตา ภวิสฺสนฺตี’ติฯ ตา, ภเนฺต, ภิกฺขุนิโย เวสิยาหิ อุปฺปณฺฑิยมานา มงฺกู อเหสุํฯ อสุจิ, ภเนฺต, มาตุคามสฺส นคฺคิยํ เชคุจฺฉํ ปฎิกูลํฯ อิมาหํ, ภเนฺต, อตฺถวสํ สมฺปสฺสมานา อิจฺฉามิ ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส ยาวชีวํ อุทกสาฎิกํ ทาตุ’’นฺติฯ

    ‘‘Idha, bhante, bhikkhuniyo aciravatiyā nadiyā vesiyāhi saddhiṃ naggā ekatitthe nahāyanti. Tā, bhante, vesiyā bhikkhuniyo uppaṇḍesuṃ – ‘kiṃ nu kho nāma tumhākaṃ, ayye, daharānaṃ 8 brahmacariyaṃ ciṇṇena, nanu nāma kāmā paribhuñjitabbā; yadā jiṇṇā bhavissatha tadā brahmacariyaṃ carissatha. Evaṃ tumhākaṃ ubho atthā pariggahitā bhavissantī’ti. Tā, bhante, bhikkhuniyo vesiyāhi uppaṇḍiyamānā maṅkū ahesuṃ. Asuci, bhante, mātugāmassa naggiyaṃ jegucchaṃ paṭikūlaṃ. Imāhaṃ, bhante, atthavasaṃ sampassamānā icchāmi bhikkhunisaṅghassa yāvajīvaṃ udakasāṭikaṃ dātu’’nti.

    ๓๕๑. ‘‘กิํ ปน ตฺวํ, วิสาเข, อานิสํสํ สมฺปสฺสมานา ตถาคตํ อฎฺฐ วรานิ ยาจสี’’ติ? ‘‘อิธ, ภเนฺต, ทิสาสุ วสฺสํวุฎฺฐา ภิกฺขู สาวตฺถิํ อาคจฺฉิสฺสนฺติ ภควนฺตํ ทสฺสนายฯ เต ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉิสฺสนฺติ – ‘อิตฺถนฺนาโม, ภเนฺต, ภิกฺขุ กาลงฺกโต, ตสฺส กา คติ โก อภิสมฺปราโย’ติ? ตํ ภควา พฺยากริสฺสติ โสตาปตฺติผเล วา สกทาคามิผเล วา อนาคามิผเล วา อรหเตฺต วาฯ ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉิสฺสามิ – ‘อาคตปุพฺพา นุ โข, ภเนฺต, เตน อเยฺยน สาวตฺถี’ติ? สเจ เม วกฺขนฺติ – ‘อาคตปุพฺพา เตน ภิกฺขุนา สาวตฺถี’ติ นิฎฺฐเมตฺถ คจฺฉิสฺสามิ – นิสฺสํสยํ เม ปริภุตฺตํ เตน อเยฺยน วสฺสิกสาฎิกา วา อาคนฺตุกภตฺตํ วา คมิกภตฺตํ วา คิลานภตฺตํ วา คิลานุปฎฺฐากภตฺตํ วา คิลานเภสชฺชํ วา ธุวยาคุ วาติฯ ตสฺสา เม ตทนุสฺสรนฺติยา ปามุชฺชํ ชายิสฺสติ, ปมุทิตาย ปีติ ชายิสฺสติ, ปีติมนาย กาโย ปสฺสมฺภิสฺสติ, ปสฺสทฺธกายา สุขํ เวทิยิสฺสามิ, สุขินิยา จิตฺตํ สมาธิยิสฺสติฯ สา เม ภวิสฺสติ อินฺทฺริยภาวนา พลภาวนา โพชฺฌงฺคภาวนาฯ อิมาหํ, ภเนฺต, อานิสํสํ สมฺปสฺสมานา ตถาคตํ อฎฺฐ วรานิ ยาจามี’’ติฯ ‘‘สาธุ สาธุ, วิสาเข; สาธุ โข ตฺวํ, วิสาเข, อิมํ อานิสํสํ สมฺปสฺสมานา ตถาคตํ อฎฺฐ วรานิ ยาจสิฯ อนุชานามิ เต, วิสาเข, อฎฺฐ วรานี’’ติฯ อถ โข ภควา วิสาขํ มิคารมาตรํ อิมาหิ คาถาหิ อนุโมทิ –

    351. ‘‘Kiṃ pana tvaṃ, visākhe, ānisaṃsaṃ sampassamānā tathāgataṃ aṭṭha varāni yācasī’’ti? ‘‘Idha, bhante, disāsu vassaṃvuṭṭhā bhikkhū sāvatthiṃ āgacchissanti bhagavantaṃ dassanāya. Te bhagavantaṃ upasaṅkamitvā pucchissanti – ‘itthannāmo, bhante, bhikkhu kālaṅkato, tassa kā gati ko abhisamparāyo’ti? Taṃ bhagavā byākarissati sotāpattiphale vā sakadāgāmiphale vā anāgāmiphale vā arahatte vā. Tyāhaṃ upasaṅkamitvā pucchissāmi – ‘āgatapubbā nu kho, bhante, tena ayyena sāvatthī’ti? Sace me vakkhanti – ‘āgatapubbā tena bhikkhunā sāvatthī’ti niṭṭhamettha gacchissāmi – nissaṃsayaṃ me paribhuttaṃ tena ayyena vassikasāṭikā vā āgantukabhattaṃ vā gamikabhattaṃ vā gilānabhattaṃ vā gilānupaṭṭhākabhattaṃ vā gilānabhesajjaṃ vā dhuvayāgu vāti. Tassā me tadanussarantiyā pāmujjaṃ jāyissati, pamuditāya pīti jāyissati, pītimanāya kāyo passambhissati, passaddhakāyā sukhaṃ vediyissāmi, sukhiniyā cittaṃ samādhiyissati. Sā me bhavissati indriyabhāvanā balabhāvanā bojjhaṅgabhāvanā. Imāhaṃ, bhante, ānisaṃsaṃ sampassamānā tathāgataṃ aṭṭha varāni yācāmī’’ti. ‘‘Sādhu sādhu, visākhe; sādhu kho tvaṃ, visākhe, imaṃ ānisaṃsaṃ sampassamānā tathāgataṃ aṭṭha varāni yācasi. Anujānāmi te, visākhe, aṭṭha varānī’’ti. Atha kho bhagavā visākhaṃ migāramātaraṃ imāhi gāthāhi anumodi –

    ‘‘ยา อนฺนปานํ ททติปฺปโมทิตา;

    ‘‘Yā annapānaṃ dadatippamoditā;

    สีลูปปนฺนา สุคตสฺส สาวิกา;

    Sīlūpapannā sugatassa sāvikā;

    ททาติ ทานํ อภิภุยฺย มจฺฉรํ;

    Dadāti dānaṃ abhibhuyya maccharaṃ;

    โสวคฺคิกํ โสกนุทํ สุขาวหํฯ

    Sovaggikaṃ sokanudaṃ sukhāvahaṃ.

    ‘‘ทิพฺพํ สา ลภเต อายุํ 9;

    ‘‘Dibbaṃ sā labhate āyuṃ 10;

    อาคมฺม มคฺคํ วิรชํ อนงฺคณํ;

    Āgamma maggaṃ virajaṃ anaṅgaṇaṃ;

    สา ปุญฺญกามา สุขินี อนามยา;

    Sā puññakāmā sukhinī anāmayā;

    สคฺคมฺหิ กายมฺหิ จิรํ ปโมทตี’’ติฯ

    Saggamhi kāyamhi ciraṃ pamodatī’’ti.

    ๓๕๒. อถ โข ภควา วิสาขํ มิคารมาตรํ อิมาหิ คาถาหิ อนุโมทิตฺวา อุฎฺฐายาสนา ปกฺกามิฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วสฺสิกสาฎิกํ, อาคนฺตุกภตฺตํ, คมิกภตฺตํ, คิลานภตฺตํ, คิลานุปฎฺฐากภตฺตํ, คิลานเภสชฺชํ, ธุวยาคุํ, ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส อุทกสาฎิก’’นฺติฯ

    352. Atha kho bhagavā visākhaṃ migāramātaraṃ imāhi gāthāhi anumoditvā uṭṭhāyāsanā pakkāmi. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘anujānāmi, bhikkhave, vassikasāṭikaṃ, āgantukabhattaṃ, gamikabhattaṃ, gilānabhattaṃ, gilānupaṭṭhākabhattaṃ, gilānabhesajjaṃ, dhuvayāguṃ, bhikkhunisaṅghassa udakasāṭika’’nti.

    วิสาขาวตฺถุ นิฎฺฐิตํฯ

    Visākhāvatthu niṭṭhitaṃ.

    วิสาขาภาณวาโร นิฎฺฐิโตฯ

    Visākhābhāṇavāro niṭṭhito.







    Footnotes:
    1. สีตีกริตฺวา (สฺยา.)
    2. sītīkaritvā (syā.)
    3. สนฺนหถ (สี. สฺยา.)
    4. ปวตฺตมาเนสุ น เอกภิกฺขุสฺสปิ (?)
    5. sannahatha (sī. syā.)
    6. pavattamānesu na ekabhikkhussapi (?)
    7. ทหรานํ ทหรานํ (สี.)
    8. daharānaṃ daharānaṃ (sī.)
    9. ทิพฺพํ พลํ สา ลภเต จ อายุํ (สี. สฺยา.)
    10. dibbaṃ balaṃ sā labhate ca āyuṃ (sī. syā.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā / อติเรกจีวราทิกถา • Atirekacīvarādikathā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / วิสาขาวตฺถุกถาวณฺณนา • Visākhāvatthukathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / จีวรรชนกถาทิวณฺณนา • Cīvararajanakathādivaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๒๑๘. อติเรกจีวราทิกถา • 218. Atirekacīvarādikathā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact