Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā

    [๓๔๐] ๑๐. วิสยฺหชาตกวณฺณนา

    [340] 10. Visayhajātakavaṇṇanā

    อทาสิ ทานานีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรโนฺต อนาถปิณฺฑิกํ อารพฺภ กเถสิฯ วตฺถุ เหฎฺฐา ขทิรงฺคารชาตเก (ชา. ๑.๑.๔๐) วิตฺถาริตเมวฯ อิธ ปน สตฺถา อนาถปิณฺฑิกํฯ อามเนฺตตฺวา ‘‘โปราณกปณฺฑิตาปิ คหปติ ‘ทานํ มา ททาสี’ติ อากาเส ฐตฺวา วาเรนฺตํ สกฺกํ เทวานมินฺทํ ปฎิพาหิตฺวา ทานํ อทํสุเยวา’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริฯ

    Adāsidānānīti idaṃ satthā jetavane viharanto anāthapiṇḍikaṃ ārabbha kathesi. Vatthu heṭṭhā khadiraṅgārajātake (jā. 1.1.40) vitthāritameva. Idha pana satthā anāthapiṇḍikaṃ. Āmantetvā ‘‘porāṇakapaṇḍitāpi gahapati ‘dānaṃ mā dadāsī’ti ākāse ṭhatvā vārentaṃ sakkaṃ devānamindaṃ paṭibāhitvā dānaṃ adaṃsuyevā’’ti vatvā tena yācito atītaṃ āhari.

    อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทเตฺต รชฺชํ กาเรเนฺต โพธิสโตฺต อสีติโกฎิวิภโว วิสโยฺห นาม เสฎฺฐิ หุตฺวา ปญฺจหิ สีเลหิ สมนฺนาคโต ทานชฺฌาสโย ทานาภิรโต อโหสิฯ โส จตูสุ นครทฺวาเรสุ, นครมเชฺฌ, อตฺตโน ฆรทฺวาเรติ ฉสุ ฐาเนสุ ทานสาลาโย กาเรตฺวา ทานํ ปวเตฺตสิ, ทิวเส ทิวเส ฉ สตสหสฺสานิ วิสฺสเชฺชติฯ โพธิสตฺตสฺส จ วนิพฺพกยาจกานญฺจ เอกสทิสเมว ภตฺตํ โหติฯ ตสฺส ชมฺพุทีปํ อุนฺนงฺคลํ กตฺวา ทานํ ททโต ทานานุภาเวน สกฺกสฺส ภวนํ กมฺปิ, สกฺกสฺส เทวรโญฺญ ปณฺฑุกมฺพลสิลาสนํ อุณฺหาการํ ทเสฺสสิฯ สโกฺก ‘‘โก นุ โข มํ ฐานา จาเวตุกาโม’’ติ อุปธาเรโนฺต มหาเสฎฺฐิํ ทิสฺวา ‘‘อยํ วิสโยฺห อติวิย ปตฺถริตฺวา สกลชมฺพุทีปํ อุนฺนงฺคลํ กโรโนฺต ทานํ เทติ, อิมินา ทาเนน มํ จาเวตฺวา สยํ สโกฺก ภวิสฺสติ มเญฺญ, ธนมสฺส นาเสตฺวา เอตํ ทลิทฺทํ กตฺวา ยถา ทานํ น เทติ, ตถา กริสฺสามี’’ติ จิเนฺตตฺวา สพฺพํ ธนธญฺญํ เตลมธุผาณิตสกฺกราทีนิ อนฺตมโส ทาสกมฺมกรโปริสมฺปิ อนฺตรธาเปสิฯ

    Atīte bārāṇasiyaṃ brahmadatte rajjaṃ kārente bodhisatto asītikoṭivibhavo visayho nāma seṭṭhi hutvā pañcahi sīlehi samannāgato dānajjhāsayo dānābhirato ahosi. So catūsu nagaradvāresu, nagaramajjhe, attano gharadvāreti chasu ṭhānesu dānasālāyo kāretvā dānaṃ pavattesi, divase divase cha satasahassāni vissajjeti. Bodhisattassa ca vanibbakayācakānañca ekasadisameva bhattaṃ hoti. Tassa jambudīpaṃ unnaṅgalaṃ katvā dānaṃ dadato dānānubhāvena sakkassa bhavanaṃ kampi, sakkassa devarañño paṇḍukambalasilāsanaṃ uṇhākāraṃ dassesi. Sakko ‘‘ko nu kho maṃ ṭhānā cāvetukāmo’’ti upadhārento mahāseṭṭhiṃ disvā ‘‘ayaṃ visayho ativiya pattharitvā sakalajambudīpaṃ unnaṅgalaṃ karonto dānaṃ deti, iminā dānena maṃ cāvetvā sayaṃ sakko bhavissati maññe, dhanamassa nāsetvā etaṃ daliddaṃ katvā yathā dānaṃ na deti, tathā karissāmī’’ti cintetvā sabbaṃ dhanadhaññaṃ telamadhuphāṇitasakkarādīni antamaso dāsakammakaraporisampi antaradhāpesi.

    ตทา ทานพฺยาวฎา อาคนฺตฺวา ‘‘สามิ ทานคฺคํ ปจฺฉินฺนํ, ฐปิตฐปิตฎฺฐาเน น กิญฺจิ ปสฺสามา’’ติ อาโรจยิํสุฯ ‘‘อิโต ปริพฺพยํ หรถ, มา ทานํ ปจฺฉินฺทถา’’ติ ภริยํ ปโกฺกสาเปตฺวา ‘‘ภเทฺท, ทานํ ปวตฺตาเปหี’’ติ อาหฯ สา สกลเคหํ วิจินิตฺวา อฑฺฒมาสกมตฺตมฺปิ อทิสฺวา ‘‘อยฺย, อมฺหากํ นิวตฺถวตฺถํ ฐเปตฺวา อญฺญํ กิญฺจิ น ปสฺสามิ, สกลเคหํ ตุจฺฉ’’นฺติ อาหฯ สตฺตรตนคเพฺภสุ ทฺวารํ วิวราเปตฺวา น กิญฺจิ อทฺทส, เสฎฺฐิญฺจ ภริยญฺจ ฐเปตฺวา อเญฺญ ทาสกมฺมกราปิ น ปญฺญายิํสุฯ ปุน มหาสโตฺตฯ ภริยํ อามเนฺตตฺวา ‘‘ภเทฺท, น สกฺกา ทานํ ปจฺฉินฺทิตุํ, สกลนิเวสนํ วิจินิตฺวา กิญฺจิ อุปธาเรหี’’ติ อาหฯ ตสฺมิํ ขเณ เอโก ติณหารโก อสิตญฺจ กาชญฺจ ติณพนฺธนรชฺชุญฺจ ทฺวารนฺตเร ฉเฑฺฑตฺวา ปลายิฯ เสฎฺฐิภริยา ตํ ทิสฺวา ‘‘สามิ, อิทํ ฐเปตฺวา อญฺญํ น ปสฺสามี’’ติ อาหริตฺวา อทาสิฯ มหาสโตฺต ‘‘ภเทฺท, มยา เอตฺตกํ กาลํ ติณํ นาม น ลายิตปุพฺพํ, อชฺช ปน ติณํ ลายิตฺวา อาหริตฺวา วิกฺกิณิตฺวา ยถานุจฺฉวิกํ ทานํ ทสฺสามี’’ติ ทานุปเจฺฉทภเยน อสิตเญฺจว กาชญฺจ รชฺชุญฺจ คเหตฺวา นครา นิกฺขมิตฺวา ติณวตฺถุํ คนฺตฺวา ติณํ ลายิตฺวา ‘‘เอโก อมฺหากํ ภวิสฺสติ, เอเกน ทานํ ทสฺสามี’’ติ เทฺว ติณกลาเป พนฺธิตฺวา กาเช ลเคฺคตฺวา อาทาย คนฺตฺวา นครทฺวาเร วิกฺกิณิตฺวา มาสเก คเหตฺวา เอกํ โกฎฺฐาสํ ยาจกานํ อทาสิฯ ยาจกา พหู, เตสํ ‘‘มยฺหมฺปิ เทหิ, มยฺหมฺปิ เทหี’’ติ วทนฺตานํ อิตรมฺปิ โกฎฺฐาสํ ทตฺวา ตํ ทิวสํ สทฺธิํ ภริยาย อนาหาโร วีตินาเมสิฯ อิมินา นิยาเมน ฉ ทิวสา วีติวตฺตาฯ

    Tadā dānabyāvaṭā āgantvā ‘‘sāmi dānaggaṃ pacchinnaṃ, ṭhapitaṭhapitaṭṭhāne na kiñci passāmā’’ti ārocayiṃsu. ‘‘Ito paribbayaṃ haratha, mā dānaṃ pacchindathā’’ti bhariyaṃ pakkosāpetvā ‘‘bhadde, dānaṃ pavattāpehī’’ti āha. Sā sakalagehaṃ vicinitvā aḍḍhamāsakamattampi adisvā ‘‘ayya, amhākaṃ nivatthavatthaṃ ṭhapetvā aññaṃ kiñci na passāmi, sakalagehaṃ tuccha’’nti āha. Sattaratanagabbhesu dvāraṃ vivarāpetvā na kiñci addasa, seṭṭhiñca bhariyañca ṭhapetvā aññe dāsakammakarāpi na paññāyiṃsu. Puna mahāsatto. Bhariyaṃ āmantetvā ‘‘bhadde, na sakkā dānaṃ pacchindituṃ, sakalanivesanaṃ vicinitvā kiñci upadhārehī’’ti āha. Tasmiṃ khaṇe eko tiṇahārako asitañca kājañca tiṇabandhanarajjuñca dvārantare chaḍḍetvā palāyi. Seṭṭhibhariyā taṃ disvā ‘‘sāmi, idaṃ ṭhapetvā aññaṃ na passāmī’’ti āharitvā adāsi. Mahāsatto ‘‘bhadde, mayā ettakaṃ kālaṃ tiṇaṃ nāma na lāyitapubbaṃ, ajja pana tiṇaṃ lāyitvā āharitvā vikkiṇitvā yathānucchavikaṃ dānaṃ dassāmī’’ti dānupacchedabhayena asitañceva kājañca rajjuñca gahetvā nagarā nikkhamitvā tiṇavatthuṃ gantvā tiṇaṃ lāyitvā ‘‘eko amhākaṃ bhavissati, ekena dānaṃ dassāmī’’ti dve tiṇakalāpe bandhitvā kāje laggetvā ādāya gantvā nagaradvāre vikkiṇitvā māsake gahetvā ekaṃ koṭṭhāsaṃ yācakānaṃ adāsi. Yācakā bahū, tesaṃ ‘‘mayhampi dehi, mayhampi dehī’’ti vadantānaṃ itarampi koṭṭhāsaṃ datvā taṃ divasaṃ saddhiṃ bhariyāya anāhāro vītināmesi. Iminā niyāmena cha divasā vītivattā.

    อถสฺส สตฺตเม ทิวเส ติณํ อาหรมานสฺส สตฺตาหํ นิราหารสฺส อติสุขุมาลสฺส นลาเฎ สูริยาตเปน ปหฎมเตฺต อกฺขีนิ ภมิํสุฯ โส สติํ ปจฺจุปฎฺฐาเปตุํ อสโกฺกโนฺต ติณํ อวตฺถริตฺวา ปติฯ สโกฺก ตสฺส กิริยํ อุปธารยมาโน วิจรติฯ โส ตงฺขณเญฺญว อาคนฺตฺวา อากาเส ฐตฺวา ปฐมํ คาถมาห –

    Athassa sattame divase tiṇaṃ āharamānassa sattāhaṃ nirāhārassa atisukhumālassa nalāṭe sūriyātapena pahaṭamatte akkhīni bhamiṃsu. So satiṃ paccupaṭṭhāpetuṃ asakkonto tiṇaṃ avattharitvā pati. Sakko tassa kiriyaṃ upadhārayamāno vicarati. So taṅkhaṇaññeva āgantvā ākāse ṭhatvā paṭhamaṃ gāthamāha –

    ๑๕๗.

    157.

    ‘‘อทาสิ ทานานิ ปุเร วิสยฺห, ททโต จ เต ขยธโมฺม อโหสิ;

    ‘‘Adāsi dānāni pure visayha, dadato ca te khayadhammo ahosi;

    อิโต ปรํ เจ น ทเทยฺย ทานํ, ติเฎฺฐยฺยุํ เต สํยมนฺตสฺส โภคา’’ติฯ

    Ito paraṃ ce na dadeyya dānaṃ, tiṭṭheyyuṃ te saṃyamantassa bhogā’’ti.

    ตสฺสโตฺถ – อโมฺภ วิสยฺห ตฺวํ อิโต ปุเพฺพ ตว เคเห ธเน วิชฺชมาเน สกลชมฺพุทีปํ อุนฺนงฺคลํ กริตฺวา ทานานิ อทาสิฯ ตสฺส จ เต เอวํ ททโต โภคานํ ขยธโมฺม ขยสภาโว อโหสิ, สพฺพํ สาปเตยฺยํ ขีณํ, อิโต ปรํ เจปิ ตฺวํ ทานํ น ทเทยฺย, กสฺสจิ กิญฺจิ น ทเทยฺยาสิ, ตว สํยมนฺตสฺส อททนฺตสฺส โภคา ตเถว ติเฎฺฐยฺยุํ, ‘‘อิโต ปฎฺฐาย น ทสฺสามี’’ติ ตฺวํ มยฺหํ ปฎิญฺญํ เทหิ, อหํ เต โภเค ทเสฺสสฺสามีติฯ

    Tassattho – ambho visayha tvaṃ ito pubbe tava gehe dhane vijjamāne sakalajambudīpaṃ unnaṅgalaṃ karitvā dānāni adāsi. Tassa ca te evaṃ dadato bhogānaṃ khayadhammo khayasabhāvo ahosi, sabbaṃ sāpateyyaṃ khīṇaṃ, ito paraṃ cepi tvaṃ dānaṃ na dadeyya, kassaci kiñci na dadeyyāsi, tava saṃyamantassa adadantassa bhogā tatheva tiṭṭheyyuṃ, ‘‘ito paṭṭhāya na dassāmī’’ti tvaṃ mayhaṃ paṭiññaṃ dehi, ahaṃ te bhoge dassessāmīti.

    มหาสโตฺต ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘โกสิ ตฺว’’นฺติ อาหฯ ‘‘สโกฺกหมสฺมี’’ติฯ โพธิสโตฺต ‘‘สโกฺก นาม สยํ ทานํ ทตฺวา สีลํ สมาทิยิตฺวา อุโปสถกมฺมํ กตฺวา สตฺต วตฺตปทานิ ปูเรตฺวา สกฺกตฺตํ ปโตฺต, ตฺวํ ปน อตฺตโน อิสฺสริยการณํ ทานํ วาเรสิ, อนริยํ วต กโรสี’’ติ วตฺวา ติโสฺส คาถา อภาสิ –

    Mahāsatto tassa vacanaṃ sutvā ‘‘kosi tva’’nti āha. ‘‘Sakkohamasmī’’ti. Bodhisatto ‘‘sakko nāma sayaṃ dānaṃ datvā sīlaṃ samādiyitvā uposathakammaṃ katvā satta vattapadāni pūretvā sakkattaṃ patto, tvaṃ pana attano issariyakāraṇaṃ dānaṃ vāresi, anariyaṃ vata karosī’’ti vatvā tisso gāthā abhāsi –

    ๑๕๘.

    158.

    ‘‘อนริยมริเยน สหสฺสเนตฺต, สุทุคฺคเตนาปิ อกิจฺจมาหุ;

    ‘‘Anariyamariyena sahassanetta, suduggatenāpi akiccamāhu;

    มา โว ธนํ ตํ อหุ เทวราช, ยํ โภคเหตุ วิชเหมุ สทฺธํฯ

    Mā vo dhanaṃ taṃ ahu devarāja, yaṃ bhogahetu vijahemu saddhaṃ.

    ๑๕๙.

    159.

    ‘‘เยน เอโก รโถ ยาติ, ยาติ เตนปโร รโถ;

    ‘‘Yena eko ratho yāti, yāti tenaparo ratho;

    โปราณํ นิหิตํ วตฺตํ, วตฺตตเญฺญว วาสวฯ

    Porāṇaṃ nihitaṃ vattaṃ, vattataññeva vāsava.

    ๑๖๐.

    160.

    ‘‘ยทิ เหสฺสติ ทสฺสาม, อสเนฺต กิํ ททามเส;

    ‘‘Yadi hessati dassāma, asante kiṃ dadāmase;

    เอวํภูตาปิ ทสฺสาม, มา ทานํ ปมทมฺหเส’’ติฯ

    Evaṃbhūtāpi dassāma, mā dānaṃ pamadamhase’’ti.

    ตตฺถ อนริยนฺติ ลามกํ ปาปกมฺมํฯ อริเยนาติ ปริสุทฺธาจาเรน อริเยนฯ สุทุคฺคเตนาปีติ สุทลิเทฺทนาปิฯ อกิจฺจมาหูติ อกตฺตพฺพนฺติ พุทฺธาทโย อริยา วทนฺติ, ตฺวํ ปน มํ อนริยํ มคฺคํ อาโรเจสีติ อธิปฺปาโยฯ โวติ นิปาตมตฺตํฯ ยํ โภคเหตูติ ยสฺส ธนสฺส ปริภุญฺชนเหตุ มยํ ทานสทฺธํ วิชเหมุ ปริจฺจเชยฺยาม, ตํ ธนเมว มา อหุ, น โน เตน ธเนน อโตฺถติ ทีเปติฯ

    Tattha anariyanti lāmakaṃ pāpakammaṃ. Ariyenāti parisuddhācārena ariyena. Suduggatenāpīti sudaliddenāpi. Akiccamāhūti akattabbanti buddhādayo ariyā vadanti, tvaṃ pana maṃ anariyaṃ maggaṃ ārocesīti adhippāyo. Voti nipātamattaṃ. Yaṃ bhogahetūti yassa dhanassa paribhuñjanahetu mayaṃ dānasaddhaṃ vijahemu pariccajeyyāma, taṃ dhanameva mā ahu, na no tena dhanena atthoti dīpeti.

    รโถติ ยํกิญฺจิ ยานํฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – เยน มเคฺคน เอโก รโถ ยาติ, อโญฺญปิ รโถ ‘‘รถสฺส คตมโคฺค เอโส’’ติ เตเนว มเคฺคน ยาติฯ โปราณํ นิหิตํ วตฺตนฺติ ยํ มยา ปุเพฺพ นิหิตํ วตฺตํ, ตํ มยิ ธรเนฺต วตฺตตุเยว, มา ติฎฺฐตูติ อโตฺถฯ เอวํภูตาติ เอวํ ติณหารกภูตาปิ มยํ ยาว ชีวาม, ตาว ทสฺสามเยวฯ กิํการณา? มา ทานํ ปมทมฺหเสติฯ อททโนฺต หิ ทานํ ปมชฺชติ นาม น สรติ น สลฺลเกฺขติ, อหํ ปน ชีวมาโน ทานํ ปมุสฺสิตุํ น อิจฺฉามิ, ตสฺมา ทานํ ทสฺสามิเยวาติ ทีเปติฯ

    Rathoti yaṃkiñci yānaṃ. Idaṃ vuttaṃ hoti – yena maggena eko ratho yāti, aññopi ratho ‘‘rathassa gatamaggo eso’’ti teneva maggena yāti. Porāṇaṃ nihitaṃ vattanti yaṃ mayā pubbe nihitaṃ vattaṃ, taṃ mayi dharante vattatuyeva, mā tiṭṭhatūti attho. Evaṃbhūtāti evaṃ tiṇahārakabhūtāpi mayaṃ yāva jīvāma, tāva dassāmayeva. Kiṃkāraṇā? Mā dānaṃ pamadamhaseti. Adadanto hi dānaṃ pamajjati nāma na sarati na sallakkheti, ahaṃ pana jīvamāno dānaṃ pamussituṃ na icchāmi, tasmā dānaṃ dassāmiyevāti dīpeti.

    สโกฺก ตํ ปฎิพาหิตุํ อสโกฺกโนฺต ‘‘กิมตฺถาย ทานํ ททาสี’’ติ ปุจฺฉิฯ โพธิสโตฺต ‘‘เนว สกฺกตฺตํ, น พฺรหฺมตฺตํ ปตฺถยมาโน, สพฺพญฺญุตํ ปเตฺถโนฺต ปนาหํ ททามี’’ติ อาหฯ สโกฺก ตสฺส วจนํ สุตฺวา ตุโฎฺฐ หเตฺถน ปิฎฺฐิํ ปริมชฺชิฯ โพธิสตฺตสฺส ตงฺขณเญฺญว ปริมชฺชิตมตฺตเสฺสว สกลสรีรํ ปริปูริฯ สกฺกานุภาเวน จสฺส สโพฺพ วิภวปริเจฺฉโท ปฎิปากติโกว อโหสิฯ สโกฺก ‘‘มหาเสฎฺฐิ, ตฺวํ อิโต ปฎฺฐาย ทิวเส ทิวเส ทฺวาทส สตสหสฺสานิ วิสฺสเชฺชโนฺต ทานํ ททาหี’’ติ ตสฺส เคเห อปริมาณํ ธนํ กตฺวา ตํ อุโยฺยเชตฺวา สกฎฺฐานเมว คโตฯ

    Sakko taṃ paṭibāhituṃ asakkonto ‘‘kimatthāya dānaṃ dadāsī’’ti pucchi. Bodhisatto ‘‘neva sakkattaṃ, na brahmattaṃ patthayamāno, sabbaññutaṃ patthento panāhaṃ dadāmī’’ti āha. Sakko tassa vacanaṃ sutvā tuṭṭho hatthena piṭṭhiṃ parimajji. Bodhisattassa taṅkhaṇaññeva parimajjitamattasseva sakalasarīraṃ paripūri. Sakkānubhāvena cassa sabbo vibhavaparicchedo paṭipākatikova ahosi. Sakko ‘‘mahāseṭṭhi, tvaṃ ito paṭṭhāya divase divase dvādasa satasahassāni vissajjento dānaṃ dadāhī’’ti tassa gehe aparimāṇaṃ dhanaṃ katvā taṃ uyyojetvā sakaṭṭhānameva gato.

    สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา เสฎฺฐิภริยา ราหุลมาตา อโหสิ, วิสโยฺห ปน เสฎฺฐิ อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ

    Satthā imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā jātakaṃ samodhānesi – ‘‘tadā seṭṭhibhariyā rāhulamātā ahosi, visayho pana seṭṭhi ahameva ahosi’’nti.

    วิสยฺหชาตกวณฺณนา ทสมาฯ

    Visayhajātakavaṇṇanā dasamā.

    โกกิลวโคฺค จตุโตฺถฯ

    Kokilavaggo catuttho.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๓๔๐. วิสยฺหชาตกํ • 340. Visayhajātakaṃ


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact