Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อิติวุตฺตก-อฎฺฐกถา • Itivuttaka-aṭṭhakathā |
๔. จตุตฺถวโคฺค
4. Catutthavaggo
๑. วิตกฺกสุตฺตวณฺณนา
1. Vitakkasuttavaṇṇanā
๘๐. จตุตฺถวคฺคสฺส ปฐเม อกุสลวิตกฺกาติ อโกสลฺลสมฺภูตา วิตกฺกา, มิจฺฉาวิตกฺกาติ อโตฺถฯ อนวญฺญตฺติปฎิสํยุโตฺตติ เอตฺถ อนวญฺญตฺตีติ อนวญฺญา ปเรหิ อตฺตโน อหีฬิตตา อปริภูตตา, ‘‘อโห วต มํ ปเร น อวชาเนยฺยุ’’นฺติ เอวํ ปวโตฺต อิจฺฉาจาโร, ตาย อนวญฺญตฺติยา ปฎิสํยุโตฺต สํสโฎฺฐ, ตํ วา อารพฺภ ปวโตฺต อนวญฺญตฺติปฎิสํยุโตฺต วิตโกฺกฯ ตสฺมา ‘‘กถํ นุ โข มํ ปเร คหฎฺฐา เจว ปพฺพชิตา จ น โอรกโต ทเหยฺยุ’’นฺติ สมฺภาวนกมฺยตาย อิจฺฉาจาเร, ฐตฺวา ปวตฺติตวิตกฺกเสฺสตํ อธิวจนํฯ ลาภสกฺการสิโลกปฎิสํยุโตฺตติ จีวราทิลาเภน เจว สกฺกาเรน จ กิตฺติสเทฺทน จ อารมฺมณกรณวเสน ปฎิสํยุโตฺตฯ ปรานุทฺทยตาปฎิสํยุโตฺตติ ปเรสุ อนุทฺทยตาปติรูปเกน เคหสิตเปเมน ปฎิสํยุโตฺตฯ ยํ สนฺธาย วุตฺตํ –
80. Catutthavaggassa paṭhame akusalavitakkāti akosallasambhūtā vitakkā, micchāvitakkāti attho. Anavaññattipaṭisaṃyuttoti ettha anavaññattīti anavaññā parehi attano ahīḷitatā aparibhūtatā, ‘‘aho vata maṃ pare na avajāneyyu’’nti evaṃ pavatto icchācāro, tāya anavaññattiyā paṭisaṃyutto saṃsaṭṭho, taṃ vā ārabbha pavatto anavaññattipaṭisaṃyutto vitakko. Tasmā ‘‘kathaṃ nu kho maṃ pare gahaṭṭhā ceva pabbajitā ca na orakato daheyyu’’nti sambhāvanakamyatāya icchācāre, ṭhatvā pavattitavitakkassetaṃ adhivacanaṃ. Lābhasakkārasilokapaṭisaṃyuttoti cīvarādilābhena ceva sakkārena ca kittisaddena ca ārammaṇakaraṇavasena paṭisaṃyutto. Parānuddayatāpaṭisaṃyuttoti paresu anuddayatāpatirūpakena gehasitapemena paṭisaṃyutto. Yaṃ sandhāya vuttaṃ –
‘‘สํสโฎฺฐ วิหรติ ราชูหิ ราชมหามเตฺตหิ พฺราหฺมเณหิ คหปติเกหิ ติตฺถิเยหิ ติตฺถิยสาวเกหิ สหนนฺที สหโสกี, สุขิเตสุ สุขิโต, ทุกฺขิเตสุ ทุกฺขิโต, อุปฺปเนฺนสุ กิจฺจกรณีเยสุ อตฺตนาว โยคํ อาปชฺชตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๓; ๔.๒๔๑; วิภ. ๘๘๘)ฯ
‘‘Saṃsaṭṭho viharati rājūhi rājamahāmattehi brāhmaṇehi gahapatikehi titthiyehi titthiyasāvakehi sahanandī sahasokī, sukhitesu sukhito, dukkhitesu dukkhito, uppannesu kiccakaraṇīyesu attanāva yogaṃ āpajjatī’’ti (saṃ. ni. 3.3; 4.241; vibha. 888).
คาถาสุ อนวญฺญตฺติยา ปฎิสํยุโตฺต ปุคฺคโล อนวญฺญตฺติสํยุโตฺตฯ ลาภสกฺกาเร คารโว เอตสฺส, น ธเมฺมติ ลาภสกฺการคารโวฯ สุขทุเกฺขสุ อมา สห ภวาติ อมจฺจา, สหายสทิสา อุปฎฺฐากาฯ เตหิ เคหสิตเปมวเสน สห นนฺทนสีโล สหนนฺที อมเจฺจหิ, อิมินา ปรานุทฺทยตาปฎิสํยุตฺตํ วิตกฺกํ ทเสฺสติฯ อารา สํโยชนกฺขยาติ อิเมหิ ตีหิ วิตเกฺกหิ อภิภูโต ปุคฺคโล สํโยชนกฺขยโต อรหตฺตโต ทูเร, ตสฺส ตํ ทุลฺลภนฺติ อโตฺถฯ
Gāthāsu anavaññattiyā paṭisaṃyutto puggalo anavaññattisaṃyutto. Lābhasakkāre gāravo etassa, na dhammeti lābhasakkāragāravo. Sukhadukkhesu amā saha bhavāti amaccā, sahāyasadisā upaṭṭhākā. Tehi gehasitapemavasena saha nandanasīlo sahanandī amaccehi, iminā parānuddayatāpaṭisaṃyuttaṃ vitakkaṃ dasseti. Ārā saṃyojanakkhayāti imehi tīhi vitakkehi abhibhūto puggalo saṃyojanakkhayato arahattato dūre, tassa taṃ dullabhanti attho.
ปุตฺตปสุนฺติ ปุเตฺต จ ปสโว จฯ ปุตฺตสเทฺทน เจตฺถ ทาราทโย; ปสุสเทฺทน อสฺสมหิํสเขตฺตวตฺถาทโย จ สงฺคหิตาฯ วิวาเหติ วิวาหการาปเนฯ อิมินา อาวาโหปิ สงฺคหิโตฯ สํหรานีติ ปริคฺคหานิ, ปริกฺขารสงฺคหานีติ อโตฺถฯ ‘‘สนฺถวานี’’ติ จ ปฐนฺติ, มิตฺตสนฺถวานีติ อโตฺถฯ สพฺพตฺถ หิตฺวาติ สมฺพโนฺธฯ ภโพฺพ โส ตาทิโส ภิกฺขูติ โส ยถาวุตฺตํ สพฺพํ ปปญฺจํ ปริจฺจชิตฺวา ยถา สตฺถารา วุตฺตาย สมฺมาปฎิปตฺติยา, ตถา ปสฺสิตพฺพโต ตาทิโส สํสาเร ภยํ อิกฺขตีติ ภิกฺขุ อุตฺตมํ สโมฺพธิํ อรหตฺตํ ปตฺตุํ อรหติฯ
Puttapasunti putte ca pasavo ca. Puttasaddena cettha dārādayo; pasusaddena assamahiṃsakhettavatthādayo ca saṅgahitā. Vivāheti vivāhakārāpane. Iminā āvāhopi saṅgahito. Saṃharānīti pariggahāni, parikkhārasaṅgahānīti attho. ‘‘Santhavānī’’ti ca paṭhanti, mittasanthavānīti attho. Sabbattha hitvāti sambandho. Bhabbo so tādiso bhikkhūti so yathāvuttaṃ sabbaṃ papañcaṃ pariccajitvā yathā satthārā vuttāya sammāpaṭipattiyā, tathā passitabbato tādiso saṃsāre bhayaṃ ikkhatīti bhikkhu uttamaṃ sambodhiṃ arahattaṃ pattuṃ arahati.
ปฐมสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Paṭhamasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / อิติวุตฺตกปาฬิ • Itivuttakapāḷi / ๑. วิตกฺกสุตฺตํ • 1. Vitakkasuttaṃ