Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปญฺจปกรณ-อนุฎีกา • Pañcapakaraṇa-anuṭīkā |
๖. วิตกฺกตฺติกวณฺณนา
6. Vitakkattikavaṇṇanā
๒๒. วิตกฺกตฺติเก สตฺตสุ มูลเกสูติ ‘‘สวิตกฺกสวิจารํ ธมฺมํ ปฎิจฺจา’’ติอาทินา อาคตานิ ตีณิ เอกกานิ, ตีณิ ทุกานิ, เอกํ ติกนฺติ เอวํ เอกมูลกานิ ยานิ สตฺตมูลกานิ, เตสุฯ ยถากฺกมนฺติ ปาฬิยํ อาคตานุกฺกเมนฯ สตฺตาติ ปฐเม เอกเก สตฺตฯ ปญฺจาติ ทุติเย ปญฺจฯ ตานิมานิ เหตุปจฺจเย วุตฺตนเยน เวทิตพฺพานิฯ อิธ ปน ปวตฺติวเสเนว โยเชตพฺพํฯ ตีณีติอาทีสุ ตติเย ตีณิ, จตุเตฺถ เอกํ, ปญฺจเม ตีณิ, ฉเฎฺฐปิ ตีณิ, สตฺตเม เอกํฯ ตานิ ปน ยถากฺกมํ ตติยปทํ ปฎิจฺจ ตติยปททุติยปทตทุภยวเสน, ปฐมปทตติยปทานิ ปฎิจฺจ ตติยปทวเสน, ปฐมปททุติยปทานิ ปฎิจฺจ ปฐมปทตติยปทตทุภยวเสน, ทุติยปทตติยปทานิ ปฎิจฺจ ปฐมปทตติยปทตทุภยวเสน, ปฐมทุติยตติยปทานิ ปฎิจฺจ ตติยปทวเสเนว เวทิตพฺพานิฯ อญฺญมเญฺญ อฎฺฐวีสาติอาทีสุปิ อิมินาว นเยน คณนา เวทิตพฺพาฯ เอวนฺติ ยถาวุตฺตํ คณนํ ปจฺจามสติฯ ทุติยตติยมูลเกสุ เอกํ เอกนฺติ ทุติยมูลเก เอกํ, ตติยมูลเก เอกนฺติ โยเชตพฺพํฯ ตถา อาเสวเนติ ยถา ปุเรชาเต เอกาทส, ตถา อาเสวเนติ อโตฺถฯ อญฺญานีติ อธิปติอญฺญมญฺญปุเรชาตาเสวนโต อเญฺญสุ ปจฺจเยสุ คณนานิฯ เหตุอารมฺมณสทิสานีติ เหตุอารมฺมณปจฺจเยสุ คณนาสทิสานิฯ
22. Vitakkattike sattasu mūlakesūti ‘‘savitakkasavicāraṃ dhammaṃ paṭiccā’’tiādinā āgatāni tīṇi ekakāni, tīṇi dukāni, ekaṃ tikanti evaṃ ekamūlakāni yāni sattamūlakāni, tesu. Yathākkamanti pāḷiyaṃ āgatānukkamena. Sattāti paṭhame ekake satta. Pañcāti dutiye pañca. Tānimāni hetupaccaye vuttanayena veditabbāni. Idha pana pavattivaseneva yojetabbaṃ. Tīṇītiādīsu tatiye tīṇi, catutthe ekaṃ, pañcame tīṇi, chaṭṭhepi tīṇi, sattame ekaṃ. Tāni pana yathākkamaṃ tatiyapadaṃ paṭicca tatiyapadadutiyapadatadubhayavasena, paṭhamapadatatiyapadāni paṭicca tatiyapadavasena, paṭhamapadadutiyapadāni paṭicca paṭhamapadatatiyapadatadubhayavasena, dutiyapadatatiyapadāni paṭicca paṭhamapadatatiyapadatadubhayavasena, paṭhamadutiyatatiyapadāni paṭicca tatiyapadavaseneva veditabbāni. Aññamaññe aṭṭhavīsātiādīsupi imināva nayena gaṇanā veditabbā. Evanti yathāvuttaṃ gaṇanaṃ paccāmasati. Dutiyatatiyamūlakesu ekaṃ ekanti dutiyamūlake ekaṃ, tatiyamūlake ekanti yojetabbaṃ. Tathā āsevaneti yathā purejāte ekādasa, tathā āsevaneti attho. Aññānīti adhipatiaññamaññapurejātāsevanato aññesu paccayesu gaṇanāni. Hetuārammaṇasadisānīti hetuārammaṇapaccayesu gaṇanāsadisāni.
๓๑. อวิเสเสนาติ ‘‘วิปาก’’นฺติ วิเสสนํ อกตฺวา น ปน วิสฺสชฺชนํ กตนฺติ โยชนาฯ ตตฺถ การณํ วตฺตุํ ‘‘กสฺมา’’ติอาทิมาหฯ อิตเรสนฺติ โลกิยวิปากานํฯ เต วิสุํ นิทฺธาเรตฺวา วุตฺตาติ เต ยถาวุตฺตโลกิยวิปากา อวิตกฺกวิจารมตฺตสามญฺญโต วิสุํ นีหริตฺวา วุตฺตาฯ ‘‘อวิตกฺกวิจารมเตฺต ขเนฺธ ปฎิจฺจ อวิตกฺกวิจารมตฺตา อธิปตี’’ติ วุตฺตราสิ ปุริมโกฎฺฐาโสฯ
31. Avisesenāti ‘‘vipāka’’nti visesanaṃ akatvā na pana vissajjanaṃ katanti yojanā. Tattha kāraṇaṃ vattuṃ ‘‘kasmā’’tiādimāha. Itaresanti lokiyavipākānaṃ. Te visuṃ niddhāretvā vuttāti te yathāvuttalokiyavipākā avitakkavicāramattasāmaññato visuṃ nīharitvā vuttā. ‘‘Avitakkavicāramatte khandhe paṭicca avitakkavicāramattā adhipatī’’ti vuttarāsi purimakoṭṭhāso.
๓๘. เอตนฺติ ‘‘อวิตกฺกวิจารมตฺตํ อวิตกฺก…เป.… สห คจฺฉเนฺตนา’’ติ อาคตปาฬิปทํฯ ตสฺส อตฺถํ ทเสฺสตุํ ‘‘มูลํ…เป.… วุตฺตํ โหตี’’ติ อาหฯ ตตฺถ อวิตกฺก…เป.… โยเชเนฺตนาติ อวิตเกฺกหิ อวิตกฺกปริยาเยน วุเตฺตหิ อวิตกฺกวิจารมตฺตอวิตกฺกอวิจารปเทหิ สห มูลปทํ , อาเสวนมูลกเมว วา คจฺฉเนฺตน โยเชเนฺตน นปุเรชาตสทิสํ นาเสวเน ปาฬิคมนํ กาตพฺพํ, ปฐิตพฺพนฺติ อโตฺถฯ โปตฺถเกสุ ปน ‘‘อวิตกฺกวิจารมตฺตํ วิปาเกน สห คจฺฉเนฺตนา’’ติ ทิสฺสติ, วิปาเกน วิเสสนภูเตน สห โยเชเนฺตนาติ อโตฺถฯ เตเนวาห ‘‘วิปากํ อวิตกฺกวิจารมตฺตนฺติอาทิ โยเชตพฺพ’’นฺติฯ
38. Etanti ‘‘avitakkavicāramattaṃ avitakka…pe… saha gacchantenā’’ti āgatapāḷipadaṃ. Tassa atthaṃ dassetuṃ ‘‘mūlaṃ…pe… vuttaṃ hotī’’ti āha. Tattha avitakka…pe… yojentenāti avitakkehi avitakkapariyāyena vuttehi avitakkavicāramattaavitakkaavicārapadehi saha mūlapadaṃ , āsevanamūlakameva vā gacchantena yojentena napurejātasadisaṃ nāsevane pāḷigamanaṃ kātabbaṃ, paṭhitabbanti attho. Potthakesu pana ‘‘avitakkavicāramattaṃ vipākena saha gacchantenā’’ti dissati, vipākena visesanabhūtena saha yojentenāti attho. Tenevāha ‘‘vipākaṃ avitakkavicāramattantiādi yojetabba’’nti.
เอกมูลเก ปาฬิยํ โยชิตเมวาติ ‘‘ทุมูลเกสุ ปฐเม’’ติ วุตฺตํฯ
Ekamūlake pāḷiyaṃ yojitamevāti ‘‘dumūlakesu paṭhame’’ti vuttaṃ.
๔๙. มูลปทเมว อวสานภาเวนาติ ‘‘สวิตกฺกสวิจารํ ธมฺมํ ปจฺจยา สวิตกฺกสวิจาโร ธโมฺม อุปฺปชฺชติ นเหตุปจฺจยา’’ติอาทินา มูลปทเมว อวสานภาเวน โยชิตํฯ สตฺต โมหา อุทฺธริตพฺพาติ อิทํ นเหตุปจฺจยํ สนฺธาย วุตฺตํฯ ปฎิจฺจวาเร หิ อเหตุกโมโห ติกฺขตฺตุเมว อาคโตฯ อิธ ปน ‘‘วตฺถุํ ปจฺจยา’’ติอาทินา จตูสุปิ มูลเกสุ อาคโต, ตสฺมา สตฺตกฺขตฺตุํ อาคมนํ สนฺธาย ‘‘สตฺต โมหา’’ติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํฯ
49. Mūlapadameva avasānabhāvenāti ‘‘savitakkasavicāraṃ dhammaṃ paccayā savitakkasavicāro dhammo uppajjati nahetupaccayā’’tiādinā mūlapadameva avasānabhāvena yojitaṃ. Satta mohā uddharitabbāti idaṃ nahetupaccayaṃ sandhāya vuttaṃ. Paṭiccavāre hi ahetukamoho tikkhattumeva āgato. Idha pana ‘‘vatthuṃ paccayā’’tiādinā catūsupi mūlakesu āgato, tasmā sattakkhattuṃ āgamanaṃ sandhāya ‘‘satta mohā’’ti vuttanti veditabbaṃ.
อุปนิสฺสเยน สงฺคหิตตฺตาติ อุปนิสฺสยปจฺจเยเนว กมฺมปจฺจยสฺส สงฺคหิตตฺตาฯ สพฺพสฺสปิ รูปารูปาวจรกมฺมสฺส พลวภาวโต อุปนิสฺสยตฺตาภาโว นตฺถิ, ยโต ตํ ‘‘ครู’’ติ วุจฺจติ, กมฺมกฺขยกรสฺส ปน กมฺมสฺส พลวภาเว วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ อิมมตฺถํ ปาฬิยา เอว วิภาเวตุํ วุตฺตํ ‘‘อุปาทินฺนตฺติกปญฺหาวารปจฺจนีเย หิ…เป.… วิญฺญายตี’’ติฯ
Upanissayena saṅgahitattāti upanissayapaccayeneva kammapaccayassa saṅgahitattā. Sabbassapi rūpārūpāvacarakammassa balavabhāvato upanissayattābhāvo natthi, yato taṃ ‘‘garū’’ti vuccati, kammakkhayakarassa pana kammassa balavabhāve vattabbameva natthīti imamatthaṃ pāḷiyā eva vibhāvetuṃ vuttaṃ ‘‘upādinnattikapañhāvārapaccanīye hi…pe… viññāyatī’’ti.
วิตกฺกตฺติกวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Vitakkattikavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ปญฺจปกรณ-มูลฎีกา • Pañcapakaraṇa-mūlaṭīkā / ๖. วิตกฺกตฺติกวณฺณนา • 6. Vitakkattikavaṇṇanā